Jump to content


Photo
- - - - -

เมื่อรัฐบาลบอกว่า น้ำประปาดืมได้ แต่ช่วยมาดูรุปนี้ที่มันจะดื่มได้ไหม


  • Please log in to reply
38 replies to this topic

#1 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

Posted 11 September 2013 - 10:10

เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ

 

เมื่อคุณเห็นภาพท่อประปานี้ .... ความคิดที่บอกว่า "ประปาดื่มได้" จะเปลี่ยนไปครับ

และผมไม่สนับสนุนการขึ้นค่าปรับชำระช้าเป็น 321 บาทครับ มันโหดมาก มากกว่าค่าน้ำทุกเดือนที่บ้านผมเสียอีกครับ โหดเกินไปและไม่เป็นธรรมเลยครับ

รัฐหมดทางหาเงินแล้วหรือครับ อยากถาม

 

------------------------------------------------

 

 

Attached Images

  • 1265481_603278939715654_927632891_o.jpg

ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#2 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 10:27

เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ

 

เมื่อคุณเห็นภาพท่อประปานี้ .... ความคิดที่บอกว่า "ประปาดื่มได้" จะเปลี่ยนไปครับ

และผมไม่สนับสนุนการขึ้นค่าปรับชำระช้าเป็น 321 บาทครับ มันโหดมาก มากกว่าค่าน้ำทุกเดือนที่บ้านผมเสียอีกครับ โหดเกินไปและไม่เป็นธรรมเลยครับ

รัฐหมดทางหาเงินแล้วหรือครับ อยากถาม

 

------------------------------------------------

ไม่โหดค่ะ สำหรับหนี้สูญที่เราต้องเสียไป ลูกค้าบางรายค้างชำระนานหลายเดือน เนื่องจากเราผ่อนผันให้

 

 

เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่จ่าย ท้ายที่สุด สาขาต้องทำเป็นหนี้สูญ แล้วก็ ผจก ต้องควักเงินเองเพื่อปิดยอดค่าใช้จ่ายนั้น

 

 

แล้วน้ำประปาดื่มได้ การดำเนินโครงการ เค้าดำเนินโครงการรับรองในส่วนที่เป็นท่อใหม่ ท่อเพิ่งเปลี่ยน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในเส้นท่อ

 

 

และมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้ตามมาตรฐานของ กปภ และมาตรฐาน อนามัยโลก

 

 

ปล.รัฐบาลไม่เกี่ยวค่ะ มันเป็นเรื่องบริหารจัดการในส่วนของหน่วยงาน อย่าเอาไปโยงกันมั่ว 

 

 

และตอนนี้ ทาง กปภ.ก็เิริ่มลงทุนเปลี่ยนท่อไปเรื่อยๆ แล้วค่ะ ในส่วนของท่อเก่า


Edited by pinkpanda, 11 September 2013 - 10:29.


#3 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

Posted 11 September 2013 - 10:34

 

เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ

 

เมื่อคุณเห็นภาพท่อประปานี้ .... ความคิดที่บอกว่า "ประปาดื่มได้" จะเปลี่ยนไปครับ

และผมไม่สนับสนุนการขึ้นค่าปรับชำระช้าเป็น 321 บาทครับ มันโหดมาก มากกว่าค่าน้ำทุกเดือนที่บ้านผมเสียอีกครับ โหดเกินไปและไม่เป็นธรรมเลยครับ

รัฐหมดทางหาเงินแล้วหรือครับ อยากถาม

 

------------------------------------------------

ไม่โหดค่ะ สำหรับหนี้สูญที่เราต้องเสียไป ลูกค้าบางรายค้างชำระนานหลายเดือน เนื่องจากเราผ่อนผันให้

 

 

เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่จ่าย ท้ายที่สุด สาขาต้องทำเป็นหนี้สูญ แล้วก็ ผจก ต้องควักเงินเองเพื่อปิดยอดค่าใช้จ่ายนั้น

 

 

แล้วน้ำประปาดื่มได้ การดำเนินโครงการ เค้าดำเนินโครงการรับรองในส่วนที่เป็นท่อใหม่ ท่อเพิ่งเปลี่ยน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในเส้นท่อ

 

 

และมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้ตามมาตรฐานของ กปภ และมาตรฐาน อนามัยโลก

 

 

ปล.รัฐบาลไม่เกี่ยวค่ะ มันเป็นเรื่องบริหารจัดการในส่วนของหน่วยงาน อย่าเอาไปโยงกันมั่ว 

 

 

และตอนนี้ ทาง กปภ.ก็เิริ่มลงทุนเปลี่ยนท่อไปเรื่อยๆ แล้วค่ะ ในส่วนของท่อเก่า

 

 

ขอบคุณสำหรับ ข้อมูลครับ


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#4 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

Posted 11 September 2013 - 10:34

ดื่มได้มั้ง ก็แค่สนิม สนิมไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพครับ  :lol:


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#5 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 10:38

*
POPULAR

ดื่มได้มั้ง ก็แค่สนิม สนิมไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพครับ  :lol:

 

 

 

เป็นค่ะ ถ้าค่าเหล็กอยู่ที่ 0.30 ppm แต่ว่าน้ำประปามักจะคุมไม่ให้เกิน

 

 

แต่จากการนอนนิ่งของน้ำในเส้นท่อและการสะสมตัวเรื่อยๆ ในเวลานานเป็น5 ปีขึ้นไป ตะกรันจะรวมตัวกับเหล็ก มังกานีส แล้วสารอื่นๆ 

 

 

ทำให้ตกผลึกได้ค่ะ  ดังนั้นต้องดำเนินการเปลี่ยนเส้นท่อ ปัจจุบัน ท่อเหล็กแบบด้านบน หรือท่อซีเมนต์จะไม่ใช่แล้ว นอกจากเป็นท่อเมนเท่านั้น 

 

 

และมีการใช้ท่อ PE มากขึ้นแล้วค่ะ 



#6 ชายน้ำ

ชายน้ำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,256 posts

Posted 11 September 2013 - 10:47

ทีอิมพีเรียลลาดพร้าวติดค่าไฟไม่เห็นเป็นไรเลย



#7 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

Posted 11 September 2013 - 10:52

เห็นแบบนี้ แล้วก็ปลื้ม

 

ผู้หญิงสมัยนี้ เก่ง ๆ เยอะ

 

เขียนหนังสือ ก็เก่ง การวิเคราะห์ วิจัย ก็เยี่ยม

 

แถม หลักการ ธรรมะ ก็อ่านขาด

 

 

ผมล่ะปลื้ม ผมชอบ ภูมิใจ อยู่เรื่อย

 

ว่าผม มีเพื่อน เป็น อำมาตย์ เก่ง ๆ หลายคน

 

แม้จะไม่เถียงว่า คนฝั่งเสื้อแดง ก็ เก่ง ๆ หลายคน

 

แต่ตัวอย่าง แม่ น้อง แฮนด์ซั่ม นี่

 

(แล้ว บิวตี้ อะ คิดถึง น้องบิวตี้ นะ)

 

มันทำให้ ผมปลื้ม และกล้า บอกใคร ๆ ว่า

 

 

ผมนี่ อำมาตย์ หัดใหม่

 

คนชั้นกลาง ตัวจริง (นอนชั้น 2 ที่บ้าน ตึกแถว 3 ชั้น)

 

แล้วก็ ผมมีเพื่อน ๆ ที่รายล้อม

 

(เอ่อ ไม่ใช่ แมลงสาบ รายล้อม ขยะ นะขอรับ)

 

อุดม ไปด้วย คนเก่ง ๆ เยอะแยะ

 

 

นี่แค่ ตัวอย่าง นะเฟ้ย

 

ของจริง ๆ ยังอีก แยะะะะะะ

 

 

ยังไง ขอ ยืด อก ด้วยคน

 

เออ เอิ่ม สลิ่ม อย่างเรา นี่มันเท่ห์ (เลียนเสียง อาฉี เสียงหล่อ)

 

จริง ๆ นะ เจ้านาย อะ เฮิ่มมมมม


ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#8 สุกี้น้อย

สุกี้น้อย

    หล่อสุดในเสรีไทย 55

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,636 posts

Posted 11 September 2013 - 10:59

 

ดื่มได้มั้ง ก็แค่สนิม สนิมไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพครับ  :lol:

 

 

 

เป็นค่ะ ถ้าค่าเหล็กอยู่ที่ 0.30 ppm แต่ว่าน้ำประปามักจะคุมไม่ให้เกิน

 

 

แต่จากการนอนนิ่งของน้ำในเส้นท่อและการสะสมตัวเรื่อยๆ ในเวลานานเป็น5 ปีขึ้นไป ตะกรันจะรวมตัวกับเหล็ก มังกานีส แล้วสารอื่นๆ 

 

 

ทำให้ตกผลึกได้ค่ะ  ดังนั้นต้องดำเนินการเปลี่ยนเส้นท่อ ปัจจุบัน ท่อเหล็กแบบด้านบน หรือท่อซีเมนต์จะไม่ใช่แล้ว นอกจากเป็นท่อเมนเท่านั้น 

 

 

และมีการใช้ท่อ PE มากขึ้นแล้วค่ะ 

 

 

เซียนเรื่องน้ำมาแจงเองเลยอ่ะ :D  :D



#9 Emolution

Emolution

    โคตรพ่อโคตรแม่ควายแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,029 posts

Posted 11 September 2013 - 11:19

นายกแดกน้ำประปาแหงๆ



#10 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 11:31

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 

 

 

พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว 



#11 ปู ออสการ์

ปู ออสการ์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 268 posts

Posted 11 September 2013 - 11:40

ก็ถูกแล้วนิน่า ดื่มได้........แต่เป็นอันตราย หรือ ตาย นั้นอีกเรื่อง

 

:D  :D  :D 


จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด                 จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง

จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง       จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร            ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา      ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป

#12 อย่าหลอกตัวเอง

อย่าหลอกตัวเอง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,850 posts

Posted 11 September 2013 - 11:54

no comment   สยอง.... บรึ๋ย!


แดงกลายพันธุ์  แดงลอยคอกลางทะเล  กำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย  อาการจะเป็นอย่างไร  รอดูกันไปครับ


#13 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

Posted 11 September 2013 - 11:54

น้ำใน ปรัก ค ว า ย มันยัง ดื่ม ได้เลยครับ


ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#14 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 11:55

๕๕๕



#15 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

Posted 11 September 2013 - 12:06

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 

 

 

พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว 

 

แสดงว่าคุณ Pink อยู่แถวๆบ้านโป่ง ....ทำให้นึกถึงคำว่า "คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่งขึ้นมาทันที..."  :)



#16 kaidum

kaidum

    ขาดขา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,125 posts

Posted 11 September 2013 - 12:12

ความแตกสะแล้ว อำมาตย์ผู้หญิงท่านหนึ่ง ใน สรท อยู่การประปา  อิอิอิ 


ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร

#17 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

Posted 11 September 2013 - 12:19

ธาตุเหล็กบำรุงโลหิต


พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#18 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

Posted 11 September 2013 - 13:24

แถวบ้านผมเปิดน้ำใส่ถังทิ้งไว้สักคืน เช้ามาดูเหมือนเศษดิน นอนอยู่ที่ก้น :lol:


We love fender.

#19 ชามู

ชามู

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,296 posts

Posted 11 September 2013 - 13:26

 

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 

 

 

พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว 

 

แสดงว่าคุณ Pink อยู่แถวๆบ้านโป่ง ....ทำให้นึกถึงคำว่า "คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่งขึ้นมาทันที..."  :)

 

 

เอ้ออ.. อืมม์  เอ่อออ   อ้าาาา... โอ...ก๊อด


ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ ใจดี

#20 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 14:14

แถวบ้านผมเปิดน้ำใส่ถังทิ้งไว้สักคืน เช้ามาดูเหมือนเศษดิน นอนอยู่ที่ก้น :lol:

 

 

ถ้าผลิตน้ำได้ไม่ดี มีปัญหากวนใจ ต้องขอน้อมรับคำตำหนิและขออภัยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 

 

แต่ถ้าจะดี เพื่อให้ กปภ.ผลิตน้ำสะอาด ได้มาตรฐาน รบกวนแจ้งสาขากลับไปเพื่อดำเนินการแก้ไข

 

 

เรายินดีปรับปรุงค่ะ เสียงสะท้อนจากลูกค้าคือกำลังใจให้ทำงานต่อไป

 

 

พบกันครึ่งทางนะคะ เราดูแลระบบผลิตกับน้ำในเส้นท่อ ส่วนผู้ใช้น้ำ ดูแลในบ้าน ด้วยการล้างภาชนะรองรับอย่างสม่ำเสมอ 


Edited by pinkpanda, 11 September 2013 - 14:54.


#21 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 14:15

 

 

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 

 

 

พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว 

 

แสดงว่าคุณ Pink อยู่แถวๆบ้านโป่ง ....ทำให้นึกถึงคำว่า "คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่งขึ้นมาทันที..."  :)

 

 

เอ้ออ.. อืมม์  เอ่อออ   อ้าาาา... โอ...ก๊อด

 

 

 

 

ปร๋าขา นู๋จ๋วยค่ะ ไม่โง่ด้วย



#22 tu249cm

tu249cm

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,495 posts

Posted 11 September 2013 - 14:30

หากไปถามเรื่องน้ำสนิมกับนางยก เธอจะตอบแบบคุณแพนด้าชมภูรึเปล่าน้าา


“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”


#23 ฟังทั้งสองฝ่าย

ฟังทั้งสองฝ่าย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,261 posts

Posted 11 September 2013 - 14:47

เนี้ยแหละครับ การทำงานของระบบราชการประเทศไทยเรา ไม่เคยคิดที่จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นทุกจุดแล้วค่อยนำเสนอ 



#24 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 14:53

แต่มันก็เป็นปัญหาจริงๆ ค่ะ 

 

 

โครงบการนี้บอกได้เลยว่าไม่ประสบผลสำเร็จ  มาจากหลายส่วน หลักๆ คื้อ

 

 

การทำงานแบบมอบนโยบายจากส่วนกลางมายังคนทำ ซึ่งไม่ได้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน การควบคุมคุณภาพน้ำต้องคุมตั้งแต่ระบบผลิตถึงระบบจำหน่าย ซึ่งเป็น CSR ก็จริง แต่มันคืองานที่งอกจากงานประจำซึ่งเยอะมาก (แต่ก็มีการตรวจสอบและต่ออาุยุทุก 2 ปี โดยห้องปฏิบัติการกรมอนามัย)

 

 

และเป็นการบริการสาธารณะที่ให้ ปชช ซึ่งไม่มีความพร้อม ไม่มีการสำนึกใช้ประโยชน์จากของสาธารณะ การไม่มีความรับผิดชอบ ทำนองอย่างนี้

 

 

แต่ในเืมื่อเป็นนโยบายระหว่างกระทรวง มท กับ กระทรวงสาธาฯ นายสั่งมา ก็ต้องทำ



#25 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

Posted 11 September 2013 - 15:11

 

แถวบ้านผมเปิดน้ำใส่ถังทิ้งไว้สักคืน เช้ามาดูเหมือนเศษดิน นอนอยู่ที่ก้น :lol:

 

 

ถ้าผลิตน้ำได้ไม่ดี มีปัญหากวนใจ ต้องขอน้อมรับคำตำหนิและขออภัยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 

 

แต่ถ้าจะดี เพื่อให้ กปภ.ผลิตน้ำสะอาด ได้มาตรฐาน รบกวนแจ้งสาขากลับไปเพื่อดำเนินการแก้ไข

 

 

เรายินดีปรับปรุงค่ะ เสียงสะท้อนจากลูกค้าคือกำลังใจให้ทำงานต่อไป

 

 

พบกันครึ่งทางนะคะ เราดูแลระบบผลิตกับน้ำในเส้นท่อ ส่วนผู้ใช้น้ำ ดูแลในบ้าน ด้วยการล้างภาชนะรองรับอย่างสม่ำเสมอ 

 

 

โอ้วววววววววววววววววววววววว

 

อยากให้นักการเมือง มาดูหน่วยงานนี้เป็นเยี่ยงอย่าง 

 

ยอมรับผิด พร้อมที่จะช่วยกันแก้ไข 

 

ไม่ใช่มาปกป้อง เหมือน รบ งี่เง่า

 

ผมชื่นชม คุณ pink จากใจจริง

 

อยากให้ข้าราชการเป็นแบบนี่ทุกคน 

 

พร้อมจะใส่ใจประชาชนผู้เดือดร้อน

 

ประชาชนก้อช่วยเป็นหูเป็นตา แบบนี้ผมว่า ประเทศเราเจริญแน่ ๆ


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#26 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

