http://www.oknation....t.php?id=772990
เนื้อเพลง “ราชันองค์ภูมิพล”
ผู้ประพันธ์ นายวิสา คัญทัพ
“มิ่งมงคลมิ่งขวัญ ราชันองค์ภูมิพล พสกนิกรของพระองค์ ทุกคนเท่ากัน ไม่มีทางกั้นแสง แห่งดวงตะวันสีแดง ที่ร้อนแรง ไม่ให้สาดส่องโลกา
มวลเมฆร้ายหมายบัง พลังแห่งศรัทธา แยกแผ่นดินแผ่นฟ้า ให้ห่างกัน ใครแบ่งแยกแตกร้าย ทำลายไทยเราเผ่าพันธุ์ คนพวกนั้น มิใช่ไทยแท้จริง
พระภูมิพล คือพลัง คนทั้งแผ่นดิน ขอน้อมดวงชีวิน ชนชาวไทยถวายพระพร ครองแผ่นดินโดยธรรม คนจดจำชั่วนิรันดร สถิตสถาพร ตลอดกาล
เอกแห่งองค์อินทร์พรหม บรมสยามินทร์ พระคุ้มครองชีวิน ยั่งยืนนาน ส่องสวรรค์ ไสว หัวใจ ให้คนชื่นบาน บรมโพธิสมภาร อันร่มเย็น สถิตสถาพร ตลอดกาล ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ”
ข้อสมมุติฐานขั้นต้นที่พึงทราบ
- เป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นจากดำริของ พ.ต.ท.ดร ทักษิณ ชินวัตร
- วัตถุประสงค์ในการแต่งเพลงเพื่อแสดงความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยคนเสื้อแดงเป็นการเฉพาะ (เพลงประจำกลุ่ม)
- เป็นเพลงที่แต่งขึ้นด้วยความคิดว่า “ มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มบางพวก ได้พยายามใส่ร้าย พ.ต.ท ดร.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดงว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ”
ข้อเท็จจริงที่สนับสนุนข้อสมมุติฐานข้างต้น อ้างอิงจากรายงานเอเชียอัพเดท...ความข้างล่างนี้
“ โดยนายวิสาได้เปิดเผยถึงที่มาของเพลงว่า ในอดีตเคยเขียนเพลงเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแล้ว 2 เพลง โดยการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของ นปช.ถูกใส่ร้ายป้ายสี หาว่าไม่จงรักภักดี พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องไปอยู่ต่างแดน คนเสื้อแดงอยากได้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา ตอนนั้นจึงได้ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ หมายความว่าพี่น้องเสื้อแดงหวังพึ่งพระบารมีขององค์พระราชา เกิดจากความจงรักภักดีอย่างล้นพ้น
คนที่ให้ตนประพันธ์เพลง “ถวายฎีกา” ก็คือ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ (วีระ มุสิกพงศ์) นั่นคือเพลงแรก ส่วนเพลงที่สองเกิดจากการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร ทรงประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ก็เกรงว่าจะระคายเคืองเบื้องพระยุคบาท คนที่ขอให้ตนแต่งเพลง “ถวายพระพร” ก็คือนายจตุพร พรหมพันธุ์ เพราะกลัวเสียงจะดังรบกวนเบื้องพระยุคลบาท นั่นก็แสดงถึงจิตใจอันบริสุทธิ์ ที่จงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนเพลงที่สาม ซึ่งเป็นเพลงล่าสุด เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดการสูญเสียเลือดเนื้อของพี่น้องคนเสื้อแดง จนกระทั่งพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง อดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ถูกใส่ร้าย ทั้งๆที่ความจริง พ.ต.ท.ทักษิณ จงรักภักดีอย่างหาที่สุดไม่ได้แล้ว ท่านจึงบอกว่าคนเสื้อแดงควรมีเพลงของตัวเอง เพื่อให้เห็นว่าคนเสื้อแดงจงรักภักดีไม่แพ้คนอื่นๆ พ.ต.ท.จึงให้เขียนเพลงนี้
นอกจากนี้ นายวิสายังเหน็บด้วยว่า กลุ่มคนที่ใส่ร้ายคนเสื้อแดงต่างหากที่ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ต้องการทำลายสถาบันฯ พวกตนนั้นยิ่งกว่าจงรักภักดีอีก เพราะรักประเทศชาติ ไม่ต้องการความแตกแยก ใครเอาสถาบันฯ มาใช้ทำบ้านเมืองแตกแยก ต้องกลับไปทบทวน “
บทวิเคราะห์
1. ผู้ประพันธ์เพลงใช้พระนาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นชื่อบทเพลง “ ราชันองค์ภูมิพล “ ด้วยความตั้งใจเพื่อให้ทราบเป็นการทั่วไปว่า บทเพลงนี้เป็นบทเพลงเฉลิมพระเกียรติ
2.ผู้ประพันธ์เพลงให้ความสำคัญและเน้นน้ำหนักเรื่องความจงรักภักดี และ บรรยายความรู้สึกแปลกแยกในสังคมที่คิดต่างอันเป็นอุปสรรคในการแสดงความจงรักภักดีของกลุ่มตน สังเกตุได้จากการขึ้นต้นเพลง 2 ท่อนแรกบรรยายความรู้สึกส่วนนี้
บทเพลง 2 ท่อนแรก
“ มิ่งมงคลมิ่งขวัญ ราชันองค์ภูมิพล พสกนิกรของพระองค์ ทุกคนเท่ากัน ไม่มีทางกั้นแสง แห่งดวงตะวันสีแดง ที่ร้อนแรง ไม่ให้สาดส่องโลกา
มวลเมฆร้ายหมายบัง พลังแห่งศรัทธา แยกแผ่นดินแผ่นฟ้า ให้ห่างกัน ใครแบ่งแยกแตกร้าย ทำลายไทยเราเผ่าพันธุ์ คนพวกนั้น มิใช่ไทยแท้จริง “
3. ผู้ประพันธ์มีการเลือกใช้คำ ที่มักใช้กับบทเพลงเพื่อชีวิต หรือ เพลงปลุกใจในลักษณะของการสร้างขวัญและกำลังใจ ทั้งสร้างทัศนคติเชิงลบกับบุคคลที่มีความเห็นต่าง อาทิเช่น
“ แสงแห่งดวงตะวันสีแดง ที่ร้อนแรง , พลังแห่งศรัทธา , แยกแผ่นดินแผ่นฟ้า , ใครแบ่งแยกแตกร้าย ทำลายไทยเราเผ่าพันธุ์ คนพวกนั้น มิใช่ไทยแท้จริง “
4.ผู้ประพันธ์ใช้บทเฉลิมพระเกียรติใน 2 ท่อนหลังในรูปแบบเชิงสรุป แม้จะทำให้เนื้อความกระชับ แต่ทำให้เสียไปซึ่งรายละเอียดเชิงลึกอันจะแสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งพลังศรัทธาและความจงรักภักดีอย่างแท้จริงและสูงยิ่งของประชาชนชาวไทยทั้งมวล
บทเพลง 2 ท่อนหลัง
“ พระภูมิพล คือพลัง คนทั้งแผ่นดิน ขอน้อมดวงชีวิน ชนชาวไทยถวายพระพร ครองแผ่นดินโดยธรรม คนจดจำชั่วนิรันดร สถิตสถาพร ตลอดกาล
เอกแห่งองค์อินทร์พรหม บรมสยามินทร์ พระคุ้มครองชีวิน ยั่งยืนนาน ส่องสวรรค์ ไสว หัวใจ ให้คนชื่นบาน บรมโพธิสมภาร อันร่มเย็น สถิตสถาพร ตลอดกาล ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ”
บทสรุป
บทเพลง “ ราชันองค์ภูมิพล “ กล่าวได้ว่าเป็นบทเพลงแห่งความจงรักภักดี จากทัศนคติของ พ.ต.ท.ดร ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการตอบสนองความคิดความเข้าใจเฉพาะตนเป็นหลัก โดยสร้างความร่วมมือร่วมใจในกลุ่มตน สร้างทัศนคติเชิงลบต่อผู้ที่มีความคิดเห็นต่าง เป็นเครื่องมือเพื่อดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรมแก่ตนเองและกลุ่มในเรื่องของความจงรักภักดีเป็นที่สุด
หากจะพิจารณาในแง่คุณค่าของความเป็นบทเพลงเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีหัวใจสำคัญเน้นย้ำแสดงถึงพระราชกรณียกิจ พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท ตลอดจนแนวทางการดำเนินชีวิตพระราชทาน ฯลฯ อีกทั้งเรื่องราวที่หล่อหลอมรวมใจคนไทยทั้งชาติ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แบ่งแยกสี แยกเหล่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทำให้คนไทยทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขร่มเย็นใต้ร่มพระบรมโพธิธิสมภารอย่างแท้จริงนั้น บทเพลงดังกล่าวมิได้แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์.