Jump to content


Photo
- - - - -

ปฏิรูปประเทศ ด้วย "ใบขับขี่ทางการเมือง"


  • Please log in to reply
71 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 15:14

คุณ CockRoachKiller

"รัฐประหาร" คือ ระบบดีดพลขับออกไปนั่งรถคันอื่นครับ

เด็กโรงเรียนหนึ่งขโมยเงินของนักเรียนทั้งโรงเรียน ถ้าตักเตือนแล้วยังทำอีก ก็สมควรถูก ไล่ออก ไม่ต่างกันครับ อย่าจินตนาการตามที่สื่อเสื้อแดงเสี้ยมเอาๆนะครับ

** ทำไมไม่ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก? คนที่หลงเข้ามาอ่านอาจจะไม่เก่งภาษาอื่นอย่างท่าน ** :o



#52 CockRoachKiller

CockRoachKiller

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 442 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 15:55

คุณ CockRoachKiller

"รัฐประหาร" คือ ระบบดีดพลขับออกไปนั่งรถคันอื่นครับ

เด็กโรงเรียนหนึ่งขโมยเงินของนักเรียนทั้งโรงเรียน ถ้าตักเตือนแล้วยังทำอีก ก็สมควรถูก ไล่ออก ไม่ต่างกันครับ อย่าจินตนาการตามที่สื่อเสื้อแดงเสี้ยมเอาๆนะครับ

** ทำไมไม่ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก? คนที่หลงเข้ามาอ่านอาจจะไม่เก่งภาษาอื่นอย่างท่าน ** :o

 

First, you indicate no sign of trouble with my writing, that is good enough for me. Second, most members on this board did enjoy mocking at Yingluck's English. So, I assume they all intellect enough. No need to worry.

Let me ask my legitimate question again. How you propose to install the "screening system" in our constitution democratically?
Suppose Thaksin stolen money from people, why don't we let people kick him out? Do you believe in people's power or scholar's dictation with military help?

 

Suppose your elegant "Screening System" exist and we have so called "Decent Man" elected from the majority of people. One day, Red Short starts a propaganda a about his corruption, again people don't believe that lies. Do you think military from Red Shirt gangs have a right to kick your "Decent Man" out base on the un proof accusation?

 

For me, no exception, military coup is simply wrong.


Please know your place by do not comment my post that you can not comprehend.

#53 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 17:54

คุณ CockRoachKiller

การเขียนแต่ภาษาอังกฤษของท่าน แสดงให้เห็นว่า ท่านไม่มีเจตนาที่จะ "ปฏิรูปการเมืองไทย" อย่างจริงจัง
เพราะท่านไม่สนใจว่า คนไทยคนอื่นๆจะอ่านคำถามของท่านรู้เรื่องหรือไม่? ขอแค่คนในบอร์ดเข้าใจก็พอ

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อท่านถามมา ผมก็จะตอบคำถามให้ว่า

"เราจะบรรจุแนวคิดนี้เข้าไปในรัฐธรรมนูญแห่งประชาธิปไตยอย่างไร?"
1. นำเสนอสู่สาธารณะในหลายๆกลุ่ม หลายๆองค์กร
2. ทำสื่ออธิบายแนวคิด เช่น วิดีโอ แล้วไปเสนออีกครั้ง
3. กลับไปทำข้อ 1 ใหม่ จนกว่างบประมาณส่วนตัว และเวลาเพื่อส่วนรวมจะหมดลง

"ทำไมชาวบ้านถึงยังต้องการทักษิณ? คุณเชื่อในพลังของประชาชน หรือนักวิชาการที่เขียนตามคำสั่งของทหาร?"
แนวคิดของคุณ คือ แนวคิดของคนเสื้อแดง 100% ที่บอกว่า ให้เราเชื่อตาม "จำนวน" ไม่ว่าผลลัพทธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร
นั่นก็หมายถึง
- หากมีโจรเข้ามา 5 คนต้องการข่มขืนลูกสาวของคุณ คุณก็ต้องยอมรับเสียงข้างมาก เพราะในบ้านคุณมีคนอยู่แค่ 3 คน
- หากหมู่บ้านของคุณมีคนอยู่ 10 คน เมื่อมีนักธุรกิจจะขอหว่านซื้อที่ดินทำโรงงาน แล้วคนในหมู่บ้านคุณตกลง 8 คน คุณก็ต้องยอมรับ และอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิม ที่เต็มไปด้วยมลพิษ โดยไม่ต้องเรียกร้องอะไร เพราะนี่คือประชาธิปไตยแบบคณิตศาสตร์

การจะทำให้ชาวบ้านไม่เอาทักษิณ นอกจากให้ความรู้แล้ว ยังต้องเพิ่มกฏกติกาใหม่ๆที่เรียกว่า "ปฏิรูป"
เพื่อให้ผลเลือกตั้งไม่ได้นับจาก "จำนวนเป็นหลัก" อีกต่อไป ถ้าไม่เข้าใจให้กลับไปคิดถึง 2 ตัวอย่างข้างต้น


"ถ้าวันหนึ่งมีทหารเสื้อแดง ทำการรัฐประหารนายกในระบบที่ขาวสะอาด"
ถ้า มีวันนั้นจริง ประเทศนี้ก็เป็นประเทศที่ล้มเหลว สังคมเต็มไปด้วยข่าวลือ ผู้นำกองทัพรับใช้นักการเมือง ถ้าคนเป็นสิบๆล้านคนนิ่งเฉยกับวิกฤตการณ์ ไม่มีใครลุกขึ้นออกมาเจ็บ มาตายแทนคนอื่น วันนั้นจะเป็นวันที่ "ธรรมะ ไม่ชนะ อธรรม"

ถ้าท่านคิดว่า "โลกนี้ ไม่สามารถสู้กับอธรรมได้" ท่านก็จะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมนำเสนอ


"อย่างไรเสีย สำหรับฉันแล้ว การรัฐประหารก็เป็นสิ่งผิด"
เพราะท่าน ยอมให้ลูกของท่านโดนข่มขืน ต่อหน้าต่อตา


Edited by จิตบำบัด, 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:10.


#54 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 07:13

การเชื่อและอ้างอิงตามจำนวน
มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนหมู่มาก อยู่ด้วยกันได้ไงครับ
มาจนถึงวันนี้ หากไม่คิดฟังเสียงคนหมู่มาก
แล้วเราจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไร

ปัญหาของคุณคือ การไม่เชื่อใจการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่
ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้น แต่ตามระบอบการปกครอง
มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องนำมาอ้างอิง

เพียงแต่เราจะไม่สามารถจำกัดสิทธิ์ของคนกลุ่มอื่น
ด้วยการชี้หน้าว่าเขาโง่กว่าเรา
ระวังเจอเขาท้าแข่งปลูกข้าวนะครับ

แต่การตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่
มีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ
บางกรณีก็ไม่ได้ถูกเสมอไป
การจะยกตัวอย่างโจรจำนวนมากกว่า
เพื่อความชอบธรรมในการปล้นจึงเป็นเรื่องผิด
เพราะเรามีกฏหมายไงครับ
กฏหมายช่วยควบคุมความเลวร้ายของการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่ได้อีกชั้น
ปัญาหาคือผู้ละเมิดกฏหมายและผู้ควบคุม บังคับใช้กฏหมานต่างหาก

อ่านให้ดีนะครับ

ผมไม่แน่ใจ ว่ารัฐธรรมนูญไทย เป็นอันที่มีจำนวนเยอะที่สุดหรือไม่
แต่ทุกกฏ ย่อมมีช่องให้ละเมิด
ปัญหา มีตามหลังทุกรัฐธรรมนูญ
จึงเกิดการแก้รัฐธรรมนูญได้บ่อย เมื่อพบช่องโหว่

หากนับจำนวน น่าจะเชื่อได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับหลังๆ
น่าจะสมบูรณ์ที่สุด เพราะผ่านการแก้มามากเหลือเกิน

แต่ความจริงไม่ใช่

แล้ววิธีการของคุณล่ะ
ผมถามในโอกาสที่เป็นไปได้แล้วกัน
ความแหลมคมที่คุณบอกว่า พันธมิตรไม่กี่ชีวิตกลั่นกรองมาหลายปี
คุณว่า มันจะลดช่องโหว่นี้ได้ล่ะหรือ
จะอุดรูรั่วได้หมดทุกรูมั้ย

ตกลง ปัญหา อยู่ที่อะไรกันแน่ครับ

ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#55 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 10:42

การจะยกตัวอย่างโจรจำนวนมากกว่า
เพื่อความชอบธรรมในการปล้นจึงเป็นเรื่องผิด
เพราะเรามีกฏหมายไงครับ

 

การยกตัวอย่างโจรที่มีมากกว่า หมายถึง ถ้าในสังคมเรา มีแต่คนที่เห็นแก่ได้ มีแต่คนที่เลือกนักการเมืองที่แจกเงิน เราก็จะอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยคนที่พูดว่า "เพราะฉันเป็นคนส่วนใหญ่"

 

การยกตัวอย่างโจร จึงเป็นการนำเสนอให้เห็น ประชาธิปไตยที่เชิดชูกันที่ "จำนวน"

หรือที่มีคนเรียกว่า "ประชาธิปไตยแบบคณิตศาสตร์"

หรือ "เผด็จการรัฐสภา"

 

ไม่ต่างกัน

 

เราจึงชี้ให้เห็นว่า การตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดจากการ "นับนิ้ว" ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใหญ่ระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางจริยธรรมได้

 

โจรที่มีมากกว่าแล้วอ้างความชอบธรรมในการปล้น กับ

นักการเมืองที่มีมากกว่าแล้วอ้างความชอบธรรมในการบริหารแผ่นดิน แต่จริงๆคือกำลังปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน คือ ความหมายเดียวกัน


Edited by จิตบำบัด, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 10:56.


#56 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 10:57

 

การจะยกตัวอย่างโจรจำนวนมากกว่า
เพื่อความชอบธรรมในการปล้นจึงเป็นเรื่องผิด
เพราะเรามีกฏหมายไงครับ

 

การยกตัวอย่างโจรที่มีมากกว่า หมายถึง ถ้าในสังคมเรา มีแต่คนที่เห็นแก่ได้ มีแต่คนที่เลือกนักการเมืองที่แจกเงิน เราก็จะอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยคนที่พูดว่า "เพราะฉันเป็นคนส่วนใหญ่"

 

การยกตัวอย่างโจร จึงเป็นการนำเสนอให้เห็น ประชาธิปไตยที่เชิดชูกันที่ "จำนวน"

หรือที่มีคนเรียกว่า "ประชาธิปไตยแบบคณิตศาสตร์"

หรือ "เผด็จการรัฐสภา"

 

ไม่ต่างกัน เราจึงชี้ให้เห็นว่า การตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดจากการ "นับนิ้ว" ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใหญ่ระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางจริยธรรมได้

 

 

 

ผมพูดถึงการกระทำใดๆ ของโจรหมู่มาก

ซึ่งสามารถใช้กฏหมายจัดการได้ เพราะคุณยกตัวอย่างเป็น “โจร” ไงครับ

 

“โจร” กับ “ประชาชนผู้เห็นต่างกับคุณ” มันต่างกันนะครับ

เมื่อโจรทำผิด มันมีกฏหมายรับรองแน่นอน ดังนั้น ไม่ว่าโจรจะอาศัยคนหมู่มากอย่างไร

กฏหมายก็ย่อมเล่นงานได้

 

หากแต่ “ประชาชนผู้เห็นต่างกับคุณ” เป็นผู้มีสิทธิ์มีเสียงเท่ากันกับคุณ

เขาจึงสามารถเห็นต่าง ในน้ำหนักเสียงที่ไม่น้อยไปกว่าคุณ

คุณจะใช้อภิสิทธิ์อะไร ไปกีดกันเขาออกจากสิทธิ์ที่เขาพึงมีล่ะครับ

 

นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ผมตั้งคำถามกับคุณ

ว่าเมื่อเสียงส่วนใหญ่ เห็นต่างจากคุณ (98 : 2)

คุณจะใช้วิธีอะไร ให้แนวทางและวิธีที่คุณพยายามนำเสนออยู่นั้น สามารถใช้และได้รับการยอมรับ

ให้ใครทำครับ เอาทหารมาเอาปืนขู่ หรือพยายามแสดงปัญญาที่เหนือกว่ามาข่ม

อย่าลืมว่า คนทั้งประเทศ มิได้เป็นทาสของใคร ที่จำต้องทำตามคำสั่งที่ไม่มีกฏหมายบังคับนะครับ

 

ที่ผมพูด ไม่ใช่ผมจะชอบ

เพราะผมรู้ว่าที่มาของเสียงที่คุณปฏิเสธนั้น ผมเองก็อยากจะปฏิเสธมันเหมือนกัน

แต่มันทำไม่ได้ไงครับ แม้แต่คุณคิดจะเอาปืนทหารมาจ่อหัว

วันนี้ เวลานี้ ก็คงจะทำไม่ได้เช่นกัน (น่าจะเห็นตัวอย่างมาแล้วนะครับ)

 

 

ลองคิดลองฟังคำถามผมให้ดีๆ

ผมแค่ถามคุณว่า คุณจะเอาวิธีของคุณมาทำจริงได้อย่างไร

 

ถ้าคุณมีวิธีการที่ดีพอ ผมจะหันมาเชียร์คุณก็ได้ จะนำไปเผยแพร่ให้ด้วยก็ได้

ผมถีบหัวส่งพรรค ปชป ก็ได้ครับ


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#57 CockRoachKiller

CockRoachKiller

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 442 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 10:59

คุณ CockRoachKiller

การเขียนแต่ภาษาอังกฤษของท่าน แสดงให้เห็นว่า ท่านไม่มีเจตนาที่จะ "ปฏิรูปการเมืองไทย" อย่างจริงจัง
เพราะท่านไม่สนใจว่า คนไทยคนอื่นๆจะอ่านคำถามของท่านรู้เรื่องหรือไม่? ขอแค่คนในบอร์ดเข้าใจก็พอ
 

 

I am very disappointed. I expect a much more academic argument from you.

 

Why you have such a trouble with my writing language? Since when language involve in political reform.  Do you think anyone who did laugh at Yingluck has even inferior English skill?  Listen carefully, what if I deliberately use English to refine audience. (I hope you understand "what if" means)  Anyone who cannot appreciate my simple broken English have no right to participate in our deliberation. This should keep illiterate people away. Do you notice the resemblance between mine and yours "Screening System"?

 

Ironically, if my English comments illustrate no intention in political reform, I don't think your "Screening system" will either   Because it's indistinguishable, my friend.

 

Anyway, thank you for translate my question and answer them.

 

"เราจะบรรจุแนวคิดนี้เข้าไปในรัฐธรรมนูญแห่งประชาธิปไตยอย่างไร?"

1. นำเสนอสู่สาธารณะในหลายๆกลุ่ม หลายๆองค์กร
2. ทำสื่ออธิบายแนวคิด เช่น วิดีโอ แล้วไปเสนออีกครั้ง
3. กลับไปทำข้อ 1 ใหม่ จนกว่างบประมาณส่วนตัว และเวลาเพื่อส่วนรวมจะหมดลง

 

 

Honestly, you still did not answer my question. How you propose to install the "screening system" in our constitution democratically? Your answer is a minor detail of a political campaign to get peoples' attention.  Do you really think people will advocate "Screening System" while even yourself explicitly oppose my "What if English Screening".

 

 

- หากมีโจรเข้ามา 5 คนต้องการข่มขืนลูกสาวของคุณ คุณก็ต้องยอมรับเสียงข้างมาก เพราะในบ้านคุณมีคนอยู่แค่ 3 คน
- หากหมู่บ้านของคุณมีคนอยู่ 10 คน เมื่อมีนักธุรกิจจะขอหว่านซื้อที่ดินทำโรงงาน แล้วคนในหมู่บ้านคุณตกลง 8 คน คุณก็ต้องยอมรับ และอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิม ที่เต็มไปด้วยมลพิษ โดยไม่ต้องเรียกร้องอะไร เพราะนี่คือประชาธิปไตยแบบคณิตศาสตร์

การจะทำให้ชาวบ้านไม่เอาทักษิณ นอกจากให้ความรู้แล้ว ยังต้องเพิ่มกฏกติกาใหม่ๆที่เรียกว่า "ปฏิรูป"
เพื่อให้ผลเลือกตั้งไม่ได้นับจาก "จำนวนเป็นหลัก" อีกต่อไป ถ้าไม่เข้าใจให้กลับไปคิดถึง 2 ตัวอย่างข้างต้น

 

Another very disappointing absurd argument from yellow shirt propaganda. Those pathetic disputes demonstrate an obscure hypothetical situation to falsify the democracy. I faithfully agree with your argument if and only if we only have 1 house or 1 village in this fantastic world. Then, in both situations, we have no choice. Same as if the majority of people in this country grant amnesty to Thaksin.  We should silently accept people's voice. I don't think anyone who cannot see the difference between my objection and your example will accomplish anything in any political debate.

 

 

"ถ้าวันหนึ่งมีทหารเสื้อแดง ทำการรัฐประหารนายกในระบบที่ขาวสะอาด"
ถ้า มีวันนั้นจริง ประเทศนี้ก็เป็นประเทศที่ล้มเหลว สังคมเต็มไปด้วยข่าวลือ ผู้นำกองทัพรับใช้นักการเมือง ถ้าคนเป็นสิบๆล้านคนนิ่งเฉยกับวิกฤตการณ์ ไม่มีใครลุกขึ้นออกมาเจ็บ มาตายแทนคนอื่น วันนั้นจะเป็นวันที่ "ธรรมะ ไม่ชนะ อธรรม"

ถ้าท่านคิดว่า "โลกนี้ ไม่สามารถสู้กับอธรรมได้" ท่านก็จะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมนำเสนอ

 

 

Again, you did not answer my question. "Do you think military from Red Shirt gangs have a right to kick your "Decent Man" out base on the un proof accusation?" You just dodge being called "Double standard" by giving another exaggerated assumption. Because in case of Thanks in, you show the righteousness of a military coup.  Lacking of understanding in the democracy, make you never believe in people.

 

At the end, what you seek is yellow shirt version of "Decent Man" and "Decent System". 

How you will ever pursuade any other people if you don't respect their decision but depend on the phantom "Decent Man".


Edited by CockRoachKiller, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:04.

Please know your place by do not comment my post that you can not comprehend.

#58 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:02

>>> ในความเห็นของผม  นิดเดียว  มีคนไม่กี่คน

 

ที่ ยึด...อัตตาคติ...แรงกล้า. ผมก็มี ตัวอย่างให้-

 

คิดกันดู ... สงครามโลก ครั้งที่ ๒  จีน แหลกเพราะ

 

กองทัพ ญี่ปุ่น..  เจียงไคเช็ค..ไม่สามารถทำไรได้

 

เหมาเจ๋อตุง...เดินทัพทางไกล.     ( ถาม ๒ กลุ่มนี่-

 

เหมาฯ-เจียงฯ..การเมืองคนละขั้ว ใช่ไหม ? ) ตอบ ใช่

 

ทำไม.? เขาจึง ร่วมมือกัน ขับไล่ ญี่ปุ่น ออกจาก ประเทศ

 

ได้...( เขาทำเพื่อ บ้านเมืองเขาก่อน ใช่หรือเปล่า )????



#59 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:35

คุณ tonythebest

โจรที่มีมากกว่าแล้วอ้างความชอบธรรมในการปล้น กับ
นักการเมืองที่มีมากกว่าแล้วอ้างความชอบธรรมในการบริหารแผ่นดิน

แต่จริงๆคือกำลังปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน คือ ความหมายเดียวกัน

การจะให้ผู้คนยอมรับในกฎกติกาใหม่ๆ ต้องสร้าง "สื่อ" ที่ทำให้คนคล้อยตาม
ว่าเหตุผลที่เราต้องมีกฏกติกาใหม่ๆ ก็เพื่อที่จะกำจัดนักการเมืองที่ขี้ฉ้อ คอรัปชั่น
ที่หลอกลวงชาวบ้านตาดำๆ ให้ออกไปจากระบบของเราให้ได้

 

"ระบบกรองผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง" สามารถคิดให้ "ซับซ้อนขึ้น" เพื่อได้แนวคิดใหม่ๆอีก เช่น

A ) ใช้วิธีสอบ (แนวคิดเดิมของกระทู้นี้) เพื่อให้รู้ว่า ใครเข้าใจก็เลือกตั้งได้ แต่ถ้ายังไม่เข้าใจก็ไปศึกษามาให้เข้าใจเสียก่อน แบบ "ใบขับขี่" วิธีนี้คือ 1 กับ 0

B ) ใช้วิธี "คนไทยทุกคนมี 1 คะแนน" ถ้าหากมีการสอบขึ้นมาจริงๆแล้ว เราอาจไม่ใช้วิธี 1 กับ 0 เราจะเริ่มนับจาก 1 คนไทยทุกคนมี 1 คะแนน วิธีนี้จะไม่ถูกคนที่สอบไม่ผ่านเข้าใจว่า "ฉันไม่มีสิทธิ์" แต่ทำให้ตาสีตาสา ชาวบ้านที่เข้าใจการเมืองแบบเลือนๆลางๆมีคนละ 1 คะแนนก่อน ถ้าคนที่ไปเลือกตั้งเต็มไปด้วยประชาชนที่มองเห็นปัญหาบ้านเมือง ทำข้อสอบได้คะแนนคนละ 1 บ้าง 2 บ้าง 5 บ้าง 10 บ้าง ผลการเลือกตั้งก็จะออกมาเป็น

คนไทยทุกคน x ผลคะแนนวัดความรู้ความเข้าใจ = ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ

 

 

** อย่าเพิ่งโจมตี นี่แค่ไอเดียเริ่มต้น ^_^ และข้อ B ) ก็อาจจะเอาไปตั้งเป็นกระทู้ใหม่ (แนวคิดใหม่)


Edited by จิตบำบัด, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:47.


#60 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:42

คุณ CockRoachKiller

ผมขออภัยที่กล่าวหาว่าคุณไม่มีเจตนาที่จะปฏิรูปการเมืองไทย

ถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่า คุณเป็นคนไทยหรือปล่าว? คุณอ่านที่ผมนำเสนอรู้เรื่อง แต่ทำไมไม่ใช้ภาษาไทยในการถกประเด็น?

ผมจึงขออนุญาต ไม่ตอบคำถามที่ใช้ภาษาอื่น (เพราะใช้เวลาตีความค่อนข้างนาน)
 



#61 CockRoachKiller

CockRoachKiller

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 442 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:06

Never mind then.  I hope you understand what it's like to be filtered.


Please know your place by do not comment my post that you can not comprehend.

#62 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:14

ประเทศนี้ต้องเจอหายนะทางสังคมครั้งใหญ่ซักครั้ง ไม่งั้นประชาชนทุกคนไม่เห้นคุณค่าของประเทศนี้หรอก

 

ปชป จะค้านสุดกู่ก้เรื่องของเขามันเป้นงานของเขา

เพื่อไทย จะกินสุดตัวก้เรื่องของเขามันเป้นสันดาuของเขา

ประชาชน จะมองดูมันพังบอกว่าใกลตัวก้เรื่องของมัน

 

สุดท้ายเมื่อมันพัง ไอ้พวกประชาชนนี่แหละที่ต้องรับผิืดชอบด้วยกันทุกคน

 

เจ็บๆกันไปไม่ต้องมาแยกสี พราะเอ็งเจ็บทุกคน ถึงตอนนั้นความเจ็บมันจะสอนให้เราไม่กลับมาเป้นแบบเดิมอีก


Posted Image

#63 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:31

การจะให้ผู้คนยอมรับในกฎกติกาใหม่ๆ ต้องสร้าง "สื่อ" ที่ทำให้คนคล้อยตาม

ว่าเหตุผลที่เราต้องมีกฏกติกาใหม่ๆ ก็เพื่อที่จะกำจัดนักการเมืองที่ขี้ฉ้อ คอรัปชั่น
ที่หลอกลวงชาวบ้านตาดำๆ ให้ออกไปจากระบบของเราให้ได้

 

 

 

สังเกตุอะไรอย่างนึงมั๊ยครับ

จำไม่ได้แล้ว ว่าพันธมิตรสายสนธิ นำเสนอรูปแบบการเมืองใหม่มานานแค่ไหน

แต่ก็นานไม่น้อย

ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเวปแมเนเจอร์ ซึ่งมีคนผ่านตาวันละเป็นจำนวนมาก

 

แต่ยิ่งออกสื่อ ยิ่งกระจายแนวคิดนี้ออกไป

ทำไม คนเห็นด้วยกลับยิ่งน้อยลงๆ ไปเรื่อยๆ ล่ะครับ

 

ผมมองว่า เวลานี้ แม้จะเพียงรักษาระดับเดิมต่อไปก็ยังยากเย็นเลยครับ

นับประสาอะไรจะสื่อออกไปให้คนเชื่อตามได้มากขึ้น

 

 

 

 

 

สิ่งที่ผมเห็น และคิดว่า น่าจะเป็นการผิดพลาดอย่างนึงของเรื่องนี้

คือสื่อใดๆ ของพันธมิตร ชี้ปัญหา พูดถึงปัญหาให้เห็น

แต่กลับข้ามไปถึงตอนที่ความสำเร็จเลย

ระหว่างนั้นล่ะ วิธีการล่ะ จะทำอย่างไรให้สำเร็จ ไม่มีใครพูดถึง

 

ไม่แปลกใจเลยหรือครับ

ปัญหาที่ชี้ๆ กันอยู่ ผมเชื่อว่า คนโดยทั่วไปก้เห็นนะครับ

เพียงแต่เมื่อไม่เสนอวิธีการ กลับรวบรัดไปที่ตอนสำเร็จลงแล้ว

ก็ไม่มีน้ำหนักเพียงพอจะให้คนเชื่อถือได้ไงครับ

ซึ่งต่างจากพวกคุณ ที่ให้เครดิตกับตัวผู้พูด ผู้ชี้อยู่ก่อนแล้ว

จึงมั่นใจว่าจะเห็นทางสำเร็จ

 

แล้วผมล่ะ แล้วคนอื่นๆ ล่ะ

ลองคิดดูนะครับ 

 

 

 

การที่สนธิ บอกให้ ปชป ลาออก เพื่อนำประชาชนเดินหน้าปฏิรูปการเมือง

แสดงว่า สนธิกลับมาไว้เนื้อเชื่อใจ ปชป แล้วหรือไม่

 

ผมลองตั้งสมมุติฐานเล่นๆ ให้คุณนำไปคิดดู ว่าอะไรมีโอกาสเป็นจริงได้ง่ายกว่ากันนะครับ

 

สมมุติว่า แทนที่สนธิจะทำอย่างที่แล้วมา

แต่กลับเลือกที่จะกลับลำ หันมาสนับสนุน ปชป เต็มตัว

เพื่อเชียร์ให้ ปชป มีเสียงสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น หรือเพิ่มโอกาสชนะให้ ปชป

เมื่อถึงเวลาที่สามารถชนะเพื่อไทยได้จริงๆ จากพันธมิตรทุกคนหันมาเชียร์

รวมถึงจำนวนผู้สนับสนุนเพื่อไทยลดน้อยลง จากการบริหารบ้านเมืองยุครัฐบาลนี้แบบห่วยๆ

จน ปชป อาจสามารถชนะเสียงได้

ถึงตอนนั้น ค่อยรำเลิกถึงการปฏิรูป

 

หรือทำวิธีที่ทำอยู่นี้

 

คุณว่า อะไรมีความเป็นไปได้มากกว่ากันครับ

 

**ฝากถึงบ่าง ที่เมื่อเห็นตัวอย่างข้างบนแล้วจะเข้ามาตะคลุบ

ผมแค่ยกตัวอย่าง แสดงถึงความเป็นไปได้ให้คุณจิตบำบัดดูนะครับ

ไม่ได้คิดจริง ไม่ต้องมาบ่าง


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#64 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 13:01


การที่สนธิ บอกให้ ปชป ลาออก เพื่อนำประชาชนเดินหน้าปฏิรูปการเมือง

แสดงว่า สนธิกลับมาไว้เนื้อเชื่อใจ ปชป แล้วหรือไม่

 

ผมลองตั้งสมมุติฐานเล่นๆ ให้คุณนำไปคิดดู ว่าอะไรมีโอกาสเป็นจริงได้ง่ายกว่ากันนะครับ

 

สมมุติว่า แทนที่สนธิจะทำอย่างที่แล้วมา

แต่กลับเลือกที่จะกลับลำ หันมาสนับสนุน ปชป เต็มตัว

เพื่อเชียร์ให้ ปชป มีเสียงสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น หรือเพิ่มโอกาสชนะให้ ปชป

เมื่อถึงเวลาที่สามารถชนะเพื่อไทยได้จริงๆ จากพันธมิตรทุกคนหันมาเชียร์

รวมถึงจำนวนผู้สนับสนุนเพื่อไทยลดน้อยลง จากการบริหารบ้านเมืองยุครัฐบาลนี้แบบห่วยๆ

จน ปชป อาจสามารถชนะเสียงได้

ถึงตอนนั้น ค่อยรำเลิกถึงการปฏิรูป

 

 

แสดงว่า ท่านไม่เข้าใจว่า ต่อให้เชียร์ ปชป แทบขาดใจ ปชป ก็ไม่ได้เป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภา

เพราะ จำนวนประชาชนคนเหนือ+อีสาน มีมากกว่า ทำให้มี สส จากภาคเหนือภาคอีสานมากกว่า

และพรรคร่วมรัฐบาลก็รอจะเสียบข้างไหนก็ได้ ที่ให้ผลประโยชน์มากกว่า (หน้าเก่าๆขาประจำทั้งนั้น)

 

ถามว่าทำไมคนเหนือ+อีสานถึงเลือก สส.ระบอบทักษิณ?

ผมเป็นคนใต้ แต่ตอนนี้อยู่เชียงใหม่ ทำให้รู้ว่าภาคเหนือมีการแจกเงินกันจริงๆ

ทั้งๆที่คนใต้ ไม่ค่อยจะมีใครมาแจกเงินให้กัน

 

หากท่านยังคิดว่า ถ้าสนธิเชียร์ ปชป แล้ว ปชป จะได้เป็นรัฐบาล ก็แสดงว่า ท่านยังไม่เข้าใจสิ่งที่คน 2% มองเห็นตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว

 

................................

 

** อีกเหตุผล ที่สำคัญกว่าการแจกเงินอีก คือ ยุคสมัยทักษิณเป็นนายกเขาไปสร้างถนน ไปสร้างอะไรๆเอาไว้ที่ภาคเหนือ+อีสานหลายอย่าง (30 บาทรักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน, OTOP ฯลฯ) จนชาวบ้านรู้สึกว่า เราไม่เคยมีนายกที่ดีที่สุดขนาดนี้มาก่อน ต่างกับ ปชป ที่ชาวบ้านบอก "ดีแต่พูด" และ "ช้า" ก็ไม่สามารถทำให้คนเหนือคนอีสานหลงรัก ปชป ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ปชป ควรทำการบ้านให้ดีขึ้น ปรากฏว่า ช่วง ปชป ได้เป็นรัฐบาล 2 ปี (หลังยุบพรรคพลังประชาชน) ที่คนเสื้อแดงเรียกว่า "รัฐบาลในค่ายทหาร" ก็ไม่ทำผลงานอะไรให้ชาวบ้านภาคเหนือ+ภาคอีสานเห็นเป็นที่ประจักษ์

 

นี่จึงเป็นเหตุผลว่า เลือกตั้งกี่ครั้งๆ ปชป ก็ไม่มีทางได้เป็นรัฐบาล --> เมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้านตลอดชีวิต --> เมื่อเป็นฝ่ายค้านก็ไม่สามารถสร้างศรัทธาให้เกิดกับชาวบ้านได้ นอกเสียจาก

 

ใช้โมเดล "ดอนเมือง" ที่ สส.เก่งแต่ใช้กำลัง แพ้เลือกตั้ง สส.ปชป หลังน้ำท่วม เพราะชาวบ้านดอนเมืองเริ่มรู้เช่นเห็นชาติ และก่อนหน้านี้ สส.คนดัง ก็เข้าไปทำผลงานการช่วยเหลือต่างๆให้ชาวบ้านเห็น จึงได้รับการเลือกตั้ง

 

*** ปชป ที่เป็นฝ่ายค้านต้องเข้าไปหาชาวบ้าน ไปช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆจังๆ ชาวบ้านถึงจะเกิดความศรัทธา และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งได้ ซึ่งต้องใช้เวลา และก็ไม่รู้ว่า ปชป จะตั้งใจทำเรื่องนี้จริงๆหรือไม่?


Edited by จิตบำบัด, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 14:09.


#65 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 13:50

ผมใช้คำว่า “ผมลองตั้งสมมุติฐานเล่นๆ ให้คุณนำไปคิดดู

ว่าอะไรมีโอกาสเป็นจริงได้ง่ายกว่ากันนะครับ” นะครับ
 
ที่ผมตั้งสมมุติฐานนี้ขึ้นมา ก็เพราะเชื่อว่า ส่วนหนึ่ง

เรามีมุมมองบางอย่างที่ไกล้เคียงกันอยู่
คือไม่อยากได้ระบอบทักษิณ
ทีนี้ เมื่อสนธิตั้งเงื่อนไขแบบนั้น ย่อมแสดงว่า สนธิยังมีความไว้วางใจอยู่ในระดับหนึ่ง
ผมจึงตั้งสมมุติฐาน เพื่อให้ลองตีความไปถึง ในโอกาสที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่า
 
ทีนี้ คุณบอกว่า 
*** ปชป ที่เป็นฝ่ายค้านต้องเข้าไปหาชาวบ้าน ไปช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆจังๆ

ชาวบ้านถึงจะเกิดความศรัทธา และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งได้ ซึ่งต้องใช้เวลา

และก้ไม่รู้ว่า ปชป จะตั้งใจทำเรื่องนี้จริงๆหรือไม่?”
 

ผมก็คงต้องถามกลับไปครับ ว่าการเผยแพร่ความคิดวิธีการของคุณออกไป
ทำให้คนอีก 98% เชื่อ ไม่สิ ทำให้คนอีกเกินครึ่งก็พอเชื่อ
และหันกลับมาคิดปฏิรูปการเมืองเสียใหม่ มันไม่ต้องใช้เวลาหรืออย่างไร
 
อะไรใช้เวลามากกว่ากันครับ
ในขณะที่มีโมเดลดอนเมืองให้ดูอยู่แล้ว ว่าพอมีทาง
คุณไม่คิดหรอกหรือ ว่าที่อื่น อาจจะมีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย
ในขณะที่วิธีของคุณ ยังไม่มีตัวอย่างไหนเป็นรูปธรรมให้เห็นสักอัน
หรือแม้แต่คำอธิบายที่ง่ายเพียงพอที่คนทั่วไปจะเข้าใจ
หรือวิธีที่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ คุณก็ยังตอบไม่ได้
 
อะไรน่าสนใจกว่ากันล่ะครับ


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#66 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 14:38

คุณ tonythebest

ถ้าท่านศรัทธาในแนวทางของ ปชป ท่านก็ต่อสู้ไปในแนวทางของท่าน วิธีเดิมของท่าน
ส่วนผมตั้งคำถามถึงแนวทางใหม่ๆ เพื่อนำเสนอไปที่กลุ่มต่างๆ
ได้เป็นประเด็นสอบถามว่า เป็นไปได้ หรือไม่ได้ กันต่อไป

หากแนวคิดใหม่ๆที่ผมเสนอ ไม่ได้รับการตอบรับ ก็อาจเกิดแนวคิดใหม่ๆจากคนอื่นๆ จนกลายเป็นการยอมรับ ก็ไม่แน่

 

** ที่แน่ๆคือ คนฝ่ายตรงข้าม 15 ล้านคนไม่เอาด้วยแน่ๆ เพราะเขาไม่ปฏิรูปอะไรเลยก็ชนะเลือกตั้ง ไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว **

วิธีการที่จะให้คนทุกคนเห็นด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ บางทีก็ต้อง "หักดิบ" กันบ้าง

ตามประสา คุณครูอบรมนักเรียนเกือบทั้งห้องที่ไม่สนใจคุณครูคนเดียว


Edited by จิตบำบัด, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 14:40.


#67 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 15:22

อ่านดูเหมือน คุณจิตบำบัดกำลังจะตัดบทผมซะแล้ว

 

ถ้าอยากจะตัดบท ก็ตามแต่ครับ

แต่ผมขอแย้งในความเห็นนี้คุณอีกนิดก็แล้วกันครับ

 

คุณตั้งคำถาม ถึงแนวทางใหม่ๆ เพื่อนำเสนอไปยังกลุ่มต่างๆ

กระทู้นี้ ก็เป็นการเสนอถึงกลุ่มเสรีไทย

ผมอาจไม่ใช่ตัวแทนกลุ่ม เป็นเพียงสมาชิกหนึ่งในกลุ่ม ที่มีความเห็นเป็นส่วนตัว

มิอาจพูดแทนกลุ่ม และเมื่อคุณบอกว่า เพื่อให้เป็นประเด็นสอบถาม

ว่าเป็นไปได้หรือไม่ได้ ผมก็ตอบตามความเห็นของผมว่า เป็นไปไม่ได้ครับ

 

เพราะอะไร

 

เพราะคุณตอบตัวเองอยู่แล้วนี่ไงครับ

 

** ที่แน่ๆคือ คนฝ่ายตรงข้าม 15 ล้านคนไม่เอาด้วยแน่ๆ เพราะเขาไม่ปฏิรูปอะไรเลยก็ชนะเลือกตั้ง ไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว **

 

เมื่อแนวทางของคุณ ไม่สามารถทำให้เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป

มันจึงไม่มีทางที่จะสำเร็จไงครับ

 

มีคำถามหลายครั้ง ที่ตั้งคำถามไปยังพวกคุณ

เคยหรือไม่ ที่จะไปตั้งคำถามกับคนเสื้อแดง ชักจูงคนเสื้อแดง

หรือแสดงความคิดให้คนเสื้อแดงเห็น

 

คุณตอบคำถามนี้ ด้วยความเห็นข้างบน

นั่นหมายความว่า คุณไม่ยุ่งกับเสียงส่วนใหญ่

เพียงแต่มาชักจูงเสียงส่วนน้อย ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อการเปลี่ยนแปลง

 

คุณมีอำนาจที่จะหักดิบพวกเขาหรือ

คุณไม่ใช่คุณครู คุณไม่ได้มีอภิสิทธิ์ใดๆ ที่จะไปยืนหน้าห้อง หรือถือไม่เรียวไว้หวดก้นใคร

คุณก็เป็นนักเรียนคนนึงในห้องนั้นเหมือนกันนะครับ

 

ผมพยายามชี้ให้เห็นโดยตลอดว่า

หากคุณเข้ามาที่นี่ หรือไปที่ไหน ด้วยความคิดที่ว่า คุณรู้มากกว่า

คุณเหนือกว่าด้วยข้อมูล หรือเหตุผลผิดถูก

คุณก็ผิดตั้งแต่แรกแล้ว

เมื่อคุณไม่คิดเคารพความเห็นต่าง ก็ย่อมที่จะไม่มีใครเคารพคุณเช่นกันครับ

 

ฝากไว้ให้วิเคราะห์ตนเองเท่านี้ก็แล้วกัน


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#68 เมาอยู่

เมาอยู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,182 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 15:27

ผมก็มีคิดไว้เหมือนกัน แต่ของผมตรงข้ามกับท่าน

 

คือของผมเน้นระบบกรองคนขับให้เข้มข้น ก่อนลงไปรับสมัครเป็นคนขับ เพราะผมมองปัญหามี่มันน่าหงุดหงิดคนตัวคนขับไม่มีมาตรฐานเดียวกัน

 

คือทำให้มันเป็นเรื่องที่ทั้งยากและง่ายกว่านี้ในการลงเล่นการเมือง อาจกำหนดให้ต้องจบหลักสูตรพิเศษจากสถาบันการศึกษา สักปีสองปีก่อนจึงลงสมัครรับเลือกตั้งได้

 

และก็ให้มีวุฒิบัตรมีคะแนนเฉลี่ยของแต่ละคนไว้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ แบบนี้ใครมีความสามารถพอก็เล่นการเมืองได้ ส่วนการบริหารจริงจะเป็นไงไม่ต้องสนใจ

 

เวลาเลือกแต่ละครั้งก็ให้ดูคะแนนจากคะแนนเฉลี่ย และความชอบส่วนตัวเป็นหลักจัดดีเบตจัดเรียลิตี้ใช้งบรัฐไปเลย จะได้ไม่ต้องมีการใช้เงินหาเสียง

 

แบบนี้เราจะบังคับได้เพราะพวกนี้เต็มใจเล่นการเมือง ปัญหาการเมืองไทยส่วนหนึงมันมาจากว่านักการเมืองถูกจำกัดกลุ่ม ไม่กี่คนไม่กี่ตระกูล

 

อำนาจการฉ้อฉลจึงยิ่งฝังลึก สำหรับผมนโยบายเป็นเรื่องรอง แต่การกำจัดเรื่องคอรัปชั่นเป็นเรื่องหลัก เห็นไหมว่าทุกวันนี้หาเสียงใช้นโยบายมาล่อทั้งนั้น

 

กี่ยุคกี่สมัยก็เหมือนเดิม จริงๆ คนพวกนี้ไม่ต้องสร้างวิมานให้คนไทยก็ได้ ขอแค่ใช้ภาษีไม่สุรุ่ยสุร่ายเป็นพอ



#69 จิตบำบัด

จิตบำบัด

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 94 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 15:36

คุณ tonythebest
ก็ผมกำลังส่งเสียงไปหาคุณครูอยู่นี่ไงครับ

 

"อำนาจ" ไม่ได้หมายถึง "ปืน" แต่หมายถึง "วิสัยทัศน์"

ปืนมีวันกระสุนหมด แต่วิสัยทัศน์เกิดขึ้นแล้ว มีแต่แตกกิ่งก้านสาขาออกไป


คุณ เมาอยู่
นี่แหละครับ ความคิดใหม่ๆ ถ้าเกิดขึ้นแล้ว มันก็เป็นแนวทางหนึ่งของการปฏิรูป ไม่ใช่คิดแค่ "เปลี่ยนขั้ว" จะทำได้หรือไม่ ก็ควรตั้งกระทู้ใหม่ขึ้นมา (ไอเดียใหม่) แล้วก็โดนรุมด่า เป็นธรรมดา :)


Edited by จิตบำบัด, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 20:45.


#70 ypk

ypk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,173 posts

ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 16:08

เหอะ เหอะ  ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ คนซึ่งเข้ามาถามหรือเข้ามาแย้งนั้น เขารู้คำตอบอยู่แล้ว

ว่า วิธีคิดของ จขกท มันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ดูเหมือน จขกท จะไม่ค่อยสนใจ ยัง

พยายามเสนอวิธิคิดของตนเองอยู่ตลอดเวลา

 

จขกท เริ่มต้นจากแนวคิดที่ค่อนข้างอคติ และเอาตนเองเป็นศูนย์กลางของความถูกต้อง คือ

คิดว่า นักการเมืองมันเลวเหมือนกันหมด เราต้องหยุดพวกนักการเมือง

 

เมื่อคิดแบบนี้แล้วก็หาวิธีต่อต้านนักการเมือง โดยใช้วิธี โหวตโน คือไม่เลือกใครเลยเพราะมันเลว

 

เมื่อโหวตโนไปแล้ว มันไม่สามารถหยุดนักการเมืองได้ ก็คิดเอาเองว่าคนที่ไม่โหวตโน เพราะยังติด

อยู่กับพรรคการเมืองและนักการเมือง ไม่รู้จักคิดนอกกรอบ

 

แล้วก็มานำเสนอเรื่องใบขับขี่ทางการเมือง ซึ่งมีนัยว่าเป็นการกลั่นกรองผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

 

สองเรื่องที่นำเสนอมานี้ มันคนละเรื่องคนละราวเลยนะครับ ความเป็นไปได้ของสองเรื่องนี้ต้องไปแก้

กฎหมายครับ ถึงจะนำไปสู่ความต้องการของ จขกท ได้ หรือถ้าคิดนอกกรอบแล้วไม่ต้องปฏิบัติตาม

กฎหมายครับ

 

จขกท น่าจะลองไปทบทวนวิธีคิดนะครับว่า มันสับสนหรือเปล่า เข้าใจการปกครองระบอบบประชาธิปไตย

จริงหรือเปล่า



#71 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 05:29

เหอะ เหอะ  ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ คนซึ่งเข้ามาถามหรือเข้ามาแย้งนั้น เขารู้คำตอบอยู่แล้ว

ว่า วิธีคิดของ จขกท มันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ดูเหมือน จขกท จะไม่ค่อยสนใจ ยัง

พยายามเสนอวิธิคิดของตนเองอยู่ตลอดเวลา

 

 

ผมรู้สึกว่าการทำแบบนี้ไม่ต่างจากการบังคับข่มขืนใจให้คิดตามเขา  ว่ามั้ยครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#72 stormtrooper

stormtrooper

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 356 posts

ตอบ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 09:59

อ่านแล้วรู้สึก อืม  entertaining ดีเหมือนกัน
ไหน ๆ ก็จะคิดนอกกรอบแล้ว  ทำไมไม่แจก คันบังคับและคันเร่ง (hands on throttle and stick) ให้ผู้โดยสารแต่ละคนไปเลยล่ะ  แล้วก็มีคอมพิวเดอร์ดี ๆ สักเครื่อง คำนวณค่าเฉลี่ยจากอินพุทของแต่ละคน  ให้ผู้โดยสารควบคุมรถกันเองเลย น่าจะเจ๋งดีอ่ะ

ไอเดียขำ ๆ น่ะ  ตอนนี้มาเข้าเรื่อง  สิ่งที่คุณนำเสนอ  บอกคนอื่นว่าเป็นแนวทางใหม่  เป็นนวัตกรรมในการปกครองรัฐ  แต่สุดท้ายมันก็เข้าประเด็นเดิม ๆ  โจทย์เดิม ๆ ก็คือ  “ใครสมควรมีอำนาจปกครอง”  ซึ่งเขาถกกันมาตั้งแต่สมัยของ โซคราตีส  พลาโต  อริสโตเดิลนั่นแล้ว  ถ้าคุณเคยอ่านหนังสืออย่าง 国家 มาแล้วก็อาจจะไม่เสนอ “ประเด็นคลาสสิก” อะไรแบบนี้ก็ได้

แล้วก็ระบบคัดกรองผู้มีสิทธิ  เป็นเรื่องใหม่รึเปล่า  ผมว่าไม่หรอก  มันมีมาตั้งแต่สมัยนครรัฐเอเธนส์โน่นแล้ว  คนที่มีสิทธิโหวตในสมัยนั้นคือผู้ชายที่มีอายุถึงเกณฑ์และไม่ใช่ทาส  แล้วถ้าเป็นการเมืองการปกครองของไอ้กัน  ก็เหมือนกันน่ะแหละ  สมัยก่อนผู้หญิงกับทาสผิวดำก็ไม่มีสิทธิโหวต  ตอนนี้คุณเกิดไอเดียใหม่  บอกว่าจะใช้การวัดไอคิว  คนที่ผ่านเกณฑ์ถึงจะได้โหวต  แล้ว “รัถ” ของคุณจะวิ่งฉิว  ไปสู่จุดหมายที่ปะกอบด้วยคุณธรรม  “ความเจริญด้านจิตวิญญาณ”  IQ กับคุณธรรมมันเป็นเรื่องเดียวกันรึเปล่า  ผมว่าไม่นะ  คนทั่วไปก็จะให้คำตอบได้ว่ามันคนละเรื่อง  ความคิดคุณมัน fail ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว

ผมว่าแนวคิดคัดกรองผู้มีสิทธิ  น่าจะไปเสนอที่เวบอื่นก่อนนะ  อย่างบ้านราด  ประชาไท  ก็ไม่เลว  ทำกราฟิกสวย ๆ  ใสแฟลชอนิเมชั่นไปด้วย เผื่อจะได้ใจคนที่นั่นบ้าง  ถ้าฐานเสียงของเผาไทยเค้าบอก OK ใช้ได้  นั่นแหละ  สุดยอดเลย  นวัตกรรมแบบนี้อาจจะได้ใช้จริงก็ได้

ความจริงผมอยากเอาใจช่วยให้แนวคิดนี้สำเร็จด้วยซ้ำไปนะ






ผู้ใช้ 3 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 3 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน