ที่มา http://www.thaiagrin...-ยางพาราราคาตก/
Posted 30 August 2013 - 14:00
ที่มา http://www.thaiagrin...-ยางพาราราคาตก/
Posted 30 August 2013 - 14:47
ยางสังเคราะห์ได้มีการผลิตมานานแล้ว ตั้งแต่ ค.ศ. 1940 ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มีการผลิตยางสังเคราะห์ขึ้นในอดีต เนื่องจากการขาดแคลนยางธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์และปัญหาในการขนส่งจากแหล่งผลิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบันได้มีการพัฒนาการผลิตยางสังเคราะห์เพื่อให้ได้ยางที่มีคุณสมบัติตามต้องการในการใช้งานที่สภาวะต่าง ๆ เช่น ที่สภาวะทนต่อน้ำมัน ทนความร้อน ทนความเย็น เป็นต้น การใช้งานยางสังเคราะห์จะแบ่งตามการใช้งานออกเป็น 2 ประเภทคือ[1][2]
การผลิตยางสังเคราะห์เป็นจะผลิตโดยการทำปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน (polymerization) ซึ่งการพอลิเมอไรเซชันคือ ปฏิกิริยาการเตรียมพอลิเมอร์ (polymer) จากมอนอเมอร์ (monomer) โดยพอลิเมอร์ ในที่นี้คือ ยางสังเคราะห์ที่ต้องการผลิต ในส่วนของมอนอเมอร์คือสารตั้งต้นในการทำปฏิกิริยานั่นเอง [3]
ชนิดของยางสังเคราะห์[แก้]Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 14:51
ยางเป็นน้ำยางเหนียว ซึ่งซึมออกจากต้นยาง ต้นยางมีต้นกำเนิดที่ประเทศบราซิลปละบริเวณเขตร้อนแต่เป็นสินค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ในกลุ่มประเทศอินเดียตะวันออกและแอฟริกา ในน้ำยางจะประกอบด้วยยางไม้ 35% และ 65% เป็นน้ำน้ำยางจะถูกทำให้เป็นก้อนแข็งหรือการ จับเป็นก้อนด้วยการใส่กรดน้ำส้ม หลังจากนั้นน้ำจะถูกขจัดออกไปจากเนื้อยางโดยการบีบคั้น จะได้เป็นยางดิบยางดิบจะเป็นกาวได้ดีเยี่ยม และ ใช้เป็น ตัว ประสานได้มากมายหลายชนิด โดยการละลายยางดิบในสารละลายที่เหมาะสม
ยางธรรมชาติ การใช้ยางธรรมชาติสมัยใหม่เริ่มจากปี พ.ศ. 2382 เมื่อนายชาร์ลส์ กู๊ดเยียร์ ค้นพบกรรมวิธีเพิ่มคุณภาพของยางธรรมชาติเรียกว่า กรรมวิธีวัลคาไนซ์ โดยการเติมกำมะถัน 30% ลงไปในเนื้อยาง และให้ความร้อนแก่ยางธรรมชาติในอุณหภูมิที่เหมาะสมกำมะถันจะทำให้ยาง มีความแข็งแรง ต่อมาได้ถูกค้นพบว่ากรรมวิธีวัลคาไนซ์ที่จะทำให้ยางมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นอย่างมากได้แก่การเติมสีเข้าไปในยางจึงมีการเติมคาร์บอน เข้าไปในยาง คาร์บอนทำให้ยางเป็นสีดำ ซึ่งจะทำให้ยางแข็งตึง ทำให้เหนียวและต้านทานการออกซิเดชันยางสมัยใหม่ในปัจจุบันจะใส่กำมะถัน ในปริมาณน้อยกว่า 3% ทำให้ความยืดหยุ่นของยางดีขึ้น ถ้าอบยางด้วยความร้อนสูงด้วยไอน้ำ และทำให้เป็นกลางกับแมกนีเซียมคาร์บอเนต ยางจะสามารถรีดจนเป็นยางแผ่นบาง ๆ ได้ดี ยางสามารถเป็นส่วนผสมที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง มีความอ่อนและเหนียวจนถึงแข็งมาก ใช้กับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูงได้ เส้นใยผ้าหรือเนื้อผ้าจะถูกเคลือบตัวยาง เมื่อใช้งานที่มีโหลด ทำยางรถยนต์ รถบรรทุกยางธรรมชาติ จะมีความยืดหยุ่นสูง เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี มีความฝืดต่ำ และต้านทานสารอนินทรีย์ เช่น กรด เกลือ และด่าง แต่ไม่คงทนต่อผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ยางธรรมชาติใช้ทำท่อยางน้ำ สายพานเครื่องจักร ยางตัน บูช ปุ่มยาง และถุงมือ
ยางเทียมหรือยางสังเคราะห์
ยางเทียมหรือยางสังเคราะห์เป็นวัสดุที่มีคุณภาพคล้ายกับยางธรรมชาติ มีความต้านทานต่อน้ำมัน สารเคมี และความร้อนได้สูงและมีอายุ การใช้งานยาวนานยางสังเคราะห์ไม่มีความยืดหยุ่นเหมือนยางธรรมชาติดังนั้นในการใช้งานจึงมีการผสมระหว่างยางแท้กับยางเทียมซึ่งจะทำให้ ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติของยางแท้และยางเทียมในตัวเดียวกัน ยางสังเคราะห์มีหลายชนิดได้แก่
