Jump to content


Photo
- - - - -

บทความของปราชญ์เศรษฐศาสตร์ไทย "ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังควาย"


  • Please log in to reply
11 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 23:57

ที่จริงบทความมิได้ชื่อนี้ครับ แต่ผมมาตั้งเอง

อ่านแล้วทิ่มหัวใจดีมาก สำหรับคนไทยที่มีสติ เตรียมรับหายนะ "ฟางเส้นสุดท้าย" กันเสียตั้งแต่ตอนนี้ครับ

 

http://www.manager.c...D=9560000106212

ไม่โทษใครนอกจากไอเอ็มเอฟ blank.gif โดย ไสว บุญมา

 

 

ย้อนไปเมื่อปี 2543 ผมเขียนและใช้ทุนตัวเองพิมพ์หนังสือชื่อ ไอเอ็มเอฟ ไอเอ็มเอฟ ไอเอ็มเอฟ ออกมา แรงจูงใจในการเขียนหนังสือเล่มนี้มีหลายอย่างรวมทั้งความต้องการที่จะให้ความกระจ่างในบางด้านเกี่ยวกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศและปัจจัยพื้นฐานของการพัฒนาเนื่องจากผมมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับองค์การนั้นในระหว่างที่ทำงานอยู่กับธนาคารโลก หนังสือขายไม่ดี ผู้จัดจำหน่ายจึงส่งคืนส่วนที่เหลือไปให้ผมจำนวนหนึ่งซึ่งกัลยาณมิตรนำไปขายลดราคาบ้างและผมนำไปแจกบ้างจนกระทั่งหมด หลายปีต่อมา คลังเอกสารสาธารณะนำไปสแกนขึ้นเว็บไซต์เพื่อให้ผู้สนใจดาวน์โหลดได้ฟรีที่ www.openbase.in.th (อาจเข้าไปดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนาก็ได้ที่ www.bannareader.org)
  556000011154601.JPEG blank.gif
 

 

โดยทั่วไปคนไทยมักไม่ค่อยได้ยินชื่อเต็มของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หากคุ้นเคยกับคำว่า “ไอเอ็มเอฟ” (IMF) ซึ่งย่อมาจาก International Momentary Fund หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 2540 ส่งผลให้รัฐบาลไทยต้องไปกู้เงินจากองค์การนั้นมาทดแทนทุนสำรองของชาติที่สูญไปในการต่อสู้กับนักโจมตีค่าเงิน ชื่อของหนังสือจึงใช้คำว่า “ไอเอ็มเอฟ” แต่ผมใช้คำนั้นซ้ำสามครั้งตั้งชื่อหนังสือเพราะหวังจะสื่อถึงสิ่งอื่นอีกหลายอย่างที่อาจย่อจากภาษาฝรั่งมาเป็น IMF ได้ ชื่อคงไม่สื่อและไม่กระตุ้นความสนใจ หนังสือจึงขายไม่ค่อยออก
       
        คงจำกันได้ว่า ในการให้รัฐบาลไทยกู้เงินนั้น ไอเอ็มเอฟตั้งเงื่อนไขให้รัฐบาลไทยทำหลายอย่าง บางอย่างมีประโยชน์ แต่บางอย่างมีผลข้างเคียงร้ายแรง ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีปัญหาอะไรตามมาในช่วงเวลาหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนั้น คนไทยจึงมักถูกชักจูงให้โทษไอเอ็มเอฟไม่ว่าปัญหาจะมาจากเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟหรือไม่ก็ตาม
       
        แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 13 ปี แต่ผมมองว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสือยังไม่ล้าสมัยเนื่องจากการทำงานขององค์การนั้นและปัจจัยพื้นฐานของปัญหาในสังคมไทยยังไม่เปลี่ยนไปมากนัก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมจึงนำชื่อและรูปปกของหนังสือมาเสนอต่อสังคมออนไลน์ในหน้าเฟซบุ๊กของผมพร้อมกับบอกผู้ที่สนใจว่าสามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ดังกล่าวได้ พร้อมกันนั้นผมตั้งคำถามว่า “ไอเอ็มเอฟ” ตัวไหนและผมพูดไว้ในหนังสือตรงไหนที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของปัญหาในสังคมไทยในปัจจุบัน ผู้ตอบถูกคนแรกจะได้รับรางวัลเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม ปรากฏว่ากัลยาณมิตรคนหนึ่งตอบไปสองครั้ง แต่ผิดทั้งคู่ ผู้ตอบถูกคนแรกเป็นนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
       
        คำตอบที่ถูกคือ “ไอเอ็มเอฟ” ที่ย่อมาจาก Insufficient Moral Foundation ซึ่งแปลว่า ฐานทางศีลธรรมจรรยาไม่แข็งแกร่งพอ
       
        ขอยอมรับว่านั่นเป็นการอ่านสภาพสังคมไทยของผมซึ่งคงมีผู้ไม่เห็นด้วยจำนวนมาก แต่เนื่องจากผมเป็นผู้ตั้งเงื่อนไขเรื่องการให้รางวัล ผมจึงยึดการอ่านเหตุการณ์ของผมเป็นหลัก คำตอบอยู่ที่หน้า 76 ซึ่งพูดถึงเรื่อง “ต้นแค/เสาเข็ม” การอ่านเช่นนั้นสืบเนื่องมาจากประสบการณ์ในการทำงานด้านการพัฒนาของผมทั้งในธนาคารพัฒนาเอเซียและธนาคารโลกเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ
       
        (ต่อ)


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#2 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 00:01

*
POPULAR

นักพัฒนามักยอมรับกันว่าความฉ้อฉลซึ่งตรงกับคำว่า “คอร์รัปชัน” (corruption) ในภาษาอังกฤษ  เป็นอุปสรรคหนักหนาสาหัสสำหรับการพัฒนา แต่เป็นเวลานานแสนนาน พวกเขาหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่า “คอร์รัปชัน” โดยตรง คำที่มักหยิบยกมาใช้แทนโดยทั่วไปได้แก่ good governance ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “ธรรมาภิบาล” ผมเห็นด้วยว่าความฉ้อฉลเป็นอุปสรรคหลักของการพัฒนา แต่ผมมองว่าเราต้องมองให้กว้างออกไปกว่านั้นและสรุปว่า อุปสรรคต่อการพัฒนาคือการไม่ทำตามกฎเกณฑ์ของสังคมซึ่งวางอยู่บนฐานทางด้านคุณธรรมอันได้แก่หลักของศีลธรรมจรรยา ความฉ้อฉลเป็นการไม่ทำตามกฎเกณฑ์ของสังคมชนิดหนึ่งและผู้ฉ้อฉลคือผู้ด้อยคุณธรรม หรือมีฐานทางศีลธรรมจรยยาไม่แข็งแกร่ง 
       
        ตอนนี้มีการพูดถึงกันมากในหมู่นักวิชาการเรื่อง “กับดักของประเทศรายได้ระดับกลาง” (Middle Income Trap) ว่าเพราะอะไรเมื่อพัฒนาไปได้ถึงในระดับปานกลาง ประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ จึงมักพัฒนาต่อไปไม่ได้ ข้อสรุปและคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรมีหลากหลาย แต่สิ่งที่ไม่มีใครพูดถึงได้แก่ฐานทางศีลธรรมจรรยาของประเทศเหล่านั้นว่าแข็งแกร่งขนาดไหน ผมสรุปไว้ในบท “ต้นแค/เสาเข็ม” ว่า การพัฒนาก็เหมือนการสร้างตึก ยิ่งสูงเท่าไร ตึกก็ยิ่งต้องการฐานที่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นฉันใด การพัฒนาจะก้าวหน้าต่อไปได้ก็ต้องการฐานทางศีลธรรมจรรยาที่แข็งแกร่งขั้นฉันนั้น 
       
        ผมอ้างถึงความฉ้อฉลของผู้นำและประเทศในเอเชียตะวันออกหลายประเทศว่า มีความฉ้อฉลมากบ้างน้อยบ้างและต่างก็พัฒนาไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ความฉ้อฉลของผู้นำส่วนใหญ่ไม่เจาะเข้าไปทำลายแก่นของเศรษฐกิจและสังคม  ยกเว้นในกรณีของประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ของฟิลิปปินส์เท่านั้น เจ้าหมอนั่นฉ้อฉลมากถึงขนาดเจาะเข้าไปถึงแก่นในของเศรษฐกิจโดยเฉพาะการเข้าไปผูกขาดตลาดของอุตสาหกรรมมะพร้าวซึ่งเป็นเสมือนรากเหง้าของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ (ชาวฟิลิปินส์กระจัดกระจายอยู่บนหลายพันเกาะซึ่งมีภูมิอากาศเหมาะแก่การปลูกมะพร้าว พวกเขาจึงผลิตมะพร้าวส่งออกมากที่สุดในโลกก่อนที่มาร์กอสจะเข้าไปผูกขาดตลาดมะพร้าว) ผลของความฉ้อฉลแบบทำลายแก่นในส่งผลให้เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ล้มลุกคลุกคลานและจมปลักอยู่กับที่จนมีสมญาว่า “คนง่อยแห่งเอเชีย” (Sick Man of Asia)
       
        เนื่องจากหนังสือเขียนออกมาเมื่อปี 2543 ผมจึงยังคิดว่าความฉ้อฉลของผู้นำไทยจะเป็นไปในรูปเดิม นั่นคือ ลัดเลาะกินแต่เปลือกนอกโดยไม่เข้าไปทำลายแก่นในซึ่งมีมากมายหลายอย่างรวมทั้งวินัยทางการเงินการคลังและกลไกตลาดเสรีซึ่งจะถูกทำลายด้วยการผูกขาดอย่างกว้างขวางทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่หลังพิมพ์หนังสือออกมาไม่นานและมีการเลือกตั้งปี 2544 ที่ส่งผลให้เมืองไทยได้รัฐบาลใหม่ซึ่งเริ่มใช้นโยบายประชานิยมชนิดเลวร้ายในแนวของละตินอเมริกาเป็นครั้งแรก ผมรู้ว่าผมมองผู้นำไทยผิดไปถนัด จึงรีบเขียนหนังสือออกมาอีกเล่มหนึ่งซึ่งสำนักพิมพ์ใช้เวลา 9 เดือนก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ หนังสือชื่อว่า ประชานิยม : หายนะจากอาร์เจนตินาถึงไทย? ซึ่งพิมพ์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2546 (หนังสือได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2554-2555 และพิมพ์ออกมาชื่อ ประชานิยม : ทางสู่ความหายนะ
       
        ในช่วงเวลากว่า 12 ปีจากวันที่นโยบายประชานิยมชนิดเลวร้ายถูกนำเข้ามาใช้ในเมืองไทยอย่างกว้างขวาง เป็นที่ประจักษ์ว่าศีลธรรมจรรยาของนักการเมืองไทยเสื่อมทรามลงไปแบบไม่หยุดยั้ง กลุ่มหนึ่งถึงกับฉ้อฉลจนเข้าไปทำลายแก่นในของเศรษฐกิจและสังคมไทยโดยใช้การโกหกพกลมเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระบวนการบริหารบ้านเมือง เราจึงเห็นการโกหกแบบหน้าด้านๆ ว่าตนบริหารเศรษฐกิจสำเร็จจนสามารถชำระหนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนดเวลาทั้งที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการคืนเงินที่ยืมเขามาเก็บไว้แทนทุนสำรองของชาติที่สูญไป และการใช้นโยบายที่เรียกกันโดยทั่วไปตามฝรั่งว่า “โกหกสีขาว” (White Lies)
       
        ตัวอย่างของความฉ้อฉลและความเสื่อมทรามทางศีลธรรมจรรยามีมากมาย บางอย่างอาจไม่ผิดกฎหมาย แต่มันไม่เหมาะสมและไม่สมควรทำเพราะมันละเมิดหลักศีลธรรมจรรยาพร้อมกับหลักวิชาการ สิ่งเหล่านั้นพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นปัญหาหนักหนาสาหัส ณ วันนี้ สังคมไทยมีภาระที่จะต้องแบก “ฟาง” เส้นสุดท้ายที่จะทำให้ “ควาย” หลังหัก (ปรับเปลี่ยนเลียนแบบสำนวนฝรั่งที่ว่า The straw that broke the camel’s back.) หรือกำลังเกิดเหตุการณ์ที่จะผลักให้เมืองไทยไปตกหล่มจนปลักจนเป็น “คนง่อยของเอเชีย” แทนฟิลิปปินส์ ฟางเส้นสุดท้ายได้แก่โครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด 
       
        โครงการนี้เป็นประชานิยมที่มีการโกหกพกลมเป็นฐานของการดำเนินการ มันกำลังทำลายอุตสาหกรรมข้าวซึ่งเป็นเสมือนรากเหง้าของสังคมไทยเช่นเดียวกับที่การผูกขาดตลาดมะพร้าวทำลายรากเหง้าของสังคมฟิลิปปินส์ แต่โครงการรับจำนำข้าวจะเลวร้ายยิ่งกว่าการผูกขาดตลาดมะพร้าวเพราะมันจะทำลายวินัยการเงินการคลัง ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติผู้หวังดีได้ชี้ให้เห็นอย่างต่อเนื่องถึงเรื่องความเลวร้ายของโครงการ แต่รัฐบาลไทยไม่ฟังและคนไทยส่วนใหญ่ยังดูดายไม่ออกมาต่อต้านรัฐบาลซึ่งฐานทางด้านศีลธรรมจรรยาเสื่อมทรามลงเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด
       
        เมื่อรวมพฤติกรรมของนักการเมืองและของคนไทยส่วนใหญ่เข้าด้วยกัน มันจึงมีค่าเท่ากับศีลธรรมจรรยาในสังคมไทยได้เสื่อมทรามลง ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีเหตุการณ์เลวร้ายต่อไปในวันข้างหน้าและเมืองไทยประสบปัญหายิ่งกว่าติดอยู่ในกับดักของประเทศระดับกลาง เราจะโทษใครไม่ได้นอกจากฐานทางศีลธรรมจรรยาที่ไม่แข็งแกร่งของสังคมไทย หรือ “ไอเอ็มเอฟ” แต่เป็น “ไอเอ็มเอฟ” ที่ย่อมาจาก Insufficient Moral Foundation มิใช่ International Monetary Fund


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#3 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 00:44

เห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์ ครับผม
ประเทศจะพัฒนาไม่ได้เมื่อคนในประเทศขาดคุณธรรม จริยธรรม
ไม่ทำตามกฎระเบียบ ไม่เห็นกฎหมายเป็นใหญ่ ไม่มีหลักนิติธรรม
ไม่เป็นนิติรัฐ
คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#4 หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,408 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 04:32

ชนชาติใด ไม่มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม... ชนชาตินั้นก็จะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ


จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม... -_- 


#5 ชายน้ำ

ชายน้ำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,256 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 08:13

^^^^^^

 

ข้างบนนี้คนไทยทั้งนั้นครับ



#6 kokkai

kokkai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,237 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 08:28

ชนชาติใด ไม่มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม... ชนชาตินั้นก็จะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ

 

1.002.jpg



#7 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:32

set 1350 จุด



#8 Kaizer

Kaizer

    Warlord

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,317 posts

ตอบ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:32

"...เมืองใด ไม่มี ทหารหาญ     เมืองนั้น ไม่นาน เป็นข้า

เมืองใด ไร้จอมพารา    เมืองนั้น ไม่ช้า อับจน

เมืองใด ไม่มี พาณิชย์เลิศ     เมืองนั้น ย่อมเกิด ขัดสน

เมืองใด ไร้ศิลป์ โสภณ     เมืองนั้น ไม่พ้น เสื่อมทราม

เมืองใด ไม่มี กวีแก้ว     เมืองนั้น ไม่แคล้ว คนหยาม

เมืองใด ไม่มี นารีงาม     เมืองนั้น หมดความ ภูมิใจ

เมืองใด ไม่มี ดนตรีเลิศ     เมืองนั้น ไม่เพริศ พิสมัย

เมืองใด ไร้ธรรม อำไพ     เมืองนั้น บรรลัย แน่นอน   "


สละชีพเพื่อหลักธรรมคือคำขวัญ

 

ฆ่าคนเพื่อชิงอำนาจคือวิธีการ

 

ส่วนลิ่วล้อที่ส่งไปตายก็คือตัวหมากแห่งคุณธรรม


#9 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 10:41

อยากอ่านต่อจาก 2543 จุงเบย ว่าวันนี้ คุณไสวได้เห็น
นายทักษิณอดีตนายก และน้องสาวคนโง่ บริหารประเทศไทย
ทำให้นายมาร์กอสชิดซ้ายไกล ๆ เลยเพียงที่โกงชาติบ้าน
อย่างเดียว แต่ไม่ทำเหี้หี้ยอย่างอี่นต่อบ้านเมือง ดังคำพูด
"ถ้าผมอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข"
คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#10 เกลียดคุณแม้วจังครับ

เกลียดคุณแม้วจังครับ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,190 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 13:10

อยากอ่านต่อจาก 2543 จุงเบย ว่าวันนี้ คุณไสวได้เห็น
นายทักษิณอดีตนายก และน้องสาวคนโง่ บริหารประเทศไทย
ทำให้นายมาร์กอสชิดซ้ายไกล ๆ เลยเพียงที่โกงชาติบ้าน
อย่างเดียว แต่ไม่ทำเหี้หี้ยอย่างอี่นต่อบ้านเมือง ดังคำพูด
"ถ้าผมอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข"

แต่ิกระบือแิ้ม้ว ก็ใช่ว่าจะอยูุ่เป็ินสุขนะ



#11 so what?

so what?

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,807 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 20:19

set 1350 จุด

 

 

วันนี้ต่ำกว่า 1300 แล้วจร้า  :D

 

คงต้องเข้าไปแหย่ซักจึ๊กนึงก่อน ถ้ารอ 1250 เดี๋ยวจะวืดอีก



#12 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 22:17

 

"...เมืองใด ไม่มี ทหารหาญ     เมืองนั้น ไม่นาน เป็นข้า

เมืองใด ไร้จอมพารา    เมืองนั้น ไม่ช้า อับจน

เมืองใด ไม่มี พาณิชย์เลิศ     เมืองนั้น ย่อมเกิด ขัดสน

เมืองใด ไร้ศิลป์ โสภณ     เมืองนั้น ไม่พ้น เสื่อมทราม

เมืองใด ไม่มี กวีแก้ว     เมืองนั้น ไม่แคล้ว คนหยาม

เมืองใด ไม่มี นารีงาม     เมืองนั้น หมดความ ภูมิใจ

เมืองใด ไม่มี ดนตรีเลิศ     เมืองนั้น ไม่เพริศ พิสมัย

เมืองใด ไร้ธรรม อำไพ     เมืองนั้น บรรลัย แน่นอน   "

 

 


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ





ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน