สรุปเหตุผลกันหน่อย...
ฝ่ายที่อ้างว่ามีเสือ
- มีภาพถ่าย
- บันทึกจากการสำรวจ เช่นของนักอนุรักษ์ ,WWF
- บันทึกใน EHIA
ด็อกที่อ้างว่าไม่มีเสือ
- เพราะว่าถ้ามีจริงป่านนี้ชาวบ้านโดนกัดตายไปแล้ว...
ไม่มีเสือในที่ก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์
#101
ตอบ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:38
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#103
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 07:57
น่าลองเอาไอ้ด๊อกขึ้น ฮ. แล้วโยนลงมากลางป่าอ่ะ แล้วพวกเราก็รอมัน พอมันออกมาจากป่าได้จะใช้เวลากี่วันก็ช่างหัวมัน แล้วพวกเราค่อยถามมันว่าเจอเสือไหม
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#104
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 08:11
ผมจบมาอย่างดีนะครับ เช็คประวัติดูได้ ครับ
การรื้อเขื่อน = กุเรื่องสุดน่าละอายเพื่อหลอกคนไทยต้านการสร้างเขื่อน . . . อเมริกาจะรื้อไป 2 เขื่อนเพราะมีอายุนับร้อยปี รั่ว อันตราย ซ่อมไม่คุ้ม และเดี๋ยวนี้เขามีไฟฟ้าจากนิวเคลียร์และอื่นๆ กันแล้ว เขารื้อแค่ 2 จาก 76,000 เขื่อนทั่วประเทศ อย่าเอาข้อมูลเท็จมาหลอกคนไทยด้วยกันเลย เห็นแก่ชาติ เห็นแก่ชาวนา เห็นแก่คนจนจริง ๆ บ้างเถอะ www.greenworld.or.th/columnist/ecosaveworld/1842 และอ่านเรื่องเขื่อนนี้ที่ http://en.wikipedia....lectric_Project
จบมาดี แร้วทำไมทำตัวริยำอย่างนี้อ่ะ
- wat likes this
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
#105
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:14
ผมจบมาอย่างดีนะครับ เช็คประวัติดูได้ ครับ
การรื้อเขื่อน = กุเรื่องสุดน่าละอายเพื่อหลอกคนไทยต้านการสร้างเขื่อน . . . อเมริกาจะรื้อไป 2 เขื่อนเพราะมีอายุนับร้อยปี รั่ว อันตราย ซ่อมไม่คุ้ม และเดี๋ยวนี้เขามีไฟฟ้าจากนิวเคลียร์และอื่นๆ กันแล้ว เขารื้อแค่ 2 จาก 76,000 เขื่อนทั่วประเทศ อย่าเอาข้อมูลเท็จมาหลอกคนไทยด้วยกันเลย เห็นแก่ชาติ เห็นแก่ชาวนา เห็นแก่คนจนจริง ๆ บ้างเถอะ www.greenworld.or.th/columnist/ecosaveworld/1842 และอ่านเรื่องเขื่อนนี้ที่ http://en.wikipedia....lectric_Project
จบมาดี แร้วทำไมทำตัวริยำอย่างนี้อ่ะ
เป็นกรณีตัวอย่างได้อย่างชัดเจนขอรับ... "การศึกษาในระบบที่มีทุกวันนี้... ไม่ได้เป็นเครื่องขัดเกลา หรือสยบความชั่วช้าในสั นดานได้" คนไม่จบปริญญาเอกส่วนมาก... เค้ายังไม่คิดด๊อกๆอย่างนี้เลยขอรับ...
เรียนจบอย่างดี แล้วเป็นอย่างนี้... กรูให้ลูกหลานมันไปบวชชีซะดีกว่า... ถรุ๊ยยยย...
Edited by wat, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:14.
- Rxxxx, Huligan, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and 3 others like this
#106
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:45
POPULAR
- Rxxxx, คนทุกที่, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and 8 others like this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#107
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:02
ไม่รู้ทำไมต้องเข้ากระทู้นี้อีก
อ่อ มาดูด็อกเงิบ
#108
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:06
อยากรู้เรื่องเสือแนะนำให้ด๊อกฯไปถามปลอดครับ
#109
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:06
ไม่น่าเชื่อจะมี "คน" ... โพสต์เรื่องแบบนี้
#110
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:12
เป็นด็อกเตอร์ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนดีเสมอไป
เป็นด็อกเตอร์ ก็สามารถเป็นคนชั่วได้
เป็นด็อกเตอร์ แบบอ่านหนังสือ สอบเองก็มี
แต่เป็นด็อกเตอร์ที่เอาไก่แลกจบก็มีให้เห็น
และเป็นด็อกเตอร์ก็ไม่ได้หมายความว่ารู้ไปซะทุกอย่าง
เพราะเป็นด็อกเตอร์ มันหมายความว่ารู้เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งอย่าลึกซึ้งไม่ใช่หรือ ?
ผมคนกลางเอียงข้างความถูกต้อง
#111
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:07
ทำไมด็อกเตอร์จึงไม่ "ลงสำรวจด้วยตัวเอง" ที่ป่าแม่วงก์เลยล่ะครับ แต่ไม่เอาแบบนั่งเทียนถาม
ความคิดเห็นของประชาชนจังหวัดนครสวรรค์อีกนะ ไปตั้งเต็นท์นอนสักสัปดาห์ในป่า อย่ามีทีมงาน
ขนาบข้าง หากรอดกลับมาได้เสือไม่ขบหัว มาตั้งกระทู้เลย "ด็อกเตอร์ โสฯ ท้าพิสูจน์แล้ว!
นอนป่าเจ็ดวัน ไม่มีแม้เงาเสือ ในป่าแม่วงก์" เชื่อว่าชาวเสรีไทยเว็บบอร์ด ต้องเชื่อ
ด็อกเตอร์แน่ๆ
- คน หมา ขี้ข้า จานบิน... likes this
#112
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:21
ทำไมด็อกเตอร์จึงไม่ "ลงสำรวจด้วยตัวเอง" ที่ป่าแม่วงก์เลยล่ะครับ แต่ไม่เอาแบบนั่งเทียนถาม
ความคิดเห็นของประชาชนจังหวัดนครสวรรค์อีกนะ ไปตั้งเต็นท์นอนสักสัปดาห์ในป่า อย่ามีทีมงาน
ขนาบข้าง หากรอดกลับมาได้เสือไม่ขบหัว มาตั้งกระทู้เลย "ด็อกเตอร์ โสฯ ท้าพิสูจน์แล้ว!
นอนป่าเจ็ดวัน ไม่มีแม้เงาเสือ ในป่าแม่วงก์" เชื่อว่าชาวเสรีไทยเว็บบอร์ด ต้องเชื่อ
ด็อกเตอร์แน่ๆ
ผมว่าเอาจริงๆถึงไอ้เวรนั่นไปเองเสือมันก็ไม่ออกมาหรอกเพราะมันได้กลิ่นคนก็เลยไม่เข้าไปใกล้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยแน่ใจว่ากลิ่นนี้มันควายหรือคนก็ตาม
Edited by Garfield, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:21.
#114
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:40
ถ้าเสือมันหาง่าย เค้าไม่เรียกว่าเสือหรอกครับ
จะทำอะไรจะเขียนอะไร ก็ให้ชาวบ้านเค้ารู้ถึงกี๋นบ้างนะครับ อุส่าห์โชว์มีคำว่า ด๊อก เตอร์ นำหน้าชื่อ
#115
ตอบ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:50
นึกว่าคนจบด็อกเตอร์จะฉลาด เพิ่งมารู้ตัวเองว่าคิดผิดมานาน
"Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely."
#116
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 01:02
นึกว่าคนจบด็อกเตอร์จะฉลาด เพิ่งมารู้ตัวเองว่าคิดผิดมานาน
ตอนแรกก็คิดอย่างนี้ แต่มันคงไม่ใช่ทุกคนหรอกครับ คงต้องดูจากการนำเสนอความคิดเห็น
แต่ถ้าเป็นคนนี้ชัวร์
ถ้าแยกเสียงส่วนใหญ่ กับความถูกต้องไม่ออก ก็อย่ามาอ้างว่ามาจากประชาธิปไตยเลย
#117
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 04:28
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
- yakult likes this
#118
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 06:30
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
เห็นต่างด้วยเหตุผล บนพื้นฐานความจริงก็ว่าไปขอรับ... เห็นต่างด้วยยัดเยียดเรื่องตอแหล แล้วก็แถไปเรื่อย... มันก็ต้องว่ากันไปตามสั นดานล่ะขอรับ...
คนหยาบคายบางครั้งยังน่าอนาถน้อยกว่าคนดูมีการศึกษาที่โคตรเสื่อมเห็นกงจักรเป็นดอกบัวนะขอรับ... นั่นทั้งน่าอนาถและหนักแผ่นดินเลยล่ะขอรับ...