1. ยางสไตรีน-บิวทาไดน์ (styrene-butadiene rubber; SBR) เป็นยางสังเคราะห์ที่ใช้งานกันมากในสหรัฐอเมริกา ยางมีส่วนผสมของบิวทาไดน์ 78% กับสไตรีน 22% มันอาจจะถูกผสมกันที่อุณหภูมิ 40 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อนำมาผสมกันที่ 40 องศาฟาเรนไฮต์ยางจะมีคุณสมบัติพิเศษกว่า ยางธรรมชาติ ใช้ทำยางรถยนต์ ยางสังเคราะห์มีความต้านทานต่อการขูดถลอก สภาวะของลมฟ้าอากาศที่แปรเปลี่ยนไป ต้านทานไฟฟ้าได้ดี เมื่อทิ้งไว้ให้ตากแดดตากลม โอโซน แก๊สโซลีน และน้ำมัน ยางจะชำรุดเสียหายได้ ยางนี้ยังใช้ทำท่อยาง พื้นฉนวน สายพานลำเลียง วัสดุหีบห่อ พื้นรองเท้า
2. ยางบิวติล (butyl rubber) เป็นยางสังเคราะห์ที่ผสมกันระหว่างไอโซพรีน มีโครงสร้างที่ทนต่ออากาศ เพราะว่ายางนี้ให้ก๊าซซึมซาบได้ต่ำมาก ดังนั้นจึงใช้ทำยางรถยนต์แบบไม่มียางใน และสารผสมกันรั่ว ยางนี้มีความแข็งแรงต่อแรงดึงมากกว่ายางธรรมชาติมีความต้านทานต่อการ ฉีกขาดได้ดี ต้านทานการขูดถลอกต้านทานผลิตภัณฑ์แก๊สโซลีนได้ดี ต้านทานกรดได้ดี ต้านทานสารละลายได้ดีและต้านทานการแข็งตัว ในอากาศเย็นได้ พอใช้ แต่ไม่ต้านทานต่อเปลวไฟ ต้านทานไฟฟ้าได้ดี จึงเป็นฉนวนไฟฟ้าในอุปกรณ์ไฟฟ้า
3. ยางเอทิลีน-โพรพิลีน (ethylene-propylene rubber; EPR) เป็นสารผสมจากเอทิลีนและไอโซโพรพิลีน เป็นยางที่มีน้ำหนักเบา ต้านทานแสงแดด ยางสังเคราะห์นี้ต้านทานการขูดถลอกได้ดี ทนต่อการตากแดดตากฝน และการออกซิเดชัน ใช้ทำท่อยาง รองเท้าบูต สายพานตัววี ยางรถยนต์ และเป็นฉนวนสายเคเบิลไฟฟ้า
4. ยางฟลูออโร (fluoro rubber) ผลิตจากกรดบิวไตริกที่เปลี่ยนเป็นบิวไตริกแอลกอฮอล์และสารละลายกรดอะคริลิกจนได้ยางออกมา มีคุณสมบัติต้านทานแสงแดด น้ำมันการออกซิเดชัน และสารละลาย เมื่อผสมกับโบรไมน์ ยางนี้จะให้ก๊าซซึมซาบผ่านได้ต่ำ ทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ
5. ยางไนไตรล์ (nitrile rubber) เป็นการผสมกันของอคริโลไนไตรล์และบิวทาไดน์ ถ้ามีไนไตรล์มาก ยางจะมีคุณสมบัติต้านทานน้ำมันเพิ่มมากขึ้น การเพิ่มไนไตรล์ จะลดคุณสมบัติการอ่อนตัวได้ดี เช่น จะบิดงอได้ง่าย ความสามารถกลับคืนสภาพเดิม กลุ่มไนไตรล์อาจจะเสริมแรงด้วยคาร์บอน ยางจะทนต่อจาระบี สารละลาย และน้ำมันได้ดี เป็นวัสดุกันรั่วในงานที่มีความร้อน ยางนี้ถูกทำให้เป็นตัวประสาน และเคลือบผลิตภัณฑ์กระดาษใช้เคลือบภายในท่อที่ใช้ในการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เคลือบภายในของถังเชื้อเพลิงทำยางโอริง และสันรองเท้า
6. ยางโพลีคลอโรเพรน (polychloroprene rubber) หรือที่เรยกว่า ยางนีโอเพรน (neoprene rubber) เป็นยางที่ใช้งานกันอย่างกว้างขาง ทำจากสารคลอโรเพรนและคลอโรบิวทาไดน์ ยางนี้มีคุณสมบัติทางกลและโครงสร้างคล้าย ๆ กับยางธรรมชาติ ต้านทานต่อผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โอโซน แสงแดด และการขูดถลอก ยางนี้จะไม่เกิดการไหม้แม้ว่าจะถูกเผาจึงใช้ทำปะเก็น ถุงมือ ผ้าป้องกันไฟ ตัวประสาน ท่อและเคลือบท่อ สายพานลำเลียงและฉนวนไฟฟ้า
7. ยางโพลีซัลไฟต์ (polysulfide rubber) หรือที่เรียกว่า ไทโอโคลหรือโคโรซีล (thiokol or Koroseal) ยางนี้มีการซึมซาบของก๊าซต่ำ และต้านทานสารละลายได้ดี ใช้ทำตัวประสานสำหรับโลหะ ต้านทานต่อการฉีกขาดและการขูดถลอกพอใช้ ต้านทานแสงแดดและออกซิเดชันได้ดี ต้านทานการบวมจากน้ำร้อน ต้านทานกรดได้ดี และต้านทานความร้อนจากเปลวไฟได้ต่ำ ใช้ทำวัสดุอุดรูรั่ว เคลือบภายในถังเชื้อเพลิงและถังกรด ปะเก็น วัสดุกันรั่ว ท่อน้ำมันแก๊สโซลีน และหุ้มสายเคเบิลไฟฟ้า
8. ยางโพลียูรีเทน (polyurethane rubber) ถูกใช้ทำตัวประสานหรือยางรถยนต์ทำส้นรองเท้า กันน้ำมันรั่ว แผ่นไดอะแฟรม เฟือง อุปกรณ์กันสั่นสะเทือน ปะเก็น ฯลฯ วัสดุจะถูกผสมเข้าด้วยกันในแม่พิมพ์หรืออบยางด้วยความร้อนสูง ต้านทานต่อการขูดถลอกฉีกขาดและสึกหรอ มีเปอร์เซ็นต์การยึดตัวสูง และมีความแข็งแรงต่อแรงดึงถึง 8,000 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว ใช้ทำยางรถยนต์ ของยานยนต์ที่เคลื่อนตัวช้า เช่น รถยก เพราะว่าที่ความเร็วสูงจะเกิดความร้อนสูงที่จุดสัมผัสระหว่างผิวถนนและยาง จึงไม่เหมาะสำหรับใช้กับยางรถยนต์ทั่ว ๆ ไป แต่อย่างไรก็ดี ยางชนิดนี้ก็มีสัมประสิทธิ์ของความเสียดทานต่ำ ดังนั้นภายใต้สภาพพิเศษยางนี้จะใช้ทำบูช จะต้านทานต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงจาก - 100 ถึง +200 องศาฟาเรนไฮต์
ตัวอย่าง พื้นยางสังเคราะห์โพลี่ยูรีเทน เช่น พื้นสนามกีฬา แบดมินตัน พื้นสนามยิมเนเซียม พื้นสนามฟุตซอล พื้นสนามวอลเลย์บอล ตระกร้อ
http://www.nichofloor.com/gymnesium
9. ยางซิลิโคน (silicone rubber) เป็นผลลัพธ์จากการรวมกันของไนไตรล์ฟีนีล (phenyl) หรือกลุ่มฟลูออไรน์ (fluorine) ยางนี้มีความเสถียรมาก ไม่ได้รับผลกระทบจากแสงแดด ต้านทานต่อน้ำมันร้อน และมีความสามารถต่อการบิดงอภายใต้อุณหภูมิ -100 ถึง+500 องศาฟาเรนไฮต์ มีความแข็งแรงต่อแรงดึงเฉลี่ยที่อุณหภูมิห้อง 300 ถึง 600 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว มีความสามารถยืดขยายให้ยาวได้ถึง 120%
บุญธรรม ภัทราจารุกุล
เรียบเรียงจาก : หนังสือวัสดุช่าง หน้าที่297
Edited by Stargate-1, 30 August 2013 - 15:08.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 15:20
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 15:23
ราคายางเริ่มเห็น Downside ที่จำกัด : ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาซื้อขายยางแผ่นรมควันล่วงหน้า (อ้างอิงตลาด TOCOM) น่าจะปรับลดลงมาถึงระดับต่ำสุดไปแล้ว หลังจากนี้ คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 236-257 เยน/กิโลกรัม ขณะที่ราคายางไทย คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 79-86 บาท/กก. โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.1% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหา Supply ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคายางสังเคราะห์ (เป็นสินค้าทดแทนยางธรรมชาติ ซึ่งมีวัตถุดิบหลักเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ) มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตาม และบวกต่อราคายางโลกในระยะสั้นเช่นกัน ทั้งนี้ จากการศึกษาเชิงปริมาณของฝ่ายวิจัย ASP พบว่า ค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างราคายางสังเคราะห์ และยางธรรมชาติ อยู่ที่ระดับสูงถึง 0.6 เท่า อย่างไรก็ตาม ราคายางพาราในช่วงเดือน ก.ค.56 ยังได้รับปัจจัยกดดันจากสต็อกยางพาราในประเทศจีนที่ทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง เห็นได้จาก รายงานปริมาณสินค้าคงเหลือล่าสุด ปรับลดลงเพียงเล็กน้อยสู่ระดับ 1.14 แสนตัน (จากช่วงก่อนหน้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำระดับ peak ที่เท่ากับ 1.22 แสนตัน) จึงมีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการในประเทศจีน (ผู้ใช้ยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก) จะชะลอนำเข้ายางพาราต่อไป นอกจากนี้ ความกังวลต่อมาตรการการเงินผ่อนคลายของสหรัฐฯ ที่กำลังจะสิ้นสุดลงภายในช่วงกลางปี 2557 หลังจากที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เห็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง จึงทำให้สถานการณ์ดังกล่าวจะหักล้างกับปัจจัยบวกข้างต้น และกดดันให้ราคายางไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้มากนัก
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 15:24
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) แนะเกษตรกร กระจายความเสี่ยงเสริมรายได้ ถ้าประเทศผู้ส่งออกยางไม่สามารถกำหนดทิศทางราคายางโลกได้ หลังพบว่า ในปีนี้ราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยหลักกดดันราคายาง และหากราคายางยังไม่กระเตื้องขึ้น คงต้องมีการต่ออายุมาตรการลดการส่งออกยางพาราหลังครบกำหนด 31 มี.ค.นี้ ต่อไปอีก
ยางพาราไม่ใช่แค่สินค้าเศรษฐกิจเฉพาะของภาคใต้อีกต่อไป เพราะได้มีการเพาะปลูกกันมากขึ้นในภูมิภาคอื่น โดยสัดส่วนพื้นที่การเพาะปลูกยางพาราอยู่ในนอกภาคใต้รวมถึงร้อยละ 35 แบ่งโดยประมาณเป็นภาคตะวันออกเฉียงหนือร้อยละ 20 ภาคกลางและภาคตะวันออกร้อยละ 10 และภาคเหนือร้อยละ 5 ซึ่งจากรายงานล่าสุดปริมาณการส่งออกยางพาราเกือบครึ่งของโลกมาจากไทย โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกหลักของประเทศ มีสัดส่วนการส่งออกไปจีนถึงร้อยละ 38.8 ของการส่งออกยางพาราทั้งหมด
นอกจากนั้น ยางพาราเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรไม่กี่ชนิดที่ซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และมีปริมาณซื้อขายมากสุดเมื่อเทียบกับสินค้าเกษตรอื่นในตลาดฯ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของยางพาราในเศรษฐกิจไทยได้อย่างชัดเจน
โดยปีนี้ ราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มแค่ทรงตัว และกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากราคาน้ำมันในตลาดโลก อาจต้องรออย่างน้อยถึงไตรมาส 4 ล้อไปกับคำกล่าวที่ว่า “น้ำมันตลาดโลกแพง ราคายางโลกแพง” ดังนั้น น้ำมันตลาดโลกไม่แพง ราคายางโลกจึงไม่แพงไปด้วย
อีกทั้ง ต่อยอดธุรกิจด้วยการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถในการร่วมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (Value chain) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า และเสริมความเข้มแข็งในกลุ่มผู้ประกอบการตลอดสายการผลิต เพื่อรับมือแรงกดดันจากปัจจัยแวดล้อมในสถานการณ์ปัจจุบัน และเตรียมตัวให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงก่อนการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เพราะไม่ว่าอย่างไร ยางพาราก็คงยังครองแชมป์สินค้าเกษตรอันดับหนึ่งของไทยไปอีกหลายปี
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 15:59
สภาถกปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ "สุเทพ"แนะนายกฯจับมืออินโดนีเซีย กุมราคาตลาดโลก
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาญัตติที่ ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เสนอให้รัฐบาลพิจารณาปัญหาความเดือดร้อนประชาชนในเรื่องราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำและค่าครองชีพที่มีราคาแพง โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำทุกตัว ไม่ว่าข้าวโพด ลำใย มันสำปะหลัง อ้อย โดยเฉพาะยางพารา สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์อยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท ขณะนี้เหลือเพียง 66.76 บาท ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางเตรียมชุมนุมพร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 3 ก.ย. สิ่งที่เห็นได้ชัดช่วง 2 ปีที่รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพ ทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขยับสูงต่อเนื่อง ไข่ไก่แพงสุดฟองละ 7 บาท ราคาก๊าชหุงตุ้มที่จะปรับขึ้นวันที่ 1 ก.ย. ค่าเอฟทีไฟฟ้า ค่าทางด่วน เมื่อค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นรายได้ประชาชนไม่พอกับรายจ่าย ผลตามมาคือภาวะหนี้สินเพิ่มขึ้น ตัวเลขภาวะสินเชื่อครัวเรือนเมื่อเทียบกับจีดีพี พุ่งขึ้นสูงถึงร้อยละ 77.51 ทั้งหมดนี้เกิดจากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดล้มเหลว ไม่โปร่งใส ไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้น ส.ส.ทั้ง 73 คน จึงขอเรียกร้องนายกฯให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังและเร่งลงมาแก้ปัญหา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่นั่งรับฟังอยู่ได้ชี้แจงว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่เราจะได้พูดคุยกันถึงปัญหาราคาสินค้าและสินค้าเกษตรตกต่ำ รัฐบาลยินดีรับฟังและพยายามแก้ปัญหา เราไม่เคยเลือกปฏิบัติ และรับไปแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นยางพารา หรือข้าว แต่มาตรการอาจแตกต่างกัน ข้าวก็มาตรการหนึ่ง ยางพาราก็มีอีกหลายวิธีที่จะแก้ เราจะเร่งรับฟังและพูดคุยกับชาวสวนยาง เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน รวมไปถึงข้อแนะนำของสมาชิก แต่วันนี้ต้องขออภัย ณ ตรงนี้เนื่องจากติดภารกิจ พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ส.เขต 8 รัฐอีรีนอยส์ สหรัฐอเมริกา มารอพบที่ทำเนียบรัฐบาล ก็จะขอให้รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องชี้แจงก่อน ส่วนที่มีส.ส.ตั้งคำถามถึงการเดินทางไปต่างประเทศ หลายคนอาจมองและนำมาผูกกับเรื่องการส่งออก แต่การเดินทางไปต่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ หลายประเทศที่ไปแทบไม่เคยสร้างความสัมพันธ์กันเลย เราก็ต้องเริ่มสร้าง เพื่อเปิดประตูการค้าขาย แล้วการส่งออกจึงค่อยๆ ตามมา แต่ไม่ใช่ว่าตามมาทันที บางอย่างก็มีอุปสรรคด้านการค้า เราก็ต้องลดปัญหา บางประเทศต้องไปเปิดความสัมพันธ์ให้ภาคเอกชน ในหลายประเทศที่ท่านตั้งข้อสังเกต ก็ไปเพื่อร่วมประชุมความร่วมมือระดับผู้นำโลก อาทิ เวทีผู้นำอาเซียน ผู้นำเอเปก
หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวจบ และทำท่าจะลุกออกจากห้องประชุม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ท้วงขอให้นายกฯ อยู่รับฟังข้อคิดเห็นของสมาชิกสัก 2 นาที ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยอมนั่งฟัง นายสุเทพจึงอภิปรายเชิงแนะนำว่า ถือเป็นโอกาสดีที่นายกฯจะได้รับฟังปัญหาราคายางพารา และอยากให้นายกฯมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้มอบหมายให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ขณะนั้นลงมาแก้ก็ไม่ได้ผล จนเป็นปัญหาหมักหมมมา 2 ปีแล้ว รัฐบาลต้องพูดให้ชัดว่าจะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ จะให้รอไปอีก 2 ปี ก็หมดวาระพอดี การบอกว่าเป็นเรื่องกลไกตลาดโลก เป็นการทำลายน้ำใจและความหวังชาวสวนยาง รัฐบาลต้องทำให้กลไกตลาดในประเทศดำเนินไปภายใต้การกำกับของรัฐบาล นายกฯต้องลงมาประชุมร่วมกับบรรดาพ่อค้าผู้ส่งออกทั้งหลาย เพื่อให้เขามั่นใจว่าสิ่งที่จะทำไม่ได้คิดไปหาเศษหาเลย หรือเอาประโยชน์ ถ้านายกฯพูดเองเขาคงเชื่อ แต่ถ้านายณัฐวุฒิไปพูดเขาคงไม่เชื่อ
นายสุเทพ กล่าวว่า นายกฯต้องตั้งราคาเป้าหมายว่าจะให้ขายได้ราคาเท่าไหร่ ขายไม่ได้ 120 บาท แต่จะตั้งไว้ 105-110 บาทก็ว่ามา ต้องบอกเกษตรกรได้ว่าจะใช้เวลากี่เดือน โดยที่รัฐบาลต้องจ่ายค่าชดเชยราคายางในระหว่างนี้ด้วย จากนั้นนายกฯต้องไปเจรจากับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ให้นายณัฐวุฒิไปคงไม่ได้พบหรอก เพราะกระจอกเกินไป ขณะนี้มีแต่ไทยและอินโดนีเซียเท่านั้นที่ผลิตยางมากที่สุด หากจับมือตกลงกันได้ว่าจะไม่ขายตัดราคากัน เราจะสามารถกุมราคายางในตลาดโลกได้
"ผมเคยทำมาแล้ว เคยไปพบประธานาธิบดีอินโดนีเซียมาแล้ว และถ้าจะให้เกียรติเขาเป็นหัวเรือใหญ่ในเรื่องนี้ ผมเชื่อว่านายกฯมีศิลปะในเรื่องนี้อยู่แล้ว จากนั้นไปพบประเทศผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งจีนและญี่ปุ่น ไปบอกเขาว่าเราจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น นี่เป็นโอกาสที่ทำให้เราปรับราคาขึ้นได้ และไม่เสียไมตรี ทำให้ปัญหานี้คลี่คลาย แต่อย่าไปเชื่อพวกลิ่วล้อว่าผมอยู่เบื้องหลังการชุมนุม หากผมจะร่วมมือกับผู้ชุมนุมจะประกาศให้นายกฯรู้ แล้วเดินหน้า ไม่ทำตัวเป็นอีแอบ ยืนยันว่าวันนี้เขาชุมนุม เพราะเดือดร้อนจริงๆไม่ใช่เรื่องการเมือง" นายสุเทพ กล่าว
หลังจากนายสุเทพ กล่าวจบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ขอตัวไปรับ พ.ท.หญิงลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ โดยมอบให้นายณัฐวุฒิ ชี้แจงข้อซักถามต่อ โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เชื่อว่าพี่น้องเกษตรกรเข้าใจสถานการณ์ดี หลังได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เข้ามาแก้ปัญหา ตนพยายามหาทางทำให้ราคายางขยับขึ้น โดยของบประมาณจากครม.เพื่อมารักษาเสถียรภาพยางพารา หากได้ย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าตนเป็นคนแรก ที่เสนอให้ทำถนนสายยางพารา รวมไปถึงเปลี่ยนถุงมือแพทย์จากพลาสติก เป็นถุงมือยาง ที่ทำจากยางพารา และอีกหลายมาตรการ
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 16:29
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค
การเงินการคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะประธานสภาการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
จากกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์
ทำข้อตกลงร่วมกับประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ที่จะลดปริมาณการส่งออกยางทันที 3 แสนตัน
ซึ่งในส่วนของประเทศไทยต้องลดปริมาณการส่งออกยางทันที 10%
เพื่อเป็นแก้ไขปัญหาราคายางพาราในตลาดโลกที่ตกต่ำนั้น
เป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ถูกต้อง และสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรไทย
เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคม - มกราคม ของทุกปี เป็นช่วงที่ผลผลิตยาง
ของไทยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย
ตรงกับช่วงผลผลิตไม่มากเพราะเป็นช่วงผลัดใบ และประเทศมาเลเซียไม่ได้รับผลกระทบ
เนื่องจากนำเข้ายางพาราจากประเทศไทยเพื่อไปแปรรูปและส่งออก
ดังนั้น การทำข้อตกลงลดการส่งออกยางทันที จึงส่งผลกระทบโดยตรงกับเกษตรกรไทย
นอกจากนี้ การทำข้อตกลงดังกล่าวของ นายณัฐวุฒิ ยังขัดต่อ
พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.2542 เพราะไม่ได้มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา
และไม่มีการหารือกับคณะกรรมการควบคุมยาง ซึ่งมีการกำหนดไว้
ในมาตรการ 6(8) เพื่อประโยชน์ในการผลิตยาง การค้ายาง การนำเข้ายางและส่งออก
ว่าด้วยเรื่องปริมาณควบคุมเนื้อยาง ปริมาณจัดสรรเนื้อยางตามความเหมาะสม
แก่สถานการณ์ยางของประเทศ รัฐมนตรีที่กำกับสามารถใช้อำนาจได้
ภายหลังจากที่ประกาศราชกิจจานุเบกษา อีกทั้งมาตรการ 15(1), (6)
ยังระบุให้คณะกรรมการควบคุมยางมีหน้าที่ให้คำแนะนำหรือความเห็นแก่รัฐมนตรี
ว่าด้วยเรื่องการปฏิบัติตามสนธิสัญญา ข้อผูกพันและโครงการระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับยาง
ในเบื้องต้นได้มีทำหนังสือทักท้วงไป และได้คำตอบว่า
จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมยางชุดใหม่เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวย้อนหลัง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางนั้น รัฐบาลควรเร่งออกมาตรการจูงใจ
และกระตุ้นการใช้ยางธรรมชาติในประเทศ เช่น การกำหนดให้นำยางธรรมชาติ
ไปผสมยางมะตอยเพื่อใช้ทำถนนทั่วประเทศ ซึ่งหากมีการกำหนดให้ใช้เพียง 5%
ก็จะทำให้เกิดความต้องการใช้ยางธรรมชาติภายในประเทศเพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ราคายางปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกลไกตลาด นอกจากนี้
รัฐบาลควรเรียกเก็บภาษียางสังเคราะห์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ราคาปรับมาใกล้เคียงกัน
โดยล่าสุดราคายางสังเคราะห์เฉลี่ย กก.ละ 41.7 บาท ขณะที่ราคาน้ำยางข้นเฉลี่ย กก.ละ 53 บาท
แต่หากราคายางทั้ง 2 ชนิดใกล้เคียงกัน คาดว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้ยางธรรมชาติ
ภายในประเทศให้สูงขึ้นโดยเฉพาะจากกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปถุงมือยาง
“แนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำโดยการลดปริมาณการส่งออกยางทันที
ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งด้านข้อกฎหมายและวิธีการ เพราะขณะนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตยางของไทยออกสู่ตลาดมาก
อีกทั้งขณะนี้เป็นช่วงที่ประเทศยุโรปต้องการใช้ยางเป็นจำนวนมาก
การลดปริมาณการส่งออกจึงทำให้เกษตรกรไทยเสียโอกาส
รัฐบาลจึงควรออกมาตรการสร้างแรงจูงใจการใช้ยางธรรมชาติ ในประเทศมากกว่า”
นายอุทัยกล่าว
นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการสร้างเสถียรภาพด้านราคา
และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมยางไทย
รัฐบาลควรพิจารณาปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเซส (CESS) เหลือกก.ละ 10 สตางค์
แทนอัตราการจัดเก็บในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบผู้ประกอบจากประเทศอื่น
ที่ไม่มีการจัดเก็บเงินเซส นอกจากนี้ ฝากถึงรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งพิจารณา
เอกสารคืนเงินเซสให้กับผู้ประกอบการ ในส่วนที่เคยจัดเก็บในอัตราร้อยละ 5 บาท
ไปตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(สกย.)
ได้ตรวจสอบเอกสารเสร็จเรียบร้อย และส่งเรื่องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ
ไปพิจารณาสักระยะหนึ่งแล้ว รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ
ควรเสนอให้คณะรัฐมนตรีเร่งอนุมัติงบประมาณจำนวน 15,000 ล้านบาท
สำหรับใช้แทรกแซงราคายาง เพื่อนำไปจ่ายให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ
ที่ได้นำยางพาราไปขายให้องค์การสวนยาง ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา
แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับเงินดังกล่าวเลย
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 17:04
“การพัฒนากระบวนการผลิตโฟมยางธรรมชาติ”
ผลิตภัณฑ์โฟมยางหรือยางฟองน้ำที่ทำจากยางธรรมชาติมีลักษณะเป็นรูพรุนใช้ทำผลิตภัณฑ์จำพวก เบาะนั่ง ที่นอน หมอน สื่อการสอน ตุ๊กตาและของชำร่วยต่างๆ หลักการสำคัญของการผลิตยางฟองน้ำคือการทำให้น้ำยางเกิดฟองของอากาศหรือของแก็สต่างๆแล้วทำให้ฟองยางคงรูป (หรือวัลคาไนซ์) ด้วยสารเคมีและความร้อน
www.mof.or.th/economic_plant/pararubber/abstract_rubber_foam.txt.doc
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 17:35
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ปชป. ลุกขึ้นขอให้นายกฯรับฟังการอภิปรายก่อนออกเดินทางไปทำเนียบ โดยนายสุเทพอภิปรายว่า เรื่องราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน อยากให้นายกฯลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ได้ยินคำแถลงของรัฐบาลที่ราคายางพาราตกต่ำเพราะราคาตลาดโลก เศรษฐกิจโลก รัฐบาลคงเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ อย่างนี้ทำลายน้ำใจเกษตรกรชาวสวนยางพารา จึงเสนอให้นายกฯแก้ปัญหา ดังนี้
1.รัฐบาลต้องให้กลไกตลาดในประเทศนี้ดำเนินไปตามกำกับรัฐบาล 2.เมื่อพ่อค้าเชื่อถือ นายกฯมาลงมาดูแลตัวเอง นายกฯต้องตั้งราคาเป้าหมายว่าจะให้นายกฯขายยางได้เท่าไร 3.เมื่อประกาศแล้วนายกฯต้องทำสิ่งที่ถนัดคือ ไปต่างประเทศ แต่ไปพบประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่ผลิตยางพาราเท่ากับไทยส่งออก 3 ล้านกว่าตัน ถ้านายกฯจับมือประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ ตกลง 2 ประเทศจะไม่ขายยางพาราตัดกันในราคาโลก เราจะสามารถคุมราคาในตลาดโลกได้ หรือให้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นหัวเรือใหญ่ก็ทำได้
"เมื่อสองประเทศร่วมมือกันจะกำหนดราคายางพาราในตลาดโลกได้ ประเทศต่อไปคือประเทศผู้ซื้อต้องบอกให้รู้ล่วงหน้า รัฐบาลจำเป็นต้องปรับราคายางพาราขึ้น การซื้อราคาในขณะนี้ถูกเกินไป โดยผู้ซื้อรายใหญ่คือ จีนและญี่ปุ่น ต้องไปบอกว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 จะปรับราคาขายยางพาราให้โอกาสและไม่เสียไมตรี ถ้านายกฯประกาศวันนี้จะแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง ปัญหาเรื่องเกษตรกรชุมนุมประท้วงจะคลี่คลาย อย่าเชื่อพวกลิ่วล้อว่าผมอยู่เบื้องหลังผู้ประท้วงยางพารา ถ้าผมร่วมมือผู้ชุมนุม ผมจะประกาศให้นายกฯรู้จะไม่ทำตัวอีแอบ ให้นายกฯได้สบายใจ เขาชุมนุมเพราะเดือดร้อนไม่มีการเมืองไปเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องประชาชนรอมา 2 ปีแล้ว ทนรอไม่ได้ ขอร้องนายกฯอย่าตอบว่าต้องใช้เวลา เขาให้เวลานายกฯมา 2 ปี ไม่มีเวลาให้นายกฯอีกต่อไป เราต้องการคำตอบวันนี้"
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 30 August 2013 - 21:47
อสย.แนะให้แปรรูปแก้ยางราคาต่ำ(19/08/2556)
นครศรี ธรรมราช - นายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) เผยว่า ราคายางพาราในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณยางเกินความต้องการกว่า 3.2 แสนตัน ที่เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลก และอีกหลายปัจจัย ส่งผลต่อราคายางพารา เช่น ยางของไทยมีราคาค่อนข้างสูงมาก ทำให้ผู้ประกอบการใช้ยางสังเคราะห์ที่มี และราคาต่ำเพราะมีการผลิตมากขึ้นกว่าแทน ประมาณราคา ก.ก.ละ 50-60 บาท กดดันให้ราคายางพารายิ่งตกต่ำลงมา
นายชนะชัยกล่าวว่า คุณภาพยางพาราของไทยจะดีกว่าคู่แข่งทั้งอินโดนีเซียและเวียดนาม เพราะมีวิธีการผลิตที่ดีกว่า และประเทศไทยมีความได้เปรียบเรื่องยางแผ่นรมควันที่ใช้ในอุตสาหกรรมทำยางล้อ ซึ่งประเทศอื่นไม่ได้ทำ แต่มีปัญหาเรื่องมาตรฐานความสม่ำเสมอเมื่อเปรียบเทียบกับยางแท่ง ได้ส่งข้อมูลนี้ให้ สกย.นำไปปรับปรุงในส่วนนี้
"ยุทธศาสตร์ที่ องค์การสวนยางจะทำคือ ส่งเสริมเรื่องการแปรรูป องค์การสวนยางมีโรงงานแปรรูปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ จะเชื่อมต่อกับสถาบันเกษตรกรเพื่อให้เกิดการแปรรูป และรัฐบาลให้งบประมาณสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรเก็บสต๊อกยางเอาไว้ได้ จะได้เกิดธุรกิจส่งขายยางไปต่างประเทศได้ด้วยตัวเอง" นายชนะชัยกล่าว
ราคายางธรรมชาติขึ้นอยู่กับราคายางสังเคราะห์ด้วย ดังนั้นเมื่อพยายามลดต้นทุนให้ปิโตรเคมีมากเท่าไหร่ ราคายางสังเคราะห์ก็จะถูกลง ราคายางธรรมชาติก็ดันไม่ขึ้น ต้องอาศัยระบบผูกขาดเช่นเดียวกับน้ำมันเท่านั้น จึงจะพอสู้กันได้
Edited by Stargate-1, 31 August 2013 - 00:40.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 23 April 2014 - 09:52
ช่วยวิเคราห์ราคายาง กลางปีและปลายปี ปี57ด้วยครับ ขอบคุณครับ
0 members, 1 guests, 0 anonymous users