Phra Kittisak Kittisobhano
3 ชั่วโมงที่แล้ว
พรรคประชาธิปัตย์ที่น่าเห็นใจ
จะว่าไปแล้วก็น่าเห็นใจพรรคประชาธิปัตย์ สมัยที่เล่นการเมืองในสภาฯ แบบหงิมๆ ก็โดนว่า ไม่ถึงลูกถึงคน พอเล่นในสภาฯ แบบโหด มัน ฮา ก็หาว่าทำให้สถาบันนิติบัญญัติเสียภาพลักษณ์
ไม่เล่นการเมืองบนท้องถนน ก็หาว่าห่างเหินมวลชน คอยตีกินชัยชนะที่ไม่ได้ร่วม พอลงมาเดินถนน ก็ถูกหาว่าหลอกคนมาส่งเพื่อสร้างภาพ แล้วปล่อยกลับแบบไม่รับผิดชอบเอาเสียเลย
ก่อนโน้นหนุนชาวสวนยางถึงขนาดมายื่นหนังสือให้ถึงทำเนียบ ก็ถูกหาว่าปลุกปั่น พอไม่ไปหาม๊อบก็ถูกหาว่าทอดทิ้ง พอจะไปเยี่ยมก็ถูกหาว่าอยู่เบื้องหลัง พอแสดงทัศนะเรื่องยาง ก็หาว่าโหนกระแส อยู่เฉยๆ ไม่แสดงความคิดเห็น ก็ถูกหาว่าเป็น ส.ส.ใต้แท้ๆ ทำไมไม่พูดอะไรเสียบ้าง(วะ)
อภิปรายในสภาฯนานๆ ก็ถูกหาว่าอภิปรายเยิ่นเย้อ พอออกมาจัดเวทีข้างนอก ๖๐-๗๐ เวที ก็ถูกหาว่าแผ่นเสียงตกร่อง พูดแต่เรื่องเดิมๆ
สมัยที่ลงทุนขนคนมาให้ร่วมชุมนุมกับพันธมิตร ก็โฆษณาไม่ได้ว่าตนหนุนหลังพันธมิตร แต่พอพันธมิตรเขาหาว่าทรยศจะจับคนหนุนหลังตัวรัฐบาลปชป.เข้าคุก ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะกลัวเสื้อแดงจะโจมตี ว่าสองมาตรฐาน ช่วยแต่เหลืองทำลายแดง แถมเวลาช่วยเหลือพันธมิตรที่ถูกคดีก็ออกข่าวไม่ได้ เพราะกลัวเสียความมีหลักการที่ชอบประกาศต่อสาธารณะเสมอๆ
จะจัดการให้ในพรรคตัวเองเป็นเอกภาพ ก็กลัวถูกหาว่าเป็นเผด็จการ พอไม่มีเอกภาพ ประชาชนก็ดันไม่มีความเชื่อมั่น ว่าจะนำพารัฐนาวาไปได้
พอจะรบกับระบอบทักษิณอย่างถึงลูกถึงคน ก็ลืมพูดถึงนโยบายและเป้าหมายทางการเมือง ทั้งของพรรค และผลที่ประชาชนจะได้รับ พอจะพูดถึงนโยบาย แล้วเขากลับหาว่าเป็นประชานิยม แล้วดันไม่สามารถแก้ตัวให้คนเข้าใจชัดขึ้นได้อีก
เดิมที ปชป.มีนักพูดนักปราศัยแยะ(เช่น สมัคร เฉลิม) ก็ถูกหาว่าปากตลาด คนชั้นกลางไม่ชอบ พอมีคนพูดให้คนชั้นกลางชอบ ชาวบ้านก็ดันฟังไม่เข้าใจ
มีนักการเมืองอดีตนักเรียนนอกมากก็หาว่ามีแต่คุณหนู "แก๊งค์ไอติม" พอให้คุณชวน คุณบัญญัติ คุณสุเทพฯ ขึ้นเวทีบ่อยๆ ก็ถูกหาว่าไม่มีคนใหม่ๆ จมปลักอยู่แต่กับของเดิมๆ
แนวร่วมจำนวนมากก็ไม่กล้าแสดงตัวเป็นแนวร่วม เพราะกลัวเสื้อแดงกับพันธมิตร หาว่าเป็นพวกแมลงสาบ ส่วนคนที่ประกาศตัวว่าตนเองพร้อมที่จะเป็นแมลงสาบ ก็ดันขยันด่าใครต่อใครไม่เว้นแต่ละวัน ชนิดพร้อมจะสร้างศัตรูทำลายมิตรอย่างไม่กลัวใครเลย.
