33 ความเห็นในกระทู้นี้

[HiddenMan]

จากข้อความนี้ในกระทู้คุณโทนี่...

 

ก็บอกว่าผมตั้งตัวเองเป็นฝ่ายค้านใน สรท จะให้เข้ามาอวย ปชป เหรอครับ?
 
ถามว่าหากผมเข้ามาอวย ปชป เพิ่มขึ้นอีก 1 คน มันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาเหรอครับ (นอกจากทำให้คุณนอนหลับฝันดี?)    

 

 

คนที่สะกดจิตตัวเองทุกวันว่าเป็นศูนย์กลาง ถูกทุกอย่าง ไม่เคยยอมรับผิดใดๆ และตั้งตัวว่าเป็น ฝ่ายค้านใน สรท...

หรือแท้จริงแล้วเป็นแค่ คนไร้สมอง ที่คอยบิดเบือนข้อมูล กล่าวหา คนอื่นๆไปทั้ว

 

เมื่อโดนจับได้ก็เฝ้าภาวนาให้ MOD ได้โปรดแบนล็อกอินปัจจุบันเพราะปล่อยไก่ อายจนไม่กล้าใช้ล็อกอินเดิม

เมื่อสมัครมาใหม่ก็จะเปิดประเด็นกล่าวหา บิดเบือน ไปเรื่อย โดยไม่สนใจกระทู้ปล่อยไก่ที่เคยทำไว้....

 

 

และจากการบิดเบือนล่าสุด...

 

 

 

 

 

ความจริงคือ...

 

http://www.komchadlu...ml#.UjBhvsZkOSp

 

 

 ส่วนข้อกล่าวหาที่ 8.  ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยละเมิดสิทธิในความเป็นส่วนตัว และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตต่อหน้าที่ และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103 กรณีขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 3 ราย ส่ง SMS ไปให้ประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทมือถือดังกล่าว จากการส่งข้อความไปยังมือถือของประชาชนและให้ประชาชนส่งข้อความกลับคิดค่าบริการ 3 บาท ทำให้บริษัทดังกล่าวมีรายได้จำนวนมาก  ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า ยังมีประเด็นตามคำร้องขอให้ถอดถอนที่จะต้องดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม คือ การที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มีการส่งSMS ดังกล่าว  โดยมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์จำนวนหนึ่งส่งข้อความกลับไปยังหมายเลขที่ให้ไว้ทำให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มีรายได้ครั้งละ 3 บาท  ได้มีการดำเนินการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เพื่อมิให้มีการเรียกเก็บภาษีเงินได้จากการให้บริการดังกล่าวหรือไม่  และการส่งข้อความ SMS ดังกล่าว นั้น เป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดกระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 35 หรือไม่ นั้น

 

 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ก่อนที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  และนายกรณ์ จาติกวณิช จะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามลำดับ ได้เห็นชอบให้มีการสื่อสารกับประชาชนโดยวิธีการส่งSMS  และมอบหมายให้นายกรณ์  จาติกวณิช  เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งได้มีการนัดหมายผู้บริหารของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ประกอบด้วย  บริษัท เอ ไอ เอส บริษัท ดีแทค บริษัท ทรู มูฟ และบริษัท ฮัชท์ ให้มาประชุมที่โรงแรมโฟร์ซีซัน ในวันที่ 16 ธันวาคม 2551  ในวันดังกล่าว นายกรณ์  จาติกวณิช  ได้เข้าร่วมประชุมกับตัวแทนบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 เครือข่าย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์  อินโฟร์ เซอร์วิส  จำกัด (มหาชน) หรือ AIS  บริษัท โทเทิ่ลบริษัท โทเทิ่ล แอคเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC และบริษัท ทรู มูฟ จำกัด สาระสำคัญของการประชุม คือ ขอให้ส่งข้อความถึงประชาชน ซึ่งนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ และนายกรณ์  จาติกวณิช ได้เป็นผู้พิจารณาตรวจร่างข้อความการส่ง SMS ถึงประชาชน 

 

 จากการไต่สวนผู้แทนบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 เครือข่าย ได้ให้ถ้อยคำว่า การส่ง SMS ดังกล่าว ได้ระบุให้ใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ส่ง และเนื่องจากเห็นว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือกับทางราชการ จึงได้กำหนดชื่อผู้ส่งว่า UR_PM ย่อมาจาก YOUR PRIME MINISTER โดยให้ดำเนินการพร้อมกันภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว  อันเป็นการดำเนินการในลักษณะขอความร่วมมือจากภาครัฐ  และไม่มีการกำหนดในเรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนในการดำเนินการ เพราะไม่ใช่เป็นการให้บริการในลักษณะหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์  ซึ่งการส่ง SMS ให้กับหน่วยงานของรัฐ นั้น บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 เครือข่าย ได้ให้ความร่วมมือกับทางราชการมาโดยตลอด เช่น การประชาสัมพันธ์การจัดประชุมเอเปค เมื่อปี 2546 การแจ้งข่าวภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือวิกฤตการณ์แพร่กระจายของโรคระบาด  การแจ้งข่าวรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549  การประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีฯ  จากกรมประชาสัมพันธ์  การประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นต้น

 

 จากการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กรณีที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่ง SMS ดังกล่าว  โดยมีผู้ใช้โทรศัพท์จำนวนหนึ่งส่งข้อความกลับไปยังหมายเลขที่ให้ไว้ทำให้บริษัท ผู้ให้บริการโทรศัพท์มีรายได้ครั้งละ 3 บาท  ได้มีการดำเนินการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เพื่อมิให้มีการเรียกเก็บภาษีเงินได้จากการให้บริการดังกล่าวหรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย จะได้รับเฉพาะค่าบริการ จำนวน 3 บาท กรณีที่ประชาชนตอบกลับมาเท่านั้น ซึ่งเป็นความสมัครใจของประชาชนที่ต้องการรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม โดยถือเป็นรายได้ของผู้ให้บริการแต่ละราย มิได้มีการแบ่งปันกันระหว่างบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย หรือผู้หนึ่งผู้ใดทั้งสิ้น

 

 เมื่อค่าบริการดังกล่าวถือเป็นรายได้ของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้ว  การเสียภาษีจากเงินได้ดังกล่าว จึงเป็นหน้าที่ ของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่นเดียวกับการเสียภาษีในการให้บริการส่งข้อความสั้น (SMS) ในกรณีอื่นๆ โดยทั่วไป  ซึ่งเงินค่าบริการในครั้งนี้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย ได้รวมเป็นรายได้ของบริษัท  โดยไม่ได้มีการแยกไว้เฉพาะส่วนของค่าบริการส่งข้อความ SMS ดังกล่าว อีกทั้ง ได้ยื่นเสียภาษีเงินได้ประจำปีแล้ว   ซึ่งจากการขอทราบข้อเท็จจริงจากกรมสรรพากรในเรื่องนี้ กรมสรรพากรกรมสรรพากรได้แจ้งให้ทราบว่า บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย ได้นำรายได้จากการที่ประชาชนใช้บริการส่งข้อความสั้น (SMS) ทั้งหมดบันทึกเป็นรายได้ เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลไว้แล้ว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดว่าเป็นบุคคลใดบ้างเนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ไม่ได้เก็บข้อมูลรายตัวไว้  และจากการไต่สวนปากคำตัวแทนบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย รับฟังได้ว่า การดำเนินการขอให้ส่ง SMS ดังกล่าว เป็นการดำเนินการในลักษณะการขอความร่วมมือจากภาครัฐ ไม่มีข้อตกลงในเรื่องผลประโยชน์ตอบแทน หรือการยกเว้นภาษีให้แก่บริษัทที่ดำเนินการจัดส่งข้อความสั้น (SMS) ดังกล่าวแต่อย่างใด

 

 สำหรับการกระทำของ นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  และนายกรณ์  จาติกวณิช  ดังกล่าวจะถือเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 หรือไม่นั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า  ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103 วรรคหนึ่ง กำหนดห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจ4รรยา ตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด 

 

 ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2543 กำหนดว่า การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยา หมายถึง การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากญาติหรือจากบุคคลที่ให้กันในโอกาสต่างๆ โดยปกติตามขนบธรรมเนียม ประเพณีหรือวัฒนธรรม หรือให้กันตามมารยาทที่ปฏิบัติกันในสังคม และประโยชน์อื่นใด ให้หมายความรวมถึงการรับบริการด้วย  ซึ่งแม้การขอรับบริการในการส่งข้อความสั้น (SMS) ตามเรื่องนี้ จะถือเป็นประโยชน์อื่นใด ตามที่กำหนดไว้ในบทนิยามของประกาศฉบับดังกล่าวก็ตาม แต่จากการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า การที่นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  และนายกรณ์  จาติกวณิช ได้ขอให้ส่ง SMS ในลักษณะเป็นการขอความร่วมมือจากภาครัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการข้อมูลจากประชาชนและนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายในการบริหารประเทศของรัฐบาลต่อไป โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 เครือข่าย ก็เคยให้บริการในการส่งข้อความสั้น (SMS) ให้กับหน่วยงานของรัฐในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ และไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย  เนื่องจากมิใช่เป็นการหาประโยชน์ในเชิง ..ในเชิงพาณิชย์ 

 

 อีกทั้ง บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมว่าสมควรจะให้การสนับสนุนมากน้อยเพียงใด โดยบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 เครือข่ายได้พิจารณาส่งให้ตามความเหมาะสม มิได้ส่งให้กับลูกค้าของบริษัททั้งหมด ซึ่งตามหลักการของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103 เป็นการห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองเป็นการส่วนตัว  แต่เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การส่งข้อความสั้น (SMS) ในเรื่องนี้เป็นการดำเนินการในลักษณะขอความร่วมมือจากภาครัฐ  อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน  มิใช่เพื่อประโยชน์ของ นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  และนายกรณ์  จาติกวณิช โดยส่วนตัว  การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง  จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 

 

 ส่วนในประเด็นที่กล่าวหาว่า การส่งข้อความสั้น (SMS) ดังกล่าว เป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดกระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 35  นั้น จากการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือลงวันที่ 6 สิงหาคม 2553  ขอทราบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยแจ้งว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง  กรณีร้องขอให้ถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง  กรณีขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 3 ราย ส่ง SMS ไปให้ประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ ข้อความว่า “ผมนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขอเชิญท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติ/สนใจ  ได้รับการติดต่อจากผมกรุณาส่งรหัสไปรษณีย์ 5 หลักของท่านมาที่เบอร์ 9191 (3บ.)”  เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2551  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทมือถือดังกล่าว และเป็นการรุกล้ำสิทธิในลักษณะของการถูกบังคับใช้บริการ  ซึ่งสิทธิความเป็นส่วนตัวได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  จึงขอทราบว่า การส่ง SMS กรณีดังกล่าว  เป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550  มาตรา 35 หรือไม่  ประการใด 

 

 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  โดย ศาสตราจารย์อมรา  พงศาพิชญ์ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ได้มีหนังสือลงวันที่ 20 สิงหาคม 2553  แจ้งว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้วเห็นว่า ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไม่อาจไม่อาจดำเนินการตามคำขอของประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดังกล่าวได้ เนื่องจากการที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำใดเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ นั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หมวด 3 ว่าด้วยการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน มาตรา 22 - 33 และระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ.2545 

 

 หากยังคงประสงค์ขอทราบความเห็นในเรื่องดังกล่าว  ขอให้ส่งเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาตรา 25 และระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ.2545 ข้อ 13 (4) ต่อไปว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสมควรหยิบยกเรื่อง ดังกล่าวขึ้นพิจารณาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ 

 

 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาหนังสือตอบชี้แจงข้อเท็จจริงของประธาน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้วเห็นว่า  คำร้องขอให้ถอดถอนในประเด็นนี้ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติ ตามที่ได้มีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบแล้ว ไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นใด  นอกเหนือจากที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว  จึงไม่อาจส่งเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาเพิ่มเติมได้  ดังนั้น เมื่อการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง

 

ได้ข้อยุติเป็นเช่นนี้  การกระทำตามข้อกล่าวหาจะเป็นการละเมิดกระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 35 หรือไม่   จึงไม่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ 

 อย่างไรก็ดี จากข้อเท็จจริงที่ดำเนินการไต่สวนมาแล้ว  รับฟังได้ว่าการส่งข้อความสั้น (SMS) ดังกล่าว เป็นการดำเนินการในลักษณะขอความร่วมมือจากภาครัฐ  เพื่อนำข้อมูลจากประชาชนมาใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายในการบริหารประเทศของรัฐบาลซึ่งเป็นไปด้วยความสมัครใจ  และเป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน  รวมทั้งไม่ปรากฏว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป  ให้ส่งรายงานไปยังประธานวุฒิสภาตามมาตรา 54  แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542  ต่อไป

 

 

 

การส่ง SMS ครั้งนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และไม่เป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น ซึ่งยืนยันโดย

 

1. ป.ป.ช.

2. ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย

3. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

 

 

 การเป็นขี้ข้าทักษิณนี่มันทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้เลยหรอ....ตั้งแต่อกหักเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่ไม่สามารถใส่ร้ายคุณชายได้สำเร็จจนถึงวันนี้... คนผู้นี้ได้กลายเป็นคนที่ชอบบิดเบือน ใส่ร้ายผู้อื่นอยู่ประจำ

 

[Bookmarks]

ก็มันเป็นขี้ข้าแม้วนี่ครับ สันดาลมันก็เหมือนนายมันนั่นแหละครับ 

[HiddenMan]

บิดเบือนกระทั่งความเห็น MOD ที่อยู่ถัดขึ้นไปแค่ไม่กี่ comment

 

 

น่าสมเพชเวทนาจริงๆ

บางคน พยายามแล้ว พยายามอีก ที่จะปิดบังการสมัครลอคอินซ้อน
ในขณะที่ตัวตนบางด้านของไอ้ลี บอกให้แสดงตัวเอง
แม้สมัครซ้อน แต่ก็จำเป็นต้องแสดงบุคคลิกเดิม
เพื่อให้คนละรึกได้ว่าเป็นมัน

ลีเอ๊ย เฮียว่าเอ็งไปสมัครแถวพันติ้ป หาซื้อเสื้อแดงมาใส่สัก 2-3 ตัว
เอ็งน่าจะไปรุ่งกว่าพยายามเข้ามาแสดงตัวตนควายๆ ในนี้นะ

 
 
อืมมม.... ผมไม่เคยปิดบังตัวเองนะ โพสยังไงก็โพสเหมือนเดิมตลอด เพราะไม่รู้จะไปปิดบังทำไม 
ที่ออกมาบอกให้ mod เขาแบนก็เพราะสงสาร mod เขา ต้องมาคอยนั่งทำงานที่ไม่มี productivity อะไรเลย
เลยออกมาบอก asawinee เขาว่าอย่าไปสร้างความลำบากให้ mod เขาเลย ทำให้เขาเสียเวลาเปล่า 
 
mod เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้ตั้งนานแล้วว่าเป็นผม แต่เขาขี้เกียจมาคอยนั่งแบนทุกวัน มันไม่มีประโยชน์อะไร
คุณไม่เข้าใจรึ?

 

 
 Mod พิมพ์อยู่ข้างบนแท้ๆ... ยังบิดเบือนได้อีก
เขาต้องการหลักฐานที่ชัดเจน.... แต่มาบิดเบือนว่า Mod ขี้เกียจแบนมัน
 
 

เข้าใจความรู้สึกคุณ asawinee ครับ แต่ว่าเงื่อนไขการจัดการล็อกอินซ้อน ต้องมีหลักฐานมากกว่าคำผิดคำเดียวครับ
 
เพราะว่าการจัดการที่เกี่ยวกับสิทธิ์ของสมาชิก เราไม่สามารถใช้การคาดเดาหรือความน่าจะเป็นในการดำเนินการได้
 
อาจจะมีปัญหาตามมามาก และเป็นการวางมาตรฐานในการจัดการที่หละหลวมไป
 
 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ให้มาครับ ม็อดจะเก็บไว้ใช้ประกอบหลักฐานอื่นๆ ในการตรวจสอบครับ

 

[HiddenMan]

 เอารูปตัดต่อมาลง...พร้อมคำกล่าวหา

 

 

[HiddenMan]

 ใส่ความ MOD ล่าสุด...

 

 

[Stargate-1]

จากชื่อเดิม แสดงว่าเป็นนักข่าวอยู่ แต่จะอยู่สำนักข่าวไหนนั้น ต้องดูกันต่อไป และมีการทำงานเป็นทีม ไม่มีใครสมัครได้ 70 กว่าชื่อภายในคืนเดียว พวกนี้จะต้องมีล็อกอินสำรองไว้เพียบ  ค่อยๆ ทะยอย ออกมาใช้ เวลาถูกจับได้ ล็อกอินที่เหลือ จะเงิยบไป พักหนึ่ง แล้ว กลับมาใหม่ ยามที่ม็อดเพลอ

[เส้นใหญ่ไม่งอก]

ตอนนี้นายลีเพิ่งใช้ชื่อใหม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงของตัวเขาที่สุดอยู่ครับ

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

บัวเต่าถุยค่ะ  

[พะอาจารย์ไม้หน้า5]

แต่ก่อนเป็นพวกเดียวกัน แล้วผิดใจกัน เลยโดนหมาหมู่รุมกินโต๊ะ ส่วนมาจากสำนักข่าวใหน คนในปชป รู้่กันดี

[HiddenMan]

แต่ก่อนเป็นพวกเดียวกัน แล้วผิดใจกัน เลยโดนหมาหมู่รุมกินโต๊ะ ส่วนมาจากสำนักข่าวใหน คนในปชป รู้่กันดี

 

 ตกลงบิดเบือนหรือเปล่า... หรือแค่เข้าพวกก็เลยอ้าแขนรับทันที ไม่สนใจความจริง

[MuuSang]

เสรีไทย มันหอมหวาน ปานประหนึ่งว่าเป็น....ของสามพรหมพิราม เลยสมัครกันมาจนกระไดไม่แห้ง

[55555]

ไอ้ขี้แพ้มันสมัครล็อคอินใหม่มาบ่อย ๆ ก็ดีอย่าง

 

พวกเราจะได้มีที่วางมือ วางตรีน กันอย่างทั่วถึง

 

ไม่ต้องแย่งกัน

 

 

[พะอาจารย์ไม้หน้า5]

จำไว้ อย่าไปทำให้เกย์แค้น เพราะแรงอาฆาตแค้นของบรรดา เก้ง กวาง รุนแรงมาก

[Stargate-1]

แต่ก่อนเป็นพวกเดียวกัน แล้วผิดใจกัน เลยโดนหมาหมู่รุมกินโต๊ะ ส่วนมาจากสำนักข่าวใหน คนในปชป รู้่กันดี

 

ไหนเองบอกว่า disposable ไง ตอนนี้มัน  Duo นะโว้ย

 

ดัดจริตชน, on 11 Sept 2013 - 17:45, said:

 

Stargate-1, on 11 Sept 2013 - 17:42, said:

 

ดัดจริตชน, on 11 Sept 2013 - 17:39, said:

 

Bookmarks, on 11 Sept 2013 - 17:33, said:

 

ดัดจริตชน, on 11 Sept 2013 - 16:08, said:

ตกลงไม่มีใครตอบได้ว่าส่ง  SMS ใช้เงินตั้งมากมายเพื่ออะไร?

และมันดีกว่าเอาเงินไปซื้อนาฬิกา เครื่องกดน้ำร้อนน้ำเย็นสำหรับใช้ในรัฐสภายังไง?

