นาย ธีรยุทธ บุญมี อดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา ได้ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "ปณิธานประเทศไทย" ในกิจกรรมรำลึก 40 ปี 14 ตุลา ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว
โดย นายธีรยุทธ ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการเรียกร้องประชาธิปไตยทั่วโลก ซึ่งล้วนแต่มีเนื้อหาในการส่งเสริมสิทธิอำนาจของประชาชนทั้งสิ้น แต่ทว่าในสังคมไทย ผู้ขึ้นมาสู่อำนาจ ล้วนแต่ไม่เคยมีอุดมการณ์ส่งเสริมอำนาจประชาชนอย่างแท้จริง
ในขณะที่ เหตุการณ์ 14 ตุลา ได้เปิดพื้นที่ให้แก่การเมืองระบอบรัฐสภา เข้ามาแทนที่การเมืองแบบเผด็จการของกองทัพและระบบราชการ แต่ก็ได้ทำให้เกิดการเติบโตของกลุ่มทุนใหม่ ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนกลุ่มทุนใหม่ขนาดใหญ่ ที่ยกระดับฐานอำนาจ และผลประโยชน์ของภาคการเมือง จากการเป็นกาฝากเกาะกินรัฐ มาเป็นควบคุมรัฐโดยตรง จนทำให้เป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหญ่ ระหว่างกลุ่มทุนใหม่ และกลุ่มอนุรักษ์นิยมในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันมี การตั้งฉายาให้ พ.ท.ต.ทักษิณ ว่า ขี้ขำ หรือ อุจจาระที่ค้างคารูทวาร ของการเมืองไทย ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ให้ฉายาว่า ขี้หย้อง กับ ขี้แบ๊ะ เปรียบถึงการทำงานที่ไม่มีผลงาน ได้แต่แต่งตัวสวยไปวันๆ
จึง เสนอว่า หากจะมีการพัฒนาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้ สังคมไทยจะต้องพัฒนาการเมือง ไปสู่เจตนารมณ์ประชาธิปไตย ที่ส่งเสริมสิทธิอำนาจของประชาชนทั่วไปอย่างแท้จริงเท่านั้น โดยคู่ขัดแย้งเสื้อเหลือง-เสื้อแดงในปัจจุบัน ก็ควรจะก้าวพ้นความขัดแย้งของสีเสื้อตัวเอง ไปสู่ประเด็นการกระจายอำนาจอย่างแท้จริงเช่นกัน
ที่มาก INN News
ขี้ขำ เป็นภาษาเหนือครับ คือเวลาเราขึ้แล้วไม่สุด มันจะค้างคาอยู่ให้เป็นที่ทรมาณ เป็นของทิ้งซากที่โคตรจะไร้ประโยชน์ แถมขัดขวางความสุขความเจริญอีกต่างหาก