90 ความเห็นในกระทู้นี้

[wincha]

  เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศซีเรียเมื่อวันพุธ(4) ประกาศกร้าวจะไม่ยอมจำนนต่อคำขู่ถล่มทางทหารของสหรัฐฯ แม้อาจจุดชนวน "สงครามโลกครั้งที่3" พร้อมยังเชื่อมั่นต่อรัสเซีย พันธมิตรสำคัญว่าจะไม่เปลี่ยนจุดยืน แม้ ปูติน เสียงอ่อนอาจไม่ขวางตะวันตกหากมีข้อพิสูจน์ว่ารัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมี ขณะที่ โอบามา เริ่มเดินสายขอเสียงสนับสนุนจากนานาชาติ โดยกล่าวเตือนที่สวีเดนว่าโลกเสี่ยงสูญเสียความน่าเชื่อถือหากไม่ดำเนินการใดๆต่อดามัสกัส
       
       ระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวเอเอฟพี นายไฟซาล มักดัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศซีเรีย ระบุว่ารัฐบาลของเขาจะใช้ทุกมาตรการตอบโต้ความพยายามเข้าแทรกแซงใดๆที่มีเป้าหมายโค่นล้มระบบการปกครองของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ฐานต้องสงสัยใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือน "รัฐบาลซีเรียจะไม่มีวันเปลี่ยนจุดยืนแม้ว่าจะมีสงครามโลกครั้งที่ 3 ซีเรียไม่ควรต้องถูกสังเวยจากความเป็นเอกราชของตนเอง ซีเรียจะใช้ทุกมาตการตอบโต้ต่อการรุกรานใดๆ" เขากล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะใช้วิธีการใด
       
       วอชิงตัน กล่าวหาว่ามีการใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนในย่านชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 รายและกล่าวโทษไปที่รัฐบาลนายอัสซาด โดยเวลานี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กำลังล็อบบี้สภาคองเกรสอย่างหนักเพื่อให้สนับสนุนแผนโจมตีตอบโต้การใช้อาวุธนี้ ส่วนรัฐสภาฝรั่งเศส ก็กำลังถกเถียงในประเด็นดังกล่าว
  ประธานาธิบดีโอบามาแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสวีเดน เตือนโลกว่าอาจสูญเสียความน่าเชื่อถือหากไม่โจมตีซีเรีย        ขณะเดียวกันในส่วนของวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ชาติพันธมิตรของซีเรีย ซึ่งคัดค้านแผนใช้กำลังทหารต่อซีเรียมาตลอด ในวันพุธ(4) ก็เสียงอ่อนก่อนรับบทเจ้าภาพประชุมซัมมิตกลุ่มจี20 ระบุรัสเซียจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดหากตะวันตกมีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า รัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมีโจมตีปลายเดือนที่แล้ว ในเรื่องนี้นายมักดัด เชื่อว่าจุดยืนของพันธมิตรรัสเซียไม่ได้เปลี่ยนไป "จุดยืนของรัสเซียไม่เปลี่ยน มันเป็นจุดยืนแห่งความรับผิดชอบของเพื่อนที่ฝักใฝ่ในสันติภาพ"
       
       อีกด้านหนึ่งประธานาธิบดีโอบามาได้เดินทางถึงสวีเดนแล้วในวันพุธ(4) ในโปรแกรมเยือน 2 วัน ส่วนหนึ่งในความพยายามของเสียงสนับสนุนจากโลกต่อปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย โดยเขากล่าวที่กรุงสตอกโฮล์ม ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสวีเดนว่าโลกได้ขีดเส้นตายสำหรับซีเรียไปแล้วและความเชื่อน่าของประชาคมนานาชาติกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงหากไม่ดำเนินการใดๆต่อระบอบการปกครองที่ใช้อาวุธเคมี
       
       "เส้นตายนี้ไม่ใช่ของผม แต่โลกเป็นผู้กำหนด" โอบามากล่าว อ้างถึงกฎนานาชาติเกี่ยวกับการห้ามใช้อาวุธเคมีแม้แต่ในกรณีของสงคราม "ความน่าเชื่อถือของผมไม่ได้อยู่บนเส้นด้าย แต่เป็นความน่าเชื่อถือของประชาคมนานาชาติต่างหาก ขณะเดียวกันความน่าเชื่อถือของอเมริกาและสภาคองเกรสก็อยู่บนเส้นด้ายด้วย เพราะพวกเราเอาแต่พูดว่าบรรทัดฐานสากลนี้เป็นสิ่งสำคัญ" โอบามากล่าว
  พลเรือนซีเรียที่อ้างกันว่าเสียชีวิตจากการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เมื่อเดือนก่อน        โปรแกรมเดินทางครั้งนี้ของโอบามา ยังรวมไปถึงการเข้าร่วมประชุมจี20ที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์กของรัสเซีย ซึ่งคาดหมายกันว่าเขาจะใช้เวทีนี้ขอเสียงสนับสนุนหรืออย่างน้อยก็รับรองความเคลื่อนไหวลงโทษรัฐบาลของนายอัสซาด
       
       เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่านายโอบามา จะหารือนอกรอบการประชุมจี 20 กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้สนับสนุนหลักสำหรับการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย เช่นเดียวกับเหล่าผู้นำจีนและญีปุ่น ขณะเดียวกันแม้ไม่มีแผนเจรจาแบบทวิภาคีกับปูติน แต่ก็แย้มว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพูดคุยกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
       
       ในคำแถลงที่สตอกโฮล์ม ประธานาธิบดีโอบามา ยังบอกด้วยว่าประชาคมนานาชาติไม่ควรเงียบงันต่อการตอบโต้รัฐบาลซีเรียที่ใช้อาวุธเคมีกับพลเรือนของตนเอง พร้อมให้คำรับประกันว่าปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียจะไม่ซ้ำรอยความผิดพลาดในอิรัก และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส "ผมเป็นหนึ่งคนที่ต่อต้านสงครามอิรัก และผมจะไม่ผิดพลาดซ้ำสองต่อการตัดสินใจบนข้อมูลข่าวกรองผิดๆ"
       
       ทั้งนี้ในช่วงค่ำวันพุธ(4) โอบามา ยังมีกำหนดรับประทานอาหารค่ำกับนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ เดนมาร์กและไอซ์แลนด์ รวมถึงประธานาธิบดีฟินแลนด์ด้วย

 

 

 

ที่มา http://www.manager.c...D=9560000111460

[grand_v]

ผมไม่เชื่อว่า อัสซาด ใช้วิธีนี้กับประชาชน

 

มันเป็น สั น ด า น ถ า ว ร ของผู้นำสหรัฐที่ใช้สงครามแก้ปัญหาเศรษฐกิจตัวเอง

 

ที่โดนอาวุธเคมีเรียงราย คิดให้ตายก็ฝีมืออเมริกา

 

มันต้องการทุบซีเรีย เพื่อยึดท่อส่งน้ำมัน

ส่งน้ำมันจากอิรัก ออกทางทะเลไปโกยเงิน

 

อิรักที่มันเคยอ้างเหุตป้ายสีว่ามีนิวเคลียร์ล้างโลก

แล้วฆ่าคนอิรักตายเป็นเบือเพื่อยึกทรัพยากร

[ควันหลง]

ผมไม่เชื่อว่า อัสซาด ใช้วิธีนี้กับประชาชน

 

มันเป็น สั น ด า น ถ า ว ร ของผู้นำสหรัฐที่ใช้สงครามแก้ปัญหาเศรษฐกิจตัวเอง

 

ที่โดนอาวุธเคมีเรียงราย คิดให้ตายก็ฝีมืออเมริกา

 

มันต้องการทุบซีเรีย เพื่อยึดท่อส่งน้ำมัน

ส่งน้ำมันจากอิรัก ออกทางทะเลไปโกยเงิน

 

อิรักที่มันเคยอ้างเหุตป้ายสีว่ามีนิวเคลียร์ล้างโลก

แล้วฆ่าคนอิรักตายเป็นเบือเพื่อยึกทรัพยากร

 

เอ่อม แถวนั้นมีท่อนํ้ามันอยู่แล้วนี่ครับ มีทั้งไปออกทะเลแดง เมดิเตอเรเนียน โดยไม่จำเป็นต้องผ่านซีเรียเลยสักนิด แล้วที่อิรักก็มีท่าเรือนํ้าลึกอยู่แล้วนิครับ 

[Kyubey]

ผมว่าถ้าไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลซีเรียใช้ก็ต้องเป็นฝ่ายต่อต้านครับ เพราะคลังอาวุธบางส่วนฝ่ายต่อต้านได้ไปครับ

อาวุธเคมีมักนิยมใช้ในประเทศที่เงินทุนไม่เยอะครับ ดังนั้นถ้าสหรัฐจะใช้กำลัง ผมไม่เห็นด้วย ต้องมีหลักฐานมากกว่านี้

／人◕ ‿‿ ◕人＼

[Diablo]

ผมว่าเราติดกับชุดข้อมูลที่ว่า US บุกเพื่อชิงทรัพยากรมากเกินไปนิดนึงนะครับ ผมว่าบางทีก็ไม่น่าจะใช่เรื่องนั้น เพราะถ้าดูจากข้อมูลการบริโภคน้ำมันของ US จะเจอว่า US ใช้น้ำมันจากตะวันออกกลางแค่ราวๆ 30% ของปริมาณการบริโภคเองครับ นอกนั้นนี่ US ยังมีแหล่งของ oil shale มากที่สุดในโลกอีกด้วย (ถึงกรรมวิธีการสกัดเอาน้ำมันดิบจาก oil shale ยังจะสิ้นเปลืองและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากอยู่ แต่ถ้าจวนตัวผมว่า US ก็ทำได้ครับ)

 

ส่วนเรื่องอาวุธเคมีอย่างที่ผมเคยบอกในกระทู้ซีเรียกระทู้อื่นน่ะครับ คือไม่แน่ว่าคลังที่เก็บอาวุธเคมีอาจจะเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่ใช้โจมตี เพราะนอกจากจะเป็นการกำจัดอาวุธเคมีที่อยู่ในมือของพวกต่อต้านแล้ว ยังได้เป็นการกำจัดพวกต่อต้านด้วยอาวุธเคมีในคลังเองด้วย แถมยังอ้างได้อีกว่าตัวเองไม่ได้ใช้อาวุธเคมีเพราะตัวเองไประเบิดคลังทิ้งด้วยอาวุธธรรมดา 

พวกอาวุธเคมีนี้ถ้ามีการใช้แน่นอนว่าคนที่ได้รับผลมากที่สุดไม่พ้นชาวบ้านธรรมดาครับ เพราะพวกทหารหรือพวกที่ต่อต้นที่รบมักจะรู้อยู่แล้วและจะมีการเตรียมตัวป้องกันต่างจากชาวบ้านธรรมดาที่ไม่รู้อะไรเลย

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

ไม่ไว้ใจอเมริกาเลยค่ะ การถล่มอิรักยับเยินมาจนป่านนี้อเมริกาพูดเพียงว่าเป็นความผิดพลาดโดยไม่ไม่ได้ทำให้อิรักดีขึ้น แน่ใจได้ยังไงว่าจะไม่เกิดซ้ำในซีเรีย  ความผิดพลาดที่อเมริกาได้ส่วนแบ่งในทรัพยากรของอิรักจำนวนมาก และจะได้อีกไม่น้อยจากซีเรียด้วยข้ออ้างชุดเดิมๆที่ไม่ได้ต่างกันเลยจากที่อ้างสมัยถล่มอิรัก

[หนูอ้อย]

มีการโทษกันไป - มา แล้วว่า มีการใช้อาวุธเคมี

กบฏโทษว่าทางการใช้อาวุธเคมี ส่วนทางการซีเรียกล่าวโทษว่าฝ่ายกบฎใช้

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้ผลลัพธ์คือประชาชนที่ไม่มีหน้ากากป้องกัน

 

 

 

                            สถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรีย เผยแพร่ภาพอุโมงค์ของฝ่ายกบฏ ในย่านโยบาร์ในกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่กบฏอ้างว่ากองทัพใช้ก๊าซพิษทำลายประสาทโจมตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,000 คน โดยระบุว่า พบสารพิษและสารเคมี ตลอดจนหน้ากากกันก๊าซพิษ หลอดแก้วบรรจุของเหลวที่ใช้ในทางการแพทย์ วัตถุระเบิด และอื่นๆ พร้อมกับระบุว่า ทหารที่เข้าไปตรวจค้นในอุโมงค์มีอาการหายใจไม่ออก ทำให้ต้องรับการรักษา

                           ขณะที่ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานี ของอิหร่าน กล่าวเป็นครั้งแรก ระบุว่า มีการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย และขอให้ประชาคมโลกเข้าแทรกแซง แต่เขาไม่บอกว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด ปกติแล้ว อิหร่านเป็นพันธมิตรของรัฐบาลซีเรีย และรัสเซีย ที่เป็นพันธมิตรของรัฐบาลซีเรียด้วย กล่าวหาว่า กบฏจัดฉากใช้อาวุธเคมีโจมตี เพื่อเรียกความเห็นใจ และการสนับสนุนจากนานาชาติ

 

                           แต่กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน เปิดเผยว่า โรงพยาบาล 3 แห่งในกรุงดามัสกัสที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม ได้ให้การรักษาผู้ป่วยเกือบ 3,600 คน ที่มีอาการทางประสาท หลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมี และ 355 คนในจำนวนนี้เสียชีวิต โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการชัก ม่านตาขยาย และหายใจติดขัด และให้การรักษาด้วยยาอะโทรปีน ที่ใช้รักษาอาการทางประสาท แต่ยังไม่อาจยืนยันในทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า อาการป่วยเหล่านี้เกิดจากมีการใช้อาวุธเคมีหรือไม่ ถึงอย่างนั้นการที่มีผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงเวลาอันสั้นเพียงไม่ถึง 3 ชม.อาจบ่งชี้ได้ว่ามีการสัมผัสกับสารพิษทำลายประสาท

 

                           และขณะนี้เริ่มมีกระแสข่าวมากยิ่งขึ้นว่า สหรัฐอาจใช้กำลังแทรกแซงในซีเรีย โดยกองทัพเรือสหรัฐได้โยกย้ายเรือรบหลายลำในทะเลเมดิเตอเรเนียน และนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ บอกว่า กลาโหมมีหน้าที่เตรียมความพร้อมหากประธานาธิบดีตัดสินใจใดๆ

                           ขณะที่รัฐบาลซีเรีย เตือนไม่ให้สหรัฐใช้กำลังทหาร เพราะอาจทำให้ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ

 

http://www.komchadlu...ml#.UifuE9Iwot0

 

[JSN]

เอาแล้วๆ

Edited by JSN, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 09:54.

[พอล คุง]

อีกไม่นานครับ 

 

เราจะได้รู้ว่า ศึกครั้งนี้ใครจะเป็นฝ่ายกำชัยไป

 

ระหว่าง เมกา อังกฤษ พันธมิตรฝั่งนี้ กับ รัสเชีย กะ พันธมิตรฝั่งรัสเชีย

 

โดยมีประเทศชีเรียเป็นผู้เริมจุดจนวนสงคราม

[เช never die]

อันที่จริงอาหรับสปริงไม่ได้เกินความคาดหมายเลย มันก็เป้นแค่ภาคต่อ หรือภาคสอง ที่ต่อมาจากสงคราม 6 วัน

 

เป็นการเอาคืนที่เกินเลยของพวกยิว ในการยึดครองโลกอาหรับทั้งหมดให้เป็นอาณานิคมของพวกยิว

 

หลังจากสงครามหกวันจบสิ้น(ในความเข้าใจของหลายๆคน)ไปตั้งแต่เมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว

 

เอาเข้าจริงสงครามหกวันของเมื่อในอดีต จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่จบ มันเป็นเพียงแค่พวกยิวหยุดพักแล้วไปสะสมกำลังเพิ่มเติมในรัฐสภาอเมริกันและในเพนตากอน

 

หลังจากพวกยิวสะสมกำลังในรัฐสภาอเมริกันและในเพนตากอนจนพร้อมรบแล้ว ก็อาศัยกำลังรบที่เข้มแข้งในรัฐสภาอเมริกัน-เพนตากอน เข้าโจมตีโลกอาหรับอีกรอบ

 

ทั้งหมดทั้งมวล เหตุผลเดียวของพวกยิวก็คือตัดหนทางทำมาหากินของจีนกับรัสเซียให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

เพื่อที่ยิวจะได้เป็นพ่อของทุกชนชาติ ตามที่พระยะโฮวา เทพเจ้าของพวกยิว ได้ให้สัญญาใว้ในคัมภีร์โตร่า

 

เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้เอง

 

อีกนิดนึง อันที่จริงก้างชิ้นโตที่ขวางคอพวกยิวบ้าอำนาจในเทลอาวีฟ ไม่ใช่ีพวกอาหรับเลย พวกมุสลิมขี้กากในโลกอาหรับ-ตะวันออกกลาง ไม่ได้มีความหมายอะไรกับยิวเลย ยิวจะกินเมื่อไหร่ พวกมุสลิมขี้ครอกในโลกอาหรับก็ตายเมื่อนั้น

 

แต่ก้างชิ้นโตที่พวกยิวขี้ครอกในเทลอาวีฟยังหาทางแดรกไม่ลงก็คือ พวกเปอร์เชีย ในอิหร่านต่างหาก

 

ที่รบราฆ่าฟันกันเป็นผักเป็นปลา เนื้อแท้ก็พวกลูกหลานเปอร์เชีย กับลูกหลานยิว ที่รบกันมาเป็นพันๆปีแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้พวกยิวได้เปรียบพวกเปอร์เชีย เพราะยิวครอบครองรัฐสภาอเมริกันได้ทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว

 

ไอ้นิโกรขี้กากโอบามา แม่มก็แค่หุ่นเชิดของพวกยิวแค่นั้น

 

พิมพ์มาเพื่อให้เห้นสภาพตามจริงเท่านั้น ถ้าหากด้วยการยุแยงตะแคงรั่วของพวกยิวที่อยู่ในสภาอเมริกันและมือไม้ทำงานที่อยู่ในซีไอเอ(สถานทูตอเมริกันในไทยคือกองบัญชาการของพวกซีไอเอในภูมิภาคอาเซียน)ประสพความสำเร็จ เมื่อไหร่ที่พี่ไทยปล่อยมือจากการเป็นพันธมิตรของพี่ใหญ่จีน ก็บอกได้คำเดียวว่า ภูมิภาคอาเซียนก็ต้องถึงคราวลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันตายเละเทะไม่ต่างจากภูมิภาคิอาหรับแน่นอน

 

ถ้าใครยังจำสงครามอินโดจีนได้ดี จะเข้าใจ

 

รู้สึกกันบ้างไหมครับ หลังจากพวกจีไอขี้ครอกพ่ายแพ้สงครามอินโดจีนไปแล้ว ตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ภูมิภาคอินโดจีนสุขสงบและพัฒนาไปแค่ไหน

 

เมื่อไหรก็ตามที่พวกจีไอบ้ากามทั้งตัวผุ้ตัวเมียกลับเข้ามาในภูมิภาคนี้อีก ก็ตัวใครตัวมันครับ

 

ขอโทษนะครับ ดดยส่วนตัว ผมไม่ชอบอี สส.เชี่ย แทมมี่ ลูกกระเป๋งอเมริกัน ลูกครึ่งอเมริกัน ผมผิดไหมครับ ที่ผมจะไม่นับมันเป็นคนไทยแบบที่ไอ้ควายไทยขี่ครอกมันพยายามยัดเยียดให้อีห่าจิกนี้เลย มันก็แค่สุนัขรับใช้พวกยิวขี้ครอกในเทลอาวีฟแค่นั้น

Edited by เช for Vendetta, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 11:29.

[ขุนพลชิน]

นี้ถ้าชาวโลกบอกว่ามะกันสะสมกำลังอาวุธมากเกินไป บ้าอำนาจ บ้าสงคราม จนน่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประชาคมโลก  เค้าก็รวมกันไปถล่มมะกันได้ช่ายป่าว

[plunk]

อเมริกา นั้นและ ที่ยิง จรวดอาวุธเคมี ใน พลเรือน ซีเรีย หวังตีเค้า แล้ว ดูด น้ำมัน

[หนูอ้อย]

สถานการณ์อาหรับสปริงที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปลายปี 2010 จนถึงปัจจุบัน มีหลายประเทศที่โค่นล้มผู้นำ และเปลี่ยนแปลงการปกครองได้สำเร็จ แต่ในประเทศซีเรียสถานการณ์ยังรุนแรงและมีเหตุปะทะกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่สามารถโค่นล้มผู้นำได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ประธานาธิบดีอัสซาดจะมีทางลงจากอำนาจเช่นใด  หรือจะลุยจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จริงอย่างที่ขู่  ?

 

 

Arab Spring บ้างโค่นล้มผู้นำสำเร็จ บ้างอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน บ้างเกิดสงครามกลางเมือง และยังมีการประท้วงอยู่มากมาย

[หนูอ้อย]

สำหรับประเทศตูนิเซียนั้น ชายหนุ่มที่ชื่อโมฮัมเหม็ด โบอัวซิซิ หนุ่มขายผักที่ถูกกดขี่ข่มเหงจากเจ้าหน้าที่ของรัฐจนเขาต้องจุดไฟเผาตัวเองเพื่อเป็นการประท้วงประกอบกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างแร้นแค้น มีคนตกงานจำนวนมากจากนั้นประชาชนรวมตัวกันเรียกร้อง ต่อต้าน

จนในที่สุดประธานาธิบดีเบน อาลีที่ปกครองตูนิเซียมายาวนานถึง 23 ปี ก็ลงจากอำนาจ แหล่งข่าวระบุว่าเบน อาลีหลบหนีไปซาอุดิอาระเบีย ทำให้การประท้วงใช้เวลาไม่มากนัก เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนน้อย การเปลี่ยนผ่านของประเทศนำไปสู่การเลือกตั้ง และผู้นำจากพรรคอิสลามเอนนาดาห์ก็ขึ้นมาครองอำนาจแทน

 

 

ขณะที่ในประเทศอียิปต์มีความซับซ้อนกว่านั้น แต่ก็ใช้เวลาไม่มากในการต่อต้านให้ประธานาธิบดีฮอสนิ มูบารัคลงจากอำนาจที่ปกครองมาอย่างยาวนานถึง 29 ปีได้ กลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนให้คนจำนวนมหาศาลรวมตัวเพื่อประท้วงได้คือ Facebook และ Twitter

แม้จะมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชนอยู่บ้างจนทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตกว่า 800 ราย บาดเจ็บอีกนับ 1,000 ราย จนในที่สุดสหรัฐฯ ก็ยื่นมือเข้ามาแสดงบทบาทเด่นในการประกาศช่วยปลดหนี้ให้แก่อียิปต์ที่มีมูลค่าราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเป็นการค้ำประกันเงินกู้

โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าให้มีการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างราบรื่นนำไปสู่การตัดสินใจลงจากอำนาจของมูบารัค และเปลี่ยนผ่านอำนาจให้คณะทหารขึ้นปกครองแทนแต่ก็มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นและตัวแทนจากกลุ่มภารดรภาพมุสลิม โมฮัมเหม็ด มอร์ซีก็ได้เป็นประธานาธิบดีจากการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีมอร์ซีได้ปลดผู้นำทหารระดับสูงที่ทรงอิทธิพลในกองทัพออกทั้งจอมพลตันตาวีและเสนาธิการทหาร และต่อมาถูกขับไล่ออกจนเป็นมหากาพย์นองเลือดอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ส่วนฮอสนิ มูบารัคนั้นป่วยย่ำแย่ ซึ่งหลายคนก็มองว่านี่เป็นการลงจากอำนาจที่สวยงามของมูบารัคแล้ว แต่เขายังต้องเผชิญกับการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบหาความจริงจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีเหตุประท้วงต่อต้านอีก ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นคือเจตนาสังหารผู้ประท้วงหรือไม่

 

 

ด้านประเทศลิเบียนั้น มีความซับซ้อน ความรุนแรง และความร่วมมือร่วมใจจากชาติมหาอำนาจทั้งสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ผ่านกองกำลัง NATOปิดน่านน้ำน่านฟ้า เพื่อป้องกันการกราดยิงจากเฮลิคอปเตอร์ของเจ้าหน้ารัฐในลิเบีย ที่อาจจะยิงตอบโต้ฝ่ายต่อต้านและอาจทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้

นอกจากนี้ ก็เพื่อป้องกันการส่งอาวุธจากชาติพันธมิตรของลิเบียให้กับฝ่ายสนับสนุนผู้นำลิเบีย และจับตาไม่ให้ผู้นำลิเบียหนีไปได้รวมทั้งสนับสนุนฝ่ายต่อต้านลิเบียด้วย จนในที่สุด พลเอกพิเศษมูอัมมาร์ กัดดาฟี ก็ถึงแก่ชีวิตหลังจากฝ่ายต่อต้านเฝ้าโจมตีจากแหล่งหลบภัย สิ้นสุดการปกครองตามระบอบของกัดดาฟีอย่างยาวนาน 42 ปี

ฝ่ายต่อต้านได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ และสามารถก่อตั้งเป็นคณะมนตรีถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติ หรือ NTC เพื่อปกครองประเทศชั่วคราว แต่ในที่สุดก็มีการเลือกตั้ง และนายมาห์มูด จิบิลซึ่งเป็นพรรคเสรีก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่ฝ่ายภราดรภาพมุสลิมก็แพ้การเลือกตั้งไป

[phoosana]

ยิงจรวดน่าจะมีคนเห็นจรวด ครับ คิดว่าคงไม่ใช่

[หนูอ้อย]

เราจะเห็นว่าทางลงจากอำนาจของผู้นำนั้นมีหลากหลาย แต่ผู้นำซีเรีย ประธานาธิบดีอัล อัสซาดจะเลือกลงแบบไหนนั้น ตอนนี้คงเลือกลำบากแล้ว เพราะผลจากการสำรวจของกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชนมีจำนวนมากกว่า 2 หมื่นราย มีผู้อพยพลี้ภัยกว่า 1 ล้าน 5 แสนราย

การลงจากอำนาจอย่างประเทศตูนิเซีย ให้หนีออกจากประเทศและจัดให้มีการเลือกตั้งคงทำได้ยากขณะที่จะลงจากอำนาจอย่างอียิปต์ ก็ไม่มีการให้เงินสนับสนุนจากชาติมหาอำนาจ ส่วนองค์การระหว่างประเทศที่เคยร่วมมือกับซีเรียก็ระงับสถานะการเป็นสมาชิกของซีเรีย ด้านองค์การสหประชาชาติก็ถอนตัวผู้สังเกตการณ์ออกมาจากประเทศแล้วมีการปิดสถานทูตย้ายเจ้าหน้าที่ทูตออกจากซีเรียหลายประเทศแล้ว แต่ยังไม่มีการสั่งปิดน่านน้ำน่านฟ้าในซีเรีย

เป็นไปได้ว่าผู้นำซีเรียอาจจะลงจากอำนาจได้อย่างไม่สวยหรูนัก ถ้าไม่ถูกขังคุกตลอดชีวิต ก็อาจจะต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นผู้นำลิเบียที่โดนโจมตีอย่างหนักจากฝ่ายต่อต้าน นี่ยังไม่นับรวมถึงผู้นำอิรักอย่างซัดดัม ฮุสเซน หรืออดีตผู้นำอื่นๆ ที่มีจุดจบไม่ดีนักท่านคิดว่าการที่ประชาชนในประเทศถูกสังหารจำนวนมากขนาดนี้

ผู้นำที่กำลังจะกลายเป็นอดีตผู้นำอย่างประธานาธิบดีอัล อัสซาดจะลงจากอำนาจราบรื่นได้อย่างไร การตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความยุติธรรมแก่ผู้สูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อจำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างจริงจัง โดยไม่มีอำนาจรัฐ หรือกลุ่มทุนเข้ามาแทรกแซง

 

การที่ผู้นำซีเรียน่าจะมีทางลงอย่างไม่สวยงามนัก ก็เป็นสาเหตุอย่างที่เราได้เห็นและรับทราบข้อมูลจากสื่อนานาชนิดที่สะท้อนเหตุการณ์ความรุนแรงจากเหตุปะทะกันในซีเรีย และการตัดสินใจไม่เข้ามาลุยซีเรียเพื่อแทรกแซงของชาติตะวันตกอย่างที่เคยทำมาแล้วกับลิเบียหรืออียิปต์ อาจเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นกันที่จะทำเช่นเดิม

บทเรียนจากหลายประเทศที่ทำให้ได้เรียนรู้ว่ายังต้องเผชิญปัญหาอีกมากหลังโค่นล้มผู้นำสำเร็จ เพราะการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองครั้งสำคัญก็มักจะต้องสูญเสียเลือดเนื้อประชาชนอีกจำนวนมาก ซึ่งตัวแบบที่น่าสนใจหรือซากปรักหักพังแห่งความสำเร็จที่สหรัฐฯ เคยบุกอิรักและอัฟกานิสถานยังชี้ให้เราได้เห็นว่า การแทรกแซงไม่ได้ทำให้เหตุการณ์ดีขึ้นเสมอไป ผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอาจจะทำให้สถานการณ์ทรงตัวหรือไม่ก็ทรุดหนักกว่าเดิม

อีกทั้งผู้ที่เข้าไปแทรกแซงชาติอื่นไม่ว่าจะด้วยข้ออ้างใดๆ เช่น ต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย หรือเพื่อรักษาสิทธิมนุษยชน หรือแม้แต่การโจมตีเพื่อค้นหาที่อิรักถูกกล่าวหาว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองอย่างที่สหรัฐฯ เคยกระทำการฝ่ายเดียว (unilateral) แบบเข้าโจมตีก่อนเพื่อป้องกันตนเอง (pre-emptive strike) โดยไม่รอมติจากองค์การสหประชาชาติ เวลาถอนตัวออกมาก็อาจจะทำได้ลำบาก กลายเป็นภาระซ้ำซ้อนให้แก่ประเทศตน

จึงทำให้หลายประเทศต้องคิดใหม่ในการเข้าไปแทรกแซง หรืออย่างน้อยก็ทบทวนอีกหลายครั้งหลายครา กว่าจะเข้าไปใหม่ เพราะบริบทในการแทรกแซงของแต่ละประเทศย่อมแตกต่าง แม้สถานการณ์จะคล้ายคลึงกัน แต่จะมีปัจจัยที่แบ่งให้มีความไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ หรืออย่างน้อยๆ ที่เป็นเหตุผลที่สำคัญและละทิ้งไม่ได้ก็คือ การเปลืองตัวจากการเข้าไปแทรกแซงเพราะผลประโยชน์จากประเทศนั้นๆ น้อยเกินไป

หากเรามุ่งไปที่สหรัฐฯ ที่ปกติมักจะเป็นฝ่ายนำในการเข้าโจมตีประเทศต่างๆ ก็อาจจะมองว่านี่เป็นช่วงหาเสียง การรักษาสถานะฐานเสียงของตนเอง หลังจากประชาชนชาวสหรัฐเบื่อหน่ายกับการโจมตีเรื้อรังและการทุ่มใช้สรรพกำลังทางด้านความมั่นคงทั้งหน่วยทหารที่ต้องไปคงกองกำลังในประเทศนั้นๆ ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต้องเสียไป และงบประมาณอีกมหาศาล ทางที่ดีและดูสงบที่สุดก็คือ ใช้วิธีการทางการทูตเข้าสู้ มากกว่าจะลงไปเล่นเต็มตัว

ข้อดีก็คือเราไม่เห็นการเปิดฉากโจมตีที่อาจจะไปกระทบกับชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังฟื้นตัวการทำเช่นนั้นย่อมสร้างผลเสียมากกว่าผลดี การวางมือจากการเมืองระหว่างประเทศไม่ว่าจะความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล หรือแม้แต่ในเอเชียที่สหรัฐฯ ก็เผยยุทธศาสตร์ที่จะก้าวเข้ามาเกี่ยวพันกับเอเชียเมื่อต้นปี ก็อาจจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงขุมทองอันเรืองรองที่ชาวสหรัฐน่าจะฝากฝังความหวังไว้ได้บ้างในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำและกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า

 

แต่ข้อเสียที่สำคัญก็คือการเสียชีวิตจากคนภายในประเทศซีเรียด้วยกันเองยังมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ ปัจจุบัน ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดจากข้อมูลหลายแหล่งรวมทั้งขององค์การสหประชาชาติ

• ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 28,795 ราย และ
• อพยพอีกกว่า 1,500,000 ราย กว่า 10,000 รายอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อิรัก จอร์แดน เลบานอน ตุรกี ซึ่งบริเวณชายแดนที่มีการอพยพถูกปิดกั้นไม่สามารถเข้าไปได้
• กว่า 10,000 รายที่ประท้วงถูกคุมขัง

องค์การระหว่างประเทศทั้งหลายที่มีซีเรียเป็นชาติสมาชิกนั้น การระงับแค่สถานะสมาชิกอาจไม่ช่วยให้สถานการณ์ในซีเรียสงบได้ และควรจะร่วมมือช่วยกันกดดันด้วยหนทางอื่นตามมาโดยเร็ว เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่ให้ลุกลามเสื่อมโทรมไปกว่าที่เป็นอยู่

ขณะที่องค์การสหประชาชาติ และชาติมหาอำนาจอย่างสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงทั้งหลาย อาจจะต้องสำรวจและทบทวนบทบาทตัวเองในการไกล่เกลี่ยปัญหา และร่วมหาทางออกแก่ซีเรียโดยเร็วเช่นกัน เพื่อไม่ให้สูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชนไปมากกว่านี้ และอย่างน้อยเพื่อไม่ให้เป็นรอยประทับตราที่ถูกมองว่าเป็นเพียงองค์การ/องค์กรเสือกระดาษย้ำชัดเข้าไปอีก เพราะมันคงยิ่งเกิดคำถามว่า เราจะมีองค์การระหว่างประเทศที่มีชาติสมาชิกเกือบ 200 ประเทศนี้ไปเพื่ออะไร?

 

http://www.siamintel...eader-al-assad/

[เช never die]

เอาเข้าจริงตัวบาร์ซารือัลอัสซ้าดเองก็ไม่ได้รู้เรื่องการเมืองอะไรมากมายเลย เอาเข้าจริงความเข้มแข้งของรัฐบาลซีเรียมีที่มาจากขุนทหารที่จงรักภักดีต่อฮาเฟดอัลอัดซ้าด(พ่อของบาร์ซาร์ อัล อัซซ้าด)

 

ในยุค 60 ซีเรียอาจถือได้ว่าเป็นตัวอย่างของความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ เป็นชาติอาหรับที่ไม่ชอบหน้ายิวแบบที่ยิวไม่กล้าแตะต้องเท่าไหร่ต่างจากพวกอียิปตื-เลาบานอน-ปาเลสไตน์ ฯลฯ

 

แต่ถ้าพวกยิวโค่นซีเรียลงวันนี้ไม่ได้ ก็ลืมเรื่องที่จะโค่นพวกเปอร์เซียร์ในอิหร่านไปได้เลย

 

จำได้ไหมครับ ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ พวกยิวขี้กากในสหรัฐสนับสนุนทุ่มให้ความชั่วเหลือซัดดัมฮุดเซ็นด้านการทหารอย่างเต็มที่สุดตีน เพื่อให้อิรักเป็นตัวแทนในการโค่นพวกเปอร์เชียร์ในอิหร่้าน รบกันอยู่เจ็ดแปดปี ทั้งๆที่พวกอเมริกันกระหายเลือดทุ่มเทช่วยเหลือซัดดัม ฮุสเซ็นทุกอย่าง แต่อาหรับขี้กากก็ยังกินพวกเปอร์เซียร์ในอิหร่านไม่ลง

 

มาวันนี้จะเปิดหน้าชกตรงๆก็กระดากอาย กระลิ้มกระเหรี่ยตีซีเรียให้ได้ก่อน แล้วค่อยปิดล้อมอิหร่าน เมื่อไหรที่พวกเปอร์เซียร์ในอิหร่านพ่ายแพ้พวกยิว ก็เครื่อนทัพไปปิดล้อมจีนกับรัสเซียเป้นลำดับถัดไป

 

เมื่อไหร่ที่จีน-รัสเซียพ่ายแพ้พวกยิวตามไปอีก ก็คงถึงคราวที่คำสัญญาพระยะโฮวาที่ให้ใว้กับพวกยิวว่า จะให้ยิวจะเป็นพ่อ-แม่ ของทุกชนชาต จะปี้ลูกสาวใครก้ได้ ก็คงถึงคราวเป็นจริง

[Gop]

ผมไม่เชื่อว่า อัสซาด ใช้วิธีนี้กับประชาชน
 
มันเป็น สั น ด า น ถ า ว ร ของผู้นำสหรัฐที่ใช้สงครามแก้ปัญหาเศรษฐกิจตัวเอง
 
ที่โดนอาวุธเคมีเรียงราย คิดให้ตายก็ฝีมืออเมริกา
 
มันต้องการทุบซีเรีย เพื่อยึดท่อส่งน้ำมัน
ส่งน้ำมันจากอิรัก ออกทางทะเลไปโกยเงิน
 
อิรักที่มันเคยอ้างเหุตป้ายสีว่ามีนิวเคลียร์ล้างโลก
แล้วฆ่าคนอิรักตายเป็นเบือเพื่อยึกทรัพยากร

 
เอ่อม แถวนั้นมีท่อนํ้ามันอยู่แล้วนี่ครับ มีทั้งไปออกทะเลแดง เมดิเตอเรเนียน โดยไม่จำเป็นต้องผ่านซีเรียเลยสักนิด แล้วที่อิรักก็มีท่าเรือนํ้าลึกอยู่แล้วนิครับ 

ออกทะเลแดงมีความเสี่ยง เพราะมีทั้งสุเอซและโซมาเลียที่เป็น chokepoint ท่าเรือที่อิรัก มีความเสี่ยงเรื่องการปิดช่องแคบฮอร์มุซ

ส่วนเมดิเตอร์เรเนียน ไม่ทราบว่าท่อไหนหรือครับ ที่เดินจากอิรักโดยไม่ผ่านซีเรีย ผมไม่เคยได้ยิน

[Gop]

อ้อ อีกอย่างที่น่าสนใจ

รัสเซียมีฐานทัพเรือที่ซีเรียด้วยครับ รู้สึกว่าเป็นฐานทัพเดียวในเมดิเตอร์เรเนียนเสียด้วย ถ้าฐานทัพนี้หลุดมือไป อิทธิพลของรัสเซียลดฮวบแน่นอน

[หนูอ้อย]

ปึ้ง อย่างเก่ง แสดงท่าทีของไทย

ว่าแต่ว่ารู้ยังว่าด่าอัสซาด หรือด่ากบฏ  

 

 

วันที่ 2 ก.ย.2556 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ  กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย เนื่องจากขณะนี้ ปรากฏชัดแล้วว่า ได้มีการใช้อาวุธเคมีในประเทศซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากในประเทศ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ นับเป็นการละเมิดบรรทัดฐานระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้งและเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

 

“ไทยขอประณามการใช้อาวุธเคมีในซีเรียอย่างรุนแรงที่สุด และผู้ที่กระทำอาชญากรรมที่ชั่วร้ายดังกล่าวจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และได้รับการลงโทษ ซึ่งแถลงการณ์ของไทยถือเป็นการแสดงจุดยืนของประเทศไทยต่อพฤติกรรมของซีเรียให้สังคมโลกได้รับทราบ โดยกลุ่มผู้ที่ใช้อาวุธเคมีทำลายล้างผู้บริสุทธิ์นั้นเป็นเรื่องที่ประเทศไทยรับไม่ได้ โดยไทยขอให้จับกุมตัวบุคคลเหล่านี้มาลงโทษให้ถึงที่สุด จากนี้ไปก็ต้องรอดูท่าทีของสหรัฐ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งไทยพร้อมปฏิบัติการตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงถาวร ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)  และคิดว่าไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย" นายสุรพงษ์ กล่าว 

 

http://www.siangtai....adnews&id=19031

[Kaizer]

ปากก็พร่ำบ่นว่าใช้อาวุธฆ่าประชาชน แล้วคุณมรึงจะไปบอมบ์เขานี่ประชาชนไม่ตายเนาะ

 

เจ๋งจริงก็ส่งหน่วยขี้โม้ไปจับพวกคนในรัฐบาลมาให้หมดดีกว่ามั้ย แบบพวกหนังขี้โม้ที่ชอบสร้างน่ะ

 

รบกันทีไร คนที่ตายแม่มก็ประชาชน ...ดวกส์

[Nong]

ตอนนี้ระบบข่าวกรองของอเมริกาเปลี่ยนแปลงมาก

 

จากประสบการณ์ความผิดพลาดเรื่องอีรัก

 

แม้แต่เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์บางอย่างในสาระขัณฑ์ประเทศ

 

ตัวเองได้มีโอกาสไปอยู่ในเหตุการณ์นิดหน่อย

 

คุณสามีก็สะกิดพร้อมกระซิบบอกให้ดูคนที่ไม่ไกลจากเราเท่าไหร่

 

คนนี้เป็นทหาร

 

เรามองตากับสามีประมาณว่ารู้กัน  เรื่องนี้ริวจะไม่ยุ่ง    

Edited by Nong, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:53.

[Diablo]

ไม่รู้จะว่าไง หน่วยข่าวเยอรมันก็บอกทำนองว่าอัสซาดนั่นแหละที่ใช้อาวุธเคมี ปกติไม่ค่อยจะเห็นเยอรมันขยับตัวกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นะครับ
 

http://www.spiegel.d...k-a-920123.html

[หนูอ้อย]

ไม่รู้จะว่าไง หน่วยข่าวเยอรมันก็บอกทำนองว่าอัสซาดนั่นแหละที่ใช้อาวุธเคมี ปกติไม่ค่อยจะเห็นเยอรมันขยับตัวกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นะครับ
 

http://www.spiegel.d...k-a-920123.html

 

เนี่ยละถึงมีคำว่ากรรมเวร  หรือกรรมเกิดจากผลของการกระทำ

บุชเคยทำเสียไว้กรณีบุกอิรัค หลายส่วนจึงเคลือบแคลงหากเมกาผลีผลาม

จึงต้องมีการรอให้ตกผลึกที่สุด ไม่ทะเร่อทะร่าทำซ้ำแบบเดิม

สำหรับเราผู้ดูมีแค่ประเด็นมนุษยธรรมต่อชาวบ้านตาดำๆเท่านั้น

ใครเป็นผู้ก่อ กาลเวลาจะเผยโฉมหน้าออกมา

[หนูอ้อย]

คณะกรรมาธิการฯ ในวุฒิสภาสหรัฐ ลงมติเฉียดฉิว 10:7 เห็นชอบร่างกฎหมายให้โจมตีซีเรีย 

 

                     5 ก.ย.56 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พรรคเดโมแครต ซึ่่่งครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาสหรัฐ ได้แหวกประเพณีด้วยการโยนกฎเกณฑ์เก่าๆทิ้งไป เพื่อพยายามเปิดทางให้สามารถใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย สร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิกพรรครีพับลีกัน ที่มองว่า พรรคเดโมแครตรีบเร่งขอมติเห็นชอบร่างอนุญาตให้ใช้ปฏิบัติการทางทหาร ในช่วงที่กำลังจะมีการโหวตว่าจะยอมให้สหรัฐก่อสงครามรอบใหม่หรือไม่ 

 

                     ทั้งนี้ ตามกฎของวุฒิสภา คือ การที่วุฒิสมาชิกจะต้องได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าเป็นเวลา 7 วัน ก่อนการพิจารณาร่างอนุญาตทำสงคราม (war authorization) เพื่อขออนุมัติใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียส่วนการประชุมใด ๆ ก็ควรจะได้รับแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และสมาชิกวุฒิสภาก็ควรมีเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ในการพิจารณารายละเอียดของร่างอนุญาต โดยเฉพาะการให้ประธานและสมาชิกคณะกรรมาธิการประเมินและตัดสินใจเรียกประชุมเมื่อเห็นชอบร่วมกัน

 

                     คณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐ ได้ลงมติอย่างเฉียดฉิว 10 ต่อ 7 เสียงเห็นชอบร่างอนุญาต ให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างจำกัด ในการแทรกแซงวิกฤติในซีเรีย เปิดทางให้มีการเปิดอภิปรายในวุฒิสภาแบบเต็มคณะในสัปดาห์หน้า ว่าจะอนุมัติแผนโจมตีซีเรียหรือไม่ อันเป็นความเคลื่อนไหวที่เพิ่มแรงหนุนให้กับฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่พยายามผลักดันให้สภาคองเกรส อนุมัติแผนโจมตีกองกำลังของประธานาธิบดีอัสซาด เพื่อตอบโต้ที่เขาใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือน 

       

อีกทั้ง การโหวตของคณะกรรมาธิการ แสดงให้เห็นถึงการเห็นชอบร่างมติประนีประนอม ที่กำหนดให้สหรัฐใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียได้ไม่เกิน 60 วัน และห้ามใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย และเนื้อหาที่จำกัดมากกว่าข้อเสนอในเบื้องต้นของประธานาธิบดีโอบามา แต่ก็ตรงตามเป้าหมายที่ฝ่ายบริหารต้องการลงโทษกองกำลังของประธานาธิบดีอัสซ้าด ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนของตนเองไปมากกว่า 1,400 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กกว่า 400 คน

 

                     ขณะเดียวกัน ยังคงมีกระแสคัดค้านในสภาคองเกรส อันเนื่องมาจากความวิตกว่าจะทำให้กองทัพสหรัฐ เข้าไปติดหล่มในสงครามกลางเมืองของซีเรียอีก และยังอาจจุดชนวนให้ความรุนแรงขยายไปทั่วภูมิภาคอีกด้วย

 

                     คาดว่า วุฒิสภาจะเปิดอภิปรายเต็มคณะ และลงมติว่าจะรับรองร่างอนุญาตให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างจำกัดหรือไม่ในสัปดาห์หน้า และร่างอนุญาตฉบับนี้ ยังจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย ก่อนจะนำของสองสภาฯ มาพิจารณาและทบทวนเงื่อนไขต่างๆ จนเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ก่อนเสนอให้ประธานาธิบดีโอบามา ลงนามรับรองในขั้นสุดท้าย

 

http://www.komchadlu...ml#.UihAMNIwot0

 

 

 

[หนูอ้อย]

 

http://www.spiegel.d...k-a-920123.html

( ภาคไทย )

ข่าวกรองเยอรมนีอ้าง ผู้นำซีเรียใช้แก๊สพิษในขณะขาดสติ

 

 

                     นิตยสารแดร์ สปีเกล ของเยอรมนี รายงานอ้างหน่วยข่าวกรอง บีเอ็นซี ของเยอรมนี ที่ดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มติดอาวุธเฮซบุลเลาะห์ กับสถานทูตอิหร่านในเลบานอน เกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีโจมตีในซีเรียว่า เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง และเขาต้องการจะให้ดุลย์แห่งอำนาจเอียงไปทางฝ่ายรัฐบาล ในระหว่างการต่อสู้เพื่อแย่งชิงการครอบครองกรุงดามัสกัส 

 

                     ผู้นำเฮซบุลเลาะห์ บอกด้วยว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซ้าด ของซีเรีย ใช้อาวุธเคมีโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน เนื่องจากเขาขาดสติในช่วงที่กำลังตื่นตระหนกและวิตกว่ากรุงดามัสกัส จะตกไปอยู่ในมือของฝ่ายต่อต้าน แต่ผลลัพท์ที่เกิดหลังการโจมตี กำลังจะส่งผลให้เกิดการแทรกแซงครั้งใหญ่จากสหรัฐและฝรั่งเศส ที่มีเป้าหมายจะทำลายขีดความสามารถทางทหารของประธานาธิบดีอัสซ้าด ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ประกาศว่า โลกต้องตอบโต้ซีเรีย และประชาคมนานาชาติ ไม่อาจทนเงียบเฉยต่อการใช้อาวุธเคมีได้ 

 

                     ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลข่าวกรองของเยอรมนี ได้มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เตือนตะวันตกว่า อย่าใช้ปฏิบัติการแต่เพียงฝ่ายเดียวต่อซีเรีย และย้ำว่า รัฐบาลซีเรียไม่ได้ใช้อาวุธเคมีโจมตีชานกรุงดามัสกัส เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ มีรายงานว่า รัสเซียได้ส่งเรือลาดตระเวณติดขีปนาวุธ เข้าไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัสเซียในภูมิภาคด้วย

 

                     การเปิดเผยข้อมูลข่าวกรองครั้งนี้ ได้สอดคล้องกับการประเมินข่าวกรองของสหรัฐที่ว่า ผู้นำซีเรียเป็นผู้รับผิดชอบต่อการใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งนายแกร์ฮาร์ด ชินด์เลอร์ประธานบีเอ็นดี กล่าวว่า จากการวิเคราะห์อย่างละเอียด พบว่า เป็นฝีมือของรัฐบาล แต่มีแต่รัฐบาลที่ครอบครองอาวุธเคมี เช่น แก๊สซาริน 

 

                     บีเอ็นดี เชื่อว่า การใช้แก๊สซาริน ก็เพื่อป้องปรามฝ่ายต่อต้าน แต่กองทัพอาจใช้มากเกินไปจึงเกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ซึ่งนิตยสารแดร์ สปีเกล ระบุว่า ข้อมูลใหม่จาก บีเอ็นดี อาจสำคัญสำหรับอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากสหรัฐระบุเพียงว่า หลังการโจมตีหน่วยข่าวกรองสามารถดักฟังการสื่อสารภายในของรัฐบาลซีเรีย ที่บ่งชี้ถึงความวิตกต่อความเป็นไปได้ที่คณะผู้ตรวจสอบอาวุธของสหประชาติ จะเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ แต่การดักฟังล่าสุดของบีเอ็นดี อาจเป็นชิ้นส่วนสำคัญของของจิ๊กซอว์ที่ผู้เชี่ยวชาญข่าวกรองของชาติตะวันตกกำลังต้องการ 

 

                     แม้จะพบข้อมูลล่าสุด แต่เยอรมนีก็ไม่มีแนวโน้มจะเข้าร่วมการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย หลังจากนายกรัฐมนตรีแองเกล่า แมร์เคิล และคู่แข่งสำคัญจากพรรคฝ่ายค้าน ต่างไม่เห็นด้วยกับการโจมตี ขณะที่อังกฤษรามือไปก่อนหน้านี้ เพราะนายกรัฐมนตรีเดวิดคาเมรอน พ่ายในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

                     ประธานาธิบดีโอบามา ได้รับการคาดหมายว่า จะได้รับเสียงสนับสนุนในสภาคองเกรสส์หลังจากสมาชิกระดับแกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลีกัน ต่างสนับสนุนการแทรกแซงวิกฤติความขัดแย้งในซีเรีย และมีแนวโน้มว่า จะมีความพยายามเกลี้ยกล่อมให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เปลี่ยนใจเลิกสนับสนุนรัฐบาลซีเรียด้วย

 

                     อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กำลังเพิ่มมากขึ้น หลังอิสราเอลทดสอบการยิงขีปนาวุธ 2 ลูก เมื่อวันอังคาร และรัสเซียส่งเรือลาดตระเวณติดขีปนาวุธเข้าไปปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง เรือของรัสเซียมีชื่อว่า มอสควา และกำลังจะเข้าไปสมทบกับเรือพิฆาตที่มาจากกองเรือในทะเลบอลติก และเรือฟรีเกตจากกองเรือในทะเลดำ โดยขณะนี้ เรือลาดตระเวณ มอสควา ได้เข้าสู่ช่องแคบยิบรอลต้าแล้ว และจะใช้เวลา 10 วัน ในการเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 

       

[หนูอ้อย]

มีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ จะเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกที่เข้าร่วมประชุมสุดยอดจี-20 ในรัสเซียสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการโจมตีต่อซีเรีย ซึ่งนำโดยสหรัฐ แม้ว่า โอกาสที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารขึ้นอยู่กับการลงมติของสมาชิกในรัฐสภา .. โดยการเยือนต่างประเทศนาน 3 วันของโอบามา จะมีขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ของเขากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตึงเครียด ขณะที่ ปูตินเองคือผู้นำโลกคนเดียวที่แข็งขืนที่สุดในการขัดขวางความพยายามของนานาชาติในการโค่นอำนาจประธานาธิบดีอัสซาด ของซีเรีย

 

http://www.dailynews...th/world/230584

[ramboboy26]

   

[Yasuhiro]

ผมไม่แน่ใจว่าที่เมืองไทยมีการนำเสนอข่าวไปหรือยังครับว่า บางเมืองในซีเรียที่มีการสู้รบอยู่ระหว่างฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์กับอัลเคด้า กับรัฐบาลซีเรีย ในเมืองนั้นเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตอาวุธเคมี ซึ่งถึงแม้ว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลส่วนนี้อาจจะรบชนะในอนาคต ก็ไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงของโลก รวมทั้งไทยในระยะกลางถึงยาวอยู่ดี เพราะที่ผ่านมาผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทยฝึกโดยครูฝึกชาวอินโดนีเซียและซีเรียในประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับไทย ที่ระเบิดที่ลีการ์เด้น ที่หาดใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ไทยจับกุมผู้ต้องหาคนนึงได้ ก็เป็นชาวซีเรียและโดนส่งออกนอกประเทศไทย และตอนนี้มีชาวอินโดนีเซียจำนวนอย่างต่ำ 50 คน + นักรบรับจ้างชาวมาเลเซียรบอยู่ในซีเรียอีกจำนวนหนึ่ง

ปัญหาเรื่องซีเรียที่ชาติตะวันตกกังวลกัน คือเรื่องของการที่มุสลิมบางคนเดินทางไปยังซีเรียเพื่อทำสงครามต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ถูกชักจูงจากพวกหัวรุนแรง และเข้าร่วมกับฝ่ายที่เชื่อมโยงกับอัลเคด้ามากกว่าฝ่ายสายกลาง เมื่อพวกนี้กลับประเทศพร้อมประสบการณ์การรบ การใช้อาวุธเคมี ก็จะเป็นภัยอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศนั้นๆ 

สำหรับกรณีที่ผู้นำซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนก็ผิดเต็มประตู และมีประชาชนชาวซีเรียต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก (เท่าที่มีการประเมินไว้มีจำนวน 1 แสนกว่าราย) ไหนทางรัฐบาลซีเรียจะมีความสัมพันธ์กับกลุ่มHezbollah ที่ชอบมาวางแผนที่ประเทศไทย ที่ล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการปาระเบิดใส่แท๊กซี่ในไทยอีก (ที่ตอนหลังได้มีการขยายผลจับกุมถึงได้พบโกดังเก็บวัตถุดิบสำหรับเตรียมการก่อวินาศกรรมสถานทูตสหรัฐ และอิสราเอลในไทยที่สมุทรสาครอีก  ซึ่งอาวุธเคมีที่ผลิตแล้ว หรือมีการฝึกการผลิตอาวุธเคมีขึ้นมาใช้อีก ประชาชนผู้บริสุทธิจะต้องเสียชีวิตไปอีกจำนวนมากเท่าไหร่ ซึ่งไทยเราก็ไม่อาจจะรอดพ้นความเสี่ยงไปได้ด้วยครับ 

(สำหรับสมาชิกที่สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลทั้งหมดสามารถสืบค้นได้ทางเนตครับ )

[หนูอ้อย]

@  ที่มั่นทางทหารในกรุงดามัสกัส ซึ่งคาดว่าจะตกเป็นเป้า หากสหรัฐนำพันธมิตรเปิดฉากโจมตีซีเรีย

[หนูอ้อย]

เรื่องซีเรีย ..ชาติตะวันตกและประเทศในตะวันออกกลาง ได้แสดงท่าทีผิดแผกกัน 

 

สหรัฐ

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้หันไปขออนุมัติจากสภาคองเกรส ที่จะโจมตีอย่างจำกัดต่อเป้าหมายทางทหารในซีเรีย ตลอดสัปดาห์ วอชิงตันได้เสริมกำลังทางทะเลทางฟากตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เชื่อกันว่า อเมริกาจะเล่นงานซีเรียด้วยจรวดนำวิถีที่ยิงจากทะเล

 

อังกฤษ

สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษได้ปฏิเสธคำขอของรัฐบาลที่จะสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐต่อซีเรีย นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน บอกว่า เคารพมติของสภา ทำให้อังกฤษต้องถอนตัวออกจากการร่วมมือที่จะเข้าแทรกแซง

 

ฝรั่งเศส

ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ บอกว่า พร้อมเดินหน้าแทรกแซงทางทหารในซีเรีย แม้อังกฤษไม่ได้เข้าร่วม ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในชาติตะวันตกที่มีท่าทีแข็งกร้าวที่สุดต่อระบอบปกครองของบาชาร์ อัลอัสซาด เป็นประเทศตะวันตกชาติแรกที่รับรองพันธมิตรฝ่ายค้านว่าเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของซีเรีย

 

เมื่อเดือนพฤษภาคม ฝรั่งเศสร่วมกับอังกฤษ ได้ล็อบบี้ให้สหภาพยุโรปยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกอาวุธไปยังซีเรียได้สำเร็จ เปิดทางให้ประเทศยุโรปหนุนช่วยฝ่ายกบฏในทางการทหารได้เพิ่มขึ้น

 

รัสเซีย

รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนอัสซาดรายสำคัญที่สุด เรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตซีเรียด้วยวิถีทางการเมือง วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนต่อท่าทีของตะวันตกที่จะโจมตีซีเรีย พร้อมกับย้ำว่า การใช้มาตรการนอกกรอบของสหประชาชาติจะสร้าง "ผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวง" แก่บรรดาประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

 

จีน

จีนได้ร่วมกับรัสเซียยับยั้งข้อมติประณามซีเรียในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และได้วิจารณ์แนวโน้มที่จะเกิดการโจมตีซีเรียเช่นเดียวกัน โดยบอกว่า บรรดามหาอำนาจตะวันตกด่วนสรุปเกินไปว่า การใช้อาวุธเคมีในซีเรียเป็นฝีมือของฝ่ายไหน เพราะผู้ตรวจการณ์ของสหประชาชาติยังตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่เสร็จ

 

เยอรมนี

รัฐบาลเบอร์ลินบอกปัดที่จะเข้าร่วมในปฏิบัติการทางทหาร เยอรมนีบอกก่อนหน้านี้ว่า หากพบหลักฐานว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีจริงก็จะต้องเผชิญ "ผลที่ตามมา" แต่ไม่ได้ระบุว่าจะตอบโต้ซีเรียอย่างไร

 

ตุรกี

รัฐบาลตุรกีได้ประณามระบอบอัสซาดมาตั้งแต่เกิดการลุกฮือ ประกาศพร้อมร่วมมือกับนานาชาติเล่นงานซีเรีย แม้คณะมนตรีความมั่นคงไม่อาจหาข้อสรุปได้ก็ตาม

 

ซาอุดีอาระเบีย และประเทศอ่าวเปอร์เซีย

เหล่ากษัตริย์ในย่านอ่าวเปอร์เซียได้ส่งเงินและอาวุธสนับสนุนฝ่ายกบฏ ซาอุดีอาระเบียเป็นศัตรูกับซีเรียมานาน ด้วยเหตุผลของการแข่งอิทธิพลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค

 

อิสราเอล

ในปีนี้ อิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายต่างๆในซีเรียแล้ว 3 ครั้ง เพื่อป้องกันการส่งอาวุธให้พวกนักรบฮิซบุลเลาะห์ชาวเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับรัฐบาลซีเรีย นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประณามการใช้อาวุธเคมีของกองทัพซีเรีย และแสดงท่าทีสนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร

 

เลบานอน

เลบานอนบอกว่า ไม่สนับสนุนการโจมตีซีเรีย กลุ่มนักรบฮิซบุลเลาะห์ชาวเลบานอน ซึ่งนับถืออิสลามนิกายชีอะห์ ได้เข้าสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการสู้รบกับฝ่ายกบฏ

 

จอร์แดน

จอร์แดนบอกว่า จะไม่อนุญาตให้ใช้ดินแดนของตนเป็นเขตพักรอที่จะเข้าโจมตีซีเรีย เรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตนี้ด้วยการเมือง

 

อิหร่าน

รัฐบาลเตหะรานเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลอัสซาดรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่ก่อนเกิดความขัดแย้งในซีเรียแล้ว และได้วิจารณ์อย่างหนักต่อแนวโน้มที่จะเกิดการโจมตี พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่สหประชาชาติที่ไปเยือนอิหร่านว่า การใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียจะต้องเจอกับ "ผลที่ตามมา"  ขณะกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านระบุว่า พวกกบฏต่างหากที่เป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมี

 

อิรัก

อิรักไม่ได้แสดงความเป็นปรปักษ์ต่อซีเรียมากเท่าชาติอาหรับบางประเทศ เพียงแต่วิตกว่า หากวิกฤตซีเรียบานปลาย ก็จะยิ่งตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างมุสลิมชาวชีอะห์กับมุสลิมชาวซุนนีย์

 

อียิปต์

เมื่อเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีอียิปต์ในขณะนั้น โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ได้ตัดความสัมพันธ์กับซีเรีย และเรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบิน ทว่าหลังจากเขาถูกโค่นอำนาจ รัฐบาลรักษาการได้ปรับท่าทีใหม่ โดยบอกว่า วิธีการทางทหารไม่สามารถแก้ไขวิกฤตซีเรียได้ ต้องใช้หนทางการเมือง.

 

ที่มา : BBC News

 

[Diablo]

ผมไม่แน่ใจว่าที่เมืองไทยมีการนำเสนอข่าวไปหรือยังครับว่า บางเมืองในซีเรียที่มีการสู้รบอยู่ระหว่างฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์กับอัลเคด้า กับรัฐบาลซีเรีย ในเมืองนั้นเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตอาวุธเคมี ซึ่งถึงแม้ว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลส่วนนี้อาจจะรบชนะในอนาคต ก็ไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงของโลก รวมทั้งไทยในระยะกลางถึงยาวอยู่ดี เพราะที่ผ่านมาผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทยฝึกโดยครูฝึกชาวอินโดนีเซียและซีเรียในประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับไทย ที่ระเบิดที่ลีการ์เด้น ที่หาดใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ไทยจับกุมผู้ต้องหาคนนึงได้ ก็เป็นชาวซีเรียและโดนส่งออกนอกประเทศไทย และตอนนี้มีชาวอินโดนีเซียจำนวนอย่างต่ำ 50 คน + นักรบรับจ้างชาวมาเลเซียรบอยู่ในซีเรียอีกจำนวนหนึ่ง

ปัญหาเรื่องซีเรียที่ชาติตะวันตกกังวลกัน คือเรื่องของการที่มุสลิมบางคนเดินทางไปยังซีเรียเพื่อทำสงครามต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ถูกชักจูงจากพวกหัวรุนแรง และเข้าร่วมกับฝ่ายที่เชื่อมโยงกับอัลเคด้ามากกว่าฝ่ายสายกลาง เมื่อพวกนี้กลับประเทศพร้อมประสบการณ์การรบ การใช้อาวุธเคมี ก็จะเป็นภัยอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศนั้นๆ 

สำหรับกรณีที่ผู้นำซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนก็ผิดเต็มประตู และมีประชาชนชาวซีเรียต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก (เท่าที่มีการประเมินไว้มีจำนวน 1 แสนกว่าราย) ไหนทางรัฐบาลซีเรียจะมีความสัมพันธ์กับกลุ่มHezbollah ที่ชอบมาวางแผนที่ประเทศไทย ที่ล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการปาระเบิดใส่แท๊กซี่ในไทยอีก (ที่ตอนหลังได้มีการขยายผลจับกุมถึงได้พบโกดังเก็บวัตถุดิบสำหรับเตรียมการก่อวินาศกรรมสถานทูตสหรัฐ และอิสราเอลในไทยที่สมุทรสาครอีก  ซึ่งอาวุธเคมีที่ผลิตแล้ว หรือมีการฝึกการผลิตอาวุธเคมีขึ้นมาใช้อีก ประชาชนผู้บริสุทธิจะต้องเสียชีวิตไปอีกจำนวนมากเท่าไหร่ ซึ่งไทยเราก็ไม่อาจจะรอดพ้นความเสี่ยงไปได้ด้วยครับ 

(สำหรับสมาชิกที่สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลทั้งหมดสามารถสืบค้นได้ทางเนตครับ )

ผมว่าคนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามพวกนี้ไปครับ เพราะไม่มีข้อมูลเลย อย่างผมก็ทราบจากคุณ Yasuhiro นี่แหละครับว่ามีการส่งคนไปร่วมรบกับฝึกอาวุธที่ซีเรียด้วย คนทั่วไปคงมองแค่ US บ้าอำนาจอยากทำสงครามแค่นั้นแหละครับ แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่งก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมเขาถึงอยากให้มันจบเร็วๆ

ถ้าพวกก่อการร้ายหันมาใช้อาวุธเคมีนี่ผมว่าน่ากลัวมากๆ ยิ่งถ้าเป็นข่าวขนาดนี้การไปค้นข้อมูลว่าสารตั้งต้นมันไม่ได้หายากเลยยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่

[ควันหลง]

 

 

ผมไม่เชื่อว่า อัสซาด ใช้วิธีนี้กับประชาชน
 
มันเป็น สั น ด า น ถ า ว ร ของผู้นำสหรัฐที่ใช้สงครามแก้ปัญหาเศรษฐกิจตัวเอง
 
ที่โดนอาวุธเคมีเรียงราย คิดให้ตายก็ฝีมืออเมริกา
 
มันต้องการทุบซีเรีย เพื่อยึดท่อส่งน้ำมัน
ส่งน้ำมันจากอิรัก ออกทางทะเลไปโกยเงิน
 
อิรักที่มันเคยอ้างเหุตป้ายสีว่ามีนิวเคลียร์ล้างโลก
แล้วฆ่าคนอิรักตายเป็นเบือเพื่อยึกทรัพยากร

 
เอ่อม แถวนั้นมีท่อนํ้ามันอยู่แล้วนี่ครับ มีทั้งไปออกทะเลแดง เมดิเตอเรเนียน โดยไม่จำเป็นต้องผ่านซีเรียเลยสักนิด แล้วที่อิรักก็มีท่าเรือนํ้าลึกอยู่แล้วนิครับ 

ออกทะเลแดงมีความเสี่ยง เพราะมีทั้งสุเอซและโซมาเลียที่เป็น chokepoint ท่าเรือที่อิรัก มีความเสี่ยงเรื่องการปิดช่องแคบฮอร์มุซ

ส่วนเมดิเตอร์เรเนียน ไม่ทราบว่าท่อไหนหรือครับ ที่เดินจากอิรักโดยไม่ผ่านซีเรีย ผมไม่เคยได้ยิน

 

 

นี่ครับ

 

[Yasuhiro]

จากบทสัมภาษณ์ของอดีตเลขาสมช. ท่านหนึ่ง พวกผู้ก่อความไม่สงบที่ภาคใต้ในสมัยหนึ่งบางส่วนใช้พาสปอร์ตปลอมเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านไปยังตุรกี ก่อนที่จะเข้าไปซีเรีย หรือเดินทางต่อไปลิเบีย และไปฝึกในค่ายแถวชานเมืองหลวงของซีเรีย (ไม่แน่ใจว่าสำนักงานใหญ่ของพูโลตั้งในส่วนไหนของซีเรีย) แต่ที่แน่ๆคือหนึ่งในหลักสูตรที่ฝึกก็คือการผสมสารเคมี และไหนจะส่งไปฝึกภาคสนามในเลบานอน อัฟริกา ก่อนกลับเข้าไปทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอีก

ถึงแม้ส่วนตัวผมจะไม่ชอบซีเรียมากมายแค่ไหน เพราะว่าเพื่อนสนิทชาวเกาหลีของผมเกือบโดนลวงไปฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ หรือโดนรัฐบาลส่งคนติดตามดูพฤติกรรมระหว่างอยู่ซีเรียทุกวัน หรือเวลามันจะส่งข่าวมาถึงผมที่โตเกียว พิมพ์ๆไปก็มีข้อความขึ้นมาว่า ข้อความที่พิมพ์ไปให้ลบออก หากฝ่าฝืนจะโดนจับ (แปลว่ามันดูข้อมูลทุกคนที่ใช้เนตในประเทศ) หรือสุดท้ายอดีตแฟนของเพื่อนผมที่เป็นชาวซีเรียที่เจอกันที่ญี่ปุ่นเพราะมาเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้นแล้วมาคบหากับเพื่อนสนิทผม เกือบจะโดนพ่อของตนเองฆ่าเอา ข้ออ้างคือเพื่อรักษาเกียรติของตระกูล จนเพื่อนผมต้องเลิกคบเพื่อรักษาชีวิตอดีตแฟน หรือว่าคนซีเรียอยู่ในกะลาเหยียดคนเอเชีย เหยียดคนญี่ปุ่นและเกาหลี (แต่ก็ใช้สินค้าจากสองประเทศนี้เป็นจำนวนมาก)

 

แต่ทั้งหมดนี้ถ้าผมไม่เจอบทสัมภาษณ์ของอดีตเลขาสมช. หรือไม่ได้เจอข่าวจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของไทย หรือเห็นภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นในซีเรีย (ภาพที่สะเทือนใจผมมากที่สุดคือ พ่ออุ้มร่างลูกสาว 3 ขวบที่โดนฝ่ายกองกำลังของอัลไคดาที่ต่อต้านรัฐบาลซีเรียตัดหัวเด็กคนนั้น เพียงเพราะพ่อเด็กนับถือคนละนิกาย หรือเด็กชาวซีเรียที่หน้าหายไปครึ่งหนึ่ง เพราะการโจมตีของฝ่ายรัฐบาล) ผมก็คงไม่ตามติดแบบละเอียดเท่าขณะนี้ แต่ว่าเรื่องของซีเรีย เป็นเรื่องจำเป็นที่คนไทยต้องมีความรู้ที่คลาดเคลื่อนน้อยที่สุด เพราะมันใกล้ตัวกว่าที่คิดครับ

[grand_v]

เส้นทางผ่านซีเรียที่ถูกปิดไปปี 2546 เป็นเส้นสู่ยุโรป แอฟริกา ได้สะดวกที่สุด

เส้นทางผ่านตุรกี มีปัญหาก่อวินาศกรรมบ่อยครั้งครับ 

อย่ายุทธศาสตร์ของอเมริกา ในเรื่องการใช้สงครามนอกประเทศเพื่อสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้ตัวเอง 

[ควันหลง]

เส้นทางผ่านซีเรียที่ถูกปิดไปปี 2546 เป็นเส้นสู่ยุโรป แอฟริกา ได้สะดวกที่สุด

เส้นทางผ่านตุรกี มีปัญหาก่อวินาศกรรมบ่อยครั้งครับ 

อย่ายุทธศาสตร์ของอเมริกา ในเรื่องการใช้สงครามนอกประเทศเพื่อสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้ตัวเอง 

 

ถ้าผ่านซีเรีย ในวันนี้และวันข้างหน้า มันจะไม่ถูกวินาศกรรมหรือครับ 

[Yasuhiro]

 

เรื่องซีเรีย ..ชาติตะวันตกและประเทศในตะวันออกกลาง ได้แสดงท่าทีผิดแผกกัน 

 

สหรัฐ

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้หันไปขออนุมัติจากสภาคองเกรส ที่จะโจมตีอย่างจำกัดต่อเป้าหมายทางทหารในซีเรีย ตลอดสัปดาห์ วอชิงตันได้เสริมกำลังทางทะเลทางฟากตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เชื่อกันว่า อเมริกาจะเล่นงานซีเรียด้วยจรวดนำวิถีที่ยิงจากทะเล

 

อังกฤษ

สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษได้ปฏิเสธคำขอของรัฐบาลที่จะสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐต่อซีเรีย นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน บอกว่า เคารพมติของสภา ทำให้อังกฤษต้องถอนตัวออกจากการร่วมมือที่จะเข้าแทรกแซง

 

ฝรั่งเศส

ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ บอกว่า พร้อมเดินหน้าแทรกแซงทางทหารในซีเรีย แม้อังกฤษไม่ได้เข้าร่วม ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในชาติตะวันตกที่มีท่าทีแข็งกร้าวที่สุดต่อระบอบปกครองของบาชาร์ อัลอัสซาด เป็นประเทศตะวันตกชาติแรกที่รับรองพันธมิตรฝ่ายค้านว่าเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของซีเรีย

 

เมื่อเดือนพฤษภาคม ฝรั่งเศสร่วมกับอังกฤษ ได้ล็อบบี้ให้สหภาพยุโรปยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกอาวุธไปยังซีเรียได้สำเร็จ เปิดทางให้ประเทศยุโรปหนุนช่วยฝ่ายกบฏในทางการทหารได้เพิ่มขึ้น

 

รัสเซีย

รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนอัสซาดรายสำคัญที่สุด เรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตซีเรียด้วยวิถีทางการเมือง วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนต่อท่าทีของตะวันตกที่จะโจมตีซีเรีย พร้อมกับย้ำว่า การใช้มาตรการนอกกรอบของสหประชาชาติจะสร้าง "ผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวง" แก่บรรดาประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

 

จีน

จีนได้ร่วมกับรัสเซียยับยั้งข้อมติประณามซีเรียในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และได้วิจารณ์แนวโน้มที่จะเกิดการโจมตีซีเรียเช่นเดียวกัน โดยบอกว่า บรรดามหาอำนาจตะวันตกด่วนสรุปเกินไปว่า การใช้อาวุธเคมีในซีเรียเป็นฝีมือของฝ่ายไหน เพราะผู้ตรวจการณ์ของสหประชาชาติยังตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่เสร็จ

 

เยอรมนี

รัฐบาลเบอร์ลินบอกปัดที่จะเข้าร่วมในปฏิบัติการทางทหาร เยอรมนีบอกก่อนหน้านี้ว่า หากพบหลักฐานว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีจริงก็จะต้องเผชิญ "ผลที่ตามมา" แต่ไม่ได้ระบุว่าจะตอบโต้ซีเรียอย่างไร

 

ตุรกี

รัฐบาลตุรกีได้ประณามระบอบอัสซาดมาตั้งแต่เกิดการลุกฮือ ประกาศพร้อมร่วมมือกับนานาชาติเล่นงานซีเรีย แม้คณะมนตรีความมั่นคงไม่อาจหาข้อสรุปได้ก็ตาม

 

ซาอุดีอาระเบีย และประเทศอ่าวเปอร์เซีย

เหล่ากษัตริย์ในย่านอ่าวเปอร์เซียได้ส่งเงินและอาวุธสนับสนุนฝ่ายกบฏ ซาอุดีอาระเบียเป็นศัตรูกับซีเรียมานาน ด้วยเหตุผลของการแข่งอิทธิพลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค

 

อิสราเอล

ในปีนี้ อิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายต่างๆในซีเรียแล้ว 3 ครั้ง เพื่อป้องกันการส่งอาวุธให้พวกนักรบฮิซบุลเลาะห์ชาวเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับรัฐบาลซีเรีย นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประณามการใช้อาวุธเคมีของกองทัพซีเรีย และแสดงท่าทีสนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร

 

เลบานอน

เลบานอนบอกว่า ไม่สนับสนุนการโจมตีซีเรีย กลุ่มนักรบฮิซบุลเลาะห์ชาวเลบานอน ซึ่งนับถืออิสลามนิกายชีอะห์ ได้เข้าสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการสู้รบกับฝ่ายกบฏ

 

จอร์แดน

จอร์แดนบอกว่า จะไม่อนุญาตให้ใช้ดินแดนของตนเป็นเขตพักรอที่จะเข้าโจมตีซีเรีย เรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตนี้ด้วยการเมือง

 

อิหร่าน

รัฐบาลเตหะรานเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลอัสซาดรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่ก่อนเกิดความขัดแย้งในซีเรียแล้ว และได้วิจารณ์อย่างหนักต่อแนวโน้มที่จะเกิดการโจมตี พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่สหประชาชาติที่ไปเยือนอิหร่านว่า การใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียจะต้องเจอกับ "ผลที่ตามมา"  ขณะกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านระบุว่า พวกกบฏต่างหากที่เป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมี

 

อิรัก

อิรักไม่ได้แสดงความเป็นปรปักษ์ต่อซีเรียมากเท่าชาติอาหรับบางประเทศ เพียงแต่วิตกว่า หากวิกฤตซีเรียบานปลาย ก็จะยิ่งตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างมุสลิมชาวชีอะห์กับมุสลิมชาวซุนนีย์

 

อียิปต์

เมื่อเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีอียิปต์ในขณะนั้น โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ได้ตัดความสัมพันธ์กับซีเรีย และเรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบิน ทว่าหลังจากเขาถูกโค่นอำนาจ รัฐบาลรักษาการได้ปรับท่าทีใหม่ โดยบอกว่า วิธีการทางทหารไม่สามารถแก้ไขวิกฤตซีเรียได้ ต้องใช้หนทางการเมือง.

 

ที่มา : BBC News

 

อยากให้ลองค้นบทบาทของการ์ตาด้วยครับ น่าสนใจพอควรครับ

[grand_v]

 

เส้นทางผ่านซีเรียที่ถูกปิดไปปี 2546 เป็นเส้นสู่ยุโรป แอฟริกา ได้สะดวกที่สุด

เส้นทางผ่านตุรกี มีปัญหาก่อวินาศกรรมบ่อยครั้งครับ 

อย่ายุทธศาสตร์ของอเมริกา ในเรื่องการใช้สงครามนอกประเทศเพื่อสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้ตัวเอง 

 

ถ้าผ่านซีเรีย ในวันนี้และวันข้างหน้า มันจะไม่ถูกวินาศกรรมหรือครับ 

 

อเมริกามันถึงได้ อัดอาวุธให้ฝ่ายกบฏโค่นรัฐบาลซีเรีย

ที่ต่อต้านการครอบงำอิรักโดยอเมริกา 

นี่เป้็นเพียงเหตุผลหนึ่ง ไม่ีต้องไปมองปัญหาในภูมิภาค ปัญหากับอิสราเอล 

[ควันหลง]

 

 

เส้นทางผ่านซีเรียที่ถูกปิดไปปี 2546 เป็นเส้นสู่ยุโรป แอฟริกา ได้สะดวกที่สุด

เส้นทางผ่านตุรกี มีปัญหาก่อวินาศกรรมบ่อยครั้งครับ 

อย่ายุทธศาสตร์ของอเมริกา ในเรื่องการใช้สงครามนอกประเทศเพื่อสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้ตัวเอง 

 

ถ้าผ่านซีเรีย ในวันนี้และวันข้างหน้า มันจะไม่ถูกวินาศกรรมหรือครับ 

 

อเมริกามันถึงได้ อัดอาวุธให้ฝ่ายกบฏโค่นรัฐบาลซีเรีย

ที่ต่อต้านการครอบงำอิรักโดยอเมริกา 

นี่เป้็นเพียงเหตุผลหนึ่ง ไม่ีต้องไปมองปัญหาในภูมิภาค ปัญหากับอิสราเอล 

 

 

ประเทศมันคงไร้เสถียรภาพไปอีกนานแสนนาน เพราะต่อให้โค่นรบ.ซีเรียปัจจุบันลงได้ ฝ่ายรบ.ปัจจุบัน ก็ย่อยสลายกลายไปเป็นกลุ่มต่อต้านอยู่ดี ซึ่งแน่นอนว่าท่อนํ้ามันนี่ มันต้องเป็นผลประโยชน์ของรบ.ซีเรียใหม่อยู่แล้ว แล้วมันจะไม่รอดจากถูกวินาศกรรมหรือครับ 

 

การทำลายท่อส่งนํ้ามัน ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรซับซ้อนเลยท่าน แค่คนๆเดียวกับสวาทมือหมุนก็จัดการได้แล้วครับ 

Edited by ควันหลง, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:53.

[เช never die]

ผมละโคดขำรัฐบาลอาหรับขี้กากแบบซาอุดิอาระเบีย

 

ปากก็เห่าโฮ่งๆว่าประเทศขี้กากของตัวเองเป้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ใครจะเข้าไปดินแดนขี้กากนี้ต้องประฏิบัติตามกฏศาสนาอย่างเคร่งครัด

 

แต่พอเอาเข้าจริงพวกจีไอบ้ากามทั้งตัวผู้ตัวเมียแก้ผ้าโดดน้ำเล่นกันโครมๆ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถรุยยยย .....

[หนูอ้อย]

 

 

เรื่องซีเรีย ..ชาติตะวันตกและประเทศในตะวันออกกลาง ได้แสดงท่าทีผิดแผกกัน 

 

สหรัฐ

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้หันไปขออนุมัติจากสภาคองเกรส ที่จะโจมตีอย่างจำกัดต่อเป้าหมายทางทหารในซีเรีย ตลอดสัปดาห์ วอชิงตันได้เสริมกำลังทางทะเลทางฟากตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เชื่อกันว่า อเมริกาจะเล่นงานซีเรียด้วยจรวดนำวิถีที่ยิงจากทะเล

 

อังกฤษ

สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษได้ปฏิเสธคำขอของรัฐบาลที่จะสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐต่อซีเรีย นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน บอกว่า เคารพมติของสภา ทำให้อังกฤษต้องถอนตัวออกจากการร่วมมือที่จะเข้าแทรกแซง

 

ฝรั่งเศส

ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ บอกว่า พร้อมเดินหน้าแทรกแซงทางทหารในซีเรีย แม้อังกฤษไม่ได้เข้าร่วม ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในชาติตะวันตกที่มีท่าทีแข็งกร้าวที่สุดต่อระบอบปกครองของบาชาร์ อัลอัสซาด เป็นประเทศตะวันตกชาติแรกที่รับรองพันธมิตรฝ่ายค้านว่าเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของซีเรีย

 

เมื่อเดือนพฤษภาคม ฝรั่งเศสร่วมกับอังกฤษ ได้ล็อบบี้ให้สหภาพยุโรปยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกอาวุธไปยังซีเรียได้สำเร็จ เปิดทางให้ประเทศยุโรปหนุนช่วยฝ่ายกบฏในทางการทหารได้เพิ่มขึ้น

 

รัสเซีย

รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนอัสซาดรายสำคัญที่สุด เรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตซีเรียด้วยวิถีทางการเมือง วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนต่อท่าทีของตะวันตกที่จะโจมตีซีเรีย พร้อมกับย้ำว่า การใช้มาตรการนอกกรอบของสหประชาชาติจะสร้าง "ผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวง" แก่บรรดาประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

 

จีน

จีนได้ร่วมกับรัสเซียยับยั้งข้อมติประณามซีเรียในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และได้วิจารณ์แนวโน้มที่จะเกิดการโจมตีซีเรียเช่นเดียวกัน โดยบอกว่า บรรดามหาอำนาจตะวันตกด่วนสรุปเกินไปว่า การใช้อาวุธเคมีในซีเรียเป็นฝีมือของฝ่ายไหน เพราะผู้ตรวจการณ์ของสหประชาชาติยังตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่เสร็จ

 

เยอรมนี

รัฐบาลเบอร์ลินบอกปัดที่จะเข้าร่วมในปฏิบัติการทางทหาร เยอรมนีบอกก่อนหน้านี้ว่า หากพบหลักฐานว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีจริงก็จะต้องเผชิญ "ผลที่ตามมา" แต่ไม่ได้ระบุว่าจะตอบโต้ซีเรียอย่างไร

 

ตุรกี

รัฐบาลตุรกีได้ประณามระบอบอัสซาดมาตั้งแต่เกิดการลุกฮือ ประกาศพร้อมร่วมมือกับนานาชาติเล่นงานซีเรีย แม้คณะมนตรีความมั่นคงไม่อาจหาข้อสรุปได้ก็ตาม

 

ซาอุดีอาระเบีย และประเทศอ่าวเปอร์เซีย

เหล่ากษัตริย์ในย่านอ่าวเปอร์เซียได้ส่งเงินและอาวุธสนับสนุนฝ่ายกบฏ ซาอุดีอาระเบียเป็นศัตรูกับซีเรียมานาน ด้วยเหตุผลของการแข่งอิทธิพลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค

 

อิสราเอล

ในปีนี้ อิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายต่างๆในซีเรียแล้ว 3 ครั้ง เพื่อป้องกันการส่งอาวุธให้พวกนักรบฮิซบุลเลาะห์ชาวเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับรัฐบาลซีเรีย นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประณามการใช้อาวุธเคมีของกองทัพซีเรีย และแสดงท่าทีสนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร

 

เลบานอน

เลบานอนบอกว่า ไม่สนับสนุนการโจมตีซีเรีย กลุ่มนักรบฮิซบุลเลาะห์ชาวเลบานอน ซึ่งนับถืออิสลามนิกายชีอะห์ ได้เข้าสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการสู้รบกับฝ่ายกบฏ

 

จอร์แดน

จอร์แดนบอกว่า จะไม่อนุญาตให้ใช้ดินแดนของตนเป็นเขตพักรอที่จะเข้าโจมตีซีเรีย เรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตนี้ด้วยการเมือง

 

อิหร่าน

รัฐบาลเตหะรานเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลอัสซาดรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่ก่อนเกิดความขัดแย้งในซีเรียแล้ว และได้วิจารณ์อย่างหนักต่อแนวโน้มที่จะเกิดการโจมตี พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่สหประชาชาติที่ไปเยือนอิหร่านว่า การใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียจะต้องเจอกับ "ผลที่ตามมา"  ขณะกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านระบุว่า พวกกบฏต่างหากที่เป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมี

 

อิรัก

อิรักไม่ได้แสดงความเป็นปรปักษ์ต่อซีเรียมากเท่าชาติอาหรับบางประเทศ เพียงแต่วิตกว่า หากวิกฤตซีเรียบานปลาย ก็จะยิ่งตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างมุสลิมชาวชีอะห์กับมุสลิมชาวซุนีย์

 

อียิปต์

เมื่อเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีอียิปต์ในขณะนั้น โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ได้ตัดความสัมพันธ์กับซีเรีย และเรียกร้องให้ประกาศเขตห้ามบิน ทว่าหลังจากเขาถูกโค่นอำนาจ รัฐบาลรักษาการได้ปรับท่าทีใหม่ โดยบอกว่า วิธีการทางทหารไม่สามารถแก้ไขวิกฤตซีเรียได้ ต้องใช้หนทางการเมือง.

 

ที่มา : BBC News

 

อยากให้ลองค้นบทบาทของการ์ตาด้วยครับ น่าสนใจพอควรครับ

 

 

ประเทศกาต้าร์แม้จะมีรัฐบาลแต่ส่วนใหญ่รัฐมนตรีที่อยู่ใน ครม.ล้วนแล้วแต่เป็นเชื้อพระวงศ์ในราชวงค์ Al - Thani กาตาร์เป็นประเทศหนึ่งในแถบอ่าวอาหรับที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงเปลี่ยนการปกครองใด ๆ 

กาตาร์มีการมองการณ์ไกลไปถึงวันที่ปราศจากน้ำมันและก๊าซ ได้มีการลงทุนไว้ในต่างประเทศมากมายในนามของรัฐกาตาร์เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในอนาคต  เช่น ลงทุนสัมปทานโทรศัพท์ในพม่า  และลาว

 

ตุรกี ซาอุ และกาตาร์ ประเทศเหล่านี้เป็นพรรคพวกสหรัฐทั้งสิ้น เบื้องลึกเบื้องหลังเชื่อกันว่าประเทศเหล่านี้ช่วยจัดหาอาวุธให้กับกบฏซีเรีย

 

แต่มีกระแสข่าวชิ้นหนึ่งวิเคราะห์ว่ากาตาร์มีประเด็นอ่อนไหวกับซีเรียเรื่องทางผ่านท่อก๊าซ ลองอ่าน ..

 

http://www.sahibzama...pdate&Itemid=55

 

"อับดุลบารี อัฏวาน" นักวิจัยและอดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ "อัลกุดส์ อัลอะรอบี" ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่กาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียไว้ในบทความของตน

 

ตามการรายงานของเว็บไซต์ข่าวของสถานีโทรทัศน์อัล-อาลัมในวันเสาร์ ; "อับดุลบารี อัฏวาน" ได้เขียนว่า : ประมาณหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวฝ่ายตรงข้ามของซีเรียคนหนึ่ง ในรายการ "อัลอิติญาฮ์ อัลมะอากิซ" ของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีร่าของกาตาร์ ได้ถูกซักถามเกี่ยวกับเหตุผลการปฏิเสธของบัชชาร อัลอะซัด ประธานาธิบดีซีเรียที่จะยอมให้ท่อก๊าซธรรมชาติของกาตาร์ผ่านจากดินแดนประเทศของตนไปยังตุรกีและจากตุรกีไปยังยุโรป  คำตอบของเขานั้น สำหรับผมและสำหรับผู้ชมอีกจำนวนมากแล้ว มันคือสิ่งที่อธิบายถึงเหตุผลหลักประการหนึ่งที่ทำให้กาตาร์โกรธแค้นรัฐบาลซีเรียและตัดสินใจสนับสนุนการปฏิบัติการติดอาวุธต่อต้านประเทศนี้

 

อัฏวานได้กล่าวว่า : แขกของรายการ (ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าว) ผู้นี้ ได้ย้ำว่า ภายหลังจากการประกาศความเห็นชอบในเบื้องต้นของบัชชาร อัลอะซัด เกี่ยวกับการที่กาตาร์ขอผ่านท่อก๊าซธรรมชาติจากดินแดนของซีเรีย เขาได้แจ้งถึงการไม่ยินยอมของตนต่อเรื่องนี้ (ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้เองที่ทำให้ผู้ปกครองกาตาร์เกิดความโกรธแค้นและตัดสินใจแก้แค้นต่อซีเรีย)

 

หลังจากนั้น ในการเป็นแขกรับเชิญทั่วไป ผมได้มีโอกาสพบปะกับดร. “ซามี อัลค็อยมี” อดีตเอกอัครราชทูตซีเรียในกรุงลอนดอน และผมได้ดึงตัวเขาออกมาด้านนอกและได้ถามเขาเกี่ยวกับประเด็นท่อก๊าซตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เขากล่าวตอบว่า : ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้มีความถูกต้องอย่างแท้จริง เนื่องจากว่าซีเรียนั้นไม่สามารถที่จะยอมสูญเสียพันธมิตรทางยุทธศาสตร์อย่างเช่นรัสเซียไป  ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่ผู้นำซีเรียจึงได้ปฏิเสธที่จะยอมให้ท่อก๊าซธรรมชาตินี้ผ่านดินแดนของซีเรีย ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ต่าง ๆ ของตนเอง

 

 

 

เพิ่มเติมเกี่ยวกับอิสราเอล ว่าเป็นประเทศที่เกร็งกับเรื่องสงครามในซีเรียที่ยืดเยื้อนี้มากสุด เพราะเลบานอนถือว่าการทำสิ่งใดๆ ที่กระเทือนสมดุลอำนาจในถิ่นแถวนี้ถือเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของอิสราเอลทั้งสิ้น เลบานอนมีชื่อเสียในการลงมือปฏิบัติการทางทหารในทันทีโดยไม่ขออนุญาตจากใครหากรู้สึกว่าตนอยู่ในอันตราย การเล่มเกมขู่กรรโชกของมหาอำนาจในขณะนี้อาจจะไม่เกิดผลโดยตรงใดๆต่อซีเรีย แต่อิสราเอลอาจจะกระโดดออกมาเป็นทัพหน้ามีบทบาทอะไรก่อนได้เสมอ สหรัฐอาจยืดเกมแต่อิสราเอลอาจไม่ตาม

 

ซีเรียทำกล้าปากเก่งท้าว่าถ้าอยากจะให้มี WWlll ก็ลองดู เป็นเพราะซีเรียรู้ดีว่ามหาอำนาจช่วงนี้ไม่ได้อยู่ในช่วงขาขึ้นทางเศรษฐกิจเหมือนช่วงที่บุชเคยทำในอิรักและอัฟกานิสถาน ทั้งยังพล่าผลาญเงินไปเยอะ ก็ลองสังเกตต่อไปว่าโอบามาจะเอาอย่างไร และซีเรียรวมทั้งพันธมิตรจะตอบโต้อย่างไร ..

[Yasuhiro]

สำหรับการ์ตานะครับ มีเชื้อพระวงศ์คนนึงเคยประกาศเปิดเผยว่าหนุนอัลเคดา และให้เงินสนับสนุนด้วย และทั้งอัลเคด้าและตอลีบัน ต่างมีสำนักงานในการ์ตาทั้งคู่ (ถึงแม้ฝ่ายหลังจะพยายามลดการติดต่อหรือลดความสัมพันธ์กับฝ่ายแรกก็ตาม)
ที่สำคัญมูลนิธิของเชื้อพระวงศ์คนนี้ก็เคยบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่กลุ่มหัวรุนแรงในอินโดนีเซียเปิดบังหน้า และตามแหล่งข่าวความมั่นคงของไทยที่ให้ข่าวกับนสพ.ไทยบางฉบับเมื่อหลายปีที่แล้ว มูลนิธิที่ผู้ก่อความไม่สงบของไทยเปิดบังหน้าเพื่ออำพรางธุรกรรม ก็ได้รับเงินบริจาคจากมูลนิธิของอินโดนีเซียมาอีกทอดหนึ่ง 
 

[Yasuhiro]

เพิ่มเติมครับ ตอนนี้ไม่มีใครอยากให้ซีเรียกลายเป็นปากีสถานแห่งที่สองของโลกครับ พูดกันตามตรงรบเพื่อเอาชนะซีเรียประเทศเดียวน่ะง่าย แต่หลังจากล้มรัฐบาลซีเรียปัจจุบัน แล้วหลังจากนั้นเป็นเรื่องท้าทายต่อประชาคมโลกมากกว่าครับ

[MuuSang]

  เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศซีเรียเมื่อวันพุธ(4) ประกาศกร้าวจะไม่ยอมจำนนต่อคำขู่ถล่มทางทหารของสหรัฐฯ แม้อาจจุดชนวน "สงครามโลกครั้งที่3" พร้อมยังเชื่อมั่นต่อรัสเซีย พันธมิตรสำคัญว่าจะไม่เปลี่ยนจุดยืน แม้ ปูติน เสียงอ่อนอาจไม่ขวางตะวันตกหากมีข้อพิสูจน์ว่ารัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมี ขณะที่ โอบามา เริ่มเดินสายขอเสียงสนับสนุนจากนานาชาติ โดยกล่าวเตือนที่สวีเดนว่าโลกเสี่ยงสูญเสียความน่าเชื่อถือหากไม่ดำเนินการใดๆต่อดามัสกัส
       
       ระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวเอเอฟพี นายไฟซาล มักดัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศซีเรีย ระบุว่ารัฐบาลของเขาจะใช้ทุกมาตรการตอบโต้ความพยายามเข้าแทรกแซงใดๆที่มีเป้าหมายโค่นล้มระบบการปกครองของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ฐานต้องสงสัยใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือน "รัฐบาลซีเรียจะไม่มีวันเปลี่ยนจุดยืนแม้ว่าจะมีสงครามโลกครั้งที่ 3 ซีเรียไม่ควรต้องถูกสังเวยจากความเป็นเอกราชของตนเอง ซีเรียจะใช้ทุกมาตการตอบโต้ต่อการรุกรานใดๆ" เขากล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะใช้วิธีการใด
       
       วอชิงตัน กล่าวหาว่ามีการใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนในย่านชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 รายและกล่าวโทษไปที่รัฐบาลนายอัสซาด โดยเวลานี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กำลังล็อบบี้สภาคองเกรสอย่างหนักเพื่อให้สนับสนุนแผนโจมตีตอบโต้การใช้อาวุธนี้ ส่วนรัฐสภาฝรั่งเศส ก็กำลังถกเถียงในประเด็นดังกล่าว
  ประธานาธิบดีโอบามาแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสวีเดน เตือนโลกว่าอาจสูญเสียความน่าเชื่อถือหากไม่โจมตีซีเรีย        ขณะเดียวกันในส่วนของวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ชาติพันธมิตรของซีเรีย ซึ่งคัดค้านแผนใช้กำลังทหารต่อซีเรียมาตลอด ในวันพุธ(4) ก็เสียงอ่อนก่อนรับบทเจ้าภาพประชุมซัมมิตกลุ่มจี20 ระบุรัสเซียจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดหากตะวันตกมีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า รัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมีโจมตีปลายเดือนที่แล้ว ในเรื่องนี้นายมักดัด เชื่อว่าจุดยืนของพันธมิตรรัสเซียไม่ได้เปลี่ยนไป "จุดยืนของรัสเซียไม่เปลี่ยน มันเป็นจุดยืนแห่งความรับผิดชอบของเพื่อนที่ฝักใฝ่ในสันติภาพ"
       
       อีกด้านหนึ่งประธานาธิบดีโอบามาได้เดินทางถึงสวีเดนแล้วในวันพุธ(4) ในโปรแกรมเยือน 2 วัน ส่วนหนึ่งในความพยายามของเสียงสนับสนุนจากโลกต่อปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย โดยเขากล่าวที่กรุงสตอกโฮล์ม ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสวีเดนว่าโลกได้ขีดเส้นตายสำหรับซีเรียไปแล้วและความเชื่อน่าของประชาคมนานาชาติกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงหากไม่ดำเนินการใดๆต่อระบอบการปกครองที่ใช้อาวุธเคมี
       
       "เส้นตายนี้ไม่ใช่ของผม แต่โลกเป็นผู้กำหนด" โอบามากล่าว อ้างถึงกฎนานาชาติเกี่ยวกับการห้ามใช้อาวุธเคมีแม้แต่ในกรณีของสงคราม "ความน่าเชื่อถือของผมไม่ได้อยู่บนเส้นด้าย แต่เป็นความน่าเชื่อถือของประชาคมนานาชาติต่างหาก ขณะเดียวกันความน่าเชื่อถือของอเมริกาและสภาคองเกรสก็อยู่บนเส้นด้ายด้วย เพราะพวกเราเอาแต่พูดว่าบรรทัดฐานสากลนี้เป็นสิ่งสำคัญ" โอบามากล่าว
  พลเรือนซีเรียที่อ้างกันว่าเสียชีวิตจากการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เมื่อเดือนก่อน        โปรแกรมเดินทางครั้งนี้ของโอบามา ยังรวมไปถึงการเข้าร่วมประชุมจี20ที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์กของรัสเซีย ซึ่งคาดหมายกันว่าเขาจะใช้เวทีนี้ขอเสียงสนับสนุนหรืออย่างน้อยก็รับรองความเคลื่อนไหวลงโทษรัฐบาลของนายอัสซาด
       
       เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่านายโอบามา จะหารือนอกรอบการประชุมจี 20 กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้สนับสนุนหลักสำหรับการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย เช่นเดียวกับเหล่าผู้นำจีนและญีปุ่น ขณะเดียวกันแม้ไม่มีแผนเจรจาแบบทวิภาคีกับปูติน แต่ก็แย้มว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพูดคุยกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
       
       ในคำแถลงที่สตอกโฮล์ม ประธานาธิบดีโอบามา ยังบอกด้วยว่าประชาคมนานาชาติไม่ควรเงียบงันต่อการตอบโต้รัฐบาลซีเรียที่ใช้อาวุธเคมีกับพลเรือนของตนเอง พร้อมให้คำรับประกันว่าปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียจะไม่ซ้ำรอยความผิดพลาดในอิรัก และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส "ผมเป็นหนึ่งคนที่ต่อต้านสงครามอิรัก และผมจะไม่ผิดพลาดซ้ำสองต่อการตัดสินใจบนข้อมูลข่าวกรองผิดๆ"
       
       ทั้งนี้ในช่วงค่ำวันพุธ(4) โอบามา ยังมีกำหนดรับประทานอาหารค่ำกับนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ เดนมาร์กและไอซ์แลนด์ รวมถึงประธานาธิบดีฟินแลนด์ด้วย

 

 

 

ที่มา http://www.manager.c...D=9560000111460

 

 

ประทานโทษครับ มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ด้วยหรือครับ ท่านเวปเอกอุแห่งสามะโลก

[หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว]

ตลาดหุ้นไทย ขึ้นพรวด เพราะทางอเมริกา มีปันหาแน่

 

แถมส่งออกอาหารไทย จะได้อานิสงเพียบ เพราะแต่ละประเทศจะกักตุนอาหาร แถมค่าเงินอ่อน ทำให้ได้เงินเข้าประเทศอื้อ

[ควันหลง]

ตลาดหุ้นไทย ขึ้นพรวด เพราะทางอเมริกา มีปันหาแน่

 

แถมส่งออกอาหารไทย จะได้อานิสงเพียบ เพราะแต่ละประเทศจะกักตุนอาหาร แถมค่าเงินอ่อน ทำให้ได้เงินเข้าประเทศอื้อ

 

สาบานได้นะว่านี่ คิดแล้ว 

[ปุถุชน]

ประธานาธิบดีโอบามารู้ว่าซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนในย่านชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน....!

 

ต้องรู้ต่อว่า....รัฐบาลทักษิณใช้นโยบายปราบปรามยาเสพติด ฆ่าตัดตอน 2500 ศพ.....

รัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย และรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ใช้แก๊สน้ำตาสลายม๊อบประชาชน......!

[ปุถุชน]

ตลาดหุ้นไทย ขึ้นพรวด เพราะทางอเมริกา มีปันหาแน่

 

แถมส่งออกอาหารไทย จะได้อานิสงเพียบ เพราะแต่ละประเทศจะกักตุนอาหาร แถมค่าเงินอ่อน ทำให้ได้เงินเข้าประเทศอื้อ

 

ปลาร้าเก่าในไหใหม่โกหกอีกแล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[emujack]

ตลาดหุ้นไทย ขึ้นพรวด เพราะทางอเมริกา มีปันหาแน่

 

แถมส่งออกอาหารไทย จะได้อานิสงเพียบ เพราะแต่ละประเทศจะกักตุนอาหาร แถมค่าเงินอ่อน ทำให้ได้เงินเข้าประเทศอื้อ

มันเกียวอะไรกับชื่อกระทู้มั้ยเนี้ย

[Gop]

 

 

นี่ครับ

 

 

 

เท่าที่เห็น ที่เปิดใช้ได้มีแค่เส้นเดียวนะครับ คือ Iraq-Turkey pipeline ถ้าลอง search ดูก็จะเจอข่าวนี้อยู่อันดับต้นๆ

 

 

http://voiceofrussia...-blown-up-9057/

 

จากข่าวก็พอเห็นได้ว่า บริเวณนั้นคงมีปัญหากันอยู่ เอาล่ะ คุณแย้งไปแล้ว ว่าต่อให้ผ่านซีเรียก็มีปัญหาเหมือนกัน ซึ่งผมเห็นว่าก็เป็นไปได้ แต่เส้นทางปัจจุบันที่เห็นนั้นมีปัญหามากกว่าแค่การก่อวินาศกรรมครับ เพราะแหล่งน้ำมันที่ป้อนท่อส่งน้ำมันเส้นนี้ มาจากบ่อน้ำมันทางตอนเหนือของประเทศอิรัค ซึ่งมีปัญหาเยอะ อย่างแรกคือบริเวณนี้ถูกควบคุมและปกครองด้วยชาวเคิร์ด ซึ่งมีปัญหากับรัฐบาลกลางพอสมควร การตกลงกันในเรื่องการก่อสร้างและพัฒนามีปัญหาอยู่ตลอด และบริเวณนี้ ถึงแม้ผลิตได้มากพอสมควร แต่ก็สู้แหล่งน้ำมันบริเวณปากแม่น้ำซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไม่ได้

 

ปัญหาต่อไปคือตัวท่อส่งน้ำมันเอง ตอนนี้ไม่สามารถใช้เต็มความจุที่ออกแบบมาแล้วครับ การดูแลรักษาคงไม่ดีพอ ทำให้ปัจจุบัน สามารถส่งน้ำมันได้แค่วันละ 3 แสนบาเรล เท่านั้น ทั้งที่ออกแบบไว้ให้ส่งได้ถึง 1.65 ล้านบาเรลต่อวัน และทำให้ทุกวันนี้ การส่งออกน้ำมันเกือบทั้งหมดคือประมาณ 2.1 ล้านบาเรล จากทั้งหมด 2.4 ล้านบาเรล ต้องส่งออกผ่าท่าเรือที่อ่าวเปอร์เซีย ซึ่งผมมองว่ามีทั้งความเสี่ยงเรื่องการปิดช่องแคบของอิหร่าน และเป็นการเพิ่มค่าขนส่ง เพราะต้องเดินเรืออ้อมคาบสมุทรอาระเบียมาอีกที

 

ประเด็นเรื่องน้ำมัน จึงเป็นสิ่งที่ผมมองว่าพวกตะวันตก คืออเมริกา และมหาอำนาจทางตะวันตก น่าจะสนใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะถ้าควบคุมเส้นทางการขนส่งจากอิรัคผ่านซีเรีย มายังทะเลเมดิเตอเรเนียนได้ ก็จะมีแหล่งน้ำมันมหาศาล ที่ลดค่าขนส่งในการเดินทาง และมีความเสี่ยงน้อยกว่าเดิมมาก ( เท่าที่เห็น บริเวณที่เดินท่อน้ำมัน เป็นเขตอิทธิพลของพวกกบฏนะครับ )

 

สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มไปอีกก็คือ ตอนนี้อิรัค มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ให้สูงขึ้นถึง 9.5 ล้านบาเรลต่อวัน ให้ได้ภายในปี 2017 และแน่นอน อิรัคต้องหาทางระบายน้ำมันไปให้ตลาดหลักๆ ก็คือยุโรป และอเมริกาให้ได้  ผมมองว่าถ้าควบคุมเส้นทางนี้ได้ น้ำมันมหาศาลจะส่งผ่านทางอิรัคมาลงที่ท่าเรือที่ซีเรียแน่นอน

 

ส่งท้ายด้วยข้อมูลจากเว็บ eia http://www.eia.gov/c...cab.cfm?fips=IZ

 

 

จะเห็นว่า 39% ของน้ำมันที่ส่งออกนั้น ปลายทางอยู่ที่ยุโรปและอเมริกา 39% จากทั้งหมด 2.4 ล้านบาเรล ก็ประมาณ 9 แสนบาเรลต่อวัน ผมเชื่อว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นแน่นอน ถ้าเส้นทางส่งน้ำมันจากอิรัคมาซีเรียเกิดขึ้นจริงๆ

 

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ทฤษฎีนะครับ