#119
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 06:50
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
หยาบคนที่ควรหยาบ
เหยียดคนที่ควรเหยียด
แม้พระเจ้าพุทธเจ้ายังกล่าวไว้
นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ
ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม
ใคร ๆ ก็พิจารณาตรงกันแร้วว่า คนอย่าง*คุณ*ควรค่าอย่างยิ่งแก่การหมิ่น
- eAT, Huligan, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and 5 others like this
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
#120
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 06:55
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
อนาถนัก ก็อย่ามาตั้งกระทู้บอร์ดนี้
หัวบอร์ดก็มีให้อ่าน "เสรีทางความคิด" พอมีความคิดเห็นต่างจากตัวเอง ก็ทำมาเป็นออกอาการปัญญาอ่อน
- Huligan and ตะนิ่นตาญี like this
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#121
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:48
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
เพราะพวกที่ปากบอกว่ารักชาติแต่รักเงินมากกว่า ทำตัวไร้เหตุผล ไม่รับความเห็นต่าง บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ เข้ามาโพสท์แล้วไม่ตอบเสนอหลักฐานก่อนกล่าวหา กล่าวหาคนอื่นเสียๆหายๆแล้วไม่รับผิดชอบคำพูดตนเอง ยกตนเป็นใหญ่ มองแต่หนทางทำเงิน ตอบไม่ได้ก็ไล่กลับไปอ่านใหม่ แถมกระแนะกระแหนเก่ง แล้วบอกว่าคนอื่นหยาบคาย นี่คือความอนาถของจขกท.ครับ
- Huligan likes this
#122
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:09
โดย: ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์Link: บทความ http://prachatai.com...l/2013/10/49084จากกรณีที่ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ได้เขียนบทความลงในเว็บประชาไท โดยมีชื่อบทความและลิงค์ตามที่ได้อ้างถึงด้านบนนั้น ข้าพเจ้าในฐานะผู้เขียนบทความที่ท่านได้อ้างถึงสองบทความ คิดว่าจะเป็นการเสียมารยาทถ้าหากมีผู้ใหญ่มาตักเตือนแล้วไม่ออกมาไขข้อข้องใจให้ชัดเจน จึงเขียนบทความนี้เพื่อตอบท่าน โดยข้อแบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ1. เขื่อนแม่วงก์ไม่สามารถช่วยเหลือกรณีน้ำท่วมใหญ่ปลายปี พ.ศ. 2554 เนื่องจากเป็นเขื่อนขนาดเล็กและมีปริมาณการกักเก็บน้ำแค่ 1% ของปริมาณน้ำท่วมในคราวนั้นถูกต้องแล้วครับ และทุกครั้งที่ผมได้อ่านหรือฟังการบรรยายของ คุณศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบฯ คุณศศินจะพูดต่อทุกครั้งว่านอกจากช่วยน้ำท่วมใหญ่ไม่ได้แล้ว ยังช่วย อำเภอลาดยาวก็ไม่ได้มากนัก เนื่องจากบริเวณที่สร้างเขื่อนรับน้ำจากผืนป่าที่สมบูรณ์ซึ่งค่อยๆปล่อยน้ำออกมาและมีพื้นที่รับน้ำไม่มากนัก (ในวันที่น้ำหลากท่วมอ.ลาดยาว ภาพถ่ายจากลำน้ำแม่วงก์ตรงจุดที่จะมีการสร้างเขื่อนน้ำยังไม่ได้ไหลแรงอะไรและยังใสอยู่เลยครับ) ในขณะที่น้ำที่ไหลท่วม อ.ลาดยาว จุดที่มีชาวบ้านออกมาเรียกร้องต้องการเขื่อนมากที่สุดนั้น เป็นน้ำหลากมาจากทุ่งฝั่งตะวันตกและเหนือของอำเภอ ซึ่งอยู่นอกพื้นที่ๆเขื่อนแม่วงก์ช่วยเหลืออะไรได้ ซึ่งจะสอดคล้องกับข้อมูลของกรมชลฯที่ระบุว่าถึงแม้จะมีเขื่อนแม่วงก์ก็ช่วยอำเภอลาดยาวได้แค่ 20% เมื่อพูดถึงตรงนี้คุณศศินจะพูดต่อว่า ถ้าจะช่วยแค่ 20% ไปขุดคลองให้ระบายน้ำออกจากอำเภอให้ดีขึ้น 20%ได้ใช้อาทิตย์หน้าเลยในขณะที่เขื่อนแม่วงก์ต้องรออีกตั้ง 8 ปี และใช้งบประมาณมากกว่ากันมหาศาล ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องพื้นที่รับน้ำของลำน้ำแม่วงก์มีอยู่ในบทความนี้ครับhttp://siamensis.org/article/388562. เรื่องบ้านของเสือ เวลานักอนุรักษ์บอกว่าป่าบริเวณนั้นเป็นบ้านแหล่งใหญ่ที่สุดของเสือ เราไม่ได้มองแต่พื้นที่บริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนแค่ 13,000 ไร่ตามที่ท่านเข้าใจ เราไม่ได้มองแค่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ครับ เรามองป่าตะวันตกทั้งผืน ส่วนอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อะไรทั้งหลายนั้นมนุษย์ไปตีเส้นเอง เสือไม่รับรู้ครับ ป่าผืนนี้เป็นป่าผืนใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นจุดที่มีเสืออาศัยอยู่มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก เสือห้วยขาแข้งกับเสือแม่วงก์/คลองลาน จริงๆแล้วก็เป็นเสือประชากรเดียวกัน แต่เสือในป่าแม่วงก์และคลองลานเคยหมดไปเนื่องจากการถูกล่าและบุกรุก เมื่อเราดูแลรักษาอย่างดี เสือจากห้วยขาแข้งจึงกลับขึ้นมาอาศัยอยู่ในแม่วงก์ เสือตัวหนึ่งมีอาณาเขตการหากินกว้างมาก จึงไม่แปลกถ้ามันจะลงมาถึงบริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนซึ่งเป็นพื้นที่ราบริมแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเหยื่อมาก ส่วนข้อมูลจำนวนเสือในป่านั้น ได้มาด้วยการสำรวจโดยใช้กล้องดักถ่ายภาพ แล้วใช้ลายของเสือมาจำแนกเสือแต่ละตัว ซึ่งนักวิจัยพบ “อย่างน้อย” 12 ตัว เป็นไปไม่ได้ที่จะวางกล้องดักถ่ายเสือได้ทั้งป่า ตัวเลขนี้จึงเป็นตัวเลข “อย่างน้อย” ซึ่งการมี***็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องออกมากินหมา กินควาย ขบคนตามที่ท่านจินตนาการ เสือ สัตว์ป่าทุกชนิด กลัวคนโดยสัญชาติญาณ ไม่จำเป็น ไม่ถูกบีบคั้นจริงๆ มันไม่ออกมาหรอกครับ พวกเสือตามข่าวที่ท่านยกมา ส่วนใหญ่ดูสภาพการแล้วว่าน่าจะเป็นเสือหลุด มีตัวที่เบตงที่ไม่แน่ใจเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นเสือป่าก็น่าเสียดายเหลือเกินเพราะเป็นเสือโคร่งชนิดย่อยของทางใต้ที่เหลืออยู่น้อยมาก ในกรณีของเสือนี้ นักอนุรักษ์มิได้ห่วงแต่แค่เรื่องการสูญเสียถิ่นอาศัยจากการสร้างเขื่อนเท่านั้น แต่ห่วงเรื่องการถูกล่าในระหว่างที่มีการก่อสร้างเขื่อน ซึ่งจะมีคนเข้าไปเป็นจำนวนมากในพื้นที่ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นเขตอุทยานชั่วคราว ห่วงทางรถที่จะมีการตัดเข้าไปเพิ่มเติมในป่าเพื่อตัดไม้ว่าต่อไปจะถูกใช้เป็นเส้นทางล่าสัตว์ หวงเรื่องอ่างเก็บน้ำที่จะทำให้การเดินทาง(ทางเรือ)เข้าไปทางตอนในของป่าเพื่อไปล่าสัตว์ง่ายขึ้นอ้างอิง: http://wwf.panda.org/?211011/- 3. ตัวเลขจำนวนต้นไม้ เป็นตัวเลขที่ผมอ้างอิงจาก EIA ที่จัดทำโดยบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งได้รับการว่าจ้างโดยกรมชลประทาน ตัวเลขนี้เป็นการประเมินตามหลักวิชาการป่าไม้ของผู้ทำรายงาน ผมมิได้นึกขึ้นมาเองแต่อย่างใดครับ ซึ่งจะขอชี้แจงต่อ ในกรณีที่ท่านเคยถามว่าเอาข้อมูลจากไหนมาต้านเขื่อนในเมื่อยังไม่มีการเผยแพร่ EHIA ขอเรียนว่าโครงการนี้ได้มีการทำการศึกษาEIA ไปแล้วในปีพ.ศ.2555 ซึ่งก็ได้ครอบคลุมเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ได้นำมาใช้ในการคัดค้าน ส่วนกรณีของ EHIA เป็นการถูกสั่งให้ไปทำในส่วนของ H หรือส่วนของ Health เพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้น ข้อมูลในส่วนเดิมอื่นๆ ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักคือทางด้าน กายภาพ ชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และ คุณค่าคุณภาพของชีวิตนั้นเชื่อว่าไม่ได้มีใหม่หรือมีการแก้ไขมากนัก จึงเชื่อว่าใช้อ้างอิงในการคัดค้านได้ครับ ทั้งนี้ถ้ากรมชลประทานจะยอมให้พวกเราช่วยตรวจสอบ EHIA ฉบับปัจจุบันก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ 4. คลองส่งน้ำมิได้เป็นคำขู่แต่เป็นเรื่องจริงครับ คลองส่งน้ำชุดนี้ มีความกว้าง 50 เมตร มูลค่าก่อสร้างสูงกว่าค่าสร้างเขื่อนครับ ตัวลำน้ำแม่วงก์ตรงจุดที่จะสร้างเขื่อนยังกว้างไม่ถึง 50 เมตรเลยด้วยซ้ำ คงไม่มีลำน้ำคูคลองใดๆในพื้นที่แถวนั้นกว้างขนาดนั้นแล้ว จึงเชื่อได้ว่ามันกินพื้นที่ทำกินชาวบ้านแน่ๆ และก็น่าสนใจว่าถ้าหากทำคลองส่งน้ำกว้าง 50 เมตร สูง 20เมตร ทับลงไปบนเส้นทางน้ำหลากทางระบายน้ำเดิม (ตามที่มีการแนะนำ) น้ำฝนหรือน้ำที่หลากมาจะไหลไปทางไหน คลองส่งน้ำนี้จะกีดขวางการไหลของน้ำทำให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่าปกติหรือไม่? และจะกักให้พื้นที่ๆซึ่งเคยได้รับน้ำหลากไม่ได้รับน้ำหรือไม่? เรื่องที่ดินทำกินของชาวบ้าน ยังมีตรงบริเวณที่จะใช้ปลูกป่าทดแทนอีก 35,000 ไร่ ซึ่งระบุว่าเป็นพื้นที่รกร้างหรือป่าเสื่อมโทรม แต่ถ้าดู Google Earth จะพบว่าพื้นที่ๆจะใช้ปลูกป่าทดแทนเป็นพื้นเกษตรกรรมทั้งสิ้น ผมเห็นด้วยถ้าหากจะมีการยึดที่ดินป่าที่ถูกบุกรุกคืนมาเพื่อปลูกป่า แต่การจะอ้างว่าจะไม่มีใครเดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าว ไม่มีการจ่ายค่าเวรคืน และไม่เคยมีการพูดถึงเลยจากกลุ่มนักการเมืองที่ต้องการสร้างเขื่อน ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและเป็นธรรมกับคนชายขอบเหล่านั้นอ้างอิงและข้อมูลเพิ่มเติม: http://siamensis.org/article/38862และ http://www.siamensis.org/article/35988 5. เรื่องทุจริต เห็นด้วยกับท่านครับ ในส่วนเรื่องการล่ารายชื่อเพื่อการคัดค้านการสร้างเขื่อน ซึ่งท่านได้นำไปเปรียบเทียบว่าจะล่ารายชื่อผู้ที่อยากได้เขื่อนนั้น ผมมีข้อสังเกตดังนี้ครับ1. ป่าแม่วงก์ เป็น “อุทยานแห่งชาติ” ซึ่งเป็นของคนไทยทุกคน เป็นสมบัติของสาธารณะที่เราใช้ร่วมกันทั้งทางตรงและทางอ้อม ผมจึงคิดว่าคนไทยทุกคนมีสิทธิ์ในการร่วมตัดสินใจในครั้งนี้ เราไม่สามารถให้สิทธิ์“คนบ้านใกล้” มาตัดสินใจใช้ทรัพยากรส่วนรวมเพียงกลุ่มเดียวได้ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ก็เหมือนกับคนในซอยบ้านผม วันหนึ่งรุกขึ้นมาบอกว่า จะปิดซอยในบริเวณดังกล่าวเพื่อสร้างเป็นส่วนสาธารณะประจำซอย ผมก็คงไม่สามารถทำได้ แม้นว่าจะเป็นซอยหน้าบ้านผม อุทยานแห่งชาติก็เป็นของสาธารณะอย่างหนึ่งเช่นกัน2. ผมไม่เชื่อว่าชาวบ้านที่อยากได้เขื่อน ได้รับข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจอย่างครบถ้วน แค่ที่ผมได้ฟังจากคลิปที่มีการปราศัยโดยนักการเมืองกลุ่มที่ต้องการสร้างเขื่อน ก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นการนำความจริงแค่ส่วนเดียวมาพูด ผมเคยได้สัมผัสกับชาวบ้านกลุ่มนี้มาแล้วและเชื่อว่ายังมีข้อมูลอีกมากที่พวกเขายังไม่ทราบ แน่นอนว่าถ้ามีคนมาบอกว่ามีเขื่อนแล้วน้ำจะไม่ท่วม จะมีน้ำใช้หน้าแล้ง ใครๆก็ต้องอยากได้ แต่มันเป็นความจริงเพียงแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้นถ้าหากได้มีการศึกษารายละเอียดของโครงการอย่างถ่องแท้ บางทีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแต่ไม่ครอบคลุม ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกหก 3. กลุ่มต่อต้านเขื่อนพูดอยู่เสมอว่าไม่ใช่ว่าเราจะเอาแต่ป่าแต่สัตว์ ไม่สนใจคน แต่เราเชื่อว่าโครงการนี้ช่วยชาวบ้านไม่ได้ตามที่มีการกล่าวอ้าง เราเชื่อว่ามีโครงการที่สามารถใช้งบประมาณน้อยกว่านี้และช่วยชาวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่านี้ เรื่องน้ำท่วม อ.ลาดยาว ได้ยกตัวอย่างไปแล้วว่าสร้างทางระบายน้ำให้ดีก็ช่วยได้และีเร็วกว่า จะสร้างคลองระบายน้ำอีกสักคลองดักไว้ทางด้านเหนือให้น้ำหลากอ้อมไป ก็คงใช้ที่ดินและงบประมาณไม่มากนัก เรื่องน้ำแล้งต้องชี้แจงว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่ได้แล้ง มีฝนมีน้ำ เพียงแต่ไม่มีที่กักเก็บ ดังนั้นการสร้างบ่อน้ำขนาดเล็ก/กลางไว้ตามหัวไร่ปลายนาเพื่อกักเก็บน้ำหลาก สร้างฝายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กักเก็บน้ำไว้ในลำน้ำเป็นช่วงๆ ก็น่าจะเป็นหนทางที่สามารถทำได้และใช้งบประมาณน้อยกว่าครับ ทั้งนี้ผมไม่ได้เป็นวิศกรชลประทานไม่กล้าออกความเห็นมากไปกว่าที่มีอยู่ใน EIA แต่ก็เชื่อว่าเรามีคนดีมีฝีมือที่แก้ปัญหาให้กับชาวบ้านในแถบนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งเขื่อนแม่วงก์ครับสุดท้ายนี้ขออนุญาตเรียนท่านดร.โสภณ ว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ในสังคมที่มีคนเคารพนับถือมาก การที่ท่านยอมรับว่า"ต้องศึกษาข้อมูลมากกว่านี้" แต่ออกมาเขียนบทความกล่าวหาว่าผู้อื่นว่า โกหก บิดเบือนนั้นไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อันมีวิจารณญานอันดีพึงกระทำ จึงเรียนมาด้วยความเคารพครับดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์8 ตุลาคม 2556(เขียนที่เมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่มีพื้นที่ป่าปกคลุมประเทศถึง 67% ก็ยังเจริญได้ เลิกทำลายป่าเพื่ออ้างการพัฒนาเสียทีเถิดครับพี่น้อง)
ภาพเสือจาก WWF
ที่มา: http://www.siamensis.org/article/38956
ด๊อกครับ เจ้าของบทความที่ด๊อกพูดถึงเค้ามาถกด้วยแล้ว ด๊อกว่าไงครับ?
คุณโสภณ มาอ่านด้วยครับ
- Huligan likes this
#123
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:11
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
ตอบไม่ได้ก็เปลี่ยนเรื่อง... อนาถของวงการด็อก ใน fb ก็เหมือนกันโดนเขาต้อน ก็แบนเขา
- เพื่อนร่วมชาติ, Huligan, KundeT and 2 others like this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#124
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:15
ไม่มีเสือในที่ก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์
เสือชุม? . . . อีกหนึ่งวาทกรรมต้านเขื่อน พื้นที่สร้างเขื่อนแค่ 1 ใน 1,000 ของป่าแม่วงก์และผืนป่าตะวันตก ถ้ามีเสืออยู่จริง ป่านนี้ ชาวบ้านที่อาศัยหนาแน่นอยู่รอบๆ คงผวา/ออกไล่ล่าเช่นที่อื่นๆ แล้ว คงมีแต่ยาดองเหล้าตราเสือ 11 ตัว!!ไม่มีเสือในที่ก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์
โปรดอ่าน มติชาวนครสวรรค์ 2/3 ต้องการเขื่อน www.area.co.th/thai/area_announce/area_anpg.php?strquey=area_announcement574.htm
และ
การโกหกบิดเบือนเพื่อต้านการสร้างเขื่อน: www.area.co.th/thai/area_announce/area_anpg.php?strquey=area_announcement575.htm
บอกตามตรงว่าไม่อยากให้ราคากับคนที่ได้สถานะขึ้นต้นนำหน้าชื่อด้วย ดร. แต่เดียงสาด้วยตรรกะทั้งปวง
แต่การแสดงออกความคิดเห็นเชิงปฏิปักษ์ต่อธรรมชาติเช่นนี้ มันไม่เป็นปกติของคนทั่วไปที่หวังจะทำงานด้านสาธารณะ
และการแสดงออกเช่นนี้ ก็ยังย้ำไปถึงจิตอันเสื่อมตั้งแต่ระดับพื้นฐานด้านศีลธรรม จริยธรรม ในตัวของ ดร. ที่มีอันน้อยนิดเหลือเกิน
ไม่ใช่การวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ เพื่อร่วมแก้ไขและหาทางออก แต่เป็นการกัดจิกประเด็นหยุมหยิมเยี่ยงเด็กเกเร
คลั้นจะไม่เอ๋ยถึง ก็จะเป็นการให้ท้ายเด็กเกเร เด็กดื้อด้าน ปัญญาอ่อน ให้แสดงท่าทางอันเป็นมลภาวะทางสังคม และสิ่งแวดล้อม
ทำตัวได้น่ารังเกียจมาก ระดับการศึกษาไม่ได้พัฒนาความเป็นคนขั้นพื้นฐานของมนุษย์ได้จริงๆ หากแต่ส่วนหนึ่งมันต้องมีติดมาแก่กำเนิด
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอันใด ที่ ดร. ไม่เคยประสบความสำเร็จในการลงผู้ว่า กทม. เพราะผู้มีความรู้ระดับเสรีชน ปัญญาชน ย่อมแยกแยะได้
ว่าอันไหนขี้ อันไหนทอง อันไหนคน และอันไหนแค่หมาขี้เรื้อน
People shouldn't be afraid of their government.
Governments should be afraid of their people
#125
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:23
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
ไม่คิดจะอ่านที่สมาชิกเอามาให้อ่านบ้างหรือครับ
ไม่คิดจะแสดงความคิดเห็น หรือตอบตามที่สมาชิกถามบ้างหรือครับ
ถามจริง ?
หรือด็อกถูกโปรแกรมให้ถามคนอื่นอย่างเดียว ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่ามาเล่นบอร์ดการเมืองเลยครับ
สมาชิกถามด้วยเหตุผล และต้องการคำตอบด้วยเหตุผล ไม่ใช่แถอย่างที่ด็อกเป็นอยู่
รู้มั้ยครับ สิ่งที่ด็อกทำสำหรับผมน่าละอายครับ
- แอบดูที่รูเดิม likes this
#126
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:26
สรุปเหตุผลกันหน่อย...
ฝ่ายที่อ้างว่ามีเสือ
- มีภาพถ่าย
- บันทึกจากการสำรวจ เช่นของนักอนุรักษ์ ,WWF
- บันทึกใน EHIA
ด็อกที่อ้างว่าไม่มีเสือ
- เพราะว่าถ้ามีจริงป่านนี้ชาวบ้านโดนกัดตายไปแล้ว...
#127
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:28
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
คนทุกคนเขาเลือกหยาบคาย เพียงบางกรณี
คนทุกคนเขาเลือกพูดดี เพียงบางสถานการณ์
ตัว ดร. เองก็เช่นนั้น เห็นต่างอย่างไร้ข้อมูลอ้างอิง เอาความคิดอคติเป็นที่ตั้ง แล้วกล่าวหาผู้อื่น ทั้งที่ต่างคนต่างไม่เห็นพ้องต้องกัน
ต่างฝ่ายต่างหาข้อมูลมาแย้ง มันก็ประชาธิปไตยดีนี่ ดร.เองน่่ะ ใจกว้างรับฟังความเห็นต่างบ้างหรือป่าว
People shouldn't be afraid of their government.
Governments should be afraid of their people
#128
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 11:19
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
ที่น่าอนาถ คือ คนเห็นต่างที่มันไม่ทำการบ้านเลย เอาแต่คำพูดลอยๆ มาโต้แย้งกับรายงานที่เค้าลงพื้นที่กันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ไอ้คนเห็นต่างที่บอกว่าไม่มีเสือนี่เคยเข้าไปซักครั้งไหมครับ สักแต่พูดแบบไม่ฉลาดให้คนเค้าหัวเราะเยาะไปเรื่อย นี่น่าอนาถจริงๆ
Edited by taze, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 11:19.
- Huligan likes this
"Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely."
#129
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 11:23
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#130
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 11:44
- Huligan likes this
#131
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 11:48
#132
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 13:19
ไอ้ด๊อกกาก กลางวัน มันไม่โผล่มาเลยว่ะ
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#133
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 14:15
แนะนำให้ ดร.ไปนอนป่าแถวนั้นสัก 1 เดือนนะครับ ไม่ต้องพกอุปกรณ์ยังชีพไปมาก หัดไปส่องสัตว์ตอนกลางคืนซะมั่งจะได้ทราบความจริง
#134
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:18
http://www.thairath....t/region/374821
พบเสือโคร่งพื้นที่แม่วงก์-คลองลาน 12 ตัว
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ ยืนยันพบเสือโคร่งในผืนป่าแม่วงก์ และป่าคลองลานเพิ่มอย่างน้อย 12 ตัว...
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ต.ค. นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือโคร่ง ซึ่งศึกษาเรื่องเสือโคร่งในประเทศไทยทำงานด้านวิชาการ ศึกษาเรื่องเสือในผืนป่าตะวันตก ป่าห้วยขาแข้ง ป่าแม่วงก์ ป่าคลองลาน และป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุด จากกล้อง คาเมราแทร็ปที่ WWF ติดตั้งไว้ในป่าแม่วงก์ และป่าคลองลาน พบว่ามีเสือโคร่งขยายอาณาเขตจากป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี มายังป่าแม่วงก์และป่าคลองลานเพิ่มขึ้นเป็น 12 ตัว โดยจับภาพได้ในเขตป่าแม่วงก์ 11 ตัวและป่าคลองลาน 1 ตัว
ดร.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากที่มีผู้กล่าวอ้างว่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไม่มีเสืออย่างที่นักวิชาการนำข้อมูลออกมาเผยแพร่นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเสือจากป่าห้วยขาแข้งเริ่มมีความหนาแน่น เพราะเสือแต่ละตัวต้องการพื้นที่กว้างเพื่อสร้างเป็นอาณาเขตของตนเอง โดยเสือโคร่งเพศผู้แต่ละตัวมีอาณาเขตในการลาดตระเวนเพื่อหากิน ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร หากพื้นที่ใดมีความสมบูรณ์ มีสัตว์ใหญ่ให้ล่า ความต้องการพื้นที่ก็อาจจะแคบลง แต่ละพื้นที่ที่เพศผู้ประกาศอาณาเขตอาจมีเพศเมียอยู่ในอาณาเขตของมัน 2-3 ตัว
ดังนั้นเสือจากป่าห้วยขาแข้งที่เริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่แยกออกจากแม่ จะหาอาณาเขตของตนเอง ซึ่งป่าแม่วงก์และป่าคลองลานก็มีสภาพพื้นที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นผืนป่าเดียวกันกับป่าตะวันตก และมีสัตว์ป่าหรือเหยื่อมากพอให้ล่าเพื่อดำรงชีวิต แม้จะมีคนเดินเข้าออกเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แต่***็อยู่ได้เพราะคนไม่ได้ไปล่าหรือทำร้ายเสือ ซึ่งหลักฐานก็พบจากกล้องคาเมราแทร็ป และร่องรอยเท้าเสือเข้ามาใกล้กับชุมชนหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวเขตป่าแม่วงก์ แต่ก็ยังไม่พบรายงานว่าคนเคยถูกเสือทำร้ายในเขตป่าแม่วงก์ เนื่องจากสัญชาตญาณแห่งความเป็นสัตว์ป่า เสือในป่านั้นกลัวคน หากได้กลิ่นคนก็จะหนี โอกาสที่จะพบเสือในป่าจริงๆ นั้นเป็นเรื่องยากมาก
สำหรับเหตุการณ์ที่เสือโคร่งในป่าทำร้ายคนที่มีการบันทึกไว้ มีเพียง 2 ครั้ง ในปี 2541 และในปี 2519 หากมีการดำเนินกิจการใดมาทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งในพื้นที่ป่าแม่วงก์เวลานี้ เชื่อว่าจะเกิดปัญหาการลดลงของเสือโคร่งในผืนป่าตะวันตก หากไม่สามารถหลีกพ้นจากวิกฤติภัยคุกคาม ที่อยู่ของเสือโคร่ง คาดอีกไม่เกิน 50 ปีข้างหน้า เสือโคร่งป่าอาจเป็นสัตว์สูญพันธุ์เช่นเดียวกับหลายประเทศที่ประสบอยู่เวลานี้
ด็อกจอมโกหกและจอมมั่ว ค่อยๆอ่านที่ผมโพสนะครับ...
Edited by HiddenMan, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:18.
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#135
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:25
http://www.thairath....t/region/374821
พบเสือโคร่งพื้นที่แม่วงก์-คลองลาน 12 ตัว
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ ยืนยันพบเสือโคร่งในผืนป่าแม่วงก์ และป่าคลองลานเพิ่มอย่างน้อย 12 ตัว...
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ต.ค. นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือโคร่ง ซึ่งศึกษาเรื่องเสือโคร่งในประเทศไทยทำงานด้านวิชาการ ศึกษาเรื่องเสือในผืนป่าตะวันตก ป่าห้วยขาแข้ง ป่าแม่วงก์ ป่าคลองลาน และป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุด จากกล้อง คาเมราแทร็ปที่ WWF ติดตั้งไว้ในป่าแม่วงก์ และป่าคลองลาน พบว่ามีเสือโคร่งขยายอาณาเขตจากป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี มายังป่าแม่วงก์และป่าคลองลานเพิ่มขึ้นเป็น 12 ตัว โดยจับภาพได้ในเขตป่าแม่วงก์ 11 ตัวและป่าคลองลาน 1 ตัว
ดร.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากที่มีผู้กล่าวอ้างว่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไม่มีเสืออย่างที่นักวิชาการนำข้อมูลออกมาเผยแพร่นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเสือจากป่าห้วยขาแข้งเริ่มมีความหนาแน่น เพราะเสือแต่ละตัวต้องการพื้นที่กว้างเพื่อสร้างเป็นอาณาเขตของตนเอง โดยเสือโคร่งเพศผู้แต่ละตัวมีอาณาเขตในการลาดตระเวนเพื่อหากิน ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร หากพื้นที่ใดมีความสมบูรณ์ มีสัตว์ใหญ่ให้ล่า ความต้องการพื้นที่ก็อาจจะแคบลง แต่ละพื้นที่ที่เพศผู้ประกาศอาณาเขตอาจมีเพศเมียอยู่ในอาณาเขตของมัน 2-3 ตัว
ดังนั้นเสือจากป่าห้วยขาแข้งที่เริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่แยกออกจากแม่ จะหาอาณาเขตของตนเอง ซึ่งป่าแม่วงก์และป่าคลองลานก็มีสภาพพื้นที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นผืนป่าเดียวกันกับป่าตะวันตก และมีสัตว์ป่าหรือเหยื่อมากพอให้ล่าเพื่อดำรงชีวิต แม้จะมีคนเดินเข้าออกเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แต่***็อยู่ได้เพราะคนไม่ได้ไปล่าหรือทำร้ายเสือ ซึ่งหลักฐานก็พบจากกล้องคาเมราแทร็ป และร่องรอยเท้าเสือเข้ามาใกล้กับชุมชนหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวเขตป่าแม่วงก์ แต่ก็ยังไม่พบรายงานว่าคนเคยถูกเสือทำร้ายในเขตป่าแม่วงก์ เนื่องจากสัญชาตญาณแห่งความเป็นสัตว์ป่า เสือในป่านั้นกลัวคน หากได้กลิ่นคนก็จะหนี โอกาสที่จะพบเสือในป่าจริงๆ นั้นเป็นเรื่องยากมาก
สำหรับเหตุการณ์ที่เสือโคร่งในป่าทำร้ายคนที่มีการบันทึกไว้ มีเพียง 2 ครั้ง ในปี 2541 และในปี 2519 หากมีการดำเนินกิจการใดมาทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งในพื้นที่ป่าแม่วงก์เวลานี้ เชื่อว่าจะเกิดปัญหาการลดลงของเสือโคร่งในผืนป่าตะวันตก หากไม่สามารถหลีกพ้นจากวิกฤติภัยคุกคาม ที่อยู่ของเสือโคร่ง คาดอีกไม่เกิน 50 ปีข้างหน้า เสือโคร่งป่าอาจเป็นสัตว์สูญพันธุ์เช่นเดียวกับหลายประเทศที่ประสบอยู่เวลานี้
ด็อกจอมโกหกและจอมมั่ว ค่อยๆอ่านที่ผมโพสนะครับ...
ข่าวนี้จริงแน่นอน เพราะมันมีเหตุที่ทำให้เสือที่ป่าคลองลานกับแม่วงก์เพิ่มขึ้น
#136
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:59
โดย: ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์Link: บทความ http://prachatai.com...l/2013/10/49084จากกรณีที่ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ได้เขียนบทความลงในเว็บประชาไท โดยมีชื่อบทความและลิงค์ตามที่ได้อ้างถึงด้านบนนั้น ข้าพเจ้าในฐานะผู้เขียนบทความที่ท่านได้อ้างถึงสองบทความ คิดว่าจะเป็นการเสียมารยาทถ้าหากมีผู้ใหญ่มาตักเตือนแล้วไม่ออกมาไขข้อข้องใจให้ชัดเจน จึงเขียนบทความนี้เพื่อตอบท่าน โดยข้อแบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ1. เขื่อนแม่วงก์ไม่สามารถช่วยเหลือกรณีน้ำท่วมใหญ่ปลายปี พ.ศ. 2554 เนื่องจากเป็นเขื่อนขนาดเล็กและมีปริมาณการกักเก็บน้ำแค่ 1% ของปริมาณน้ำท่วมในคราวนั้นถูกต้องแล้วครับ และทุกครั้งที่ผมได้อ่านหรือฟังการบรรยายของ คุณศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบฯ คุณศศินจะพูดต่อทุกครั้งว่านอกจากช่วยน้ำท่วมใหญ่ไม่ได้แล้ว ยังช่วย อำเภอลาดยาวก็ไม่ได้มากนัก เนื่องจากบริเวณที่สร้างเขื่อนรับน้ำจากผืนป่าที่สมบูรณ์ซึ่งค่อยๆปล่อยน้ำออกมาและมีพื้นที่รับน้ำไม่มากนัก (ในวันที่น้ำหลากท่วมอ.ลาดยาว ภาพถ่ายจากลำน้ำแม่วงก์ตรงจุดที่จะมีการสร้างเขื่อนน้ำยังไม่ได้ไหลแรงอะไรและยังใสอยู่เลยครับ) ในขณะที่น้ำที่ไหลท่วม อ.ลาดยาว จุดที่มีชาวบ้านออกมาเรียกร้องต้องการเขื่อนมากที่สุดนั้น เป็นน้ำหลากมาจากทุ่งฝั่งตะวันตกและเหนือของอำเภอ ซึ่งอยู่นอกพื้นที่ๆเขื่อนแม่วงก์ช่วยเหลืออะไรได้ ซึ่งจะสอดคล้องกับข้อมูลของกรมชลฯที่ระบุว่าถึงแม้จะมีเขื่อนแม่วงก์ก็ช่วยอำเภอลาดยาวได้แค่ 20% เมื่อพูดถึงตรงนี้คุณศศินจะพูดต่อว่า ถ้าจะช่วยแค่ 20% ไปขุดคลองให้ระบายน้ำออกจากอำเภอให้ดีขึ้น 20%ได้ใช้อาทิตย์หน้าเลยในขณะที่เขื่อนแม่วงก์ต้องรออีกตั้ง 8 ปี และใช้งบประมาณมากกว่ากันมหาศาล ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องพื้นที่รับน้ำของลำน้ำแม่วงก์มีอยู่ในบทความนี้ครับhttp://siamensis.org/article/388562. เรื่องบ้านของเสือ เวลานักอนุรักษ์บอกว่าป่าบริเวณนั้นเป็นบ้านแหล่งใหญ่ที่สุดของเสือ เราไม่ได้มองแต่พื้นที่บริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนแค่ 13,000 ไร่ตามที่ท่านเข้าใจ เราไม่ได้มองแค่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ครับ เรามองป่าตะวันตกทั้งผืน ส่วนอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อะไรทั้งหลายนั้นมนุษย์ไปตีเส้นเอง เสือไม่รับรู้ครับ ป่าผืนนี้เป็นป่าผืนใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นจุดที่มีเสืออาศัยอยู่มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก เสือห้วยขาแข้งกับเสือแม่วงก์/คลองลาน จริงๆแล้วก็เป็นเสือประชากรเดียวกัน แต่เสือในป่าแม่วงก์และคลองลานเคยหมดไปเนื่องจากการถูกล่าและบุกรุก เมื่อเราดูแลรักษาอย่างดี เสือจากห้วยขาแข้งจึงกลับขึ้นมาอาศัยอยู่ในแม่วงก์ เสือตัวหนึ่งมีอาณาเขตการหากินกว้างมาก จึงไม่แปลกถ้ามันจะลงมาถึงบริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนซึ่งเป็นพื้นที่ราบริมแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเหยื่อมาก ส่วนข้อมูลจำนวนเสือในป่านั้น ได้มาด้วยการสำรวจโดยใช้กล้องดักถ่ายภาพ แล้วใช้ลายของเสือมาจำแนกเสือแต่ละตัว ซึ่งนักวิจัยพบ “อย่างน้อย” 12 ตัว เป็นไปไม่ได้ที่จะวางกล้องดักถ่ายเสือได้ทั้งป่า ตัวเลขนี้จึงเป็นตัวเลข “อย่างน้อย” ซึ่งการมี***็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องออกมากินหมา กินควาย ขบคนตามที่ท่านจินตนาการ เสือ สัตว์ป่าทุกชนิด กลัวคนโดยสัญชาติญาณ ไม่จำเป็น ไม่ถูกบีบคั้นจริงๆ มันไม่ออกมาหรอกครับ พวกเสือตามข่าวที่ท่านยกมา ส่วนใหญ่ดูสภาพการแล้วว่าน่าจะเป็นเสือหลุด มีตัวที่เบตงที่ไม่แน่ใจเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นเสือป่าก็น่าเสียดายเหลือเกินเพราะเป็นเสือโคร่งชนิดย่อยของทางใต้ที่เหลืออยู่น้อยมาก ในกรณีของเสือนี้ นักอนุรักษ์มิได้ห่วงแต่แค่เรื่องการสูญเสียถิ่นอาศัยจากการสร้างเขื่อนเท่านั้น แต่ห่วงเรื่องการถูกล่าในระหว่างที่มีการก่อสร้างเขื่อน ซึ่งจะมีคนเข้าไปเป็นจำนวนมากในพื้นที่ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นเขตอุทยานชั่วคราว ห่วงทางรถที่จะมีการตัดเข้าไปเพิ่มเติมในป่าเพื่อตัดไม้ว่าต่อไปจะถูกใช้เป็นเส้นทางล่าสัตว์ หวงเรื่องอ่างเก็บน้ำที่จะทำให้การเดินทาง(ทางเรือ)เข้าไปทางตอนในของป่าเพื่อไปล่าสัตว์ง่ายขึ้นอ้างอิง: http://wwf.panda.org/?211011/- 3. ตัวเลขจำนวนต้นไม้ เป็นตัวเลขที่ผมอ้างอิงจาก EIA ที่จัดทำโดยบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งได้รับการว่าจ้างโดยกรมชลประทาน ตัวเลขนี้เป็นการประเมินตามหลักวิชาการป่าไม้ของผู้ทำรายงาน ผมมิได้นึกขึ้นมาเองแต่อย่างใดครับ ซึ่งจะขอชี้แจงต่อ ในกรณีที่ท่านเคยถามว่าเอาข้อมูลจากไหนมาต้านเขื่อนในเมื่อยังไม่มีการเผยแพร่ EHIA ขอเรียนว่าโครงการนี้ได้มีการทำการศึกษาEIA ไปแล้วในปีพ.ศ.2555 ซึ่งก็ได้ครอบคลุมเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ได้นำมาใช้ในการคัดค้าน ส่วนกรณีของ EHIA เป็นการถูกสั่งให้ไปทำในส่วนของ H หรือส่วนของ Health เพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้น ข้อมูลในส่วนเดิมอื่นๆ ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักคือทางด้าน กายภาพ ชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และ คุณค่าคุณภาพของชีวิตนั้นเชื่อว่าไม่ได้มีใหม่หรือมีการแก้ไขมากนัก จึงเชื่อว่าใช้อ้างอิงในการคัดค้านได้ครับ ทั้งนี้ถ้ากรมชลประทานจะยอมให้พวกเราช่วยตรวจสอบ EHIA ฉบับปัจจุบันก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ 4. คลองส่งน้ำมิได้เป็นคำขู่แต่เป็นเรื่องจริงครับ คลองส่งน้ำชุดนี้ มีความกว้าง 50 เมตร มูลค่าก่อสร้างสูงกว่าค่าสร้างเขื่อนครับ ตัวลำน้ำแม่วงก์ตรงจุดที่จะสร้างเขื่อนยังกว้างไม่ถึง 50 เมตรเลยด้วยซ้ำ คงไม่มีลำน้ำคูคลองใดๆในพื้นที่แถวนั้นกว้างขนาดนั้นแล้ว จึงเชื่อได้ว่ามันกินพื้นที่ทำกินชาวบ้านแน่ๆ และก็น่าสนใจว่าถ้าหากทำคลองส่งน้ำกว้าง 50 เมตร สูง 20เมตร ทับลงไปบนเส้นทางน้ำหลากทางระบายน้ำเดิม (ตามที่มีการแนะนำ) น้ำฝนหรือน้ำที่หลากมาจะไหลไปทางไหน คลองส่งน้ำนี้จะกีดขวางการไหลของน้ำทำให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่าปกติหรือไม่? และจะกักให้พื้นที่ๆซึ่งเคยได้รับน้ำหลากไม่ได้รับน้ำหรือไม่? เรื่องที่ดินทำกินของชาวบ้าน ยังมีตรงบริเวณที่จะใช้ปลูกป่าทดแทนอีก 35,000 ไร่ ซึ่งระบุว่าเป็นพื้นที่รกร้างหรือป่าเสื่อมโทรม แต่ถ้าดู Google Earth จะพบว่าพื้นที่ๆจะใช้ปลูกป่าทดแทนเป็นพื้นเกษตรกรรมทั้งสิ้น ผมเห็นด้วยถ้าหากจะมีการยึดที่ดินป่าที่ถูกบุกรุกคืนมาเพื่อปลูกป่า แต่การจะอ้างว่าจะไม่มีใครเดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าว ไม่มีการจ่ายค่าเวรคืน และไม่เคยมีการพูดถึงเลยจากกลุ่มนักการเมืองที่ต้องการสร้างเขื่อน ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและเป็นธรรมกับคนชายขอบเหล่านั้นอ้างอิงและข้อมูลเพิ่มเติม: http://siamensis.org/article/38862และ http://www.siamensis.org/article/35988 5. เรื่องทุจริต เห็นด้วยกับท่านครับ ในส่วนเรื่องการล่ารายชื่อเพื่อการคัดค้านการสร้างเขื่อน ซึ่งท่านได้นำไปเปรียบเทียบว่าจะล่ารายชื่อผู้ที่อยากได้เขื่อนนั้น ผมมีข้อสังเกตดังนี้ครับ1. ป่าแม่วงก์ เป็น “อุทยานแห่งชาติ” ซึ่งเป็นของคนไทยทุกคน เป็นสมบัติของสาธารณะที่เราใช้ร่วมกันทั้งทางตรงและทางอ้อม ผมจึงคิดว่าคนไทยทุกคนมีสิทธิ์ในการร่วมตัดสินใจในครั้งนี้ เราไม่สามารถให้สิทธิ์“คนบ้านใกล้” มาตัดสินใจใช้ทรัพยากรส่วนรวมเพียงกลุ่มเดียวได้ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ก็เหมือนกับคนในซอยบ้านผม วันหนึ่งรุกขึ้นมาบอกว่า จะปิดซอยในบริเวณดังกล่าวเพื่อสร้างเป็นส่วนสาธารณะประจำซอย ผมก็คงไม่สามารถทำได้ แม้นว่าจะเป็นซอยหน้าบ้านผม อุทยานแห่งชาติก็เป็นของสาธารณะอย่างหนึ่งเช่นกัน2. ผมไม่เชื่อว่าชาวบ้านที่อยากได้เขื่อน ได้รับข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจอย่างครบถ้วน แค่ที่ผมได้ฟังจากคลิปที่มีการปราศัยโดยนักการเมืองกลุ่มที่ต้องการสร้างเขื่อน ก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นการนำความจริงแค่ส่วนเดียวมาพูด ผมเคยได้สัมผัสกับชาวบ้านกลุ่มนี้มาแล้วและเชื่อว่ายังมีข้อมูลอีกมากที่พวกเขายังไม่ทราบ แน่นอนว่าถ้ามีคนมาบอกว่ามีเขื่อนแล้วน้ำจะไม่ท่วม จะมีน้ำใช้หน้าแล้ง ใครๆก็ต้องอยากได้ แต่มันเป็นความจริงเพียงแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้นถ้าหากได้มีการศึกษารายละเอียดของโครงการอย่างถ่องแท้ บางทีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแต่ไม่ครอบคลุม ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกหก 3. กลุ่มต่อต้านเขื่อนพูดอยู่เสมอว่าไม่ใช่ว่าเราจะเอาแต่ป่าแต่สัตว์ ไม่สนใจคน แต่เราเชื่อว่าโครงการนี้ช่วยชาวบ้านไม่ได้ตามที่มีการกล่าวอ้าง เราเชื่อว่ามีโครงการที่สามารถใช้งบประมาณน้อยกว่านี้และช่วยชาวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่านี้ เรื่องน้ำท่วม อ.ลาดยาว ได้ยกตัวอย่างไปแล้วว่าสร้างทางระบายน้ำให้ดีก็ช่วยได้และีเร็วกว่า จะสร้างคลองระบายน้ำอีกสักคลองดักไว้ทางด้านเหนือให้น้ำหลากอ้อมไป ก็คงใช้ที่ดินและงบประมาณไม่มากนัก เรื่องน้ำแล้งต้องชี้แจงว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่ได้แล้ง มีฝนมีน้ำ เพียงแต่ไม่มีที่กักเก็บ ดังนั้นการสร้างบ่อน้ำขนาดเล็ก/กลางไว้ตามหัวไร่ปลายนาเพื่อกักเก็บน้ำหลาก สร้างฝายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กักเก็บน้ำไว้ในลำน้ำเป็นช่วงๆ ก็น่าจะเป็นหนทางที่สามารถทำได้และใช้งบประมาณน้อยกว่าครับ ทั้งนี้ผมไม่ได้เป็นวิศกรชลประทานไม่กล้าออกความเห็นมากไปกว่าที่มีอยู่ใน EIA แต่ก็เชื่อว่าเรามีคนดีมีฝีมือที่แก้ปัญหาให้กับชาวบ้านในแถบนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งเขื่อนแม่วงก์ครับสุดท้ายนี้ขออนุญาตเรียนท่านดร.โสภณ ว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ในสังคมที่มีคนเคารพนับถือมาก การที่ท่านยอมรับว่า"ต้องศึกษาข้อมูลมากกว่านี้" แต่ออกมาเขียนบทความกล่าวหาว่าผู้อื่นว่า โกหก บิดเบือนนั้นไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อันมีวิจารณญานอันดีพึงกระทำ จึงเรียนมาด้วยความเคารพครับดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์8 ตุลาคม 2556(เขียนที่เมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่มีพื้นที่ป่าปกคลุมประเทศถึง 67% ก็ยังเจริญได้ เลิกทำลายป่าเพื่ออ้างการพัฒนาเสียทีเถิดครับพี่น้อง)
ภาพเสือจาก WWF
ที่มา: http://www.siamensis.org/article/38956
ด๊อกครับ เจ้าของบทความที่ด๊อกพูดถึงเค้ามาถกด้วยแล้ว ด๊อกว่าไงครับ?
คุณโสภณ มาอ่านด้วยครับ
ดูคอมเมนต์ของมันก็รู้ อาจารย์นณณ์ มาแบบโคตรสุภาพเลย(เป็นผมล่ะใส่เละแล้ว)...แต่มันก็ยังไม่วายเข้าไปแดกดันด้วยถ้อยคำโอหังแบบนี้
"การโกหกและบิดเบือนเพื่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์"
แบบนี้ไม่เรียกว่าต้องการแลกเปลี่ยนแล้ว หาเรื่องเกรียนมากกว่า
เขายกข้อมูลมาละเอียดยิบ ชุดใหญ่ด้วย แต่ไอ่ด๊อกก็ไม่วายแถกลับด้วยประโยคเดิมๆ
" ถ้ามีเสือจริง ป่านนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือชาวบ้านแถวนั้นคงถูก***ัดตายไปแล้ว หรือถ้ามีคนอื่นเห็นจริง ก็คงต้องรีบตามล่ากันจ้าละหวั่นเหมือนที่เคยมีในบริเวณอื่นแล้ว {5} เพราะรอบ ๆ พื้นที่ชายป่าที่เรียกว่า "แม่วงก์" นี้ มีหมู่บ้านชาวบ้าน รีสอร์ต ฯลฯ เกิดขึ้นเต็มไปหมด ป่านนี้แต่ละบ้านคงได้แต่นั่งสวดมนต์แล้ว"
สงสัยไอ้ด๊อกนี่จะอ่านหนังสือได้ไม่เกิน 3 บรรทัดแหง๋ๆ
Edited by Huligan, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:05.
#137
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:24
พบเสือโคร่งพื้นที่แม่วงก์-คลองลาน 12 ตัว
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ ยืนยันพบเสือโคร่งในผืนป่าแม่วงก์ และป่าคลองลานเพิ่มอย่างน้อย 12 ตัว...
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ต.ค. นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้ม เจริญ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือโคร่ง ซึ่งศึกษาเรื่องเสือโคร่งในประเทศไทยทำงานด้านวิชาการ ศึกษาเรื่องเสือในผืนป่าตะวันตก ป่าห้วยขาแข้ง ป่าแม่วงก์ ป่าคลองลาน และป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุด จากกล้อง คาเมราแทร็ปที่ WWF ติดตั้งไว้ในป่าแม่วงก์ และป่าคลองลาน พบว่ามีเสือโคร่งขยายอาณาเขตจากป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี มายังป่าแม่วงก์และป่าคลองลานเพิ่มขึ้นเป็น 12 ตัว โดยจับภาพได้ในเขตป่าแม่วงก์ 11 ตัวและป่าคลองลาน 1 ตัว
https://www.facebook.com/serithai.net
Edited by ปุถุชน, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 23:41.
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#138
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 23:41
http://www.thairath....t/region/374821
พบเสือโคร่งพื้นที่แม่วงก์-คลองลาน 12 ตัว
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ ยืนยันพบเสือโคร่งในผืนป่าแม่วงก์ และป่าคลองลานเพิ่มอย่างน้อย 12 ตัว...
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ต.ค. นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือโคร่ง ซึ่งศึกษาเรื่องเสือโคร่งในประเทศไทยทำงานด้านวิชาการ ศึกษาเรื่องเสือในผืนป่าตะวันตก ป่าห้วยขาแข้ง ป่าแม่วงก์ ป่าคลองลาน และป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุด จากกล้อง คาเมราแทร็ปที่ WWF ติดตั้งไว้ในป่าแม่วงก์ และป่าคลองลาน พบว่ามีเสือโคร่งขยายอาณาเขตจากป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี มายังป่าแม่วงก์และป่าคลองลานเพิ่มขึ้นเป็น 12 ตัว โดยจับภาพได้ในเขตป่าแม่วงก์ 11 ตัวและป่าคลองลาน 1 ตัว
ดร.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากที่มีผู้กล่าวอ้างว่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไม่มีเสืออย่างที่นักวิชาการนำข้อมูลออกมาเผยแพร่นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเสือจากป่าห้วยขาแข้งเริ่มมีความหนาแน่น เพราะเสือแต่ละตัวต้องการพื้นที่กว้างเพื่อสร้างเป็นอาณาเขตของตนเอง โดยเสือโคร่งเพศผู้แต่ละตัวมีอาณาเขตในการลาดตระเวนเพื่อหากิน ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร หากพื้นที่ใดมีความสมบูรณ์ มีสัตว์ใหญ่ให้ล่า ความต้องการพื้นที่ก็อาจจะแคบลง แต่ละพื้นที่ที่เพศผู้ประกาศอาณาเขตอาจมีเพศเมียอยู่ในอาณาเขตของมัน 2-3 ตัว
ดังนั้นเสือจากป่าห้วยขาแข้งที่เริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่แยกออกจากแม่ จะหาอาณาเขตของตนเอง ซึ่งป่าแม่วงก์และป่าคลองลานก็มีสภาพพื้นที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นผืนป่าเดียวกันกับป่าตะวันตก และมีสัตว์ป่าหรือเหยื่อมากพอให้ล่าเพื่อดำรงชีวิต แม้จะมีคนเดินเข้าออกเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แต่***็อยู่ได้เพราะคนไม่ได้ไปล่าหรือทำร้ายเสือ ซึ่งหลักฐานก็พบจากกล้องคาเมราแทร็ป และร่องรอยเท้าเสือเข้ามาใกล้กับชุมชนหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวเขตป่าแม่วงก์ แต่ก็ยังไม่พบรายงานว่าคนเคยถูกเสือทำร้ายในเขตป่าแม่วงก์ เนื่องจากสัญชาตญาณแห่งความเป็นสัตว์ป่า เสือในป่านั้นกลัวคน หากได้กลิ่นคนก็จะหนี โอกาสที่จะพบเสือในป่าจริงๆ นั้นเป็นเรื่องยากมาก
สำหรับเหตุการณ์ที่เสือโคร่งในป่าทำร้ายคนที่มีการบันทึกไว้ มีเพียง 2 ครั้ง ในปี 2541 และในปี 2519 หากมีการดำเนินกิจการใดมาทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งในพื้นที่ป่าแม่วงก์เวลานี้ เชื่อว่าจะเกิดปัญหาการลดลงของเสือโคร่งในผืนป่าตะวันตก หากไม่สามารถหลีกพ้นจากวิกฤติภัยคุกคาม ที่อยู่ของเสือโคร่ง คาดอีกไม่เกิน 50 ปีข้างหน้า เสือโคร่งป่าอาจเป็นสัตว์สูญพันธุ์เช่นเดียวกับหลายประเทศที่ประสบอยู่เวลานี้
ด็อกจอมโกหกและจอมมั่ว ค่อยๆอ่านที่ผมโพสนะครับ...
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#139
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:42
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนเห็นแก่ป่าไม้และสัตว์ป่า คนรักชาติ หลายคน หยาบคาย ไร้เหตุผล เมื่อมีคนเห็นต่าง นี่คือความน่าอนาถของสังคมไทยครับผม
ดูไว้ครับ พวกคนดี คนอยากทำลายป่าไม้ คนรักชาติเมื่อมีผลประโยชน์ คนนึง แกล้งสุภาพ ไร้เหตุผล เมื่อมีคนถามข้อสงสัย ก็ไม่ตอบ นี่คือความน่าอนาถของคนระดับด๊อกเตอร์
#140
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:46
โดย: ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์
บทความอ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 137/2556: 8 ตุลาคม 2556 ย้ำไม่มีเสือในพื้นที่สร้างเขื่อนแม่วงก์
http://www.area.co.t...uncement577.htm
เรื่องป่าบริเวณนี้ไม่สำคัญ
จริงๆเรื่องความสำคัญของป่าบริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนแม่วงก์ได้มีผู้เขียนถึงไปเยอะมากว่าทำไมเราถึงต้องรักษาไว้ แต่ในเมื่อท่านยังไม่ได้อ่าน ก็จะเขียนให้ฟังอีกครั้งว่าทำไมเราถึงคิดว่าป่าบริเวณนี้มีความสำคัญ
1. บริเวณนี้เป็นป่าที่ราบริมน้ำครับ ท่านทำอสังหาริมทรัพย์น่าจะทราบดีว่า พื้นที่ราบริมน้ำเป็นพื้นที่ๆราคาแพง ใครๆก็อยากอยู่ เพราะมันอยู่ง่ายเดินง่าย มีน้ำใช้ตลอดปี สัตว์ป่าก็เช่นเดียวกันครับ พื้นที่ป่าตะวันตกที่เหลือส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีพื้นที่ราบจริงๆ ก็แค่บริเวณทุ่งใหญ่นเรศวร ที่ราบแถวห้วยขาแข้ง และริมลำน้ำแม่วงก์แถวนี้ครับ เราจึงอยากรักษาป่าตรงนี้ไว้ให้สัตว์
2. ตามภาพ จะเห็นว่าริมลำน้ำจะมีป่าหญ้าอยู่ ป่าหญ้าพวกนี้ส่วนหนึ่งจะตายลงในฤดูน้ำหลาก และจะขึ้นมาใหม่เมื่อน้ำลดลง ซึ่งจะเป็นอาหารที่ดีมากของสัตว์กินพืชครับ ลองนึกภาพสัตว์เป็นคนก็ได้ครับ มีบ้านอยู่เป็นป่า มีแหล่งอาหารขึ้นอยู่ชายป่า ถัดไปเป็นแหล่งน้ำ มันเป็นทำเลทองจริงๆครับ ในหลักการการบริหารประชากรสัตว์ป่าให้เพิ่มจำนวนการเพิ่ม Edge ซึ่งเป็นรอยต่อของป่ากับระบบนิเวศเปิดโล่งเช่นทุ่งหญ้า ทุ่งหญ้าริมลำน้ำ เป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ ขอยกตัวอย่างให้เห็นที่เขาใหญ่ที่มีการถ่างป่าออกบางส่วนและบริหารให้เป็นทุ่งหญ้า จะมีสัตว์กินพืชออกมาใช้พื้นที่เป็นจำนวนมากครับ ไม่ว่่าเสือจะเข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้หรือไม่ก็ตาม การที่ประชากรอาหารของเสือในพื้นที่นี้มีมากและเพิ่มขึ้น ในที่สุดแล้วสัตว์เหล่านี้ก็ต้องกระจายตัวออกไปนอกพื้นที่ให้***ินอยู่ดีครับ
3. มีสัตว์บางชนิดต้องการพื้นที่เฉพาะลักษณะแบบนี้เพื่อการดำรงชีวิต เช่น นกยูง ซึ่งชอบอาศัยอยู่ในป่าริมน้ำที่มีหาดหิน หาดทราย ปลาตะพากส้ม ซึ่งอาศัยอยู่เฉพาะในลำน้ำที่ราบที่น้ำไหล เป็นต้น
ภาพจาก hugaz.com
เรื่องป่าตรงนั้นไม่มีเสือ
เรื่องเสือจะมีหรือไม่ในป่าบริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อน จริงๆแล้วผมคิดว่าทางผู้วิจัยคือ WWF และกรมอุทยานฯ น่าจะตอบได้ดีกว่าผม(และท่านดร.) แต่ก็ไม่มั่นใจว่าท่านจะมีเวลามาตอบหรือไม่ โดยส่วนตัวแล้วผมเคยพบแต่รอยเท้าเสือขนาดเล็ก(น่าจะเป็นเสือไฟ) อยู่ในบริเวณพื้นที่เขื่อน นอกจากนั้นยังพบรอยเท้าของสัตว์กินพืชที่เป็นอาหารของเสือโคร่งเยอะมาก (เห็นเก้งกับตาหนึ่งครั้ง) คือมีป่า มีน้ำ มีอาหาร เสือมีตีน ทำไมเสือมันถึงจะไม่ลงมาครับ? แต่ถ้าท่านยังยืนยันว่าต้องการหลักฐาน ในกรณีของเสือโคร่ง ครั้งสุดท้ายที่ผมได้คุยกับนักวิจัยผมเข้าใจว่าสามารถดักถ่ายภาพเสือจากพื้นที่สร้างเขื่อนได้แล้ว และเมื่อปีที่แล้วก็ได้ยินว่าดักถ่ายได้ห่างจากจุดที่น้ำจะท่วมถึงเพียง 2 กิโลเมตร ซึ่งไม่ได้ไกลเลยสำหรับสัตว์ที่มีพื้นที่หากินกว้างอย่างเสือ ผมว่าท่านเลิกยกประเด็นเรื่องป่าตรงนี้ไม่มีเสือเถิดครับ อีกสักพักคงจะมีข้อมูล หลักฐานทางวิชาการออกมายืนยันได้เยอะมากครับ
เรื่องป่าบริเวณนี้ถูกล้อมรอบด้วยชาวบ้านและชุมชน
อีกข้อที่ท่านให้ข้อมูลไม่ตรงนักและเน้นย้ำอยู่ในทั้งสองบทความ คือการใช้คำว่า ป่าตรงที่จะมีการสร้างเขื่อน “ล้อมรอบไปด้วยบ้านชาวบ้านและชุมชนมากมาย” ทำให้คนอ่านคิดไปได้ว่าป่าตรงนี้เป็นเกาะ มีคนอาศัยอยู่ล้อมรอบหมดทุกด้าน ทั้งๆที่จริงๆแล้ว อย่างน้อย 3 ทิศ คือทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศใต้ พื้นที่ๆจะถูกสร้างเขื่อนติดป่าสมบูรณ์มีแต่เพียงด้านตะวันออกซึ่งติดกับชุมชนและรีสอร์ทไม่กี่แห่งครับ ภาพพื้นที่ดูได้จากบทความนี้ครับ มีระบุจุดแนวสันเขื่อนอยู่ น้ำจะท่วมไปทางทิศตะวันตก (ซ้ายมือของภาพ) ซึ่งเป็นป่าทั้งสิ้น http://siamensis.org/article/38862
กรณีข่าวเสือที่ท่านยกมาเป็นประเด็นว่าถ้าแม่วงก์มี***็ต้องออกมาขบชาวบ้านแล้ว
ผมได้วิเคราะห์ข่าว Hard fact ของท่านตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ไม่ได้สรุปออกมาเนื่องจากง่วงนอน (ตีสาม) แต่ในเมื่อท่านยังยืนยันใช้ข้อมูลชุดเดิมจึงขออนุญาตวิเคราะห์แต่ละข่าวให้ท่านดังนี้ครับ
1. ข่าว “ชาวบ้าน อ.ประทาย โคราช ออกไล่ล่าเสือโคร่ง หลังพบออกมาหากินในพื้นที่” (www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1374306107)
- ผมดูจาก Google พบว่า อ.ประทายอยู่กลางทุ่ง มีป่าอยู่เพียง 3,000 ไร่ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเสือขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเสือโคร่งหรือเสือดาวอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ
- ในเนื้อหาของข่าว มีส่วนที่ระบุชัดเจนว่าผู้ใหญ่บ้านบอกว่าเป็นเสือที่ถูกปล่อยหรือหลุดจากรถขนสัตว์เถื่อน (ท่านดร.ได้อ่านเนื้อข่าวไหมครับ? เพราะผมงงมากที่ผมชี้ให้เห็นจุดนี้แล้วท่านยังยืนยันอ้างอิงข่าวนี้ขึ้นมาอีก)
- ข่าวเดียวกันนี้ในเว็บไซท์ของข่าวสด ลงภาพรอยตีนด้วย ซึ่งจากภาพจะเห็นว่ามีรอยเล็บเท้าชัดมาก รอยตีนเสือโคร่ง/ดาวไม่มีเล็บเท้าครับ จากภาพฟันธงได้เลยว่ารอยตีนหมาครับ http://www.khaosod.c...kl4TURjMU5nPT0=
2. ข่าว “ชาวบ้านพบเสือ 2 ตัว - ผู้ว่าฯ ตาก วอนอย่าล่า (เพราะออกมาจากป่าสมบูรณ์)” (http://hilight.kapยook.com/view/57796)
สองตัวนี้ชัดเจนว่าออกมาจากป่าสมบูรณ์ คงหลงออกมา ไม่ได้ทำอันตรายหรือสร้างความเดือดร้อนแต่อย่างใด ไม่มีข่าวเพิ่มเติมของเสือสองตัวนี้อีกเลย
3. ข่าว “เสือเบตง สิ้นฤทธิ์ จับตายเสือเบตง หลังตะปบชาวบ้านดับ 3 ราย” (http://hilight.kapook.com/view/79574)
ตัวนี้ได้ให้ความเห็นไปแล้วว่าอาจจะเป็นเสือป่าจริงๆ
4. ข่าว “ชาวบ้านขอนแก่นผวา เสือดาวบุกกินไก่ วอน จนท.เร่งล่า” (www.thairath.co.th/content/region/358936)
เป็นอีกกรณีที่เสือโผล่ออกมาอยู่กลางทุ่ง ซึ่งถ้าอ่านข่าวให้ละเอียดก็จะเห็นว่ามีการให้ความเห็นว่าเป็นเสือที่ถูกปล่อยหรือหลุดออกมาระหว่างลักลอบขน เป็นชุดเดียวกับเสือโคราชในข้อ 1
5. ข่าว “ชาวบุรีรัมย์ผวาพบเสือ-รอยเท้าเกลื่อนขณะเข้าป่าหาเห็ด วอน จนท.เร่งจับตัว” (http://www.manager.c...D=9560000096492)
รอยตีนตามภาพข่าวเห็นรอยเล็บชัดเจน ฟันธงอีกครั้ง ตีนหมาครับ
พอจะสรุปได้ว่าใน จำนวน 5 ข่าวของท่านมีเพียง 2 ข่าวที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเสือออกมาจากป่าจริงๆ และมีเพียงตัวเดียวที่ก่อปัญหาและถูกจัดการไปแล้ว ส่วนอีก 3 ข่าว ไม่เสือหลุด/ปล่อยตามที่ผมชี้ไปแล้วในบทความก่อน ก็หมาน้อยธรรมดาครับ
ส่วนกรณีที่ท่านบอกว่าผม “จับแพะชนแกะ” เรื่องอ้างถึงพื้นที่ป่าของประเทศญี่ปุ่นขอชี้แจงดังนี้ครับ
ตามที่ได้ระบุไว้ในบทความแรกว่าผมอยู่ระหว่างการท่องเที่ยวอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ขับรถมาค่อนข้างไกลพบว่าญี่ปุ่นมีป่าเหลืออยู่มาก (ลูกผมอายุ 6 ขวบยังทักว่าทำไมป่าเค้ากว้างจัง) จำได้คุ้นๆว่าเคยอ่านเจอว่าเป็นประเทศที่มีพื้นที่ป่าปกคลุมประเทศสูงมากประเทศหนึ่งจึงลองค้นดูก็พบว่าสูงมากถึง 67%เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่เหลืออยู่เพียง 30% เท่านั้น ซึ่งตามหลักวิชาการแล้วถ้าจะไม่ให้เกิดกรณีน้ำท่วมหลากโดยไม่เป็นธรรมชาติจะต้องมีพื้นที่ป่าอย่างน้อย 66% (สองในสามของพื้นที่) เรียกว่าตัวเลข 30% ของไทยนั้นน้อยเกินกว่าที่จะรักษาสมดุลไว้ได้อีกแล้ว ในพื้นที่เดียวกันของประเทศไทยจึงมีทั้งอุทกภัยและภัยแล้งห่างกันเพียงไม่กี่เดือน
เมื่อประเทศเรายังดิ้นรนจะทำลายป่าเพื่อการพัฒนากันอีก ผมจึงชี้ให้เห็นว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศญี่ปุ่นเค้าใช้พื้นที่ๆมีอยู่น้อยมากให้เกิดประโยชน์สูงได้ ลองคำนวนพื้นที่ใช้สอยที่มีระหว่างสองประเทศแล้วเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวม พบว่าญี่ปุ่นใช้ที่ดินได้มีประสิทธิภาพกว่าเราประมาณ 47 เท่าครับ เราไม่จำเป็นต้องทำลายป่าอีกแล้ว แต่ขอให้ใช้พื้นที่ๆมีให้มีประสิทธิภาพกว่าในปัจจุบัน เราก็สามารถที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของเราต่อไปได้ครับ ผมคิดว่าผมใช้หน่วยเดียวกันและเขียนถึงเรื่องเดียวกันจึงไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงหาว่าผม “จับแพะชนแกะ”
จริงๆตั้งแต่เห็นท่านดร.โสภณ หันมาสนใจเรื่องเขื่อนแม่วงก์ผมก็ดีใจครับ ท่านเป็นนักประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่มีชื่อเสียง ผมอยากให้ท่านลองประเมินมูลค่าของเขื่อนแม่วงก์ดู โดยที่ไม่ต้องคิดถึงเสือ นกยูง หาดทรายสวยๆไว้ให้เด็กเล่นน้ำ หรือระบบนิเวศใดๆทั้งสิ้นเลยครับ ใช้ตัวเลขล้วนๆ รายจ่าย รายรับของเขื่อน แบบIncome Approach เลย ผมอยากฟังจากท่านจริงๆว่าสมมุตินะครับ สมมุติว่าเป็นโครงการที่ท่านจะลงทุน ท่านจะกล้าลงทุนในโครงการนี้หรือไม่? ผมเชื่อว่าระดับท่านคงหาข้อมูล EIA ทางด้านเศรษฐกิจมาได้ไม่ยากนักครับ หรือถ้าท่านไม่มีผมพร้อมที่จะส่งให้ครับ เป็น EIA ฉบับปี 2555 นะครับ
ขอแสดงความนับถือ
ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์
9 ตุลาคม 2556
#141
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:47
จำผู้ชายในรายการ "คนค้นฅน" ที่ออกมาถามขบวนเดินเท้าของ อ.ศศิน เฉลิมลาภ ว่า "เป็นเอ็นจีโอใช่มั้ย เวลาน้ำท่วม เอ็นจีโอเคยมาดูมั้ย" ได้ไหมครับ น้องคนนี้อยู่ลาดยาว นครสวรรค์ ส่งข่าวมาให้ทราบว่า...
Worawut Tamthinthai
ข่าวดีวันนี้: พี่ร้านขายปุ๋ยในวีดีโอคนค้นคน ที่ออกมาโวยวายว่าNGOรึป่าวเดี๋ยวเจอกัน วันนี้เปิดใจคุยกัน พี่เค้าบอกว่าพี่มัวยุ่งขายของไม่ได้สนใจ เลยรับข้อมูลเท็จๆจากชาวนาและนักการเมืองท้องถิ่นมาตลอด พอลองศึกษาดูเลยรู้แจ้ง ผมเลยอธิบายซ้ำและให้ เอกสาร "ทำไม!..ต้องค้านเขื่อนแม่วงก์" ไป ถือว่าเป็นข่าวดีแต่เช้า ขอบคุณมาก ลูกผู้ชายตัวจริงเลยพี่ ออกมาเคลียร์เอง นับถือ
ชัดม่ะ
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
#142
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:51
จำผู้ชายในรายการ "คนค้นฅน" ที่ออกมาถามขบวนเดินเท้าของ อ.ศศิน เฉลิมลาภ ว่า "เป็นเอ็นจีโอใช่มั้ย เวลาน้ำท่วม เอ็นจีโอเคยมาดูมั้ย" ได้ไหมครับ น้องคนนี้อยู่ลาดยาว นครสวรรค์ ส่งข่าวมาให้ทราบว่า...
Worawut Tamthinthai
ข่าวดีวันนี้: พี่ร้านขายปุ๋ยในวีดีโอคนค้นคน ที่ออกมาโวยวายว่าNGOรึป่าวเดี๋ยวเจอกัน วันนี้เปิดใจคุยกัน พี่เค้าบอกว่าพี่มัวยุ่งขายของไม่ได้สนใจ เลยรับข้อมูลเท็จๆจากชาวนาและนักการเมืองท้องถิ่นมาตลอด พอลองศึกษาดูเลยรู้แจ้ง ผมเลยอธิบายซ้ำและให้ เอกสาร "ทำไม!..ต้องค้านเขื่อนแม่วงก์" ไป ถือว่าเป็นข่าวดีแต่เช้า ขอบคุณมาก ลูกผู้ชายตัวจริงเลยพี่ ออกมาเคลียร์เอง นับถือ
ชัดม่ะ
น่าถามเขาด้วยว่า... ได้ตอบแบบสำรวจของด็อกหรือเปล่า
- phoebus and แอบดูที่รูเดิม like this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#143
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:32
#144
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:33
แหล่งข้อมูล พวกเดียวกัน เชื่อไม่ได้ครับ
ด็อกเชื่อถือไม่ได้มากกว่าอีก...
- ขุนพลชิน, phoebus and แอบดูที่รูเดิม like this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#145
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:34
แหล่งข้อมูล พวกเดียวกัน เชื่อไม่ได้ครับ
พูดง่ายเกินไปด๊อก แน่ใจนะว่าข้อมูลด๊อกไม่มั่ว
#146
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:32
แหล่งข้อมูล พวกเดียวกัน เชื่อไม่ได้ครับ
แล้วไอ่ประโยคข้างล่างนี้ใครเขียนไว้เหรอ?ทำไมสองมาตรฐานอย่างนี้ล่ะ?
"คนเราต้องเปิดใจกว้างรับฟังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปมีอคติหรือความหลงแต่แรกว่าพวกเขา พวกเรา ไม่เช่นนั้น ก็ไม่เกิดการเรียนรู้"
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and Somebody like this
#147
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 07:40
แหล่งข้อมูล พวกเดียวกัน เชื่อไม่ได้ครับ
ตาหลกว่ะ
ถ่ามจิง
พ่อแม่พี่น้องลูกเมียด็อกนี่ เวลาออกไปข้างนอก โดนคนอื่นเขาล้อแร้วหรือยัง ?
- แอบดูที่รูเดิม likes this
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
#148
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:10
หน้าหมา ว่ะ ด๊อก ไร้ราคาว่ะ
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#150
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:04
แหล่งข้อมูล พวกเดียวกัน เชื่อไม่ได้ครับ
เหตุผลของคุณมีแค่นี้อันที่จริงไม่น่ามาตั้งกระทู้นะ
โพสต์ลงในเฟสให้เพื่อนๆน้องๆที่ทำงานเข้าไปกดไลท์ก็พอ
ที่นี่ต้ิองการข้อถกเถียงพร้อมเหตุและผล มิใช่ความรู้สึก
ข้อมูลไหนเชื่อไม่ได้คุณก็นำข้อมูลของคุณมาหักล้างซิ
มิใช่บอกของคนอื่นเชื่อไม่ได้แต่คุณไม่มีข้อมูลมาหักล้าง
ทุเรศไปมั๊ย!!
- Huligan likes this
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน