#1
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:05
หาก “แสงไฟที่เราต้องรักษาไว้ด้วยกัน” ของ ปราบดา หยุ่น เป็นสปอร์ตไลท์ มันก็คงถูกครอบไว้ด้วยกะลาอันน้อยสมควรที่ ปราบดา หยุ่นจะเปิดกะลาอันนั้นออก เพื่อปลดปล่อยแสงสว่างนั้นให้กระจายออกไปในพื้นที่ๆกว้างขวางขึ้น แสงที่จ้าจัดจะได้ลดลงให้สายตาที่พร่าเลือนปรับเห็นภาพปกติเหมือนที่คนทั่วไปเขาได้เห็นกันมานานนักหนา
และหากว่า “แสงไฟที่เราต้องรักษาไว้ด้วยกัน” ของ ปราบดา หยุ่น เป็นเปลวเทียนริบหรี่ใกล้ดับท่ามกลางป่าดงดิบในคืนเดือนมืด ฉันขอปวารณาตัวเป็นสปอร์ตไลท์ให้ ปราบดา หยุ่น ในฐานะ ข้าราชบริพาลที่อยู่ร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภาร โดยไม่เคยได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจกับการมีอยู่ของ ม. 112 แต่ประการใด
ในโลกยุคอวกาศที่คนเราสามารถไปเดินเที่ยวถึงดาวอังคารได้ มีอย่างหนึ่งที่คนเราไม่ควรทำอย่างยิ่ง ปราบดา หยุ่น รู้ไหมว่ามันคืออะไร มันก็คือ สิ่งที่ปราบดา หยุ่น กับพวกพยายามอยู่นี่ยังไงคะ การพูดความจริงเพียงเสี้ยวเล็กๆ จากกองความจริงมากมายมหาศาลที่ ปราบดา หยุ่น กับพวกจงใจซุกไว้ ไม่ยอมที่จะพูดถึง เฝ้าคร่ำครวญโยนบาปให้กับกฎหมาย โดยไม่ได้แตะส่วนหัวใจของเรื่องแม้ปลายเล็บ
บุคคลควรใช้สิทธิเสรีภาพของตนภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย และที่สำคัญต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่นด้วยเช่นกัน เชื่อว่า ปราบดา หยุ่น คงจะเคยผ่านหูผ่านตาข้อความตรงนี้มาบ้าง และการศึกษาก็น่าจะทำให้เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ทำไมจึงไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาเพียงสองสามบรรทัดที่บัญญัติใน ม.112 ก็ไม่รู้ ยิ่งในกรณีที่ ปราบ ดา หยุ่น อ้างว่าแค่ส่งเอสเอ็มเอสก็ทำให้คนเราสามารถติดคุกได้ถึง 20 ปี ก็ยิ่งน่าอนาถในความคิดของคนระดับ “ปัญญาชน” ที่กระสันต์อยากจะเปลี่ยนแปลงสังคม
แหม ก็แค่จะสู้ด้วยข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ทั่วไป ยังไม่กล้า แล้วจะหวังอะไรจากเรื่องลวงๆที่พรรณนาไว้ซะท่วมทุ่ง ยุคนี้มันยุคอวกาศค่ะ ปราบดา หยุ่น อย่าจงใจบิดเบือนคนในโลกไซเบอร์ด้วยกัน เว้นแต่คุณหวังจะมอมเมาเพียงพวกเดียวกัน ซึ่งฉันคงผิดหวังกับความตกต่ำของนักเขียนที่ก้าวกระโดดมาเป็นนักเคลื่อนไหวมือใหม่ถอดด้ามอย่างคุณที่ช่างคาดหวังกับความคิดความเชื่อของตัวเองน้อยนิดอย่างน่าใจหาย
ทว่าเมื่อกลับมาพิจารณาเนื้อหาน้ำท่วมทุ่งที่ ปราบดา หยุ่น ลากยาวโดยไม่สนข้อเท็จจริง มันก็สมควรอยู่างยิ่งที่เจ้าตัวจะไม่คาดหวังอะไรกับการจิ้มดีดเรื่องราวเหล่านี้ออกมา ซึ่งสปอร์ตไลท์อย่างฉันขอบอกว่า มันเข้าพง ลงทะเล ห่างไกลฝั่งอย่างน่าหัวเราะที่สุด
ปราบดา หยุ่น มองคนอย่างฉัน คนที่จงรักภักดีต่อสถาบันว่าเป็น “สังคมลัทธิ” แล้วก็หลับหูหลับตาพร่ำเพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย แม้ความจริงจะทนโท่เป็นหลักฐานอยู่ตรงหน้าว่า สถาบันได้สร้างคุณูปการมหาศาลเพียงใดต่อบ้านเมืองต่อประชาชน
เราจงรักภักดีต่อในหลวงต่อสถาบันเพราะสถาบันรัก และทำเพื่อพวกเรา พูดง่ายๆแบบนี้เข้าใจไหมคะ ปราบดา หยุ่น
สิ่งที่สถาบันทำเพื่อคนไทย ถ้าคนจิตใจปกติ ไม่บิดเบี้ยว หรือป่วยทางจิตก็จะเห็นว่าเป็นสิ่งดี เป็นคุณงามความดีที่น่าซาบซึ้ง
“ความดี” เป็นสากล ไม่ต้องพูดภาษาเดียวกันก็เข้าใจได้ เพราะอย่างนี้กระมัง โลกจึงยกย่อง เชิดชูองค์พระประมุขของไทย ว่าทรงเป็นกษัตริย์ที่เหนือกษัตริย์ใดทั้งปวง เหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ฉัน และผู้คนอีกจำนวนมากภักดีต่อในหลวงต่อสถาบัน หาใช่สิ่งที่ ปราบดา หยุ่น เพ้อเจ้อจนท่วมทุ่ง แต่หาความจริงแม้สักขี้ตามดก็ยังไม่เจอ
ปราบดา หยุ่น ว่างจากการจิ้มดีด ลองเสิร์ช คำว่า “โครงการในพระราชดำริ” หรือถ้าขี้เกียจนักก็พิมพ์แค่คำว่า “ในหลวง” ก็จะมีข้อมูลมากมายให้คนอย่าง ปราบดา หยุ่น ได้ศึกษา และเข้าใจว่าทำไม ฉัน กับคนอีกมากมายจึงจงรักภักดี ความรักภักดีของเราตั้งอยู่บนความมีเหตุมีผล ไม่ใช่ลัทธิ หรือรักเพราะตำแหน่งแห่งหน หรือถูกสอนให้รัก
เรารักพระองค์ท่านเพราะคุณงามความดี แล้วปราบดา หยุ่น กับพวกล่ะคะ รัก และยกย่องคนที่คุณงามความดี หรือสิ่งใดในตัวเขา
ปราบดา หยุ่น คะ ก่อนคุณจะอาจหาญพูดคำว่า “เห็นต่าง” ออกมา ฉันว่าคุณควรขุดหาความกล้าในตัวเองแล้วพูดข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนให้ได้ก่อนดีกว่าไหม หาก ปราบดา หยุ่น ไม่รู้ ว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นอย่างไร ก็ไม่ควรจะเพ้อเจ้อสร้างความเสียหายให้สังคม เลิกจิ้มดีดตามจินตนาการเหลวไหลสักพัก ไปหาความรู้จนรอบด้าน แล้วจึงกลับมาจิ้มดีดต่อก็ยังไม่สาย จะดีกับตัว ปราบดา หยุ่น เองซะด้วยซ้ำไปเพราะไม่มีใครหรอกค่ะที่จะคาดหวังผลสำเร็จจากการต่อสู้ด้วยความจริงเสี้ยวเล็กๆที่ปนด้วยความเท็จมหาศาลในยุคอวกาศแบบนี้ นอกจากหวังผลไม่ได้แล้ว มันยังจะทำให้ ปราบดา หยุ่น ดูขี้ขลาด และโง่เขลาซะด้วยสิคะ.
http://www.prachatai...l/2011/12/38507
#2
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:12
ดีใจที่เรา "ข้างเดียวกัน"
และคนที่อยู่ข้างเดียวกับเราก็เยอะแยะไปหมดเลย
#3
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:34
รินหวังว่าพวกเราจะได้ช่วยกันเผยแพร่คุณงามความดีที่ดีจริงๆนี้ให้กว้างขวางออกไป
เบื่อเหลือเกินกับพวกปากว่าตาขยิบ พวกอีแอบจอมเนรคุณที่เนียนอยู่ในสังคม แอบอ้างความดี
ตีกินประชาธิปไตยไปวันๆ
#4
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:35
#5
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:55
#6
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 18:59
#7
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:00
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
#8
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:02
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
#9
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:06
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร
แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
#10
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:08
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่คุณจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ คุณในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้ผมจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คุณก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
ถูกใจไหมครับ ปรับให้ก็ได้
#12
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:14
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
ผมว่าถึงเค้าจะนักเลง แต่ก็จริงใจ รักก็บอกว่ารัก รู้สึกอย่างไรก็บอกอย่างนั้น
ส่วนปราบดา หยุ่น รู้ได้อย่างไรล่ะว่าแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธิ์ใจ แค่บอกว่าส่ง SMS แล้วติดคุกมันก็ไม่บริสุทธิ์ใจแล้ว
#13
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:15
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร
แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
คุณว่าไปถึงอาจารย์ปีดีย์ ด้วยหรือเปล่าครับ
#14
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:17
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร
แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
จริงค่ะ มันอยู่ที่เจตนา ไม่ใช่คำพูดที่หลุดออกมาหรอก หากเทียบความบริสุทธิ์ใจระหว่าง ท่าน "อาวุโสโอเค" กับ คนอย่าง ปราบดา หยุ่น แล้วล่ะก็ คนขาดจิตสำนึกที่ดีอย่าง ปราบดา หยุ่น ที่ดีแต่ใช้ความรู้ที่มีทำลายสังคมไปวันๆ มีอะไรเทียบกับท่าน "อาวุโสโอเค" ได้หรือ มั่นใจว่าไม่มีค่ะ
#15
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:18
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร
แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
คุณว่าไปถึงอาจารย์ปีดีย์ ด้วยหรือเปล่าครับ
สำหรับผมคงไม่เกี่ยวกับ อ.ปรีดี หรอกครับ เพราะเราคุยถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ในประเด็นของ ปราบดา หยุ่น
#16
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:18
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร
แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
คุณว่าไปถึงอาจารย์ปีดีย์ ด้วยหรือเปล่าครับ
พอตัวเองเล่นไม่ถูกก็เลยไปดึงเอาคนตายมาพูดเหรอครับ แอบอ้างหน่ะ ได้ขออณุญาติใครบ้างหรือเปล่า
หรือ มารยาท แค่นี้ก็ไม่เคยคิดที่จะทำ เอาคนตายมาเล่น แบบนี้จะให้เรียกว่าอะไรครับ หรือคุณเองไม่มี ศักดิ์ศรีพอ
ที่จะแสดงความคิดเห็นเอง
#17
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:19
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร
แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
คุณว่าไปถึงอาจารย์ปีดีย์ ด้วยหรือเปล่าครับ
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#18
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:22
อยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร
ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียว
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร
แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
คุณว่าไปถึงอาจารย์ปีดีย์ ด้วยหรือเปล่าครับ
โดยส่วนตัวก็ไม่เคยเห็นอะไรที่ "ควรแก่การยกย่อง" ในตัวของปรีดีย์อยู่แล้วค่ะ
#19
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:25
อย่าใช้ข้ออ้างหรูๆ ว่าการคิดต่าง นอกกรอบ มาใช้กับความคิดเพี้ยนๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสังคม
คนรับสาร คนอ่านสื่อ ยังไงก็อ่าน ก็ฟังทุกประเด็นทุกเนื้อหาที่เห็น ไม่ได้ใจแคบอะไร
แต่เสียงสะท้อนจากคนอ่านคนฟังจะเป็นแง่บวกหรือแง่ลบ นั่นก็อีกเรื่อง
Edited by มะเขือเทศเน่า, 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:26.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#20
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:25
ใครก็ตามที่ทำดีแบบนี้ ทำเพื่อประชาชนอย่างยาวนานแบบนี้ แล้วประชาชนไม่รัก ก็บ้าแล้ว จะมาเหมาเป็นลัทธิอะไรกัน
หรือคนที่ชอบส่ง sms น่าชื่นชมกว่าเหรอ พวกที่ชอบแปลบทความ น่าเลื่อมใสกว่าเหรอ ปลาดาบ
#21
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:26
#22
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:43
เสื้อแดงพูดแต่ว่า "เห็นต่าง" แล้วก็ทำเรื่องเลวร้ายสารพัด นั่นเพราะมันไม่มีความมีเหตุมีผลมารองรับ
หรือเป็นกรอบควบคุมคำว่า "เห็นต่าง" ของพวกเขา
ตามหลักถ้าขัดใจ มันก็เห็นต่างทั้งนั้น เด็กเล็กอยากนอนดึก แต่ผู้ปกครองต้องการให้นอนแต่หัวค่ำ เห็นต่างใช่มั้ยคะ แล้วลองคิดดูกันว่าความเห็นต่างของสองฝ่ายตั้งอยู่บนเหตุผลอะไร
#23
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:49
มองได้ทะลุปรุโปร่ง ผิดกับ ปราบดา ฟ้า กับเหว
ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ปราบดาเอ๋ย นายช่างตื้นเขินเสียนี่กระไร
#24
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:52
ดีใจเหมือนกันค่ะ และรู้สึกโชคดีด้วยที่คนที่อยู่ข้างเรามีเยอะ
รินหวังว่าพวกเราจะได้ช่วยกันเผยแพร่คุณงามความดีที่ดีจริงๆนี้ให้กว้างขวางออกไป
เบื่อเหลือเกินกับพวกปากว่าตาขยิบ พวกอีแอบจอมเนรคุณที่เนียนอยู่ในสังคม แอบอ้างความดี
ตีกินประชาธิปไตยไปวันๆ
เราข้างเดียวกันครับ
#25
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:03
บทความนี้เจ๋งมาก
มองได้ทะลุปรุโปร่ง ผิดกับ ปราบดา ฟ้า กับเหว
ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ปราบดาเอ๋ย นายช่างตื้นเขินเสียนี่กระไร
ไม่แปลกหรือคะที่่เขาเป็นลูกของพ่อที่ชื่อ สุทธิชัย หยุ่น
Edited by rinrin1356, 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:05.
#26
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:07
ไม่ทราบว่ามันจำกัดเสรีภาพเราตรงไหน
ใจคอ ไอ้นักเขียนพวกนี้มันจะเขียนเรื่องนี้เรื่องเดียวเลยใช่ป่ะ
ประเด็นความไม่เท่าเทียมด้านอื่นในสังคมมันไม่มีแล้ว เหรอไง
มันยกมาเรื่องความยากจน ก็บอกแล้วไงว่าแก้โดย คุณต้องให้การศึกษาคนให้มากๆ
ค่อยๆแก้ไปทีละรุ่น มันก็จะดี เบื่อพวกวันๆนั่งันถึงความเท่าเทียม เหมือนกับว่าถ้ายกเลิก 112
แล้วมันจะเท่าเทียมกันทันที มรึงบ้าหรือเปล่า
#27
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:25
ในโลกนี้มีที่ไหนล่ะคะที่เท่าเทียมกันจริงๆ ให้พวกเขายกตัวอย่างมาสักแห่ง
ความจริงคือ โลกของเราเต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียม ไม่ต้องอื่นไกล แค่ในม็อบ คนอ้าปากหว๋อหน้าเวที เท่าเทียมกับคนที่โหวกเหวกอยู่บนเวทีมั้ย ได้รับการปฏิบัติด้วยมาตรฐานเดียวกัน ได้รับค่าตอบแทน ได้รับการคุ้มครองที่เหมือนกันทุกประการหรือเปล่า
ถ้าคำตอบคือไม่ แล้วไหนคะความเท่าเทียม
ม็อบมาแทบตาย ที่ตายก็ตายไป ที่รอดก็รอดกลับไปทำนา กินข้าวคลุกปลาร้า คนอยู่บนเวทีขยับชั้นไปเป็น สส รมต นี่เรียกว่าความเท่าเทียมหรือ
Edited by rinrin1356, 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:26.
#28
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:31
ไฟกำลังไหม้บ้าน
เด็กโง่ ๆ คนนึงบอกสว่างดี เราต้องเลี้ยงไฟไว้
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#29
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 21:42
อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนหนุ่มหัวใหม่อย่างคุ่น คิดอหังกาว่าสิ่งที่ตัวเองคิด เป็นสิ่งถูก
เรื่องแบบนี้ ผมสงสัยจัง ว่าสุทธิชัยหยุ่น คิดยังไง
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#30
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 22:16
แต่ถ้า ปราบดา หยุ่น บิดเบือนเพื่ออย่างอื่น เขาก็แค่เลวเท่านั้นเอง
#31
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 22:30
#32
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 22:38
คุณว่าไปถึงอาจารย์ปีดีย์ ด้วยหรือเปล่าครับ
กุ้ยไม่กุ้ยไม่ได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ กาหรี่ บางทียังมีศักดิ์ศรี มีความกตัญญู ต่อ บิดา มารดร แต่พวก อยากเหยียบฟ้า พวกนี้ต้องไปกราบเรียนวิชาลูกผู้ชายจากเธอเหล่านั้น
ปราบดาหยุ่นเขาแสดงความคิดเห็นแบบบริสุทธ์ใจ แต่คุณมาแบบนักเลง แบบกุ้ยเลยทีเดียวอยากบอกปราบดา หยุ่น ว่า ก่อนที่มึงจะเกิด รุ่น พ่อ แม่ มึงในวันที่ความหวังไม่มีในประเทศนี้ เคยสงสัยไหมว่าประเทศเรารอดได้เพราะใคร ถึงวันนี้กูจะมีแค่ร้านขายของเล็ก ๆ ขายของกินไปวัน ๆ แต่ภูมิใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมี กลับไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มึงก่อนนะ
อ้อ! ปรีดีย์ ชื่อนี้คุ้นๆ นะครับ
จำได้แล้วครับ ชื่อของ "บิดาแห่งรัฐประหารไทยคนแรก" ใช่ไหมครับ
#33
ตอบ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 22:57
#34
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 01:36
อ่านแล้ว .... ทำให้นึกภาพ
เด็กน้อยอยากเป็นคนเก่ง อยากเด่น อยากดัง
อยากเป็นผู้นำ ในความคิด
พยายามที่จะจับ หลักปรัชญา ผสมกับหลักรัฐศาสตร์
แบบจับแพะชนแกะ ...
หวังเพื่อสนับสนุนความคิดบิดเบี้ยวของตัวเอง
ก่อนจะออกมาเรียกร้องให้คนรักษาแสงไฟ
ไม่ทราบว่า ปราบดา เคยพิจารณาแสงไฟของตัวเองหรือยัง
ว่ามันส่องสว่างนำทางให้ปราบดา
ดีพอที่จะนำปราบดาไปสู่หนทางที่ถูกต้อง
ของคำว่า
"สิทธิเสรีภาพ" ที่เคารพ "สิทธิเสรีภาพ" ของผู้อื่นเช่นกัน
Freedom of speech is not hate speed for free.
เหตุผลที่มีความเป็นไปได้ที่สุดข้อหนึ่ง คือสมาชิกในสังคมบางส่วนยังไม่เข้าใจความสำคัญและบทบาทของเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก (freedom of speech) ที่แท้จริงดีพอ ยังไม่รู้ซึ้งว่าอิสรภาพในการเลือก ในการใช้ชีวิต ในการดำรงสถานะของความเป็น “ปัจเจกชน” ในสังคม เป็นอิสรภาพที่งอกเงยขึ้นจากรากแห่งเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออกทั้งสิ้น -- ปราบดา หยุ่น
หลักการดี แต่ตีความมั่วแบบไม่เห็นหัว มนุษย์ด้วยกันแบบนี้
ทำให้ปราบดา ... เหมือนเด็กน้อย ที่อวดฉลาด
คิดอยากเป็น ศาสดา ให้คนนับถือ
โดยตัดแปะทฤษฏี แล้วใส่ความคิดตัวเองผสมโรง
จนเกิดความเข้าใจแบบผิดๆ ....
ปราบดา เป็นได้อย่างดี ก็แค่ เด็กเลี้ยงแกะ
จริงไหมฮัฟ
#35
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 01:43
#36
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:14
ความเป็นคนหนุ่ม ที่ีดีกรีบางอย่างรองรับ รวมไปถึงรางวัลซีไรท์
อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนหนุ่มหัวใหม่อย่างคุ่น คิดอหังกาว่าสิ่งที่ตัวเองคิด เป็นสิ่งถูก
เรื่องแบบนี้ ผมสงสัยจัง ว่าสุทธิชัยหยุ่น คิดยังไง
ถ้า ปราบดา หยุ่น บ้องตื้นจนเชื่อในสิ่งที่เขียนออกมาจริงๆ มันก็แปลกค่ะ แปลกไปถึงตัวของสุทธิชัย หยุ่นด้วย
แต่ถ้า ปราบดา หยุ่น บิดเบือนเพื่ออย่างอื่น เขาก็แค่เลวเท่านั้นเอง
เท่าที่ผมเคยอ่านประวัติ ปราบดาไม่สนิทกับพ่อนะครับ เพราะพ่อแม่(คุณนันทวัน หยุ่น บก.ลลนา) แยกทางกัน
คล้ายๆปลิ้มตาเม็ดก๊วยจี๊ที่ไม่สนิทกับหม่อมอุ๋ยผู้พ่อเอาเลยน่ะครับ เด็กที่เรียกร้องการยอมรับจากพ่อที่โดดเด่นและเก่งกว่าตัวเองมากๆ มักจะเป็นแบบนี้แหละ
ถ้าผมจำข้อมูลผิด ขออภัยด้วย และช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ
Edited by little bee, 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:15.
#37
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:48
ความเป็นคนหนุ่ม ที่ีดีกรีบางอย่างรองรับ รวมไปถึงรางวัลซีไรท์
อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนหนุ่มหัวใหม่อย่างคุ่น คิดอหังกาว่าสิ่งที่ตัวเองคิด เป็นสิ่งถูก
เรื่องแบบนี้ ผมสงสัยจัง ว่าสุทธิชัยหยุ่น คิดยังไงถ้า ปราบดา หยุ่น บ้องตื้นจนเชื่อในสิ่งที่เขียนออกมาจริงๆ มันก็แปลกค่ะ แปลกไปถึงตัวของสุทธิชัย หยุ่นด้วย
แต่ถ้า ปราบดา หยุ่น บิดเบือนเพื่ออย่างอื่น เขาก็แค่เลวเท่านั้นเอง
เท่าที่ผมเคยอ่านประวัติ ปราบดาไม่สนิทกับพ่อนะครับ เพราะพ่อแม่(คุณนันทวัน หยุ่น บก.ลลนา) แยกทางกัน
คล้ายๆปลิ้มตาเม็ดก๊วยจี๊ที่ไม่สนิทกับหม่อมอุ๋ยผู้พ่อเอาเลยน่ะครับ เด็กที่เรียกร้องการยอมรับจากพ่อที่โดดเด่นและเก่งกว่าตัวเองมากๆ มักจะเป็นแบบนี้แหละ
ถ้าผมจำข้อมูลผิด ขออภัยด้วย และช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ
รินไม่ได้อ่านประวัติเขาค่ะ ไม่ทราบจริงๆว่าเขาไม่สนิทกับพ่อ
ว่าไปแล้วคนที่เป็นนักเขียนน่าจะศึกษาข้อมูลที่ตัวเองจะเขียนให้ครบรอบด้านก่อน
เพราะต้องเข้าใจว่า มีคนจำนวนมากที่รอติดตามผลงานของเขา ถ้าสิ่งที่เขาเขียนผิดพลาด
ก็เท่ากับเขาส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นจริงออกสู่สังคม ความเสียหายที่จะตามมาขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขา
ใส่ลงไปในงานเขียน ต้องถือว่าเขาสร้างอาชญากรรมอย่างนึงได้เหมือนกัน
แต่ถ้านี่คือการพยายามเรียกร้องความสนใจจากพ่อ หรือหนีจากร่มเงาความมีชื่อเสียงของพ่อแม่ เขาก็เลือกวิธีได้แย่มากค่ะ
#38
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:15
#39
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:21
แสงตะเกียงที่ปลายเท้า ปราบดา อย่าให้ดับ นะครับ
ดับไปเหอะคับ ในนรกไม่ต้องส่องไฟคับ สว่างพอ...เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกก...
#40
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 12:16
การกระทำ สิ ของจริง
หุบกะพง ของจริง
เกษตรทฤษฎีใหม่ ของจริง
เศรษฐกิจพอเพียง ของจริง
สหกรณ์ + ศิลปาชีพ ของจริง
( OTOP ของ copy บรรทัดบน แล้ว Re-ฺBrand )
แก้มลิง ของจริง
ห้วยองคต ของจริง
คลองลัดโพธิ์ ของจริง
ฯลฯ ของจริง
ของคุณปราบน่ะ จินตนาการ จะถูกลืมไปก่อนวันเขาตายซะอีก
ของจริงจะอยู่ไปตลอดกาล เป็นร้อยๆๆ ปี อันนี้ต่างหาก ที่เราต้องรักษาไว้ด้วยกัน
#41
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 12:30
แต่ก็ยังมีคนอย่าง ปราบดา หยุ่น มะงุมมะงาหราอยู่ในความเชื่อที่มืดบอดของตัวเอง
จนสามารถพูดเรื่องที่เขลาที่สุดออกมาได้เป็นควุ้งเป็นแคว
#42
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 12:53
ในการทดลองใดๆ ถ้าเราเอาแค่จุดๆเดียว (Single Data Point) ในการทดลอง แล้ว เอา คุณสมบัติของจุดๆนั้นที่ super exceptional ไป extrapolate หาคุณสมบัติของจุดๆอื่น จาก จุดนั้น...
ผมว่า มันเป็น แสดงถึง การศึกษาที่ล้มเหลวในการวิเคราะห์ข้อมูล.... ของผู้ที่ ทำการ extrapolate
ดังนั้น เวลาคุยกัน ต้องตกลงกันดีๆว่า พูดถึง จุดไหน... ถ้าคนที่เห็นต่างเค้ามองไปถึง อีก 100 จุดข้างหน้า และอีก 100 จุดที่มาก่อน แต่ ท่านหมายถึงมองแค่จุดในปัจจุบันจุดเดียว... จะรู้เรื่องกันไหม...
(ส่วนใหญ่ที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็ตรงนี้แหละ)
ไม่มีใครเขียนถูกไปหมด หรือ ผิดไปหมด ปราบดา ก็เช่นกัน... ถ้าอ่านอะไรก็ตาม แล้วเอาอคติที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ไปใช้ในการอ่าน โดยดูจาก ชื่อคนเขียน หรือ ความเชื่อของคนเขียน
ผมว่า มันก็เป็น แสดงถึง วิธีการหาความรู้ที่ล้มเหลว.... หวังว่าท่านๆคงไม่ใช่...
บทความที่ดีต้องมีอะไรให้สังคมขบคิด และ แสวงหาปัญญาร่วมกัน บทความที่ อ่านแล้ว ทุกคนเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย... ไม่มีคุณค่าอะไรนอกจาก ตอกย้ำสิ่งที่ รู้ๆกันอยู่แล้ว...
บทความนี้ผมไม่ชอบก็หลายจุด แต่ก็มีหลายจุดที่ผมเห็นว่าน่าสนใจ ตัวอย่าง...
ข้อกล่าวหาที่ดีที่สุดเท่าที่สาวกลัทธิจะนำมาใส่ร้ายข่มขู่ผู้คิดต่าง มักมีเพียงข้อกล่าวหาไร้น้ำหนักและปราศจากเหตุผล อาทิ
ผู้คิดต่างเป็นคนเลวทรามเพราะตั้งคำถามกับผู้นำหรือกับความศรัทธาในตัวผู้นำผู้ประเสริฐ
ผู้คิดต่างต้องการทำร้ายผู้นำหรือทำลายลัทธิเพราะคนหวังดีที่ไหนจะเสือกคิดต่าง
การคิดต่างแปลว่าผู้คิดต่างเนรคุณต่อลัทธิซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของผู้คิดต่าง
คนคิดต่าง แบบ ปราบดา มีอยู่เสมอ ในประัวัิติศาสตร์ ถ้าเผอิญสิ่งที่คิดต่างนั้นถูกต้อง ในที่สุด เขาก็จะเป็นตำนาน ถ้าไม่ ก็เป็นแค่คนทรยศ หรือ พวกนอกรีต ที่มีความคิดขยะๆ
คำถามคือ เราจะแยกความคิดดีๆ จาก ความคิดขยะได้อย่างไร... เวลาจะเป็นตัวแยก...
สิ่งที่เราทำได้คือ รักษาความคิดที่เราเห็นว่าเป็นขยะให้มีที่ยืน ที่แสดงความคิด อย่างเสรี (อย่างมีของเขต ตามกฏหมาย) ใช่หรือไม่ เผื่อวันนึง มันจะเปลี่ยนจากขยะ เป็น แสงสว่าง
หรือ เราควรจะ กวาดขยะทิ้งลงถังให้หมด แบบ สมัย Galileo แล้ว รอความฟลุก ว่า จะมีใครไปค้นพบทีหลัง....
Galileo ก็ถูกสังคมประนาม และถูกจองจำ ที่ไป ตั้งคำถามกับผู้นำหรือกับความศรัทธาในตัวผู้นำผู้ประเสริฐ ความคิด ของGalileo ก็เคยถูกหาว่าเป็น ขยะ เพราะ สังคมขณะนั้นไม่ยอมรับ ถามว่า Galileo จะทำประโยชน์ให้กับโลกได้มากกว่านี้ไหม ถ้า สังคมในตอนนั้น ไม่ได้อยู่ภายใต้ การปกครองแบบลัทธิ
แถม อีกตัวอย่าง
สาวกลัทธิผู้มีจิตใจ***มโหดมักมีความเห็นถึงขั้นที่ว่าผู้คิดต่างทั้งหลายสมควรถูกฆ่าล้างโคตร นอกจากนั้นยังมีการกีดกั้นขัดขวาง ประณามความเห็นหรือความช่วยเหลือจากคนนอก โดยประกาศว่าคนนอกไม่เข้าใจในพื้นฐานวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง (ซึ่งไม่ต้องการตรรกะ) ของลัทธิตน
ทั้งหมดนั้นล้วนมิใช่ “เหตุผล” ที่เกิดจากการคิด (ตามความหมายของการ “ใช้เหตุผล”) หากแต่เป็นเหตุผลที่เกิดจากการบังคับไม่ให้คิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแม้แต่น้อย
น่าสงสัยนะครับ ว่า เราถูกบังคับไม่ให้คิด กันอยู่หรือปล่าว? พอเริ่มคิดก็จะถูกไล่ออกจากบ้าน พอเริ่มแสดงความคิด ก็สุมเสี่ยงกับ กฏหมาย หรือ กฏสังคม เล่นงาน
เคยไหมครับที่จะพูดเรืองอะไร ต้อง ดูหน้าหลังก่อน.... หรือ เรื่องบางเรื่อง พูดกันเฉพาะในบ้าน.... หรือพูดแล้ว มีบางคนบอกว่า "เหอๆ เด๋วโดน...หรอก" (อย่าบอกนะครับว่าไม่เคย .... ถ้าคุณไม่เคย ผมก็ไม่เคย..... เหอๆๆ )
เป็ดเิิกิดมา เดินตามสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ... แต่ มันรู้หรือปล่าวว่า ข้างหน้ามัน ไม่ใช่แม่เป็ด.... ถ้าถามเป็ด เป็ดจะตอบอย่างหมดหัวใจว่า ข้างหน้าคือแม่มัน...
ถ้าใครบอกว่า เป็นเครื่องบิน หรือ รถไถ เป็ดคงเถียงใจขาดแล้วได้ สู้กัน....
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#43
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:05
อะไรที่สถาบันทำดีเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไป แล้วคุณคิดว่าไม่น่าเชื่อถือ ? (ถ้าคำถามไม่เหมาะสมลบไ้ด้ครับ)
นี่ถามตามตรรกะเยิ่นเย้อข้างบนเลยนะ การคิดต่างไม่เหมือนการฝันกลางวันแล้วใส่ร้ายนะครับ
แล้วไอ้ที่บอกไม่เห็นด้วยหลายจุดนี่ตรงไหนบ้าง เห็นยกแต่จุดที่เห็นด้วย พูดประเด็นวิชาการเขายกใจความด้านเดียวได้เหรอ ?
การกล่าวอ้างทฤษฎีที่แตกต่าง มันต้องประกอบด้วยการทดลองผลลัพท์ทีสนับสนุนทฤษฎีตัวเอง เช่นทฤษฎีบิ๊กแบงทำไมถึงมีคนเชื่อมากกว่าทฤษฎีหยุดนิ่ง เพราะมีการประจักษ์ถึงหลักฐานมากมายที่สอดคล้องกับทฤษฎีดังกล่าว ในขณะที่ทฤษฎีหยุดนิ่งกลับไม่มีหลักฐานสนับสนุน เป็นแค่ความคิดของนักวิทยาสตร์บางคน
ถ้าเอาหลักการข้างต้นมาสัมพันธ์กับการกล่าวหา กับการใส่ร้าย การกล่าวหา ย่อมต้องประกอบด้วยเหตุผลสนับสนุนรวมกับหลักฐานประกอบเพื่อกล่าวหาผู้อื่น แต่การใส่ร้ายผู้ใส่ร้ายสามารถละเมอออกมาจากอวัยวะภายในส่วนไหนก็ได้ ขอเพียงแค่มีเป้าหมายพอ
แล้วยิ่งผู้ถูกใส่ร้ายเป็นสถาบันหลักของประเทศ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่รวมเป็นประเทศในปัจจุบัน การใส่ร้ายพล่อย ๆ โดยไม่มีที่มา ไม่มีเหตุผล แถมไม่มีสาระ เป็นผลดีกับวิชาการของประเทศอย่างไร ?
Edited by Novice, 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:14.
#44
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:09
พระราชกรณียกิจที่ในหลวงทรงทำมากกว่า 60 ปี มีข้อมูลหลักฐานให้เราสามารถสืบค้นได้มากมาย มีข้อไหนที่เป็นกังขาหรือคะ เรากำลังพูดถึงสิ่งร่วมสมัยที่คุณ ริน และคนอีกมากมายสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่เล่าต่อๆกันมา เราต้องวิเคราะห์้ด้วยหรือ
#45
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:10
#46
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:15
"ถึงเวลาแล้วที่ใครมีอาวุธชนิดไหนก็ต้องจับขึ้นมาใช้รบกับมัน”
#47
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:17
น่าสงสัยนะครับ ว่า เราถูกบังคับไม่ให้คิด กันอยู่หรือปล่าว? พอเริ่มคิดก็จะถูกไล่ออกจากบ้าน พอเริ่มแสดงความคิด ก็สุมเสี่ยงกับ กฏหมาย หรือ กฏสังคม เล่นงาน
เคยไหมครับที่จะพูดเรืองอะไร ต้อง ดูหน้าหลังก่อน.... หรือ เรื่องบางเรื่อง พูดกันเฉพาะในบ้าน.... หรือพูดแล้ว มีบางคนบอกว่า "เหอๆ เด๋วโดน...หรอก" (อย่าบอกนะครับว่าไม่เคย .... ถ้าคุณไม่เคย ผมก็ไม่เคย..... เหอๆๆ )
เป็ดเิิกิดมา เดินตามสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ... แต่ มันรู้หรือปล่าวว่า ข้างหน้ามัน ไม่ใช่แม่เป็ด.... ถ้าถามเป็ด เป็ดจะตอบอย่างหมดหัวใจว่า ข้างหน้าคือแม่มัน...
ถ้าใครบอกว่า เป็นเครื่องบิน หรือ รถไถ เป็ดคงเถียงใจขาดแล้วได้ สู้กัน....
แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าพ่อเป็ดกำลังตามหาตัวไอ่ปรี๊ดอยู่ในสภานะครับ
เมื่อน้ำค้างหยดหล่นบนดอกไม้
ลมรำเพยระเหยหายเมื่อใกล้สาง
กับชีวิตวันนี้ที่บอบบาง
เหมือนน้ำค้างระเหยหายด้วยสายลม
~¤ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์ ¤~
#48
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:31
-ห้ามหมิ่นประมาท
-ห้ามดูหมิ่น
-และห้ามอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
อย่าว่าแต่จะทำกับประมุขของประเทศเลยค่ะ ทำกับคนธรรมดาก็ยังไม่ได้ เสรีภาพของบุคคลนั้นย่อมมีขอบเขตอันจำกัดที่จะต้องไม่ไปละเมิดผู้อื่น
ทั้งหลายทั้งปวงที่ ปราบดา หยุ่น เพ้อเจ้อก็เพียงจูงใจคนให้ลบล้าง ม.112 ที่มีข้อห้ามเพียงเท่านี้ เฮนไต ตอบรินหน่อย ที่เราต้องวิเคราะห์คือ ความหลอกลวงในตัวหนังสือที่คุณยกมา หรือจิตใจที่มืดบอดของ ปราบดา หยุ่นกับพวก
#49
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 14:10
ผมไม่เห็นด้วยกับคุณเรื่องถูกบังคับไม่ให้คิด ลองยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมให้ดูบ้างก็ดีครับ ไม่อยากให้สักแต่พูดลอยๆ โก้ๆ ผมว่าทุกคนมีเสรีภาพทางความคิด แม้แต่คิดชั่วๆ ก็ไม่มีใครห้ามได้ แต่สิ่งที่ทำออกมาต่างหากมันบ่งชี้ว่าทำถูกหรือผิด ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องพยายามอยากทำในสิ่งที่กฏหมายห้ามกันนัก ไม่ได้ทำนอนไม่หลับ หรือถ้าทำแล้วอะไรมันจะดีขึ้นบ้าง อยากรู้จริงๆ
อย่าเอากาลิเลโอ มาเปรียบเลยครับ ก็แค่ประวัติศาสตร์ เีราไม่ได้รู้ว่าอะไรจริงทั้งหมด กาลิเลโอเองก็พูดถูกในบางเรื่องที่ปัจจุบันเรายอมรับเท่านั้น อนาคตก็ไม่แน่ครับ กาลิเลโอ ก็อาจจะเคยทำอะไรสัปดนที่เราไม่รู้ก็ได้
หากวันนึงเราเกิดค้นพบว่า มีหัวมันชนิดนึง กินแล้วอายุยาวนานเป็น 200 ปี เราคงพูดได้ว่า คนไทยสมัยก่อนนี่โง่จัง กินข้าวให้อายุสั้นไปตั้งร้อยกว่าปีอยู่ได้ เอ่อ ถึงเวลานั้นเราคงเซ็งเหมือนกัน เออ กินข้าวมันผิดตรงไหนวะ และในกาแล็กซี่นี้ ก็อาจมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมินั่งหัวร่อกับความคิดของกาลิเลโออยู่ก็ได้ เมื่อเขามองในมิติอื่น
การแตกแยกทางความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่หลอมรวมศรัทธา ยังมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แม้แต่สมัยนี้ คนละศาสนา ก็ยังฆ่าฟันกันอยู่ จากชาติที่เจริญแล้วทั้งนั้น เค้าถึงได้บอกว่า อย่าได้เอาศาสนามาวิจาีรณ์เปรียบเทียบกัน เพราะเป็นสิ่งที่พิเศษไง ไม่ใช่แค่ตัวบุคคลคนใดคนหนึ่ง ที่จะเอาพูดอะไรก็ได้
ปล. ถ้าผมจะลองไปบอกเป็ดว่า ข้างหน้ามัน คือรถไถ ผมพนันได้ว่า เป็ดไม่เถียงใจขาดครับ และไม่ได้สู้กันแน่นอน ผมแปลกใจว่าทำไมคุณคิดว่ามันจะเถียง แต่คุณอาจถูกก็ได้ แต่เพราะ คุณรู้ใจเป็ด มากกว่าผม
#50
ตอบ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 15:30
สิ่งนี้ เค้าเรียกว่า สำนึกใน บุญคุณ ครับ