๑. สิบสี่ ตุลา ห้าหก.............ทินศูร ทรศก
..ต่ำตก นรก ยกพันธุ์
๒. ใกล้กาล ก่อยุทธ์ ยงยัน.....อังคาร ฆาตทัณฑ์
..ประจัญ ประจญ มนตรี
๓. สัตตมะ อธรรม ฤทธี..........เพียบพล ไพรี
..ธานี เนืองนำ นับคณา
๔. ดวงเมือง เรืองรอน อ่อนอา---เพศแผก แปลกปรา-
--กฏกรรม ซ้ำซ้อน นรชน
๕. เจ็ดวัน ผันผ่าน กาลกล..........ภัยพาล มารมน
..ทรพล พิบัติ บารนี
๖. อุรพงษ์ พาไล่ ไพรี................แข็งข้อ ต่อตี
..ฤทธี ทุกแรง รวมใจ
๗. เกณฑ์กฏ กักขฬะ บรรลัย......แพ้พ่าย พ้นไป
..ยังใย โยงยืด อยู่ยาว
๘. อับแสง แฝงบัง ดังดาว..........มืดมัว ชั่วคราว
..อาจวาว วับวรรณ พรรณราย................................( ฉบัง ๑๖)
........ อุรุพงษ์.........
๑.หวังแล้ว หวังเล่า เฝ้าแต่หวัง..........เซซัง หวังนั้น มันหดหาย
..สิ้นหวัง ยังหวัง นั่งเดียวดาย.............อับอาย ขายหน้า ประชาไทย
๒. อยู่อย่าง ยากยัง หวังเกินวาด........อนาถ อนิจจัง หวังไฉน.?
..ทั่วแดน ดินทอง มองเท่าไร.............คิดให้ หดหู่ นั่งดูกัน
๓. เกิดดับ เกิดดับ นับกี่ครั้ง...............อยู่ยั้ง ยืนยง คงแค่ฝัน
..สิ้นหวัง สมหวัง ยังคู่กัน...................รอวัน รอคืน ได้ชื่นชม
๔. แก้วเอย แก้วกล้า มาที่นี่..............อย่าลี้ หลบภัย ไม่เหมาะสม
..หันสู้ หมู่พาล มารสังคม..................ไม่ก้ม แก่มัน อันธพาล
๕. เอาศักดิ์ เอาศรี ที่มีอยู่.................กอบกู้ เกรียงไกร ให้ห้าวหาญ
..เอาเกียรติ กายเรา เข้าต้านทาน......ไล่มาร ล้างเมือง เรืองดำรง
๖. เจ้าสา-ริกา ถลาร้อง.....................ชวนน้อง เพื่อนพี่ ที่ประสงค์
..กู้ไทย ให้ฟื้น อยู่ยืนยง....................อุรุพงษ์ พวกเรา เฝ้ารอ...ฯะ
........ พระฤๅษี...๑๓/๑๐/๕๖...(ก.๗)