29 ความเห็นในกระทู้นี้

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

http://www.manager.c...D=9560000106159

โดย สุรวิชช์ วีรวรรณ 25 สิงหาคม 2556 14:49 น.  

กรณีนายชูชาติ ศรีแสง ใส่ร้ายแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ

 

 

 ตามที่นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า แถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับสุดท้ายเป็นเท็จ โดยประเด็นที่นายชูชาติระบุว่าเป็นเท็จคือ
       
       1.กรณีที่พันธมิตรฯ แถลงการณ์ระบุว่า สืบเนื่องจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ปราศรัย พิธีกร ศิลปิน และประชาชน ได้ถูกกลั่นแกล้งโดยยัดเยียดข้อหาร้ายแรงอันเป็นเท็จ และเพิ่มผู้ต้องหาจำนวนถึง 96 คน อย่างอยุติธรรมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
       
       2.กรณีที่พันธมิตรฯ เรียกร้องให้ประชาธิปัตย์ลาออก แล้วพันธมิตรฯ จะเข้าร่วมการชุมนุมภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์
       
       ความเห็นของนายชูชาติกรณีนี้ได้รับการแชร์ไปอย่างกว้างขวาง หลายคนหลงเชื่อโดยไม้่ได้คิดตามให้ถี่ถ้วน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะฐานะของนายชูชาติที่เป็นถึงอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกาก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำโน้มนำความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการพูดถึงขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
       
       ผมได้เข้าไปโต้แย้งข้อเท็จจริงในเฟซบุ๊กของนายชูชาติ ปรากฎว่า นายชูชาติกลับปิดกั้นโดยลบและบล็อกการเข้าถึงข้อความนั้นของผมโดยทันที ดังนั้นผมคิดว่าจะต้องนำเรื่องนี้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ เพื่อให้สาธารณชนตัดสินใจว่า เหตุผลของนายชูชาติคืออะไร ตรงกับข้อเท็จจริงในแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ หรือไม่
       
       นายชูชาติเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า คดีหมายเลขดำที่..../....และคดีหมายเลขแดง..../....คืออะไร ง่ายๆ ก็คือ คำว่าคดีหมายเลขดำหมายความว่า เป็นจำนวนคดีที่มีผู้นำคดีมาฟ้องต่อศาลในแต่ละปีเริ่มตั้งแต่คดีแรกในวันที่ 2 มกราคม เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1 เรื่อยไปจนถึงวันสุดท้ายของปีนั้นว่า มีจำนวนกี่คดี ขึ้นอยู่ว่าศาลนั้นมีผู้นำคดีมาฟ้องมากน้อยแค่ไหน อาจมีจำนวน 2,000 หรือ 30,000 คดี เป็นต้น ส่วนตัวเลขหลังเครื่องหมาย / นั้นเป็นตัวเลขที่หมายถึงปี พ.ศ. เช่น …../2554 , …../2555 , …../2556 ก็หมายความปี 2554 ปี 2555 และ ปี 2556 ตามลำดับ
       
       ข้างล่างนี้เป็นความเห็นของนายชูชาติ
       
       ............
       
       เมื่อคืนวันที่ 23 สิงหาคม 2556 พันธมิตรเพืิ่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ประกาศคำแถลงการณ์ต่อสาธารณชน มีข้อความตอนหนึ่งว่า
       
       …..ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยังไม่นำมวลชนเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ สืบเนื่องจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ปราศรัย พิธีกร ศิลปิน และประชาชน ได้ถูกกลั่นแกล้งโดยยัดเยียดข้อหาร้ายแรงอันเป็นเท็จ และเพิ่มผู้ต้องหาจำนวนถึง 96 คน อย่างอยุติธรรมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการสร้างพันธนาการให้กับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่ศาลอาญาก็ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ อ.973/2556 ให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556 ว่า
       
       ….."ห้ามมิให้จำเลยกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล”
       
       …..ขอบอกกันอีกสักครั้งว่า เคยชื่นชมกลุ่นพัธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้ต่อสู้กับทักษิณ ชินวัตร และบริวารของทักษิณ เคยร่วมด้วยช่วยกันมาตลอด แต่ที่ต้องถอยออกมาก็เพราะไม่อาจยอมรับกับพฤติกรรมของแกนนำบางคนได้
       
       …..ที่นำเรื่องนี้มาพูดในวันนี้อีกครั้งก็เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่กล่าวในคำแถลงการณ์บางตอนนั้นเป็นความจริงหรือความเท็จ เพื่อผู้ที่ยังหลงเชืิ่อในเรื่องข้อเท็จจริงจะได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
       
       …..คดีที่กลุ่มพันธมิตรถูกฟ้องคือ คดีหมายเลขดำที่ อ. 973/2556 ก็หมายความว่า เป็นคดีอาญาที่โจทก์คือพนักงานอัยการฟ้องคดีต่อศาลในปี 2556 เป็นลำดับคดีที่ 973 ซึ่งถ้าดูตามที่กล่าวว่า ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556 ก็น่าเชื่อว่าคงฟ้องเมืิ่อวันที่ 2 เมษายน 2556
       
       …..ถ้าความจำยังไม่เลอะเลือนสิ่งเกิดขึ้นคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรและมีให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2554 หลังการเลือกตั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการเลือกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554
       
       …..หลังจากวัน เดือน ปี ดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะไปสั่งข้าราชการประจำคนไหนแม้แต่ลูกจ้างอย่างนักการภารโรงในทำเนียบรัฐบาล และตามความเป็นจริงอำนาจในการสั่งราชการหมดไปตั้งวันประกาศยุบสภาฯในเดือนพฤษภาคม 2554 แล้ว
       
       …..ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2554 จนถึงเดือนเมษายน 2556 ที่มีการฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.973/2556 เป็นเวลาเกือบ 2 ปี โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 จนถึงเดือนเมษายน 2556 พรรคการเมืองใดเป็นรัฐบาล ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ใครเป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใครเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และใครดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ลองทนทวนความจำกันดู
       
       …..ในระยะเวลาเกือบ 2 ปีดังกล่าว วิญญูชนที่พอมีปัญญาคิดได้บ้าง ไม่ตกเป็นผู้ป่วยสมองหรือความจำเสื่อม ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือป่วยเจ็บจนกลายเป็นคนทุพพลภาพ ก็น่าจะรู้ได้ว่า
       
       ……… มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยที่พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสั่งให้เจ้าพนักงานตำรวจที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนในคดีที่แกนนำพันธมิตรกับพวกถูกฟ้องให้กลั่นแกล้งโดยยัดเยียดข้อหาร้ายแรงอันเป็นเท็จ และเพิ่มผู้ต้องหาจำนวนถึง 96 คน และสั่งให้พนักงานอัยการฟ้องบุคคลดังกล่าวต่อศาล"
       
       ...........
       
       สรุปความเห็นของนายชูชาติก็คือ ให้ดูปีที่ฟ้องศาล คือ /2556 เพื่อยืนยันว่า การฟ้องคดีไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของนายอภิสิทธิ์แต่เป็นยุคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะนายอภิสิทธิ์ พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว เพราะประกาศยุบสภาในเดือนพฤษภาคม 2554
       
       สาธุชนที่ไม่ได้คิดตามก็ตอบว่า ใช่แล้ว อย่างนี้จะไปกล่าวหารัฐบาลอภิสิทธิ์ได้อย่างไร
       
       ตอนแรกผมก็เข้าใจว่า นายชูชาติหลงประเด็นอะไรหรือเปล่า คนเป็นถึงระดับอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกาจะไม่เข้าใจขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร
       
       ต่อมา น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง หนึ่งในทีมทนายความของพันธมิตรฯ ได้โพสต์ตารางซึ่งเป็นลำดับขั้นตอนของคดีพันธมิตรฯ ว่า เริ่มขึ้นเมื่อไหร่ ตั้งแต่วันเริ่มต้นชุมนุมใหญ่จนถึงวันถูกแจ้งข้อกล่าวหา และเรื่อยมาจนคดีขึ้นสู่ศาล โดยมีวัน ว. เวลา น.อย่างชัดเจน(ดูตารางทั้งสองประกอบ)

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

 

เชื่อไหมครับนายชูชาติตอบความเห็นของ น.ส.พวงทิพย์ ทนายของพันธมิตรฯ อย่างไร
       
       "Chuchart Srisaeng คุณ Puangtip Boonsanong ครับ สรุปก็คือคดีนี้พนักงานอัยการฟ้องในปี 2556 ใช่หรือเปล่า ประเด็นอื่นไม่ใช่สาระสำคัญครับ"
       
       นายชูชาติย้ำว่า ประเด็นอื่นไม่ใช่สาระสำคัญ ให้ดูปีที่ฟ้องคือ 2556 อย่างเดียว
       
       ตลกไหมครับ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะไม่ทำให้ผมเชื่อได้อย่างไรว่า อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาไม่ได้เข้าใจขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่พันธมิตรฯ นำเสนอ
       
       คนทั่วไปย่อมจะเข้าใจนะครับว่า กระบวนการยุติธรรม หมายถึงขั้นตอนของตำรวจ อัยการ และศาล กระบวนการยุติธรรมไม่ได้หมายถึงศาลอย่างเดียว
       
       และสิ่งที่พันธมิตรฯ พูดเสมอมาว่า ถูกกลั่นแกล้งโดยยัดเยียดข้อหาร้ายแรงอันเป็นเท็จ และเพิ่มผู้ต้องหาจำนวนถึง 96 คน อย่างอยุติธรรมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น หมายถึงขั้นตอนในการสืบสวนสอบสวนของตำรวจซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายอภิสิทธิ์
       
       ดูจากตาราง"การดำเนินคดีก่อการร้ายพันธมิตรฯ"จะเห็นได้ว่า คดีนี้เริ่มมีการแจ้งความเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 และมีการแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2552 โดย พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ถ้าจำกันได้ครั้งนี้เป็นที่มาของวลีว่า"พันธมิตรฯ คือผู้ก่อการดี"จากปากของ พล.ต.ท.วุฒิ หัวหน้าพนักงานสอบสวนเอง และแจ้งข้อกล่าวหาครั้งที่สองเมื่อวันที่ 26 สิ่งหาคม 2553 โดย พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งมาทำหน้าที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนแทน พล.ต.ท.วุฒิ ทั้งสองครั้งนี้อยู่ในสมัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
       
       ต่อมาพันธมิตรฯ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลายครั้งว่า ขอเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวน เนื่องจากหัวหน้าพนักงานสอบสวนท่านนี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นคนของนายเนวิน ชิดชอบนั้นมีทัศนคติที่ตรงกันข้ามกับพันธมิตรฯ แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล โดยนายอภิสิทธิ์อ้างว่า ไม่สามารถแทรกแซงการทำงานของตำรวจได้ แต่นั่นไม่เท่ากับผลลัพธ์ที่ตามมา เพราะเมื่อพันธมิตรฯ ยื่นร้องเรียนไปแต่ละครั้งก็จะมีการเพิ่มผู้ต้องหาและข้อกล่าวหากลับมาทุกครั้งจากครั้งแรกที่มีผู้ถูกกล่าวหา 36 คน จนรวมกันเป็น 114 คนในที่สุด แต่สุดท้ายก็สามารถตามตัวมาดำเนินคดีได้เพียง 96 คน เพราะเหลือจากนั้นมีการระบุในทำนองว่า ชายไม่ทราบชื่อหรือหญิงไม่ทราบชื่อ หรือระบุเพียงชื่อเล่นบ้าง
       
       นี่ต่างหากครับคือ สิ่งที่พันธมิตรฯ กล่าวถึงเสมอมาว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในยุคของนายอภิสิทธิ์ และกล่าวเรื่องนี้หลายครั้งหลายหนจนนำมาสู่แถลงการณ์ดังกล่าว
       
       กระบวนการยุติธรรมนั้น มีขั้นตอนของตำรวจ อัยการ ศาล สิ่งที่พันธมิตรฯ พูดถึงก็หมายถึงขั้นตอนในกระบวนการของตำรวจที่กำกับดูแลโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เราต้องดูทั้งกระบวนการไม่ใช่ตัดตอนไปดู พ.ศ.ที่ศาลรับฟ้องเพียงอย่างเดียว
       
       ถ้าเอาอย่างที่นายชูชาติว่า ผมจะยกตัวอย่างและอุปมาอุปไมยให้ฟัง สมมติมี นาย ก.ถูกตำรวจกลั่นแกล้งดำเนินคดียัดข้อหาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2556 ต่อมาคดีนี้ขึ้นสู่ศาล เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2557 นายชูชาติในฐานะผู้พิพากษาจะบอกเหรอครับว่า ข้อร้องเรียนที่ว่า นาย ก.ระบุว่า ตำรวจกลั่นแกล้งยัดข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2556 นั้นรับฟังไม่ได้ ตำรวจไม่ได้กลั่นแกล้งเพราะให้มาดูวันที่ศาลรับฟ้องคือ วันที่ 25 สิงหาคม 2557อย่างเดียว คดีมันเริ่มต้นในวันที่ศาลรับฟ้องเหรอครับ ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมมันเริ่มต้นเมื่อวันที่ศาลรับฟ้องเหรอครับ
       
       การกล่าวหาว่า แถลงการณ์พันธมิตรฯ เป็นเท็จ ด้วยการตัดตอนความจริงของนายชูชาตินั้น สาธารณชนควรตัดสินได้นะครับว่า ใครกันแน่ที่เป็นเท็จ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

กรณีต่อมานายชูชาติกล่าวว่า
       
       ...........
       
       …..อีกประเด็นหนึ่งที่อ้างว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะนำมวลชนเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ไม่ได้ เพราะศาลอาญามีคำสั่งเป็นเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกันตัวว่า "ห้ามมิให้จำเลยกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ”
       
       …..เมื่อศาลอาญามีคำสั่งห้ามดังกล่าว ก็ย่อมหมายความว่า เป็นการห้ามตลอดไปจนกว่าศาลอาญาจะมีคำสั่งปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
       …..ดังนั้นการที่แกนนำบางคนประกาศโดยมีเงื่อนไขว่า ให้ ส.ส. ปชป ลาออกจากการเป็น ส.ส. ทั้งหมด แล้วจะได้มาเคลื่อนไหวนำมวลชนร่วมกัน ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะข้อห้ามของศาลอาญายังคงมีผลบังคับอยู่
       
       …..เป็นการหลอกให้ ส.ส.ปชป. ลาออก เพื่อต้องการให้ประชาชนทั่วประเทศด่า เกลียดชัง หมดความเชื่อถือ และกลายเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนสาปแช่ง ปชป ที่มีอายุเกือบ 70 คงถึงกาลอวสานแน่นอน ใช่หรือไม่
       
       …..ผู้ที่ได้ประโยชน์ก็คือทักษิณ ชินวัตร กับญาติพี่น้อง พรรคพวกและบริวาร เพราะจะไม่มีพรรคการเมืองใดมี ส.ส.มาขัดขวางการโกงกินชาติบ้านเมืองทั้งในและนอกสภาอีกต่อไป ประเทศไทยก็จะตกอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลชินวัตร ง่ายขึ้น ใช่หรือไม่
       
       ……….ต้องถือว่า เป็นเกมการเมืองที่ลึกซึ้งแยบยลอย่างยิ่ง โชดดีที่ ปชป ไม่ได้โง่อย่างคนวางแผนเรื่องนี้คิด ครับ ! ! !
       
       ...........
       
       โดยสรุปก็คือ นายชูชาติบอกว่า ในเมื่อพันธมิตรฯ ติดเงื่อนไขศาล ถึง ปชป.จะลาออก พันธมิตรฯ ก็มาร่วมกับ ปชป.ไม่ได้เพราะติดเงื่อนไขศาลเหมือนเดิม ดังนั้นข้อเสนอของพันธมิตรฯ เป็นการหลอกลวง เพื่อให้ ปชป.ถูกเกลียดชัง และทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ประโยชน์
       
       ใครที่ติดตามพันธมิตรฯ หรืออ่านแถลงการณ์ให้ถ้วนถี่ก็จะทราบความจริงว่า สิ่งที่พันธมิตรฯ เรียกร้องให้ ปชป.ลาออกก็คือ ให้ออกมาต่อสู้นอกสภาเพื่อยืนยันไม่ยึดติดกับตำแหน่งหรือการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ถ้า ปชป.กระทำเช่นนั้น แม้จะติดเงื่อนไขศาล พันธมิตรฯ ก็พร้อมจะร่วมต่อสู้ถ้าการต่อสู้นั้นเป็นการสู้เพื่อปฏิรูปประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแม้จะต้องฝ่าฝืนคำสั่งของศาลก็ตาม การประกาศเช่นนั้นของพันธมิตรฯ เป็นที่เปิดเผยและรับทราบโดยทั่วกัน
       
       ข้อเท็จจริงเหล่านี้ถ้าใครได้อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มก็จะทราบอยู่แล้ว แต่นายชูชาติเพียงแต่ไม่ได้กล่าวถึงเพื่อให้คนเข้าใจผิดเท่านั้น การกล่าวหาว่า พันธมิตรฯ หลอกลวงเพราะสุดท้ายจะไม่เข้าร่วมต่อสู้ จึงเป็น"จินตนาการ"ของนายชูชาติเอง ซึ่งผิดวิสัยของคนที่เป็นผู้พิพากษาศาล ซึ่งต้องยึดถือข้อเท็จจริงเป็นหลัก
       
       ดังนั้นแถลงการณ์ข้อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับสุดท้ายจึงเป็นความจริงแท้ทุกตัวอักษร
       
       ความเห็นของนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกาที่กล่าวหาว่า แถลงการณ์ของพันธมิตรฯ เป็นเท็จต่างหากที่ไม่เป็นความจริง
       
       ผมไม่ได้ต้องการแสดงความเห็นนี้เพื่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างมวลชนของพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรฯ แต่ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกบิดเบือนไป และเชื่อว่า สาธุชนที่มีใจเป็นธรรม เข้าใจขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ได้อ่านแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์คงยืนยันความจริงข้อนี้ได้
       
       ส่วนเหตุผลที่กระทำเช่นนี้ของนายชูชาติจะเป็นเพราะความเป็นธรรมในใจที่เอนเอียงไปทางพรรคการเมืองไหนนั้นเป็นสิ่งที่นายชูชาติย่อมรู้อยู่แก่ใจ
       
       แต่โชคดีสำหรับสังคมไทยก็คือ วันนี้นายชูชาติ ศรีแสง ได้เกษียณ จากฐานะผู้พิพากษาในกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว

[คนกรุงธน]

ก็คงไม่มีอะไรมาก ต่างคนต่างมองคนละมุม

ก็มีเหตุผลดีทั้งคู่ ไม่ได้ทะเลาะกัน เป็นปชต.เห็นต่างได้แต่ไม่ได้แตกแยก...

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

หลังจากอ่านบทความโต้  ผมเห็นอยู่ประเด็นเดียวที่พธม.พูดซ้ำๆมาตลอด

 

 

 และสิ่งที่พันธมิตรฯ พูดเสมอมาว่า ถูกกลั่นแกล้งโดยยัดเยียดข้อหาร้ายแรงอันเป็นเท็จ 

 

 

ตกลงมันเท็จตรงไหนครับ

ปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ ไม่ผิดเลยใช่ไหม

ไหนเคยบอกไว้ว่าไง ทำไมตอนนี้มาคร่ำครวญ?????

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

อ้างตนรักความถูกต้อง แต่เรียกร้องให้พี่มาร์คและคน ปชป ใช้ความไม่ถูกต้องช่วยเหลือ พธม ถ้าเขาทำให้จริงแล้วจะอ้างความถูกต้องได้หรือ  มิกลายเป็นเรื่องของขั้วอำนาจไปหรือ  ทักษิณผิดเพราะใช้อำนาจไม่เอื้อประโยชน์ พธม  แต่ ปชป ดีเลิศประเสริฐศรีเพราะอุ้ม พธม 

 

แล้วหลักการของความถูกต้องมันจะอยู่ตรงไหน  อย่าอ้างว่าพธม ทำเพื่อชาติ  เพราะหากทำเพื่อชาติจริงต้องยึดหลักการของความถูกต้องด้วยชาติจึงจะพ้นภัย  สิ่งที่ผิด ใครทำก็ผิดค่ะ  ไม่ใช่คนดีทำสิ่งผิดแล้วยังเป็นคนดี คนชั่วทำสิ่งดียังเป็นคนชั่ว แบบนั้นใช้เป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองไม่ได้    

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

อ้างตนรักความถูกต้อง แต่เรียกร้องให้พี่มาร์คและคน ปชป ใช้ความไม่ถูกต้องช่วยเหลือ พธม ถ้าเขาทำให้จริงแล้วจะอ้างความถูกต้องได้หรือ  

แล้วหลักการของความถูกต้องมันจะอยู่ตรงไหน  อย่าอ้างว่าพธม ทำเพื่อชาติ  เพราะหากทำเพื่อชาติจริงต้องยึดหลักการของความถูกต้องด้วยชาติจึงจะพ้นภัย  สิ่งที่ผิด ใครทำก็ผิดค่ะ  ไม่ใช่คนดีทำสิ่งผิดแล้วยังเป็นคนดี คนชั่วทำสิ่งดียังเป็นคนชั่ว แบบนั้นใช้เป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองไม่ได้    

 

 

บทเรียนพธม.ครั้งนี้ เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมากครับ

ว่าฮีโร่จอมปลอม หน้าตาและนิสัยมันเป็นแบบนี้

 

ในวรรณกรรมกำลังภายในจะมีตัวละครแบบนี้มากเลยครับ ทุกเรื่อง คือพวก คุณธรรมจอมปลอม

โดยเฉพาะในผลงานของกิมย้ง  จะมีเยอะสุด และกิมย้งรังเกียจคนแบบนี้มาก

(ผมเป็นแฟนขวับท่านโก้วเล้งนะครับ แต่กิมย้งท่านชูประเด็นนี้และโจมตีผ่านตัวละครเยอะจริงๆ)

[Bookmarks]

นี่มันแถลงการณ์ของ ไอ้แป๊ะไม่ใช่หรือ ที่บอกว่า คุณอภิสิทธิ์ ตั้งข้อหาเพื่อต้องการให้มัน ติดเงื่อนไขศาล จนทำให้มันไม่สามารถออกมาชุมนุมได้ อ. ชูชาติ ท่านก็บอกแล้ว คำสั่งฟ้องมันปี 56 โดยอัยการเป็นคนสั่งฟ้อง การจะติดเงื่อนไขศาล มันมาเกิดในปี 56 คุณอภิสิทธิืพ้นจากตำแหน่งนายกไปแล้ว จะมาบอกว่า ที่ตั้้งข้อหาเพื่อให้มันติดเงื่่อนไขศาล อันนี้จึงไม่จริงไง ส่วนตำรวจแจ้งข้อหา แต่ไม่ได้เป็นคนฟ้องศาลนี่หว่า ตำรวจตั้งข้อหาแบบมั่วๆ อัยการไม่สั่งฟ้องก็มีไม่ใช่หรือ แล้วตรงที่เขียนว่า พันธมิตร พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม แล้วดันมาว่าคุณอภิสิทธิ์ว่า ตั้งข้อหากลั่นแกล้ง งง กับมันมั้ย ก็ไปพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาลสิ 

สงสัยพวกแป๊ะคงจะลืมว่า คุณกษิต ก็โดนฟ้องด้วย ไม่เห็นคุณกษิตเค้าจะโวยวายเหมือนพวกแป๊ะลิ้มเลย 

 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการสร้างพันธนาการให้กับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม 

 

[Bookmarks]

ข้อหาก่อการร้าย เป็นข้อหาที่พรรคเผาไทย ยื่นเรื่องมาตั้งแต่แรกแล้ว ที่ปิดสนามบิน ตำรวจน่ะพวกใคร เราก็เห็นๆ กันอยู่ 

[ypk]

เหอะ เหอะ  น้าผึ้ง ต้องไปหาแถลงการณ์ ที่นายสุวิช อ้างว่าเป็นความจริงทุกตัวอักษร

มาดูครับ ถึงจะเห็นชัดว่า ที่ท่านสุชาติ ท่านช่วยอธิบายให้ฟังนั้น มันถูกต้องแล้ว

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

 

อ้างตนรักความถูกต้อง แต่เรียกร้องให้พี่มาร์คและคน ปชป ใช้ความไม่ถูกต้องช่วยเหลือ พธม ถ้าเขาทำให้จริงแล้วจะอ้างความถูกต้องได้หรือ  

แล้วหลักการของความถูกต้องมันจะอยู่ตรงไหน  อย่าอ้างว่าพธม ทำเพื่อชาติ  เพราะหากทำเพื่อชาติจริงต้องยึดหลักการของความถูกต้องด้วยชาติจึงจะพ้นภัย  สิ่งที่ผิด ใครทำก็ผิดค่ะ  ไม่ใช่คนดีทำสิ่งผิดแล้วยังเป็นคนดี คนชั่วทำสิ่งดียังเป็นคนชั่ว แบบนั้นใช้เป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองไม่ได้    

 

 

บทเรียนพธม.ครั้งนี้ เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมากครับ

ว่าฮีโร่จอมปลอม หน้าตาและนิสัยมันเป็นแบบนี้

 

ในวรรณกรรมกำลังภายในจะมีตัวละครแบบนี้มากเลยครับ ทุกเรื่อง คือพวก คุณธรรมจอมปลอม

โดยเฉพาะในผลงานของกิมย้ง  จะมีเยอะสุด และกิมย้งรังเกียจคนแบบนี้มาก

(ผมเป็นแฟนขวับท่านโก้วเล้งนะครับ แต่กิมย้งท่านชูประเด็นนี้และโจมตีผ่านตัวละครเยอะจริงๆ)

 

 

ขิงชอบกิมย้ง แล้วก็เห็นจริงนะคะเรื่องที่กิมย้งชอบชูประเด็นคุณธรรมจอมปลอมในตัวละครของเขา อย่างเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร ก็คงเป็น งักปุกคุ้ง ซึ่งทาง พธม เคยนำมาเปรียบเทียบด่าพี่มาร์ค  http://www.manager.c...D=9530000181198  แต่ถ้าเอาจริงๆตามพฤติกรรมของ งักปุกคุ้งแล้วเราจะเห็นได้จากหลายคนเลยในแกนนำของ พธม

[phat21]

 

 

อ้างตนรักความถูกต้อง แต่เรียกร้องให้พี่มาร์คและคน ปชป ใช้ความไม่ถูกต้องช่วยเหลือ พธม ถ้าเขาทำให้จริงแล้วจะอ้างความถูกต้องได้หรือ  

แล้วหลักการของความถูกต้องมันจะอยู่ตรงไหน  อย่าอ้างว่าพธม ทำเพื่อชาติ  เพราะหากทำเพื่อชาติจริงต้องยึดหลักการของความถูกต้องด้วยชาติจึงจะพ้นภัย  สิ่งที่ผิด ใครทำก็ผิดค่ะ  ไม่ใช่คนดีทำสิ่งผิดแล้วยังเป็นคนดี คนชั่วทำสิ่งดียังเป็นคนชั่ว แบบนั้นใช้เป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองไม่ได้    

 

 

บทเรียนพธม.ครั้งนี้ เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมากครับ

ว่าฮีโร่จอมปลอม หน้าตาและนิสัยมันเป็นแบบนี้

 

ในวรรณกรรมกำลังภายในจะมีตัวละครแบบนี้มากเลยครับ ทุกเรื่อง คือพวก คุณธรรมจอมปลอม

โดยเฉพาะในผลงานของกิมย้ง  จะมีเยอะสุด และกิมย้งรังเกียจคนแบบนี้มาก

(ผมเป็นแฟนขวับท่านโก้วเล้งนะครับ แต่กิมย้งท่านชูประเด็นนี้และโจมตีผ่านตัวละครเยอะจริงๆ)

 

 

ขิงชอบกิมย้ง แล้วก็เห็นจริงนะคะเรื่องที่กิมย้งชอบชูประเด็นคุณธรรมจอมปลอมในตัวละครของเขา อย่างเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร ก็คงเป็น งักปุกคุ้ง ซึ่งทาง พธม เคยนำมาเปรียบเทียบด่าพี่มาร์ค  http://www.manager.c...D=9530000181198  แต่ถ้าเอาจริงๆตามพฤติกรรมของ งักปุกคุ้งแล้วเราจะเห็นได้จากหลายคนเลยในแกนนำของ พธม

 

ไอ้มาร์ค พ่อง เ มิงเป็นฮีโร่ตายละ ถรุ้ย

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

 

 

 

อ้างตนรักความถูกต้อง แต่เรียกร้องให้พี่มาร์คและคน ปชป ใช้ความไม่ถูกต้องช่วยเหลือ พธม ถ้าเขาทำให้จริงแล้วจะอ้างความถูกต้องได้หรือ  

แล้วหลักการของความถูกต้องมันจะอยู่ตรงไหน  อย่าอ้างว่าพธม ทำเพื่อชาติ  เพราะหากทำเพื่อชาติจริงต้องยึดหลักการของความถูกต้องด้วยชาติจึงจะพ้นภัย  สิ่งที่ผิด ใครทำก็ผิดค่ะ  ไม่ใช่คนดีทำสิ่งผิดแล้วยังเป็นคนดี คนชั่วทำสิ่งดียังเป็นคนชั่ว แบบนั้นใช้เป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองไม่ได้    

 

 

บทเรียนพธม.ครั้งนี้ เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมากครับ

ว่าฮีโร่จอมปลอม หน้าตาและนิสัยมันเป็นแบบนี้

 

ในวรรณกรรมกำลังภายในจะมีตัวละครแบบนี้มากเลยครับ ทุกเรื่อง คือพวก คุณธรรมจอมปลอม

โดยเฉพาะในผลงานของกิมย้ง  จะมีเยอะสุด และกิมย้งรังเกียจคนแบบนี้มาก

(ผมเป็นแฟนขวับท่านโก้วเล้งนะครับ แต่กิมย้งท่านชูประเด็นนี้และโจมตีผ่านตัวละครเยอะจริงๆ)

 

 

ขิงชอบกิมย้ง แล้วก็เห็นจริงนะคะเรื่องที่กิมย้งชอบชูประเด็นคุณธรรมจอมปลอมในตัวละครของเขา อย่างเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร ก็คงเป็น งักปุกคุ้ง ซึ่งทาง พธม เคยนำมาเปรียบเทียบด่าพี่มาร์ค  http://www.manager.c...D=9530000181198  แต่ถ้าเอาจริงๆตามพฤติกรรมของ งักปุกคุ้งแล้วเราจะเห็นได้จากหลายคนเลยในแกนนำของ พธม

 

ไอ้มาร์ค พ่อง เ มิงเป็นฮีโร่ตายละ ถรุ้ย

 

 

เด็กถ่อยอย่ามาวิ่งเล่นในความเห็นเจ๊ เสียของหมด ไปเข็นเครื่องบินเล่นที่ใต้ถุนโน่นเลย ชิ้วๆ

[หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว]

เมื่อวานมาร์คขึ้นเวที วอนขี้ข้า อย่าทะเลาะกัน

 

พูดจบไม่นาน ขี้ข้าปชป โพสด่าพันธมิตร

 

 

ฮาวะ ร้าวลึก 

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เหอะ เหอะ  น้าผึ้ง ต้องไปหาแถลงการณ์ ที่นายสุวิช อ้างว่าเป็นความจริงทุกตัวอักษร

มาดูครับ ถึงจะเห็นชัดว่า ที่ท่านสุชาติ ท่านช่วยอธิบายให้ฟังนั้น มันถูกต้องแล้ว

 

หลานวาย อันที่เป็นแถลงการณ์"ไม่สู้"ฉบับสุดท้ายของพธม.ใช่ไหมครับ

(อยากรู้ว่าจะมีกี่"สุดท้าย"  เห็นลั่นสุดท้ายมาหลายรอบแล้ว ไม่ท้ายซะที     )

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เมื่อวานมาร์คขึ้นเวที วอนขี้ข้า อย่าทะเลาะกัน

 

พูดจบไม่นาน ขี้ข้าปชป โพสด่าพันธมิตร

 

 

ฮาวะ ร้าวลึก 

 

อ่านภาษาไทยไม่ออก  สมเป็นขี้ข้าแม้ว

กรณีนายชูชาติ ศรีแสง ใส่ร้ายแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ

[ryukendo]

 

ไอ้มาร์ค พ่อง เ มิงเป็นฮีโร่ตายละ ถรุ้ย

 

 

ติด Line ใช่ไหม รับสารภาพมาซะดีๆ

 

 

ห่วงเด็กติด'ไลน์' ส่อมีพฤติกรรมแข็งกระด้าง

 

กรมสุขภาพจิตออกโรงเตือน เด็กติดสมาร์ทโฟน แอพพลิเคชั่น “แชทไลน์” ส่อพฤติกรรมแข็งกระด้าง สูญเสียการใช้ชีวิตประจำวันของวัยเด็กที่ควรจะเป็น เพราะใช้ตัวหนังสือสื่อสารแทนพฤติกรรมจริง เปิดบริการบำบัดอาการผ่านสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชม.

 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ มีความห่วงใยพฤติกรรมคนไทยในการใช้โทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะชนิดสมาร์ทโฟน ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งผู้ใหญ่และเด็ก โดยเฉพาะโปรแกรมแอพพลิเคชั่นไลน์ (LINE) ที่นิยมใช้ในการส่งข้อความ เช่น ส่งการบ้าน ข้อความสั้น ส่งรูปถ่ายส่วนตัว รูปทั่วไป คลิปเสียง สติ๊กเกอร์ต่างๆ และใช้ฟรีตลอดเวลา โดยผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุด ในปี 2555 พบว่า ในกลุ่มประชาชนอายุ 6 ปีขึ้นไป ใช้โทรศัพท์มือถือจำนวน 44 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรทั้งประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเขต กทม. มีการใช้มากที่สุดร้อยละ 84 ภาคกลางร้อยละ 75 ภาคเหนือร้อยละ 68 ภาคใต้ร้อยละ 67 และต่ำสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้ร้อยละ 64

รม ช.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า การเล่นไลน์มีทั้งผลดีและผลเสีย ในด้านดีอาจสร้างความสะดวกในการสื่อสารโดยเฉพาะในสถานที่งดการใช้ เสียง รวดเร็ว ทั้งภาพและเสียง ประหยัดไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ ส่วนเรื่องผลกระทบที่เป็นห่วง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ยังมีวุฒิภาวะน้อยหากผู้ปกครองไม่ชี้แนะ ดูแล ควบคุมการใช้อย่างจริงจัง อาจจะเกิดผลกระทบทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ที่น่าห่วงก็คือการเกิดพฤติกรรมก้มหน้า สังคมก้มหน้า การสื่อสารแบบเผชิญหน้าจะลดน้อยลง และอาจนำไปใช้เป็นประจำจนติดเป็นนิสัย ผู้ใช้อยู่ในโลกส่วนตัวมากเกินไป ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ขาดความระมัดระวัง อาจเกิดปัญหาอุบัติเหตุจราจรได้ง่ายขึ้น และเด็กมีโอกาสรับรู้สิ่งต่างๆ ในสังคมออนไลน์ได้ตลอดเวลา

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะโปรแกรมยอดนิยม เช่น แอพพลิเคลชั่นไลน์ เด็กวัยรุ่นปัจจุบัน นิยมเล่นกันมาก บางคนเล่นทุกวัน จนอาจทำให้เด็กสูญเสียการใช้ชีวิตประจำวันของวัยเด็กที่ควรจะเป็นเช่น การพัฒนาการเรียนรู้เรื่องสัมพันธภาพ การวางตัว การชีวิตในห้องเรียน การทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มพัฒนาการที่สำคัญของวัยรุ่น การเล่นจนติดเป็นนิสัยจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่แข็งกระด้าง เพราะใช้ชีวิตทางการสื่อสารทางตัวหนังสือ หรือใช้ภาพการ์ตูนสะท้อนภาวะอารมณ์แทนที่พฤติกรรมจริงที่มีโอกาสแต่ไม่ได้ กระทำ

ดังนั้น ผู้ปกครองควรวางกติกาให้กับเด็กในการเล่น ทั้งกำหนดเวลา จำกัดเวลาในการเล่น ไม่ให้มีการใช้ในช่วงเวลาไม่เหมาะสม เช่น ในเวลาเรียน เวลากลางคืนที่ควรนอน หากทำไม่ได้ต้องมีบทลงโทษเพื่อการเรียนรู้ เช่น งดค่าโทรศัพท์ ค่าเติมเงิน ค่าอินเตอร์เน็ต นอกจากนั้น ยังต้องกำกับดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด โดยการสอนและให้ข้อคิดในการใช้งาน กระตุ้นให้เด็กคิด และชื่นชมเด็กเมื่อทำตามเพื่อสร้างแรงจูงใจเชิงบวกให้มีพฤติกรรมการใช้ที่ดี

“ขณะ นี้สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ได้เปิดให้บริการปรึกษาแก่เด็ก และผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลานติดโทรศัพท์มือถือ หรือติดเกมส์ โดยให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์ หมายเลข 02-248-8990 สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล บริการในเวลาราชการ หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต หมายเลข 1323 สำหรับ 24 ชั่วโมง ให้บริการทั่วประเทศ” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว.

 

http://www.thairath....tent/edu/365649

 

 

ไปเลย ให้ว่อง ให้ไวเลย >>>> บริการบำบัดอาการผ่านสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชม.

[หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว]

 

เมื่อวานมาร์คขึ้นเวที วอนขี้ข้า อย่าทะเลาะกัน

 

พูดจบไม่นาน ขี้ข้าปชป โพสด่าพันธมิตร

 

 

ฮาวะ ร้าวลึก 

 

อ่านภาษาไทยไม่ออก  สมเป็นขี้ข้าแม้ว

กรณีนายชูชาติ ศรีแสง ใส่ร้ายแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ

 

ผมไปอ่านคอมเม็นในผู้จัดการ มันก็ชัดเจนครับ ผมไม่ฟังขี้ข้าปชป หรอก เพราะคิดเข้าข้างตัวเองตลอด มิตรมันถึงหายไปหมดไงละ

 

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ผมไปอ่านคอมเม็นในผู้จัดการ มันก็ชัดเจนครับ ผมไม่ฟังขี้ข้าปชป หรอก เพราะคิดเข้าข้างตัวเองตลอด มิตรมันถึงหายไปหมดไงละ

 

 

 

กีซซซซซซซซซซซซ  เด๋วนี้ควายแดงเขาเออออห่อหมก เข้ากันเป็นขนมผสมน้ำยากับน้ำด่างดีจังเยย.................จุ๊กกรู

ไม่นึกไม่ฝัน.....  

[Bookmarks]

เมื่อวานมาร์คขึ้นเวที วอนขี้ข้า อย่าทะเลาะกัน

 

พูดจบไม่นาน ขี้ข้าปชป โพสด่าพันธมิตร

 

 

ฮาวะ ร้าวลึก 

ก็คนเค้าไม่ได้แดรกขี้เป็นอาหารเหมือนขี้ิข้าแม้วอย่างเอ็งนี่หว่า เรื่องไหนไม่จริง ก็ต้องเอาข้อมูลมาแย้ง ผิดถูกว่ากันไปตามผิด ไม่เหมือนพวกควายแดงหรอก พวกล้มเจ้าก็เอามารวมเป็นพวก พวกชายชุดดำก็เอามาเป็นพวก ปกปิดความผิดให้กัน เพราะกลัวพวกตัวเองจะลดน้อยลง 

[ปุถุชน]

 

นี่มันแถลงการณ์ของ ไอ้แป๊ะไม่ใช่หรือ ที่บอกว่า คุณอภิสิทธิ์ ตั้งข้อหาเพื่อต้องการให้มัน ติดเงื่อนไขศาล จนทำให้มันไม่สามารถออกมาชุมนุมได้ อ. ชูชาติ ท่านก็บอกแล้ว คำสั่งฟ้องมันปี 56 โดยอัยการเป็นคนสั่งฟ้อง การจะติดเงื่อนไขศาล มันมาเกิดในปี 56 คุณอภิสิทธิืพ้นจากตำแหน่งนายกไปแล้ว จะมาบอกว่า ที่ตั้้งข้อหาเพื่อให้มันติดเงื่่อนไขศาล อันนี้จึงไม่จริงไง ส่วนตำรวจแจ้งข้อหา แต่ไม่ได้เป็นคนฟ้องศาลนี่หว่า ตำรวจตั้งข้อหาแบบมั่วๆ อัยการไม่สั่งฟ้องก็มีไม่ใช่หรือ แล้วตรงที่เขียนว่า พันธมิตร พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม แล้วดันมาว่าคุณอภิสิทธิ์ว่า ตั้งข้อหากลั่นแกล้ง งง กับมันมั้ย ก็ไปพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาลสิ 

สงสัยพวกแป๊ะคงจะลืมว่า คุณกษิต ก็โดนฟ้องด้วย ไม่เห็นคุณกษิตเค้าจะโวยวายเหมือนพวกแป๊ะลิ้มเลย 

 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการสร้างพันธนาการให้กับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม 

 

 

 

 

 

พูดคนละขยัก เน้นคนละส่วน.....

ผมเห็นว่าความคิดเห็นของอดีตผู้พิพากษาชูชาติเป็นมุมาองที่ดีกว่า......ฮ่า ฮ่า ฮ่า อ่า

[Bookmarks]

 

 

เมื่อวานมาร์คขึ้นเวที วอนขี้ข้า อย่าทะเลาะกัน

 

พูดจบไม่นาน ขี้ข้าปชป โพสด่าพันธมิตร

 

 

ฮาวะ ร้าวลึก 

 

อ่านภาษาไทยไม่ออก  สมเป็นขี้ข้าแม้ว

กรณีนายชูชาติ ศรีแสง ใส่ร้ายแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ

 

ผมไปอ่านคอมเม็นในผู้จัดการ มันก็ชัดเจนครับ ผมไม่ฟังขี้ข้าปชป หรอก เพราะคิดเข้าข้างตัวเองตลอด มิตรมันถึงหายไปหมดไงละ

 

 

เอ็งไม่ฟัง ปชป หรอก เพราะถ้าเอ็งมีเหตุผล เอ็งคงไม่เป็นควายแดงหรอก กร๊าก 

[DarkSwan]

เดี๋ยวนี้เค้าเอาหญ้าละลายน้ำด่างให้สาวกกินกันแล้วรึนี่

อืม ตามไม่ทันจริงๆ

[blackdragon]

 

 

 

 

อ้างตนรักความถูกต้อง แต่เรียกร้องให้พี่มาร์คและคน ปชป ใช้ความไม่ถูกต้องช่วยเหลือ พธม ถ้าเขาทำให้จริงแล้วจะอ้างความถูกต้องได้หรือ  

แล้วหลักการของความถูกต้องมันจะอยู่ตรงไหน  อย่าอ้างว่าพธม ทำเพื่อชาติ  เพราะหากทำเพื่อชาติจริงต้องยึดหลักการของความถูกต้องด้วยชาติจึงจะพ้นภัย  สิ่งที่ผิด ใครทำก็ผิดค่ะ  ไม่ใช่คนดีทำสิ่งผิดแล้วยังเป็นคนดี คนชั่วทำสิ่งดียังเป็นคนชั่ว แบบนั้นใช้เป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองไม่ได้    

 

 

บทเรียนพธม.ครั้งนี้ เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมากครับ

ว่าฮีโร่จอมปลอม หน้าตาและนิสัยมันเป็นแบบนี้

 

ในวรรณกรรมกำลังภายในจะมีตัวละครแบบนี้มากเลยครับ ทุกเรื่อง คือพวก คุณธรรมจอมปลอม

โดยเฉพาะในผลงานของกิมย้ง  จะมีเยอะสุด และกิมย้งรังเกียจคนแบบนี้มาก

(ผมเป็นแฟนขวับท่านโก้วเล้งนะครับ แต่กิมย้งท่านชูประเด็นนี้และโจมตีผ่านตัวละครเยอะจริงๆ)

 

 

ขิงชอบกิมย้ง แล้วก็เห็นจริงนะคะเรื่องที่กิมย้งชอบชูประเด็นคุณธรรมจอมปลอมในตัวละครของเขา อย่างเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร ก็คงเป็น งักปุกคุ้ง ซึ่งทาง พธม เคยนำมาเปรียบเทียบด่าพี่มาร์ค  http://www.manager.c...D=9530000181198  แต่ถ้าเอาจริงๆตามพฤติกรรมของ งักปุกคุ้งแล้วเราจะเห็นได้จากหลายคนเลยในแกนนำของ พธม

 

ไอ้มาร์ค พ่อง เ มิงเป็นฮีโร่ตายละ ถรุ้ย

 

 

เด็กถ่อยอย่ามาวิ่งเล่นในความเห็นเจ๊ เสียของหมด ไปเข็นเครื่องบินเล่นที่ใต้ถุนโน่นเลย ชิ้วๆ

 

ผมเข้าใจว่า...

 

 

มีแต่ควายแดงเท่านั้นที่ถ่อย สถุล

 

พันธมิตรที่ผมรู้จัก

 

 

ล้วนแต่มีเหตุผล

 

 

 

 

 

ไม่หยาบคายแบบ phat21 นะ

Edited by blackdragon, 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:30.

[ครุฑดำ]

ตอนนี้พธม.คล้ายหมาเห่านะ มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ อ้างว่าทำเพื่อชาติ แต่ไหงช่วยชาติด้วยวิธีกล่าวร้ายคนที่ต่อต้านระบอบทักษิณ งง??

[Bookmarks]

สรุปแล้ว จะรักชาติ ทำเพื่อชาติ ก็กลัว ปชป จะยึดติดตำแหน่ง ฮา จริงๆ แก๊งแป๊ะไม่ออกมา อยู่เฉยๆ ก็ไม่มีใครไปว่าอะไรนะ แต่ดันมาตั้งเงื่อนไขให้ ปชป ลาออกนี่สิ เค้าไม่ลาออกก็ว่า เค้าไปกลั่นแกล้งคดีที่แล้วมาอีก คนเค้าสับสนตรงที่ว่า ถ้า ปชป ลาออก แล้วไม่สนจะฝ่าฝืนคำสั่งศาล แต่ถ้าไม่ลาออก ดันใช้ข้ออ้างว่าไม่อยากฝ่าฝืนคำสั่งศาล เหอๆ 

 

ใครที่ติดตามพันธมิตรฯ หรืออ่านแถลงการณ์ให้ถ้วนถี่ก็จะทราบความจริงว่า สิ่งที่พันธมิตรฯ เรียกร้องให้ ปชป.ลาออกก็คือ ให้ออกมาต่อสู้นอกสภาเพื่อยืนยันไม่ยึดติดกับตำแหน่งหรือการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ถ้า ปชป.กระทำเช่นนั้น แม้จะติดเงื่อนไขศาล พันธมิตรฯ ก็พร้อมจะร่วมต่อสู้ถ้าการต่อสู้นั้นเป็นการสู้เพื่อปฏิรูปประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแม้จะต้องฝ่าฝืนคำสั่งของศาลก็ตาม การประกาศเช่นนั้นของพันธมิตรฯ เป็นที่เปิดเผยและรับทราบโดยทั่วกัน

 

 

[hinotori]

 

 

เมื่อวานมาร์คขึ้นเวที วอนขี้ข้า อย่าทะเลาะกัน

 

พูดจบไม่นาน ขี้ข้าปชป โพสด่าพันธมิตร

 

 

ฮาวะ ร้าวลึก 

 

อ่านภาษาไทยไม่ออก  สมเป็นขี้ข้าแม้ว

กรณีนายชูชาติ ศรีแสง ใส่ร้ายแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ

 

ผมไปอ่านคอมเม็นในผู้จัดการ มันก็ชัดเจนครับ ผมไม่ฟังขี้ข้าปชป หรอก เพราะคิดเข้าข้างตัวเองตลอด มิตรมันถึงหายไปหมดไงละ

 

 

 

แล้วขี้ข้าทักษิณอย่างคุณมาพล่ามอะไรในนี้ล่ะครับ ปากบอกไม่อยากฟัง แต่ไสหูเข้ามาแส่ เจือกได้โล่ห์จังเลยครับ 

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

เมื่อวานมาร์คขึ้นเวที วอนขี้ข้า อย่าทะเลาะกัน

 

พูดจบไม่นาน ขี้ข้าปชป โพสด่าพันธมิตร

 

 

ฮาวะ ร้าวลึก 

 

ขี้ข้าตัวจริงอย่างหมื่นคงไม่รู้จักหรอกค่ะวิถีของเสรีชนอย่างพวกเรา ซึ่งมีความคิดเป็นของตัวเอง พี่มาร์คมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นยังไงก็ได้ คนฟังจะนำไปปฏิบัติตามหรือเห็นต่างก็ย่อมได้ ไม่จำเป็นต้องทำตามเหมือนหมื่นกับเสื้อแดงก้มหน้าเลียเท้าทักษิณมันว่าไงก็ต้องทำตามนั้น

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เดี๋ยวนี้เค้าเอาหญ้าละลายน้ำด่างให้สาวกกินกันแล้วรึนี่

อืม ตามไม่ทันจริงๆ

[ypk]

เหอะ เหอะ แถลงการณ์ฉบับสุดท้ายของเขา ที่นายสุวิชอ้างว่าเป็นจริงทุกตัวอักษร เขาเอา

มาอ่านก่อนจะแถลงยุติบทบาท ผมฟังแล้วยังขำอยู่เลย เพราะนึกถึงคดีที่ธาริตตั้งให้อภิสิทธิ์

กับสุเทพ ทำนองว่า เจตนาเล็งเห็นผลนั้นแหละ

 

ผมจำเนื้อหาได้คร่าว ๆ ว่า เขาอ้างว่า อภิสิทธิ์ต้องการที่จะกำจัดบทบาทในการเป็นแกนนำของ

เขา จึงปล่อยให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนจนพวกเขาถูกตั้งข้อหาร้ายแรงและถูกศาลออก

คำสั่งไม่ให้เคลื่อนไหวในการชุมนุม ทำนองนี้แหละครับ 

 

ท่านสุชาติ ท่านถึงได้อธิบายว่า อภิสิทธิ์เขาหมดอำนาจไปตั้งนานแล้ว ศาลเพิ่งมาออกหมายสั่ง

แล้วคุณจะไปโทษเขาได้ยังไง

 

ส่วนที่นายสุวิชนำมาตอบโต้นั้น มันเป็นขั้นตอนที่อยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนของตำรวจ ซึ่งมันก็

ไม่เกี่ยวกับคำสั่งศาลแต่เขาเอาคำสั่งศาล โยงกลับไปว่า ก็เป็นเพราะอภิสิทธิ์ปล่อยให้มีการเปลี่ยนตัว

พนักงานสอบสวนโดยอ้างว่าแทรกแซงไม่ได้นั่นแหละพอตำรวจส่งอัยการ อัยการส่งฟ้องศาล เมื่อศาลรับฟ้อง

เขาก็เลยโดนศาลสั่งห้ามชุมนุม (ดูมันโยง) 

 

คนพวกนี้เขาเชี่ยวชาญในการผูกโยงเรื่องมานานแล้ว โดยใช้วิธีตัดต่อแบบตัดต่อภาพนั่นแหละ ถ้าตัดต่อ

เนียน ๆ ก็ใช้หลอกสาวกได้หัวปักหัวปัมกันไปเลย

 

เรื่องนี้ผมตามดูอยู่เหมือนกัน เพราะสงสัยว่าอภิสิทธิ์จะทำอย่างไร เนื่องจากตอนนั้นแกนนำเสื้อแดงพยายาม

โวยวายว่าอภิสิทธิ์ 2 มาตรฐานที่ไม่ยอมดำเนินคดีกับ พธม เพราะมีข่าวว่าจะมีการช่วยเป่าคดี ให้ พธม

 

ผมจำได้ว่ามีนักข่าวไปถามอภิสิทธิ์ว่าจะมีการช่วยเหลือคดี พธม หรือไม่ คำตอบของอภิสิทธิ์ผมจำได้ติดหู

ครับ เขาตอบว่า "ถ้าผมทำอย่างนั้นผมก็ไม่ต่างกับทักษิณนะซี"  ฟังคำตอบแล้วผมยังนึกอยู่ในใจว่า ไอ้คนนี้

มันไม่เอาผลประโยชน์พวกพ้องจริงอย่างที่พูดเลยว่ะ น่าจะเป็นตัวอย่างของนายกที่ดีหายากของเมืองไทยเลย

นะเนี่ยะ เพราะสังคมไทยมันจมปรักอยู่กับผู้นำประเภท ลูบหน้าปะจมูก จนเลอะเทอะนานแล้ว ผู้นำของไทยที่ผ่านมา

ยังติดอยู่กับสภาพสังคมแบบไทย ๆ ที่ยังมีการเห็นแก่พี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย จนกลายเป็นเรื่องสองมาตรฐาน

มานานใครเป็นพวกกู รู้จักสนิทสนมดี ก็ช่วย ถ้าห่างออกไปก็ตัวใครตัวมัน จนคนส่วนใหญ่กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง

ไปโดยไม่รู้ตัว

 

ที่อภิสิทธิ์พูด ผมรู้สึกว่ามัน แว๊บ เข้ามาตรงใจพอดี ก็เลยเชียร์มาตลอด และก็ไล่ตอบโต้กับพวกใส่ร้ายป้ายสี

มาตลอดเหมือนกัน อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังเรื่องเขาพระวิหาร ถึงขนาดถูกไล่กระทืบมาแล้วก็เคย

 

ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับคนพวกนี้เลย เพียงคิดว่าถ้าเราไม่ช่วยปกป้องคนดี ซึ่งบังเอิญมันตรงใจเราด้วย เราก็จะเสียคนดีไป

เพราะพวกที่จะเอาแต่ได้นี่แหละ ดูมันไร้คุณค่าจริง ๆ

 

ถ้าที่เขากล่าวหามันเป็นเรื่องจริง ผมคงไม่เที่ยวไปโต้ให้มันเสียเวลาหรอกแต่เท่าที่ติดตามมาตลอด ผมมองว่าเขาทำ

เพราะเจ็บใจที่ไม่ช่วยเขาเท่านั้น เลยผูกโยงเรื่องเล่าเป็นนิทานขึ้นมากล่าวหา แถมยังตัดบางช่วงบางตอนออกไม่เอา

มาพูดมาแสดง เอามาพูดมาแสดงเฉพาะในส่วนที่คิดว่ามันเข้ากับเรื่องเล่าของเขาเท่านั้น

 

ถ้ามีเทปเก่า ๆ ของเขาลองเปิดดูครับ ตอนวุฒิ พัวเวส ขึ้นไปพูดว่า เห็นมีแต่ผู้ก่อการดี นั้น สภาพ หรือบรรยากาศที่เขาพูด

เป็นอย่างไร แกนนำและสาวกเชื่อไหม ว่า วุฒิ พูดด้วยความจริงใจ ผมคิดว่าเขาไม่เชื่อครับ สังเกตจากการแสดงสีหน้าของ

สาวก ซ้ายขวา ของสนธิ และเสียงโห่ของสาวก และหลังจากมีการเปลี่ยนตัว วุฒิ พัวเวส เป็น สมยศ เขาก็โวยวาย (ด่า)

แต่ไม่ได้โวยวายอภิสิทธิ์นะครับ เขาโวยวาย เนวิน เพราะเขามองว่า เนวิน ไม่ชอบพวกเขาเลยเปลี่ยนตัวเพื่อแกล้งเขา แต่

ดูที่เขาพูด ๆ นั้น ดูไม่ซีเรียส ในเรื่องคดีเท่าไรนักเพราะตอนนั้นเขามองว่าเป็นเรื่อง ตลก ที่ไปตั้งข้อหาเขาว่าผู้ก่อการร้าย ซึ่ง

ข้อหานี้มันถูกตั้งมาแต่แรกแล้วครับไม่ใช่เพิ่งมาตั้งข้อหาตอนเปลี่ยนตัว เพราะการไปชุมนุมที่สนามบิน จะปิดหรือไม่หรือใคร

เป็นคนสั่งปิด ตำรวจมันก็ตั้งข้อหานี้อยู่แล้วส่วนจะเป็นอย่างที่ตำรวจกล่าวหาหรือไม่มันก็ต้องไปว่ากันในศาล

 

เรื่องนี้มันยาวนานมากในชั้นพนักงานสอบสวน ตำรวจก็คงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ดูในเทปแล้วใครเห็นหน้าในเทปที่ออกไปเต้น ๆ

ก็เอาไว้ก่อน มันก็เป็นไปได้ บางคนเห็นหน้าชัดแต่ไม่รู้ชื่ออะไรก็มี ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของตำรวจที่จะทำสำนวนอย่างไร อัยการ

ดูแล้วเห็นว่า อย่างไร ศาลดูแล้วจะว่าอย่างไร มันไม่เห็นจะไปเกี่ยวอะไรกับการไปกล่าวหาว่า อภิสิทธิ์เล็งเห็นผลที่จะกำจัด

บทบาทการเป็นแกนนำของเขา จึงปล่อยให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เพื่อให้มีการตั้งข้อหาร้ายแรง จนศาลสั่งห้าม

เขาชุมนุม ซึ่งมันเป็นการโยงเรื่องที่ดูปัญญาอ่อนมาก

 

เพราะถ้าอภิสิทธิ์เล็งเห็นผลได้ขนาดนั้นและคิดแผนตามที่เขาผูกโยงมาเล่าให้ฟัง เราจะเรียกอภิสิทธิ์ เฉย ๆ ไม่ได้แล้ว

ต้องเรียกว่า "ท่านเทพอภิสิทธิ์" เพราะสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ภายหน้าข้ามปีได้ทะลุปรุโปร่ง ขนาดหมดอำนาจไปแล้ว

ยังไปแผลงฤทธิ์ให้ศาลออกคำสั่งได้เลย 555