7 แนวทางยิ่งลักษณ์เสนอแต่ไม่เคยปฏิบัติ
1.การทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข มีความมั่นคงแข็งแรง
พฤติกรรม
เคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศจะสะสางกฎหมายอาญามาตรา 112
ขึ้นเฟซบุ๊คผิดรัชกาล ให้คนมาถวายพระพรจากรัชกาลที่ 9 เป็นรัชกาลที่ 8 โดยปล่อยทิ้งไว้ถึง 9 ชั่วโมงจึงลบออก
4 ธ.ค.54 สั่งระงับการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม เรื่องวัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช และการฉายภาพพาโนรามาที่กำแพงพระบรมมหาราชวังอ้างเปลืองงบประมาณขอเอาไปใช้แก้ปัญหาน้ำท่วม
ห้ามทุกจังหวัดจุดพลุเฉลิมฉลองวันพ่อ 5 ธันวาคม ปี 2555
ไม่จัดการกับเว็บหมิ่นสถาบัน มุ่งควบคุมเว็บที่วิจารณ์รัฐบาล
เชื่อมโยงกลุ่มที่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันสูงสุด
กำลังจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนที่หมิ่นสถาบัน
2. ต้องมีความเท่าเทียม เสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ตามสิทธิที่แต่ละกลุ่มควรได้รับ
พฤติกรรม
คนเสื้อแดงเคลื่อนไหวเสรีแต่กลุ่มอื่นห้ามเคลื่อนไหว
คนเสื้อแดงปิดถนนไม่ติดคุก ชาวบ้านเดือดร้อนปิดถนนติดคุก ตำรวจกระทืบซ้ำ
นำเงินภาษีประชาชนไปปูนบำเน็จให้คนเสื้อแดงศพละ 7.75 ล้านบาท รวมใช้งบกว่า 2 พันล้านบาท
ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 20 % ทำรัฐขาดรายได้ 1.5 แสนล้าน คนรวยรวยขึ้น เพิ่มความเหลื่อมล้ำในสังคม
ขึ้นราคาพลังงานทุกชนิดซ้ำเติมคนจน ค่าใช้จ่ายพุ่ง รายได้หด
หนุนนโยบายสร้างหนี้ทำประชาชนอ่อนแอหนี้พุ่งเกือบ 80%ของจีดีพี
ไม่เดินหน้าฉโนดชุมชน ธนาคารที่ดิน กองทุนการออมแห่งชาติ
3.มีกลไกการทำงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี
พฤติกรรม
ปล่อยให้นักโทษหนีคดีบงการรัฐบาล ปั่นป่วนประเทศชาติ
ไป ว.5 โฟร์ซีซั่นกับเศรษฐา แสนสิริ เจ้าของแสนสิริ ขณะที่กำลังจะมีการพิจารณาพื้นที่ทำฟลัดเวย์
มีข้อครหาผลประโยชน์ทับซ้อนด้านอสังหาริมทรัพย์ ในโครงการเมกะโปรเจกต์
ไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจการแผ่นดินที่ชี้ว่าตั้ง รมต.ไม่คำนึงถึงจริยธรรม , คืนพาสปอร์ตให้นักโทษหนีคดีผิดระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ
ไม่ปฏิบัติตามข้อเสนของ ป.ป.ช.ให้เลิกนโยบายจำนำข้าวที่จะทำให้ชาติเสียหายจากการทุจริต
ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบการทุจริตเรื่องจำนำข้าวต่อ ป.ป.ช.
ปกปิดข้อมูลจีทูจี จำนวนข้าวในสต๊อค การใช้เงิน การจำหน่าย และภาวะการขาดทุน
สั่งสอบสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธาน คกก.ปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่ให้ข้อมูลต่อ กมธ.วุฒิสภาว่า จำนำข้าวเสี่ยงทุจริตทุกขั้นตอน
ออกนโยบายทำลายชาติ จำนำข้าวโครงการเดียวเสียหายแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท กระทบสถานะการคลังประเทศ
ใช้ระเบียบพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้าง ประมูลงานโครงการบริหารจัดการน้ำจากเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ไม่สนคำเตือน ป.ป.ช.เสี่ยงทุจริต เปิดช่องฮั้ว ชาติเสียหาย
ส่อเจตนาหลีกเลี่ยงคำสั่งศาลปกครองที่ให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ก่อนที่จะดำเนินโครงการน้ำ
เตรียมออกกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้าน ทั้งที่โครงการขาดความพร้อม สร้างหนี้ 50 ปีให้ประชาชนได้ผลไม่คุ้มค่า หลีกเลี่ยงการตรวจสอบตามระบบงบประมาณปกติ
ซุกหนี้ไว้ตามธนาคารของรัฐจากการทำโครงการประชานิยม
ไม่จัดการรัฐมนตรีที่ถูกครหาว่าทุจริต
โยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากเลขาสมช.ไม่เป็นธรรม เปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น ผบ.ตร.ส่ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ไปนั่งแทน ศาลปกครองมีคำสั่งคืนตำแหน่งให้ถวิล แต่ยังไม่ยอมปฏิบัติยื้อเวลายื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
ไม่ยอมรับการตรวจสอบขององค์กรอิสระ ตั้งองค์กรภาครัฐขึ้นมาทับซ้อนให้การตรวจสอบอยู่ในอำนาจนายกรัฐมนตรี
เตรียมแก้รัฐธรรมนูญยุบองค์กรอิสระ ลิดรอนอำนาจตุลาการ รวบอำนาจไว้ที่ฝ่ายบริหาร
ปฏิเสธทุกเรื่องที่มีข้อครหาว่าทุจริตแต่ไม่เคยมีเหตุผลหรือหลักฐานมาหักล้างข้อครหา
4.สร้างกระบวนการให้เกิดความยุติธรรม ความเสมอภาคเท่าเทียมในสิทธิขั้นพื้นฐานที่แต่กลุ่มในสังคมควรได้รับ ตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม
พฤติกรรม
ยกนักโทษหนีคดีอยู่เหนือกฎหมาย รัฐธรรมนูญ ให้เป็นผู้บงการเบื้องหลัง
ใช้ดีเอสไอเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ยัดเยียดข้อหาอภิสิทธิ์-สุเทพ ส.ส.ปชป.
ใช้ดีเอสไอช่วยเป่าคดีให้จตุพร พรหมพันธุ์ คดี “กระสุนพระราชทาน”
อัยการส่งไม่ส่งฟ้องคดีจักรภพ เพ็ญแข หมิ่นสถาบัน
ช่วยเหลือแกนนำเสื้อแดงคดีก่อกการร้ายให้ได้เป็น ส.ส.มีเอกสิทธิคุ้มครอง
เตรียมออกกฎหมายนิรโทษกรรมทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ล้มคำพิพากษาศาล
ควบคุมกระบวนการยุติธรรมตั้งต้นทั้งตำรวจและอัยการ ทำให้คดีที่ฝ่ายตัวเองผิดไม่ถึงการพิจารณาของศาล
เตรียมฉีกรัฐธรรมนูญ กินรวบประเทศควบคุมอำนาจทุกฝ่าย ทำลายการตรวจสอบ
5.มีประชาธิปไตยที่ผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ยึดเสียงส่วนใหญ่ รับฟังเสียงส่วนน้อย
พฤติกรรม
ใช้อำนาจประธานสภาและเสียงข้างมากปิดปากเสียงข้างน้อยในสภา
ใช้ตำรวจควบคุมฝูงชนข่มขู่ ส.ส.ฝ่ายค้านที่กำลังต่อสู้ในสภากรณีถูกตัดสิทธิอภิปรายแก้ รธน.ประเด็นที่มาส.ว.
แทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน
ไม่รับฟังผู้ที่เห็นต่างจากรัฐบาล
ส่งเสื้อแดงคุกคามองค์กรอิสระ เวทีผาความจริง หน้ากากขาว และเวทีที่สวนลุมพินี
ปราบปรามผู้ต่อต้านรัฐบาลไม่เป็นไปตามหลักสากล ทำร้ายผู้สื่อข่าว ใช้แก๊สน้ำตาหมดอายุสลายการชุมนุม
ไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอของ คอป. กรรมการิทธิมนุษยชน ส่งลิ่วล้อทำลายความน่าเชื่อถือ
ไม่รับฟังข้อท้วงติงของภาคส่วนต่าง ๆเกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าว เช่น ทีดีอาร์ไอ กล่าวหาเป็นนักวิชาการอำมาตย์
เรียกเอ็นจีโอที่คัดค้านโครงการบริหารจัดการน้ำว่า ขยะ
เดินหน้าสภาปฏิรูปการเมืองที่มีแต่พวกเดียวกัน โดยไม่มีผู้เห็นต่างเข้าร่วม
6.สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และบรรยากาศที่ดีของการไว้วางใจกัน
พฤติกรรม
มีวาระซ่อนเร้นออก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
มีวาระซ่อนเร้นเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมกฎหมายคาสภาอยู่ 7 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการ 1 ฉบับคือของนายวรชัย เหมะ
มีวาระซ่อนเร้นในการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจ ทำลายการตรวจสอบ กินรวบประเทศ
มีพฤติกรรมช่วยเหลือนักโทษหนีคดีพี่ชายนายกรัฐมนตรีโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐ นิติธรรม
ใช้อำนาจเพื่อตัวและพวกพ้อง กลั่นแกล้งฝ่ายตรงกันข้าม
นายกไม่เคยใช้สภาเป็นเวทีแก้ปัญหานอกจากใช้เป็นแค่ข้ออ้าง
กำหนดธงให้คนอื่นต้องเดินตามทั้ง แก้รัฐธรรมนูญ และนิรโทษกรรม
7.ยึดผลประโยชน์ส่วนรวมบนความถูกต้อง นอกจากนี้ยังให้ยึดแนวทางการปฏิบัติโดยให้รวบรวมผลงานการศึกษา จากทุกหน่วยงานที่มีการเสนอมา
พฤติกรรม
ฉีกรายงาน คอป.ทิ้งเมื่อผลสรุปไม่ตรงกับความต้องการ ทั้งที่เคยแถลงนโยบายว่าจะเดินหน้าตามแนวทางของ คอป.
ไม่ยอมรับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์10 เม.ย.53 ของ อนุกมธ.วุฒิสภา
ไม่ยอมรับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุชุมนุมปี 53 ของกรรมการสิทธิมนุษยชน
ไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศที่ อานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน
ไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามข้อเสนอของประธานสมัชชาคณะปฏิรูปประเทศ
ไม่ปฏิบัติตามแนวทางสานเสวนาที่แท้จริงตามข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า
ไม่ปฏิบัติตามคำเตือนของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับการแก้ รธน.และการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
ไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ให้นิรโทษกรรมเฉพาะคนที่ทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ไม่สนใจร่างกฎหมายของญาติคนเสื้อแดงที่ตายในเหตุชุมนุม สนับสนุนร่างของ วรชัย แทน
เรื่องสัตย์จริง เรื่องดีงามย่อมไม่ออกจากปากคนเลว
/////////////////////