ตรงไหนที่บอกว่าใช้เงิน 40 ล้าน ในการส่ง sms ขอหลักฐานหน่อย 

 

 

 

สมมุติมีคนหาหลักฐานมาได้ คุณและเพื่อนๆ คุณจะหายไปจากเว็บบอร์ดนี้มั๊ย   

 

 

ทุกล็อคอิน หรือเปล่า ล่ะ

 

วันนี้ เองมากลบข่าวอะไร กันนะ ข่าวค่าเครื่องบินไปยุโรป 21 ล้าน ใช่เปล่า

 

 

ผมใช้ทีละ login ครับ เป็นแบบ disposable     

 

[HiddenMan]

จำไว้ อย่าไปทำให้เกย์แค้น เพราะแรงอาฆาตแค้นของบรรดา เก้ง กวาง รุนแรงมาก

 

 

มิน่า... สมัครเข้ามาไม่หยุดสักที ขอบคุณที่ช่วยเฉลยความจริงของนางสาวลี

[lovelygam]

จำไว้ อย่าไปทำให้เกย์แค้น เพราะแรงอาฆาตแค้นของบรรดา เก้ง กวาง รุนแรงมาก

 

อ้าว  เ้พิ่งรู้ว่านายลีเป็นเกย์

[lovelygam]

 

จำไว้ อย่าไปทำให้เกย์แค้น เพราะแรงอาฆาตแค้นของบรรดา เก้ง กวาง รุนแรงมาก

 

 

มิน่า... สมัครเข้ามาไม่หยุดสักที ขอบคุณที่ช่วยเฉลยความจริงของนางสาวลี

 

 

 

นึกถึงเรื่องนี้เลยค่ะ  ใจอยากจะช่วยพวก  แต่พาเพื่อนซวยทุกที 555+

[เส้นใหญ่ไม่งอก]

จำไว้ อย่าไปทำให้เกย์แค้น เพราะแรงอาฆาตแค้นของบรรดา เก้ง กวาง รุนแรงมาก

 

ขอบคุณที่เตือน

 

มิน่า เห็นมันชอบเล่นป๋าโทนี่ ระวังตัวหน่อยก็ดีนะป๋า

[plunk]

คงเข้า สั นดาน ไปแล้วล่ะครับ

Edited by plunk, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:30.

[Tatiana]

จำไว้ อย่าไปทำให้เกย์แค้น เพราะแรงอาฆาตแค้นของบรรดา เก้ง กวาง รุนแรงมาก

 

จะเป็นเก้ง เป็นกวาง ก็ตามใจเหอะ อย่าเป็น "แรด" ก็แล้วกัน เดี๋ยวธาริตมันรับเป็นคดีพิเศษนะ เพราะไปแย่งคำจำกัดความของคนที่มันกำลังเลียอยู่

[gears]

ลูกคนย้อนเวลา

เสรีไทย ชอบหมาหมู่นะครัฟฟฟ
เป็นนักข่าวด้วย 555++

Edited by gears, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:52.

[HiddenMan]

กรณีชั่งไข่ บิดเบือนว่า 70 ล้านเป็นงบโครงการชั่งไข่....

 

 

 

 

 

ความจริงคือ...

 

งบประมาณ 69 ล้านบาทเป็นงบประมาณของการจ้างบริษัทที่ปรึกษาโครงการประชาวิวัฒน์... ซึ่งมาตรการขายไข่ตามน้ำหนักเป็นเพียงส่วนเล็กๆในโครงการการ เพื่อเป็นทางเลือกในการลดต้นทุนการคัดแยกไข่ไก่

 

http://www.thairath....day/view/140212

 

 

"อภิสิทธิ์" เปิดตัวประชาวิวัฒน์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" โดยในช่วงที่สองของรายการ เป็นการแถลงเปิดตัวนโยบายปฏิบัติการประชาวิวัฒน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการปฏิรูปประเทศไทยที่ถือเป็นของขวัญของรัฐบาล 9 ข้อ โดยมีการถ่ายทอดสดจากทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวเปิดตัวนโยบายว่า ได้แยกวาระเร่งด่วนเป็น 3 เรื่อง คือ เศรษฐกิจนอกระบบ ค่าครองชีพ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยใช้กระบวนการพิเศษเพื่อออกเป็นมาตรการ แนวคิดแก้ไขปัญหาทั้ง 3 เรื่อง ไม่ใช่เป็นการทุ่มเงินงบประมาณไปลด แลก แจก แถม ให้กับประชาชน แต่เป็นการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ในเรื่องความเป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ คือหัวใจของการปฏิรูปประเทศไทย จะใช้งบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท แต่จะทำให้เกิดประโยชน์เป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท ได้ประโยชน์ต่างกันถึง 10 เท่า เมื่อได้ทำแล้วจะรายงานติดตามผลต่อไป 

 

...

 

หนึ่งในมาตรการนั้น....

 

ลดต้นทุนอาหารการกิน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ของขวัญชิ้นที่ 7 เรื่องอาหาร จะเห็นผลตั้งแต่เดือน ก.ค. คือเรื่องต้นทุนภาคเกษตร เช่น อาหารสัตว์ที่มีราคาสูง ผู้ประกอบการรายย่อยมีอำนาจต่อรองน้อยกว่า จึงจะใช้แนวทางการดูแลโดยใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางการค้า ทำให้เกิดความเป็นธรรม และนำมาสู่การลดต้นทุนราคาสินค้าการเกษตร ของขวัญชิ้นที่ 8 คือผู้บริโภคอาหารได้รับความเป็นธรรมและมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนราคาให้ทราบ โปร่งใส อาจจะมีการให้บริการทางเว็บไซต์ หรือสถานีโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนรับทราบความเคลื่อนไหวของราคาต้นทุน ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ในส่วนของไข่ไก่ จะมีการทดลองขายเป็นกิโลเพื่อประหยัดต้นทุนในการคัดแยก โดยจะนำร่องขายที่มีนบุรีและรังสิต

 

 

โดยใช้วงเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ SAL สมัย ชวน หลีกภัย

 

กระทรวงการคลังสามารถนำมาใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและส่งเสริมภาคการผลิตตามที่เห็นสมควรได้  โดยการใช้เงินดังกล่าวจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการรักษางบประมาณให้เกินดุล 1% ของ GDP ตามข้อกำหนดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ  ดังนั้น  จึงไม่สามารถใช้เงินดังกล่าวในการสนับสนุนงบประมาณของรัฐได้

http://www.ryt9.com/s/cabt/219418

 

 

 

ซึ่งมีการใช้วงเงินนี้มาตลอดเพื่อมาตรการทางเศรษฐกิจ...

 

http://www.thairath....tent/eco/142084

 

ด้าน นายอนุชา กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุกล่าวหาถึงความไม่ชอบมาพากลของการจ้างบริษัทที่ปรึกษาในโครงการประชาวิวัฒน์ ว่าใช้งบแพงเกินความเป็นจริงและมีบิ๊กพรรคใหญ่ในพรรคร่วมรู้เห็นว่า ขอยืนยันว่าการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวมีความเหมาะสม และเป็นไปตามระเบียบทุกขั้นตอนของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) โดยทาง สศค. เป็นผู้ว่าจ้าง ต่อบริษัทที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และมีการคัดเลือกบริษัทที่มีคุณสมบัติตามระเบียบของกระทรวงการคลังแล้ว มีการกำหนดระยะเวลาทำงาน 4 เดือน หรือ 120 วัน หรือตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการประชาวิวัฒน์ ไม่ใช่ว่าจ้างเพียง 35 วัน ตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหา แต่ในช่วง 35 วัน เป็นการระดมสมองของหน่วยงานภาครัฐ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการประชุมที่ศูนย์ราชการจริง อาทิ สำนักงานประกันสังคม ผู้ประกอบการรายย่อย แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

“ขอยืนยันว่าไม่มีการจ้างแพงเกินควร เพราะถ้าดูขอบเขตความลึกแนวทางในการพิจารณาต้องศึกษาอะไรบ้างนั้น ถือว่าเหมาะสมกับราคา โดยใช้งบประมาณในการจ้าง 69 ล้านบาท เป็นเงินกู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก ในโครงการ SAL โดยมีการกำหนดกรอบงานที่ชัดเจน ซึ่งกำหนดว่า ต้องนำเงินที่ได้นำไปพัฒนาด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลของพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย ใช้งบจ้างบริษัททีปรึกษาต่างๆ จำนวนมาก บางครั้งมีการจ้างผู้มีชื่อเสียงเงินวันเดียว ใช้งบประมาณสูงถึง 40 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการแหลมผักเบี้ยในรัฐบาลชุดก่อนของพรรคไทยรักไทยหรือพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ที่มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อสร้างทางด่วนยกระดับ โดยใช้งบจ้างที่ปรึกษาถึง 400 ล้านบาท ซึ่งถึงที่สุดคือได้มีเพียงสมุดเล่มเดียว เพราะใครๆก็รู้ว่าเป็นโครงการที่ไม่มีใครสามารถทำได้และไม่เหมาะสม” นายอนุชา กล่าว 

 

 

 

 

สำหรับการดำเนินการตามโครงการประชาวิวัฒน์นี้ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

http://www.cabinet.t...prachawiwat.pdf

 

 

สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...

 

http://www.dailymail...-sold-kilo.html

 

EU to ban selling eggs by the dozen: Shopkeepers' fury as they are told all food must be weighed and sold by the kilo

The new rules will mean that instead of packaging telling shoppers a box contains six eggs, it will show the weight in grams of the eggs inside, for example 372g. 

...

Or that a bag of white rolls has 322g inside instead of half a dozen. The rules will not allow both the weight and the quantity to be displayed.

...

‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.

...

Edited by HiddenMan, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 22:11.

[อย่าหลอกตัวเอง]

แด่ "ดัดจริตชน" และคนประภทเดียวกัน  (ไม่รู้ว่าจะผ่านมาเห็นมั้ย  หรือจะแกล้งไม่เห็นก็แล้วแต่นะ)

 

ถ้าคุณคิดว่า คุณเป็นคนดีในแบบของคุณ  โดยที่คุณไม่สนใจความเป็นจริง ชีวิตจริง   

คุณช่วยออกมายืนยันหน่อย  ว่าคุณไม่อยากรักษาความคิดให้กลับมาเป็นปกติ ดังเช่นคนอื่นๆเขา 

สุดท้ายแล้วท่านอื่นเค้าจะได้ทราบว่า ไม่ต้องมาเสียเวลากับคนแบบคุณ 

 

ช่วยยืนยันจุดยืน  ความเป็นตัวคุณทีนะ  คิดดีๆก่อนตอบ  "อย่าหลอกตัวเอง" ล่ะ

[Somebody]

กระทู้นั้นโดนล๊อคแล้ว

อยากถามแต๋ม เหมือนกัน ว่า "ปชป ส่งคนของตัวเองไปคุมหน่วยไหนบ้าง"

แต๋มถึงได้เชื่อว่า เค้าตัดสินเข้าข้าง ปชป ตลอด

Edited by Somebody, 12 กันยายน พ.ศ. 2556 - 02:06.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

แต่ก่อนเป็นพวกเดียวกัน แล้วผิดใจกัน เลยโดนหมาหมู่รุมกินโต๊ะ ส่วนมาจากสำนักข่าวใหน คนในปชป รู้่กันดี

 

โห  ลีมันโง่ขนาดนี้ เป็นนักข่าวได้ด้วยหรือครับ?

 

 

 

ผมใช้ทีละ login ครับ เป็นแบบ disposable      

 

 

"ใช้แล้วทิ้ง" ก็เป็นภาษาไทย ทำไมไม่ใช้

ดัดจริตใช้ภาษาอังกฤษ ดิสพอสเอเบิ้ล..

 

กระแดะ

[asawinee]

อีกหนึ่งภาพตัดแปะที่กากลี ในชื่อล็อกอินภาษาจีน เติ้งเสี่ยวผิง เอามาบิดเบือน

 

 

         

ขอหัวเราะดังๆกับแคนดิเดทโคว้ทแห่งปีหน่อยครับ

 

 

 

 

พรรคประชาธิปัตย์ มี สส.รวมทั้งสิ้น 161 คน
เฉพาะที่เป็นเครือญาติกันก็ 37 คน 
เรียกได้ว่ากึ่งหนึ่ง ของพรรคเลยก็ว่าได้

จะเรียกสภาแห่งนี้ว่าอะไรดีครับ     

 

 

 

แต่ด้วยความกาก คำนวณตัวเลขแบบกากๆ

เราเลยได้เห็นความบิดเบือนที่ฮาปนสมเพชของกากลี

[CockRoachKiller]

กรณีชั่งไข่ บิดเบือนว่า 70 ล้านเป็นงบโครงการชั่งไข่....
 

 
 
 
 

 
สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...
 
http://www.dailymail...-sold-kilo.html
 
EU to ban selling eggs by the dozen: Shopkeepers' fury as they are told all food must be weighed and sold by the kilo

The new rules will mean that instead of packaging telling shoppers a box contains six eggs, it will show the weight in grams of the eggs inside, for example 372g. 
...
Or that a bag of white rolls has 322g inside instead of half a dozen. The rules will not allow both the weight and the quantity to be displayed.
...
‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.
...

 
 
Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax.  Please check that news carefully before spread this fabricated news to your friends.  
 
 

The latest insane euromyth, as faithfully invented by the Daily Mail, is that the EU is planning to ban the sale of eggs by the dozen or half-dozen. As usual, the Littlejohn Rule applies here: if the story sounds like something you “really couldn’t make up” (thanks, Mr Dale), then somebody doubtless has made it up.
The main thrust of the Daily Mail’s story is that under proposed EU legislation, it will be illegal to print “six eggs” on a box of six eggs. Instead, the quantity of eggage will have to be listed solely in kilogrammes. This is simply – and really really obviously – false, and if you believe it then you’re doubtless someone who’s checked whether the word ‘gullible’ is really in the dictionary.
Here’s the actual legislation, proposed by the European Parliament. The quote that the press have misunderstood (or, more likely, lied about) is:

1. The net quantity of a food shall be expressed, using litres, centilitres, millilitres, kilograms or grams, as appropriate:
(a) in units of liquid in the case of liquids within the meaning of Council Directive 85/339/EEC of 27 June 1985 on containers of liquids for human consumption ;
( in units of mass in the case of other products.

In other words, all food that is sold in the EU will need to list either its volume (for liquids) or its mass (for solids) in metric units on the pack. Note the absence of anything banning the use of other indicators on the pack, such as “number of eggs”, “mass in pounds”, “number of moles of hydrogen atoms in the packet”, etc. Anyone who wishes to do so can advertise any or all of the above, as long as the metric unit of volume or mass is clearly marked. See: a pint of milk.

 

 
http://www.johnband....sane-euromyths/

[HiddenMan]

 

กรณีชั่งไข่ บิดเบือนว่า 70 ล้านเป็นงบโครงการชั่งไข่....
 

 
 
 
 

 
สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...
 
http://www.dailymail...-sold-kilo.html
 
EU to ban selling eggs by the dozen: Shopkeepers' fury as they are told all food must be weighed and sold by the kilo

The new rules will mean that instead of packaging telling shoppers a box contains six eggs, it will show the weight in grams of the eggs inside, for example 372g. 
...
Or that a bag of white rolls has 322g inside instead of half a dozen. The rules will not allow both the weight and the quantity to be displayed.
...
‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.
...

 
 
Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax.  Please check that news carefully before spread this fabricated news to your friends.  
 
 

The latest insane euromyth, as faithfully invented by the Daily Mail, is that the EU is planning to ban the sale of eggs by the dozen or half-dozen. As usual, the Littlejohn Rule applies here: if the story sounds like something you “really couldn’t make up” (thanks, Mr Dale), then somebody doubtless has made it up.
The main thrust of the Daily Mail’s story is that under proposed EU legislation, it will be illegal to print “six eggs” on a box of six eggs. Instead, the quantity of eggage will have to be listed solely in kilogrammes. This is simply – and really really obviously – false, and if you believe it then you’re doubtless someone who’s checked whether the word ‘gullible’ is really in the dictionary.
Here’s the actual legislation, proposed by the European Parliament. The quote that the press have misunderstood (or, more likely, lied about) is:

1. The net quantity of a food shall be expressed, using litres, centilitres, millilitres, kilograms or grams, as appropriate:
(a) in units of liquid in the case of liquids within the meaning of Council Directive 85/339/EEC of 27 June 1985 on containers of liquids for human consumption ;
( in units of mass in the case of other products.

In other words, all food that is sold in the EU will need to list either its volume (for liquids) or its mass (for solids) in metric units on the pack. Note the absence of anything banning the use of other indicators on the pack, such as “number of eggs”, “mass in pounds”, “number of moles of hydrogen atoms in the packet”, etc. Anyone who wishes to do so can advertise any or all of the above, as long as the metric unit of volume or mass is clearly marked. See: a pint of milk.

 

 
http://www.johnband....sane-euromyths/

 

 

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล... แต่ใครคือ John B?

 

Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax

 

 

http://www.bbc.co.uk/news/10432128

http://www.telegraph...s-by-dozen.html

http://www.thegrocer.../210390.article

 

 

แล้วผมก็เขียนไว้แล้วว่า... สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...

 

http://www.dailymail...-sold-kilo.html

 

‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.

 

 

สำนักข่าวทั้งหลาย... ผู้ประกอบการ... บุคคลที่ให้สัมภาษณ์... รัฐมนตรี ต่างเป็นเหยื่อ มี John B เท่านั้นที่ไม่ตกเป็นเหยือ

 

ทำไม UK food producers ต้อง "lobbying to retain labelling by numbers" ถ้ามันไม่เคยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน...

 

 

 

มติชนก็เป็นเหยื่อ...

http://www.matichon....703598&catid=06

 

 

 

แล้วเรื่องรูป Cock ว่ายังไงล่ะ... ไม่บิดเบือน?

Edited by HiddenMan, 12 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:14.

[CockRoachKiller]

 

 

กรณีชั่งไข่ บิดเบือนว่า 70 ล้านเป็นงบโครงการชั่งไข่....
 

 
 
 
 

 
สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...
 
http://www.dailymail...-sold-kilo.html
 
EU to ban selling eggs by the dozen: Shopkeepers' fury as they are told all food must be weighed and sold by the kilo

The new rules will mean that instead of packaging telling shoppers a box contains six eggs, it will show the weight in grams of the eggs inside, for example 372g. 
...
Or that a bag of white rolls has 322g inside instead of half a dozen. The rules will not allow both the weight and the quantity to be displayed.
...
‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.
...

 
 
Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax.  Please check that news carefully before spread this fabricated news to your friends.  
 
 

The latest insane euromyth, as faithfully invented by the Daily Mail, is that the EU is planning to ban the sale of eggs by the dozen or half-dozen. As usual, the Littlejohn Rule applies here: if the story sounds like something you “really couldn’t make up” (thanks, Mr Dale), then somebody doubtless has made it up.
The main thrust of the Daily Mail’s story is that under proposed EU legislation, it will be illegal to print “six eggs” on a box of six eggs. Instead, the quantity of eggage will have to be listed solely in kilogrammes. This is simply – and really really obviously – false, and if you believe it then you’re doubtless someone who’s checked whether the word ‘gullible’ is really in the dictionary.
Here’s the actual legislation, proposed by the European Parliament. The quote that the press have misunderstood (or, more likely, lied about) is:

1. The net quantity of a food shall be expressed, using litres, centilitres, millilitres, kilograms or grams, as appropriate:
(a) in units of liquid in the case of liquids within the meaning of Council Directive 85/339/EEC of 27 June 1985 on containers of liquids for human consumption ;
( in units of mass in the case of other products.

In other words, all food that is sold in the EU will need to list either its volume (for liquids) or its mass (for solids) in metric units on the pack. Note the absence of anything banning the use of other indicators on the pack, such as “number of eggs”, “mass in pounds”, “number of moles of hydrogen atoms in the packet”, etc. Anyone who wishes to do so can advertise any or all of the above, as long as the metric unit of volume or mass is clearly marked. See: a pint of milk.

 

 
http://www.johnband....sane-euromyths/

 

 

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล... แต่ใครคือ John B?

 

Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax

 

 

http://www.bbc.co.uk/news/10432128

http://www.telegraph...s-by-dozen.html

http://www.thegrocer.../210390.article

 

 

แล้วผมก็เขียนไว้แล้วว่า... สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...

 

http://www.dailymail...-sold-kilo.html

 

‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.

 

 

สำนักข่าวทั้งหลาย... ผู้ประกอบการ... บุคคลที่ให้สัมภาษณ์... รัฐมนตรี ต่างเป็นเหยื่อ มี John B เท่านั้นที่ไม่ตกเป็นเหยือ

 

ทำไม UK food producers ต้อง "lobbying to retain labelling by numbers" ถ้ามันไม่เคยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน...

 

 

 

มติชนก็เป็นเหยื่อ...

http://www.matichon....703598&catid=06

 

 

 

แล้วเรื่องรูป Cock ว่ายังไงล่ะ... ไม่บิดเบือน?

 

 

Don't you agree that who or how many of the victims is not relevant. We have a super smart PM who had believed in GT200 for a while, of course. Does that make GT200 usable?
Those media eventually correct their news in a couple of days.

No EU ban on buying 'dozen' eggs

http://www.bbc.co.uk/news/10461548

 

Eggs by the dozen will be allowed, EU says

http://www.telegraph...ed-EU-says.html

 

 

Have you ever heard of the word "Euromyth"? You should check it out.

[CockRoachKiller]

 

 

 

แล้วเรื่องรูป Cock ว่ายังไงล่ะ... ไม่บิดเบือน?

 

 

Frankly, If you comfortable in saying or hearing "Yingluck spends 2.2 billion for transporting vegetable". You should accept the way Red Shirt said "Marc nazi spend 70 million on weight the egg campaign"  Welcome one while reject another is the obvious sign of double standard.

[Tam-mic-ra.]

กระทู้นั้นโดนล๊อคแล้ว

อยากถามแต๋ม เหมือนกัน ว่า "ปชป ส่งคนของตัวเองไปคุมหน่วยไหนบ้าง"

แต๋มถึงได้เชื่อว่า เค้าตัดสินเข้าข้าง ปชป ตลอด

 

 

หาอ่านเองดูก่อนสิ่    พวกองกรณ์อิสระต่างๆ ฯลฯ    ที่ตั้งหลังรัฐประหารน่ะ   ...  ใครเป็นใครจากไหน หาไม่ยากหรอก  

ผมไม่ว่างมาบอกให้ เพราะว่ามันจะยาวแน่     เนื่องจากมีคนมาเถียงข้างๆคูๆ 

[HiddenMan]

 

 

 

กรณีชั่งไข่ บิดเบือนว่า 70 ล้านเป็นงบโครงการชั่งไข่....
 

 
 
 
 

 
สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...
 
http://www.dailymail...-sold-kilo.html
 
EU to ban selling eggs by the dozen: Shopkeepers' fury as they are told all food must be weighed and sold by the kilo

The new rules will mean that instead of packaging telling shoppers a box contains six eggs, it will show the weight in grams of the eggs inside, for example 372g. 
...
Or that a bag of white rolls has 322g inside instead of half a dozen. The rules will not allow both the weight and the quantity to be displayed.
...
‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.
...

 
 
Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax.  Please check that news carefully before spread this fabricated news to your friends.  
 
 

The latest insane euromyth, as faithfully invented by the Daily Mail, is that the EU is planning to ban the sale of eggs by the dozen or half-dozen. As usual, the Littlejohn Rule applies here: if the story sounds like something you “really couldn’t make up” (thanks, Mr Dale), then somebody doubtless has made it up.
The main thrust of the Daily Mail’s story is that under proposed EU legislation, it will be illegal to print “six eggs” on a box of six eggs. Instead, the quantity of eggage will have to be listed solely in kilogrammes. This is simply – and really really obviously – false, and if you believe it then you’re doubtless someone who’s checked whether the word ‘gullible’ is really in the dictionary.
Here’s the actual legislation, proposed by the European Parliament. The quote that the press have misunderstood (or, more likely, lied about) is:

1. The net quantity of a food shall be expressed, using litres, centilitres, millilitres, kilograms or grams, as appropriate:
(a) in units of liquid in the case of liquids within the meaning of Council Directive 85/339/EEC of 27 June 1985 on containers of liquids for human consumption ;
( in units of mass in the case of other products.

In other words, all food that is sold in the EU will need to list either its volume (for liquids) or its mass (for solids) in metric units on the pack. Note the absence of anything banning the use of other indicators on the pack, such as “number of eggs”, “mass in pounds”, “number of moles of hydrogen atoms in the packet”, etc. Anyone who wishes to do so can advertise any or all of the above, as long as the metric unit of volume or mass is clearly marked. See: a pint of milk.

 

 
http://www.johnband....sane-euromyths/

 

 

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล... แต่ใครคือ John B?

 

Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax

 

 

http://www.bbc.co.uk/news/10432128

http://www.telegraph...s-by-dozen.html

http://www.thegrocer.../210390.article

 

 

แล้วผมก็เขียนไว้แล้วว่า... สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...

 

http://www.dailymail...-sold-kilo.html

 

‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.

 

 

สำนักข่าวทั้งหลาย... ผู้ประกอบการ... บุคคลที่ให้สัมภาษณ์... รัฐมนตรี ต่างเป็นเหยื่อ มี John B เท่านั้นที่ไม่ตกเป็นเหยือ

 

ทำไม UK food producers ต้อง "lobbying to retain labelling by numbers" ถ้ามันไม่เคยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน...

 

 

 

มติชนก็เป็นเหยื่อ...

http://www.matichon....703598&catid=06

 

 

 

แล้วเรื่องรูป Cock ว่ายังไงล่ะ... ไม่บิดเบือน?

 

 

Don't you agree that who or how many of the victims is not relevant. We have a super smart PM who had believed in GT200 for a while, of course. Does that make GT200 usable?
Those media eventually correct their news in a couple of days.

No EU ban on buying 'dozen' eggs

http://www.bbc.co.uk/news/10461548

 

Eggs by the dozen will be allowed, EU says

http://www.telegraph...ed-EU-says.html

 

 

Have you ever heard of the word "Euromyth"? You should check it out.

 

 

 

 ผมบอกว่า แนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนัก... 

 

ส่วนการยกตัวอย่างเรื่องไข่ไก่ ผมเอามาจากข่าว 5 แห่ง... ตาม link และบอกว่าเป็น แนวคิด โดยอ่านจากการสัมภาษณ์ ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ

ถ้าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดเกี่ยวกับ กฎเรื่องการระบุน้ำหนัก ตามที่ Ms Sommer บอก ผมรับผิดที่ยกตัวอย่างเรื่อง ไข่ไก่ มาด้วย

 

แต่ก็น่าคิดว่าก่อนหน้าที่จะมีการปฏิเสธเรื่องนี้ทำไมใครหลายๆ คนที่เกี่ยวข้องทั้ง สำนักข่าวทั้งหลาย... ผู้ประกอบการ... บุคคลที่ให้สัมภาษณ์... รัฐมนตรี 

จะต้องออกมาต่อต้าน หรือพูดถึงเรื่องนี้... ถ้ามันชัดเจนตั้งแต่แรก ทำไม UK food producers ต้อง "lobbying to retain labelling by numbers" ถ้ามันไม่เคยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน...

 

ส่วนเรื่องรูปยังยืนยันว่า "บิดเบือน"

Edited by HiddenMan, 12 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:20.

[HiddenMan]

 

กระทู้นั้นโดนล๊อคแล้ว

อยากถามแต๋ม เหมือนกัน ว่า "ปชป ส่งคนของตัวเองไปคุมหน่วยไหนบ้าง"

แต๋มถึงได้เชื่อว่า เค้าตัดสินเข้าข้าง ปชป ตลอด

 

 

หาอ่านเองดูก่อนสิ่    พวกองกรณ์อิสระต่างๆ ฯลฯ    ที่ตั้งหลังรัฐประหารน่ะ   ...  ใครเป็นใครจากไหน หาไม่ยากหรอก 

ผมไม่ว่างมาบอกให้ เพราะว่ามันจะยาวแน่     เนื่องจากมีคนมาเถียงข้างๆคูๆ 

 

 

 

แบบนี้ไม่เรียกว่า ข้างๆคูๆ หรอกหรอ...

[CockRoachKiller]

 

 

 

 

กรณีชั่งไข่ บิดเบือนว่า 70 ล้านเป็นงบโครงการชั่งไข่....
 

 
 
 
 

 
สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...
 
http://www.dailymail...-sold-kilo.html
 
EU to ban selling eggs by the dozen: Shopkeepers' fury as they are told all food must be weighed and sold by the kilo

The new rules will mean that instead of packaging telling shoppers a box contains six eggs, it will show the weight in grams of the eggs inside, for example 372g. 
...
Or that a bag of white rolls has 322g inside instead of half a dozen. The rules will not allow both the weight and the quantity to be displayed.
...
‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.
...

 
 
Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax.  Please check that news carefully before spread this fabricated news to your friends.  
 
 

The latest insane euromyth, as faithfully invented by the Daily Mail, is that the EU is planning to ban the sale of eggs by the dozen or half-dozen. As usual, the Littlejohn Rule applies here: if the story sounds like something you “really couldn’t make up” (thanks, Mr Dale), then somebody doubtless has made it up.
The main thrust of the Daily Mail’s story is that under proposed EU legislation, it will be illegal to print “six eggs” on a box of six eggs. Instead, the quantity of eggage will have to be listed solely in kilogrammes. This is simply – and really really obviously – false, and if you believe it then you’re doubtless someone who’s checked whether the word ‘gullible’ is really in the dictionary.
Here’s the actual legislation, proposed by the European Parliament. The quote that the press have misunderstood (or, more likely, lied about) is:

1. The net quantity of a food shall be expressed, using litres, centilitres, millilitres, kilograms or grams, as appropriate:
(a) in units of liquid in the case of liquids within the meaning of Council Directive 85/339/EEC of 27 June 1985 on containers of liquids for human consumption ;
( in units of mass in the case of other products.

In other words, all food that is sold in the EU will need to list either its volume (for liquids) or its mass (for solids) in metric units on the pack. Note the absence of anything banning the use of other indicators on the pack, such as “number of eggs”, “mass in pounds”, “number of moles of hydrogen atoms in the packet”, etc. Anyone who wishes to do so can advertise any or all of the above, as long as the metric unit of volume or mass is clearly marked. See: a pint of milk.

 

 
http://www.johnband....sane-euromyths/

 

 

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล... แต่ใครคือ John B?

 

Yet another victim in the EU ban egg by dozen hoax

 

 

http://www.bbc.co.uk/news/10432128

http://www.telegraph...s-by-dozen.html

http://www.thegrocer.../210390.article

 

 

แล้วผมก็เขียนไว้แล้วว่า... สำหรับตัวอย่างแนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนักเช่น ไข่ไก่ มีให้ดูที่...

 

http://www.dailymail...-sold-kilo.html

 

‘It is important that information is provided in a way that is meaningful and beneficial to consumers. This issue is still being considered by EU member states and it will be some time before the regulation is finalised.

 

 

สำนักข่าวทั้งหลาย... ผู้ประกอบการ... บุคคลที่ให้สัมภาษณ์... รัฐมนตรี ต่างเป็นเหยื่อ มี John B เท่านั้นที่ไม่ตกเป็นเหยือ

 

ทำไม UK food producers ต้อง "lobbying to retain labelling by numbers" ถ้ามันไม่เคยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน...

 

 

 

มติชนก็เป็นเหยื่อ...

http://www.matichon....703598&catid=06

 

 

 

แล้วเรื่องรูป Cock ว่ายังไงล่ะ... ไม่บิดเบือน?

 

 

Don't you agree that who or how many of the victims is not relevant. We have a super smart PM who had believed in GT200 for a while, of course. Does that make GT200 usable?
Those media eventually correct their news in a couple of days.

No EU ban on buying 'dozen' eggs

http://www.bbc.co.uk/news/10461548

 

Eggs by the dozen will be allowed, EU says

http://www.telegraph...ed-EU-says.html

 

 

Have you ever heard of the word "Euromyth"? You should check it out.

 

 

 

 ผมบอกว่า แนวคิดมาตรการขายสินค้าตามน้ำหนัก... 

 

ส่วนการยกตัวอย่างเรื่องไข่ไก่ ผมเอามาจากข่าว 5 แห่ง... ตาม link และบอกว่าเป็น แนวคิด โดยอ่านจากการสัมภาษณ์ ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ

ถ้าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดเกี่ยวกับ กฎเรื่องการระบุน้ำหนัก ตามที่ Ms Sommer บอก ผมรับผิดที่ยกตัวอย่างเรื่อง ไข่ไก่ มาด้วย

 

แต่ก็น่าคิดว่าก่อนหน้าที่จะมีการปฏิเสธเรื่องนี้ทำไมใครหลายๆ คนที่เกี่ยวข้องทั้ง สำนักข่าวทั้งหลาย... ผู้ประกอบการ... บุคคลที่ให้สัมภาษณ์... รัฐมนตรี 

จะต้องออกมาต่อต้าน หรือพูดถึงเรื่องนี้... ถ้ามันชัดเจนตั้งแต่แรก ทำไม UK food producers ต้อง "lobbying to retain labelling by numbers" ถ้ามันไม่เคยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน...

 

ส่วนเรื่องรูปยังยืนยันว่า "บิดเบือน"

 

 

Frankly, I understand your point. Nothing wrong to be skeptical. Nothing wrong to believe in compression theory. I did present my point. You did yours. I will not engage in further discussion to convince anyone to believe like I did.   I simply lay the info on my hand and let your brain work it out.  The result is all yours.  I respect your or any individual's opinion along with their reason.  

 

Democracy works by exploiting the power of independent individual mind. We all hope that with enough intellectually, any decision comes out of the system will converge to the optimal solution.

Thank you for such a reasonable discussion. Even though we don't have any agreement at all. At lease you have a courage to explore my point while other that I had encounter keep standing on their feet.