แม่ค้าโวย! กระทรวงพาณิชย์ คุมราคาข้าวแกง 25 บาท ลั่นให้ไปควบคุมราคาวัตถุดิบ อย่ามาควบคุมที่ร้านค้าปลีก เพราะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ
หลังจากที่กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ประกาศควบคุมราคาอาหารจานเดียว อาทิเช่น ข้าวราดแกง ข้าวผัด ข้าวผัดกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๋ว ให้อยู่ในราคา 25-30 บาทนั้น วานนี้ (30 มิถุนายน) จากการสำรวจตามตลาดสด และร้านค้าตามแหล่งชุมชนพบว่า แม่ค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และสงสัยว่าทำไมไม่ควบคุมที่ต้นเหตุ กลับมาสั่งควบคุมราคาขายปลีกซึ่งเป็นปลายเหตุ
โดยแม่ค้ารายหนึ่ง ย่านอาคารมาลีนนท์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องการควบคุมราคาอาหารตามสั่ง แต่ปัจจุบันอาหารตามสั่งของร้านตน ทุกอย่างจะมีราคา 25-30 บาทอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นอาหารทะเลจำพวก กุ้ง ปลาหมึก หรือเนื้อวัว หรือใส่ไข่เพิ่ม ตนจะคิดราคาเพิ่มอีก 5 บาท ถึงแม้ว่า ราคาเนื้อหมูกับเนื้อวัวในขณะนี้จะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารจานเดียวจากเนื้อหมูได้ เนื่องจากเนื้อหมูมีคนบริโภคมากกว่า ถ้าขึ้นราคาเท่ากันอาจจะส่งผลต่อยอดขายได้
แม่ค้าคนดังกล่าว ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทำไมทางกระทรวงพาณิชย์ถึงอ้างว่า ลดราคาวัตถุดิบลงแล้ว แต่ผู้ค้ารายย่อยไม่ยอมลดราคาอาหาร ซึ่งตนอยากถามว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงเอาข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน เคยลงมาสำรวจตลาดบ้างไหม หรือเพียงแค่เดินดูป้ายราคาสินค้าตามห้างเท่านั้น เพราะความเป็นจริงราคาต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของแห้ง ก็ยังไม่ลดราคาลงเลย
นอกจากนี้ แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ในตลาดสดท่าเรือคลองเตย กล่าวว่า การแก้ปัญหาโดยการควบคุมราคาข้าวราดแกงเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมถึงมองว่า ผู้ค้ารายย่อยจ้องจะเอาเปรียบแต่ผู้บริโภคเท่านั้น อยากให้มองกลับไปยังต้นตอของสาเหตุว่า ทำไมราคาวัตถุดิบถึงสูง ต้นทุนผู้ผลิต ผลิตกันอย่างไร ทำให้ราคาขายส่งขายปลีกจึงมีราคาอย่างปัจจุบัน ทั้งนี้เมื่อต้นทุนสูง จะให้ขายราคาถูกได้อย่างไร และเลิกโยนความผิดให้กับผู้ค้ารายย่อยได้แล้ว
ทางด้านแม่ค้าตามสั่ง ย่านตลาดหน้า สน.บางมด กล่าวว่า ตนขายอาหารตามสั่งมากว่า 10 ปี แล้ว ปีนี้เป็นปีที่วัตถุดิบขึ้นราคามากที่สุด ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และพืชผักต่าง ๆ เนื้อหมูจากกิโลกรัมละ 80 บาท ตอนนี้เป็นกิโลกรัมละ 135-140 บาท พ่อค้าแม่ค้าที่ไหนจะขายในราคาเดิมได้ จากเดิมตนขายข้าวราคาที่จานละ 25 บาท แต่ตอนนี้ตนต้องปรับเป็น 30-35 บาท อย่างไรก็ตามตนก็ขอวิงวอนไปยังผู้เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าด้วย
ขณะที่ แม่ค้าขายข้าวมันไก่ ย่านตลาดท่าน้ำศิริราช กล่าวว่า ราคาต้นทุนในการขายแต่ละวันจาก 4,000 บาท เพิ่มเป็น 6,000 บาท แต่ได้ของเท่าเดิม จึงจำเป็นต้องปรับราคาจากจานละ 25 บาท เป็น 30-40 บาท ถ้าไม่ปรับราคาก็จะไม่ได้กำไรเลย อีกทั้งค่าจ้างลูกน้องในร้านอีก ทั้งหมดถือว่าเป็นต้นทุนการผลิตทั้งนั้น ตนจึงอยากฝากถามกระทรวงพาณิชย์ว่า ทำไมต้องมากำหนดราคาขายด้วย ทำไมไม่ไปควบคุมราคาวัตถุดิบแทน ทำไมจะต้องมาให้ผู้จำหน่ายอาหารมาแบกรับภาระความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนแม่ค้าร้านข้าวมันไก่ชื่อดังในซอยวัชรพล กล่าวว่า อาหารแต่ละอย่างมันใช้ต้นทุนไม่เหมือนกัน ข้าวมันไก่ไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวที่ต้นทุนถูกกว่า ทุกวันนี้ตนซื้้อไก่จากฟาร์มไม่ใช่จากตลาดสด ไหนจะต้องเอามาต้มเอง ไหนจะค่าทำน้ำจิ้ม ไหนจะค่าเช่าตึกอีก อีกทั้งตอนนี้ตนไม่จ้างลูกจ้างแล้ว มาทำความสะอาดร้านเอง เพื่อประหยัดต้นทุน หากจะบังคับให้ขายในราคา 25 บาท ตนคงต้องหาทำเลใหม่ ไม่ก็เลิกขายไปเลย
แม่ค้าโวย! คุมราคาข้าวแกง 25 บาท จวกพาณิชย์คุมวัตถุดิบ
#1
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 17:10
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#2
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 17:11
ขายครึ่งจานไปเลย พี่น้อง!
#3
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 17:15
กระทรวงพาณิชย์ไม่เคยเดินตลาดใช่ไหมครับเนี่ย?
/人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#4
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 17:19
ออกจากรูมาดูโลกภายนอกบ้างนะครับ
#5
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:55
กระทรวงพาณิชย์เคยออกมาดูไหม
ออกมาดูนะครับ สั่งให้กรมสรรพากร มานั่งนับชามก๋วยเตี๋ยว ไง
ว่าขายดีไหม จะเอาเงินไปหนุนจำนำข้าวต่อ
Edited by ถั่งเช่า ตรา ควายธนูแดง, 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:56.
#6
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:01
ข้างแกง กับข้าว1อย่าง 25 บาท ก็ถูกต้องแล้วนี่ แม่ค้ามันฟังได้ศัพท์เปล่าวะ สงสัยเป็นแม่ค้า แมงสาป
- แดงประจำเดือน likes this
#7
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:03
โฮะๆๆ ผลงานกระชากค่าครองชีพของรัฐบาลได้กำเนิดแล้ว พวกแมงสาปที่ปลอมตัวเป็นแม่ค้ามันเลยเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
- MuuSang, stabilo, colt rampant and 1 other like this
#8
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:07
ข้างแกง กับข้าว1อย่าง 25 บาท ก็ถูกต้องแล้วนี่ แม่ค้ามันฟังได้ศัพท์เปล่าวะ สงสัยเป็นแม่ค้า แมงสาป
ถูกต้องแม่ค้าเป็นแมงสาป
ถ้าแม่ค้าเสื้อแดงขี้เรื้อน มันจะแถมข้าวเน่ามาให้
Edited by ppneer, 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:08.
#9
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:23
"หลังจากที่กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ประกาศควบคุมราคาอาหารจานเดียว อาทิเช่น ข้าวราดแกง ข้าวผัด ข้าวผัดกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๋ว ให้อยู่ในราคา 25-30 บาทนั้น วานนี้ (30 มิถุนายน) จากการสำรวจตามตลาดสด และร้านค้าตามแหล่งชุมชนพบว่า แม่ค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และสงสัยว่าทำไมไม่ควบคุมที่ต้นเหตุ กลับมาสั่งควบคุมราคาขายปลีกซึ่งเป็นปลายเหตุ"
ข่าวเก่าครับ ของใหม่อันนี่ครับ
ผู้ค้าย่านประชาชนชื่น เชื่อ ก.พลังงาน ขึ้น LPG 1 ก.ย. 56 กระทบราคาอาหาร ชี้ อาจปรับ 35 - 40 บาทต่อจาน
จากการลงพื้นที่สอบถามพ่อค้าแม่ค้าร้านขายข้าวแกงย่านถนนประชาชื่น เรื่องที่กระทรวงพลังงาน เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน 50 สต.ต่อเดือน ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 กันยายน 2556 เป็นต้นไป พบว่าการปรับราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนราคาอาหาร ถึงแม้ในเดือน ก.ย. จะเป็นการทยอยปรับขึ้น แต่ถ้าหากมีการปรับขึ้นจนครบ 6 บาท ราคาก๊าซก็จะสูงขึ้น จนส่งผลให้ราคาข้าวแกงปรับขึ้นตามราคาต้นทุน อย่างไรก็ตามเพื่อความอยู่รอดของกิจการเมื่อประสบกับปัญหาต้นทุนที่สูง ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าหลายรายจึงหันมาแก้ปัญหาโดยการปรับขึ้นราคาค่าอาหาร โดยการปรับขึ้นราคาอาหารจะขึ้นอยู่กับว่า ต้นทุนในการผลิตมากน้อยเพียงใด อาจจะปรับขึ้นจานละ 35 - 40 บาท จากเดิมจานละ 30 - 35 บาท
- Tohchida, gears and จันทรา อุษาคเนย์ like this
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#10
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:36
ข้างแกง กับข้าว1อย่าง 25 บาท ก็ถูกต้องแล้วนี่ แม่ค้ามันฟังได้ศัพท์เปล่าวะ สงสัยเป็นแม่ค้า แมงสาป
ขึ้นราคาแล้วเค้าเอาปืนไปจี้บังคับให้กินป่าว ป้ายราคาก็มีบอกแพงก็อย่ากิน
- gears likes this
#11
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 21:17
สนพ.ยืนยันความพร้อมระบบSMSลงทะเบียนใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซฯราคาเดิม
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึง แนวทางช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แม่ค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร กรณีปรับราคาก๊าซแอลพีจีที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ว่า ขั้นตอนการเข้าใช้สิทธิ์ผ่านโทรศัพท์มือถือนั้น ถือว่ามีความพร้อมเรื่องของระบบ SMS แล้ว โดยมีการกำหนดรหัสให้ผู้มีสิทธิ์สำหรับใช้ในการส่งข้อความสั้นหรือ SMS โดยมี 2 ขั้นตอนในการกดรหัสผ่าน SMS คือ ขั้นตอนแรก กดรหัสเพื่อลงทะเบียนใช้สิทธิ์กับร้านค้าก๊าซฯ และขั้นตอนที่สอง การกดรหัสส่ง SMS เพื่อใช้สิทธิ์สั่งซื้อกับร้านค้าก๊าซฯ
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยังเร่งชี้แจงและทำความเข้าถึงวิธีการใช้สิทธิ์แอลพีจีราคาเดิม อย่างต่อเนื่องสำหรับผู้มีรายได้น้อย ก่อนที่จะมีการปรับราคา LPG วันที่ 1 กันยายนนี้ อีก 50 สตางค์ต่อกก. เป็นเดือนแรก ตามนโยบายปรับโครงสร้างราคา LPG ภาคครัวเรือนจาก 18.13 บาทต่อกก. ไปสู่การสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาทต่อกก. โดยจะทยอยขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อกก. เพื่อลดผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของประชาชน
สำหรับ กลุ่มที่จะได้รับความช่วยเหลือมุ่งไปยัง 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มภาคครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน หรือ ผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้รวม 7.5 ล้านครัวเรือน จะได้รับสิทธิ์ “ซื้อก๊าซราคาเดิม(ก่อนมีการปรับราคา) ตามการใช้จริงแต่ไม่เกิน 18 กก. ต่อ 3 เดือน และกลุ่มแม่ค้า ร้านค้า หาบเร่แผงลอยอาหารทั่วประเทศที่มีกว่า 500,000 แห่ง จะได้รับสิทธิ์ “ซื้อก๊าซราคาเดิม” ตามการใช้จริงแต่ไม่เกิน 150 กก.ต่อเดือน
ค่า SMS กับ เงินที่จะไม่ต้องจ่ายค่า LPG เพิ่ม มันเท่ากันไหม ถ้าเท่ากัน แสดงว่าเป็นการเสกเงิน 6 บาท จากผู้ค้าก๊าซไปยัง ผู้ให้บริการ SMS ใช่เปล่า
Edited by Stargate-1, 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 21:21.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#12
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 21:35
#13
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 22:20
ลองขายแพงสิ ลากหญ้าเดือดร้อนแน่ เรื่องอะไรเขาจะให้ ฐานเขาเดือดร้อน แม่ค้าไม่มาก และ ผู้ซื้อมากกว่าเขาเลยควบคุมราคา
เขาทำถูกต้องครับ
#15
ตอบ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 23:27
http://pantip.com/topic/30858684
บางทีน่ะครับ การที่ห้างใหญ่ๆ มา แล้วคุณต้องปิดกิจการไปเนี่ย ไม่ได้เกิดจากห้างใหญ่หรอก แต่เกิดจากตัวคุณเองมากกว่า โลกทุกวันมันเสรีครับ ใครให้อะไรทที่ถูกกว่าคนก็วิ่งเข้าหา บางทีก็เห็นเรียกร้องกันว่าให้ช่วยคนไทยกันหน่อย แต่ถามว่า ขายกันราคาแบบนี้ คุณเคยคิดช่วยคนอื่นมั้ย ข้างออฟฟิต นี่ กินทีนึง ก็จะ 50 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าน้ำน่ะ เมื่อก่อน EasyGo นี่อย่างแพง แต่ไปๆมาๆ ถูกกว่าได้ไง แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ แม่ค้าคงไม่สนใจ สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามันแพงมาก ก็คงต้องเป็นหน้าทีเรา ที่เปลี่ยนที่ซื้อใหม่
มีทั้งผัก ข้าวก็พอได้ แล้วก็แถมไข่ดาวด้วย ราคาแค่
โอเค เลย แต่ต้องรอตอน 2 ทุ่ม รอครึ่งราคากันเป็นตับ เอามือแตะไว้ให้ดี เดี๋ยวโดนแย่ง
Edited by Stargate-1, 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 23:27.
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, Bookmarks, นายตัวเกร็ง and 5 others like this
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#16
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 06:08
-
เตรียมเก็บภาษี แท็กซี่-แม่ค้าข้าวแกงข่าวดีสำหรับพี่น้องแท็กซี่ และแม่ค้าข้าวแกงครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1363743710&grpid&catid=05&subcatid=0501
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#17
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 07:35
taxi จะได้ซึ้งน้ำตาไหล ก็คราวนี้แหละ
BLUESKY Channel · 88,310 คนถูกใจสิ่งนี้20 มีนาคม เวลา 3:57 น. ·
เตรียมเก็บภาษี แท็กซี่-แม่ค้าข้าวแกง
#18
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 09:08
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#20
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 09:28
http://pantip.com/topic/30858684
บางทีน่ะครับ การที่ห้างใหญ่ๆ มา แล้วคุณต้องปิดกิจการไปเนี่ย ไม่ได้เกิดจากห้างใหญ่หรอก แต่เกิดจากตัวคุณเองมากกว่า โลกทุกวันมันเสรีครับ ใครให้อะไรทที่ถูกกว่าคนก็วิ่งเข้าหา บางทีก็เห็นเรียกร้องกันว่าให้ช่วยคนไทยกันหน่อย แต่ถามว่า ขายกันราคาแบบนี้ คุณเคยคิดช่วยคนอื่นมั้ย ข้างออฟฟิต นี่ กินทีนึง ก็จะ 50 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าน้ำน่ะ เมื่อก่อน EasyGo นี่อย่างแพง แต่ไปๆมาๆ ถูกกว่าได้ไง แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ แม่ค้าคงไม่สนใจ สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามันแพงมาก ก็คงต้องเป็นหน้าทีเรา ที่เปลี่ยนที่ซื้อใหม่
มีทั้งผัก ข้าวก็พอได้ แล้วก็แถมไข่ดาวด้วย ราคาแค่
โอเค เลย แต่ต้องรอตอน 2 ทุ่ม รอครึ่งราคากันเป็นตับ เอามือแตะไว้ให้ดี เดี๋ยวโดนแย่ง
หุหุหุ....เกิดมาไม่เคยคิดว่าชีวิตตรูจะต้องทำแบบนี้เลย มากกว่านี้ก็ไปขอข้าวก้นบาตรพระละวะ
- Stargate-1 likes this
#21
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:39
แถมให้รายใหญ่ลงมาขายจานด่วนแข่งกับแม่ค้า อืมๆๆๆ
นี่ตรูต้องกับไปเรียนใหม่มั้ยเนียะ บูรณาการแบบย้อนกลับ อันไหนต้น อันไหนปลายตูเริ่มงง
#22
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:49
แล้วจะมี เสื้อแดงชุมนุมที่หน้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนและยื่นหนังสือต่อ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ให้ขึันราคา ข้าวแกง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
#23
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:01
http://pantip.com/topic/30858684
บางทีน่ะครับ การที่ห้างใหญ่ๆ มา แล้วคุณต้องปิดกิจการไปเนี่ย ไม่ได้เกิดจากห้างใหญ่หรอก แต่เกิดจากตัวคุณเองมากกว่า โลกทุกวันมันเสรีครับ ใครให้อะไรทที่ถูกกว่าคนก็วิ่งเข้าหา บางทีก็เห็นเรียกร้องกันว่าให้ช่วยคนไทยกันหน่อย แต่ถามว่า ขายกันราคาแบบนี้ คุณเคยคิดช่วยคนอื่นมั้ย ข้างออฟฟิต นี่ กินทีนึง ก็จะ 50 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าน้ำน่ะ เมื่อก่อน EasyGo นี่อย่างแพง แต่ไปๆมาๆ ถูกกว่าได้ไง แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ แม่ค้าคงไม่สนใจ สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามันแพงมาก ก็คงต้องเป็นหน้าทีเรา ที่เปลี่ยนที่ซื้อใหม่
มีทั้งผัก ข้าวก็พอได้ แล้วก็แถมไข่ดาวด้วย ราคาแค่
ข้าวโลตัส.jpg
โอเค เลย แต่ต้องรอตอน 2 ทุ่ม รอครึ่งราคากันเป็นตับ เอามือแตะไว้ให้ดี เดี๋ยวโดนแย่ง
ลดราคาไม่ว่า แต่วัตถุดิบดิยที่เอามาทำส่วนใหญ่เป็นของค้างสต๊อกทั้งนั้น (เก็บให้เน่าแล้วทิ้งก็ไม่ได้มูลค่า สู้เอามาแปรรูปขายถูกๆดีกว่า เคยสงสัยมั้ยเวลาพวกเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ข้าวสาร ที่ใกล้หมดอายุเค้าเอาไปทำอะไรกัน) อีกอย่างพวกห้างมันซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายส่ง จะเทียบกับร้านรถเข็นหลายร้านที่ซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายปลีกได้ไง
Edited by อาตี๋, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:03.
- Tohchida likes this
สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น
ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ
#24
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:06
http://pantip.com/topic/30858684
บางทีน่ะครับ การที่ห้างใหญ่ๆ มา แล้วคุณต้องปิดกิจการไปเนี่ย ไม่ได้เกิดจากห้างใหญ่หรอก แต่เกิดจากตัวคุณเองมากกว่า โลกทุกวันมันเสรีครับ ใครให้อะไรทที่ถูกกว่าคนก็วิ่งเข้าหา บางทีก็เห็นเรียกร้องกันว่าให้ช่วยคนไทยกันหน่อย แต่ถามว่า ขายกันราคาแบบนี้ คุณเคยคิดช่วยคนอื่นมั้ย ข้างออฟฟิต นี่ กินทีนึง ก็จะ 50 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าน้ำน่ะ เมื่อก่อน EasyGo นี่อย่างแพง แต่ไปๆมาๆ ถูกกว่าได้ไง แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ แม่ค้าคงไม่สนใจ สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามันแพงมาก ก็คงต้องเป็นหน้าทีเรา ที่เปลี่ยนที่ซื้อใหม่
มีทั้งผัก ข้าวก็พอได้ แล้วก็แถมไข่ดาวด้วย ราคาแค่
ข้าวโลตัส.jpg
โอเค เลย แต่ต้องรอตอน 2 ทุ่ม รอครึ่งราคากันเป็นตับ เอามือแตะไว้ให้ดี เดี๋ยวโดนแย่ง
ลดราคาไม่ว่า แต่วัตถุดิบดิยที่เอามาทำส่วนใหญ่เป็นของค้างสต๊อกทั้งนั้น (เก็บให้เน่าแล้วทิ้งก็ไม่ได้มูลค่า สู้เอามาแปรรูปขายถูกๆดีกว่า) อีกอย่างพวกห้างมันซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายส่ง จะเทียบกับร้านรถเข็นหลายร้านที่ซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายปลีกได้ไง
แนะนำให้ไปตอนทุ่มกว่าๆ ไปยืนจองเอาไว้ รอเขายิงป้ายเหลือง ไม่อย่างนั้น จะหมดเสียก่อน แต่ก่อน คนไม่เยอะ ขนาดนี้ แสดงว่าปัจจุบันคนจนลง ทุกวิถีทางที่ประหยัดได้ ก็ทำกันทั้งนั้น
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#25
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:08
http://pantip.com/topic/30858684
บางทีน่ะครับ การที่ห้างใหญ่ๆ มา แล้วคุณต้องปิดกิจการไปเนี่ย ไม่ได้เกิดจากห้างใหญ่หรอก แต่เกิดจากตัวคุณเองมากกว่า โลกทุกวันมันเสรีครับ ใครให้อะไรทที่ถูกกว่าคนก็วิ่งเข้าหา บางทีก็เห็นเรียกร้องกันว่าให้ช่วยคนไทยกันหน่อย แต่ถามว่า ขายกันราคาแบบนี้ คุณเคยคิดช่วยคนอื่นมั้ย ข้างออฟฟิต นี่ กินทีนึง ก็จะ 50 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าน้ำน่ะ เมื่อก่อน EasyGo นี่อย่างแพง แต่ไปๆมาๆ ถูกกว่าได้ไง แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ แม่ค้าคงไม่สนใจ สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามันแพงมาก ก็คงต้องเป็นหน้าทีเรา ที่เปลี่ยนที่ซื้อใหม่
มีทั้งผัก ข้าวก็พอได้ แล้วก็แถมไข่ดาวด้วย ราคาแค่
ข้าวโลตัส.jpg
โอเค เลย แต่ต้องรอตอน 2 ทุ่ม รอครึ่งราคากันเป็นตับ เอามือแตะไว้ให้ดี เดี๋ยวโดนแย่ง
ลดราคาไม่ว่า แต่วัตถุดิบดิยที่เอามาทำส่วนใหญ่เป็นของค้างสต๊อกทั้งนั้น (เก็บให้เน่าแล้วทิ้งก็ไม่ได้มูลค่า สู้เอามาแปรรูปขายถูกๆดีกว่า เคยสงสัยมั้ยเวลาพวกเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ข้าวสาร ที่ใกล้หมดอายุเค้าเอาไปทำอะไรกัน) อีกอย่างพวกห้างมันซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายส่ง จะเทียบกับร้านรถเข็นหลายร้านที่ซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายปลีกได้ไง
ไม่สนใจขนาดนั้นครับ เเพราะถ้าเป็นไก่ยางนมสด ตัวละ 125 ลดเหลือ 55.75 บาท
มันไม่เคยรอดพ้นเย็นวันนั้นสักที
ช่วงไหนเงินฝืดมันก็จำเป็น
- Stargate-1 likes this
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#26
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:52
http://pantip.com/topic/30858684
บางทีน่ะครับ การที่ห้างใหญ่ๆ มา แล้วคุณต้องปิดกิจการไปเนี่ย ไม่ได้เกิดจากห้างใหญ่หรอก แต่เกิดจากตัวคุณเองมากกว่า โลกทุกวันมันเสรีครับ ใครให้อะไรทที่ถูกกว่าคนก็วิ่งเข้าหา บางทีก็เห็นเรียกร้องกันว่าให้ช่วยคนไทยกันหน่อย แต่ถามว่า ขายกันราคาแบบนี้ คุณเคยคิดช่วยคนอื่นมั้ย ข้างออฟฟิต นี่ กินทีนึง ก็จะ 50 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าน้ำน่ะ เมื่อก่อน EasyGo นี่อย่างแพง แต่ไปๆมาๆ ถูกกว่าได้ไง แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ แม่ค้าคงไม่สนใจ สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามันแพงมาก ก็คงต้องเป็นหน้าทีเรา ที่เปลี่ยนที่ซื้อใหม่
มีทั้งผัก ข้าวก็พอได้ แล้วก็แถมไข่ดาวด้วย ราคาแค่
ข้าวโลตัส.jpg
โอเค เลย แต่ต้องรอตอน 2 ทุ่ม รอครึ่งราคากันเป็นตับ เอามือแตะไว้ให้ดี เดี๋ยวโดนแย่ง
ลดราคาไม่ว่า แต่วัตถุดิบดิยที่เอามาทำส่วนใหญ่เป็นของค้างสต๊อกทั้งนั้น (เก็บให้เน่าแล้วทิ้งก็ไม่ได้มูลค่า สู้เอามาแปรรูปขายถูกๆดีกว่า) อีกอย่างพวกห้างมันซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายส่ง จะเทียบกับร้านรถเข็นหลายร้านที่ซื้อวัตถุดิบมาในราคาขายปลีกได้ไง
แนะนำให้ไปตอนทุ่มกว่าๆ ไปยืนจองเอาไว้ รอเขายิงป้ายเหลือง ไม่อย่างนั้น จะหมดเสียก่อน แต่ก่อน คนไม่เยอะ ขนาดนี้ แสดงว่าปัจจุบันคนจนลง ทุกวิถีทางที่ประหยัดได้ ก็ทำกันทั้งนั้น
คิดว่ายืนถือไว้ในมือดีกว่ามั้ง พอเขาจะยิงป้ายลดราคา ค่อยส่ง "น้องอันนี้ด้วย" 55555
คุณคิดว่าไปยืนจอง แล้วจะได้ ?
ประกาศออกมาในหน้าเพจโต้งๆ แบบนี้
คอยดูเหอะ จะมีคนรอเป็นเพื่อนเป็น 10 คน
ประมาณ 6โมง กว่าจะมีคนนับสิบ ยืนล้อมชั้นวางอาหารสำเร็จรูป แต่ยังไม่ซื้อ
Edited by koong, 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:53.
- G-GEAR53, อาตี๋ and Stargate-1 like this
#27
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 13:09
ข้าวขายให้คน หญ้าขายให้ควายแดง
#28
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 13:12
ที่ม.ผมออกแคมเปญอาหาร 25 บาทเหมือนกัน
แต่ขอโทษ กับข้าวที่ขาย 25 มีผัดวุ้นเส้น ผัดผัก ไข่พะโล้(มีแต่เต้าหู้ อย่าได้หวังว่าจะมีหมู)
ถ้าอยากกินเนื้อก็เริ่มต้นที่ 30 (กับข้าว 1 อย่าง) และ 35 (กับข้าว 2 อย่าง)นะคร้าบ
#29
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 21:18
ต้นทุนร้านอาหารพุ่ง 30%
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การปรับราคาก๊าซดังกล่าว แม้จะเป็นการทยอยปรับไปจนถึงเพดานที่กำหนด จากกิโลกรัมละ 18 บาทในปัจจุบัน เป็น 24.82 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5-6 บาท เมื่อคำนวณโดยสรุปแล้วจะพบว่าเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 25-30% ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น ทั้งร้านอาหารรายใหญ่และรายย่อยที่ไม่ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ เช่น รถเข็น รถเร่ เป็นต้น และจะมีผลต่อราคาอาหารแน่ โดยภาพรวมเชื่อว่าผู้ประกอบการคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะปรับราคาอาหารขึ้นไป เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนหรือวัตถุดิบที่จะนำมาประกอบอาหารปรับตัวขึ้นหมดแต่การจะปรับขึ้นมากน้อยแค่ไหนอย่างไรขึ้นอยู่กับความจำเป็นหรือเหตุผลของแต่ละราย
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการร้านอาหารในตลาดบองมาร์เช่ ย่านประชานิเวศน์ พบว่า ยังมีร้านอาหารจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบเรื่องการลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซในราคาเดิม และส่วนใหญ่มองว่าในระยะสั้นเชื่อว่าอาจจะไม่มีผลกระทบมากนัก แต่เมื่อบวกกับวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีราคาสูงขึ้น ก็จะเป็นแรงบีบให้ร้านอาหารต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับ นายชวลิต ฉ่อนเจริญ รองประธานชมรมภัตตาคารและร้านอาหาร จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การขึ้นราคาก๊าซ LPG ส่งผลกระทบต้นทุนการผลิตแน่นอน เมื่อรวมกับต้นทุนอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาอาหารสด ผักและเนื้อสัตว์ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน จะทำให้ต้นทุนการผลิตทั้งระบบเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% คาดว่าผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางใหญ่จะปรับราคาอาหารเพิ่มขึ้น เบื้องต้นอาจปรับเพิ่ม 10% แต่จะทยอยปรับราคาในบางเมนูที่มีต้นทุนสูง เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบมากนัก
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#30
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 21:29
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับหัวข้อหรือเปล่า
น้ำใจเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของป้าหาบ...แม่ค้า 5 บาท
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก นิตยสาร ค ฅน
ยุคสมัยนี้ เดินไปทางไหน หันไปร้านใด ก็มักจะเจอป้ายขอปรับขึ้นราคาสินค้า และอาหารอยู่จนชินตา โดยเจ้าของร้านมักจะอ้างว่า เพราะของมันแพงขึ้น ต้นทุนสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองร้านให้อยู่ต่อไปได้
แต่ทว่า ในอีกมุมหนึ่งของสังคม ยังมีแม่ค้าวัยย่างหกสิบปีคนหนึ่ง ประกอบอาชีพหาบเร่ค้าขายกับข้าวมานานกว่า 30 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ไข่ไก่ยังราคาเพียงฟองละห้าสิบสตางค์ และแม้วันนี้ราคาไข่ไก่จะพุ่งเกือบฟองละ 5 บาท แต่แกก็ยังคงยืดหยัดขายกับข้าวทุกอย่างในราคา 5 บาทเหมือนเมื่อสามสิบปีที่แล้วไม่มีผิดเพี้ยน
ในเวลาใกล้บ่ายสองของทุกวัน สายตาหลายคู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 33 แยก 3 จะเฝ้ามองหา ป้าแดง บุญยัง พิมพ์รัตน์ หรือที่ทุกคนเรียกแกว่า "ป้าหาบ" เพื่ออุดหนุนกับข้าวอร่อย ๆ ของแก ที่ทุกวันหาบหน้าของแกจะเต็มไปด้วยมะละกอ ข้าวเหนียว และครก ขณะที่หาบหลังเต็มไปด้วยกับข้าวและขนมหวานใส่ถุงพลาสติกกองสูงเป็นภูเขา
"ของทุกอย่างป้าแกขาย 5 บาท ที่ขายสิบบาทก็มีอย่างเดียว คือปลาหมึกเท่านั้น แกขายของแกอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยขึ้นราคาสักที" ลูกชายเจ้าของบ้านที่ป้าหาบใช้เป็นพื้นที่ขายของพูดถึงป้า
จุดเริ่มต้นของแม่ค้า 5 บาท ต้องย้อนไปตั้งแต่สมัยปี พ.ศ.2520 ที่ป้าหาบเดินทางจากจังหวัดร้อยเอ็ดเข้ามาอยู่กรุงเทพมหานคร และตัดสินใจจะขายส้มตำครกละ 5 บาท ให้คนงานในซอยซึ่งมีรายได้น้อยได้ทานกันอย่างอิ่มท้อง จนหลายสิบปีผ่านไป แกก็มีเงินเก็บไปปลูกบ้านที่ร้อยเอ็ดได้หนึ่งหลัง ทั้ง ๆ ที่ขายส้มตำในราคาเพียงครกละ 5 บาท และไม่เคยขยับราคาเลยสักครั้ง แม้ข้าวของจะแพงขึ้น แพงขึ้น เกือบเท่าตัว
"ขายราคานี้เพราะมันขายง่าย คนซื้อก็จ่ายง่าย ทุนฉันแต่ละวันก็พันกว่าบาท ก็พอมีกำไรนิด ๆ หน่อย ๆ ไอ้เรามันไม่มีหนี้สิน ก็อยู่ได้ ไม่ต้องไปโขกเอากำไรกับเขามากเกินไป" ป้าหาบ บอกถึงเหตุผลที่ขายกับข้าวเพียง 5 บาท
ป้าหาบ หรือ ป้าแดง ยังบอกอีกด้วยว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าหาบของแกมีมากหน้าหลายตา ทั้งขาประจำ ขาจร โดยเฉพาะช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ.2540 หาบของแกยิ่งขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งถ้าตอนนั้นแกปรับขึ้นราคาก็คงมีกำไรอู่ฟู่ไปแล้ว แต่แกไม่เคยคิดจะขึ้นราคาเลยสักที
"เคยยุให้แกขึ้นราคา แกก็งอนนะ บอกว่าขึ้นแล้วสงสารพวกโรงงาน ป้าแกมองถึงคนล่าง ๆ ที่ซื้อของแกกิน" ลูกค้าประจำ ซึ่งเป็นคุณครูโรงเรียนวัดสุวรรณาราม แอบกระซิบเรื่องของป้าอย่างชื่นชม
หลายคนสงสัยว่า แกขายกับข้าวในราคาเพียง 5 บาทมาได้อย่างไรตั้งนานกว่า 3 ทศวรรษ แล้วจะมีกำไรหรือ ป้าหาบยิ้มแล้วบอกว่า ตัวแกเองก็จำไม่ได้หรอกว่า ได้กำไรหรือขาดทุนอย่างไร เพราะแกคิดเพียงว่า แม้แกจะขายข้าวในราคา 5 บาท แต่ตัวแกเองไม่ได้เดือดร้อนอะไร อยากทานอะไรก็ได้ทาน ไม่เคยลำบาก และไม่ทำให้เป็นหนี้ใคร เพราะฉะนั้นก็ยังขาย 5 บาทได้อยู่
นอกจากป้าหาบจะใจดีขายกับข้าวทุกอย่างในราคาถุงละ 5 บาทแล้ว บ่อยครั้งที่จะเห็นแม่ค้าวัยชราคนนี้ หยิบยื่นกับข้าวให้ลูกค้าที่ไม่ค่อยมีเงินได้ทานกันฟรี ๆ แถมยังให้เสียเยอะจนผู้รับเองยังตกใจ
"นึกถึงตัวเองเวลาไม่มี ท้องหิวมันทรมานมากนะ คนเงินเดือนน้อย ๆ ก็อยากให้เขากินอิ่ม บางคนมีเงินมา 10 บาท มาซื้อกับป้า ป้าก็ให้เขาเยอะ ๆ เป็นข้าวเหนียวเป็นอะไรอย่างนี้ บางคนมาไกล ๆ ไม่มีเงินมา ป้าก็ให้ไปบ้าง หรือไม่ก็คิดเขาแค่ครึ่งเดียว 20 บาท เอา 10 บาทพอ" ป้าหาบ บอก
ความใจดีของป้าหาบ อาจจะเป็นเพราะในสมัยสาว ๆ แกเคยลำบากมาก่อน ทำมาหมดแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำนา ทำไร่ เป็นแม่บ้าน สุดท้ายมาจบที่แม่ค้าขายส้มตำ และเก็บหอมรอมริบเรื่อยมาจนพอมีเงินเก็บ แต่แกก็ยังเข้าใจหัวอกของคนยากไร้เป็นอย่างดี
"ของอย่างนี้นะหนู คนไม่เคยลำบากมาก่อนไม่มีทางเข้าใจหรอก บางทีแค่ยี่สิบบาท เราเห็นว่าน้อยนิด เขาก็หาไม่ได้นะ หรือบางคนย้ายไปอยู่ที่ไกล ๆ มาซื้อของป้า ป้าก็ยิ่งไม่เอาเงินเขาเลย กลัวเขาจะไม่มีค่ารถกลับบ้าน" ป้าหาบ เล่าด้วยความเข้าใจคนหัวอกเดียวกัน
เคล็ดลับที่ทำให้ป้าหาบสามารถคงราคา 5 บาทมาได้กว่า 30 ปี ก็ไม่ยากอะไร เพราะป้าหาบแกจะพยายามทำให้ต้นทุนต่ำที่สุด และซื้อวัตถุดิบจากเจ้าประจำทำให้ได้มาในราคาไม่แพงมาก ซึ่งแกก็จะตื่นแต่เช้ามืดมาทำกับข้าวเป็นหม้อ ๆ แล้วหาบของหนัก ๆ ออกมาขายช่วงบ่าย ๆ เป็นประจำเกือบทุกวันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ป้าหาบยังบอกอีกด้วยว่า แกสนุกกับสิ่งที่แกทำ เพราะได้คุยกับคนมากหน้าหลายตา และหากแกหยุดขายไปหนึ่งวันหรือสองวัน วันรุ่งขึ้นจะมีลูกค้ามาตัดพ้อเลยทีเดียว
"ถ้าเขาไม่มี เราก็ให้เขากินได้ เวลาเราไม่มี ก็คงจะมีคนยื่นมาให้เรากินบ้าง เหมือนว่าเราทำบุญ ยิ่งกว่าใส่บาตรอีกนะ การให้คนเขาได้กิน ใส่บาตรบางทีพระมีของกินเยอะ ๆ พระท่านก็ไม่ฉันอันนั้นอันนี้ แต่คนที่ไม่มีจะกิน ให้เขาไปเขาก็กินหมด และอิ่มด้วย ยิ่งบางคนให้ไป เขาไม่ลืมเลย ไปเจอกันอยู่กลางทาง เขาเห็นป้าแล้วบอกดีใจจังเลย นึกถึงที่ป้าให้ของกิน เขาบอกว่าไม่เคยลืมเรา ขนาด 9 ปี 10 ปี มาเจอกันวันนี้ ยังมีคนมาทักป้าเลย" ป้าหาบ เล่าด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างยิ่ง
ป้าหาบยังบอกด้วยว่า ชีวิตของแกพอมีพอกิน เงินเก็บก็พอมี หนี้สินไม่มี ลูกเต้าก็โตได้งานทำกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้น ชีวิตของแกก็ไม่ได้ลำบากอะไร เช่นนั้นแล้ว เมื่อแกพร้อม ก็สามารถทำอะไรอย่างที่แกอยากจะทำได้ด้วยความสบายใจซึ่งสิ่งนั้นก็คือ "การให้" นั่นเอง
เห็นไหมว่า เพียงแค่ความคิดเล็ก ๆ ของป้าหาบที่เจือจานน้ำใจอันยิ่งใหญ่สู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน กลับทำให้มุมหนึ่งของสังคมไทยในยุคข้าวยากหมากแพงดูแล้วมีความสุขขึ้นมาถนัดตา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสาร ค ฅน เดือนกรกฎาคม
#31
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 21:56
จานละ 25 บาท มันขายแถวไหนคะ อิฉันจะไม่ไปเฉียดเลย
ชอบของแพงแถวบ้านค่ะ ข้าวราดแกงจานละ 35 บาท สามมื้ออิ่มน้ำตาไหลเลยค่ะ โฮ๊ะๆๆ
- เพื่อนร่วมชาติ and แดงประจำเดือน like this
#32
ตอบ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 22:26
ข้างแกง กับข้าว1อย่าง 25 บาท ก็ถูกต้องแล้วนี่ แม่ค้ามันฟังได้ศัพท์เปล่าวะ สงสัยเป็นแม่ค้า แมงสาป
แม่ค้าคนดังกล่าว ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทำไมทางกระทรวงพาณิชย์ถึงอ้างว่า ลดราคาวัตถุดิบลงแล้ว แต่ผู้ค้ารายย่อยไม่ยอมลดราคาอาหาร ซึ่งตนอยากถามว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงเอาข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน เคยลงมาสำรวจตลาดบ้างไหม หรือเพียงแค่เดินดูป้ายราคาสินค้าตามห้างเท่านั้น เพราะความเป็นจริงราคาต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของแห้ง ก็ยังไม่ลดราคาลงเลย
#33
ตอบ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 00:31
สงสัยต้องนั่งเครื่องบินโลว์คอสต์ข้ามจังหวัดไปกินก๋วยเตี๋ยวราคาถูกๆ ซะแล้วมั้ง
Edited by อู๋ ฮานามิ, 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 00:31.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#34
ตอบ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:36
แม่ค้าโวย! กระทรวงพาณิชย์ คุมราคาข้าวแกง 25 บาท ลั่นให้ไปควบคุมราคาวัตถุดิบ อย่ามาควบคุมที่ร้านค้าปลีก เพราะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ
หลังจากที่กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ประกาศควบคุมราคาอาหารจานเดียว อาทิเช่น ข้าวราดแกง ข้าวผัด ข้าวผัดกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๋ว ให้อยู่ในราคา 25-30 บาทนั้น วานนี้ (30 มิถุนายน) จากการสำรวจตามตลาดสด และร้านค้าตามแหล่งชุมชนพบว่า แม่ค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และสงสัยว่าทำไมไม่ควบคุมที่ต้นเหตุ กลับมาสั่งควบคุมราคาขายปลีกซึ่งเป็นปลายเหตุ
โดยแม่ค้ารายหนึ่ง ย่านอาคารมาลีนนท์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องการควบคุมราคาอาหารตามสั่ง แต่ปัจจุบันอาหารตามสั่งของร้านตน ทุกอย่างจะมีราคา 25-30 บาทอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นอาหารทะเลจำพวก กุ้ง ปลาหมึก หรือเนื้อวัว หรือใส่ไข่เพิ่ม ตนจะคิดราคาเพิ่มอีก 5 บาท ถึงแม้ว่า ราคาเนื้อหมูกับเนื้อวัวในขณะนี้จะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารจานเดียวจากเนื้อหมูได้ เนื่องจากเนื้อหมูมีคนบริโภคมากกว่า ถ้าขึ้นราคาเท่ากันอาจจะส่งผลต่อยอดขายได้
แม่ค้าคนดังกล่าว ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทำไมทางกระทรวงพาณิชย์ถึงอ้างว่า ลดราคาวัตถุดิบลงแล้ว แต่ผู้ค้ารายย่อยไม่ยอมลดราคาอาหาร ซึ่งตนอยากถามว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงเอาข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน เคยลงมาสำรวจตลาดบ้างไหม หรือเพียงแค่เดินดูป้ายราคาสินค้าตามห้างเท่านั้น เพราะความเป็นจริงราคาต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของแห้ง ก็ยังไม่ลดราคาลงเลย
นอกจากนี้ แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ในตลาดสดท่าเรือคลองเตย กล่าวว่า การแก้ปัญหาโดยการควบคุมราคาข้าวราดแกงเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมถึงมองว่า ผู้ค้ารายย่อยจ้องจะเอาเปรียบแต่ผู้บริโภคเท่านั้น อยากให้มองกลับไปยังต้นตอของสาเหตุว่า ทำไมราคาวัตถุดิบถึงสูง ต้นทุนผู้ผลิต ผลิตกันอย่างไร ทำให้ราคาขายส่งขายปลีกจึงมีราคาอย่างปัจจุบัน ทั้งนี้เมื่อต้นทุนสูง จะให้ขายราคาถูกได้อย่างไร และเลิกโยนความผิดให้กับผู้ค้ารายย่อยได้แล้ว
ทางด้านแม่ค้าตามสั่ง ย่านตลาดหน้า สน.บางมด กล่าวว่า ตนขายอาหารตามสั่งมากว่า 10 ปี แล้ว ปีนี้เป็นปีที่วัตถุดิบขึ้นราคามากที่สุด ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และพืชผักต่าง ๆ เนื้อหมูจากกิโลกรัมละ 80 บาท ตอนนี้เป็นกิโลกรัมละ 135-140 บาท พ่อค้าแม่ค้าที่ไหนจะขายในราคาเดิมได้ จากเดิมตนขายข้าวราคาที่จานละ 25 บาท แต่ตอนนี้ตนต้องปรับเป็น 30-35 บาท อย่างไรก็ตามตนก็ขอวิงวอนไปยังผู้เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าด้วย
ขณะที่ แม่ค้าขายข้าวมันไก่ ย่านตลาดท่าน้ำศิริราช กล่าวว่า ราคาต้นทุนในการขายแต่ละวันจาก 4,000 บาท เพิ่มเป็น 6,000 บาท แต่ได้ของเท่าเดิม จึงจำเป็นต้องปรับราคาจากจานละ 25 บาท เป็น 30-40 บาท ถ้าไม่ปรับราคาก็จะไม่ได้กำไรเลย อีกทั้งค่าจ้างลูกน้องในร้านอีก ทั้งหมดถือว่าเป็นต้นทุนการผลิตทั้งนั้น ตนจึงอยากฝากถามกระทรวงพาณิชย์ว่า ทำไมต้องมากำหนดราคาขายด้วย ทำไมไม่ไปควบคุมราคาวัตถุดิบแทน ทำไมจะต้องมาให้ผู้จำหน่ายอาหารมาแบกรับภาระความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนแม่ค้าร้านข้าวมันไก่ชื่อดังในซอยวัชรพล กล่าวว่า อาหารแต่ละอย่างมันใช้ต้นทุนไม่เหมือนกัน ข้าวมันไก่ไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวที่ต้นทุนถูกกว่า ทุกวันนี้ตนซื้้อไก่จากฟาร์มไม่ใช่จากตลาดสด ไหนจะต้องเอามาต้มเอง ไหนจะค่าทำน้ำจิ้ม ไหนจะค่าเช่าตึกอีก อีกทั้งตอนนี้ตนไม่จ้างลูกจ้างแล้ว มาทำความสะอาดร้านเอง เพื่อประหยัดต้นทุน หากจะบังคับให้ขายในราคา 25 บาท ตนคงต้องหาทำเลใหม่ ไม่ก็เลิกขายไปเลย
น่าสังเวชกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีปัญญาคุ้มราคาสินค้า'อิทธิพล' เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ปูนซิเมนท์ วัสดุก่อสร้าง อัตราดอกเบี้ย ฯลฯ....
เก่งแต่ข่มขู่แม่ค้าขายข้าวแกง พ่อค้าขายข้าวมันไก่ ลุงขายน้ำขวด ป้าขายขนมจีนน้ำยา.....
เพราะรู้ว่าพ่อค้าแม่ค้าไม่มีปัญญาจ้างทนายความ หิ้วถุงขนมแจกตำรวจ สู้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมการค้าภายใน.....!
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#35
ตอบ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:43
แม่ค้าข้าวแกงเสื้อแดงแถวบ้านบอก
ไม่กลัวหรอกควบคุุมราคา
สส.แถวบ้านรู้จักกันดี
"เขาจะดูแลให้ เราพวกเดียวกัน"
#36
ตอบ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:37
พณ.ประกาศราคาจำหน่ายเนื้อหมู กทม. 130 บ./ก.ก.
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมในการจำหน่ายสุกร และเนื้อสุกร ทางกรมการค้าภายในจึงได้ประกาศราคาแนะนำการจำหน่าย โดยให้มีผลบังคับใช้ ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคมถึง 3 กันยายน โดยราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มเขตกรุงเทพมหานคร ภาคกลางและภาคตะวันตก จำหน่ายไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 70 บาท ราคาสุกรชำแหละ กิโลกรัมละไม่เกิน 83 บาท และราคาจำหน่ายปลีกสุกรเนื้อแดงส่วนสะโพกและไหล่ ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 130 บาท โดยราคาจำหน่ายปลีก ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกินกิโลกรัมละ 130 บาท ภาคตะวันออกไม่เกินกิโลกรัมละ 132 บาท ภาคใต้ไม่เกินกิโลกรัมละ 137 บาท และภาคเหนือไม่เกินกิโลกรัมละ 135 บาท และสำหรับเนื้อสุกรตัดแต่งพิเศษ จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีก กิโลกรัมละ 10 - 11 บาท โดยทางกรมการค้าภายใน ะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ให้ผู้ประกอบการมีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับตามกฎหมายไม่เกิน 10,000 บาท
เอ้า เขาควบคุมวัตถุดิบ ให้แล้วนะ
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#37
ตอบ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:51
แม่ค้าโวย! กระทรวงพาณิชย์ คุมราคาข้าวแกง 25 บาท ลั่นให้ไปควบคุมราคาวัตถุดิบ อย่ามาควบคุมที่ร้านค้าปลีก เพราะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ
หลังจากที่กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ประกาศควบคุมราคาอาหารจานเดียว อาทิเช่น ข้าวราดแกง ข้าวผัด ข้าวผัดกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๋ว ให้อยู่ในราคา 25-30 บาทนั้น วานนี้ (30 มิถุนายน) จากการสำรวจตามตลาดสด และร้านค้าตามแหล่งชุมชนพบว่า แม่ค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และสงสัยว่าทำไมไม่ควบคุมที่ต้นเหตุ กลับมาสั่งควบคุมราคาขายปลีกซึ่งเป็นปลายเหตุ
โดยแม่ค้ารายหนึ่ง ย่านอาคารมาลีนนท์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องการควบคุมราคาอาหารตามสั่ง แต่ปัจจุบันอาหารตามสั่งของร้านตน ทุกอย่างจะมีราคา 25-30 บาทอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นอาหารทะเลจำพวก กุ้ง ปลาหมึก หรือเนื้อวัว หรือใส่ไข่เพิ่ม ตนจะคิดราคาเพิ่มอีก 5 บาท ถึงแม้ว่า ราคาเนื้อหมูกับเนื้อวัวในขณะนี้จะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารจานเดียวจากเนื้อหมูได้ เนื่องจากเนื้อหมูมีคนบริโภคมากกว่า ถ้าขึ้นราคาเท่ากันอาจจะส่งผลต่อยอดขายได้
แม่ค้าคนดังกล่าว ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทำไมทางกระทรวงพาณิชย์ถึงอ้างว่า ลดราคาวัตถุดิบลงแล้ว แต่ผู้ค้ารายย่อยไม่ยอมลดราคาอาหาร ซึ่งตนอยากถามว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงเอาข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน เคยลงมาสำรวจตลาดบ้างไหม หรือเพียงแค่เดินดูป้ายราคาสินค้าตามห้างเท่านั้น เพราะความเป็นจริงราคาต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของแห้ง ก็ยังไม่ลดราคาลงเลย
นอกจากนี้ แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ในตลาดสดท่าเรือคลองเตย กล่าวว่า การแก้ปัญหาโดยการควบคุมราคาข้าวราดแกงเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมถึงมองว่า ผู้ค้ารายย่อยจ้องจะเอาเปรียบแต่ผู้บริโภคเท่านั้น อยากให้มองกลับไปยังต้นตอของสาเหตุว่า ทำไมราคาวัตถุดิบถึงสูง ต้นทุนผู้ผลิต ผลิตกันอย่างไร ทำให้ราคาขายส่งขายปลีกจึงมีราคาอย่างปัจจุบัน ทั้งนี้เมื่อต้นทุนสูง จะให้ขายราคาถูกได้อย่างไร และเลิกโยนความผิดให้กับผู้ค้ารายย่อยได้แล้ว
ทางด้านแม่ค้าตามสั่ง ย่านตลาดหน้า สน.บางมด กล่าวว่า ตนขายอาหารตามสั่งมากว่า 10 ปี แล้ว ปีนี้เป็นปีที่วัตถุดิบขึ้นราคามากที่สุด ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และพืชผักต่าง ๆ เนื้อหมูจากกิโลกรัมละ 80 บาท ตอนนี้เป็นกิโลกรัมละ 135-140 บาท พ่อค้าแม่ค้าที่ไหนจะขายในราคาเดิมได้ จากเดิมตนขายข้าวราคาที่จานละ 25 บาท แต่ตอนนี้ตนต้องปรับเป็น 30-35 บาท อย่างไรก็ตามตนก็ขอวิงวอนไปยังผู้เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าด้วย
ขณะที่ แม่ค้าขายข้าวมันไก่ ย่านตลาดท่าน้ำศิริราช กล่าวว่า ราคาต้นทุนในการขายแต่ละวันจาก 4,000 บาท เพิ่มเป็น 6,000 บาท แต่ได้ของเท่าเดิม จึงจำเป็นต้องปรับราคาจากจานละ 25 บาท เป็น 30-40 บาท ถ้าไม่ปรับราคาก็จะไม่ได้กำไรเลย อีกทั้งค่าจ้างลูกน้องในร้านอีก ทั้งหมดถือว่าเป็นต้นทุนการผลิตทั้งนั้น ตนจึงอยากฝากถามกระทรวงพาณิชย์ว่า ทำไมต้องมากำหนดราคาขายด้วย ทำไมไม่ไปควบคุมราคาวัตถุดิบแทน ทำไมจะต้องมาให้ผู้จำหน่ายอาหารมาแบกรับภาระความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนแม่ค้าร้านข้าวมันไก่ชื่อดังในซอยวัชรพล กล่าวว่า อาหารแต่ละอย่างมันใช้ต้นทุนไม่เหมือนกัน ข้าวมันไก่ไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวที่ต้นทุนถูกกว่า ทุกวันนี้ตนซื้้อไก่จากฟาร์มไม่ใช่จากตลาดสด ไหนจะต้องเอามาต้มเอง ไหนจะค่าทำน้ำจิ้ม ไหนจะค่าเช่าตึกอีก อีกทั้งตอนนี้ตนไม่จ้างลูกจ้างแล้ว มาทำความสะอาดร้านเอง เพื่อประหยัดต้นทุน หากจะบังคับให้ขายในราคา 25 บาท ตนคงต้องหาทำเลใหม่ ไม่ก็เลิกขายไปเลย
น่าสังเวชกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีปัญญาคุ้มราคาสินค้า'อิทธิพล' เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ปูนซิเมนท์ วัสดุก่อสร้าง อัตราดอกเบี้ย ฯลฯ....
เก่งแต่ข่มขู่แม่ค้าขายข้าวแกง พ่อค้าขายข้าวมันไก่ ลุงขายน้ำขวด ป้าขายขนมจีนน้ำยา.....
เพราะรู้ว่าพ่อค้าแม่ค้าไม่มีปัญญาจ้างทนายความ หิ้วถุงขนมแจกตำรวจ สู้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมการค้าภายใน.....!
แต่ทนหิวไม่ได้.....
จึงสั่งเกาเหลาเย็นตาโฟ ชามละ 75 บาท ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม 90 บาท
และน้ำแร่ 20 บาท หนึ่งขวดแบ่งกันดื่มระหว่างผัวเมีย...
อยากแจ้ง รมช.ยรรยง และอธิบดีกรมการค้าภายในไปจับ.....
แต่กลัวเจ้าของโรงพยาบาล หรือเจ้าของศูนย์ติดคุก 7 ปี
ไปคราวหน้าจะอดกิน......!
Edited by ปุถุชน, 1 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:08.
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#38
ตอบ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:57
แม่ค้าโวย! กระทรวงพาณิชย์ คุมราคาข้าวแกง 25 บาท ลั่นให้ไปควบคุมราคาวัตถุดิบ อย่ามาควบคุมที่ร้านค้าปลีก เพราะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ
หลังจากที่กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ประกาศควบคุมราคาอาหารจานเดียว อาทิเช่น ข้าวราดแกง ข้าวผัด ข้าวผัดกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๋ว ให้อยู่ในราคา 25-30 บาทนั้น วานนี้ (30 มิถุนายน) จากการสำรวจตามตลาดสด และร้านค้าตามแหล่งชุมชนพบว่า แม่ค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และสงสัยว่าทำไมไม่ควบคุมที่ต้นเหตุ กลับมาสั่งควบคุมราคาขายปลีกซึ่งเป็นปลายเหตุ
โดยแม่ค้ารายหนึ่ง ย่านอาคารมาลีนนท์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องการควบคุมราคาอาหารตามสั่ง แต่ปัจจุบันอาหารตามสั่งของร้านตน ทุกอย่างจะมีราคา 25-30 บาทอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นอาหารทะเลจำพวก กุ้ง ปลาหมึก หรือเนื้อวัว หรือใส่ไข่เพิ่ม ตนจะคิดราคาเพิ่มอีก 5 บาท ถึงแม้ว่า ราคาเนื้อหมูกับเนื้อวัวในขณะนี้จะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารจานเดียวจากเนื้อหมูได้ เนื่องจากเนื้อหมูมีคนบริโภคมากกว่า ถ้าขึ้นราคาเท่ากันอาจจะส่งผลต่อยอดขายได้
แม่ค้าคนดังกล่าว ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทำไมทางกระทรวงพาณิชย์ถึงอ้างว่า ลดราคาวัตถุดิบลงแล้ว แต่ผู้ค้ารายย่อยไม่ยอมลดราคาอาหาร ซึ่งตนอยากถามว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงเอาข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน เคยลงมาสำรวจตลาดบ้างไหม หรือเพียงแค่เดินดูป้ายราคาสินค้าตามห้างเท่านั้น เพราะความเป็นจริงราคาต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของแห้ง ก็ยังไม่ลดราคาลงเลย
นอกจากนี้ แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ในตลาดสดท่าเรือคลองเตย กล่าวว่า การแก้ปัญหาโดยการควบคุมราคาข้าวราดแกงเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมถึงมองว่า ผู้ค้ารายย่อยจ้องจะเอาเปรียบแต่ผู้บริโภคเท่านั้น อยากให้มองกลับไปยังต้นตอของสาเหตุว่า ทำไมราคาวัตถุดิบถึงสูง ต้นทุนผู้ผลิต ผลิตกันอย่างไร ทำให้ราคาขายส่งขายปลีกจึงมีราคาอย่างปัจจุบัน ทั้งนี้เมื่อต้นทุนสูง จะให้ขายราคาถูกได้อย่างไร และเลิกโยนความผิดให้กับผู้ค้ารายย่อยได้แล้ว
ทางด้านแม่ค้าตามสั่ง ย่านตลาดหน้า สน.บางมด กล่าวว่า ตนขายอาหารตามสั่งมากว่า 10 ปี แล้ว ปีนี้เป็นปีที่วัตถุดิบขึ้นราคามากที่สุด ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และพืชผักต่าง ๆ เนื้อหมูจากกิโลกรัมละ 80 บาท ตอนนี้เป็นกิโลกรัมละ 135-140 บาท พ่อค้าแม่ค้าที่ไหนจะขายในราคาเดิมได้ จากเดิมตนขายข้าวราคาที่จานละ 25 บาท แต่ตอนนี้ตนต้องปรับเป็น 30-35 บาท อย่างไรก็ตามตนก็ขอวิงวอนไปยังผู้เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าด้วย
ขณะที่ แม่ค้าขายข้าวมันไก่ ย่านตลาดท่าน้ำศิริราช กล่าวว่า ราคาต้นทุนในการขายแต่ละวันจาก 4,000 บาท เพิ่มเป็น 6,000 บาท แต่ได้ของเท่าเดิม จึงจำเป็นต้องปรับราคาจากจานละ 25 บาท เป็น 30-40 บาท ถ้าไม่ปรับราคาก็จะไม่ได้กำไรเลย อีกทั้งค่าจ้างลูกน้องในร้านอีก ทั้งหมดถือว่าเป็นต้นทุนการผลิตทั้งนั้น ตนจึงอยากฝากถามกระทรวงพาณิชย์ว่า ทำไมต้องมากำหนดราคาขายด้วย ทำไมไม่ไปควบคุมราคาวัตถุดิบแทน ทำไมจะต้องมาให้ผู้จำหน่ายอาหารมาแบกรับภาระความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนแม่ค้าร้านข้าวมันไก่ชื่อดังในซอยวัชรพล กล่าวว่า อาหารแต่ละอย่างมันใช้ต้นทุนไม่เหมือนกัน ข้าวมันไก่ไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวที่ต้นทุนถูกกว่า ทุกวันนี้ตนซื้้อไก่จากฟาร์มไม่ใช่จากตลาดสด ไหนจะต้องเอามาต้มเอง ไหนจะค่าทำน้ำจิ้ม ไหนจะค่าเช่าตึกอีก อีกทั้งตอนนี้ตนไม่จ้างลูกจ้างแล้ว มาทำความสะอาดร้านเอง เพื่อประหยัดต้นทุน หากจะบังคับให้ขายในราคา 25 บาท ตนคงต้องหาทำเลใหม่ ไม่ก็เลิกขายไปเลย
น่าสังเวชกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีปัญญาคุ้มราคาสินค้า'อิทธิพล' เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ปูนซิเมนท์ วัสดุก่อสร้าง อัตราดอกเบี้ย ฯลฯ....
เก่งแต่ข่มขู่แม่ค้าขายข้าวแกง พ่อค้าขายข้าวมันไก่ ลุงขายน้ำขวด ป้าขายขนมจีนน้ำยา.....
เพราะรู้ว่าพ่อค้าแม่ค้าไม่มีปัญญาจ้างทนายความ หิ้วถุงขนมแจกตำรวจ สู้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมการค้าภายใน.....!
แม่ค้าโวย! คุมราคาข้าวแกง 25 บาท จวกพาณิชย์คุมวัตถุดิบStarted by Stargate-1, 29 August 13 17:10วันนี้ไปตรวจสุขภาพ ต้องตรวจเลือดด้วย....จึงไปแต่เช้าก่อน 08.00 น.หลังจากเจาะเลือดแล้ว ก็ไปกินอาหารที่ศุนย์อาหารของโรงพยาบาล.....เดินไปเดินมา เห็นราคาแล้วอยากกลับไปกินที่บ้านแต่ทนหิวไม่ได้.....
จึงสั่งเกาเหลาเย็นตาโฤ ชามละ 75 บาท ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม 90 บาท
และน้ำแร่ 20 บาท หนึ่งขวดแบ่งกันดื่มระหว่างผัวเมีย...
อยากแจ้ง รมช.ยรรยง และอธิบดีกรมการค้าภายในไปจับ.....
แต่กลัวเจ้าของโรงพยาบาล หรือเจ้าของศูนย์ติดคุก 7 ปี
ไปคราวหน้าจะอดกิน......!
ไม่เลือกรพ.ที่แถมข้าวด้วยล่ะครับ ประหยัดทั้งมื้อเช้า มื้อเที่ยงเลย
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#39
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:21
http://pantip.com/topic/30858684
บางทีน่ะครับ การที่ห้างใหญ่ๆ มา แล้วคุณต้องปิดกิจการไปเนี่ย ไม่ได้เกิดจากห้างใหญ่หรอก แต่เกิดจากตัวคุณเองมากกว่า โลกทุกวันมันเสรีครับ ใครให้อะไรทที่ถูกกว่าคนก็วิ่งเข้าหา บางทีก็เห็นเรียกร้องกันว่าให้ช่วยคนไทยกันหน่อย แต่ถามว่า ขายกันราคาแบบนี้ คุณเคยคิดช่วยคนอื่นมั้ย ข้างออฟฟิต นี่ กินทีนึง ก็จะ 50 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าน้ำน่ะ เมื่อก่อน EasyGo นี่อย่างแพง แต่ไปๆมาๆ ถูกกว่าได้ไง แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ แม่ค้าคงไม่สนใจ สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามันแพงมาก ก็คงต้องเป็นหน้าทีเรา ที่เปลี่ยนที่ซื้อใหม่
มีทั้งผัก ข้าวก็พอได้ แล้วก็แถมไข่ดาวด้วย ราคาแค่
ข้าวโลตัส.jpgโอเค เลย แต่ต้องรอตอน 2 ทุ่ม รอครึ่งราคากันเป็นตับ เอามือแตะไว้ให้ดี เดี๋ยวโดนแย่ง
แนะนำให้ไปตอนทุ่มกว่าๆ ไปยืนจองเอาไว้ รอเขายิงป้ายเหลือง ไม่อย่างนั้น จะหมดเสียก่อน แต่ก่อน คนไม่เยอะ ขนาดนี้ แสดงว่าปัจจุบันคนจนลง ทุกวิถีทางที่ประหยัดได้ ก็ทำกันทั้งนั้น
คิดว่ายืนถือไว้ในมือดีกว่ามั้ง พอเขาจะยิงป้ายลดราคา ค่อยส่ง "น้องอันนี้ด้วย" 55555
คุณคิดว่าไปยืนจอง แล้วจะได้ ?
ประกาศออกมาในหน้าเพจโต้งๆ แบบนี้
คอยดูเหอะ จะมีคนรอเป็นเพื่อนเป็น 10 คน
ประมาณ 6โมง กว่าจะมีคนนับสิบ ยืนล้อมชั้นวางอาหารสำเร็จรูป แต่ยังไม่ซื้อ
เย็นนี้ อย่าลืมแวะไปลองดู ว่าเท็จจริงประการใด ที่โลตัสใกล้บ้าน หรือ ที่ทำงานท่าน ช่วงเวลาดังกล่าว
- koong likes this
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#40
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:58
กระทรวงพาณิชย์ไม่เคยเดินตลาดใช่ไหมครับเนี่ย?
/人◕ ‿‿ ◕人\
คงไม่เคยกินข้าวราดแกง กับ 2 อย่าง ธรรมดาๆ ก็ 35 แล้ว
#41
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:30
เราจะบูรณาการทุกภาคส่วนคร๊าาาาาาาาาา
ดังนั้นเราจึงกระชากค่าครองชีพขึ้นมานะคร๊าาาาาาา
ให้เุถอะค่ะ...ให้การไฟฟ้า ให้ทางการพิเศษ ให้ปตท. และให้รัฐบาลขูดรีดภาษีเถอะคร๊าาาาาาาาาาา
สินค้าแพง ประชาชนรู้สึกไปเองนะคร๊าาาาาา
ไม่ได้แพงเลยคร๊าาาาาาาาาาา
ชอบไหมคร๊าาาาาาาาาาาาาาา
/人◕ ‿‿ ◕人\
- ต้นหอม likes this
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#42
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:20
เพิ่งซื้อหมู กก.ละ 160 บาท ใจกลาง กทม.
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#43
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:46
เพิ่งซื้อหมู กก.ละ 160 บาท ใจกลาง กทม.
หมูแพง คิดไปเองนะคร๊าาาาาาาาาาาา
/人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#44
ตอบ 4 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:59
ท่าจะบ้า ควบคุมข้าวแกง 25 บาท อาหารตามสั่งตอนนี้ 35-40 บาท แล้ว ถ้าเป็นกุ้ง ปลาหมึก ก็ 50 บาท
เมื่อวานดูข่าวมันให้สัมภาษณ์แล้ว งง กับนังวัชรีจริงๆ เค้าถามว่าของมันแพงขึ้นจะแก้ยังไง มันบอกว่า ของไม่แพง ไปตรวจสอบมาก็ไม่แพง แต่เสือk บอกว่า ไปถามคนขายร้านแก๊ส คนขายแก๊สบอกว่า ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมไ่ม่แปลกใจที่ประเทศไทยไม่เจริญ ก็ขนาดปลัดกระทรวง ยังโง่ขนาดนี้ ได้เลื่อนขั้นมาเนี่ย ไม่ใช่ฝีมือ แต่เป็นฝีเลีย
- Kyubey likes this
#45
ตอบ 6 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:01
วันนี้ ( 4 ก.ย56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดานักเรียนและนักศึกษาที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียน สถานศึกษาทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่ารับประทานอาหารไม่ค่อยอิ่มท้อง เนื่องจากแม่ค้าเปิดร้านจำหน่ายอาหารในโรงอาหารของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตักอาหารให้ปริมาณน้อย ส่วนใหญ่อ้างว่าวัตถุดิบประกอบอาหารและก๊าซปรับราคาขึ้นทำให้ต้องลดต้นทุน แต่หากอยากได้เพิ่มขึ้นต้องสั่งอีกในราคาพิเศษ
น.ส.จุฑามาศ เกิดพิณ นักศึกษาชั้น ปวช. 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการพิษณุโลก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สั่งซื้ออาหารจานละ 15-20 บาทก็กินอิ่มท้องแล้ว แต่ปัจจุบันไม่ค่อยอิ่มท้องเท่าไหร่ เพราะแม่ค้าตักอาหารให้ปริมาณน้อย หากจะรับประทานให้อิ่มต้องสั่งเป็นพิเศษ นอกจากนี้แม่ค้าได้ปรับราคาแพงขึ้นอีกเมนูละ 5 บาท ส่วนใหญ่อ้างว่าก๊าซแพงและต้นทุนพุ่งทำให้มีกำไรน้อย จึงต้องลดต้นทุนด้วยการลดปริมาณลง ทั้งนี้ จากที่เคยซื้อในราคา 20 บาท ปัจจุบันจะต้องซื้อในราคา 25 บาท หลังจากที่มีการปรับราคาก๊าซ ทางร้านค้าของโรงอาหารก็มีการปรับราคาขายแพงขึ้น ปริมาณอาหารลดลง ทำให้ตนเองได้รับผลกระทบ มีภาระค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินเพิ่มขึ้น
ด้านนางศราวรรณ ปิยะเวชการ เจ้าของร้านรสดี ที่จำหน่ายก๋วยเตี๋ยว ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้ต้นทุนในการทำก๋วยเตี๋ยวแพงขึ้น ทั้งค่าก๊าซ ค่าวัตถุดิบอื่นๆ ก๊าซหุงต้มที่ร้านของตน เคยซื้อในราคาถังละ 297 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคาถังละ 315 บาท วัตถุดิบอื่นๆ อย่างเนื้อหมู เนื้อไก่ ก็แพงขึ้นด้วยเช่นกัน นางศราวรรณ กล่าวอีกว่า จำเป็นต้องตักอาหารลดปริมาณลงกว่าปกติ เพื่อให้พอมีกำไรบ้าง เพราะตอนนี้ได้รับผลกระทบมาก จากต้นทุนที่แพงขึ้น ก็อยากให้ภาครัฐช่วยดูแลเรื่องต้นทุนให้ลดลง เพราะทางร้านไม่ต้องการที่จะผลักภาระให้กับนักเรียน นักศึกษา เพราะขณะนี้ที่ร้านป้าน้องก็จำเป็นต้องตักอาหารในปริมาณที่ลดลง ซึ่งก็สงสารเด็กๆ ที่รับประทานอาหารไม่อิ่ม
นายต้อม เลิศเสนา พ่อค้าขายข้าวแกง ร้านน้ำเงินตามสั่ง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ครอบครัวเปิดขายข้าวแกงราคาถูกตั้งแต่จานละ 10-15 บาท มานานกว่า 15 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่มีรายได้น้อย ก็เตรียมปรับขึ้นอย่างน้อยจานละ 5 บาท หลังแบกรับภาระต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม ราคาก๊าซหุงต้มและสินค้าอีกหลายประเภทที่นำมาประกอบอาหารทุกชนิดปรับตัวขึ้นไม่หยุด
“หลังจากรัฐบาลปรับราคาก๊าซหุงต้มขึ้นจากเดิมถังขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม ซื้อในราคาถังละ 300 บาท ปัจจุบันปรับขึ้นเป็นถังละ 320 บาท ประกอบกับเนื้อหมู ไก่ ไข่ ที่นำมาประกอบอาหารก็ปรับราคาขึ้นเช่นกัน ทำให้ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ถึงแม้จะขายหมดแต่กำไรก็ลดลง 20% จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวของแพงก่อนที่จะเดือดร้อนมากไปกว่านี้”นายต้อมกล่าว
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#46
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:48
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#48
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:33
http://pantip.com/topic/30952116
กระทู้นี้สิครับ เสื้อแดงด่าคนที่บอกว่าของแพง แต่ไม่ยักด่ารัฐบาล
/人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#50
ตอบ 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:53
ธงฟ้ามาแล้ว! “พาณิชย์” ทุ่ม 200 ล้านจัดเฉียดพันครั้งในปี 57 ช่วยค่าครองชีพประชาชน
กรมการค้าภายในทุ่ม 200 ล้านจัดธงฟ้างบประมาณปี 57 จำนวน 938 ครั้งทั่วประเทศ ขนสินค้าราคาถูกจำหน่ายช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน พร้อมจับมือร้านอาหารจานด่วนขายอาหารเมนูละ 25-30 บาท แลกช่วยเหลือด้านวัตถุดิบ
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2557 (ต.ค. 2556-ก.ย. 2557) กรมฯ มีแผนที่จะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาทในการจัดงานธงฟ้าทั่วประเทศ 938 ครั้ง โดยนำสินค้าอุปโภคบริโภคราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20-40% ออกไปจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนทั่วประเทศ แบ่งเป็นการจัดงานระดับประเทศในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 2 ครั้ง ระดับเขตในพื้นที่กรุงเทพฯ 50 เขต จำนวน 50 ครั้ง ระดับภูมิภาค 8 ครั้ง และระดับอำเภอทั่วประเทศ 878 ครั้ง คาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้ 1,031 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะดูแลราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) โดยได้ร่วมมือกับร้านอาหารธงฟ้าในเขตกรุงเทพฯ 500 แห่ง จำหน่ายอาหารจานด่วนจานละ 25-30 บาท และบางแห่งอาจมีการปรับลดราคาเหลือ 20-25 บาทต่อจาน โดยกรมฯ ได้ให้ความช่วยเหลือร้านค้าเหล่านี้ โดยจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงและเชื่อมโยงวัตถุดิบ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ราคาถูกให้ พร้อมทั้งมีการขอความร่วมมือห้างค้าปลีก ค้าส่งขนาดใหญ่ จัดให้มีรายการอาหารปรุงสำเร็จจำหน่ายในราคาจานละ 30-35 บาท
นอกจากนี้ กรมฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคของกลุ่มใหม่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรงงานที่ได้รับค่าจ้างในระดับขั้นต่ำหรือวันละ 300 บาท และกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางในระดับ 15,000-20,000 บาทต่อเดือน เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ในระดับปานกลางจะเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างประสบปัญหา เรื่องค่าครองชีพมากเพราะมีภาระมาก ทั้งเรื่องค่าทางด่วน ค่าผ่อนรถยนต์ ค่าน้ำมัน ผ่อนที่อยู่อาศัย เป็นต้น ต่างจากระดับรากหญ้าที่ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากโครงการธงฟ้าต่างๆ จึงต้องมีมาตรการช่วยเหลือเป็นการเฉพาะ
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน