Jump to content


Photo
- - - - -

บทพิสูจน์อัยการยุค “จุลสิงห์” “ทนายโจร”หรือ “ทนายแผ่นดิน”


  • Please log in to reply
35 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:28

บทพิสูจน์อัยการยุค “จุลสิงห์” “ทนายโจร”หรือ “ทนายแผ่นดิน”

blank.gif โดย ทีมข่าวการเมือง 5 ตุลาคม 2556 08:35 น

  

 

 

ของขวัญวันอำลาตำแหน่งหลังเกษียณอายุราชการที่ ถาวร เสนเนียมรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบให้กับ “จุลสิงห์ วสันตสิงห์” อดีตอัยการสูงสุดหมาดๆ ด้วยการยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีกับ จุลสิงห์โทษฐานไม่ฏีกาคดีทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีระหว่างคุณ หญิงพจมาน ดามาพงษ์กับ นายบรรณพจน์ ดามาพงษ์
       
       หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาที่ค้านสายตาคนดูกลับคำพิพากษาชั้นต้น ที่ให้จำคุกบุคคลทั้งคู่ 3 ปีโดยไม่รอลงอาญามาเป็นยกฟ้องกรณีคุณหญิงพจมาน ส่วนบรรณพจน์ พิพากษาว่ามีความผิดจริงลงโทษคุก 1ปี แต่โทษให้รอลงอาญา โดยจุลสิงห์ตัดสินใจไม่ยื่นฎีกาคดีนี้เพื่อให้การตัดสินตามกระบวนการ ยุติธรรมถึงที่สุดแต่ใช้อำนาจอัยการสูงสุดในฐานทนายแผ่นดิน ไม่ยื่นศาลฎีกาเพื่อรักษาเงินแผ่นดิน
       
       นับได้ว่านอกจากจะทะลวงเข้าขั้วหัวใจแล้วยังทำให้ชีวิตหลังเกษียณของ จุลสิงห์ ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด แม้อาจจะได้ตำแหน่งแห่งหนในรัฐวิสาหกิจหรือ บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ที่ใดที่หนึ่งก็ตาม
       

       แต่กรรมจะไล่ล่า จุลสิงห์ จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ !
       
       โดยเฉพาะประเด็นทิ้งทวนที่ ถาวร เจ้าเก่า ออกมาแฉว่า มีคำสั่งไม่ฟ้อง “ทักษิณชินวัตร” นักโทษหนีคดี ในคดีก่อการร้าย ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ นับเป็นการกล้าท้าทายความผิดทางกฎหมาย
       
       ไม่ต่างจาก ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตปลัดมหาดไทยที่ เคยรับใช้ช่วยงาบธรณีสงฆ์จนได้ขยับตูดไปนั่งเป็นปลัดแต่สุดท้ายหนีกรรมไม่ พ้นแม้เหตุการณ์ผ่านมานานกว่าสิบปี คนทำผิดก็ไม่มีสิทธิพ้นผิดโดย ป.ป.ช.ชี้มูลว่า ยงยุทธ มีความผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ทำให้หมดโอกาสที่จะเล่นการเมือง ตลอดชีวิตจากที่กำลังรุ่งโรจน์อยู่ในตำแหน่งรมว.มหาดไทย ก็ตกเก้าอี้แบบสายฟ้าผ่าโดยไม่ทันได้ตั้งตัวและยังต้องใช้ชีวิตช่วงบั้นปลาย ขึ้นโรงขึ้นศาลอีกนานหลายปี
       
       เป็นชะตากรรมที่ จุลสิงห์ ควรดูเอาไว้เป็นเยี่ยงอย่างเพราะผลงานที่ทำไว้เรียกได้ว่า “เข้าตานายใหญ่ทำลายประเทศ” ได้ไม่แพ้ “ขี้ข้า”คนอื่น ๆ ในสังกัดดูไบ
       
       แม้ จุลสิงห์ จะเป็น อัยการสูงสุดในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์เพราะคนที่รู้จัก จุลสิงห์เป็นอย่างดีจะรู้ว่าเขาชอบ “สีแดง” คุยกันง่ายดีแต่เนื่องจากระบบของอัยการจะคัดเลือกอัยการสูงสุดจากที่ประชุม คณะกรรมการอัยการซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ 14:0 ให้ จุลสิงห์ด้วยระบบอาวุโสขึ้นเป็นผู้นำองค์กรแทน “ชัยเกษม นิติสิริ”โดยไม่มีคู่แข่ง
       

       ตอนที่เป็นอัยการสูงสุดยุคอภิสิทธิ์ ก็มีคำถามตัวใหญ่มาก ๆ ว่าทำไมอัยการจึงไม่ติดตามดำเนินคดีกับ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุก 2 ปี ทั้ง ๆ แตกต่างจากวีรกรรมในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง อธิบดีอัยการต่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมไล่ล่า “ปิ่น จักกะพาก” อดีตผู้บริหารระดับสูงบริษัทเงินทุนเอกธนกิจผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ที่หนี ไปอยู่อังกฤษ
       

       แม้กรณีนี้จะคว้าน้ำเหลว แต่ก็ประสบความสำเร็จในการนำตัว ราเกซสักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน)ผู้ต้องหายักยอกทรัพย์แบงค์บีบีซีที่กบดานอยู่ประเทศแคนาดาได้เป็นผล สำเร็จในเวลาต่อมาก่อนที่คดีจะหมดอายุความ
       
       จริงอยู่ว่าการติดตามตัวนักโทษหนีคดีที่มีเงินมหาศาลอย่าง ทักษิณเปลี่ยนพาสปอร์ตเดินทางเป็นว่าเล่นมีความเป็นพลเมืองในหลากหลายประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ถึงกับเกินความสามารถที่จุลสิงห์จะทำได้ หากยังมีสำนึกของการเป็น “ทนายแผ่นดิน” หลงเหลืออยู่
       
       แต่หลายคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตในยุคทักษิณ หรือแม้แต่การจาบจ้วงเบื้องสูงกลับถูกดองเค็มอยู่ในสำนักงานอัยการสูงสุด ยาวนานกว่า2 ปี โดยไม่มีความคืบหน้า
       
       เมื่อฟ้าเปลี่ยนสีอำนาจเปลี่ยนมือผลงานแรกของจุลสิงห์ที่ออกลายให้ เห็นคือ การไม่ยื่นฎีกาคดีเลี่ยงภาษีกว่า 500 ล้านบาทของคุณหญิงพจมาน และบรรณพจน์ ดามาพงษ์ฟอกคุณหญิงพจมานกลายเป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่องจากที่ศาลชั้นต้นเคยชี้ ไว้ว่า
       
       “จำเลยทั้ง 3 (พจมาน บรรณพจน์กาญจนา หงษ์เหิน เลาขาพจมาน) เป็นผู้มีฐานะ ทางเศรษฐกิจและสังคมสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทำผิดฐานให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีจำเลยที่ 2 (พจมาน) เป็นภรรยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศจำเลยทั้ง 3 จึงต้องนอกจากมีหน้าที่ปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆไปแล้วยังควรดำรงตน เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย
       
       แต่จำเลยทั้ง 3 กลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรอันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อ กฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งๆที่จำนวนค่าภาษีอากรที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระทางกฎหมายและจำเลยที่ 2 จะเป็นผู้ชำระแทนในที่สุดนั้นเทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น”

       
       จากบุคคลชั้นสูงที่ไม่ประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดีหนีภาษีทั้ง ที่รวยมหาศาลกลายเป็นคนไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ ในทันทีที่ จุลสิงห์ไม่ยื่นฎีกา จะรับอะไรไปบ้างจากการตัดสินใจครั้งนั้นไม่รู้ แต่ที่รับไปแล้วแน่ ๆคือ คดีที่ถาวร ยื่น ต่อ ป.ป.ช.
       
       ไม่เพียงเท่านั้นสำนักงานอัยการสูงสุดภายใต้การดูแลของ จุลสิงห์ยังมีคำสั่งไม่ฟ้อง “จักรภพ เพ็ญแข” ในข้อหาจาบจ้วงสถาบันอีกด้วย จากที่ต้องหลบ ๆซ่อน ๆ หนีคดี วันนี้จักรภพ สามารถเดินเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างผู้บริสุทธิ์แต่ที่ไม่กลับมาเพราะติดใจ ของดีอยู่ที่เขมรเลยลืมความหลังที่เมืองไทยไปซะแล้ว
       

       แม้ว่าวันนี้จะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่า จุลสิงห์ ได้เซ็นคำสั่งทิ้งทวนไม่ฟ้องนักโทษหนีคดีทักษิณ ฐานก่อการร้าย จริงหรือไม่ แต่ในที่สุดความจริงก็ต้องปรากฏว่า “แอบทำผิดตอนวัยใกล้ฝั่ง” หรือไม่
       

       และหากข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องจริงไม่เพียงแต่จะสั่นคลอนความเชื่อ มั่นที่คนไทยมีต่อกระบวนการยุติธรรมตั้งต้นเท่านั้้นยังเป็นปัจจัยเพิ่มความ ขัดแย้งในสังคมมากขึ้นขณะที่ผู้มัอำนาจที่ไร้ธรรมนำการปกครองก็จะยิ่งลุแก่ อำนาจขาดความละอายต่อบาปทำร้ายประเทศได้อย่างย่ามใจ
       
       เพราะสามารถเอาชนะระบบกฎหมายไทยที่คนใช้มันเฮงซวยยอมเป็น “ขี้ข้า” ได้
       
       ด้วยเหตุลักษณะนี้ ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นแต่อัยการสูงสุดเคยถอนฟ้องคดีวัดพระธรรมกายโดยอ้าง เหตุผลเพื่อความปรองดองมาแล้วว่า รัฐธรรมนูญให้ความเป็นอิสระอัยการสูงสุดในการสั่งคดีเพื่อผลประโยขน์และความ สงบในบ้านเมืองซึ่งหากมีการถอนฟ้องจริงย่อมไม่ได้ถอนเฉพาะแค่ ทักษิณ เพียงคนเดียวแต่แกนนำที่ปลุกให้คนไป ฆ่า ไปเผา ทำร้ายประเทศที่ถูกดำเนินคดีเป็นผู้ก่อการร้าย 26 คน ที่มีนักโทษหนีคดีเป็นจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้บงการย่อมหลุดทั้งยวงเนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในสำนวนเดียวกัน
      
 

       นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการพิจารณาร่างนิรโทษกรรมของวรชัย เหมะ จึงอืดอาดยืดยาดแตกต่างจากที่พยายามดันสุดลิ่มให้พิจารณาเป็นวาระแรกแต่กลับ ไปดองเค็มในกรรมาธิการฯอย่างชวยสงสัย
       

 

 

 หากมีการถอนฟ้องเกิดขึ้นจริงก็จะเป็นคำตอบสำหรับเรื่องนี้เพราะ กฎหมายนิรโทษกรรมของ วรชัย ก็แค่ปาหี่หลอกคนเสื้อแดงเท่านั้นแต่ของจริงคือแกนนำหลุดหมด เพราะอัยการถอนฟ้องไม่จำเป็นต้องรอการนิรโทษกรรมด้วยซ้ำไป
       
       เชื่อได้เลยว่าหากเรื่องนี้แดงขึ้นมา จุลสิงห์ ก็คงอ้างคอป.ที่รัฐบาลเคยฉีกรายงานทิ้งและไม่ยอมปฏิบัติตามแนวทางปรองดองที่ เสนอให้ค้นหาความจริงมาใช้เป็นประโยชน์จากข้อเสนอที่ให้อัยการชะลอการดำเนิน คดีอาญาในช่วงเผาเมืองไว้ก่อน
       
       แต่ปัญหาคือ คดีนี้มันขึ้นสู่ศาลไปแล้วเกินเลยจากข้อเสนอให้ชะลอการดำเนินคดีอาญาก่อนส่ง ศาลของคอป.ดังนั้นแนวทางที่จะอ้างต่อก็คงไม่พ้นเหตุผลที่เคยใช้ในกรณีถอน ฟ้องวัดธรรมกายยุคทักษิณเรื่องอำนาจ จนลัทธิจานบินบิดเบือนหลักแห่งศาสนาพุทธอย่างโจ๋งครึ่มโดยมีรัฐบาลยิ่ง ลักษณ์คอยหนุนหลัง และยังใช้วัดธรรมกายล้างสมองครู เด็กนักเรียนและข้าราชการ ด้วยโครงการธรรมมะที่ดำเนินการร่วมกับวัดธรรมกายเท่านั้น
       
       ถ้าหลุดคดีก่อการร้ายได้ ก็มองข้ามช็อตต่อไปได้เลยว่าคดีทุจริตที่ยาวเป็นหางว่าวคาอยู่ในศาลฎีกาแผนก คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ว่าจะเป็น คดีซุกหุ้นซึ่งมีโทษสองกระทง กระทงละ 3 ปี คดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ คดีทุจริตหวยบนดินคดีทุจริตปล่อยสินเชื่อธนาคารกรุงไทย 9 พันล้านบาท ฯลฯก็มีสิทธิหลุดไปพร้อม ๆ กัน

       
       เพราะคนอย่างทักษิณเวลามีอำนาจ “เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ทำ”เพื่อแสดงอำนาจบาตรใหญ่ข่มขวัญคนไทยทั้งประเทศ ให้เห็นว่า “กูอยู่เหนือกฎหมาย” แต่เชื่อเถอะว่ายังไงก็ไม่มีทาง “อยู่เหนือกฎแห่งกรรม”

 

       
       สิ่งที่น่าสังเวชใจคือระบบวางไว้อย่างดีให้อัยการเป็นอิสระ เพื่อจะได้ทำหน้าที่เป็นทนายแผ่นดินได้อย่างเต็มที่ ไม่ถูกครอบงำหรือแทรกแซง แต่กลับคุกเข่าก้มกราบศิโรราบให้กับความชั่วจนกลายสภาพเป็น “ทนายโจร” มากกว่าที่จะเป็น “ทนายแผ่นดิน”ไปเสียแล้ว

 

http://www.manager.c...D=9560000124680

 

 

 

จุลสิงห์ ได้เซ็นคำสั่งทิ้งทวนไม่ฟ้องนักโทษหนีคดีทักษิณ ฐานก่อการร้ายจริง แต่ในที่สุดความจริงปรากฏว่า “แอบทำผิดตอนวัยใกล้ฝั่ง” หรือไม่ ?

 


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#2 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:35

ทำไม่ถูกใจ เลยเป็นโจร

 

ต้องผู้กองปูเค็ม  หรือลีน่าจัง นั่นแหละ

ถึงจะถูกใจ

 

 

เพราะด่าทักษิณ  หึหึหึ



#3 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:37

“อรรถพล”ขึ้นนำทัพ “ทนายแผ่นดิน” รอพิสูจน์หัวใจ“อัยการสูงสุด”คนใหม่

blank.gif โดย ทีมข่าวการเมือง 15 กันยายน 2556 07:51 น.

 

 

การประชุมลับวุฒิสภาเมื่อ 9 ก.ย.ที่ผ่านมาที่ประชุมวุฒิสภามีมติให้ความเห็นชอบนาย อรรถพลใหญ่สว่างเป็นอัยการสูงสุดคนใหม่ด้วยคะแนน 137 ต่อ 0 ไม่ลงคะแนน 1 ขั้นตอนหลังจากนี้ประธานวุฒิสภาจะนำชื่ออรรถพล ขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
       
       “ว่าที่อัยการสูงสุด-อรรถพล ใหญ่สว่าง”รองอัยการสูงสุดจะมารับหน้าที่ “อัยการสูงสุด”คนใหม่แทนจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดคนปัจจุบันที่จะพ้นจากตำแหน่งหลัง 30 ก.ย. นี้
       
       ยังไม่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแต่ “ว่าที่อัยการสูงสุด”ก็เริ่มออกงานแล้ว
       
       หลังจากที่มีเสียงวิจารณ์กันมากถึงการทำงานของอัยการกรณีที่มีความ เห็นขัดแย้งกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในคดี ทุจริตจัดซื้อทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานครฯ มูลค่า 6,687,489,000 บาท จนทำให้ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ เมืองเอง
       
       และสุดท้ายศาลฎีกาฯก็มีคำพิพากษาเมื่อ 10 ก.ย. 2556 ตัดสินจำคุก ประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย เป็นเวลา 12 ปี และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณกทม.ที่โดนตัดสินจำคุก 10 ปี
       
       มีเสียงวิจารณ์กันมากว่าหากสุดท้ายป.ป.ช.ไม่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯเอง คำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์ที่ศาลพิพากษาจำคุก ประชา มาลีนนท์อดีตรมต.หลายสมัยทั้งรมช.มหาดไทย-รมช.คมนาคม-รมว.พัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ก็คงไม่เกิดขึ้น
       
       ส่งผลให้เกิดกระแสตีกลับวิจารณ์การทำงานของอัยการอย่างมากตามมาทันที
       
       ด้วยความที่อรรถพลว่าที่อัยการสูงสุดเคยผ่านคดี สำคัญๆทางการเมืองมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะที่ผู้คนจดจำได้ดี ก็คือการเป็นหัวหน้าทีมคณะทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดในการยื่นฟ้องและว่า ความคดียุบพรรคไทยรักไทย-ยุบพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงปี 50 ที่สุดท้ายศาลรธน.ในเวลานั้นที่มีปัญญา ถนอมรอด อดีต ประธานศาลฎีกาเป็นประธานตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทยและ ตัดสิทธิการเมืองห้าปีกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แต่คำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ศาลรธน.ยุคนั้นให้ยกคำร้อง
       
       แล้วก็ยังมีอีกหลายคดีสำคัญที่อรรถพลเคยรับผิดชอบเช่นคดีอัยการสูง สุดยื่นฟ้อง อดีตคณะกรรมการป.ป.ช. ชุดที่มีพล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ เป็นประธาน ป.ป.ช.ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีขึ้นค่าตอบแทนให้ตนเอง
       
       คดีนี้ศาลฎีกาฯได้ตัดสินว่าป.ป.ช.ชุดดังกล่าวกระทำความผิดตามฟ้องและ แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองโดยอำเภอใจจึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยในคดีดังกล่าว ที่เป็นอดีตป.ป.ช. คนละ 2 ปีแต่โทษจำคุกศาลให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
       
       หรืออย่างในคดีอัยการสูงสุดยื่นฟ้องยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ได้ อรรถพล คนนี้คอยทำหน้าที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนในเรื่องขั้นตอนคดีความทั้งในชั้น อัยการและในชั้นศาลฎีกาฯ
       
       ดังนั้นตัว อรรถพล จึงเป็นอัยการชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับสื่อมวลชนและทันกระแสการวิพากษ์วิจารณ์อะไรต่างๆทาง การเมืองและในประเด็นร้อนๆ ได้เร็วและจับกระแสได้ทันท่วงที
       
       จึงไม่แปลกที่ทำไมยังไม่ทันเข้ารับตำแหน่ง อัยการสูงสุด “อรรถพล ว่าที่อัยการสูงสุด”จัดการเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแบบทันทีหลังศาลฎีกาฯมี คำพิพากษาจำคุกประชามาลีนนท์และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ เมื่อ 11 ก.ย. 56 คล้อยหลังศาลฎีกาฯตัดสินคดีวันเดียว
       
       คำแถลงดังกล่าว มีความน่าสนใจไม่น้อยเพราะทำให้เห็นทิศทางการทำงานของว่าที่อัยการสูงสุด หลังจากนี้ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกับบทบาทการประสานงานร่วมกันระหว่างสอง องค์กรใหญ่คือ “สำนักงานอัยการสูงสุด-สำนักงานป.ป.ช.”ซึ่ง ที่ผ่านมามักมีปัญหาการทำงานร่วมกันตลอดในการมีความเห็นทางคดีสำคัญๆทางการ เมืองโดยเฉพาะคดีการสอบสวนการทุจริตที่ป.ป.ช.รับไม้มาจากคณะกรรมการตรวจสอบ การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)
       
       พบว่าอรรถพล พยายามแจงว่าที่ผ่านมา ป.ป.ช.กับอัยการ ไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งอะไรกันในการทำคดีต่างๆอาจมีความเห็นบางจุดที่ต่าง กันบ้าง แต่ก็ยังคุยกันได้ และจริงๆแล้วความเห็นทางคดีที่ต่างกันก็มีไม่มากนัก
       
       ส่วนคดีทุจริตรถดับเพลิงฯที่ศาลฎีกาฯตัดสินออกมา อรรถพลก็ยกมาว่าก่อนหน้านี้ที่อัยการเห็นแย้งกับป.ป.ช.ว่าไม่ควรยื่นฟ้อง จำเลยในคดีนี้บางคนผลก็ออกมาแล้วว่า ศาลฎีกาฯก็ตัดสินยกฟ้องจำเลยคนที่อัยการเห็นว่าไม่ควรยื่นฟ้อง
       
       พูดง่ายๆก็คือ ว่าที่อัยการสูงสุดแถลงตีกินเพื่อพยายามบอกกับสังคมว่างานนี้อัยการไม่ได้ เสียหน้าที่ปล่อยให้ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีต่อศาลเอง ดั่งคำแถลงตอนหนึ่งของว่าที่อัยการสูงสุดตอนหนึ่งดังนี้
       

       “แม้อัยการไม่ได้ยื่นฟ้องคดีเพราะในการพิจารณาสำนวนครั้งนั้นมี ความเห็นต่างกับป.ป.ช. ที่ต้องการให้ฟ้องจำเลยทุกคน แต่อัยการเห็นว่าควรฟ้องบางคนซึ่งการที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องจำเลย ที่ 1 นายโภคิน พลกุลอดีต รมว.มหาดไทยปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พานิชย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.นั้นก็ปรากฏว่าตรงกับผลคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวานนี้
       
       ดังนั้นไม่ถือว่าเป็นการเสียหน้าที่อัยการไม่ฟ้องคดีให้ ป.ป.ช. อย่างไรก็ดีสำหรับการทำงานร่วมกับป.ป.ช.ก่อนหน้านี้ผมได้เคยร่วมสัมมนา กับ ป.ป.ช.แล้ว กำหนดแนวทางชัดเจนว่าจะเอามติจากการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง ป.ป.ช.และอัยการถือเป็นเด็ดขาดแต่หากมีความเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่อง ทาง ป.ป.ช.ก็สามารถที่จะส่งฟ้องคดีเองได้”
       
       “ทีมข่าวการเมือง”อยากให้ทุกฝ่ายจับตาบทบาทการทำงานของอัยการในยุคที่กำลังจะมีผู้นำคนใหม่ที่ชื่อ อรรถพล ใหญ่สว่างกันให้ดี ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
       
       เนื่องจากการทำงานของอัยการสูงสุดในยุคหลังๆที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในยุค เรวัติ ฉ่ำเฉลิม -พชร ยุติธรรมดำรง-ชัยเกษมนิติสิริ มาจนถึงยุค จุลสิงห์ วสันตสิงห์ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งในอีกสิบกว่าวันต่อจากนี้ จะพบว่าอดียอัยการสูงสุดที่ถูกเอ่ยชื่อถึงข้างต้น มีเรื่องราวอะไรให้ได้พูดถึงกันในด้านลบไม่มากก็น้อย
       

       เช่นกรณีชัยเกษมนิติสิริที่ตอนนี้มานั่งเป็นรมว.ยุติธรรมให้ กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ชินวัตร ถือเป็นอดีตอัยการสูงสุดไม่กี่คนที่หันมาสู่ถนนการเมือง แล้วพาสชั้นขึ้นเป็นรัฐมนตรีแบบรวดเร็วซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า แทบไม่มีอัยการสูงสุดคนไหนเล่นการเมืองเลยหลังพ้นจากตำแหน่งมีเพียงชัยเกษม คนเดียว ซึ่งหลังก่อนหน้านี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ตั้งให้ชัยเกษมเป็นประธานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาแล้ว
       

       ขณะที่ตอนที่ชัยเกษมเป็นอัยการสูงสุด เคยถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)ชี้ มูลความผิดในคดีทุจริตโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 สนามบินสุวรรณภูมิในฐานะอดีตบอร์ดบริษัทการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.)ซึ่งในชั้นคตส.มีการชี้มูลความผิดกับบุคคลต่างๆ รวมทั้งสิ้น 25 ราย
       
       ในความผิดที่คตส.ชี้ว่าได้ร่วมกันเสนอค่าจ้างปรับเปลี่ยนสายพาน ลำเลียงและติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดแพงกว่าความเป็นจริง1,714.846ล้าน บาท เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหายจากความผิดในคดีนี้แต่ต่อมาในชั้นป.ป.ช.ก็ มีการยกคำร้องไม่เอาผิดกับผู้ถูกชี้มูลความผิดหลายคนในคดีนี้เช่นทักษิณชิน วัตร-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
       
       แต่ข่าวจากป.ป.ช.บอกว่าคนที่ถูกชี้มูลความผิดบางคนที่เป็น พวกอดีตบอร์ดทอท.ที่ตามข่าวบางสำนักบอกว่ามีชื่อ“ชัยเกษม” รวมอยู่ด้วยยังต้องลุ้นว่าจะรอดหรือไม่รอดในชั้นป.ป.ช.ที่น่าจะมีความชัดเจน มากขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้
       
       หรือปัญหากับตัวอัยการสูงสุดคนปัจจุบัน “จุลสิงห์”ที่ แม้จะพยายามเก็บตัวเงียบ ไม่เคยให้ข่าวใดๆกับสื่อ แต่บางกรณีก็ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์การทำงานของอัยการสูงสุดคนนี้ไม่น้อยเช่น เรื่องที่ จุลสิงห์มีคำสั่ง “ไม่ฎีกา”คดีเลี่ยงภาษีหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)อันเป็นคดีอันโด่งดังอย่างมากเพราะจำเลยในคดีนี้ล้วนเป็นคนดังคือนาย บรรณพจน์ดามาพงศ์ - คุณหญิงพจมาน ชินวัตร-นางกาญจนาภาหงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงอ้อ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในข้อหาร่วมกันหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37
       
       โดยคดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามตามคำฟ้องของ อัยการคือจำคุกจำเลยที่1 และ 2 คือบรรณพจน์และคุณหญิงพจมาน คนละ 3 ปี ส่วนนางกาญจนาภา ศาลสั่งจำคุก 2 ปี และต่อมาจำเลยทั้ง 3ยื่นอุทธรณ์สู้คดี ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลรัษฎากรมาตรา 37 (2) ให้จำคุก 2 ปี และปรับ 1 แสนบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนคุณหญิงพจมานและนางกาญจนาภา ให้ยกฟ้อง
       
       แล้วในที่สุดคดีก็สิ้นสุดลงเมื่อ จุลสิงห์ อัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ยื่นฎีกาจนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปอื้ออึง
       

       จะเห็นได้ว่าเสียงวิจารณ์และการพูดถึงสำนักงานอัยการสูงสุดของผู้คนในสังคม ในช่วงหลังๆเกิดขึ้นมาก โดยเฉพาะการทำความเห็นในคดีสำคัญๆ
       
       ด้วยเหตุนี้ ตัวผู้นำองค์กรอัยการสูงสุดจึงมีความสำคัญมากกับการนำพาองค์กรนี้ให้เป็นที่เชื่อถือและศรัทธาของประชาชน
       
       เพราะต้องไม่ลืมว่า “อัยการ”คือ”ทนายแผ่นดิน” เป็นหนึ่งในองค์กรสำคัญของกระบวนการยุติธรรม หาก คนในสังคมไม่เชื่อถือหรือมีข้อเคลือบแคลงใจกับการทำงานของอัยการมันก็จะส่ง ผลต่อความน่าเชื่อถือและการยอมรับของคนในสังคมต่อกระบวนการยุติธรรมตามไป ด้วย
       
       จึงน่าคิดว่าแล้วบทบาท-การยอมรับของประชาชนต่อสำนักงาน อัยการสูงสุดนับจากนี้ในยุคที่จะมีผู้นำคนใหม่ชื่อ “อรรพล ใหญ่สว่าง”ซึ่งมีบทบาทในการคุมคดีสำคัญๆมาแล้วมากมายจะดีขึ้นหรือแย่ลง?

 

http://www.manager.c...D=9560000115401


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#4 ปลายอ้อกอแขม

ปลายอ้อกอแขม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,243 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:39

หมดหนทาง

 

เลยอ้าง เมเนเจอร์

555555555



#5 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:56

หงอกจุลสัตว์ไม่ใช่ทนายแผ่นดิน แต่เป็นทนายโจร ปกป้องโจรหนีคุกให้พ้นผิด 



#6 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:17

ถ้ายังจำกันได้ ทำอะไรไว้ ก็ได้รับผลถ้วนหน้า

คิดว่าผมจำไม่ผิด

-สมชาย วงษ์สวัสดิ์ ไล่ออก

-ปลอดประสบ ไล่ออก

-ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ไล่ออก

-คุณหญิงทิพาวดี ไล่ออก

และอีกหลายที่นึกไม่ทัน

 

ส่วนใหญ่ที่ถูกดังกล่าวมีที่พักอันอบอุ่น อยู่รวมกันในคอก

ซึ่งเป็นพรรคการเมือง พรรคนั้นปัจจุบัน

ก็แกนนำรัฐบาลนี่แหละ


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#7 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:20

ต้องตอบว่า เป็น ทนายโจรนักการเมือง

 

อัยการไม่ได้ถือฝักถือฝ่ายหรอก

 

แต่รับใช้คนมีอำนาจและนักการเมือง

 

:D 



#8 UncleSam

UncleSam

    เด็กชายชุดฟ้า ผู้น่ารัก

  • Members
  • PipPipPip
  • 738 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:30

 จำได้หรือไม่ ตอนได้ตำแหน่งอัยการ เคยให้สัตย์ปฏิญาณไว้อย่างไรและต่อหน้าใคร ?



#9 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:55

 จำได้หรือไม่ ตอนได้ตำแหน่งอัยการ เคยให้สัตย์ปฏิญาณไว้อย่างไรและต่อหน้าใคร ?

ลืมหมดแล้วครับ เพราะตำแหน่งผู้บริหารบอร์ดรัฐวิสาหกิจกินเงินเดือนเป็นล้านๆ ได้จากตรงนี้มันก็ยอมเป็นขี้ข้าโจรแล้วล่ะครับ ประเทศนี้ โจรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ข้าราชการหิวเงิน มันก็รับใช้โจร มีหน้าที่ให้โจรพ้นผิด พ้นคุก มันเลยทำกันได้ง่ายๆ 



#10 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:57

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการแต่งตั้งให้นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แทนนายชัยเกษม นิติศิริ อดีตอัยการสูงสุด ที่ลาออกไปเพื่อดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม

 

นายอัชพร เกษียณอายุตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกาวันที่ 30 กันยายน 2556....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#11 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:59

ของขวัญวันอำลาตำแหน่งหลังเกษียณ อายุราชการที่ ถาวร เสนเนียมรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบให้กับ “จุลสิงห์ วสันตสิงห์” อดีตอัยการสูงสุดหมาดๆ ด้วยการยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีกับ จุลสิงห์โทษฐานไม่ฏีกาคดีทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีระหว่างคุณ หญิงพจมาน ดามาพงษ์กับ นายบรรณพจน์ ดามาพงษ์.....

 

หากไม่ถูกร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. จุลสิงห์ อาจจะได้ตำแหน่งใหม่.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     


Edited by ปุถุชน, 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 23:00.

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#12 อาตี๋

อาตี๋

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,267 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 00:32

ทำไม่ถูกใจ เลยเป็นโจร

 

ต้องผู้กองปูเค็ม  หรือลีน่าจัง นั่นแหละ

ถึงจะถูกใจ

 

 

เพราะด่าทักษิณ  หึหึหึ

 

 

แหม่ทีศาลตัดสินไม่ถูกใจเสื้อแดงก็กลายเป็นอำมาตย์

 

ต้องตัดสินให้ถูกใจเสื้อแดงถึงจะยุติธรรม 

 

เพราะเสื้อแดงและนายเหนือหัวได้ประโยชน์ :lol:  :lol:  :lol:


สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น


ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ


#13 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 08:53

ยุคโจรครองเมือง พวกเหล่าข้าราชการหิวเงิน หิวผลประโยชน์ ก็แข่งกันล้างผิดให้โจรหนีคุกกันใหญ่ เราจะให้อัยกินพวกนี้ หากินกับผลประโยชน์ชาติที่นักโทษหนีคุก มันแบ่งให้อีกนานแค่ไหน ให้นักโทษหนีคุก มันใช้เงินภาษีชาวบ้าน ให้ตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจแบบนี้ แล้วใช้ให้อัยกินมันเป็นขี้ข้าแก้ต่างคดีให้ แบบนี้จะเอาผิดยังไงกับมัน ทนายแผ่นดิน กลับกลายเป็นทนายโจร เพราะตำแหน่งที่ได้มามันได้จากโจร ผมเห็นแล้วอนาถกับกฎหมายบ้านเมืองไทยจริงๆ 



#14 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:04

โปรดติดตามว่า"อรรถพล"จะเดินตามรอย"ชัยเกษม"และ"จุลสิงห์".....?


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#15 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:56

1383932_554349507970776_1827900497_n1.jpg


ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#16 Nong

Nong

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,124 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 11:37

มองไหน ๆ ก็คนกันเอง

 

ไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า



#17 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 14:46

 

 จำได้หรือไม่ ตอนได้ตำแหน่งอัยการ เคยให้สัตย์ปฏิญาณไว้อย่างไรและต่อหน้าใคร ?

ลืมหมดแล้วครับ เพราะตำแหน่งผู้บริหารบอร์ดรัฐวิสาหกิจกินเงินเดือนเป็นล้านๆ ได้จากตรงนี้มันก็ยอมเป็นขี้ข้าโจรแล้วล่ะครับ ประเทศนี้ โจรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ข้าราชการหิวเงิน มันก็รับใช้โจร มีหน้าที่ให้โจรพ้นผิด พ้นคุก มันเลยทำกันได้ง่ายๆ 

 

 

เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับ อัยการสูงสุดคนใหม่

http://webboard.seri...ง-ว่าที่อัยการ/

เลยขอนำข้อมูลการเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจมาแจมตรงนี้ไว้ด้วย

 

เห็นตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่คุณบุ๊คมาร์ค นำเสนอแล้ว นั่นยังจิ๊บๆ

ดูของปี 2556 นี้หน่อย

 

%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%

 

เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย (TPD-Thailand Political Database) ได้รายงานการตรวจสอบกรณีที่อัยการของสำนักงานคณะอัยการดำรงตำแหน่งกรรมการ (บอร์ด) ในรัฐวิสาหกิจ พบว่าในปี 2556 มีอัยการเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจจำนวน 4 คน ประกอบไปด้วย

1. นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด และประธานคณะกรรมการอัยการ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ 3. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

2. นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 แห่ง คือ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

3. นายตระกูล วินิจนัยภาค รองอัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 แห่งได้แก่ 1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2. โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง

4. นายเข็มชัย ชุติวงศ์ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 2. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

 

เห็น อสส คนที่ ไม่ยอมฎีกาคดีเลี่ยงภาษีชินคอร์ป ไหมคะ

เป้นกรรมการบอร์ด 3 แห่ง ปตท. การบินไทย กรุงไทย

แต่ละแห่ง ไม่ธรรมดา

 

โดยที่ปี 2554 มีอัยการทั้งหมดจำนวน 10 คนที่เข้าไปเป็นบอร์ดของรัฐวิสาหกิจ โดยอัยการที่ได้รับค่าตอบแทนรวมมากที่สุด คือ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ได้เข้าไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมด 4,902,731.65 บาท

 

 

อู้ฟู่แท้ๆ

 

http://thaipublica.o...rd-enterprises/

 

 

ขอวกกลับมาเรื่องการนั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจของอัยการ

 

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 255 วรรค 6 ระบุว่าห้ามมิให้พนักงานอัยการเป็นที่ปรึกษาหรือดำรงตำแหน่งอื่นในรัฐ วิสาหกิจหรือกิจการอื่นของรัฐ เพื่อป้องกันมิให้พนักงานอัยการใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ แต่หากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการก็สามารถทำได้

 

แต่หากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการก็สามารถทำได้ ประโยคท้ายนี่เอง ที่เปิดทางให้เกิดการเลี่ยงบาลี

 

นายจรัส สุวรรณมาลา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 (สสร.50) ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 กำหนดให้องค์กรอัยการเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอัยการของแผ่นดิน ซึ่งยกฐานะจากการเป็นส่วนราชการ อีกทั้งต้องการให้พนักงานอัยการ ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน จึงห้ามมิให้พนักงานอัยการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหรือกิจการอื่นใด โดยเฉพาะการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ถ้ากรรมการหรือผู้บริหารรัฐวิสาหกิจกระทำผิดกฎหมาย หน่วยตรวจสอบหรือผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายก็ต้องเสนอเรื่องผ่านสำนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาฟ้องร้องผู้กระทำผิดต่อศาล ซึ่งหากพนักงานอัยการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำผิดเสียเอง จะไม่ฟ้องร้องเอาผิดกับตัวเอง

 

นายจรัสยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีข้อยกเว้นให้คณะกรรมการ อัยการ สามารถให้ความเห็นชอบให้พนักงานอัยการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจได้ว่า เนื่องจากระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับการชี้แจงจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า พนักงานอัยการอาจจำเป็นต้องเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจบางแห่ง เพราะมีบทบัญญัติในกฎหมายรัฐวิสาหกิจกำหนดให้พนักงานอัยการเป็นกรรมการโดย ตำแหน่งไว้ ถ้าพนักงานอัยการเป็นกรรมการไม่ได้ กรรมการรัฐวิสาหกิจเหล่านั้นก็จะไม่ครบองค์คณะ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ หากจะให้ดำเนินการได้ ก็ต้องไปแก้กฎหมายรัฐวิสาหกิจเหล่านั้น ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเสียก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา ฉะนั้น จึงเสนอให้มีข้อยกเว้นไว้ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญดังเช่นที่ว่าข้างต้น

“แต่ในทางปฏิบัติ ดูเหมือนคณะกรรมการอัยการฯ จะใช้ดุลพินิจตามข้อยกเว้นนี้ ให้ความเห็นชอบให้พนักงานอัยการไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ซึ่งผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน และเนื่องจากองค์กรอัยการมีอิสระ จึงไม่มีองค์กรใดสามารถทักท้วงหรือยับยั้งการใช้ดุลพินิจที่ว่านี้ได้ เว้นแต่จะมีผู้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า การใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการอัยการฯ ที่ว่านี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมายังเคยไม่มีองค์กรใดนำเรื่องนี้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่าง ใด จึงกล่าวได้ว่า การบังคับใช้รัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ยังไม่สมบูรณ์” นายจรัสกล่าว

http://thaipublica.o...rd-enterprises/

 

เมื่ออัยการมีผลประโยชน์จากการเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

แล้วความยุติธรรมจะไม่โอนเอียงเชียวหรือ



#18 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 14:53

 

 

 จำได้หรือไม่ ตอนได้ตำแหน่งอัยการ เคยให้สัตย์ปฏิญาณไว้อย่างไรและต่อหน้าใคร ?

ลืมหมดแล้วครับ เพราะตำแหน่งผู้บริหารบอร์ดรัฐวิสาหกิจกินเงินเดือนเป็นล้านๆ ได้จากตรงนี้มันก็ยอมเป็นขี้ข้าโจรแล้วล่ะครับ ประเทศนี้ โจรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ข้าราชการหิวเงิน มันก็รับใช้โจร มีหน้าที่ให้โจรพ้นผิด พ้นคุก มันเลยทำกันได้ง่ายๆ 

 

 

เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับ อัยการสูงสุดคนใหม่

http://webboard.seri...ง-ว่าที่อัยการ/

เลยขอนำข้อมูลการเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจมาแจมตรงนี้ไว้ด้วย

 

เห็นตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่คุณบุ๊คมาร์ค นำเสนอแล้ว นั่นยังจิ๊บๆ

ดูของปี 2556 นี้หน่อย

 

%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%

 

เครือข่ายข้อมูลการเมืองไทย (TPD-Thailand Political Database) ได้รายงานการตรวจสอบกรณีที่อัยการของสำนักงานคณะอัยการดำรงตำแหน่งกรรมการ (บอร์ด) ในรัฐวิสาหกิจ พบว่าในปี 2556 มีอัยการเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจจำนวน 4 คน ประกอบไปด้วย

1. นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด และประธานคณะกรรมการอัยการ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ 3. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

2. นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 แห่ง คือ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

3. นายตระกูล วินิจนัยภาค รองอัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 แห่งได้แก่ 1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2. โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง

4. นายเข็มชัย ชุติวงศ์ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 2. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

 

เห็น อสส คนที่ ไม่ยอมฎีกาคดีเลี่ยงภาษีชินคอร์ป ไหมคะ

เป้นกรรมการบอร์ด 3 แห่ง ปตท. การบินไทย กรุงไทย

แต่ละแห่ง ไม่ธรรมดา

 

โดยที่ปี 2554 มีอัยการทั้งหมดจำนวน 10 คนที่เข้าไปเป็นบอร์ดของรัฐวิสาหกิจ โดยอัยการที่ได้รับค่าตอบแทนรวมมากที่สุด คือ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ได้เข้าไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมด 4,902,731.65 บาท

 

 

อู้ฟู่แท้ๆ

 

http://thaipublica.o...rd-enterprises/

 

 

ขอวกกลับมาเรื่องการนั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจของอัยการ

 

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 255 วรรค 6 ระบุว่าห้ามมิให้พนักงานอัยการเป็นที่ปรึกษาหรือดำรงตำแหน่งอื่นในรัฐ วิสาหกิจหรือกิจการอื่นของรัฐ เพื่อป้องกันมิให้พนักงานอัยการใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ แต่หากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการก็สามารถทำได้

 

แต่หากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการก็สามารถทำได้ ประโยคท้ายนี่เอง ที่เปิดทางให้เกิดการเลี่ยงบาลี

 

นายจรัส สุวรรณมาลา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 (สสร.50) ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 กำหนดให้องค์กรอัยการเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอัยการของแผ่นดิน ซึ่งยกฐานะจากการเป็นส่วนราชการ อีกทั้งต้องการให้พนักงานอัยการ ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน จึงห้ามมิให้พนักงานอัยการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหรือกิจการอื่นใด โดยเฉพาะการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ถ้ากรรมการหรือผู้บริหารรัฐวิสาหกิจกระทำผิดกฎหมาย หน่วยตรวจสอบหรือผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายก็ต้องเสนอเรื่องผ่านสำนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาฟ้องร้องผู้กระทำผิดต่อศาล ซึ่งหากพนักงานอัยการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำผิดเสียเอง จะไม่ฟ้องร้องเอาผิดกับตัวเอง

 

นายจรัสยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีข้อยกเว้นให้คณะกรรมการ อัยการ สามารถให้ความเห็นชอบให้พนักงานอัยการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจได้ว่า เนื่องจากระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับการชี้แจงจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า พนักงานอัยการอาจจำเป็นต้องเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจบางแห่ง เพราะมีบทบัญญัติในกฎหมายรัฐวิสาหกิจกำหนดให้พนักงานอัยการเป็นกรรมการโดย ตำแหน่งไว้ ถ้าพนักงานอัยการเป็นกรรมการไม่ได้ กรรมการรัฐวิสาหกิจเหล่านั้นก็จะไม่ครบองค์คณะ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ หากจะให้ดำเนินการได้ ก็ต้องไปแก้กฎหมายรัฐวิสาหกิจเหล่านั้น ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเสียก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา ฉะนั้น จึงเสนอให้มีข้อยกเว้นไว้ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญดังเช่นที่ว่าข้างต้น

“แต่ในทางปฏิบัติ ดูเหมือนคณะกรรมการอัยการฯ จะใช้ดุลพินิจตามข้อยกเว้นนี้ ให้ความเห็นชอบให้พนักงานอัยการไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ซึ่งผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน และเนื่องจากองค์กรอัยการมีอิสระ จึงไม่มีองค์กรใดสามารถทักท้วงหรือยับยั้งการใช้ดุลพินิจที่ว่านี้ได้ เว้นแต่จะมีผู้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า การใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการอัยการฯ ที่ว่านี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมายังเคยไม่มีองค์กรใดนำเรื่องนี้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่าง ใด จึงกล่าวได้ว่า การบังคับใช้รัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ยังไม่สมบูรณ์” นายจรัสกล่าว

http://thaipublica.o...rd-enterprises/

 

เมื่ออัยการมีผลประโยชน์จากการเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

แล้วความยุติธรรมจะไม่โอนเอียงเชียวหรือ

 

เห็นความไม่ชอบมาพากล กับพวกอัยกินหิวเงินพวกนี้เลย 



#19 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 14:54

อดีตอัยการสูงสุดแจงสั่งไม่ฟ้อง"ทักษิณ"คดีก่อการร้าย ย้ำอยู่ต่างประเทศไม่ใช่ตัวการร่วม ยันทำตามมาตรฐาน

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน ได้เชิญนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด เข้ามาชี้แจงถึงกรณีศึกษาปัญหาการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองของสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามได้มีการซักถามถึงกรณีการสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีก่อการร้าย

 

โดยนายจุลสิงห์ กล่าวว่า เรื่องการสั่งฟ้องหรือไม่นั้น ตามรัฐธรรมนูญให้ศาลกับอัยการเป็นหน่วยงานที่มีอิสระในการสั่งคดี โดยสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งจะได้รับการคุ้มครอง ต่อให้อีกร้อยคน พันคน ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคนที่เขาสั่ง เขานิ่ง เขายุติ เรื่องมันก็ต้องจบ ไม่มีใครที่จะมาบอกว่าศาลตัดสินผิดอย่างนี้ แล้วจะให้ใครมากรองใหม่มันไม่มี กระบวนการฟ้องหรือไม่ฟ้องสิ้นสุดที่อัยการสูงสุด เรื่องก่อการร้ายถ้า ผู้กระทำผิดไม่ได้อยู่ในประเทศไทย โอกาสยากมากที่จะบอกว่าเป็นตัวการร่วม ถ้าเขาจะทำอะไรก็คนที่อยู่ในประเทศเป็นคนทำ กำลังวังชาของคนที่พูดอยู่ต่างประเทศมันไม่มีโอกาสที่เป็นตัวการร่วมได้เลย ในทางทฤษฎีและในความเห็นของอัยการด้วย ถึงแม้เป็นผู้สนับสนุนก็เถอะ

 

นายจุลสิงห์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร นอกเหนืออำนาจอัยการสูงสุดที่จะพิจารณา ถ้าประธานไปตะโกนอยู่ต่างประเทศ แต่ถ้าคนในประเทศมันไม่ทำ ก็คือมันไม่ทำ มันทำด้วยกำลังกาย กำลังใจของตัวเอง เรามองอย่างนั้น ตนไม่คิดจะใช้กฎหมายไปประหัตประหารใคร บ้านเมืองบอบช้ำมานาน เพราะเอากฎหมายไปประหัตประหารและไม่เป็นที่ยอมรับ ตนเองมีมาตรฐาน ถ้าผิดจริงไม่เหลือ” นายจุลสิงห์ กล่าว

 

ทั้งนี้นายจุลสิงห์ ได้ระบุด้วว่าบางทีตนก็ถูกกล่าวหาอยู่ฝ่ายนี้บ้าง ฝ่ายนั้นบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าวันไหนสั่งคดีอย่างไร เพราะมีทั้งสองฝ่าย จนไม่รู้ว่าอัยการอยู่ข้างไหน ก็ต้องบอกว่าอัยการอยู่ข้างความเป็นธรรม ถามว่าใครฟ้องผู้ก่อการในประเทศ ก็เป็นตนเอง ก็เพราะเขาทำในประเทศก็ต้องฟ้องในประเทศ ยืนยันว่าก่อนสั่งคดีนิ่งแล้ว นิ่งมาแล้วตนสั่งตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น

 

"อย่างผมสั่งบางคดีท่านไม่ชอบ ผมสั่งคดีฟิลลิป มอริส ท่านก็ไม่ชอบ มันมีฝ่ายไง มันมีพรรคไง ว่าใครเชียร์ฝ่ายไหนอย่างไร แต่ผมก็อธิบายได้ว่าทำไมฟ้องหรือไม่ฟ้อง แต่ถ้าทุกคนนักการเมืองทั้งหลาย เชื่อมือคนที่มาทำหน้าที่นี้ บ้านเมืองจะอยู่ได้ แต่ผมก็ต้องแสดงให้เห็นความเป็นกลาง"นายจุลสิงห์ ระบุ

Tags : จุลสิงห์ วสันตสิงห์ทักษิณ ชินวัตรก่อการร้าย

 

http://www.bangkokbi...ตัวการร่วม.html

 

 

 

โดย นายจุลสิงห์ กล่าวว่า เรื่องการสั่งฟ้องหรือไม่นั้น ตามรัฐธรรมนูญให้ศาลกับอัยการเป็นหน่วยงานที่มีอิสระในการสั่งคดี โดยสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งจะได้รับการคุ้มครอง ต่อให้อีกร้อยคน พันคน ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคนที่เขาสั่ง เขานิ่ง เขายุติ เรื่องมันก็ต้องจบ......

 

ดังนั้นทักษิณ นักโทษหนีคุกสบายใจได้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#20 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 15:04

ทำไมต้องไม่สั่งฟ้องล่ะ ไอ้จุลสัตว์ ท่อน้ำเลี้ยงก็ส่งมาให้ บอกว่าสั่งแล้วไม่ทำ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มรรึงคิดของมรรึงแบบนี้นานมั้ย ไอ้หงอกจุลสัตว์ แถแบบหน้าด้านๆ ก็มันจ้างมา มันมีท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนอยู่ ไม่งั้นคนสั่งมือปืนรับจ้างมาฆ่าคนก็ไม่ผิดสิว่ะ ในเมื่อสั่งแล้ว มือปืนมันทำเอง ไอ้หงอกจุลสัตว์นี่ทนายโจรจริงๆ


Edited by Bookmarks, 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 15:05.


#21 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 15:15

นานมาแล้ว เคยอ่านสัมภาษณ์นักเขียนนิยาย รุ่นใหญ่ซึ่งโด่งดัง มีคนนิยมมากมาย

ท่านผู้นี้ ภาคภูิมิใจกับ สกุล วสันตสิงห์ ของบรรพบุรุษ เป็นอันมาก

เนื่องเพราะวสันตสิงห์ ที่เป็นบรรพบุรุษของนักเขียนท่านนี้เคยรับราชการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต  มีคุณธรรม จริยธรรม จนลูกหลานภาคภูมิใจ

ถือเป็นเกียรติยศของสายโลหิต

วันนี้ อยากรู้จังว่า ท่านผู้นี้จะรู้สึกอย่างไร กับ จุลสิงห์ วสันตสิงห์

ผู้เป็นทนายของแผ่นดิน



#22 Sailom

Sailom

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 18 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:00

:(  :(  :(


Edited by Sailom, 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:05.


#23 robbo

robbo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 580 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:07

มันบอก อยู่เมืองนอก สั่งไม่ได้  :D  :D 

 

เวรเอ๊ย  .....ขี้ข้าทักษิณมีตัวไหนที่หน้าไม่ด้านบ้างฟระ



#24 gears

gears

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,450 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:12

ถ้าผมอัดเทป แปลงเสียง ไปปลุกระดม ปฏิวัติๆๆๆ ผมก็ไม่ผิด เพราะเสียงไม่มีตัวตน
ก๊ากกกก ตรรกะหลอกควายยย

#25 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:53

มันบอก อยู่เมืองนอก สั่งไม่ได้  :D  :D 

 

เวรเอ๊ย  .....ขี้ข้าทักษิณมีตัวไหนที่หน้าไม่ด้านบ้างฟระ

แต่สั่งให้มันได้เป็น ผู้บริหารบอร์ด ปตท การบินไทย ธนาคารกรุงไทย ได้ครับ  :D



#26 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:56

นานมาแล้ว เคยอ่านสัมภาษณ์นักเขียนนิยาย รุ่นใหญ่ซึ่งโด่งดัง มีคนนิยมมากมาย

ท่านผู้นี้ ภาคภูิมิใจกับ สกุล วสันตสิงห์ ของบรรพบุรุษ เป็นอันมาก

เนื่องเพราะวสันตสิงห์ ที่เป็นบรรพบุรุษของนักเขียนท่านนี้เคยรับราชการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต  มีคุณธรรม จริยธรรม จนลูกหลานภาคภูมิใจ

ถือเป็นเกียรติยศของสายโลหิต

วันนี้ อยากรู้จังว่า ท่านผู้นี้จะรู้สึกอย่างไร กับ จุลสิงห์ วสันตสิงห์

ผู้เป็นทนายของแผ่นดิน

พอๆ กับไอ้หนูถั่งเช่า เช้าหล๊กล่ะครับ ตกมาถึงยุคโจรครองเมือง เลยกลายเป็นสกุล ของพวกหิวเงิน ขี้ข้าคนโกงชาติไปซะแล้ว



#27 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:08

    เรื่องวงการกฏหมาย ที่เป็นข้าราชการ ไปนั่งบริหารองค์กรธุรกิจต่างๆ ก็มีแต่อัยการสส.เท่านั้น

   และเริ่มวงจรนี้เกิดขึ้น ในสมัยทัคคี่ เรืองอำนาจ???


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#28 Set ZeRo

Set ZeRo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 444 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:12

คดีเต้าข่าว บิดเบือน ไส่ร้าย จะให้ฟ้องเรื่องก่อการร้าย ไม่เข้าทุกข้อ มีอัยการดำรงธรรมแบบนี้ นึกถึงทั่วเปาแห่งศาลไคฟง ไม่ทำคดียัดข้อหาเหมือน คตส 



#29 zeus

zeus

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,212 posts

ตอบ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:55

คดีเต้าข่าว บิดเบือน ไส่ร้าย จะให้ฟ้องเรื่องก่อการร้าย ไม่เข้าทุกข้อ มีอัยการดำรงธรรมแบบนี้ นึกถึงทั่วเปาแห่งศาลไคฟง ไม่ทำคดียัดข้อหาเหมือน คตส


ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 6 ไปเปิดอ่านไป ถ้าอ้างแบบนี้ มาตรานี้ คงมีปัญหาแล้ว

#30 คนสับปรับ

คนสับปรับ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,410 posts

ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:13

นี่ใช่ใหมที่เขาเรียกว่า อาชญาวิทยา



#31 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:24

 

มันบอก อยู่เมืองนอก สั่งไม่ได้  :D  :D 

 

เวรเอ๊ย  .....ขี้ข้าทักษิณมีตัวไหนที่หน้าไม่ด้านบ้างฟระ

แต่สั่งให้มันได้เป็น ผู้บริหารบอร์ด ปตท การบินไทย ธนาคารกรุงไทย ได้ครับ  :D

 

 

 

ยังไม่รู้ว่าจะได้เป็น"กรรมการ" รัฐวิสาหกิจ...

หรือเป็น"อัยการอาวุโส".....

เมื่อมีการฟ้องร้องอย่างนี้ น่าจะอยากเป็นอัยการอาวุโสมากกว่า....

อย่างน้อยมี"หนังราชสีห์"สวมใส่.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#32 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:26

    เรื่องวงการกฏหมาย ที่เป็นข้าราชการ ไปนั่งบริหารองค์กรธุรกิจต่างๆ ก็มีแต่อัยการสส.เท่านั้น

   และเริ่มวงจรนี้เกิดขึ้น ในสมัยทัคคี่ เรืองอำนาจ???

 

 

องค์กรที่มี"อัยการใหญ่"นั่งเป็น"กรรมการ"....

เหมือนนั่งอยู่บนเก้าอี้อาร์มแชร์ใหญ่......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#33 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 13:14

เพื่อไทยย้ำปชป.เคารพคำสั่งอัยการสูงสุด

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

 

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า รู้สึกแปลกใจที่อัยการสูงสุดมี คำสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีก่อการร้าย และดูไม่ค่อยเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับที่ส่งฟ้องคนอื่นว่า นายอภิสิทธิ์ควรจะเคารพคำสั่งของอัยการสูงสุดที่ตัดสินบนข้อเท็จจริงตามหลักกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของอัยการสูงสุด แต่สุดท้ายต้องเคารพการตัดสินตามกฎหมาย ความจริงเรื่องนี้ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตั้งแต่ต้น เป็นการโฟนอิน ปราศรัยทางการเมืองปกติ ไม่มียั่วยุ หยาบคายเหมือนหัวหน้าพรรคบางพรรค นายอภิสิทธิ์น่าจะเอาเวลาโจมตีรัฐบาลรายวันไปทำประโยชน์เพื่อตัวเองเสียบ้าง ไม่ใช่ว่างก็โจมตีรัฐบาล

 

ส่วนกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า รัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ผิดนั้น ถือเป็นการแสดงความเขลา ต่อสังคม เพราะคำสั่งอัยการสูงสุดไม่ มีใครแทรกแซงได้ การแสดงความเห็นลักษณะนี้ต้องระมัดระวังให้มาก และกรณีที่ระบุว่ารัฐบาลบริหารประเทศจนทำให้ตกอยู่ในภาวะถังแตก ผลาญภาษีผ่านนโยบายประชานิยมนั้น ยืนยันว่า ถังแตกไม่มี มีแต่ฝ่ายค้านที่สติแตก ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้น เก็บภาษีได้ทะลุเป้า อัตราการจ้างงานอยู่ในภาวะที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลกำลังเดินสายอธิบายชี้แจงกับ ประชาชนในขณะนี้ ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันประเทศไปสู่จุดที่ดีกว่า

 

http://www.bangkokbi...ยการสูงสุด.html

 

 

พรรคเพื่อไทยคิดว่า"อัยการสูงสุด" ไม่มีใครแทรกแซงได้.....แต่

ศาลยุติธรรมแทรกแซงได้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#34 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 13:16

ตาม รัฐธรรมนูญให้ศาลกับอัยการเป็นหน่วยงานที่มีอิสระในการสั่งคดี โดยสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งจะได้รับการคุ้มครอง ต่อให้อีกร้อยคน พันคน ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคนที่เขาสั่ง เขานิ่ง เขายุติ เรื่องมันก็ต้องจบ.....จุลสิงห์ บอกอย่างนี้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#35 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:25

     จุลสิงห์ >>>>>>จุลษิณ ....เจ๊ปอง  บลูฯ

     จุล =ถูกทำลายเป็นจุล ถูกทำลายจนไม่เหลืออะไร

     พรรคพท. =พรรคพานทอง ..แท้แอ๊ๆๆๆๆๆๆ


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#36 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:33

ถึงแม้ว่า"จุลสิงห์"จะทำให้ทักษิณ นักโทษหนีคุกพ้นผิดคดีก่อการร้าย เพราะอยู่ในอำนาจอัยการสูงสุดพิจารณา.....!

แต่ทักษิณยังไม่กล้ากลับเมืองไทย เพราะบางคดีศาลยุติธรรมพิพากษาเสร็จสิ้นเด็ดขาดแล้ว เช่น คดีทุจริตที่ดินรัชดา ฯ...

 

นอกจากนั้นยังมีคดีที่พ้นจากมือกรมสอบสวนพิเศษ อัยการสูงสุด อยู่ในขบวนการศาลยุติธรรมแล้ว.....

ดังนั้นทักษิณ นักโทษหนีคุกยังไม่กล้ากลับเมืองไทยอย่างเท่ห์ๆ..

เว้นแต่กฏหมายนิรโทษกรรมจะประกาศใช้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน