26 ความเห็นในกระทู้นี้

[คนกรุงธน]

Sirichok Sopha ได้แชร์ลิงก์ผ่าน สมจิตต์ นวเครือสุนทร

17 กันยายน

นี่คือตัวอย่างของการบิดเบือนข้อมูลจนพี่น้องเสื้อแดงเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง เช่นกรณี อมเรศ ศิลาอ่อน ลองอ่านดูครับ

SiLa Karisma

อมเรศ ศิลาอ่อน..ทำความ เสียหายให้ประเทศ 8 แสนล้าน....รอ ลง อาญา ฐานเคยเป็น รมต....พจมาน ซื้อที่ดิน(รู้ว่าผิด)แต่ ทำไม ไม่รอ ลงอาญา.....คนซื้อผิด แต่ ลงโทษ คนเซ็น งั้น ฤ.....ถ้า พูดให้ถูกคือ เขา ซื้อขาย โดยไม่ได้ คดโกง ประเทศชาติ.....คนเซ็น ก็ ทำคุณประโยชน์ แก่ชาติบ้านเมือง...และ ประชาชน.....แต่ ไม่รอ ลงอาญา....นี่ เขาเป็น นายก นะเฟ้ยยย.....อมเรศ แม่งเป็น แค่ รมต.
------

ข้อมูลคุณคลาดเคลื่อนอย่างแรงค่ะ อมเรศ ศิลาอ่อน ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่เป็น อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส) ค่ะ

พระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน 2540 เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2540 ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ (มีนักโทษชายทักษิณเป็นรองนายก) ได้จัดตั้งคณะกรรมการ ปรส. ชุดแรกขึ้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2540 โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขฟื้นฟูฐานะ ของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ เป็นอันดับแรก โดย ปรส. มีฐานะเป็นองค์กรอิสระ มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการดูแลบริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ

ส่วนที่บอกว่า ทำความเสียหาย 8 แสนล้าน ศาลให้รอลงอาญา ก็ไม่จริงค่ะ เพราะคดีนี้คือกรณีขายสินทรัพย์สถาบันการเงิน 56 แห่ง ที่ อมเรศ และวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส.ถูกฟ้อง ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 (เฉพาะในส่วนของ ปรส.)

ทั้งสองคนถูกตัดสินว่า มีความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คือ ไปเอื้อประโยชน์เอกชนที่ประมูลสินทรัพย์ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
โดยไม่ได้ให้เอกชนรายดังกล่าวคือ บริษัท เลแมน บราเดอร์ส โดยราคาสินทรัพย์ที่เป็นปัญหาอยู่ที่ 11,520 ล้านบาท วางหลักประกัน 10 ล้านบาท แต่บริษัทไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกับ ปรส.ภายใน 7 วันนับจากวันที่ 20 ส.ค.41

พร้อมทั้งต้องชำระเงินงวดแรกร้อยละ 20 ของราคาเสนอซื้อที่ชนะการประมูลเป็นเงิน 2,304 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีแต่การวางเงินประกัน 10 ล้านเท่านั้น ศาลจึงเห็นว่า การประมูลดังกล่าวไม่เกิดสัญญาขึ้น อย่างไรก็ตามต่อมามีการชำระเงินเต็มจำนวนจากการประมูลสินทรัพย์ดังกล่าาว

ความหมายคือ ไม่มีความเสียหายทางการเงินเกิดขึ้นค่ะ ปรส.ได้เงินตามราคาที่ประมูล เพียงแต่ขั้นตอนทำสัญญาผิดกฎหมายและผู้บริหาร ปรส.ไปเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ศาลจึงสั่งจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 3 ปี เพราะอายุมากและเคยทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ มีตรงไหนที่บอกว่าชาติเสียหาย 8 แสนล้านคะ

คดีล่าสุดเกี่ยวกับ ปรส. ป.ป.ช.เพิ่งตัดสินไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า มนตรี เจนวิทย์การ เลขา ปรส. เอื้อประโยชน์ให้กับเกียรตินาคิน ซึ่งเป็นบริษัทของภรรยาพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน ในการประมูลสินทรัพย์ของ ปรส.

ไม่ทราบว่าคุณทราบหรือเปล่า?

กรณีนักโทษทักษิณคนซื้อไม่ผิดคนเซ็นต์ผิด ก็เพราะคนเซ็นต์เป็นนายกรัฐมนตรี มีกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 100 ห้ามไว้ จึงเป็นการทำผิดกฎหมายคือใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้คู่สมรสซื้อ ที่ดินรัชดา ซึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน อีกทั้งยังซื้อในราคาเพียง 772 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเมื่อศาลฎีกาฯพิพากษาให้สัญญาเป็นโมฆะ และมีการประมูลที่ดินดังกล่าวอีกครั้งโดยบริษัทศุภาลัย ในราคา 1,815 ล้านบาท มากกว่าที่คุณหญิงพจมานประมูลถึง 135 % หรือ 1,043 ล้านบาท ในช่วงเวลาห่างกันแค่ 8 ปี คุณว่าทุจริตไหม รัฐเสียหายไหม ลองตรองดูค่ะ

ลิงค์คดีอมเรศ
http://www.dailynews...th/crime/155649

ลิงค์ป.ป.ช. เกียรตินาคิน
http://www.matichon....pid=03&catid=03

ลิงค์ศุภาลัยประมูลที่ดินรัชดา
http://hilight.kapook.com/view/61923

[amplepoor]

ผมขอย้ำให้ชัดๆ นะครับ ว่า

ความเสียหายแปดแสนล้านนั่น ชวลิต/โกร่ง/ทักษิณ/ทนง เป็นผู้ก่อ

 

ชวลิตเข้ามาเป็นนายกต่อจากบรรหาร แล้วก็บริหารประเทศจนล้มละลาย

ต้องเอาประเทศเข้า IMF เพื่อขอกู้เงินมาใช้หนี้ระยะสั้น

 

ทำให้ IMF เข้าควบคุมการเงินของประเทศ นำไปสู่การปิดสถาบันการเงิน และการตั้ง ปรส.

หนี้สินของสถาบันการเงิน 56 แห่งรวมกันแล้วเป็นเท่าไหร่ นั่้นคือผลงานของชวลิตกับพวกโดยตรง

 

การที่ปรส. ไม่สามารถขายหนี้แปดแสนล้านได้เท่ากับจำนวนหนี้

เหตุผลหลักก็เป็นเพราะชวลิตทำให้หนี้พวกนี้เป็นหนี้เน่า

แต่คนทำให้หนี้เน่า ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

คนขายหนี้เน่าไม่ได้ราคา กลับกลายเป็นคนผิด

 

 

 

ผมไม่ได้มองว่าปรส. ไม่ผิดนะ

แต่ความผิดของปรส. คือการทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

ถือว่าผิดน้อยมาก ถ้าเทียบกับผลงานของ ชวลิต/โกร่ง/ทักษิณ/ทนง

[MuuSang]

ควายแดง ไม่เชื่อว่า ความเสียหายของบ้านเมือง มาจากทักษิณ

เลิกอุ้มทักษิณได้แล้ว นั่นแหละ คนผิดตัวจริง

ต้นเหตุของความแตกแยกในบ้านเมือง

 

ถามเด็กก็รู้ว่า ใครมักจะเป็นคนแรกที่ถูกชี้ ในฐานะคนที่ทำให้บ้านเมืองแตกแยก

[eAT]

เมื่องไทยเป็นประเทศที่แปลก ประชาชนส่วนใหญ่มักโทษ

คนที่แก้ไข หรือคนข้างหลังเป็นคนผิด

 

เหมือนกับการที่รถชนกับหลายคัน จะโทษคันสุดท้าย

เป็นคนผิด ทั้งๆที่ความจริงเป็นไปไม่ได้ที่คันสุดท้าย

จะขับรถชนคันข้างหน้าอีก 10 คันได้ คิดว่าคันสุดท้าย

มันเป็นรถถังหรือยังไง?

[charlie24]

เสื้อแดงอ่านไทย บอกว่าเกินสามบรรทัด

เสื้อแดงเขียนภาษาฝรั่ง อ่านไม่เข้าใจ เขียนทำไมว่ะภาษาไทย แม่ข้อยมีผัวฝรั่งเด้อ

[redfrog53]

 
Sirichok Sopha
ปรส จัดตั้งสมัย พล อ ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมีคนร้องไปที่ ปปช. แล้วสื่อแดงก็มาหลอกประชาชน โดยพยายามพาดพิงไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ บัดนี้ ปปช มีคำตอบให้ท่านแล้วนะครับ ตาสว่างกันได้แล้ว หรือ อำมาตย์สั่งปปช.อีก
 
เครดิต/ INN
 
ป.ป.ช. แจง "ชวน" ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ปรส. แจงจาก 6 เรื่องที่พิจารณามีมติไปแล้ว 5 เรื่อง อยู่ระหว่างเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับทราบ
 
 
นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมหาชนคนไทยหัวใจเดียวกัน ในฐานะแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดง ในนามกลุ่มภาคีพลังประชาชน (ภปช.) ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทาง ป.ป.ช. ได้มีการชี้แจงยืนยัน นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการประมูลสินทรัพย์ของคณะกรรมการองค์การเพื่อปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือ ปรส. อีกทั้งยังไม่มีคำร้องที่ปรากฏว่าเป็นการร้องถึงนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
 
 
ทั้งนี้ ในเอกสารการชี้แจงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ได้ชี้แจงไว้เป็นลายลักษณ์อักษรนั้น ได้มีการชี้แจงว่า
 
ถึงการพิจารณากรณี ปรส. จำนวน 6 เรื่อง โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไปแล้ว 5 เรื่อง ซึ่งประกอบด้วย เรื่องที่มีการใต่สวนแล้ว เห็นว่าไม่มีมูล จึงให้ตกไปจำนวน 4 เรื่อง และชี้มูลความผิด เลขาธิการคณะกรรมการองค์การเพื่อปฏิรูประบบสถาบันการเงิน เนื่องจากมีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง 1 เรื่อง ส่วนอีกหนึ่งเรื่องในขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา

Edited by redfrog53, 21 กันยายน พ.ศ. 2556 - 04:10.

[ม่านน้ำ]

ควายแดงเชื่อฝังหัวไปหมดแล้วครับ แก้ยาก

[amplepoor]

คำชี้แจง ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ "ข้อเท็จจริงในด้านนโยบาย ปรส."

มติชนรายวัน  วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10594

 

*หมายเหตุ* - หลังจากมีการร้องเรียนต่อกรมสอบสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการเปิดประมูลสินเชื่อ กลุ่มที่อยู่อาศัยขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ของสถาบันการเงิน 56 แห่งที่ถูกปิดกิจการ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ พาดพิงถึงนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งขณะนี้ ดีเอสไอได้ส่งสำนวนการกล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการ ล่าสุด นายธารินทร์ได้เขียนคำชี้แจง "ข้อเท็จจริงในด้านนโยบายเกี่ยวกับ ปรส." "มติชน" จึงนำเนื้อหาบางส่วนของการชี้แจงมานำเสนอ

 

ภายหลังพระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน 2540 เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2540 รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้จัดตั้งคณะกรรมการ ปรส. ชุดแรกขึ้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2540 โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขฟื้นฟูฐานะ ของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ เป็นอันดับแรก โดย ปรส. มีฐานะเป็นองค์กรอิสระ มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการดูแลบริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ ขณะที่บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) เป็นองค์กรอิสระที่จัดตั้งเพื่อเตรียมเข้าประมูลซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ของสถาบันการเงินที่ไม่สามารถฟื้นฟูฐานะได้

 

ทั้ง ปรส. และ บบส. ได้จัดตั้งขึ้นเสร็จก่อนที่รัฐบาลชวน 2 จะเข้ามาบริหารประเทศ

 

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ปรส.นั้น รัฐมนตรีว่การกระทรวงการคลังเป็นเพียงผู้รักษาการตามพระราชกำหนด ไม่มีอำนาจแทรกแซง การดำเนินงานของ ปรส. เนื่องจากพระราชกำหนดให้อำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการประมูลทรัพย์สิน เป็นของคณะกรรมการ ปรส. แต่ผู้เดียว ส่วน บบส.นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจหน้าที่กำกับโดยทั่วไป โดยสามารถสั่งให้ บบส. ชี้แจงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น ทำรายงาน ตลอดจนสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการดำเนินงานได้

 

ความเสียหายและพันธะที่รัฐบาลชวน 2 ต้องแบกรับต่อจากรัฐบาลก่อน

เพื่อให้คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชวน 2 ได้รับทราบสถานการณ์และภาระของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จึงได้รายงานตัวเลขข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงแรกๆ ว่า ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2540 ยอดการช่วยเหลือของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่ได้ผูกพันไว้จากที่เคยมีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการช่วยเหลือธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) (บีบีซี) เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1 ล้านล้านบาท ในเวลาเพียง 10 เดือนเศษ ประกอบไปด้วย การช่วยเหลือสภาพคล่องธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง สถาบันการเงินที่ยังคงเหลืออีก 10 กว่าแห่ง และโดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนผู้ออมของสถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการเป็นการชั่วคราวจำนวน 58 แห่ง

 

เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ มีภาระมากในการแก้ไขปัญหาระบบสถาบันการเงินของประเทศ จึงได้อาศัยวิธีการกู้ยืมเงินระยะสั้นในตลาดเงิน เพื่อรองรับภาระของตัวเองเกือบทั้งหมด หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จึงเป็นหนี้สาธารณะ ซึ่งเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นก็จะต้องตกเป็นภาระของรัฐบาล ตามกฎหมายที่ได้ออกไปก่อนหน้าแล้ว

 

คณะกรรมการ ปรส. ชุดแรกสั่งปิดถาวร56ไฟแนนซ์

ในวันที่ 8 ธันวาคม 2540 หรือประมาณ 3 สัปดาห์หลังจากรัฐบาลชวน 2 เข้าบริหารราชการแผ่นดิน คณะกรรมการ ปรส. ชุดแรก ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลก่อนหน้านั้น ได้สั่งปิดกิจการสถาบันการเงิน 56 แห่ง เป็นการถาวร ส่วนอีก 2 แห่งให้เปิดดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งการสั่งปิดนี้เป็นอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของคณะกรรมการ ปรส. ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย โดยคณะกรรมการ ปรส. ได้รายการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อทราบเท่านั้น

 

เมื่อคณะกรรมการ ปรส. ชุดแรกได้ใช้อำนาจทางกฎหมายสั่งปิดกิจการสถาบันการเงิน 56 แห่งเป็นการถาวรแล้ว ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งทั้งชุดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2540 กระทรวงการคลังจึงได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ ปรส. ชุดใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2540 เช่นกัน

 

 

เชิญอ่านให้จบที่นี่

http://www.nidambe11...07march13p5.htm

[baboon]

จากหนังสือ   "รัฐไทยกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ จากกำเนิดทุนนิยมนายธนาคารถึงวิกฤตเศรษฐกิจ 2540" โดย อภิชาติ สถิตนิรามัย

คนที่ก่อปัญหาคือ วิจิตรกับบรรหาร ครับ

[butadad]

ตอนที่ ท่านสมัคร กับ ท่านจืดข้าวบูด พูดเรื่อง ปรส ทุกวันบอกว่า เตรียมเอกสารเป็นเล่มๆ

บอกว่าจะฟ้อง ปชป ให้ติดคุก  ผมก็รอจนท่านสมัครก็ตายไปแล้ว

ไม่ทราบว่าท่านจืดข้าวบูด จะดำเนินการต่อหรือไม่  หลักฐานเยอะนี่นา จัดการเลยครับ

[puggi]

ตอนที่ ท่านสมัคร กับ ท่านจืดข้าวบูด พูดเรื่อง ปรส ทุกวันบอกว่า เตรียมเอกสารเป็นเล่มๆ

บอกว่าจะฟ้อง ปชป ให้ติดคุก  ผมก็รอจนท่านสมัครก็ตายไปแล้ว

ไม่ทราบว่าท่านจืดข้าวบูด จะดำเนินการต่อหรือไม่  หลักฐานเยอะนี่นา จัดการเลยครับ

ไม่เพียงแต่ ไอ้จืด  

 

 

ไอ้ ปานเทพ ปานทวย ก็ มาด่า ชวน เรื่อง ปรส เหมือนกัน ตอนนั้น  เข้าคู่กับไอ้จืดด้วย

 

จริงๆ ปรส หากไม่ควาย มาก จะรู้ว่า ยังไงก็ขาดทุน หากพวกกระบือ เข้าใจคำว่า

 

ราคาฟองสบู่ ที่ปล่อยกู้

 

ราคาตลาด

 

ราคาประเมิน

 

ตอนนั้นใหสินเชื่อในราคาฟองสบู่ที่สูงกว่า ราคาตลาด มาก  สุดท้ายฟองสบู่แตก  ราคาก็ตกมาสู่ราคาตลาด

 

แต่ว่า ช่วงนันต้องขายต่ำกว่าราคาตลาดเพื่อเอาเงินไว้ก่อน 

 

แต่ ควาย ไม่เข้าใจหรอกครับ

[redfrog53]

ต้องดูที่มาของ เจ้ปานฯ แล้วก้อเข้าใจไม่ยาก ยกเว้นแพรต

[55555]

 

ตอนที่ ท่านสมัคร กับ ท่านจืดข้าวบูด พูดเรื่อง ปรส ทุกวันบอกว่า เตรียมเอกสารเป็นเล่มๆ

บอกว่าจะฟ้อง ปชป ให้ติดคุก  ผมก็รอจนท่านสมัครก็ตายไปแล้ว

ไม่ทราบว่าท่านจืดข้าวบูด จะดำเนินการต่อหรือไม่  หลักฐานเยอะนี่นา จัดการเลยครับ

ไม่เพียงแต่ ไอ้จืด  

 

 

ไอ้ ปานเทพ ปานทวย ก็ มาด่า ชวน เรื่อง ปรส เหมือนกัน ตอนนั้น  เข้าคู่กับไอ้จืดด้วย

 

จริงๆ ปรส หากไม่ควาย มาก จะรู้ว่า ยังไงก็ขาดทุน หากพวกกระบือ เข้าใจคำว่า

 

ราคาฟองสบู่ ที่ปล่อยกู้

 

ราคาตลาด

 

ราคาประเมิน

 

ตอนนั้นใหสินเชื่อในราคาฟองสบู่ที่สูงกว่า ราคาตลาด มาก  สุดท้ายฟองสบู่แตก  ราคาก็ตกมาสู่ราคาตลาด

 

แต่ว่า ช่วงนันต้องขายต่ำกว่าราคาตลาดเพื่อเอาเงินไว้ก่อน 

 

แต่ ควาย ไม่เข้าใจหรอกครับ

 

 

 

ยอดหนี้มันรวมเอาดอกเบี้ยมหาโหดไปด้วย..

 

มันสูงเกินจริงอยู่แล้ว

 

เวลาประมูลมันถึงได้่ราคาต่ำ ๆ

 

ผมว่าควายบางตัวมันก็รู้แหละ แต่มันแกล้งโง่ไปงั้น

 

 

Edited by 55555, 21 กันยายน พ.ศ. 2556 - 21:06.

[คนกรุงธน]

กระทู้ปลอดควายแดงอีกแล้ว...

Edited by คนกรุงธน, 21 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:32.

[พอล คุง]

กระทู้ปลอดควายแดง

[amplepoor]

เท่าที่ผมจำได้ จุดเริ่มต้นของหายนะ

มาจากการล้มของสมประสงค์กรุ๊ป

 

ดูเหมือนเริ่มต้นที่คอนโดตรงคลองสานชื่อเจ้าพระยาหร้องัยนี่แหละ

ลูกบ้านผ่อนแล้วแต่ไม่เสร็จ โอนก็ไม่ได้ต้องฟ้องร้องกัน

 

ช่วงนั้นน่าจะเป็นรัฐบาลบันหาร

 

ไกล้ๆ กันก็มีข่าวใหญ่ว่าเสี่ยสวัสดิ์ หอรุ่งริ่งเอาโรงเหล็กไปจำนำได้เงินมาสองพันล้าน

ตอนนั้นในวงการก็รู้กันว่าเสี่ยแกมือเปล่า มีแต่ชื่อ แถมทำพัฒนาที่ดินในนามเหมราชก็ไปไม่รอด

แต่เสี่ยแกเส้นใหญ่ อยู่ในก๊วนไพโรจน์บ้านฉาง รังสรรค์ สถาปนิก ซึ่งมีผู้ใหญ่อย่างประยูรแห่งแบ้งค์ทหารไทยและอานันท์ ผู้ดีรัตนโกสินทร์ เป็นแบ๊คให้

 

ประยูรนายแบ้งค์คนนี้ ทักษิณนับถือเป็นพ่อ เงินขาดมือก็กู้ได้ตลอด

 

นับไปนับมาล้วนแล้วแต่คนกันเองทั้งนั้น

เป็นกลุ่มที่แบ้งค์ไทย พวกกสิกร กรุงเทพ ไทยพานิชย์ ไม่ค่อยอยากคบ เพราะมีแต่โครงการบนแผ่นกระดาษ

กลุ่มนี้แหละ ที่ทำให้ผมไม่เคยไว้ใจนายอานันท์เลย ทราบมาว่าในยุคนั้นทางบ้านฉางป้อนสตรีให้เสพเป็นอาจินต์

และบ้านฉางเคยมีข่าวว่าจะทำธนาคารอารมณ์กับอ้อยบีเอ็มอีกต่างหาก สุดท้ายไปทำซ่องตรงถนนพระรามเกล้ากับรัฐมนตรีกระทรวงวิทย์ที่ไปเปิดศาลเจ้าแม่กวนอิม....ฮา

 

มันเน่าจนเกินเยียวยาจริงๆ

[amplepoor]

ทีนี้มาดูชีวิตหลังฟองสบู่แตกของเขาสักหน่อย

ธุรกิจหลัก ล้มละลายครับ

 

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า วันที่ 30 สิงหาคม 2553  น.ส.พ. แนวหน้า ได้ตีพิมพ์ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์  เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดบริษัทสมประสงค์กรุ๊ป(ฮ่องกง) และนายประสงค์ พานิชภักดี  คดีหมายเลขแดงที่ ล.   3193/2553  กองบังคับคดีล้มละลาย 3  ศาลล้มละลายกลาง กรมบังคับคดี   กระทรวงยุติธรรม     ประกาศระบุว่า ด้วย  บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด  เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้ลูกหนี้ล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งลงวันที่  4  มีนาคม 2553 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ บริษัทสมประสงค์กรุ๊ป(ฮ่องกง) จำกัดที่ 1 และนายประสงค์ พานิชภักดี  ที่ 3    ลูกหนี้ไว้เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช  2483  แล้ว
    ลูกหนี้ที่ 1 ทะเบียนนิติบุคคล 93728  สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 211 จัตุรัสวิงออน( หรือ วิง ออนพลาซ่า) เลขที่ 62 ถนนโมดี้ จิมซาจุ่ยเก่ลูน ฮ่องกง 
    ลูกหนี้ที่ 3 เกิดเมื่อ พ.ศ. 2493  ภูมิลำเนา เลขที่ 111/1 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
   ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและ ทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา  22  แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ
     อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ จะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอ รับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา  2  เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 5   ตุลาคม 2553  ซึ่งตรวจได้จากเว็บไซต์ www.ratchakitcha.soc.go.th

 

แต่ชีวิตปัจจุบัน ร่ำรวยอู้ฟู่ยิ่งกว่าเดิม

นี่คือเมียปัจจุบัน เมียเก่าเป็นคนออสเตรเลีย

ระหว่างที่เรานั่งคุยกัน จู่ๆ คุณประสงค์เปิดประตูเข้ามาพอดี พร้อมกับหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง
ทักทาย กันชั่วครู่ เขาขอตัวเพื่อนำของไปเก็บ ส่วนคุณเพ็ญหันมากระซิบบอกว่า “เห็นไหมว่าเขาตายยากจริงๆ พูดถึงก็มา” พูดจบเธอหัวเราะชอบใจ
สักพัก น้องธาดา -- ลูกชายสุดรัก ก็โผล่หน้ามาทักทายคุณแม่เป็นภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ เธอแนะนำธาดาให้สวัสดีทีมงานเป็นภาษาไทย ซึ่งเขาพูดได้คล่องแคล่วไม่แพ้ภาษาต่างประเทศ คุณเพ็ญเล่าว่า พ่อลูกเพิ่งกลับจากภูเก็ต เขาชอบไปเล่นเรือที่นั่น มิน่าละ หนุ่มน้อยของบ้านจึงมีผิวสีแทน จากนั้น เธอก็เล่าให้เราฟังต่อว่า

“เพ็ญ ไม่ได้เจอเขาในวันที่รวยสวยเก๋ แต่เป็นช่วงเวลาที่เขามีทั้งปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาครอบครัว เพราะเพ็ญเคยทำงานกับเขามาก่อน เห็นว่าเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบ ถ้าจำได้ สมัยนั้นมักมีคำพูดว่า ‘ล้มบนฟูก’ แต่สำหรับคุณประสงค์ เขาล้มจริงๆ รวมถึงยังเจอปัญหาลูกและภรรยาเก่าที่หย่าและแบ่งทรัพย์สินให้แล้ว แต่ยังอยากได้ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของเขา จึงส่งคนมายึดอาคารที่พักอาศัยและให้เช่าที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นเพ็ญกับเขาอยู่ต่างประเทศ ต้องรับโทรศัพท์แม่บ้านกับรปภ. ที่โทร.มาเล่าให้ฟังว่า มีคนยกหม้อแปลงไฟออก ทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ รปภ.เข้าตึกไม่ได้ ต้องอยู่ด้านนอก รถยนต์กี่คันๆ เขาก็ยึดไปหมด จะให้ทำอย่างไรต่อ เพ็ญต้องโทร.ตามช่างให้มาต่อไฟ และบอกให้ทุกคนรอเรากลับไปเคลียร์ จนตอนหลัง ฝ่ายนั้นจึงย้ายกลับไปอยู่ออสเตรเลีย

“ส่วนลูกน้องที่บริษัทฯ เห็นท่าว่าเขาล้มแน่ๆ จึงหักหลังด้วยการขโมยโฉนดที่ดินไปให้นักการเมืองบางคนซึ่งทำงานร่วมกับ นักการเงิน ส่งคนมายึดอาคารให้เช่าของเราสามแห่ง ตอนนั้นเห็นคุณประสงค์ล้มแล้วเหนื่อยจริงๆ วันที่เราตัดสินใจช่วยเขา ทุกคนบอกว่าเพ็ญเครซี่ บ้า โรคจิต แต่เพราะเรารู้ว่าเขาเป็นคนดี ไม่ได้คิดซิกแซก เพ็ญจึงพยายามช่วยเขาปลดหนี้ ด้วยการซื้อหนี้ก้อนใหญ่คืนจากเจ้าหนี้ ถ้าเป็นโฉนดที่ดินที่อยู่กับแบงค์ก็เคลียร์ยากหน่อย เพราะแบงค์อยากยึดอยู่แล้ว จึงเรียกทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเต็มที่

 

เรื่องทั้งหมด เอาไปลงเชื่อหรือไม่ของริบเล่ย์ได้เลย

[พระฤๅษี]

......  amplepoor ...... ข้อมูล แน่น  นับถือ ๆ .....

 

ยังมีตัวเล็ก ตัวน้อยอีก เหมือนกัน......

 

แต่ที่ กล่าวนามมานั้น แหละ  ( หัวแถว ) และ

 

ขอพูด นิดเดียว  ( ถ้ายังมียางอาย ) ก็ไม่ควร

 

เสนอหน้า มาอีก.. อย่าหลง..ลาภยศ เหมือน

 

บรรเตี้ย..เดิน เลียปาก แผล็บบ ๆ ๆ ๆ ๆ ....

 

ชาวบ้านเขารู้..เขาทุเรศ....จริง ๆ

[ริวมะคุง]

คุณแอมกลับมาทีไรควายหายทุกที สงสัยต้องแจ้งDSIซะละ

[ปุถุชน]

ผมขอย้ำให้ชัดๆ นะครับ ว่า

ความเสียหายแปดแสนล้านนั่น ชวลิต/โกร่ง/ทักษิณ/ทนง เป็นผู้ก่อ

 

ชวลิตเข้ามาเป็นนายกต่อจากบรรหาร แล้วก็บริหารประเทศจนล้มละลาย

ต้องเอาประเทศเข้า IMF เพื่อขอกู้เงินมาใช้หนี้ระยะสั้น

 

ทำให้ IMF เข้าควบคุมการเงินของประเทศ นำไปสู่การปิดสถาบันการเงิน และการตั้ง ปรส.

หนี้สินของสถาบันการเงิน 56 แห่งรวมกันแล้วเป็นเท่าไหร่ นั่้นคือผลงานของชวลิตกับพวกโดยตรง

 

การที่ปรส. ไม่สามารถขายหนี้แปดแสนล้านได้เท่ากับจำนวนหนี้

เหตุผลหลักก็เป็นเพราะชวลิตทำให้หนี้พวกนี้เป็นหนี้เน่า

แต่คนทำให้หนี้เน่า ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

คนขายหนี้เน่าไม่ได้ราคา กลับกลายเป็นคนผิด

 

 

 

ผมไม่ได้มองว่าปรส. ไม่ผิดนะ

แต่ความผิดของปรส. คือการทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

ถือว่าผิดน้อยมาก ถ้าเทียบกับผลงานของ ชวลิต/โกร่ง/ทักษิณ/ทนง

 

 

อมเรศ ศิลาอ่อน..ทำความ เสียหายให้ประเทศ 8 แสนล้าน....รอ ลง อาญา ฐานเคยเป็น รมต....พจมาน ซื้อที่ดิน(รู้ว่าผิด)แต่ ทำไม ไม่รอ ลงอาญา.....คนซื้อผิด แต่ ลงโทษ คนเซ็น งั้น ฤ.....ถ้า พูดให้ถูกคือ เขา ซื้อขาย โดยไม่ได้ คดโกง ประเทศชาติ.....คนเซ็น ก็ ทำคุณประโยชน์ แก่ชาติบ้านเมือง...และ ประชาชน.....แต่ ไม่รอ ลงอาญา....นี่ เขาเป็น นายก นะเฟ้ยยย.....อมเรศ ***เป็น แค่ รมต.
------

ข้อมูลคุณคลาดเคลื่อนอย่างแรงค่ะ อมเรศ ศิลาอ่อน ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่เป็น อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส) ค่ะ

 

 

 

 

ศาลฯไม่ได้ลงโทษ"พจมาน"ในฐานะผู้ซื้อ เพราะไม่ได้เป็น"ข้าราชการ/นายกรัฐมนตรี" ไม่มีการ"รอลงอาญา"....

นอกจากนั้นยังได้เงินที่จ่ายไปคืนพร้อมดอกเบี้ยด้วย.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล. คนที่คิดและพูดอย่างนี้ มีความเข้าใจเท่ากับ"บรรหาร"เลย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

 

 

 

การที่ปรส. ไม่สามารถขายหนี้แปดแสนล้านได้เท่ากับจำนวนหนี้

เหตุผลหลักก็เป็นเพราะชวลิตทำให้หนี้พวกนี้เป็นหนี้เน่า

แต่คนทำให้หนี้เน่า ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

คนขายหนี้เน่าไม่ได้ราคา กลับกลายเป็นคนผิด

 

 

ขอยกตัวอย่างเป็นรูปธรรม....

สส.กลุ่ม 16 นำที่ดินในป่าอิสานจำนวน 30,000 ไร่มาจำนองเงินกู้เกือบ 2,000 ล้านบาท!

ที่ดินในขณะนั้นมีราคาไม่เกิน 50,000,000 บาท....!

สุจริตชน คนเก่งสามารถขายที่ดินติดจำนองนั้นสูงกว่า 2,000 ล้านบาท(ไม่รวมดอกเบี้ย) ?

ดังนั้น คณะกรรมการ ปรส.จึงรวมทรัพย์สินดีและเลวเป็นกองเดียวเพื่อจะได้ราคามากกว่าที่ควร....

 

นอกจากนั้น IMF ยังมีเงื่อนไขไม่ให้"ลูกหนี้"ไถ่ถอนหนี้ ซื้อทรัพย์สินคืนในราคาที่ ปรส.ตั้้งใจขาย

เพราะผิด'จรรยาบรรณ'และ'คุณธรรม'ในการประกอบธุรกิจและการแก้ไขปัญญาหนี้ของพวกเขา...!

[ปุถุชน]

ตอนที่ ท่านสมัคร กับ ท่านจืดข้าวบูด พูดเรื่อง ปรส ทุกวันบอกว่า เตรียมเอกสารเป็นเล่มๆ

บอกว่าจะฟ้อง ปชป ให้ติดคุก  ผมก็รอจนท่านสมัครก็ตายไปแล้ว

ไม่ทราบว่าท่านจืดข้าวบูด จะดำเนินการต่อหรือไม่  หลักฐานเยอะนี่นา จัดการเลยครับ

 

 

เดี๋ยวนี้"จืด ข้าวบูด" เป็นกรรมการสภาฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไม่แน่ใจยังเป็นอยู่หรือไม่.....?

หากติดตามมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีอาจารย์แดง อาจารย์นิยมทักษิณ ไม่น้อย...

 

ปานเทพเคยเป็นคนของชวลิต เขียนเกี่ยวกับ IMF เป็นหนังสือ เล่นงาน คุณชวน คุณธารินทร์และพรรคประชาธิปัตย์....

[amplepoor]

ขอเสริมประเด็นลุงปุอีกหน่อย

 

ถ้าฟองสบู่ไม่แตก จะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่ม 16 ครับ

ตอบว่า อ๋อ ก็เป็นหนี้หัวโตสิ เอาของห้าสิบล้านมากู้ได้สองพันล้าน

ได้เงินมาแล้วเอาไปทำอะไรได้ครับ นอกจากเอาไปเก็งกำไร กับเล่นการเมือง ซึ่งสุดท้ายก็เจ๊งเพราะพวกนี้ไม่ได้อยู่ในธุรกิจที่แท้จริง

 

ดังนั้น ถ้าชวลิตไม่ทำประเทศล่มจม พวกหนี้เน่าเหล่านี้ก็จะล่มจมแทน

การทำให้เกิดฟองสบู่แตก จึงเป็นคุณประโยชน์กับพวกนี้โดยตรง

เรียกว่าเป็นการชักดาบโดยรัฐบาล ชวลิตกับพวกเป็นคนดำเนินการ

 

เห็นใหมครับ ทุกเรื่องที่เกิด

มันไม่เคยมีความโปร่งใสอยู่ในนั้นเลย โกงล้วนๆ

[ต้นหอม]

อ่านกระทู้นี้หูตาสว่างขึ้นอีกเยอะ ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ

[kwan_kao]

^{"สวัสดิ์  หอรุ่งเรือง"  เจ้าพ่ออุตสาหกรรมเหล็ก}

 

^{หลังจากเจอ ธปท. ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ก.ค. 2540}

 

^{ทำให้เป็นหนี้มหาศาล}

 

^{เจ้าของวลีอันลือลั่น  "ไม่มี  ไม่หนี  ไม่จ่าย"}

[overtherainbow]

ดันกระทู้

[baboon]

อยากให้มัดรวมกระทู้ปรสไว้ด้วยกันเป็นซีรี่เลยได้มั้ยครับมอด

จะได้เอาไปตองหน้าพวกฌามาตรสะดวกๆหน่อย

[Hilton(ปาล์มาลี)]

ขอเสริมประเด็นลุงปุอีกหน่อย

 

ถ้าฟองสบู่ไม่แตก จะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่ม 16 ครับ

ตอบว่า อ๋อ ก็เป็นหนี้หัวโตสิ เอาของห้าสิบล้านมากู้ได้สองพันล้าน

ได้เงินมาแล้วเอาไปทำอะไรได้ครับ นอกจากเอาไปเก็งกำไร กับเล่นการเมือง ซึ่งสุดท้ายก็เจ๊งเพราะพวกนี้ไม่ได้อยู่ในธุรกิจที่แท้จริง

 

ดังนั้น ถ้าชวลิตไม่ทำประเทศล่มจม พวกหนี้เน่าเหล่านี้ก็จะล่มจมแทน

การทำให้เกิดฟองสบู่แตก จึงเป็นคุณประโยชน์กับพวกนี้โดยตรง

เรียกว่าเป็นการชักดาบโดยรัฐบาล ชวลิตกับพวกเป็นคนดำเนินการ

 

เห็นใหมครับ ทุกเรื่องที่เกิด

มันไม่เคยมีความโปร่งใสอยู่ในนั้นเลย โกงล้วนๆ

 

 

นี้คือต้นแบบธุรกิจการเมืองยุคแรก  (การเอาเงินออกจากลิ้นชักเถ้าแก่) คอนเช็พท์มาจากความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจอสังหาสมัยชาติขาย

สำเนาโฉนดที่ดินผ่านมือ ก็มีคอมมิชั้น 1เปอร์เซ็นต์ 3 เปอร์เซ็นต์  สภาพคล่องทางการเงินสมัยนั้นสูงมาก

การขายใบจองที่ดิน  คอนโด รถยนตร์ เปลี่ยนมือก็มีส่วนต่างของราคาใบจอง 100 เปอร์เซ็นต์

ยุคนั้น แหล่งเงินคือธนาคาร ที่มีก้อนเงินเม็ดใหญ่  การเอาโครงการณ์เข้าธนาคาร ได้ว่ากันเป็นพันล้าน

ที่แปลงนี้น่าจะอยู่ที่หนองคาย 2500ไร่ เป็นที่ดินไร้ประโยชน์ หน้าแล้ง หน้าดินแตก หน้าฝน น้ำท้วมขัง

สำเนาโฉนดที่ดินแปลงนี้ไม่เคยเห็น  แต่เวลาเสนอขายกัน จะเป็นบูลพริ้นของแปลงรวม

แล้วเสนอโครงการณ์สำเร็จที่ธนาคาร บีบีซี ซึ่งมีความโยงใย กับนักปั่นหุ้น (คดีตัดสิน) กลุ่ม16 และ พรรคการเมือง โดยใช้บริษัท นอมินี ยืน

เมืออดีตมีตัวอย่าง ปัจจุบันรูปแบบเดิมก็กลับมา  แต่ธนาคารเอกชนไม่ง่าย เลยมาลงที่ธนาคารของรัฐ 

การกินค่าคอมจะมีแต่ข้าราชการ  ส่วนนักการเมืองเขากินเป็นโครงการ

 

รัฐบาลช่วงนั้น  ชาติชาย -อนันท์ 1-อนันท์2-ชวน1-บรรหาร-ชวลิต (สู้ค่าเงินบาท (อำนวย วีรวรรณ) ลดค่าเงินบาท (ทนง พิทยะ )  ปิดสถาบันการเงิน กู้IMF ตั้งปรส (ทนง พิทยะ ) )-ชวน2 ปิดสถาบันการเงินเพิ่ม เบิกถอนเงินกู้IMF

 

รัฐบาลกับวลีการเมือง

ผมยังไม่ได้รับรายงาน -ยุดแรกของการเข้าสู่การเมืองของทักษิณ สมาชิกพรรคพลังธรรม  

หลงจูเป็นนายกได้  ใครๆก็เป็นได้ -ยุคสอง ของทักษิณหน้าพรรคพลังธรรม 

เดินทางสองแสนกิโล -ยุคสอง ของทักษิณหน้าพรรคพลังธรรม