ผมว่า นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผล
ที่คุณหนูปูแดง เธอไม่ค่อยกล้าโผล่ไปสภาฯ...
http://www.thairath....tent/pol/376850
หรือเพื่อนๆว่า น่าจะมีเหตุผลอื่นๆอีก...
เชิญครับ...
Edited by Suraphan07, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:35.
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:23
ผมว่า นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผล
ที่คุณหนูปูแดง เธอไม่ค่อยกล้าโผล่ไปสภาฯ...
http://www.thairath....tent/pol/376850
หรือเพื่อนๆว่า น่าจะมีเหตุผลอื่นๆอีก...
เชิญครับ...
Edited by Suraphan07, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:35.
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:24
5555+
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:29
นายกปัญญาอ่อน ปัญญาทึบ แถมพวกขี้ข้าด้วย
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:30
อ่านกันชัดๆ ใครโกหก ระหว่างยรรยง กับนิวัฒน์ธำรง
http://www.thaipost....ws/171013/80837
‘มอดข้าว’ตายหมู่ สหรัฐทุบซ้ำต้นปีวิกฤติ/กระทู้ง้างปาก‘ปู’ตอบจำนำเจ๊ง
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมไม่ได้หารือเรื่องโครงการรับจำนำข้าว แต่เนื่องจากเรื่องดังกล่าวอยู่ในกระแส จึงขอชี้แจงว่า ประเทศจีนซื้อข้าวจากไทยหลายวิธีการ แต่ล่าสุดในการเดินทางเยือนประเทศไทยของนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ไทยและจีนได้ลงนามว่าจะซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) อย่างต่อเนื่องให้ได้ปีละ 1 ล้านตัน ซึ่งราคาซื้อขายจะเท่าไรนั้นในเดือน พ.ย.หรืออย่างช้าในเดือน ธ.ค.
ขาดทุนแค่แสนล้านบาทเอง
"ซึ่งราคาซื้อขายจะเท่าไรนั้นในเดือน พ.ย.หรืออย่างช้าในเดือน ธ.ค. ผมและคณะจะไปหารือกับรัฐมนตรีพาณิชย์จีนอีกครั้ง โดยประเทศจีนอาจส่งรัฐวิสาหกิจมาซื้อแบบจีทูจีอีกก็ได้ โดยไทยจะขายข้าวคุณภาพดี ราคาสูงและคุณภาพดีกว่าข้าวของประเทศเวียดนาม รวมทั้งใช้ราคาตลาดโลกเป็นราคาอ้างอิง แต่จะไม่กำหนดราคาไว้ เพราะเป็นการขายข้าวในระยะยาว"
เขาอ้างว่ายังมีการขายแบบรัฐต่อเอกชน เอกชนซื้อกับเอกชนอีก ส่วนการขายข้าว 1.2 ล้านตันให้มณฑลเฮย์หลงเจียงนั้น ไม่เกี่ยวกับยอดขายข้าวแบบจีทูจีครั้งนี้ แต่คาดว่าการซื้อขายดังกล่าวจะลงนามซื้อขายได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ ดังนั้น ขณะนี้มีการขายที่แน่นอนแล้ว 3 ยอด ได้แก่ ขายข้าวมณฑลเฮย์หลงเจียง, จีทูจี และรัฐวิสาหกิจจีนและเอกชนไทย อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เราจะเจรจาขายข้าวกับอีกหลายประเทศทั้งประเทศอิรักและอินโดนีเซีย สำหรับสต็อกรัฐบาลที่สามารถขายได้มีประมาณ 10 ล้านตัน ที่เหลือเป็นข้าวที่มีพันธสัญญาแล้ว
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:33
POPULAR
ภาษาจีนกลางอ่าน " ซาน-ปา " แปลว่า เดือน 3 วันที่ 8 (วันสตรีสากล)
แต่ในที่นี้เป็นคำแสลง แปลแบบสุภาพหน่อยก็คือ นังตัวดี
และถ้าแปลแบบไม่ไว้หน้าก็แปลว่า...อีเวร !!!!!
แปลโดยคุณUnbelievable
Edited by ดอกปีบ, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:11.
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:34
เหยียบหน้าเสื้อแดงทั่วไทย
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:37
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:41
http://www.naewna.co.../columnist/9150
สุทิน วรรณบวร เมื่อนายกฯจีนฉีกหน้ารัฐบาลไทยกลางสภาฯกาลเวลาล่วงไปแล้วหนึ่งอาทิตย์ แต่คิดว่ายังไม่สายเกินไปที่จะขอคารวะ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้มีความแหลมคมทางการเมือง ที่ฉีกหน้ารัฐบาลแฉความโกหกปลิ้นปล้อนบิดเบือนข้อมูลปกปิดความผิดพลาด
ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อหน้าสมาชิกรัฐสภาไทยหลายร้อยคน ด้วยคำพูดสั้นๆที่ว่า “ในเวลาห้าปีข้างหน้าประเทศจีนจะนำเข้าข้าวจากประเทศไทยปริมาณ 1 ล้านตัน”
คำพูดสั้นๆ ประโยคนี้ เปิดโปงคำโกหกหลอกลวงของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ชอบกล่าวอ้างว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนตกลงจะซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐจากประเทศไทยครั้งละ 5 ล้านตันบ้าง 1.5 ล้านตันบ้าง ปีกลายทูตจีนเคยปฏิเสธข้อกล่าวอ้างรัฐบาลไทยมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่รู้สึกหลาบจำ ล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์อ้างว่า จีนตกลงซื้อข้าว 1.5 ล้านตัน ถึงแม้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวว่า จีนปฏิเสธไปแล้วว่า ไม่ได้ตกลงซื้อข้าวกับไทยตามที่กล่าวอ้าง รัฐมนตรีไทยก็ยังยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า จีนซื้อ
นายหลี่ เค่อเฉียง คงทนไม่ไหวที่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชอบอ้างจีนเป็นเครื่องมือในการปิดบังกลบเกลื่อนความผิดพลาดเรื่องนโยบายจำนำข้าว คราวนี้เลยแฉในสภาต่อหน้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียเลยว่า อีกห้าปีนับจากนี้ ประเทศจีนจะซื้อข้าวจากประเทศไทยแค่ 1 ล้านตัน คือเฉลี่ยแล้วจะซื้อแค่ปีละ 2 แสนตัน แค่นั้นเองไม่ต้องไปคุยโวให้เหม็นน้ำลายอีกแล้ว
เรื่องความผิดพลาดในนโยบายจำนำข้าว นอกจากถูกนายกฯจีนฉีกหน้ากลางสภาแล้วสำนักข่าวต่างประเทศ ฉวยโอกาสที่นายกฯ จีนมาเยือนประเทศไทย รายงานข่าวว่า ตลอดเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมาสาธารณรัฐประชาชนจีนซื้อข้าวเจ้าและข้าวเหนียวจากประเทศไทยปีละ 1.5 ถึง 2 ล้านตันทุกปี แต่หลังจากที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศนโยบายซื้อข้าวทุกเม็ดจากชาวนา จนเป็นเหตุให้ราคาข้าวตกต่ำและรัฐบาลขาดทุนสะสมไปแล้วกว่า 4.46 พันล้านเหรียญสหรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีนลดการนำเข้าข้าวจากไทยลงไปมาก จากปีละหลักล้านตันลงมาเหลือแค่ปีละหลักแสนตัน สาเหตุสำคัญที่ต่างประเทศหันไปซื้อข้าวจากประเทศอื่นมากขึ้น เพราะรัฐบาลรับซื้อข้าวจากชาวนาสูงกว่าราคาในตลาดโลกกว่า 50% นอกจากนั้นแล้ว ข้าวที่รัฐบาลไทยกักตุนไว้ล้นโกดังกว่า 18 ล้านตัน เป็นเวลานาน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ต่างประเทศไม่มั่นใจในคุณภาพข้าวของไทย
ส่วนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ออกมาพูดหลังจากที่คณะของนายกรัฐมนตรีจีนออกเดินทางจากประเทศไทยไปแล้วว่า จีนเปลี่ยนใจมาซื้อข้าวจากไทยเป็นปีละ 1 ล้านตันนั้น สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ของรัฐบาลไทย ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้มีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด และไม่สามารถสอบถามความจริงจากฝ่ายจีนได้เพราะรัฐบาลไทยแถลงข่าวหลังจากที่คณะของจีนกลับไปแล้ว
เรื่องที่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ คุยนักคุยหนาว่ารัฐบาลไทยมีความสัมพันธ์กับจีนอยู่ในระดับแนวหน้าถ้าเทียบกับความสัมพันธ์ที่จีนมีต่อประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรื่องนี้ต้องแบ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นมา 2 ระดับ คือ ระดับประมุขประเทศกับ ระดับรัฐบาล ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ระดับประมุขของรัฐกับจีน ดีกว่าทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ของสถาบันกษัตริย์ไทย ที่มีชาวจีนให้ความเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในสิบบุคคลสำคัญทั่วโลกที่ประชาชนชาวจีนเคารพรัก
แต่ถ้ามาว่าถึงความสัมพันธ์ระดับรัฐบาล ที่รัฐบาลจีนมีต่อรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ เมื่อเทียบกับรัฐบาลอื่นๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ต้องยอมรับความจริงว่า อยู่ในระดับปลายแถว ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนก็ลองหันมาดูการเสริมสร้างความสัมพันธ์โดยการเยือนมิตรประเทศของผู้นำจีนในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
อาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม 2556 นับเป็นช่วงเวลาที่จีนได้รับชัยชนะทางการเมืองการทูตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่ออเมริกา เพราะพิษสง shut down ประเทศสหรัฐทำให้นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีอเมริกา ต้องยกเลิกการเดินทางมาร่วมประชุมเอเปก ที่เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงยกเลิกการเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์ด้วย จีนได้ทีฉวยโอกาสรุกทางการเมืองการทูต ส่งผู้นำไปเยือนประเทศต่างๆ แทน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้ความสำคัญต่อประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยการเดินทางไปเยือนสองประเทศนั้นอย่างเป็นทางการด้วยตัวเอง ส่วนประเทศที่มีความสำคัญน้อยลงไป ก็ให้นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง เดินทางไปเยือนบรูไน ประเทศไทย และเวียดนามตามลำดับ
การเดินทางเยือนมิตรประเทศของผู้นำเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ย่อมมีส่วนสัมพันธ์กับการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ลองมาดูตัวเลขการค้าการลงทุนของประเทศสมาชิกสมาคมเอเชียตะวันออกที่มีต่อจีน
ประเทศมาเลเซียมีมูลค่าการค้าสองทางกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2555 สูงถึง 94.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีนมีการค้ากับประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2555 มูลค่าประมาณ 66.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และล่าสุดเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2556 จีนลงทุนทางด้านพลังงาน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม โครงสร้างพื้นฐานขนส่งมวลชนระบอบรางและสถาบันการเงิน การธนาคารในอินโดนีเซียสูงถึง 28.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2555 จีนลงทุนทางด้านเกษตร และอุตสาหกรรมในประเทศพม่า 13.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปีเดียวกันจีนลงทุนในประเทศลาว 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ในขณะที่ตลอดปี 2555 จีนลงทุนในประเทศไทยเพียง 920 ล้านเหรียญสหรัฐ น้อยกว่าการลงทุนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวหลายร้อยเท่า ส่วนการค้าสองทางระหว่างสาธารณรัฐจีนกับไทยมีมูลค่าทางการค้า 64.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก็จริง แต่ในจำนวนนี้ไทยเสียดุลการค้าสูงจาก 3,178.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2554 มาเสียดุลการค้าเพิ่มเป็น 5,326.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2555 เหตุที่ไทยต้องเสียดุลการค้าบักโกรกต่อจีน เป็นเพราะจีนลดการซื้อสินค้าทางเกษตรลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งยางพาราและข้าว
วันนี้ยกตัวเลขสถิติทางการค้าการลงทุนมาให้เห็นกันจะจะ เพราะอยากให้รัฐบาลยุติการบิดเบือนข้อมูล ยอมรับความผิดพลาดทางด้านนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองที่มีต่อมหาอำนาจแห่งเอเชียอย่างประเทศจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดในนโยบายรับจำนำข้าวที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายหลายแสนล้าน ทำลายขบวนการค้าข้าวเสรี ตลอดถึงทำลายวิถีชีวิตของชาวนาในระยะยาว
รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์มักจะใช้จีนเป็นข้ออ้างในความสำเร็จเสมอ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง ความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง การค้าการลงทุนล้มเหลวมาตลอด วันนี้นายกรัฐมนตรีของจีนออกมาฉีกหน้ากลางสภา และมาเปิดเผยตัวเลขแล้วว่า ห้าปีต่อจากนี้ไป จีนจะนำเข้าข้าวจากประเทศไทยเพียงปีละสองแสนตันเท่านั้นจึงอยากเตือนให้รัฐบาลได้สำเหนียกไว้ว่า การที่ตั้งเป้าจะส่งข้าวออกขายต่างประเทศให้ได้ 8 ถึง 10 ล้านตัน ในปี 2557 และ 60% จะขายแบบรัฐต่อรัฐนั้น ให้เตรียมหาชื่อประเทศที่อ้างว่ารับซื้อข้าวไทยไปหลายล้านตันให้ดี เพราะสาธารณรัฐประชาชนจีนเขาประกาศไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า นำเข้าข้าวจากไทยปีละไม่เกิน 2 แสนตัน
เมื่อหมดหนทางแอบอ้างจีน รัฐบาลจะให้ประเทศนครรัฐอิตาลี หรือมอนเตเนโกร รับสมอ้างว่าซื้อข้าวไทยไปบริโภคปีละกี่ร้อยล้านตันก็แล้วแต่สะดวกนะครับ
*************************************
ชอบอันนี้ครับ แสดงว่าทางจีนก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเราเท่าไร แถมการแถลงออกไปอย่างนั้นยิ่งอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งออกไปทางลบก็ได้
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:59
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:05
ไม่ได้สรุปราคาขายและยังไม่ได้ขายข้าวให้จีน เป็นแค่กรอบ
แต่ไพร่เสื้อแดงในเสรีไทย ตีปีกยกหาง หอนรับแสดงความชื่นชม
มาตรฐานไพร่นี่เชื่อถือได้จริงๆ 5555
จีนมันไม่โง่ข้าวเสื่อมคุณภาพ มันจะเอาเหรอ..
คือการที่รัฐบาลเก็บข้าวไว้ในโกดังกลางเป็นเวลามากกว่าหนึ่งปี (เพราะรัฐขายข้าวไม่ได้) ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ งานวิจัยพบว่าการเก็บข้าวไว้ในโกดังแบบปกติ (คือไม่มีห้องเย็นหรือระบบ airtight) จะทำให้ข้าวเหลืองและมีมอด เช่น ใน 3 เดือนแรก ดัชนีความขาวจะลดลงจากร้อยละ 51.5 เหลือ 49.5 แมลงจะเพิ่มขึ้น 23.2 ตัวต่อกิโลกรัม ถ้าเก็บไว้ 6 เดือน ความขาวจะลดลงเหลือร้อยละ 49 และแมลงจะเพิ่มขึ้นเป็น 90 ตัวต่อกิโลกรัม หากสมมติว่าปัญหาดังกล่าวทำให้มูลค่าข้าวลดลงร้อยละ 5 ต่อปี ก็แปลว่ามูลค่าข้าวในโกดังจะหายไปปีละกว่า 5,266 ล้านบาท ดองไว้ทำ สาโท จะดีกว่ามั๊ย..
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:09
มันเป็นขั้นตอนปกติของการซื้อขายข้าวไม่ใช่เหรอ เห็นเสื้อแดงราชดำเนินบอกมา
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:16
ควาย อวยกันซะ นึกว่าจีนเอาไปหุงกินกันแล้ว
ชอบจริงๆประโยคนี้ ฮาน้ำแดงกระจายเลย
ฝ่ายเราสิ ..นึกไปไกลกว่านั้น ฮิฮิ
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 17:52
2 ปีที่ผ่านมาจีนนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจาก 3-6 แสนตันต่อปี เพิ่มเป็น 2 ล้านตันต่อปี
ฟังแล้วน่าเป็นโอกาสสำหรับข้าวไทย
พอมาดูลิสต์รายชื่อประเทศที่ส่งข้าวไปขายจีน ปรากฎว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่จีนนำเข้าข้าวมากขึ้น
เวียดนามกวาดเรียบ แถมไม่ได้กวาดธรรมดานะครับ มาเอาแชร์เดิมของข้าวไทยไปด้วย
เวียดนามจากเดิมส่งข้าวไปขายจีนได้ไม่ถึงหมื่นตัน สองปีที่ผ่านมาล่อไปปีละล้านกว่าตัน
ไทยแลนด์ จากเดิมส่งข้าวไปจีนราวๆ 3 แสนตันต่อปี สองปีที่ผ่านมาลดฮวบฮาบเหลือแค่แสนตัน
พี่น้องเสื้อแดงจะเพ้อเจ้อต่อไปก็ตามสบายนะครับ..
Source : GTIS
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:25
Edited by PriFa, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:26.
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:25
ความหน้าหนาของรัฐบาล...เฮ้ออ อะไรมันจะด้านขนาดนี้
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:50
ผมว่า นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผล
ที่คุณหนูปูแดง เธอไม่ค่อยกล้าโผล่ไปสภาฯ...
http://www.thairath....tent/pol/376850
หรือเพื่อนๆว่า น่าจะมีเหตุผลอื่นๆอีก...
เชิญครับ...
555+ฝากใครเอาไปแปะในพันทิปหน่อยเห็นอวยกันชิบ.... ตั้งหลายกระทู้ในราชดำนา
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:35
อะโด่...เห็นอีปูพูดเป็นตุเป็นตะ
เก่งนักแหละ ไอ้พูดคลุมเคลือให้คนคิดไปอีกอย่าง
หน้าด้าน อิ๊บอ๋าย
Edited by 55555, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:35.
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:39
อ่านตั้งแต่หัวข้อ ยันคำตอบสุดท้าย ก่อนพิมพ์
สรุปได้ว่า
๑ รองนายกฯ ไปทางหนึ่ง
๒ รมช.พานิด ไปทางหนึ่ง
๓ นังบ้านั่น ก็ไปทางหนึ่ง
สรุปซ้ำได้ว่า
อันการโกหกนั้นแม้ว่าทำเป็นทีม
ก็มิอาจโกหกได้เหมือนกันทุกกรณี
สุดท้ายเป็นของฝากสำหรับคนไทยทุกคน
เราต้องอยู่กับรัฐบาลนี้อีกนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
จนกว่าจะมีโรคระบาดใหญ่ ตายห่ านหมดยกคณะ
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:42
มีคนเขาสงสัยด้วยนะครับว่าทำไมต้องชักแม่น้ำทั้ง 5 มาสนับสนุนว่าโครงการจำนำข้าวเจ๊ง
พอดีแวะจะไปอ่านบลูแพเน็ต ไปเจอกระทู้นี้ของราชดำนาเข้า กำลังสดๆเลยเหมือนเจ้าของกระทู้กำลังจะโดนต้อน
กำลังรออ่านอยู่ว่าเจ้าของกระทู้เขาจะทำไงต่อเพราะดูเหมือนเจ้าของกระทู้จะพลาดแล้วละ
http://pantip.com/topic/31123325
Edited by น้องจุบุจุบุ, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:43.
ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:18
ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:31
ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 11:45
ภาษาจีนกลางอ่าน " ซาน-ปา " แปลว่า เดือน 3 วันที่ 8 (วันสตรีสากล)
แต่ในที่นี้เป็นคำแสลง แปลแบบสุภาพหน่อยก็คือ นังตัวดี
และถ้าแปลแบบไม่ไว้หน้าก็แปลว่า...อีเวร !!!!!
แปลโดยคุณUnbelievable
นายกจีน ไม่น่ามาเป็นตัวตลก ให้อีโ่ง่เลย
โดนจนได้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน