กุต้องอดข้าวไข่เจียวกี่มื้อวะ
เพื่อจะได้ซื้อกระเป๋าหลุยส์ปลอดภาษีซักใบ
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:05
กุต้องอดข้าวไข่เจียวกี่มื้อวะ
เพื่อจะได้ซื้อกระเป๋าหลุยส์ปลอดภาษีซักใบ
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:08
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:21
"ลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย เพิ่มค่าครองชีพสินค้าจำเป็น"
วิสัยทัศน์รัฐบาลไทย
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:40
รัฐบาลนี้มัน เพิ่มค่าครองชีพคนจน ลดค่าครองชีพคนรวย นี่หว่า
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 11:23
ปลัด ก. คลัง บอกว่า เงินภาษีที่เก็บได้จากสินค้าแบรนด์เนมเหล่านี้ มีมูลค่าไม่มากนัก หลักพันล้านบาท
ซึ่งการลดภาษีนี้จะมีข้อดีตามที่คิดไว้คือ
http://www.khaosod.c...9PQ==&subcatid=
ฟังดูก็เหมืือนจะดี
แต่การลดภาษีนี้สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น มีผลงานวิจัยเบื้องต้นอะไรสนับสนุนสมมติฐานนี้ และคาดการณ์ไหมว่า จะแย่งนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง สิงคโปร์ได้เท่าใด รัฐจะจัดเก็บภาษีจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล ได้มากพอที่จะชดเชยหรือไม่
เศรษฐกิจจะขยายตัวจากมาตรการนี้กี่ %
ส่วนเรื่องคนไทยไปนอกเพื่อท่องเที่ยว ต้องแยกกลุ่ม
กลุ่มที่ 1 จะอยู่เมืองไทย เมืองนอก ก็ไม่ค่อยช็อปแบรนด์เนม หรือช็อป ก็นานๆๆๆๆครั้ง
กลุ่มที่ 2 อยู่เมืองไทยซื้อแบรนด์เนมบ้าง แต่ไม่บ่อย
กลุ่มที่ 3 อยู่ที่ไหน ก็ซื้อ บริษัทนำเข้าจะเอาแค็ตตาล็อกมาให้เลือกเลย คนไทยมีสิทธิ์ได้ลิมิเต็ด เอ็ดดิชั่น เหมือนกับทั่วโลก
ดังนั้นนโยบายนี้จึงเอื้อต่อกลุ่ม 3 คือกลุ่มชนชั้นที่มีรายได้สูง
ถามว่า การออกมาตรการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจแบบนี้ ให้ประโยชน์อะไรกับชาวรากหญ้า และชนชั้นกลางซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 11:34
รัฐบาลนี้มัน เพิ่มค่าครองชีพคนจน ลดค่าครองชีพคนรวย นี่หว่า
ถ้าทำจริง อย่างน้อยก็กระชากค่าครองชีพ(อำมาตย์ + นักท่องเที่ยว)ลงมาได้ตามที่แกได้สัญญาไว้นะครับ
ทีนี้แทนที่จะซื้อสอง ก็จะกลายเป็นสามหรือสี่ เพราะไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินไปซื้อถึง ตปท.
ช่วยระบายเงินออกนอกประเทศได้อีกมหาศาล
รัฐก็จะมีรายได้จากภาษีน้อยลง แล้วค่อยไปขูดเอากับไพร่ หรือขายสมบัติของชาติแทน
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 11:48
กุต้องอดข้าวไข่เจียวกี่มื้อวะ
เพื่อจะได้ซื้อกระเป๋าหลุยส์ปลอดภาษีซักใบ
เหอะ เหอะ
คุณอาวุโสโอเค จะซื้อกระเป๋าหลุยส์ไปฝาก ผบ สูงสุด ที่บ้าน ก็ได้นะคะ
รุ่นนี้เลยค่ะ ยอดนิยมของสาวๆ
ความยาว 30 ซม (จริงๆความยาว 25 ซม ก็มีนะคะ แต่ไม่เป็นที่นิยม)
Speedy Bandouliere Size 30
ซื้อที่ shop เมืองไทย 42,900 บาท
ซื้อที่ฮ่องกง ปลอดภาษี 10,300 HKD คูณ 4.1 บาท เท่ากับ 42,230 บาท
ซื้อที่ ฝรั่งเศส 860 Euro คูณ 42.2 บาท คืนภาษีได้ 12% จะเท่ากับ 31,937 บาท
http://louislovers.b...ton-speedy.html
ถ้าข้าวไข่เจียว ราคาจานละ 25 บาท
คุณอาวุโสโอเคต้องอดข้าวไข่เจียวไป เท่ากับ 31,937 หารด้วย 25 เท่ากับ 1277 มื้อ
ถ้าทาน 3 มื้อต่อวัน คิดเป็น 426 วัน หรือ ปีเศษ
ขอให้อดทนไว้นะคะ
ถ้าอยากได้กระเป๋าฝาก ผบ สูงสุด
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:40
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:47
เย้ๆๆๆๆ ไม่ต้องรอตกใจแล้ว
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:01
เเม่ค้าพ่อค้าที่ขายของพวกนี้มันก็นั่งในสภาตากเเอร์ทั้งวันนั่นเเหละที่ได้ผลประโยชน์
รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ
เอียนวะ เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:54
ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ เพราะใช้รุ่นนี้อยู่
http://fail.in.th/20...i-bag-480-baht/
Edited by อู๋ ฮานามิ, 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:55.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:58
คนต่างชาติส่วนใหญ่ เค้าจะมาไทยเพื่อมาซื้อของทำไม เค้าก็ซื้อที่บ้านเขาเองก็ได้
คนที่ได้มีกลุ่มเดียวคือคนรวยที่จะซื้อสินค้านำเข้าได้ถูกลง
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:59
ใครได้ผลประโยชน์ที่สุดครับ การมีภาษีเนี้ยผมว่าเป็นการกรีดกัน ไม่ให้ฟุมเฟือย คนที่จะซื้อได้ ก็ต้องมีรายได้ที่มั่นคง หากทำการลดภาษีไปแล้วผมถามว่า คนจนจะซื้อได้หรือครับ แค่ LPG ชึ้น TAXI ก็ประท้วงแล้ว ส่วนเรื่อง ให้ซื้อ brand name เนี้ย แสดงว่าเรายังยึดติดที่วัตถุยังไม่พอหรอครับ ... ค่าแรง 300 บาท ทำงาน 20 วันได้เพียงเดิอนละ 6000 ลดภาษีของราคาแพง 30% ผมถามว่า คนงาน จะมีปัญญาไปซื้อ รองเท้าคู่ละ 25000 ได้หรือครับ
เพ้อ... มาแต่ไกล .. คลังให้เหตุผลว่า คนไทยชอบไปชอปปิ้งที่ สิงคโปร์-ฮ่องกง แล้วส่วนใหญ่เป็นคนมีอันจะกิน แ้ล้วไปเกี่ยวอะไรกับคนจนจะซื้อได้
ลูกค้าสินค้าแบนแนม เป็นคนมีเงิน ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ถ้าไทยลดเหลือ5% ก็จะดึงคนไทย และคนนอกประเทศเข้ามาด้วย แล้วคนพวกนี้ไม่ได้ชอปอย่างเดียว ยังเอาเงินมาใช้จ่ายด้านอื่นด้วย
คนไทยเวลาไปซื้อของแบรนด์เนมน่ะ เค้าไปเพื่อซื้อของโดยเฉพาะหรือคุณ เค้าไปเที่ยวแล้วก็ซื้อของ ฉนั้นตรรกะที่บอกว่า คนไทยจะได้ไม่ต้องออกไปซื้อสินค้าแบรนด์เนมเหล่านี้จากนอกประเทศมันไม่ใช่แล้ว แล้วการทีคนนอกประเทศเค้าจะมาเมืองไทย ก็คงไม่ใช่เหตุผลที่จะมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมจากประเทศอื่นๆ ด้วย เพราะถ้าเค้าอยากได้สินค้าแบรนด์เนมจริงๆ เค้าก็ไปเที่ยวและืซื้อสินค้าจากประเทศที่ผลิตโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:31
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน