38 ความเห็นในกระทู้นี้

[tonythebest]

ความจริง ตอนแรกตั้งใจจะเอาไปพูดในกระทู้จักรยานของผมในห้องชายคา

แต่คิดว่า มันเกี่ยวกับประเด็นอื่นๆ ด้วย เลยยกมาพูดในนี้ดีกว่า

 

ได้ยินผมของการจัดกิจกรรม Car Free Day มาพอสมควร

ตอนแรก ผมก็อยากจะไปนะครับ 

แต่คิดไปคิดมา ผมเลยเลือกจะไม่ไป แม้จะมีหลายคนชวน

ด้วยเหตุผลหลักคือ ขี้เกียจ และไม่ชอบไปที่ๆ คนเยอะๆ

 

กิจกรรมที่ว่านี้ โดนบ่นกันถึงเรื่องการเตรียมความพร้อม 

การให้ความรู้ การสื่อสาร และการสร้างความเข้าใจ

ทำให้นักปั่นจำนวนนึง ที่ไปโดยไม่มีเป้าหมาย ขาดจิตสำนึก 

และทำผิดในหลายกรณี ดังกระทู้ใน tag จักรยานจากพันทิป

ที่เมื่อเช้าผมเห็นมีการแชร์กันเต็มเฟสบุคทีเดียว

 

http://pantip.com/topic/31015933

car-free-day >> ขยะในมือท่านทิ้งลงถังเถอะครับ

 

 

car-free-day วันปลอดรถ ลดโลกร้อน รวมพลคนใช้จักรยาน คนที่เข้าร่วมอุดมการณ์น่าจะเป็นคนหัวใจสีเขียว นี่มันเกิดอะไรขึ้น...ฟ้องด้วยภาพ เศร้าเรยเห็นแบบนี้...เหมื่อนงานวัดจบงานขยะเกลื่อนถนน ถ้ายังงัยมีกิจกรรมอะไรต่อไป ฝากด้วยเถอะค๊า ประเทศไทย สังคมไทย รับผิดชอบเฉพาะของตัวเองตัวเอง ก้อช่วยสังคมได้เยอะแล้ว  ขอบคุณภาพจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมถ่ายมาเดือนใจกันน๊าค่ะ....cr.Fronte Latte (fb)..ฝากเป็นกระทู้แนะนำหน่อยนะค๊า ไหว้ล่ะ อยากให้ภาพแบบนี้เสียงดังๆ ไปสะกิดใจใครหลายๆ คนค่ะ

 

 

รวมถึงกระทู้พวกนี้ด้วยครับ

http://pantip.com/topic/31016287

+++ งาน car free day ที่กรุงเทพ ภาพรวมเป็นยังไงมั่งครับ +++

 

 

http://pantip.com/topic/31015929

จักรยานคะ ขอร้องล่ะค่ะ คุณก็เป็นรถบนถนนเหมือนกันนะคะ

 

 

วันนี้เจอเรื่องหงุดหงิดนิดหน่อยค่ะ อันเนื่องมาจากขบวนจักรยาน

ขอร้องนะคะ เคารพกฎจราจรบ้าง

 

ทราบว่าเป็น Car Free Day ก็ไม่แปลกอะไรที่จะเห็นจักรยานเต็มไปหมด

แต่ขณะที่เรากำลังรอให้ไฟแดงจะข้ามถนนตรงแยกวิทยุตัดเพชรบุรี

ก็มีขบวนจักรยานค่ะ ประมาณ 30-40 คัน ปั่นจากประตูน้ำไปทางอโศก

กลุ่มที่ปั่นนำก็ผ่านไฟเขียวไปได้ค่ะ เหลือกลุ่มตามประมาณ 10 คันที่เราคิดว่าน่าจะติดไฟแดง

พอไฟแดงและรถยนต์หลายๆ คันที่จะผ่านแยกนั้นจอดนิ่งแล้ว เรากับคนที่รอข้ามถนนแถวนั้น 3-4 คน ก็ข้ามถนนค่ะ

 

แต่เราเจอกลุ่มตามของจักรยานกลุ่มที่ว่า ปั่นแทรกมาจากรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงอยู่

ด้วยความเข้าใจ(ไปเอง) ว่า จักรยาน ก็รถเหมือนกัน ติดไฟแดงก็คงจะหยุด

ก็ปรากฏว่าไม่หยุดค่ะ กลัวพลัดหลงจากกลุ่มนำหรือยังไงก็ไม่ทราบได้

ประมาณ 10 คันที่ว่า ไม่มีคันไหนชะลอทำทีท่าว่าจะติดไฟแดงเลยแม้แต่คันเดียว

เรากับคนอื่นที่ข้ามถนนก็ข้ามผ่านรถยนต์ไปได้คันนึงแล้ว ต้องมาตกใจกับกลุ่มจักรยานที่ปั่นแทรกขึ้นมาเพื่อฝ่าไฟแดงขึ้นไป

(บอกตรงๆ ว่าตอนแรกรถยนต์บังค่ะ มองไม่เห็นว่ามีเยอะเป็นสิบคัน)

 

เราได้แต่ทำตาเขียวใส่ (ถ้าโดนจักรยานเฉี่ยวก็ไม่สนุกหรอกนะ) มีบางคันที่หันหน้ามาก้มหัวขอโทษขอโพย

เราว่าจะดีกว่าไหมคะ ถ้าคุณยอมจอดติดไฟแดง 

จักรยานก็เป็นรถบนถนนเหมือนกันนะคะ ช่วยทำตามกฎจราจรบ้างอะไรบ้างเถอะค่ะ

อย่ากลัวว่าจะพลัดหลงจากกลุ่มเลยนะคะ กลัวอุบัติเหตุดีกว่าค่ะ

 

ไหนๆ วันนี้ก็ไม่ทันแล้ว ขอฝากไว้คราวหน้าด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

 

 

 

หลายคน บ่นว่า กรุงเทพทำเรื่องนี้แบบค่อนข้างสุกเอาเผากินพอสมควร

รุ่นพี่ผมคนนึง บ่นในเฟสตัวเองว่า 

มีแต่คนถาม ว่าเขาจะไปงานนี้มั๊ย ซึ่งเค้าบอกว่า ไม่มีทางไป

เพราะไม่มีการประกาศเส้นทางให้ชัดเจน (เค้าไม่แน่ใจว่ามีมั๊ย แต่เค้าและคนรอบข้างมาถามหาเส้นทาง แสดงว่าไม่รู้)

มันสร้างปัญหาให้กับการจราจรปกติไปพอสมควร

รวมถึงการให้ความรู้ อธิบายในสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ

ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมางาน ระหว่างงาน หรืออาหารและน้ำที่แจกให้ดื่มกิน

หรือการพวกมากลากไปจนไม่สนใจการจราจร

 

ผมทราบครับ ว่ามันเป็นเรื่องของบุคคล

แต่หลักๆ ก็น่าจะประชาสัมพันธ์กันไว้ล่วงหน้าก็ดีนะครับ

อย่าทำผิดกฏจราจร แม้วันนั้น จักรยานจะเป็นรถหมู่มากบนถนนก็ตาม

 

 

 

เรื่องนี้ สะท้อนให้เห็นการจัดงานที่ไม่มีการเตรียมการอย่างรอบคอบ

และพื้นเพนิสัยคนไทยจริงๆ ด้วย ส่วนนึง

เวลาผมคุยอยู่ในกลุ่มนักปั่น หลายคนก็เรียกร้องให้รถคันอื่นเคารพสิทธิ์ของจักรยาน

ให้มองเห็นหัวจักรยานบ้าง 

แต่งานนี้ จักรยานกร่างไปครับ สมควรอย่างยิ่ง ที่จะโดนด่า

เพราะมันทำให้ภาพของจักรยานทุกคัน เสียไปด้วย ดังในกระทู้ที่ 3 ที่ผมยกมา

 

รวมถึงกรุงเทพมหานคร

ที่ต้องทำให้ดีและรอบคอบกว่านี้

งานนี้ ทำได้แต่เพียงการระดมจักรยานมาให้เยอะที่สุด

โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อคนที่ไม่ปั่นจักรยาน

และไม่คิดถึงผลลบที่คนจะมองจักรยานเป้นส่วนเกินบนท้องถนนไปได้

 

ดังนั้น งานนี้

ถือเป็นคำตอบได้ส่วนนึง ว่าล้มเหลว ในการมุ่งหมายจะสร้างกรุงเทพให้เป็นเมืองจักรยานครับ

 

ฝากใครที่มีอำนาจหากได้เข้ามาอ่านให้คิดดูครับ

[tonythebest]

ลีครับ

อย่าปัญญาอ่อนทำตัวเป็นขยะไปเลยครับ

ว่ากันตามเหตุผล อย่าให้คนที่นี่เค้ารังเกียจลีไปมากกว่านี้เลยครับ

[Emolution]

ควายแดงปัญญาอ่อน

[พระฤๅษี]

..... แหม.. คุณโทนี่ฯ  ไปรึเปล่า.???  ผมภาวนา  อยากให้มีให้เกิดขึ้น

 

จริง ๆ อย่าให้.รถเมย์.มาเสยท้ายล่ะ. ผมอยากจะไปไหน มาไหน ด้วย

 

จักรยาน. จริง ๆ รอ เส้นทางที่ บริสุทธิ์ ปลอดภัย มานานนักหนา  แต่ก็

 

ผิดหวังมาตลอด.( อยากมีทางจักรยาน เป็นอิสระ  โดยไม่มีรถอื่นมายุ่ง)

 

จะมีหวัง หรือเปล่า ยังไม่รู้เลย คุณ โทนี่ ฯ ........

[tonythebest]

i ขยะลีครับ

อย่าปั่นกระทู้ครับ

พ่อแม่ที่ตรัง ไม่เคยสั่งสอนลูกให้ทำตัวเหมือนมนุษย์ปกติหรือครับ

อย่าให้เป็นขยะที่น่ารังเกียจไปกว่านี้เลยครับ

 

เวลาพ่อแม่ลีตายไป เขาจะเสียใจเอาได้ ว่าไม่น่าปล่อยให้ลูกกลายเป้นขยะสังคมไปได้

ระวังเขาจะปีนต้นงิ้วด้วยน้ำตานองหน้านะครับ ลี

[IndyDekDee]

ฉาวโฉ่กับเหล่าผู้รักษ์โลกในงานวัน Car Free Day

ปากพร่ำบ่นว่ารักษ์โลก แต่ใจกลับสกปรกเหลือหลาย 

และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า กทม ชุ่ยแค่ไหนในการจัดการกับการรักษาความสะอาด

ปัจจุบัน การหาถังขยะเพื่อทิ้งขยะสักใบตามท้องถนน เป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

เคยเห็นนักท่องเที่ยวเดินหาถังขยะเพื่อทิ้งขวด/กล่องอาหาร แต่ไม่เจอ ต้องหิ้วขยะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางต่อไป

 

"ถามว่าผู้ว่ากทม รู้สึกรู้สากับเรื่องพวกนี้หรือเปล่า"

 

คำตอบคือเปล่า เพราะท่านไม่เคยเดินถนนครับ 

 

ตามนั้น

 

แล้วคำถามของคุณ มันถามใคร ผู้ว่า..หรือ ผู้เข้าร่วม ?

ถ้าจะด่าผู้เข้าร่วม ผมก็เห็นว่าเหมาะ แต่ที่คุณเกริ่นผมว่าไม่ใช่

[JSN]

หน้าดัานหน้าลีมากครับ

[tonythebest]

..... แหม.. คุณโทนี่ฯ  ไปรึเปล่า.???  ผมภาวนา  อยากให้มีให้เกิดขึ้น

 

จริง ๆ อย่าให้.รถเมย์.มาเสยท้ายล่ะ. ผมอยากจะไปไหน มาไหน ด้วย

 

จักรยาน. จริง ๆ รอ เส้นทางที่ บริสุทธิ์ ปลอดภัย มานานนักหนา  แต่ก็

 

ผิดหวังมาตลอด.( อยากมีทางจักรยาน เป็นอิสระ  โดยไม่มีรถอื่นมายุ่ง)

 

จะมีหวัง หรือเปล่า ยังไม่รู้เลย คุณ โทนี่ ฯ ........

 

 

ผมคิดจะไปเหมือนกันครับ ในตอนแรก

แต่มาคิดถึงระยะทาง หากผมต้องปั่นไปจากบ้านแล้วท้อครับ

ส่วนจะเอาขึ้นรถไฟฟ้าไป ก้เกรงใจคนอื่นครับ เพราะผมไม่ได้ใช้รถพับ

ทราบว่าเขาอนุญาตให้เอาขึ้นไปได้ก็จริง แต่ไปกันหลายคันก็เกะกะครับ

เลยปั่นอยู่แถวนี้แทน

และได้แต่ทำ car free day ส่วนตัว คือไม่ใช้รถยนต์ครับ

 

ตอนบ่ายหรือเย็นของทุกเสาร์หรืออาทิตย์ ผมมักไปยวดตัวนวดขาที่ร้านประจำ

คราวนี้เลยปั่นไปนวดครับ นวดสบายไป 2 ชม

ขากลับก็ปั่นกลับ แล้วก็เมื่อยไปอีกรอบ     

 

แต่ก็ไม่ได้ใช้รถยนต์เลย

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

ขิงไม่อยู่ กทม แต่ปกติเขามีทางสำหรับจักรยานต่างหากไม่ใช่หรือคะ

[JSN]

ทุเรศมากครับ เรื่องขยะมันอยู่ที่สำนึกส่วนบุคคล แต่นี่เอาไปโจมตีผู้ว่า ตลกครับ

[tonythebest]

ขิงไม่อยู่ กทม แต่ปกติเขามีทางสำหรับจักรยานต่างหากไม่ใช่หรือคะ

 

 

ครั้งนี้ จักรยานมาจากทุกสารทิศครับ

หลายคนที่มากันเป็นกลุ่ม หรือกลุ่มใหญ่

ทางจักรยาน ยังมีได้ไม่ครบทุกเส้นถนนหรอกครับ

จักรยานกลายคัน มักไม่ปั่นเป้นเข้าแถวตอน

แต่มักจะปั่นมาตีคู่กันบ้าง ไปจนเป็นหน้ากระดาน

โดยเฉพาะในวันของจักรยานเช่นนี้

หลายคันจึงเห่อเหิม นึกว่าเป็นใหญ่ 

จึงมักมองข้ามข้อระวังตรงนั้นไป

[Bookmarks]

คงประมาณว่า แก้นิสัยทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางไม่ได้ ก็อย่ารณรงค์ขี่จักรยานแทนขับรถ เพื่อประหยัดน้ำมัน 

[tonythebest]

ความจริง จะไม๋โทษผู้ว่าเลยก็ไม่ได้

การเตรียมการเมื่อมีงานใดๆ ก็ควรได้มากกว่านี้แหละครับ

ตัวอย่างการชุมนุมแบบคนเสื้อแดงก็พอมี

แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นถึงขั้นต้องใช้คำว่า ดัดจริต ตามแบบไอ้ลี

 

ว่ากันตามเหตุผลครับ ไม่ใช่ว่าเพระาพ่อแม่ไม่สั่งสอนแบบไอ้ลี

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

 

ขิงไม่อยู่ กทม แต่ปกติเขามีทางสำหรับจักรยานต่างหากไม่ใช่หรือคะ

 

 

ครั้งนี้ จักรยานมาจากทุกสารทิศครับ

หลายคนที่มากันเป็นกลุ่ม หรือกลุ่มใหญ่

ทางจักรยาน ยังมีได้ไม่ครบทุกเส้นถนนหรอกครับ

จักรยานกลายคัน มักไม่ปั่นเป้นเข้าแถวตอน

แต่มักจะปั่นมาตีคู่กันบ้าง ไปจนเป็นหน้ากระดาน

โดยเฉพาะในวันของจักรยานเช่นนี้

หลายคันจึงเห่อเหิม นึกว่าเป็นใหญ่ 

จึงมักมองข้ามข้อระวังตรงนั้นไป

 

 

งั้นต้องจัดระเบียบ และปลูกจิตสำนึกของผู้ใช้จักยานก่อนว่าถึงแม้จะเป็นวันจักรยานก็ต้องเคารพสิทธิ์ผู้ใช้ถนนคนอื่นๆด้วย

[Lucy Van Pelt]

พอดีเห็นเป็นกระทู้จักรยาน เลยขอแสดงความเห็นบ้างครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปทำธุระแถวๆเยาวราช ปกติผมจะขึ้น MRT แล้วไปต่อรถเมล์อีกทีนึง ตอนขากลับก็ขึ้นรถเมล์มาต่อ MRT ที่หัวลำโพง เดินผ่านเห็นที่จอดจักรยานของกทม. มีจักยานจอดอยู่ 4-5คัน มีน้องคนนึงคอยเฝ้า เห็นนั่งเล่น notebook และก็มีพัดลมเป่าให้ตัวนึง แบบนี้นี่ผมว่าไม่มีประโยชน์เลย สู้ทำทึ่จอดจักรยานให้คนเช่ายังดีกว่า

งานจักรยานนี่ก็อีหรอบเดียวกัน ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆอีกหน่อยคนคงไม่เอาด้วยแน่ๆ ผมว่าผลักดันกฏหมายหรือบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับการใช้จักรยานไปเลยดีกว่าครับ

[tonythebest]

 

 

ขิงไม่อยู่ กทม แต่ปกติเขามีทางสำหรับจักรยานต่างหากไม่ใช่หรือคะ

 

 

ครั้งนี้ จักรยานมาจากทุกสารทิศครับ

หลายคนที่มากันเป็นกลุ่ม หรือกลุ่มใหญ่

ทางจักรยาน ยังมีได้ไม่ครบทุกเส้นถนนหรอกครับ

จักรยานกลายคัน มักไม่ปั่นเป้นเข้าแถวตอน

แต่มักจะปั่นมาตีคู่กันบ้าง ไปจนเป็นหน้ากระดาน

โดยเฉพาะในวันของจักรยานเช่นนี้

หลายคันจึงเห่อเหิม นึกว่าเป็นใหญ่ 

จึงมักมองข้ามข้อระวังตรงนั้นไป

 

 

งั้นต้องจัดระเบียบ และปลูกจิตสำนึกของผู้ใช้จักยานก่อนว่าถึงแม้จะเป็นวันจักรยานก็ต้องเคารพสิทธิ์ผู้ใช้ถนนคนอื่นๆด้วย

 

 

 

จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเลยล่ะครับ

เพราะการมีพื้นที่เป็นของตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่จักรยานทุกคนต่างอยากได้อยากมี

ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรจะกระทำ คือการทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี

เพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ ต่อการขี่จักรยาน ต่อผู้ที่กำลังจะคิดขี่ หรือผู้ที่ไม่ได้ขี่ แต่อยู่ในสังคมเดียวกัน

เมื่อขี่ดี คนหันมาขี่เยอะ คนขับรถอื่นๆ เห็นดี ก็หลบให้ หลีกให้ ก็จะยิ่งเพิ่มจำนวนได้ง่าย

ยิ่งเพิ่มจำนวน ก็ยิ่งสร้างพื้นที่ให้จักรยานได้มากขึ้น

ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย

 

แต่ต้องเริ่มจากนี้เลยครับ

จักรยานแวนซ์คงต้องคิดกันใหม่

[ypk]

เหอะ เหอะ ผมมองว่า ผู้ที่ออกมาปั่นจักรยาน ส่วนใหญ่น่าจะเป็นนักปั่นออกกำลัง

มากกว่า นักปั่นไปทำงาน หรือพวกนักปั่นตามท้องถนนตามปกติ

 

พวกนักปั่นออกกำลัง ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการปั่นจักรยานอยู่ในหมู่บ้าน หรือตาม

สวนสาธารณะ ซึ่งมันจะอิสระและไม่ต้องใช้ความระมัดระวังเหมือนปั่นในถนน

 

กทม อาจหวังดี ระดมนักปั่นตามหมู่บ้าน ตามสวนสาธารณะ ออกมารณรงค์ตามถนน

ให้มากที่สุด จนลืมรายละเอียดต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา อย่างเช่น การทิ้งขยะ

การไม่เคารพกฎจราจร หรือแม้แต่เส้นทาง และจุดหมายที่มีการบ่น ๆ กัน ว่าไม่ชัดเจน

 

ผมว่าความจริงมันน่าจะให้ผู้บริหาร กทม ตั้งแต่ผู้ว่า ปั่นนำขบวน เป็นตอน ๆ ไป เพราะคนมันเยอะ

ให้ผู้ว่าปั่นนำตอนแรก โดยเอาธงเสียบหลังไว้ด้วย เพื่อให้คนที่ปั่นอยู่ข้างหลังเห็นว่าไปทางไหน

หยุดตอนไหน เริ่มปั่นตอนไหน ส่วนระดับรอง ๆ ลงไป ก็ปั่นนำแบบเดียวกันเป็นตอน ๆ ไป ไม่งั้น

คนที่ปั่นจักรยาน แรงมันไม่เท่ากัน ปั่นไปปั่นมามันจะทิ้งกลุ่ม กลายเป็นหลายกลุ่มเกะกะไปหมด

จนแทนที่จะถูกชมเลยถูกด่าซะงั้นแหละ

[tonythebest]

พอดีเห็นเป็นกระทู้จักรยาน เลยขอแสดงความเห็นบ้างครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปทำธุระแถวๆเยาวราช ปกติผมจะขึ้น MRT แล้วไปต่อรถเมล์อีกทีนึง ตอนขากลับก็ขึ้นรถเมล์มาต่อ MRT ที่หัวลำโพง เดินผ่านเห็นที่จอดจักรยานของกทม. มีจักยานจอดอยู่ 4-5คัน มีน้องคนนึงคอยเฝ้า เห็นนั่งเล่น notebook และก็มีพัดลมเป่าให้ตัวนึง แบบนี้นี่ผมว่าไม่มีประโยชน์เลย สู้ทำทึ่จอดจักรยานให้คนเช่ายังดีกว่า

งานจักรยานนี่ก็อีหรอบเดียวกัน ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆอีกหน่อยคนคงไม่เอาด้วยแน่ๆ ผมว่าผลักดันกฏหมายหรือบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับการใช้จักรยานไปเลยดีกว่าครับ

 

 

ความจริง โครงการปันปั่นนี้ 

มีโอกาสต่อยอดไปในทางดีได้นะครับ ถ้าทำให้ดีกว่านี้และมีจำนวนมากกว่านี้

แต่คิดว่า คงเป็นโครงการทดลองเท่านั้น

หากเป้นจริงได้ ต่อไปจึงคิดขยายตัว

ถึงตอนนั่น เราน่าจะได้เห็นระบบที่ดีกว่านี้นะครับ (ผมฝันไว้อย่างนั้น)

[JSN]

สงสัยต้องรื้อฟื้นโครงการตาวิเศษ

[tonythebest]

เหอะ เหอะ ผมมองว่า ผู้ที่ออกมาปั่นจักรยาน ส่วนใหญ่น่าจะเป็นนักปั่นออกกำลัง

มากกว่า นักปั่นไปทำงาน หรือพวกนักปั่นตามท้องถนนตามปกติ

 

พวกนักปั่นออกกำลัง ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการปั่นจักรยานอยู่ในหมู่บ้าน หรือตาม

สวนสาธารณะ ซึ่งมันจะอิสระและไม่ต้องใช้ความระมัดระวังเหมือนปั่นในถนน

 

กทม อาจหวังดี ระดมนักปั่นตามหมู่บ้าน ตามสวนสาธารณะ ออกมารณรงค์ตามถนน

ให้มากที่สุด จนลืมรายละเอียดต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา อย่างเช่น การทิ้งขยะ

การไม่เคารพกฎจราจร หรือแม้แต่เส้นทาง และจุดหมายที่มีการบ่น ๆ กัน ว่าไม่ชัดเจน

 

ผมว่าความจริงมันน่าจะให้ผู้บริหาร กทม ตั้งแต่ผู้ว่า ปั่นนำขบวน เป็นตอน ๆ ไป เพราะคนมันเยอะ

ให้ผู้ว่าปั่นนำตอนแรก โดยเอาธงเสียบหลังไว้ด้วย เพื่อให้คนที่ปั่นอยู่ข้างหลังเห็นว่าไปทางไหน

หยุดตอนไหน เริ่มปั่นตอนไหน ส่วนระดับรอง ๆ ลงไป ก็ปั่นนำแบบเดียวกันเป็นตอน ๆ ไป ไม่งั้น

คนที่ปั่นจักรยาน แรงมันไม่เท่ากัน ปั่นไปปั่นมามันจะทิ้งกลุ่ม กลายเป็นหลายกลุ่มเกะกะไปหมด

จนแทนที่จะถูกชมเลยถูกด่าซะงั้นแหละ

 

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ

รวมถึงที่คิดว่า คนที่ออกมาเมื่อวาน น่าจะเป็นนักปั่นที่ไม่ค่อยออกถนน

โดยเฉพาะพวกที่ใช้จักรยานเสือหมอบ เพราะทนสู้ถนนที่ไม่เรียบไม่ได้

 

เวลาปั่นออกกำลังในถนนสำหรับปั่นจักรยาน

กฏนึงที่พวกนั้นเคร่งกัน คือปั่นเร็วชิดขวา ปั่นช้าชิดซ้าย

แต่อาจจะลืมไปว่า ปั่นเร็วชิดขวาบนถนนไม่ได้

เมื่อเห็นว่าตนเองปั่นเร็ว จึงมักฉีกออกขวา ๗ึงกลายเป้นปั่นเข้าไปในส่วนของรถยนต์ไป

 

ครั้งนี้ ผมว่าน่าจะเป็นประสบกาณณ์ที่ดีให้กับ กทม แหละครับ

เพราะเสียงต่อว่า น่าจะเยอะพอสมควร

หากจจัดอีกในปีต่อไป หรือทุกๆ เดือนดังที่ผู้ว่าหวัง

ก็อาจต้องเตรียมการให้ดีกว่านี้

[ทรงธรรม]

แหม น้อง ypk พูดถูก คนที่ออกไป งานแบบนี้

 

ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ ขาประจำ ที่ ปั่นไปทำงาน หรอก อะ

 

 

ขาประจำ อย่างผม อะ เมื่อวาน ไม่ได้ไป มาทำงาน อะ

 

จะว่า ไป ผมเอง มีเรื่อง เล่าเล็ก ๆ เกี่ยวกับ การขี่ จักรยาน

 

มาทำงาน อะนะ

 

 

มีวันหนึ่ง ผมเข็นจักรยาน ไปจอด หลังตึก เหมือนเคย

 

ไอ้หนุ่ม ในรถกระบะ บอกไง รู้ปะ

 

" โอ้โหย ใส่เสื้อเชิ้ต ซะ โก้ ปั่นจักรยาน มาทำงาน "

 

ฮะ ๆ มิน่า บางที มีคนแซว เรา ไม่ยอม เสียค่ารถ

 

 

ถ้าเป็น ตะก่อน นะ ตอน ค่ารถ สองแถว 2 บาท อะ

 

บางที คนก็บอก เอาจักรยาน มาปั่น มันจะคุ้มไหม

 

ไหนจะค่า สูบลม ปะยาง ไหนจะค่า สึกหรอ ของรองเท้า

 

บางที ต้องเอามัน มาช่วยเบรค อะนะ

 

 

แต่เดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ ค่าสองแถว 7 บาท

 

หลายคน เลิกสงสัย ละ แถมบางคน บอก

 

น่า เอาอย่าง ไอ้หน้าจืด ตัวโย่ง นั่น

 

ประหยัดดี ฮะ ๆ

 

 

แต่ ขี่ไกล ก็ไม่ไหว อะนะ

 

จัีกรยาน แม่บ้าน มันแรง ไม่ดี

 

แถม หน้ายาง มัน ก็ค่อนข้าง บอบบาง อะ

 

แต่ สปิริต มันดี นาาา 

 

ขนาด ผม ไม่ค่อย อาบน้ำ ให้เค้า นะ

 

ยัง ยืนหยัด เคียงข้าง ผม มากว่า 20 ปี แล้วนะ

 

เจ้า โฮลี่ mk I และ mk II

[tonythebest]

หมั่นไส้เจ้าโฮลี่ มี mk I กับ mk II ด้วย     

[bangkaa]

ผมไม่ได้คัดค้าน การลดใช้รถยนต์ส่วนตัว มอไซค์ นะครับ

 

การใช้จักรยานก็เป็นทางเลือกอย่างนึง

 

 

 

แต่ ก็ต้องมีเงื่อนไข ที่มันเหมาะสมด้วย....

 

ประเด็นสำคัญที่สุดคือ...   บนท้องถนนที่คับคั่งด้วยรถราในกรุงเทพฯ ไม่เหมาะแก่ การใช้จักรยานครับ

 

อยากใช้จักรยาน... ต้องจัดโซนปลอดรถยนต์ครับ

ให้พื้นที่ส่วนใดส่วนนึง จำกัดการเข้ามาของรถยนต์

 

 

โซนที่ การจราจร ไม่คับคั่ง ก็จะทำให้คนอยากมาใช้จักรยานมากขึ้น

เรื่อง ความปลอดภัยบนท้องถนนสำคัญสุด

 

 

อีกประเด็น...

อากาศร้อนๆในกรุงเทพ ถ้าบวกกับ ไอร้อน ควันร้อน จากรถ นี่มันนรก สำหรับ การใช้จักรยานมาก

ต้องลดข้อจำกัดตรงนี้

 

 

 

ไม่งั้น นโยบายที่ผมเห็นรณรงค์กันอยู่

มันก็ได้ผลเฉพาะ คนที่ รักการปั่นจักรยาน เพื่อสุขภาพ เท่านั้น

ไม่ใช่สำหรับ ปั่นจักรยานเพื่อสัญจรเป็นหลัก...

[เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง]

ผมไม่ได้คัดค้าน การลดใช้รถยนต์ส่วนตัว มอไซค์ นะครับ

 

การใช้จักรยานก็เป็นทางเลือกอย่างนึง

 

 

 

แต่ ก็ต้องมีเงื่อนไข ที่มันเหมาะสมด้วย....

 

ประเด็นสำคัญที่สุดคือ...   บนท้องถนนที่คับคั่งด้วยรถราในกรุงเทพฯ ไม่เหมาะแก่ การใช้จักรยานครับ

 

อยากใช้จักรยาน... ต้องจัดโซนปลอดรถยนต์ครับ

ให้พื้นที่ส่วนใดส่วนนึง จำกัดการเข้ามาของรถยนต์

 

 

โซนที่ การจราจร ไม่คับคั่ง ก็จะทำให้คนอยากมาใช้จักรยานมากขึ้น

เรื่อง ความปลอดภัยบนท้องถนนสำคัญสุด

 

 

อีกประเด็น...

อากาศร้อนๆในกรุงเทพ ถ้าบวกกับ ไอร้อน ควันร้อน จากรถ นี่มันนรก สำหรับ การใช้จักรยานมาก

ต้องลดข้อจำกัดตรงนี้

 

 

 

ไม่งั้น นโยบายที่ผมเห็นรณรงค์กันอยู่

มันก็ได้ผลเฉพาะ คนที่ รักการปั่นจักรยาน เพื่อสุขภาพ เท่านั้น

ไม่ใช่สำหรับ ปั่นจักรยานเพื่อสัญจรเป็นหลัก...

 

ที่เขาพยายามรณรงค์ให้หันมาใช้จักรยานก็เพราะจะลดตัวดำๆนั่นแหละค่ะ

[ทรงธรรม]

อยากใช้จักรยาน... ต้องจัดโซนปลอดรถยนต์ครับ

ให้พื้นที่ส่วนใดส่วนนึง จำกัดการเข้ามาของรถยนต์

 

 

โซนที่ การจราจร ไม่คับคั่ง ก็จะทำให้คนอยากมาใช้จักรยานมากขึ้น

เรื่อง ความปลอดภัยบนท้องถนนสำคัญสุด

 

 

อีกประเด็น...

อากาศร้อนๆในกรุงเทพ ถ้าบวกกับ ไอร้อน ควันร้อน จากรถ นี่มันนรก สำหรับ การใช้จักรยานมาก

ต้องลดข้อจำกัดตรงนี้

 

 

 

คุณ bangkaa พูดถูก

 

ความปลอดภัย บนถนน สำคัญ ที่สุด

 

สำหรับ จักรยาน ตลอด การขี่ ตั้งแต่ ขี่ไปโรงเรียน

 

จนมาทำงาน ตลอด 20 กว่าปี มานี่

 

ผมกลัวมากที่สุด คือ ถูกรถ ทุกชนิด สอย เอาครับ

 

 

ต้องยอมรับ โดยเฉพาะ รถเมล์ กังวล มาก

 

ถ้ามา นะครับ ผมหลบข้างทางเลย

 

มันน่ากลัว สุด ๆ

 

 

ผมยังไม่อยาก หยุดงานเป็นเดือน ๆ หรือ

 

เสีย ขา หรือ แขน ไป อันนี้ แน่นอน

 

 

หวังมาตลอด อะครับ ว่า จะมีเลน ปลอดภัย

 

แต่ ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร หรอก

 

ผม ก็พยายาม เข้าข้างทาง ตลอด ที่จะเป็นไปได้

 

 

ส่วน อากาศ ร้อน  อันนี้ สุด ๆ อะครับ

 

โดยเฉพาะ ตอน มีนา เมษา เวลา ไป เลาะ ๆ หลัง รถยนต์นี่

 

เจอ ท่อไอเสีย เข้าไป จะไข้ขึ้น เอา อะครับ

 

แบบ ตัว มันเหี่ยว เลยครับ

 

 

แต่จะ ชอบมาก ตอนทางโล่ง ๆ

 

ความรู้สึก เหมือน ปาร์แมน ตอน กำลัง บิน บนท้องฟ้า อะครับ

 

อิสระ ซะไม่มี อะครับ น้ำมัน ก็ไม่ต้องเสีย

 

 

อะ ให้เห็นภาพ หน่อย

 

Edited by ทรงธรรม, 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:23.

[Garfield]

เรื่องขยะมีคนเข้าสอบถามในเพจ Bangkok Eyes แล้วมีทีมงานโพสตอบตามนี้นะครับ

 

 

ทางทีมงานได้ประสานกับทางผู้จัดงานแล้ว ได้คำตอบว่า มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ร่วมงานวางขวดน้ำทิ้งไว้

 

โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตามเก็บในภายหลังเนื่องจากผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ต้องร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานต่อ

 

ดังนั้นสำหรับผู้ที่ปั่นจักรยานโดยไม่มีที่เก็บขวดน้ำ นำไปจะเป็นอันตรายต่อการปั่นจักยาน รวมถึงอาจจะทำให้เกิด

 

อุบัติเหตุต่อนักปั่นท่านอื่นกรณีขวดน้ำตกระหว่างปั่น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย การวางขวดน้ำหรือกล่องอาหารไว้ในงาน

 

โดยมีเจ้าหน้าที่ทำคามสะอาดดูแลในภายหลังจะเป็นเรื่องที่ทางผู้จัดงานเห็นว่าสมควรกว่า ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลที่แจ้งมา

 

 

 

ความเห็นส่วนตัวผม ผมก็ยังไม่เห็นด้วยกับผู้จัดงานที่ให้ทำแบบนี้ เพื่อสร้างทัศนคติที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

ยังไงก็น่าจะจัดที่ทิ้งไว้ให้จะดีกว่า มันจะต้องรีบอะไรขนาดนั้น ถ้าแค่เดินไปทิ้งแค่นี้ทำไม่ได้ชีวิตนี้ก็อย่าทำอะไรเลยครับ

[tonythebest]

ขอบคุณ คุณการ์ฟิวล์ สำหรับความกระจ่างครับ

 

ความจริง มีส่วนขยายจากความเห็นของคุณด้วยนิดหน่อยครับ

เคยมีกระทู้ที่ตั้งถามเรื่องการเอาชวดน้ำพลาสติกแบบนี้มาเหมือนกันในพันทิปครับ

หลายท่านให้ความเห็นถึงอันตรายที่เกิดจากเจ้าขวดนี้ครับ

เพราะจะปั่นไปถือไปก็ไม่ได้ ส่วนจะใส่ในที่ใส่กระติกน้ำสำหรับจักรยานก็ลำบาก

เพราะไม่ได้ขนาดกัน จึงสามารถทำให้ขวดตกระหว่างทางได้

เคยมีคนบาดเจ็บเพราะขับไปเหยียบเจ้าขวดนี้มาแล้วเช่นกัน

 

แต่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่แม้จะมีการจัดเก็บทีหลังจริง

ที่จริง น่าจะมีเจ้าหน้าที่สักส่วนหนึ่ง เดินถือถุงดำไปทั่วๆ ก็ได้นะครับ

น่าจะดูดีกว่า

[tonythebest]

ผมไม่ได้คัดค้าน การลดใช้รถยนต์ส่วนตัว มอไซค์ นะครับ

 

การใช้จักรยานก็เป็นทางเลือกอย่างนึง

 

 

 

แต่ ก็ต้องมีเงื่อนไข ที่มันเหมาะสมด้วย....

 

ประเด็นสำคัญที่สุดคือ...   บนท้องถนนที่คับคั่งด้วยรถราในกรุงเทพฯ ไม่เหมาะแก่ การใช้จักรยานครับ

 

อยากใช้จักรยาน... ต้องจัดโซนปลอดรถยนต์ครับ

ให้พื้นที่ส่วนใดส่วนนึง จำกัดการเข้ามาของรถยนต์

 

 

โซนที่ การจราจร ไม่คับคั่ง ก็จะทำให้คนอยากมาใช้จักรยานมากขึ้น

เรื่อง ความปลอดภัยบนท้องถนนสำคัญสุด

 

 

อีกประเด็น...

อากาศร้อนๆในกรุงเทพ ถ้าบวกกับ ไอร้อน ควันร้อน จากรถ นี่มันนรก สำหรับ การใช้จักรยานมาก

ต้องลดข้อจำกัดตรงนี้

 

 

 

ไม่งั้น นโยบายที่ผมเห็นรณรงค์กันอยู่

มันก็ได้ผลเฉพาะ คนที่ รักการปั่นจักรยาน เพื่อสุขภาพ เท่านั้น

ไม่ใช่สำหรับ ปั่นจักรยานเพื่อสัญจรเป็นหลัก...

 

 

ประเด็นนี้ เป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วครับ

เหมือนไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนเลยทีเดียว

 

หลายคน อยากที่จะปั่นจักรยาน และเฝ้าฝันถึงเมืองจักรยาน

และไม่คิดที่จะออกไปปั่นเด็ดขาด หากอากาศยังร้อน เต็มไปด้วยฝุ่นควัน

การจอดรถผิดที่ผิดทาง หรือการที่ยังไม่มีการปันส่วนสำหรับจักรยานอย่างจริงจัง

 

ตรงนี้ คุณมูนเคยออกความเห็นไว้

และภายหลัง ผมก็เห็นคล้อยตามด้วยจากการลองปั่นจริงมาครับ

 

ปัญหาคือ บ้านนี้ เมืองนี้ มีความต้องการมากมาย

และไม่สามารถถูกกระตุ้นให้ทำได้ด้วยความตั้งใจ

แต่มักมาจากความจำเป็น

 

เราจะได้เลนจักรยาน ได้ความเกรงใจ หรือเพียงกระทั่งการเห็นหัวจักรยานจากไหน

 

ผมมองว่า มันน่าจะมาจากความจำเป็น เมื่อมีจำนวนจักรยานเพิ่มขึ้นบนถนน

จักรยาน กลายเป็นส่วนหนึ่งบนท้องถนน

เสียงเรียกร้องจากผู้ขับขี่ มีเสียงดังจากจำนวนผู้ใช้ที่มากพอ

ถึงเวลานั้น ส่ิงที่เรียกร้อง จะได้รับการตอบสนองจากนักการเมืองแน่นอนครับ

 

ทีนี้ ทำอย่างไรจึงจะเพิ่มจำนวนนั่้นได้

 

เราคงต้องมีคนเริ่มครับ

รอให้รัฐบาลหรือผู้ว่าเริ่ม คงเป้นไปได้ยากหรือช้า

คุณขับรถยนต์ ก็ใช่ว่าจะมีอุบัคิเหตุไม่ได้

คุณขับรถยนต์ เคยขับแล้วรู้สึกง่วงมั๊ยครับ นั่นเพราะคุณได้รับก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์เข้าไปกดประสาท

มันก็แทบไม่ได้ต่างกับการขับจักรยานนัก (แต่ก็นะ รถยนต์ก็ยังน้อยกว่าและเย็นสบายกว่าแหละ)

 

เวลาผมปั่นคนเดียว บนถนน

มอเตอร์ไซด์วิ่งย้อนศรมา มันไม่เคยกลัวที่จะชนผมเลย

แต่ถ้าเราปั่นมาสักสิบคัน ผมเชื่อว่ามอเตอร์ไซด์ก็ไม่กล้าแลกครับ

อากาศดีๆ น่ะเหรอ

ลองเปลี่ยนมอเตอร์ไซด์และรถยนต์ ให้เป็นจักรยานซักเศษ 1 ส่วน 10 ดูสิครับ

อากาศดีขึ้น รถติดน้อยลงแน่นอนครับ

[isa]

สมัยที่อยู่ญี่ปุ่นเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ก็เห็นว่าคนญี่ปุ่นใช้จักรยานกันเยอะนะครับ ตามสถานีรถไฟ จะมีจักรยานจอด

เป็นพันๆคันเลยทีเดียว แต่การใช้จักรยานของคนญี่ปุ่นจะสัมพันธ์กับการคมนาคมด้วยเครือข่ายรถไฟของเขา

โดยที่คนที่บ้านอยู่ห่างจากสถานีรถไฟไม่มาก ก็จะเดินไปขึ้นรถไฟ คนที่อยู่ห่างออกไปหน่อย ก็จะใช้จักรยาน 

แต่ถ้าห่างออกไปมากๆก็จะใช้รถเมล์มาที่สถานีรถไฟ แล้วค่อยต่อรถไฟไปทำงาน ซึ่งทั้งเด็กนักเรียน หรือผู้ใหญ่

วัยทำงานก็จะทำแบบเดียวกัน เว้นแต่คนที่มีครอบครัว ภรรยาก็จะขับรถมาส่งสามีไปทำงาน 

 

สมัยที่ผมอยู่ต่างจังหวัดสมัยเด็กๆ ทั้งนักเรียนทั้งครูก็ใช้จักรยานกันเยอะเหมือนกัน เว้นแต่ครูที่บ้านอยู่ไกลมาก

ก็จะใช้มอเตอร์ไซค์

 

อย่างถ้าจะเปลี่ยนกรุงเทพฯเป็นเมืองจักรยาน ผมว่าก็ยังสับสนอยู่นะ ถ้าจะเอาแบบยุโรป ก็คือรอบนอกเมืองใหญ่

ใช้รถยนตร์หรือรถไฟกัน แต่พอเข้าเขตเมือง หรือแหล่งท่องเที่ยว ก็จะกันรถยนตร์ไม่ให้เข้า ให้เป็นถนนคนเดินหรือถนน

จักรยานเท่านั้น อย่างที่เห็นในสารคดีของกรงปารีส หรือบางที่ก็จะเป็นแบบนี้

 

แต่ถ้าเป็นแบบญี่ปุ่น ก็คือสร้างเครือข่ายขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่อย่างรถไฟ และจัดหาที่จอดจักรยานให้กับผู้เดินทาง

นั้่นก็คือ นอกเมืองจะใช้จักรยาน แต่ในเมืองนั้น จะเข้าถึงด้วยรถไฟ หรือรถสาธารณะอย่างอื่น  (อาจจะมีรถยนตร์ส่วนตัวบ้่าง)

แต่สำหรับเมืองไทย ผมว่าการจะสร้างเลนจักรยานร่วมไปกับถนนทุกสายก็เป็นเรื่องยากนะครับ เราเลียนแบบการสร้างถนนแบบอเมริกามานาน

แล้วก็เละพอๆกับอเมริกามาจนปัจจุบัน ถ้าจะสร้างเส้นทางจักรยานที่เป็นเอกเทศต่างหาก ลัดเลาะไปตามซอย และให้มีสะพานลอย หรือทางข้ามที่ปลอดภัยบนถนนหลักๆ อาจจะง่ายกว่าการสร้างเลนจักรยานควบคู่ไปกับถนนใหญ่ทุกสายก็เป็นได้นะ

[HiddenMan]

คำชี้แจงล่าสุดครับ...

 

 

https://www.facebook...ok.Eyes?fref=ts

 

About

ทีมงาน เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

Mission

รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนชาว กทม.

Edited by HiddenMan, 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:31.

[nunoi]

แก้ไขกันไป

 

ปล คนดัดจริต หลงเข้ามาแบนไปล่ะเหรอ ฮาฮา น่ากลัวๆ จริงๆ คนแบบนี้ 

[HiddenMan]

ขออัพเดตในกระทู้คุณโทนี่นะครับ...

 

http://manager.co.th...D=9560000120103

 

วันนี้ (23 ก.ย.) น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า การจัดงาน Bangkok Car Free Day 2013 เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เบื้องต้นสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.รายงานว่า ปริมาณรถยนต์ในวันดังกล่าวลดลง 16% เมื่อเทียบกับวันอาทิตย์ในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยวัดจากปริมาณจราจรบริเวณทางแยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และทางแยกศาลาแดง พบว่า ถนนราชดำเนิน-ดินสอ ในวันธรรมดามีรถยนต์ 33,823 คัน ในวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.มีรถยนต์ 27,131 คัน แต่ในวันคาร์ฟรีเดย์มีรถยนต์ 24,555 คัน ส่วนที่ถนนพระราม 4 ถนนสีลม และถนนราชดำริ ในวันธรรมดามีรถยนต์ 121,967 คัน วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.มีรถยนต์ 34,481 คัน และในวันคาร์ฟรีเดย์มีรถยนต์ 31,861 คัน ทั้งนี้ จะมีการประเมินอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย.ด้วย เพื่อดูว่าปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนตัวลดลงต่อเนื่องหรือไม่ ตามวัตถุประสงค์ของ กทม.ที่รณรงค์ให้คนกรุงเปลี่ยนพฤติกรรมเดินทางใหม่หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ กทม.ได้มอบหมายให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์เป็นประจำทุกเดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างวางแผนงานว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด
       
       น.ส.ตรีดาว กล่าวว่า สำหรับปัญหาขยะจำนวนมากที่พบบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงาน จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตนั้น กทม.หนึ่งในผู้จัดงาน น้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และยินดีแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งขณะอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกล้องซีซีทีวี และได้สอบถามไปยังคณะผู้จัดงานหลัก คือ สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย เนื่องจากเป็นพื้นที่ของห้างฯ และต้องตรวจสอบด้วยว่ามีการถ่ายภาพขยะหลังจากผู้ร่วมงานรับประทานอาหารเสร็จทันที หรือปล่อยขยะทิ้งไว้นานเพียงใดจึงได้มีการจัดเก็บ
       
       “กทม.เป็นเพียงหนึ่งในคณะผู้จัดงาน ซึ่งเรารับผิดชอบพื้นที่สนามหลวงและรอบเกาะรัตนโกสินทร์เป็นหลัก ส่วนพื้นที่ของห้างนั้นเราเพียงแค่เข้าไปช่วยดูแล จึงได้ประสานไปยังสมาคมจักรยานฯ และบริษัทรับจัดงาน ถึงข้อเท็จจริงของภาพขยะที่ออกมา หากเก็บภายใน 1 ชั่วโมงก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าทิ้งไว้นานจนถึงเย็น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ” น.ส.ตรีดาว กล่าว

[tonythebest]

ขอบคุณครับ

[Moon]

มีคนบ่นเรื่องจักรยานขับไม่ดี แล้วผมบ่นได้มั้ย ว่าเมื่อวานผมโดนปาดหน้าเกือบชนผมไปกี่ครั้ง

 

คนเยอะเรื่องแยะ หลากหลายกลุ่ม หลากหลายวัย จะให้สมบูรณ์แบบตามอุดมคติที่ต้องการ

คงจะเป็นไปไม่ได้

 

ผมรู้อย่างเดียว ผมจะทำในสิ่งที่ต้องทำและถูกต้อง ผมมีโอกาสบอกหรือสอนใครผมก็จะทำ

แต่ถ้าเขาไม่ฟังผม ผมก็ปล่อย ไม่สนใจ น้องๆ หลายคนหันมาใส่หมวกเพราะผมสอนผมบ่น

ผมห้ามเด็ดขาดไม่ให้เข้าชมรมที่ผมอยู่ น้องๆ หลายคน รุ้จักรอที่จะติดไฟแดง น้องๆ หลายคน

รู้จักการให้สัญญาณมือ ................. ผมทำแล้ว และมีอีกหลายๆ คนได้ทำมาก่อนเป็นตัวอย่าง

ให้ผมได้ทำตามแล้ว ................. ผมไม่รองอมืองอเท้า เอาแต่นั่งพิพากษ์ คนอื่น ไม่รอครับ

 

กระทู้พวกนั้นมันหน่อมแน้มครับ อย่าไปใส่ใจเลย เรามองตัวของเราดีกว่า ว่าเราจะทำอย่างไร

ให้สิ่งเหล่านั้น หรือน้องๆ ฟิกเกียร์ ที่ยังเกรียนเอาเท่ห์อย่างเดียวไม่ยอมใส่หมวก เขาหันมา

ใส่หมวกกัน และปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัดเหมือนกับผู้ร่วมทางอื่นๆ

 

ผมนั่งอ่านเรื่องนี้มาตลอดทั้งวัน จนผมรู้สึกว่า ใครอินกับเรื่องพวกนี้ เป็นพวกน่ารังเกียจ ดัดจริต

ด่าเป็นอย่างเดียว ไม่มีสมองหาทางแก้ไข ทำไม่เป็น ไร้สาระ

 

เมื่อวานผมโดนปาดหน้า 7 ครั้ง เฉลี่ยแล้ว 10 กิโล ต่อ 1 ครั้ง ผมก็เฉยๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่า เขา

ต้องปาดหน้าผมแน่ๆ เพราะเขากะระยะความเร็วของผมไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าผมปั่นเร็ว เขาเห็นแค่

ว่าผมปั่นจักรยาน 3 คัน ที่ผมชี้ให้เขาเบาได้ทัน นอกนั้น ผมเบรค ปล่อยให้เขาเลี้ยวปาดหน้าผม

ให้เข้าซอยไปก่อน ซึ่งเขาก็ไม่รู้นะว่าเขาปาดหน้าผม ถ้าผมไม่เบรคก็ตูม ผมเข้าใจเขานะ เพราะ

ว่าเขาอาจจะคิดว่าผมชิดซ้ายก็น่าจะเลี้ยวซ้ายก็ได้ ........ 

 

อย่าไปอินมากเลยครับ ช่วยกันมาสร้างดีกว่า ปั่นคนเดียวไม่ได้สอนหรือช่วยคนอื่น ก็ทำอะไรไม่ได้

มากหรอกครับ มาช่วยกันดีกว่าครับ

[Moon]

ส่วนเรื่องขยะ ด้านบนเคลียร์แล้วนะครับ จบ ............ อิอิ

[kim]

บอกตรงๆเห็นใจคนขี่จักรยานมากกว่าคนนั่งรถยนต์นะ

 

อันไหนให้เค้าได้ก็ให้ไปเถอะ เค้าลงมาขี่เพื่อลดการใช้รถยนต์ เสียสละยิ่งกว่าคนนั่งรถ ไหนจะร้อน ไหนจะเสี่ยงตายบนถนน จับผิดเรื่องเล็กๆน้อยไม่ใช่วิสัยของผู้เจริญแล้ว คนที่เค้าขี่จักรยานสำนึกรักโลกผมว่าเค้ามีอยู่เต็มเปี่ยมกันทุกคน

 

จากมุมมองของคนขี่จักรยานมาก่อน และต้องเสียเพื่อนร่วมขี่จากคนขับรถที่ประมาทอ้างว่ามาขวางทางทำไหม ทั้งๆที่ไม่จริง ชนแล้วหนีอีกด้วยซ้ำ

[BlueDragonExp]

อ่านความเห็นที่ 321 ครับ "ทางทีมงานได้ประสานกับทางผู้จัดงานแล้ว ได้คำตอบว่า มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ร่วมงานวางขวดน้ำทิ้งไว้โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตามเก็บในภายหลังเนื่องจากผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ต้องร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานต่อ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ปั่นจักรยานโดยไม่มีที่เก็บขวดน้ำ นำไปจะเป็นอันตรายต่อการปั่นจักยาน รวมถึงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อนักปั่นท่านอื่นกรณีขวดน้ำตกระหว่างปั่น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย การวางขวดน้ำหรือกล่องอาหารไว้ในงานโดยมีเจ้าหน้าที่ทำคามสะอาดดูแลในภายหลังจะเป็นเรื่องที่ทางผู้จัดงานเห็นว่าสมควรกว่า ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลที่แจ้งมา"

[Moon]

อ่านความเห็นที่ 321 ครับ "ทางทีมงานได้ประสานกับทางผู้จัดงานแล้ว ได้คำตอบว่า มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ร่วมงานวางขวดน้ำทิ้งไว้โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตามเก็บในภายหลังเนื่องจากผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ต้องร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานต่อ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ปั่นจักรยานโดยไม่มีที่เก็บขวดน้ำ นำไปจะเป็นอันตรายต่อการปั่นจักยาน รวมถึงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อนักปั่นท่านอื่นกรณีขวดน้ำตกระหว่างปั่น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย การวางขวดน้ำหรือกล่องอาหารไว้ในงานโดยมีเจ้าหน้าที่ทำคามสะอาดดูแลในภายหลังจะเป็นเรื่องที่ทางผู้จัดงานเห็นว่าสมควรกว่า ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลที่แจ้งมา"

 

ขอยืนยันครับ มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเดินถือถุงใส่ขยะ ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นพี่ๆ จากชมรมที่จัดนั่นแหละครับ

มาขอขยะใส่ ผมก็ใส่ แต่ไม่แน่ใจว่าประชาสัมพันธ์แบบนั้นรึเปล่า เพราะมัวแต่เมาท์กับเพื่อนจนน้ำลาย

แตกฟอง ไม่ได้ฟังอะไรทั้งนั้น

[Yasuhiro]

อ่านเรื่องราวจากกระทู้นี้ทำให้ผมรู้สึกว่า แทนที่จะเอาเงินไปทำรถไฟเร็วสูงทั้งหมด น่าจะแบ่งเงินค่อนหนึ่งไปสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมมากขึ้นกว่านี้ และการสร้างคนใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะพัฒนาได้ แต่ถ้าทำได้ก็คุ้ม ผมอาจจะไม่ค่อยชินเวลาที่ผมกลับไปเมืองไทยแล้วเจอคนนำจักรยานเข้าไปบนบีทีเอส เพราะว่าที่ญี่ปุ่นนี่ มันเป็นการรบกวนผู้โดยสารคนอื่นมากกว่า แต่อย่างว่าครับ ประเทศไหนก็ประเทศนั้น

แต่ผมรู้สึกว่า สามัญสำนึกของคนไทยหลายๆคนน่าจะดีกว่านี้ในเรื่องของการนำขวดน้ำเปล่าที่ตัวเองซื้อมาเก็บกลับเอาไปทิ้ง ไม่ใช่หาถังขยะไม่เจอ หรืออะไรก็แล้วแต่วางมันไว้ตรงนั้นเลย ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องน่ารำคาญที่ต้องถือขวดเปล่าไปมาจนกว่าจะเจอถังขยะ แต่ว่าถ้าห่วงใยสิ่งแวดล้อมจริง และคิดถึงส่วนรวมเป็น ภาพที่เห็นมันคงไม่เกิด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่าสังคมไทยกำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพียงแต่ต้องใช้เวลาซึ่งผมเชื่อว่า ก่อนผมอายุ 80ปี คงได้เห็น (ให้เวลาประมาณ 45ปี)