บังเอิญ ไปเจอข้อมูลนี้เข้า
เห็นว่าน่าสนใจ เลยอยากนำ
เอามาไว้ให้ได้อ่านกัน...
ทาจิกิสถาน...ดินแดนที่ผู้ชายหายไป แต่หญิงไทยอยากไปเยี่ยม
เคยมีเพื่อนไปทำงานขุดเจาะน้ำมันที่ประเทศเบลาอุส และอุซเบกิสถาน มาเล่าให้ผมฟังกณรีที่ประเทศดังกล่าวส่วนใหญ่มีแรงงานผู้หญิงทำงานในนา ในไร่ แรกๆผมก้ไม่เชื่อหรอกนะ....พอมาตอนนี้ขณะที่จะมีใครไปเยี่ยมประเทศทาจิสถาน ( Tajikstan ) ทำให้ผมรู้สึกสงสารประเทศนี้เป็นอย่างยิ่ง และเราก้ไม่รู้ว่าการที่เราไปเยือนประเทศของเขา เราได้รู้ปัญหาของเขาหรือเปล่า ว่าเขากำลังประสบปัญหาอะไร ที่ทำให้ผู้หญิงในประเทศนั้นยิ้มไปออกกันถ้วนหน้า....น่าสงสารจริงๆครับ
ในตอนแรกผมอยากนำเสนอเรื่องราวของการท่องเที่ยว แต่พอไปเจอภาพสารคดีในยูทูบของช่อง Aljazeera ที่นำเสนอเรื่องราว ทาจิกสถาน ดินแดนที่ผู้ชายหายไป ...Tajikstan's missing man ....ทำให้ผมสนใจประเด็นนี้มากกว่า...ขอบคุณยูทูบ และอัลจาซีร่า ครับ....เลยนำมาเล่าให้ฟัง
ประเทศสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ( Republic of Tajikistan ) มีประชากรแค่ ๘ ล้านคน กับพื้นที่เล็กกว่าไทยมาก ๑๔๓๑๐๐ ตารางกิโลเมตร เป็นดินแดนที่ไม่ติดทะเล ( Land Locked ) ทิศเหนือติดกับ Kyrgyzstan ยอมรับว่าประเทสนี้ไม่รู้ภาไทยเรียกอย่างไรนะ....ทิศตะวันตกติดกับประเทศอุซเบกิสถาน ทางใต้น่ากลัวหน่อย ติดกับอัฟกานิสถาน...ตะวันออกติดจีนครับ
ผู้หญิงทาจิกส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่าหลังแต่งงานจะได้อยู่กับสามีตลอดไปหรือไม่
เกือบครึ่งหนึ่งของค่า GDP ที่เติบโตของประเทศเกิดจากผู้ชายไปขายแรงงานในรัสเซีย
เกือบทั้งหมดของแรงงานผู้หญิงจะต้องไปอยุ่ในภาคเกษตรกรรม
๘๐ เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายตาจิก ไปขายแรงงานยังประเทศรัสเซีย
ราว ๑๔๐๐๐ คนของผู้ชายที่ไปขายแรงงาน แล้วไปมีครอบครัวใหม่ที่รัสเซีย...ทำให้ผู้หญิงทาจิกต้องร้องรัฐบาลให้ช่วยตามหาสามี บางคนแค่ได้พูดทางโทรศัพทื หรือได้แค่ส่งข้อความ
อย่างนี้แล้วหากท่านจะไปทำธุรกิจกับประเทศนี้ เอาข้าว เครื่องจักร สิ่งทอ ทุเรียน จะไปขายที่ประเทศนี้ ท่านคิดว่ามันจะคุ้มกับค่านั่งเรือบินไปเจรจามั้ย...ไม่ได้ดูถูกประเทศของเขาหรอกนะ ด้วยความเคารพ แต่ละประเทศต่างมีปัญหากันทั้งนั้น....ผู้หญิงทาจิกมีปัญหาสามีไม่กลับบ้าน แม้เธอจะได้รับเงินส่งเสียมาจากการขายแรงงานก็ตาม...แต่ดูจากภาพแล้ว เราท่านคิดว่าผู้คนเหล่านี้เขาจะเชื่อเซลแมน หรือเซลวิเเมน ที่จะไปนำเสนอขายสินค้าให้กับพวกเธอมั้ย....หากผมเป็นผู้จัดการบริษัท...ผมจะบอกอีผู้จัดการหน้าโง่ให้กลับไปนอนจิบชาเขียวเพิ่มน้ำตาลให้มันสบายอุราดีกว่า เผื่อวันหน้าคุณหมอจะได้งานจากการเจาะน้ำตาลในเส้นเลือดให้เจ้าหล่อน.......และผมจะส่งเธอไปอบรมและดูงานที่รัฐอลาสก้า จนกว่าเจ้าหล่อนกลับมาเป็นเซลวิแมน..หลังจากสอบผ่านการขายไอศครีมให้ชาวแอสกีโมเสียก่อน.....คริ...คริ