Posted 11 September 2013 - 15:13

ผมยอมรับว่า ผมไม่ค่อยศรัทธา ต่อ หน่วยงานราชการไทย จริง ๆ ไม่รู้ำำทำไม

 

ไปหน่วยงานพวกนี้ที่ไร ละ มีปัญหา ตลอด ไม่รู้ เหมือนกัน

 

หรือว่า ผมเห็นตัวซวยก้อไม่รู้

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#27 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 15:18

ผมยอมรับว่า ผมไม่ค่อยศรัทธา ต่อ หน่วยงานราชการไทย จริง ๆ ไม่รู้ำำทำไม

 

ไปหน่วยงานพวกนี้ที่ไร ละ มีปัญหา ตลอด ไม่รู้ เหมือนกัน

 

หรือว่า ผมเห็นตัวซวยก้อไม่รู้

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

 

ไม่หรอกค่ะ ถ้าทำงานราชการไทย จะต้องเิติมไฟให้ตัวเองตลอด

 

 

ไม่อย่างนั้นอยู่ๆ ไปจะหมดกำลังใจกับระบบเส้นสาย น่าเบื่อมาก

 

 

้ต้องคอยเชลียร์ บางคนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ แต่เราคิดให้แง่โพสิ ทิพกับตัวเรา มีงานทำ ได้เงินเดือนกิน ก็ำพอแล้ว 

 

 

อาจต้องตากแดดตากฝนบ้าง แต่ก็ได้ ทำงานในห้องแอร์ ดีกว่าคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเราตั้งเยอะแยะ

 

 

มันอยู่ที่วิธีคิดน่ะค่ะ 



#28 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

Posted 11 September 2013 - 15:37

 

 

 

ไม่หรอกค่ะ ถ้าทำงานราชการไทย จะต้องเิติมไฟให้ตัวเองตลอด

 

 

ไม่อย่างนั้นอยู่ๆ ไปจะหมดกำลังใจกับระบบเส้นสาย น่าเบื่อมาก

 

 

้ต้องคอยเชลียร์ บางคนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ แต่เราคิดให้แง่โพสิ ทิพกับตัวเรา มีงานทำ ได้เงินเดือนกิน ก็ำพอแล้ว 

 

 

อาจต้องตากแดดตากฝนบ้าง แต่ก็ได้ ทำงานในห้องแอร์ ดีกว่าคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเราตั้งเยอะแยะ

 

 

มันอยู่ที่วิธีคิดน่ะค่ะ 

 

:wub:  :wub:  :wub:


"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#29 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

Posted 11 September 2013 - 17:06

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 
 
 
พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว


ค่าปรับ มันมีต้นทุนจากอะไรบ้างครับ คือผมมองว่า คนค้างค่าน้ำสามร้อยบาท กับค้างสามพันบาท ไม่น่าจะต้องถูกปรับเท่ากันนะครับ ถ้าเป็นเรื่องการสำรองจ่ายหรือตัดหนี้ของสำนักงาน

#30 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

Posted 11 September 2013 - 18:06

 

 

 

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 

 

 

พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว 

 

แสดงว่าคุณ Pink อยู่แถวๆบ้านโป่ง ....ทำให้นึกถึงคำว่า "คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่งขึ้นมาทันที..."  :)

 

 

เอ้ออ.. อืมม์  เอ่อออ   อ้าาาา... โอ...ก๊อด

 

 

 

 

ปร๋าขา นู๋จ๋วยค่ะ ไม่โง่ด้วย

 

 

แหมๆๆๆ...เรื่องวิชาการนี่ เชื่อแบบสนิทใจ ไร้ข้อกังขาเลย

 

แต่มาถึง คคห. นี้... ทำให้ต้องหยุดคิด นิสสสนุง เลยน้าาา... :lol: :lol:


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#31 พะอาจารย์ไม้หน้า5

พะอาจารย์ไม้หน้า5

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 246 posts

Posted 11 September 2013 - 18:13

น้ำปะปาดื่มได้อยู่แล้ว

 

แต่ด้วยที่มันต้องผ่านท่อที่สกปรก และระยะทางยาว มันจะป่นเปื้อนสิ่งไม่พึงประสงค์ก็ไม่แปลก

 

อยากให้ท่อปะปาสะอาด ก็ไปบอกรัฐบาลให้กู้เงินมาวางท่อปะัปาใหม่ทั่วประเทศเลยดีไหม แล้วอย่าค้านละ



#32 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

Posted 11 September 2013 - 18:24

น้ำก๊อกต้มแล้วดื่มได้ไหมคะ?
รศ.ดร. แก้ว กังสดาลอำไพ
112_0.JPG?1361169378
 

น้ำก๊อกต้มแล้วดื่มได้ไหมคะ? สมาชิกหมายเลข 708090ถามประชาคมผู้เข้าใช้บริการในห้องสวนลุมพินี ของเว็บไซต์ pantip.comเมื่อเวลา 07:29 น. ของวันที่ 20 มกราคม 2556

ท่านผู้อ่านเห็นประเด็นของกระทู้นี้แล้ว หลายท่านคงคิดในใจว่า “คำถามนี้ตรงใจเราเหมือนกันแฮะ เพราะสงสัยมานานแล้ว”ดังนั้นผู้เขียนจึงเลือกเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออย่างน้อยก็ได้ตอบคำถามของผู้ตั้งประเด็นในห้องสวนลุมพินี โดยอาศัยเว็บไซต์โลกสีเขียว เนื่องจากการอธิบายให้เข้าใจดีนั้น ถ้าไปโพสต์ในเว็บดังกล่าวคงไม่เหมาะนัก เพราะจะยาวเกินไป

ในวันที่ผู้เขียนเข้าไปดูกระทู้ดังกล่าวนั้น มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นไว้ 36 ความคิดเห็น ผู้เขียนจะเลือกบางความคิดมาให้ท่านผู้อ่านดู แล้วอธิบายความว่าความคิดนั้นน่าจะมีปัญหาหรือไม่อย่างไร

 

ผู้แสดงความคิดเห็นรายหนึ่ง กล่าวว่า“อยู่ กทม. ใช่ไหมครับ? เขาประกาศว่าน้ำประปาดื่มได้ (แม้ไม่ต้องต้ม) ครับ”

ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ตอบว่า “ใช่ค่ะ กทม. แต่อยู่ที่คอนโด น้ำมันก็ต้องเอาไปเก็บไว้ในแทงก์ก่อนจะมาห้องเรา(รึเปล่าคะ??) ถ้าไม่ต้มคงไม่กล้าดื่มแน่ๆ เลย แต่สรุปว่าดื่มได้สินะคะ”

จากนั้นก็มีผู้แสดงความเห็นอีกรายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า “แล้วแต่คน ถ้าคิดว่าไม่อยากมีปัญหาเรื่องไตก็กรองน้ำก่อน สารต่างๆ ในน้ำมันไม่ได้ระเหยไปพร้อมๆ กับการต้มนะคะ เราคิดว่าใช้เครื่องกรองน้ำดีกว่า”

ก่อนวิเคราะห์ความเห็นดังกล่าว ผู้เขียนได้พบข้อความที่น่าอิจฉาใน http://en.cop15.dk ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของการประชุมเกี่ยวกับโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกน (ซึ่งล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในปี 2009) กล่าวว่า “Water -- Due to the very high quality of groundwater in Denmark, all potable water at the conference venue will be tap-water served in decanters or at self-service automatic dispensers. This implies a considerable energy saving advantage because production, transportation and disposal of water bottles will be avoided.”

ที่กล่าวว่าน่าอิจฉาชาวโคเปนเฮเกนเพราะ น้ำดื่มที่บริการผู้เข้าร่วมประชุมมาจากน้ำใต้ดินที่มีคุณภาพ ซึ่งหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองพลังงาน ที่ต้องใช้ในการผลิตขนส่ง และกำจัดขวดน้ำ ในศตวรรษนี้เราคงไม่เห็นข้อมูลแบบนี้ในการประชุมในประเทศไทยแน่ เนื่องจากน้ำใต้ดินของประเทศเรานั้น นับวันมีแต่จะน่าเชื่อถือน้อยลงๆ และถ้ามีโรงแรมไหนเอาอย่างบ้างโดยกรอกน้ำก๊อกให้เรากินขณะไปใช้บริการ โดยไม่สนว่าคุณภาพน้ำก๊อกของเราเหมือนที่โคเปนเฮเกนหรือไม่ เราคงได้ฮาแบบขื่นขมกันทั่วหน้า เพราะในความเป็นจริงแล้ว แม้ตัวมาตรฐานข้อกำหนดคุณภาพน้ำประปา (เชิญไปดูได้ที่ http://www.envilab.c...h/13-29/29.html) ของเราที่อ้างว่าทำตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลกปี 2006 ในการตรวจวิเคราะห์เพื่อควบคุมความปลอดภัยให้ได้มาตรฐานนั้น ทำได้ตามกำหนดจริงหรือไม่ หากท่านผู้สนใจในประเด็นนี้สามารถสอบถามได้จาก กองวิเคราะห์คุณภาพน้ำ (twqc_div@mwa.co.th) ของการประปานครหลวง ซึ่งถ้าได้คำตอบว่าทำตามที่กำหนดทุกประการ ก็ขอให้เชื่อไว้ก่อนแล้วอ่านบทความนี้ต่อนะครับ

หลายปีมาแล้วผู้เขียนเคยเข้าไปในเว็บไซต์ที่น่าสนใจเว็บหนึ่งคือ www.wopular.com ซึ่งเป็นเว็บที่รวมข่าวจาก CNN, NY Times, Digg, Google News, Twitter, YouTube, Flickr, Yahoo, Bing, Wikipediaและอื่นๆ เพื่อให้สามารถติดตามข่าวสารสำคัญได้เร็วขึ้นโดยเข้าเว็บเดียว ซึ่งเมื่อค้นหาข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการดื่มน้ำโดยใช้กุญแจคำว่า “drinking water” ก็จะพบข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ เช่น คำจำกัดความของน้ำดื่มว่า น้ำดื่มนั้นต้องมีคุณภาพที่ดีพอที่เราดื่มได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออันตรายต่างๆ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต (“Drinking water or potable water is water of sufficiently high quality that it can be consumed or used without risk of immediate or long term harm.”)

ในเว็บ www.wtop.com มีบทความที่น่าจะโดนใจคนทั้งโลกคือ “How safe is your tap water? Report finds hundreds of pollutants”ซึ่งหัวข้อดังกล่าวนี้เป็นประเด็นที่ตราตรึงใจคนไทยมานาน แม้ว่าปัจจุบันการประปาของไทยจะออกมายืนยันในแนวว่า น้ำประปาไทยเปิดก๊อกดื่มได้ (ถ้าระบบท่อสะอาด ไม่แตก ไม่มีการซ่อมนะครับ ไม่งั้นมีโคลนเข้าไปในระบบแน่)

ในบทความที่คนทั้งโลกน่าจะสนใจนี้กล่าวว่า ชาวอเมริกัน 53.6 ล้านคนได้รับมลพิษที่ปนเปื้อนในระบบน้ำที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการประปาของประเทศแล้ว ทั้งนี้เพราะน้ำที่ผ่านมาตรฐานนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นน้ำที่ปลอดจากสารพิษ

สำหรับมาตรฐานเรื่อง Drinking water ขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO นั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.who.int/w...wq/fulltext.pdf ส่วนผู้ดื่มน้ำประปาเป็นประจำนั้น ถ้าต้องการดูข้อมูลที่ดูอินเตอร์หน่อย ขอแนะนำให้ไปดูที่ http://www.lenntech....r-standards.htm ซึ่งมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับชนิดและปริมาณของสารเคมีที่ไม่ควรมีอยู่เกินในน้ำดื่มของคนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วย

มีตัวอย่างที่น่าทึ่งบวกอึ้งคือ มีการกำหนดปริมาณของสารก่อมะเร็ง (ที่เกินไม่ได้) ไว้ด้วย สารเหล่านี้อยู่ในกลุ่มที่จัดว่าเป็น สารอินทรีย์ (organic compounds) ได้แก่ carbon tetrachloride, dichloromethane ,chlorinated hydrocarbon ต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มสารที่เรียกว่า solvents ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแถวมาบตาพุด และเป็นยาฆ่าแมลงที่มีการห้ามใช้แล้ว เพราะก่อมะเร็งและทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

สารพิษเหล่านี้สามารถพบได้ในน้ำที่อยู่ในมาตรฐานของ WHO ซึ่งกำหนดให้มีได้ไม่เกินค่าที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ดื่มน้ำ ทั้งนี้เพราะในหลักการทางพิษวิทยา มนุษย์ (ที่แข็งแรง) ควรมีความสามารถในการกำจัดสารพิษที่กินเข้าไปได้ในระดับหนึ่ง

011.JPGมีข้อมูลจาก www.wtop.com ว่า เคยมีผู้วิเคราะห์ข้อมูลราว 20 ล้านข้อมูลที่ได้จากรัฐต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา พบว่าตั้งแต่ปี 2004 นั้น มีการพบมลพิษในน้ำประปาถึง 316 ชนิด ซึ่งเป็นมลพิษที่มาจาก 97 แหล่ง เช่น สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีจากภาคเกษตร รวมถึงของเสียจากชุมชน ที่สำคัญคือ มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีถึง 205 ชนิด พร้อมอีก 86 ชนิดจากน้ำที่ปล่อยสู่ลำรางสาธารณะของโรงงานที่มีระบบการกำจัดน้ำเสีย เป็นต้น ทั้งนี้เพราะการผลิตน้ำประปาที่ส่งให้เมืองใหญ่นั้นมักใช้น้ำท่า ซึ่งเป็นรูปแบบที่ประเทศไทยทำเช่นกัน เพราะน้ำท่าหรือน้ำจากแม่น้ำนั้นต้นทุนถูก ดังนั้นการตรวจพบสารพิษในน้ำประปาจึงไม่น่าประหลาดใจ

การพบสารพิษในน้ำประปาของประเทศที่เจริญแล้วนั้น ไม่ได้บอกว่าน้ำนั้นไม่ได้มาตรฐาน เพราะปริมาณมลพิษแต่ละชนิดที่เจอนั้นอาจต่ำมากๆ เพียงแต่ว่าประเทศที่เจริญแล้วเขาวิเคราะห์เพื่อคอยตรวจสอบหากเกิดความผิดปรกติด้วยเครื่องมือที่วิลิศมาหรา ในขณะที่บางประเทศยังไม่มีโอกาสซื้อเครื่องมือขั้นนั้นมาวิเคราะห์เลยตรวจไม่เจอ คนในประเทศนั้นก็คงยังสบายใจได้ เพราะทางผู้ผลิตน้ำประปาในหลายประเทศมักบอกว่า ไม่พบ (ซึ่งไม่ได้แปลว่าไม่มี)

ที่น่าประหลาดใจมากก็คือ Jane Houlihan ซึ่งเป็นคนสำคัญของ EWG หรือ The Environmental Working Group ในสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของมลพิษเหล่านี้ไม่ได้ถูกกำหนดปริมาณที่ก่อให้เกิดอันตราย เพราะไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลาง จึงไม่น่าประหลาดใจที่ตรวจพบส่วนผสมของน้ำมันเครื่องบินเจ็ท สารเปอคลอเรต สารอะซีโตน สารกำจัดวัชพืช น้ำยาจากระบบปรับอากาศและตู้เย็น ตลอดจนสารเรดอนที่เป็นผลพลอยได้จากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีในน้ำประปาบางแห่งของประเทศเขา

มาถึงตอนนี้ ถ้าบทความนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อผู้ดื่มน้ำประปาแล้ว ก็ดื่มน้ำที่กรองผ่านระบบกรองน้ำก็แล้วกัน โดยให้ไปเลือกดูสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบจาก http://www.consumers...m/water-filters ซึ่งน่าจะพอเชื่อได้ว่า ไม่ได้เสียเงินเปล่า เหตุที่จำเป็นต้องเชิญให้ไปดูเว็บไซต์ต่างประเทศ เพราะหาเว็บไซต์ไทยที่กล้าออกมาแนะนำว่าให้ซื้อระบบกรองน้ำของบริษัทใดไม่ได้ เหตุที่ยังหาไม่ได้เนื่องจากยังไม่มีใครว่างจะทำ นี่คือคำตอบของบุคลากรในหน่วยงานหนึ่งที่ควรมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับมาตรฐานเครื่องมือต่างๆ ที่ผู้บริโภคใช้

กลับมาที่กระทู้ น้ำก๊อกต้มแล้วดื่มได้ไหมคะ? ซึ่งมีสมาชิกอีกรายแสดงความเห็นที่น่าสนใจ (แบบภาษาชาวเน็ทซึ่งทำให้ครูภาษาไทยปวดหัวได้) ว่า“ไม่ควรดื่มคับ เคยลงหนังสือพิมเมื่อนานมาแล้ว มีงานวิจัยออกมาว่า เมื่อคลอรีน โดนความร้อน จะเปลี่ยนสภาพเป็นสารก่อมะเร็งคับ ถ้าบริโภคเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะเป็นมะเร็งได้คับ”

ในขณะที่สมาชิกของ pantip.com อีกราย (ซึ่งภาษาไทยไม่แข็งแรง) กล่าวว่า “กินมาตั้งแต่เกิดเลยล่ะค่ะ ยี่สิบปีล่ะคุณพ่อก็กินตั้งแต่เกิดเหมือนกันค่ะ จะหกสิบปีอยู่แล้ว คุณย่าก็กินแบบนี้เหมือนกันค่ะ ... อยู่มาจะเก้าสิบแว้ววว ไม่เป็นอะไรเลยนอกจากเบาหวาน ตอนนี้ก็สุขภาพดีแจ่มใสทั่วไป แค่เป็นเบาหวาน (ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับน้ำกรองซักเท่าไหร่ - -" ค่ะ) ทั้งบ้านก็กินแบบนี้ล่ะค่ะ ไม่มีใครเป็นอะไรนอกจากเบาหวาน มีคุณปู่คนเดียวที่เป็นโรคไต แต่น่าจะเป็นสาเหตุอื่นมากกว่าไม่น่าจะเป็นเพราะน้ำต้มหน่ะค่ะ แต่กาต้มน้ำหน่ะ ตะกรันเยอะอยู่ค่ะ ก็ล้างๆ เขาบ้างงง กินน้ำต้มอร่อยกว่าด้วยค่ะในความคิดของเรานะ กินน้ำกรองเรากลับรู้สึกไม่ค่อยสะอาดด้วย ฮ่า ๆ เป็นความรู้สึกหน่ะค่ะ ทั้งๆ ที่จริงๆ มันอาจจะสะอาดกว่า เหมือนเคยไปอ่านเรื่องข้างในเครื่องกรองน้ำอะไรเนี่ยล่ะค่ะ ไม่ดูแลทำความสะอาด สยองมาก”

ประเด็นเรื่องสารพิษในน้ำประปาที่ต้มแล้วนั้น เป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันมานานแล้ว โดยเฉพาะที่มีการกล่าวว่า “เมื่อคลอรีน โดนความร้อน จะเปลี่ยนสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง”ซึ่งถ้อยคำนี้ไม่ได้เกินเลยไปจากความจริงนัก เพียงแต่ว่าปริมาณสารพิษนั้นไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ยังเป็นสารพิษอยู่ดี

สารพิษที่เกิดขึ้นจากการต้มน้ำประปานั้นอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า ไตรฮาโลมีเทน (Trihalomethanes) ซึ่งเกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยาระหว่าง คลอรีน ซึ่งใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ (หรือธาตุอื่นอีก 3 ชนิด ที่อยู่ในกลุ่มฮาโลเจนได้แก่ โบรมีน ไอโอดีน และฟลูออรีน) และสารอินทรีย์ที่หลุดรอดจากกระบวนการผลิตน้ำประปา

ในหลายประเทศได้กำหนดมาตรฐานน้ำประปาให้มีสารนี้ในปริมาณต่ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เช่น สหรัฐอเมริกากำหนดปริมาณสูงสุดไว้ไม่เกิน 80 ส่วนในพันล้านส่วน อย่างไรก็ตามสารพิษกลุ่มนี้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีการตรวจวัดในน้ำประปา หลายประเทศยังกังวลใจถึงสารเคมีกลุ่มอื่นที่อาจมีขึ้นเนื่องจากการต้มน้ำประปา แต่ยังตรวจไม่พบ

photo%20(8).JPGดังนั้นถ้าผู้บริโภคน้ำประปามีความกังวลใจต่อการเกิดสารพิษเนื่องจากการต้มน้ำแล้ว อาจใช้วิธีกรองน้ำประปาก่อนต้มโดยใช้เครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดคลอรีนได้ เพื่อป้องกันการเกิดสารกลุ่มฮาโลมีเทนหลังจากการต้มน้ำประปา ทั้งที่ในความจริงแล้วถ้าเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพดี สามารถกรองเอาเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคได้ด้วย ปัญหาอยู่ที่ว่าเครื่องกรองที่ดีนั้นหาซื้อได้ที่ไหน

อย่างไรก็ดีมีข่าวเล็กๆ ในเว็บ http://www.miamiherald.com
เล่าถึง Tourist killed by hotel waterซึ่งผู้เขียนเคยเข้าไปดูเมื่อหลายปีมาแล้ว โดยมีเนื้อข่าวว่า มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งตายและอีกสองคนป่วย เนื่องจากการติดเชื้อที่เรียกว่า Legionnaire's Disease หลังจากเข้าพักในโรงแรมหรูในเมืองไมอามี โดยมีผู้ตั้งสมมุติฐานถึงสาเหตุการเจ็บป่วยครั้งนี้ว่า “After a hotel's powerful filter removed all the chlorine from city water, bacteria grew -- killing one and making two others ill..”ซึ่งแปลง่ายๆ ให้ได้ความว่า เนื่องจากระบบกรองน้ำของโรงแรมดีมากเกินไป จนกรองเอาคลอรีนที่ใช้ฆ่าเชื้อในน้ำประปาออกไปหมด น้ำในระบบท่อของโรงแรมเลยมีเชื้อที่ทำให้เกิดการป่วยได้ จึงทำให้ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าตำรับของการเปิดน้ำดื่มจากก๊อกได้เลยต้องเสียหน้าด้วยประการฉะนี้

ก่อนจบเรื่องราวของการต้มน้ำก๊อกดื่มนี้ ผู้เขียนมีเรื่องเล่าซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อนักอ่านบางท่าน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติของน้ำประปา โดยเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2514 ซึ่งผู้เขียนยังเรียนอยู่ชั้น ม.ศ.5 (สมัยนั้นเป็นชั้นสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาก่อนสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย) ผู้เขียนและเพื่อนสองคนได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปแข่งกับโรงเรียนอื่นๆ ในงานนิทรรศการของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก็มีคำถามสุดท้ายซึ่งจะใช้ตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะคือ การประปาในประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อสมัยใด ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนอื่นตอบเหมือนกันหมดว่า สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ผู้เขียนบอกเพื่อนที่ไปด้วยว่า เราต้องให้บทเรียนแก่กรรมการที่ตั้งคำถามว่า ต้องหาความรู้เชิงลึกก่อนจึงจะตั้งคำถามได้

ผู้เขียนบอกเพื่อนที่ไปตอบคำถามว่า ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนเราไม่ชนะนั้น ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว โดยเอาตำแหน่งประธานชมรมสังคมศึกษาของโรงเรียนเป็นเดิมพัน แล้วจึงตอบคำถามดังกล่าวว่า “การประปาในประเทศไทยนั้นเกิดครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่เมืองลพบุรี” ในตอนแรกกรรมการให้คะแนนเป็นศูนย์ ผู้เขียนจึงขอประท้วงแล้วอธิบายให้กรรมการทราบว่า ความหมายของคำว่าการประปานั้น หมายถึงการจัดการให้มีการจัดส่งน้ำที่เหมาะสมต่อการอุปโภคและบริโภคสู่ประชาชน ซึ่งมีการตรวจพบซากท่อส่งน้ำดินเผาที่จัดทำขึ้นที่เมืองลพบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตามคำแนะนำของข้าราชการที่เป็นชาวฝรั่งเศส ดังนั้นเมื่อคำถามถามว่าการประปาเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยคือเมื่อใด คำตอบที่ถูกต้องที่สุดควรเป็น สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

สุดท้ายกรรมการจัดการตอบคำถามก็ต้องกลับคำตัดสินให้ทีมของผู้เขียนได้ถ้วยรางวัลกลับโรงเรียน


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#33 Diablo

Diablo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 566 posts

Posted 11 September 2013 - 18:29

น้ำก๊อกต้มแล้วดื่มได้ไหมคะ?

รศ.ดร. แก้ว กังสดาลอำไพ
112_0.JPG?1361169378
 

น้ำก๊อกต้มแล้วดื่มได้ไหมคะ? สมาชิกหมายเลข 708090ถามประชาคมผู้เข้าใช้บริการในห้องสวนลุมพินี ของเว็บไซต์ pantip.comเมื่อเวลา 07:29 น. ของวันที่ 20 มกราคม 2556

ท่านผู้อ่านเห็นประเด็นของกระทู้นี้แล้ว หลายท่านคงคิดในใจว่า “คำถามนี้ตรงใจเราเหมือนกันแฮะ เพราะสงสัยมานานแล้ว”ดังนั้นผู้เขียนจึงเลือกเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออย่างน้อยก็ได้ตอบคำถามของผู้ตั้งประเด็นในห้องสวนลุมพินี โดยอาศัยเว็บไซต์โลกสีเขียว เนื่องจากการอธิบายให้เข้าใจดีนั้น ถ้าไปโพสต์ในเว็บดังกล่าวคงไม่เหมาะนัก เพราะจะยาวเกินไป

ในวันที่ผู้เขียนเข้าไปดูกระทู้ดังกล่าวนั้น มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นไว้ 36 ความคิดเห็น ผู้เขียนจะเลือกบางความคิดมาให้ท่านผู้อ่านดู แล้วอธิบายความว่าความคิดนั้นน่าจะมีปัญหาหรือไม่อย่างไร

 

ผู้แสดงความคิดเห็นรายหนึ่ง กล่าวว่า“อยู่ กทม. ใช่ไหมครับ? เขาประกาศว่าน้ำประปาดื่มได้ (แม้ไม่ต้องต้ม) ครับ”

ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ตอบว่า “ใช่ค่ะ กทม. แต่อยู่ที่คอนโด น้ำมันก็ต้องเอาไปเก็บไว้ในแทงก์ก่อนจะมาห้องเรา(รึเปล่าคะ??) ถ้าไม่ต้มคงไม่กล้าดื่มแน่ๆ เลย แต่สรุปว่าดื่มได้สินะคะ”

จากนั้นก็มีผู้แสดงความเห็นอีกรายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า “แล้วแต่คน ถ้าคิดว่าไม่อยากมีปัญหาเรื่องไตก็กรองน้ำก่อน สารต่างๆ ในน้ำมันไม่ได้ระเหยไปพร้อมๆ กับการต้มนะคะ เราคิดว่าใช้เครื่องกรองน้ำดีกว่า”

ก่อนวิเคราะห์ความเห็นดังกล่าว ผู้เขียนได้พบข้อความที่น่าอิจฉาใน http://en.cop15.dk ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของการประชุมเกี่ยวกับโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกน (ซึ่งล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในปี 2009) กล่าวว่า “Water -- Due to the very high quality of groundwater in Denmark, all potable water at the conference venue will be tap-water served in decanters or at self-service automatic dispensers. This implies a considerable energy saving advantage because production, transportation and disposal of water bottles will be avoided.”

ที่กล่าวว่าน่าอิจฉาชาวโคเปนเฮเกนเพราะ น้ำดื่มที่บริการผู้เข้าร่วมประชุมมาจากน้ำใต้ดินที่มีคุณภาพ ซึ่งหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองพลังงาน ที่ต้องใช้ในการผลิตขนส่ง และกำจัดขวดน้ำ ในศตวรรษนี้เราคงไม่เห็นข้อมูลแบบนี้ในการประชุมในประเทศไทยแน่ เนื่องจากน้ำใต้ดินของประเทศเรานั้น นับวันมีแต่จะน่าเชื่อถือน้อยลงๆ และถ้ามีโรงแรมไหนเอาอย่างบ้างโดยกรอกน้ำก๊อกให้เรากินขณะไปใช้บริการ โดยไม่สนว่าคุณภาพน้ำก๊อกของเราเหมือนที่โคเปนเฮเกนหรือไม่ เราคงได้ฮาแบบขื่นขมกันทั่วหน้า เพราะในความเป็นจริงแล้ว แม้ตัวมาตรฐานข้อกำหนดคุณภาพน้ำประปา (เชิญไปดูได้ที่ http://www.envilab.c...h/13-29/29.html) ของเราที่อ้างว่าทำตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลกปี 2006 ในการตรวจวิเคราะห์เพื่อควบคุมความปลอดภัยให้ได้มาตรฐานนั้น ทำได้ตามกำหนดจริงหรือไม่ หากท่านผู้สนใจในประเด็นนี้สามารถสอบถามได้จาก กองวิเคราะห์คุณภาพน้ำ (twqc_div@mwa.co.th) ของการประปานครหลวง ซึ่งถ้าได้คำตอบว่าทำตามที่กำหนดทุกประการ ก็ขอให้เชื่อไว้ก่อนแล้วอ่านบทความนี้ต่อนะครับ

หลายปีมาแล้วผู้เขียนเคยเข้าไปในเว็บไซต์ที่น่าสนใจเว็บหนึ่งคือ www.wopular.com ซึ่งเป็นเว็บที่รวมข่าวจาก CNN, NY Times, Digg, Google News, Twitter, YouTube, Flickr, Yahoo, Bing, Wikipediaและอื่นๆ เพื่อให้สามารถติดตามข่าวสารสำคัญได้เร็วขึ้นโดยเข้าเว็บเดียว ซึ่งเมื่อค้นหาข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการดื่มน้ำโดยใช้กุญแจคำว่า “drinking water” ก็จะพบข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ เช่น คำจำกัดความของน้ำดื่มว่า น้ำดื่มนั้นต้องมีคุณภาพที่ดีพอที่เราดื่มได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออันตรายต่างๆ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต (“Drinking water or potable water is water of sufficiently high quality that it can be consumed or used without risk of immediate or long term harm.”)

ในเว็บ www.wtop.com มีบทความที่น่าจะโดนใจคนทั้งโลกคือ “How safe is your tap water? Report finds hundreds of pollutants”ซึ่งหัวข้อดังกล่าวนี้เป็นประเด็นที่ตราตรึงใจคนไทยมานาน แม้ว่าปัจจุบันการประปาของไทยจะออกมายืนยันในแนวว่า น้ำประปาไทยเปิดก๊อกดื่มได้ (ถ้าระบบท่อสะอาด ไม่แตก ไม่มีการซ่อมนะครับ ไม่งั้นมีโคลนเข้าไปในระบบแน่)

ในบทความที่คนทั้งโลกน่าจะสนใจนี้กล่าวว่า ชาวอเมริกัน 53.6 ล้านคนได้รับมลพิษที่ปนเปื้อนในระบบน้ำที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการประปาของประเทศแล้ว ทั้งนี้เพราะน้ำที่ผ่านมาตรฐานนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นน้ำที่ปลอดจากสารพิษ

สำหรับมาตรฐานเรื่อง Drinking water ขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO นั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.who.int/w...wq/fulltext.pdf ส่วนผู้ดื่มน้ำประปาเป็นประจำนั้น ถ้าต้องการดูข้อมูลที่ดูอินเตอร์หน่อย ขอแนะนำให้ไปดูที่ http://www.lenntech....r-standards.htm ซึ่งมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับชนิดและปริมาณของสารเคมีที่ไม่ควรมีอยู่เกินในน้ำดื่มของคนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วย

มีตัวอย่างที่น่าทึ่งบวกอึ้งคือ มีการกำหนดปริมาณของสารก่อมะเร็ง (ที่เกินไม่ได้) ไว้ด้วย สารเหล่านี้อยู่ในกลุ่มที่จัดว่าเป็น สารอินทรีย์ (organic compounds) ได้แก่ carbon tetrachloride, dichloromethane ,chlorinated hydrocarbon ต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มสารที่เรียกว่า solvents ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแถวมาบตาพุด และเป็นยาฆ่าแมลงที่มีการห้ามใช้แล้ว เพราะก่อมะเร็งและทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

สารพิษเหล่านี้สามารถพบได้ในน้ำที่อยู่ในมาตรฐานของ WHO ซึ่งกำหนดให้มีได้ไม่เกินค่าที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ดื่มน้ำ ทั้งนี้เพราะในหลักการทางพิษวิทยา มนุษย์ (ที่แข็งแรง) ควรมีความสามารถในการกำจัดสารพิษที่กินเข้าไปได้ในระดับหนึ่ง

011.JPGมีข้อมูลจาก www.wtop.com ว่า เคยมีผู้วิเคราะห์ข้อมูลราว 20 ล้านข้อมูลที่ได้จากรัฐต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา พบว่าตั้งแต่ปี 2004 นั้น มีการพบมลพิษในน้ำประปาถึง 316 ชนิด ซึ่งเป็นมลพิษที่มาจาก 97 แหล่ง เช่น สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีจากภาคเกษตร รวมถึงของเสียจากชุมชน ที่สำคัญคือ มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีถึง 205 ชนิด พร้อมอีก 86 ชนิดจากน้ำที่ปล่อยสู่ลำรางสาธารณะของโรงงานที่มีระบบการกำจัดน้ำเสีย เป็นต้น ทั้งนี้เพราะการผลิตน้ำประปาที่ส่งให้เมืองใหญ่นั้นมักใช้น้ำท่า ซึ่งเป็นรูปแบบที่ประเทศไทยทำเช่นกัน เพราะน้ำท่าหรือน้ำจากแม่น้ำนั้นต้นทุนถูก ดังนั้นการตรวจพบสารพิษในน้ำประปาจึงไม่น่าประหลาดใจ

การพบสารพิษในน้ำประปาของประเทศที่เจริญแล้วนั้น ไม่ได้บอกว่าน้ำนั้นไม่ได้มาตรฐาน เพราะปริมาณมลพิษแต่ละชนิดที่เจอนั้นอาจต่ำมากๆ เพียงแต่ว่าประเทศที่เจริญแล้วเขาวิเคราะห์เพื่อคอยตรวจสอบหากเกิดความผิดปรกติด้วยเครื่องมือที่วิลิศมาหรา ในขณะที่บางประเทศยังไม่มีโอกาสซื้อเครื่องมือขั้นนั้นมาวิเคราะห์เลยตรวจไม่เจอ คนในประเทศนั้นก็คงยังสบายใจได้ เพราะทางผู้ผลิตน้ำประปาในหลายประเทศมักบอกว่า ไม่พบ (ซึ่งไม่ได้แปลว่าไม่มี)

ที่น่าประหลาดใจมากก็คือ Jane Houlihan ซึ่งเป็นคนสำคัญของ EWG หรือ The Environmental Working Group ในสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของมลพิษเหล่านี้ไม่ได้ถูกกำหนดปริมาณที่ก่อให้เกิดอันตราย เพราะไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลาง จึงไม่น่าประหลาดใจที่ตรวจพบส่วนผสมของน้ำมันเครื่องบินเจ็ท สารเปอคลอเรต สารอะซีโตน สารกำจัดวัชพืช น้ำยาจากระบบปรับอากาศและตู้เย็น ตลอดจนสารเรดอนที่เป็นผลพลอยได้จากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีในน้ำประปาบางแห่งของประเทศเขา

มาถึงตอนนี้ ถ้าบทความนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อผู้ดื่มน้ำประปาแล้ว ก็ดื่มน้ำที่กรองผ่านระบบกรองน้ำก็แล้วกัน โดยให้ไปเลือกดูสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบจาก http://www.consumers...m/water-filters ซึ่งน่าจะพอเชื่อได้ว่า ไม่ได้เสียเงินเปล่า เหตุที่จำเป็นต้องเชิญให้ไปดูเว็บไซต์ต่างประเทศ เพราะหาเว็บไซต์ไทยที่กล้าออกมาแนะนำว่าให้ซื้อระบบกรองน้ำของบริษัทใดไม่ได้ เหตุที่ยังหาไม่ได้เนื่องจากยังไม่มีใครว่างจะทำ นี่คือคำตอบของบุคลากรในหน่วยงานหนึ่งที่ควรมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับมาตรฐานเครื่องมือต่างๆ ที่ผู้บริโภคใช้

กลับมาที่กระทู้ น้ำก๊อกต้มแล้วดื่มได้ไหมคะ? ซึ่งมีสมาชิกอีกรายแสดงความเห็นที่น่าสนใจ (แบบภาษาชาวเน็ทซึ่งทำให้ครูภาษาไทยปวดหัวได้) ว่า“ไม่ควรดื่มคับ เคยลงหนังสือพิมเมื่อนานมาแล้ว มีงานวิจัยออกมาว่า เมื่อคลอรีน โดนความร้อน จะเปลี่ยนสภาพเป็นสารก่อมะเร็งคับ ถ้าบริโภคเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะเป็นมะเร็งได้คับ”

ในขณะที่สมาชิกของ pantip.com อีกราย (ซึ่งภาษาไทยไม่แข็งแรง) กล่าวว่า “กินมาตั้งแต่เกิดเลยล่ะค่ะ ยี่สิบปีล่ะคุณพ่อก็กินตั้งแต่เกิดเหมือนกันค่ะ จะหกสิบปีอยู่แล้ว คุณย่าก็กินแบบนี้เหมือนกันค่ะ ... อยู่มาจะเก้าสิบแว้ววว ไม่เป็นอะไรเลยนอกจากเบาหวาน ตอนนี้ก็สุขภาพดีแจ่มใสทั่วไป แค่เป็นเบาหวาน (ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับน้ำกรองซักเท่าไหร่ - -" ค่ะ) ทั้งบ้านก็กินแบบนี้ล่ะค่ะ ไม่มีใครเป็นอะไรนอกจากเบาหวาน มีคุณปู่คนเดียวที่เป็นโรคไต แต่น่าจะเป็นสาเหตุอื่นมากกว่าไม่น่าจะเป็นเพราะน้ำต้มหน่ะค่ะ แต่กาต้มน้ำหน่ะ ตะกรันเยอะอยู่ค่ะ ก็ล้างๆ เขาบ้างงง กินน้ำต้มอร่อยกว่าด้วยค่ะในความคิดของเรานะ กินน้ำกรองเรากลับรู้สึกไม่ค่อยสะอาดด้วย ฮ่า ๆ เป็นความรู้สึกหน่ะค่ะ ทั้งๆ ที่จริงๆ มันอาจจะสะอาดกว่า เหมือนเคยไปอ่านเรื่องข้างในเครื่องกรองน้ำอะไรเนี่ยล่ะค่ะ ไม่ดูแลทำความสะอาด สยองมาก”

ประเด็นเรื่องสารพิษในน้ำประปาที่ต้มแล้วนั้น เป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันมานานแล้ว โดยเฉพาะที่มีการกล่าวว่า “เมื่อคลอรีน โดนความร้อน จะเปลี่ยนสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง”ซึ่งถ้อยคำนี้ไม่ได้เกินเลยไปจากความจริงนัก เพียงแต่ว่าปริมาณสารพิษนั้นไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ยังเป็นสารพิษอยู่ดี

สารพิษที่เกิดขึ้นจากการต้มน้ำประปานั้นอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า ไตรฮาโลมีเทน (Trihalomethanes) ซึ่งเกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยาระหว่าง คลอรีน ซึ่งใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ (หรือธาตุอื่นอีก 3 ชนิด ที่อยู่ในกลุ่มฮาโลเจนได้แก่ โบรมีน ไอโอดีน และฟลูออรีน) และสารอินทรีย์ที่หลุดรอดจากกระบวนการผลิตน้ำประปา

ในหลายประเทศได้กำหนดมาตรฐานน้ำประปาให้มีสารนี้ในปริมาณต่ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เช่น สหรัฐอเมริกากำหนดปริมาณสูงสุดไว้ไม่เกิน 80 ส่วนในพันล้านส่วน อย่างไรก็ตามสารพิษกลุ่มนี้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีการตรวจวัดในน้ำประปา หลายประเทศยังกังวลใจถึงสารเคมีกลุ่มอื่นที่อาจมีขึ้นเนื่องจากการต้มน้ำประปา แต่ยังตรวจไม่พบ

photo%20(8).JPGดังนั้นถ้าผู้บริโภคน้ำประปามีความกังวลใจต่อการเกิดสารพิษเนื่องจากการต้มน้ำแล้ว อาจใช้วิธีกรองน้ำประปาก่อนต้มโดยใช้เครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดคลอรีนได้ เพื่อป้องกันการเกิดสารกลุ่มฮาโลมีเทนหลังจากการต้มน้ำประปา ทั้งที่ในความจริงแล้วถ้าเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพดี สามารถกรองเอาเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคได้ด้วย ปัญหาอยู่ที่ว่าเครื่องกรองที่ดีนั้นหาซื้อได้ที่ไหน

อย่างไรก็ดีมีข่าวเล็กๆ ในเว็บ http://www.miamiherald.com
เล่าถึง Tourist killed by hotel waterซึ่งผู้เขียนเคยเข้าไปดูเมื่อหลายปีมาแล้ว โดยมีเนื้อข่าวว่า มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งตายและอีกสองคนป่วย เนื่องจากการติดเชื้อที่เรียกว่า Legionnaire's Disease หลังจากเข้าพักในโรงแรมหรูในเมืองไมอามี โดยมีผู้ตั้งสมมุติฐานถึงสาเหตุการเจ็บป่วยครั้งนี้ว่า “After a hotel's powerful filter removed all the chlorine from city water, bacteria grew -- killing one and making two others ill..”ซึ่งแปลง่ายๆ ให้ได้ความว่า เนื่องจากระบบกรองน้ำของโรงแรมดีมากเกินไป จนกรองเอาคลอรีนที่ใช้ฆ่าเชื้อในน้ำประปาออกไปหมด น้ำในระบบท่อของโรงแรมเลยมีเชื้อที่ทำให้เกิดการป่วยได้ จึงทำให้ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าตำรับของการเปิดน้ำดื่มจากก๊อกได้เลยต้องเสียหน้าด้วยประการฉะนี้

ก่อนจบเรื่องราวของการต้มน้ำก๊อกดื่มนี้ ผู้เขียนมีเรื่องเล่าซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อนักอ่านบางท่าน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติของน้ำประปา โดยเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2514 ซึ่งผู้เขียนยังเรียนอยู่ชั้น ม.ศ.5 (สมัยนั้นเป็นชั้นสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาก่อนสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย) ผู้เขียนและเพื่อนสองคนได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปแข่งกับโรงเรียนอื่นๆ ในงานนิทรรศการของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก็มีคำถามสุดท้ายซึ่งจะใช้ตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะคือ การประปาในประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อสมัยใด ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนอื่นตอบเหมือนกันหมดว่า สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ผู้เขียนบอกเพื่อนที่ไปด้วยว่า เราต้องให้บทเรียนแก่กรรมการที่ตั้งคำถามว่า ต้องหาความรู้เชิงลึกก่อนจึงจะตั้งคำถามได้

ผู้เขียนบอกเพื่อนที่ไปตอบคำถามว่า ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนเราไม่ชนะนั้น ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว โดยเอาตำแหน่งประธานชมรมสังคมศึกษาของโรงเรียนเป็นเดิมพัน แล้วจึงตอบคำถามดังกล่าวว่า “การประปาในประเทศไทยนั้นเกิดครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่เมืองลพบุรี” ในตอนแรกกรรมการให้คะแนนเป็นศูนย์ ผู้เขียนจึงขอประท้วงแล้วอธิบายให้กรรมการทราบว่า ความหมายของคำว่าการประปานั้น หมายถึงการจัดการให้มีการจัดส่งน้ำที่เหมาะสมต่อการอุปโภคและบริโภคสู่ประชาชน ซึ่งมีการตรวจพบซากท่อส่งน้ำดินเผาที่จัดทำขึ้นที่เมืองลพบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตามคำแนะนำของข้าราชการที่เป็นชาวฝรั่งเศส ดังนั้นเมื่อคำถามถามว่าการประปาเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยคือเมื่อใด คำตอบที่ถูกต้องที่สุดควรเป็น สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

สุดท้ายกรรมการจัดการตอบคำถามก็ต้องกลับคำตัดสินให้ทีมของผู้เขียนได้ถ้วยรางวัลกลับโรงเรียน

 

 

อ. แก้ว หัวหน้าภาคพิษวิทยาผมเองล่ะครับ 55+


"The price good men pay for indifference to public affairs is to be ruled by evil men."

#34 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 18:44

 

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 
 
 
พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว


ค่าปรับ มันมีต้นทุนจากอะไรบ้างครับ คือผมมองว่า คนค้างค่าน้ำสามร้อยบาท กับค้างสามพันบาท ไม่น่าจะต้องถูกปรับเท่ากันนะครับ ถ้าเป็นเรื่องการสำรองจ่ายหรือตัดหนี้ของสำนักงาน

 

 

 

 

อันนี่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เอาไว้จะถามแผนกการเิงินและหนี้สินให้นะคะ



#35 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 18:45

 

 

 

 

จะบอกว่าที่โดนค่าปรับไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้น้ำนะคะ 

 

 

พนักงานก็โดนเหมือนกันค่ะ ที่ สาขาบ้านโป่งเริ่มดำเนินการปรับแล้ว 

 

แสดงว่าคุณ Pink อยู่แถวๆบ้านโป่ง ....ทำให้นึกถึงคำว่า "คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่งขึ้นมาทันที..."  :)

 

 

เอ้ออ.. อืมม์  เอ่อออ   อ้าาาา... โอ...ก๊อด

 

 

 

 

ปร๋าขา นู๋จ๋วยค่ะ ไม่โง่ด้วย

 

 

แหมๆๆๆ...เรื่องวิชาการนี่ เชื่อแบบสนิทใจ ไร้ข้อกังขาเลย

 

แต่มาถึง คคห. นี้... ทำให้ต้องหยุดคิด นิสสสนุง เลยน้าาา... :lol: :lol:

 

 

 

 

อารายยยย สวยที่ใจได้มั้ยคร้า  :wub:  :wub:  :wub:



#36 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 11 September 2013 - 18:48

น้ำปะปาดื่มได้อยู่แล้ว

 

แต่ด้วยที่มันต้องผ่านท่อที่สกปรก และระยะทางยาว มันจะป่นเปื้อนสิ่งไม่พึงประสงค์ก็ไม่แปลก

 

อยากให้ท่อปะปาสะอาด ก็ไปบอกรัฐบาลให้กู้เงินมาวางท่อปะัปาใหม่ทั่วประเทศเลยดีไหม แล้วอย่าค้านละ

 

 

 

ไม่จำเป็นที่ รบ ต้องกู้ หรือมายุ่มย่ามหรอกค่ะ แต่ปล่อยให้เราบริหารจัดการผลิตและต้นทุนตามความเป็นจริง

 

 

ด้วยหน่วยงานก็ถือว่ามันเป็นธุรกิจ มันต้องมีกำไร ขาดทุน

 

 

ถึงจุดนั้นความเป็นอิสระ มันทำให้เราสามารถคุมต้นทุน แ้ล้วก็แสวงหากำไรได้ค่ะ

 

 

เราหาแหล่งเงินมาลงทุนเอง จ่ายคืนหนี้เองได้ค่ะ โดยที่ รบ. ไม่ต้องซับซิดี้ แต่อยู่ที่ว่า ปชช จะรับภาระได้หรือเปล่าก็เท่านั้น 



#37 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

Posted 11 September 2013 - 19:15

นายกแดกน้ำประปาแหงๆ

 

 

ผมไม่เชื่อว่านายกฯตายเพราะดื่มน้ำประปาหรอก จะบอกให้.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#38 Kyubey

Kyubey

    รับสมัครสาวน้อยเวทมนตร์หลายอัตรา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,482 posts

Posted 11 September 2013 - 19:23

 

ดื่มได้มั้ง ก็แค่สนิม สนิมไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพครับ  :lol:

 

 

 

เป็นค่ะ ถ้าค่าเหล็กอยู่ที่ 0.30 ppm แต่ว่าน้ำประปามักจะคุมไม่ให้เกิน

 

 

แต่จากการนอนนิ่งของน้ำในเส้นท่อและการสะสมตัวเรื่อยๆ ในเวลานานเป็น5 ปีขึ้นไป ตะกรันจะรวมตัวกับเหล็ก มังกานีส แล้วสารอื่นๆ 

 

 

ทำให้ตกผลึกได้ค่ะ  ดังนั้นต้องดำเนินการเปลี่ยนเส้นท่อ ปัจจุบัน ท่อเหล็กแบบด้านบน หรือท่อซีเมนต์จะไม่ใช่แล้ว นอกจากเป็นท่อเมนเท่านั้น 

 

 

และมีการใช้ท่อ PE มากขึ้นแล้วค่ะ 

 

 

ขอบคุณมากครับ กำลังจะถามเรื่องนี้อยู่พอดีเลย

 

/人◕ ‿‿ ◕人\


╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\

╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\

ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!


#39 Octavarium

Octavarium

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,095 posts

Posted 11 September 2013 - 19:28

ไม่ดีหรือครับ เขากลัวประชาชนขาดธาตุเหล็ก :mellow:


       Invoke ExitWindowsEx, EWX_SHUTDOWN | EWX_POWEROFF | EWX_FORCEIFHUNG, SHTDN_REASON_MAJOR_SYSTEM





1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users