ไม่รู้กันเหร๋อว่า งบแต่ละปีน่ะ เหลือกันบานเบอะ ไม่รู้เท่าไหร่ เท่าไหร่
นี่เอามาทำป้าย ปชส.กันแบบนี้ เป็นการกระจายรายได้ให้กับประชาชนเห็นๆ
ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ...รับกันปากมัน แถมไอ้ต้นตอ ตัวกำเนิดน้ำนั่น
ยังได้หน้าได้ตากันไปอีก...แค่นี้ทำเป็นบ่น ทนกันไม่ได้...
อิจฉาตาร้อนกันเป็นแถวน่ะ พวกเสียงข้างโน้ยยย.
ทัศนอุจาดริมทางด่วน ป้ายพีอาร์เสนาบดีเต็มเมืองผลาญภาษีบานตะไท
17 กันยายน 2556
"1 ในทัศนอุจาดเมื่อขับรถไปบนทางด่วนคือป้ายโฆษณาต่างๆ แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือป้ายของเหล่านักเลือกตั้งในตำแหน่งฝ่ายบริหาร ซึ่งทุกรัฐบาล ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลหรือเป็นรัฐมนตรี ต่างมีอันต้องขึ้นป้ายโชว์ภาพตัวเองหรา แต่งบประมาณที่ใช้นี่สิ เป็นเงินหลวงหรือภาษีที่เก็บจากประชาชนล้วนๆ"
ในมุมของนักเลือกตั้งส่วนใหญ่ การมีภาพ มีชื่อตัวเอง ให้คนผ่านไปผ่านมาได้เห็นก็ยังดีกว่ากลายเป็นรัฐมนตรีที่โลกลืม ส่วนผลงานจะจริงแท้แค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่พวกเขาไม่เคยคิดในมุมกลับบ้างเลยว่า ทุกครั้งที่เราท่านประชาชนคนธรรมดาเหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาที่มีใบหน้าฯพณฯอยู่ มัน”แปล๊บ”เข้าไปในใจ
พร้อมกับความคิดแว๊บแรก “เงินกูทั้งนั้น” และก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า “ท่านๆทำงานกันได้แค่นี้เหรอ?”
สำหรับรัฐบาลปัจจุบัน หากเราขับรถขึ้นทางด่วนดินแดงไปสนามบินสุวรรณภูมิ จะสังเกตเห็นว่าตลอดสองข้างทางมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ของกระทรวงต่างๆมากกว่า 10 ป้าย
ส่วนใหญ่เน้นขาออกนอกเมืองมากกว่าขาเข้า ซึ่งรัฐมนตรีหลายคนอาจจะเคอะเขินเลยต้องเอารูปนายกรัฐมนตรีนำหน้าไว้ แต่ก็มีหลายป้ายก็เป็นรูปรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงคนเดียว
แต่ชั่วโมงนี้ต้องโฟกัสไปที่เจ้ากระทรวงแรงงาน “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” เพราะขึ้นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ทั่วทุกมุมเมือง โดยเฉพาะในเส้นทางตั้งแต่ขึ้นด่วนดินแดงไปยันถนนพระราม 2 เอาแค่บริเวณขึ้นทางด่วนดินแดงก็ล่อไป 3 ป้ายแล้ว ทั้งๆที่เจ้าตัวเพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่กี่เดือน ทั้งหมดย่อมมีที่มาที่ไป
ในเดือนกันยายนนี้ปลัดกระทรวงแรงงานคนปัจจุบันจะเกษียณอายุราชการ ทำให้บิ๊กๆข้าราชการ 2-3 คนพากันวิ่ง “เอาใจ”เจ้าพ่อกรรมกรกันจนตีนแทบพลิก ซึ่งแคนดิเดทที่เป็นคนในกระทรวงมี 2 คนคือนายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน และนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
แต่มีข่าวลือว่าจะมีการย้ายนายภาณุ อุทัยรัตน์ ข้ามห้วยมาจากกระทรวงมหาดไทย ยิ่งทำให้สถานการณ์ “เอาใจนาย”แข่งขันกันเข้มข้นขึ้นไปอีก โดยป้ายโฆษณาริมทางด่วนกลายเป็นเครื่องมือหนึ่งในการแสดงออก
ทั้งสำนักงานประกันสังคมและกรมการจัดหางานต่างมีช่องทางการใช้เงินอุดหนุนนโยบายของผู้บริหารได้อย่างอู้ฟู่ โดยสำนักงานประกันสังคมนั้น หายห่วงแน่ เพราะเป็นกองทุนอันดับหนึ่งของประเทศด้วยเม็ดเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท โดยแต่ละปีในกฎหมายอนุญาตให้ใช้เงินสมทบในการบริหารกิจการได้ไม่เกินร้อยละ 10 แต่ปีหนึ่งๆเขาเจียดไปใช้แค่ 3-4 % ก็อื้อซ่าแล้ว
ส่วนกรมการจัดหางานนั้น เดิมทีรายได้ที่นำมาจุนเจือผู้บริหารและนักการเมืองทั้งทางตรงและทางลับนั้น มาจากการลงขันของกลุ่มบริษัทจัดส่งคนงานไปต่างประเทศเป็นหลัก
แต่ตอนหลังกิจการเรื่องแรงงานต่างด้าวเฟื่องฟู โดยมีกองทุนแรงงานต่างด้าว(ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ซึ่งมีรายได้จากการเก็บค่าใช้จ่ายแรงงานข้ามชาติคือพม่า ลาวและกัมพูชา อย่างเป็นกอบเป็นกำ และกลายเป็นช่องทางใหม่ที่ใช้อุดหนุนภารกิจในที่แจ้งและในที่ลับ
ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่เป็นรูปร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จึงเป็นของ 2 หน่วยงานหลักนี่เป็นส่วนใหญ่ มีเพียง 4 ป้ายที่เป็นของสำนักงานปลัดกระทรวง โดยสำนักงานประกันสังคมจะเน้นรณรงค์ไปที่การต่อต้านยาเสพติด ส่วนกรมการจัดหางานมุ่งไปที่ต่อต้านการค้ามนุษย์ ถ้าสังเกตง่ายๆป้ายไหนเป็นของใครคือ ดูที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน โดยป้ายของสำนักงานประกันสังคมมีหมายเลข 1506 ตัวโตเบ้ง เช่นเดียวกับกรมการจัดหางานที่ใช้หมายเลข 1694
โปรดอย่าถามถึง “หิริโอตัปปะ”เลยครับ
แม้ว่าเม็ดเงินมหาศาลในเบื้องหลังป้ายโฆษณาเหล่านี้กลั่นมาจากเม็ดเหงื่อของคนงานทั้งสิ้น เมื่อสังคมถึงยุคที่ศีลธรรมกำลังง่อนแง่น ธรรมกายครองเมืองเยี่ยงนี้ ความเชื่อเรื่องบาป-บุญ ไถ่ถอนกันได้ด้วยเม็ดเงินฟูฟ่อง การสะกดคำว่า “ละอาย”จึงยากขึ้นทุกวัน
ผมโทรไปสอบถามราคาค่าเช่าป้ายโฆษณาตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดไว้ตามป้ายต่างๆ เขาบอกว่าโดยทั่วไปราคาค่าเช่าป้ายริมทางด่วนไปสุวรรณภูมิ มีราคาตั้งแต่ป้ายละ 3.5 -6.5 แสนบาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลที่ตั้ง แต่หากรวมค่าออกแบบและผลิตด้วยแล้วก็ตกราว 1 ล้านบาท ซึ่งตรงกับที่ผู้ใหญ่ในกระทรวงแรงงานเล่าให้ฟังว่าแต่ละหน่วยงานที่ขึ้นป้ายต้องควักประเป๋ากันเดือนละ 1 ล้านบาทต่อป้าย เพราะยังมีค่าประกัน ค่านู่น ค่านี่อีก
ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ริมทางด่วนของนักนิยมคะแนนเสียงจึงไม่ใช่แค่ “ทัศนอุจาด”ที่ดูแล้วรกหูรกตาเท่านั้น เบื้องหลังภาพยังมีความอัปลักษณ์แฝงอยู่อีกมากมาย
http://www.isranews....ster_23852.html
ส่วนของหนูนี่ รอให้เหลือล้น จากปลายน้ำต่อไปก่อนน๊ะจ๊ะ...
[attachment=26074:เด็กอดอยาก.jpg]
Edited by Suraphan07, 18 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:01.