กับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันคือปลายเหตุแล้วครับ
ต้นเหตุมาจาก นโยบายสวยหรู ที่หลอกลวง ประชาชน
ไม่คิดที่จะดู และ ศึกษาให้เข้าใจ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง
แต่กลับใช้วิธีการให้คำมั่นสัญญา หลอกลวง เพื่อให้ตัวเองดูดี ดูเก่งในตำแหน่ง
สุดท้ายก็หนีปัญหา ไม่ยอมรับรู้ว่าตนเองได้พูด
ได้สัญญาว่าจะช่วยเหลืออะไร . จะทำอะไรให้กับพี่น้องชาวสวนยางบ้าง
เมื่อหมดความอดทน ไม่ใส่ใจในการเข้าแก้ไขปัญหาที่ได้รับอยู่อย่างแท้จริง
จึงเกิดเรื่องอย่างที่เราได้เห็นกันครับ
ต้นเหตุ
นี่เป็นส่วนหนึ่งคำพูดของนายณัฐวุฒิ ตอนเริ่มเข้ามาอาสาช่วยชาวสวนยางพารา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า
ด้วยภาพรวมของการปลูกยางพาราในประเทศไทยมีถึง 18 ล้านไร่
มากที่สุดอยู่ที่ภาคใต้ รองลงมาคือภาคเหนือและอีสาน
ทุกปียางพาราทำเงินรายได้เข้าประเทศมากถึง 680,000 ล้านบาท
ในฐานะที่กำกับดูแลหน่วยงานด้านยางพารา
ตนได้นำเรื่องเสนอผ่านคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติงบประมาณ จำนวน 16,000
ล้านบาท ให้เกษตรกรกู้เพื่อลงทุนขยายพื้นที่ แก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ
โดยจะเริ่มรับซื้อยางแผ่นดิบชั้น 3 จากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 120 บาท
สามารถรับซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 ควบคู่กับการออกกฎหมาย
พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย โดยจะผลักดันเป้าหมายการส่งออกยางพาราในปี
2556 ให้มีมูลค่าเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านบาทให้ได้
และหากทำไม่ได้ตนจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการทำหน้าที่ผลักดันจนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมายดังกล่าว
มาถึงตอนนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นจากคนที่ไม่มี ความรู้ ความสามารถเข้ามาบริหารงาน
ผมขอประนามกับการกระทำแบบนี้ กับพี่น้องชาวใต้ครับ