มาเลเซียวางแผนใช้งบประมาณราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) ในการพัฒนาเครือข่ายทางรถไฟในอีก 7 ปีข้างหน้า ที่รวมถึงการสร้างรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์ ในปี 2020 และระบบรถไฟมวลชนในเขตเมืองภายในปี 2017
ทั้งนี้ ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาระบบขนส่งทางถนนเป็นหลัก เนื่องจากบริการรถไฟที่มีอยู่ในปัจจุบันล่าช้าและทำให้ประชาชนเสียเวลา และเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่ระบบขนส่งทางรถไฟรองรับประชาชนราว 1 ใน 3 มาเลเซียกลับมีเพียงร้อยละ 4
ตามรายงานของสำนักงานคณะกรรมการขนส่งทางบก (เอสพีเอดี) รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณในโครงการรถไฟทังหมดที่ราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า ทั้งนี้ ระบบรถไฟมวลชนในเขตเมืองของมาเลเซีย หรือ เอ็มอาร์ที เมื่อเสร็จสิ้นทั้งระบบจะมีระยะทางราว 150 กม. และสามารถบริการขนส่งมวลชนกว่าครึ่งหนึ่งในเขตกรุงกัวลาลัมเปอร์และปริมณฑล
ส่วนระบบรถไฟหลักจะมีการสร้างระบบรถไฟรางคู่แบบไฟฟ้า เป็นระยะทาง 1,000 กม. นับตั้งแต่เมืองปาดังเบซาร์ทางตอนเหนือ ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รูทางภาคใต้ คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 13,000 ล้านดอลลาร์
แม้จะต้องใช้งบประมาณมหาศาลและโครงการที่ล่าช้าออกไป แต่การรถไฟมาเลเซียและรัฐบาล ต้องการให้โครงการรถไฟรางคู่เสร็จสิ้นภายใน 2 ปีนี้ ก่อนหน้าที่โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมกรุงกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์จะเสร็จสิ้นในปี 2018 ซึ่งจะเชื่อมการเดินทางระหว่างสองเมืองให้เหลือเพียง 90 นาที ขณะที่ราคาค่าโดยสารจะต่ำกว่าราคาตั๋วของสายการบินต้นทุนต่ำ โดยคาดว่าการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในปี 2015