43 ความเห็นในกระทู้นี้

[jerasak]

ตามที่ถึงปัจจุบันยังมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประมูลสินทรัพย์
ปรส.เผยแพร่โดยฝ่ายต่างๆทั้งในอินเตอร์เน็ตและสื่ออื่นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ต้องการทำเอกสารอ้างอิงที่มีรายละเอียดมากกว่าข้อมูลทั่วไป
ที่มีการเผยแพร่ในปัจจุบัน...

กรุเก็บข้อมูลการประมูลสินทรัพย์ ปรส. นี้สร้างจากต้นฉบับเอกสาร-
งานวิจัยเรื่อง "บทบาทขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน" 
ของ อ.สินาด ตรีวรรณไชย คณะเศรษฐศาสตร์ ม.สงขลาฯ โครงการ-
เมธีวิจัยอาวุโส สกว. / สนง.กองทุนสนับสนุนการวิจัย พฤษภาคม 50

ผมเลือกเฉพาะบางตารางที่น่าสนใจจากเอกสาร มาทำการปรับปรุง
Layout ให้เหมาะกับการอ่านและเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต มีการแก้
ข้อมูลที่ผิด 2 จุดในตารางที่ 7 ผลการจัดการสินทรัพย์ของสถาบัน
การเงินที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ 56 แห่ง คือ "สินทรัพย์ที่เหลือรวม
(56 แห่ง) จากเดิม 12868.05 ให้ถูกต้องเป็น 120868.05 และแก้
วันที่จำหน่ายสินเชื่อพาณิชย์และสินเชื่ออื่นครั้งที่ 2 จาก 11ส.ค.42 
เป็น 10 พ.ย.42 ตามข้อมูลจริง พร้อมกับแก้ข้อความสำหรับ สินเชื่อ-
พาณิชย์และสินเชื่ออื่นครั้งที่ 1 โดยเพิ่มข้อความ "ครั้งที่ 1" ที่จากเดิม
ไม่มีเพื่อความชัดเจน นอกจากนี้ได้เพิ่มคำอธิบายของตัวเองในตาราง-
ที่ 7 และ 8 ด้วยสีแดงไว้ 2 แห่ง 

นอกจากนั้นได้คงข้อความตามเอกสารเดิมเพียงแต่ได้ย้ายตำแหน่ง
เพื่อความเหมาะสม เช่น ได้จัดย่อหน้าตัวเลขในคอลัมน์ให้ตรงตาม
ตำแหน่งทศนิยมเพื่อความสะดวกในการอ่านเปรียบเทียบข้อมูล กับ
ได้ลดขนาดตัวอักษรบางตำแหน่งเพื่อความเหมาะสมในการจัดวาง
ดังนั้นในส่วนข้อมูลถูกผิดประการใดเป็นเครดิตของ อ.สินาด นะครับ 
ส่วน Layout ที่ปรับปรุงใหม่ถ้าดีหรือแย่เป็นเพราะผมเอง

หากท่านใดเห็นว่ากรุข้อมูลนี้มีประโยชน์ ต้องการเผยแพร่ต่อ
ก็ทำได้ตามสบายนะครับ...

 

...

 

จะไปแชร์จาก Facebook ก็ได้ ทำเป็นอัลบัมไว้แล้วครับ

 

https://www.facebook...erasak.serithai

 

...

 

ปล. ล่าสุดเพิ่มข้อความ "หน่วย : ล้านดอลลาร์สหรัฐ" เข้าไปใน

ตารางที่ 10 ด้วยครับ เพราะต้นฉบับไม่ได้ระบุเอาไว้

Edited by jerasak, 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 02:30.

[jerasak]

 

...

 

สำหรับตารางนี้ที่ผมเลือกมาให้ดูกัน เพื่อเป็นการแก้ข้อมูลที่เผยแพร่กันทั่วไป

ว่าการประมูลสินทรัพย์ ปรส. จัดสินทรัพย์เป็นก้อนใหญ่ๆ หลักหมื่นล้านเท่านั้น

ทำให้รายเล็กไม่สามารถเข้าร่วมด้วยได้

 

ความจริงก็คือมีการจัดเป็นหลายขนาดไม่ใช่มีแต่ขนาดหมื่นล้าน แต่ส่วนใหญ่

มีขนาดเป็นหลักพันล้านขึ้นไป มีข้อน่าสังเกตคือในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ซึ่ง เลแมน บราเดอร์ส ประมูลได้ไป จัดเป็นก้อนใหญ่ก้อนเดียว 2 หมื่นกว่าล้าน

ทำให้เป็นจุดเด่นน่าสนใจ

 

และทุกอย่างก็เริ่มดูไม่ดีเมื่อผู้ชนะประมูลคือเลแมนฯ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน

ในการประมูลของ ปรส. ครั้งนี้ด้วย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความโปร่งใส

เมื่อเวลาผ่านไปข้อมูลก็เพี้ยนกลายเป็นความเชื่อผิดๆ ว่า เลแมนฯ ประมูลสินทรัพย์

ปรส.ได้ไปทั้งหมด เสียหาย 8 แสนล้าน อะไรต่างๆ ทั้งที่สินทรัพย์ที่ประมูลได้กลุ่มนี้

มีสัดส่วนเพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่นำมาประมูลทั้งหมด

Edited by jerasak, 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:28.

[jerasak]

 

...

 

มาถึงตารางนี้ ที่เลือกมาให้ดูเพราะแสดงให้เห็นข้อมูลว่า

ในการประมูลสินทรัพย์ ปรส. นอกจากมีการแบ่งกลุ่มเป็น

หลายขนาดแล้ว ยังมีการจัดประมูลกันหลายครั้งโดยแบ่ง-

ตามประเภทของสินทรัพย์

 

สังเกตว่าสินเชื่อเช่าซื้อ (ก็คือซื้อพวกรถยนต์+มอเตอร์ไซค์) 

และสินเชื่อที่อยู่อาศัย มีการจัดขายก่อนเป็นกลุ่มแรกและ

กลุ่มที่สองตามลำดับ ได้รับเงินในสัดส่วนสูงเกือบถึง 50%

ของมูลค่าตามบัญชี ได้เงินรวมกันประมาณ 36000 ล้านบาท

มูลค่าหายไปคิดเป็นเลขกลมๆ 4หมื่นล้านบาท เพียงแต่ว่า

สินทรัพย์ทั้ง 2 กลุ่มนี้มีสัดส่วนเพียงนิดเดียวเทียบกับทั้งหมด

ดังนั้นถึงได้ราคาดีก็ไม่สามารถทำให้ตัวเลขการขายสินทรัพย์

โดยรวมดีตามไปด้วย

 

กลับกันคือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตามบัญชีมากที่สุดคือสินเชื่อ

ธุรกิจ (กู้เงินลงทุนเปิดกิจการ) มูลค่ารวม 370,000 กว่าล้าน

สามารถประมูลได้เงินเฉลี่ยทั้งสองครั้งรวมกันเพียง 20.45%

คิดเลขกลมๆก็คือมูลค่าหายไป 3แสนล้านบาท

 

สินทรัพย์ที่มีมูลค่าทางบัญชีรองลงมาคือ สินเชื่อพาณิชย์

เรียกง่ายๆก็คือสินเชื่อรายย่อย ในกลุ่มนี้มีมูลค่าทางบัญชี

รวมกันประมาณ 145,000 ล้านบาท ปรากฏว่าประมูลได้เงิน

รวมกันเพียงประมาณ 36,000 ล้านบาท มูลค่าหายไปคิดเป็น

เลขกลมๆอีก 1 แสนล้านบาท

 

อีกกลุ่มที่น่าสนใจคือ สินทรัพย์รอง เรียกง่ายๆ ก็คือพวก

ที่ไม่ใช่สินเชื่อ ได้แก่ ที่ดิน อาคาร รถยนต์ เรือ เฟอร์นิเจอร์

อะไรต่างๆ ที่นำมาขายทอดตลาดได้ ในกลุ่มนี้ได้ราคาดี

เกือบครึ่งของมูลค่าทางบัญชี แต่ก็มีสัดส่วนไม่มากเช่นกัน

จากมูลค่ารวมประมาณ 77000 ล้านบาท ขายได้เงินประมาณ

35000 ล้านบาท มูลค่าหายไปในส่วนนี้คิดเลขกลมๆ อีก

4.2 หมื่นล้านบาท

 

...

 

ที่บรรยายมายืดยาวก็เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า ตามที่หลายคน

โฟกัสการขายสินทรัพย์ให้ เลแมน ว่าทำให้เกิดความเสียหาย

8 แสนล้านอะไรต่างๆ ความจริงแล้วความเสียหายส่วนใหญ่

มาจากสินทรัพย์ในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจและรองลงมาคือสินเชื่อ-

พาณิชย์ ซึ่งเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพตัวจริง เพราะขายไม่ได้-

ราคา พาให้มูลค่าโดยรวมหายไป 4 แสนล้าน ขณะที่สินทรัพย์

ที่เลแมนชนะประมูลไปนั้นอยู่ในกลุ่มที่ได้ราคาดีที่สุดด้วยซ้ำ

 

...

 

ปล. ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเลแมน ประมูลได้ไป

ผมเจอมีข้อมูลรายละิเอียดอีก แต่ไม่อยู่ในข้อมูลเอกสารชุดนี้

ก็เลยจะนำมาลงต่อท้ายกระทู้อีกทีนะครับ

Edited by jerasak, 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:28.

[jerasak]

 

...

 

มาถึงตารางนี้ ที่เลือกมาให้ดูก็เพราะเป็นหลักฐานชัดเจนว่า

คำพูดติดปากเรื่อง "ปรส. ขายสินทรัพย์เหมาเข่งให้ต่างชาติ

กีดกันคนไทยไม่ให้เข้าร่วมประมูล" ไม่เป็นความจริง เพราะ

มีผู้ชนะการประมูลสัญชาติไทยและต่างชาติพอๆกัน ครึ่งๆ

 

โดยรายที่ประมูลได้สินทรัพย์ไปเป็นมูลค่าทางบัญชีมากที่สุด

ก็คือ บบส. หรือชื่อเต็ม บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ซึ่งตั้งขึ้น

โดยรัฐบาลไทยเราเอง ได้สินทรัพย์ไปคิดเป็นมูลค่าทางบัญชี

ประมาณ 197,000 ล้านบาท โดยให้ราคาเพียง 33,700 ล้าน-

บาท มูลค่าทางบัญชีหายไปคิดเลขกลมๆ 140,000 ล้านบาท

 

รายใหญ่รองลงมาเป็นต่างชาติคือ โกลแมน ซาคส์ ได้สินทรัพย์

ไปมูลค่าทางบัญชีเกือบ 116,000 ล้านบาท โดยให้ราคาเพียง

เกือบๆ 22500 ล้านบาท มูลค่าหายไป 93,000 กว่าล้านบาท

 

เมื่อศึกษาข้อมูลมาถึงตรงนี้ เราก็พอจะเดาได้แล้วนะครับว่า

โกลแมน ซาคส์ ประมูลได้สินทรัพย์ในกลุ่มที่ราคาไม่ดีไป

เพราะ บบส. ของเราเองก็ยังให้ราคาสินทรัพย์ได้ไม่ดีเลย

 

...

 

คราวนี้มาดู เลแมน บ้าง (ในตารางเดิมลงเป็นชื่อ โกลบอลไทย

ผมเลยกำกับชื่อ เลแมน เป็นสีแดงไว้นะครับ) ปรากฎว่าอยู่ใน

กลุ่มที่ให้ราคาดีที่สุดเฉลี่ยเกือบ 40% ของมูลค่าทางบัญชี

ดังนั้นการจะกล่าวหาว่าการประมูลมีปัญหาทำให้ได้เงินน้อย

ก็คงไม่ใช่เพราะเลแมน  แต่ควรไปดู บบส. กับ โกลด์แมนฯ

มากกว่า แต่ก็อย่างที่เราดูข้อมูลกันมานะครับ สินเชื่อกลุ่ม

ใหญ่สุดขายไม่ได้ราคาจริงๆ ขณะที่กลุ่มได้ราคาดีมีไม่มาก

 

ผมมองว่าสินทรัพย์แต่้ละกลุ่มก็ได้ราคาตามสภาพของมัน

คนไม่รู้รายละเอียดต่างหากที่คิดว่าควรได้ราคาดีกว่านี้

Edited by jerasak, 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:30.

[jerasak]

 

...

 

มาต่อกันนะครับ สำหรับตารางนี้ยกมาให้ดูเพื่อให้เห็น

การเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของ องค์กรลักษณะ

เดียวกันในประเทศอื่นๆ คือ KAMCO ของ เกาหลีใต้

และ LBRA ของอินโดนีเซีย

 

สรุปว่าลักษณะผลการดำเนินงานก็คล้ายๆ กับ ปรส.

ของบ้านเรานะครับ โดยที่สินทรัพย์ในแต่ละประเภท

ก็ได้เงินคืนมากน้อยไปตามประเภทของมันเหมือนกัน

 

ปล. เพิ่งสังเกตว่าในตารางต้นฉบับไม่ได้ระบุหน่วยเงิน

แต่พอสรุปได้ว่าเป็นหน่วย "ล้านดอลลาร์" ก็เลยเพิ่ม

เข้าไปในตารางแล้วนะครับ 

Edited by jerasak, 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:27.

[jerasak]

 

...

 

สำหรับในตารางนี้ไม่มีอะไรมากครับ

แต่เห็นว่าเป็นข้อมูลประกอบที่น่าสนใจ

เพราะแสดงให้เห็นว่าปริมาณ NPL ใน

ช่วงปี 2540 ถึง 2541 มีการเพิ่มขึ้นถึง

ประมาณ 1 เท่าตัว

 

จึงถือเป็นข้อสนับสนุนได้ว่า ปรส.มีความ

จำเป็นต้องเร่งประมูลขายสินทรัพย์ให้

เร็วที่สุด ก่อนจะเสื่อมค่ากลายเป็น NPL 

ไปหมด ซึ่งจะทำให้ไม่เหลือราคาครับ

Edited by jerasak, 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 23:51.

[jerasak]

 

...

 

ตารางสุดท้ายแล้วครับ ที่เลือกมาให้ดูก็เพราะเป็นการ

สรุปให้เห็นสภาพของ บริษัทเงินทุนทั้ง 56 แห่ง ที่ถูก

สั่งปิดกิจการว่า ส่วนใหญ่มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจริงๆ

เนื่องจากในการประมูลขายสินทรัพย์ จะนำสินทรัพย์

ประเภทเดียวกันจากทุกบริษัทรวมขายเป็นกลุ่มๆ

 

ดังนั้นราคาประมูลขายได้มา จึงสะท้อนกลับมายังแต่ละ

บริษัทว่ามีมูลค่าสินทรัพย์เป็นอย่างไร สังเกตว่ามีอยู่

6 แห่งที่ล้มละลายไปก่อน ปรส.จะทันได้นำสินทรัพย์

มาประมูล และกรณีของหมายเลข 50 รอยัลอินเตอร์ฯ

ที่ได้มูลค่าไม่ถึง 2% จากที่ลองค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า

สินทรัพย์ส่วนใหญ่ก็นำมาประมูลไม่ได้ครับ เพราะติด

คดีฟ้องร้องเต็มไปหมด

 

จากตารางนี้ทำให้เห็นภาพว่า การที่ 56 บริษัท

ถูกสั่งปิดกิจการ ก็เพราะมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ

เป็นจำนวนมาก มีสภาพย่ำแย่จริงๆ ครับ

Edited by jerasak, 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 23:59.

[Suraphan07]

ขออนุญาต เสนอให้ "WM" ปักหมุดกระทู้ครับ...  

ใครเห็นด้วย ยกมือขึ้น...  

[jerasak]

ทำไว้ทั้งหมดตอนนี้ 6 หน้าครับ ถ้ามีเวลาอาจทำเพิ่มอีก

แต่ที่เลือกมานี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการศึกษาข้อมูล

เกี่ยวกับการประมูลสินทรัพย์ ปรส.ในเบื้องต้นแล้วนะครับ

 

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากอ่านเอกสารต้นฉบับ ของ

อ.สินาด ตรีวรรณไชย ก็ตามไปอ่านจากไฟล์ต้นฉบับ

ได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ เป็นไฟล์ PDF  129 หน้า

ก็ไม่ยาวเท่าไหร่นะครับ อ่านไม่นานก็จบ

 

....

 

เอกสารวิชาการ : บทบาทขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน

โดย สินาด ตรีวรรณไชย คณะเศรษฐศาสตร์ ม.สงขลาฯ พฤษภาคม 2550

โครงการเมธีวิจัยอาวุโส สกว. โดย สนง.กองทุนสนับสนุนการวิจัย

 

http://tinyurl.com/FSRA-THAI

[เรื่อยๆเอื่อยๆ]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ อีกเช่นเคย คุณจี น่าจะแสดงความเห็นต่อกรณีนี้ไว้ด้วยนะครับ

[jerasak]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ อีกเช่นเคย คุณจี น่าจะแสดงความเห็นต่อกรณีนี้ไว้ด้วยนะครับ

 

เดี๋ยวจะค่อยๆ เติม comment ของผมลงในแต่ละตารางนะครับ

[Bourne]

รออ่านควายเอ้ย แดงวิชาการอย่าง  ไอ่เปียก (The Wet) ไอ่ดอยาน ไอ่ควายหนี(บ)ทวาร ไอ่ควายหน้าตาดี (แต่สันดาล here) ไอ่ปลายแคม มาช่วยกันแถ 

[Bookmarks]

ดันครับ 

[Suraphan07]

ดันครับ 

 

เห็นม๊าาาา...ไม่ปักหมุด ก็ต้องมาคอย  "ดัน"...  

[นายตัวเกร็ง]

ปล่อย @jerasak Solo ปล่อยของเต็มที่ก่อนแล้วค่อยมาให้ความเห็น นานๆมาที :3

[ปุถุชน]

ตามที่ถึงปัจจุบันยังมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประมูลสินทรัพย์
ปรส.เผยแพร่โดยฝ่ายต่างๆทั้งในอินเตอร์เน็ตและสื่ออื่นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ต้องการทำเอกสารอ้างอิงที่มีรายละเอียดมากกว่าข้อมูลทั่วไป
ที่มีการเผยแพร่ในปัจจุบัน...

กรุเก็บข้อมูลการประมูลสินทรัพย์ ปรส. นี้สร้างจากต้นฉบับเอกสาร-
งานวิจัยเรื่อง "บทบาทขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน" 
ของ อ.สินาด ตรีวรรณไชย คณะเศรษฐศาสตร์ ม.สงขลาฯ โครงการ-
เมธีวิจัยอาวุโส สกว. / สนง.กองทุนสนับสนุนการวิจัย พฤษภาคม 50

ผมเลือกเฉพาะบางตารางที่น่าสนใจจากเอกสาร มาทำการปรับปรุง
Layout ให้เหมาะกับการอ่านและเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต มีการแก้
ข้อมูลที่ผิด 2 จุดในตารางที่ 7 ผลการจัดการสินทรัพย์ของสถาบัน
การเงินที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ 56 แห่ง คือ "สินทรัพย์ที่เหลือรวม
(56 แห่ง) จากเดิม 12868.05 ให้ถูกต้องเป็น 120868.05 และแก้
วันที่จำหน่ายสินเชื่อพาณิชย์และสินเชื่ออื่นครั้งที่ 2 จาก 11ส.ค.42 
เป็น 10 พ.ย.42 ตามข้อมูลจริง พร้อมกับแก้ข้อความสำหรับ สินเชื่อ-
พาณิชย์และสินเชื่ออื่นครั้งที่ 1 โดยเพิ่มข้อความ "ครั้งที่ 1" ที่จากเดิม
ไม่มีเพื่อความชัดเจน นอกจากนี้ได้เพิ่มคำอธิบายของตัวเองในตาราง-
ที่ 7 และ 8 ด้วยสีแดงไว้ 2 แห่ง 

นอกจากนั้นได้คงข้อความตามเอกสารเดิมเพียงแต่ได้ย้ายตำแหน่ง
เพื่อความเหมาะสม เช่น ได้จัดย่อหน้าตัวเลขในคอลัมน์ให้ตรงตาม
ตำแหน่งทศนิยมเพื่อความสะดวกในการอ่านเปรียบเทียบข้อมูล กับ
ได้ลดขนาดตัวอักษรบางตำแหน่งเพื่อความเหมาะสมในการจัดวาง
ดังนั้นในส่วนข้อมูลถูกผิดประการใดเป็นเครดิตของ อ.สินาด นะครับ 
ส่วน Layout ที่ปรับปรุงใหม่ถ้าดีหรือแย่เป็นเพราะผมเอง

หากท่านใดเห็นว่ากรุข้อมูลนี้มีประโยชน์ ต้องการเผยแพร่ต่อ
ก็ทำได้ตามสบายนะครับ...

 

 

ในที่สุด....'จีรศักดิ์' ตะบะแตก ทนมนุษย์ลวงโลก โกหกพกลม....

บิดเบือนข้อเท็จจริงไม่ได้.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

 

ปล. หากท่านใดเห็นว่ากรุข้อมูลนี้มีประโยชน์ ต้องการเผยแพร่ต่อ
ก็ทำได้ตามสบายนะครับ...

แปลเป็นไทยอีกทีว่า ใครพิสูจน์ว่าข้อมูลนี้ไม่ถูกต้องแย้งมาได้...

ประจานมาได้ ยินดีเปิดโลกทัศน์เสมอ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Edited by ปุถุชน, 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:58.

[ปุถุชน]

ขออนุญาต เสนอให้ "WM" ปักหมุดกระทู้ครับ...  

ใครเห็นด้วย ยกมือขึ้น...  

 

 

 

เรียน WM/MOD.....

 ขอแสดงความคิดเห็นว่า.....

1.การ'ปักหมุดกระทู้'นี้ ตลอดไป จะทำให้"บัตรเติมเงิน"หน้าใหม่ และ "ปลาร้าเก่าในไหใหม่"ที่หน้าด้านไม่มากนัก ไม่กล้าตั้งกระทู้/คคห.อีก....

เพราะข้อมูล ข้อเท็จจริงปรากฏในกระทู้ของ"จีรศักดิ์" ตลอดไป.....!

 

2.เพื่อให้"บัตรเติมเงิน" หรือ "ปลาร้าเก่าในไหใหม่" หาเลี้ยงชีพได้บ้าง ขอความเมตตาพวกเขา"ถอดหมุด"เป็นบางขณะ....

มี"บัตรเติมเงิน"หน้าใหม่ หรือ "ปลาร้าเ่าในไหใหม่"หน้าด้านเพิ่มขึ้น ค่อยปักหมุดใหม่.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[eAT]

กลับมาเมื่อไหร่ ไม่ทันสังเกตแฮะ

[jerasak]

ข้อมูลเสริมเกี่ยวกับรายละเอียด สินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ ปรส.

นำมาประมูลรวมเป็นก้อนเดียว 2 หมื่นกว่าล้านบาทครับ

 

มีจุดที่น่าสังเกตก็คือ ข้อมูล ณ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2541

ลูกหนี้ 41% ไม่มียอดค้างชำระ ขณะที่ 13% ค้างชำระ 31-60 วัน,

7% ค้างชำระ 61-90 วัน, 6% ค้างชำระ 91-120 วัน, 7% ค้าง

ชำระ 121-180 วัน และ 25% ค้างชำระเกิน 180 วัน

 

*ซึ่งกว่าจะถึงวันประมูล 13 สิงหาคม 2541 ก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งปี

ไม่รู้ได้เลยว่าลูกหนี้ดีๆ 41% ที่ไม่เคยค้างชำระจะเหลือจริงๆเท่าไหร่*

 

ผมว่าไม่น่าแปลกใจที่ผลการประมูลได้เงิน 46.80% ของมูลค่า

หนี้ตามบัญชี แต่น่าดีใจมากกว่าที่ได้ราคานี้นะครับ

 

...

 

สินเชื่อที่อยู่อาศัย 24,000 ล้านบาท ปรส.ประมูลขายกลุ่มเดียว วันเดียว

นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2541

http://info.gotomana...ls.aspx?id=2256

 

วันที่ 30 กรกฎาคม 2541 ปรส. จะปิดรับซองประมูลสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ซึ่งประกอบไปด้วยสัญญาสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงิน 53 แห่ง

จำนวน 17,620 สัญญาโดย จัดจำหน่ายเพียงกลุ่มเดียว มียอดลูกหนี้คงค้าง

ประมาณ 24,400 ล้าน บาท ซึ่งเป็นยอดที่ได้รับการบันทึกสิ้นสุดเมื่อวันที่

28 กุมภาพันธ์ 2541

 

ปรส.คาดว่า ผู้ชนะการประ-มูลสามารถลงนามในสัญญาซื้อขายได้ภายใน 7 วัน

นับตั้งแต่วันปิดประมูล และกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมดนี้จะถูกนำมาประมูล

ภายในวันเดียวเท่านั้น โดยทาง ปรส.ได้แต่งตั้งบริษัท เลห์แมน บราเดอร์ส

รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการจำหน่ายสินทรัพย์หลักครั้งนี้

 

จำนวน 65% ของพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่นำออกขายนั้นเป็นของ

7 บริษัทเงินทุนหลักๆ คือบริษัทนิธิภัทร 5,250.5 ล้านบาท (21.54%),

บริษัทเอกธนกิจ 3,200 ล้านบาท (13.13%), บริษัทพรีเมียร์ 1,905.5 ล้านบาท,

บริษัทเอ็มซีซี 1,851.5 ล้านบาท, บริษัทนครหลวงเครดิต 1,207.0 ล้านบาท

และ บริษัทซิทก้า 971.8 ล้านบาท นอกจากนี้เป็นของบริษัทอื่นๆ อีก 8,479.9 ล้านบาท

 

กลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ ปรส.จัดจำหน่ายครั้งนี้มียอดหนี้คงค้างโดยเฉลี่ยประมาณ

1.38 ล้านบาท ทั้งนี้ประมาณ 83% ของสินเชื่อทั้งหมดมียอดลูกหนี้คงค้างเป็นจ

ำนวนเงินตั้งแต่ 0-2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ของสินเชื่อ

คิดเป็นร้อยละ 16.5 โดยร้อยละ 84 ของสินเชื่อทั้งหมด คิดดอกเบี้ยเป็นอัตรา

ดอกเบี้ยลอยตัว สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่นำออกจำหน่ายนี้ มีอายุสัญญาเฉลี่ยประมาณ

166 เดือน

 

สินเชื่อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล

ถึงร้อยละ 81 ส่วนในเขตภาคกลางทั้งหมดจะมีร้อยละ 6 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ

3 ภาคใต้ร้อยละ 3 ภาคตะวันออกร้อยละ 2 ที่เหลือไม่อาจระบุได้

 

หากพิจารณายอดลูกหนี้คงค้างแบ่งตามประเภทอสังหาริมทรัพย์จะพบว่า

สัญญาสินเชื่อบ้านเดี่ยวมีจำนวนร้อยละ 33 ทาวน์เฮาส์ร้อยละ 22 ที่ดินเปล่า

ร้อยละ 19 คอนโดมีเนียมร้อยละ 18 สำนักงานขนาดเล็ก และบ้านกึ่งสำนักงาน

ร้อยละ 7 และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ อีกร้อยละ 1

 

สินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมดประกอบด้วย หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ หนี้คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน

และหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ จากตัวเลขยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2541 นั้น

ลูกหนี้ร้อยละ 41 ไม่มียอดค้างชำระ, ร้อยละ 13 ค้างชำระ 31-60 วัน, ร้อยละ 7 ค้างชำระ

61-90 วัน, ร้อยละ 6 ค้างชำระ 91-120 วัน, ร้อยละ 7 ค้างชำระ 121-180 วัน, ร้อยละ 25

ค้างชำระเกินกว่า 180 วัน

 

อมเรศ ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ ปรส.ให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ส่วนใหญ่

เป็นสินเชื่อของบ้านและทาวน์เฮาส์ ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งยังมี

กำลังซื้อและความต้องการสูง ในขณะเดียวกันลูกหนี้ที่ค้างชำระต่ำกว่า 90 วัน

มีทั้งหมด 61% ซึ่งนับว่าเป็นหนี้ที่ยังใช้ได้ทีเดียว

 

ส่วนกลยุทธ์ในการจัดกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพียงกลุ่มเดียวนั้น อมเรศ ศิลาอ่อน ประธาน ปรส.

ให้เหตุผลว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนกลุ่มใหญ่ต้องการ และจะสามารถดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด

จากผู้ลงทุนที่มีหลากหลายประเภท ถ้าหากแยกออกเป็นหลายกลุ่มจะทำให้เกิดความเสียง

มากขึ้น รวมทั้งอาจจะเกิดการขายไม่หมด หรือเกิดการตัดราคา

 

ส่วนในเรื่องมูลค่าที่เป็นเงินค่อนข้างสูงนั้น อมเรศกล่าวว่า 24 พันล้านบาทนั้นเทียบเท่ากับ 3%

ของตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดมีสูงถึงประมาณ 794,000 ล้านบาท และ

คาดว่าจำนวนเงินดังกล่าวไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะเป็นการเข้ามาร่วมลงทุนกันของนักลงทุน

หลายกลุ่ม โดยทาง ปรส.คาดว่ากลุ่มนักลงทุนที่สนใจนั้น จะเป็นนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามา

จับมือร่วมกันกับนักลงทุนในเมืองไทยที่ยังมีกำลังซื้อ และต้องเป็นกลุ่มที่มีแหล่งเงินระยะยาว

พอสมควร

 

ปรส.ย้ำว่าการขายสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อลูกหนี้ หรือเจ้าของบ้านที่ยังมี

สัญญากับไฟแนนซ์เดิม เพียงแต่ลูกหนี้จะเปลี่ยนเจ้าหนี้เท่านั้น ส่วนสัญญา เงื่อนไข และข้อตกลง

จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะมีตกลงเปลี่ยนแปลงแก้ไขกันตอนหลัง

แต่ที่สำคัญลูกหนี้จะต้องชำระเงินและปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาฉบับเดิมอย่างต่อเนื่องด้วย

 

วันนี้ลูกบ้านทั้งหลาย ที่เฝ้าติดตามดูอย่างใจจดจ่อ คงใกล้ที่จะรู้แล้วว่าใครจะมาเป็นเจ้าหนี้รายใหม่

ส่วน ปรส.เองก็จะรู้แล้วเช่นกันว่าจะมีการประมูลได้ในราคาที่ดีหรือไม่ และจะได้รู้กันจริงๆ เสียที

เหมือนกันว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยยังน่าพิสมัย ควรเสี่ยงต่อการลงทุนอีกหรือไม่ในสายตา

นักลงทุนต่างชาติ

Edited by jerasak, 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 00:36.

[jerasak]

กลับมาเมื่อไหร่ ไม่ทันสังเกตแฮะ

 

กว่าจะเตรียมข้อมูลเสร็จก็ดึกแล้วน่ะครับ

เลยเหมือนแอบมาโพสตอนดึกๆ 

[amplepoor]

มาลงชื่ออ่านครับ

 

หลังการประมูลล๊อตใหญ่ผ่านพ้นไป มีการโจมตีเรื่องรีบประมูลกันมาก โดยเฉพาะตามรายการวิทยุ

ด๊อกฯ ธาดาดำรงเวท เป็นหนึ่งในกลุ่มโจมตี (ร่วมกับบอสสหพัฒน์)

 

ที่จริงมันมีปัญหาทางเทคนิคที่ไม่ได้มีการอธิบายให้ชัดเจน ข้อนี้ต้องโทษคุณอมเรศด้วยเหมือนกัน ที่ไม่ยอมออกมาให้ข้อมูลที่ละเอียดชัดเจน ทั้งๆ ที่การประมูลเสร็จสิ้นไปแล้ว

 

หนึ่งในปัญหาทางเทคนิคนั่นก็คือการเสื่อมราคา ได้แก่รถยนต์

รถพวกนี้หลักๆ ก็คือถูกยึดแล้ว กับอีกจำนวนหนึ่งยังวิ่งอยู่ เพราะยังยึดไม่ได้

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกใหน ผ่านไปหนึ่งวัน ราคาก็เสื่อมลงหนึ่งวัน

พวกที่วิ่งอยู่ เจ้าของก็กระหน่ำใช้จนทรุดโทรม

พวกที่ถูกยึดยิ่งแล้วกันไปใหญ่ คือต้องมีที่เก็บ รถหลายพันคัน จะเก็บยังงัยก็ต้องใช้เงินใช่ใหมครับ

คนทำงานบอกผมว่า ยิ่งทิ้งไว้นาน ราคายิ่งเสื่อม แล้วในที่สุด ค่าเก็บรถจะแพงกว่าตัวรถ

 

นี่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ต้องเร่งประมูล

Edited by amplepoor, 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 01:49.

[jerasak]

มาลงชื่ออ่านครับ

 

หลังการประมูลล๊อตใหญ่ผ่านพ้นไป มีการโจมตีเรื่องรีบประมูลกันมาก โดยเฉพาะตามรายการวิทยุ

ด๊อกฯ ธาดาดำรงเวท เป็นหนึ่งในกลุ่มโจมตี (ร่วมกับบอสสหพัฒน์)

 

ที่จริงมันมีปัญหาทางเทคนิคที่ไม่ได้มีการอธิบายให้ชัดเจน ข้อนี้ต้องโทษคุณอมเรศด้วยเหมือนกัน ที่ไม่ยอมออกมาให้ข้อมูลที่ละเอียดชัดเจน ทั้งๆ ที่การประมูลเสร็จสิ้นไปแล้ว

 

หนึ่งในปัญหาทางเทคนิคนั่นก็คือการเสื่อมราคา ได้แก่รถยนต์

รถพวกนี้หลักๆ ก็คือถูกยึดแล้ว กับอีกจำนวนหนึ่งยังวิ่งอยู่ เพราะยังยึดไม่ได้

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกใหน ผ่านไปหนึ่งวัน ราคาก็เสื่อมลงหนึ่งวัน

พวกที่วิ่งอยู่ เจ้าของก็กระหน่ำใช้จนทรุดโทรม

พวกที่ถูกยึดยิ่งแล้วกันไปใหญ่ คือต้องมีที่เก็บ รถหลายพันคัน จะเก็บยังงัยก็ต้องใช้เงินใช่ใหมครับ

คนทำงานบอกผมว่า ยิ่งทิ้งไว้นาน ราคายิ่งเสื่อม แล้วในที่สุด ค่าเก็บรถจะแพงกว่าตัวรถ

 

นี่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ต้องเร่งประมูล

 

จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ปรส.มีการบริหารจัดการ

ไม่ได้ขายสินทรัพย์ส่งเดช แบบที่มีถูกโจมตีมาตลอด

สังเกตว่า สินทรัพย์กลุ่มแรกที่นำมาประมูลเป็นสินเชื่อ

เช่าซื้อ ซึ่งหลักๆ ก็คือ สินเชื่อซื้อรถยนต์ และสามารถ

ประมูลขายได้ถึงเกือบ 48% ของมูลค่าตามบัญชีครับ

 

มูลค่าสินทรัพย์ตามบัญชีที่ประมูลขายรวม 6 แสนล้าน

ได้เงิน 1.5 แสนล้าน มีมูลค่าหายไป 4.5 แสนล้านบาท

ในจำนวนนั้นเกิดจากสินเชื่อธุรกิจ 3 แสนล้าน (คือกู้มา

ทำกิจการแล้วเจ๊ง) และจากสินเชื่อพาณิชย์ 1 แสนล้าน

(คือสินเชื่อรายย่อย กู้มาใช้จ่าย แล้วเกิดตกงานไม่มีเงิน

ผ่อนชำระหนี้) ซึ่งก็สอดคล้องกับสภาพวิกฤตเศรษฐกิจ

ในตอนนั้น

 

*ต่อให้สินทรัพย์ในส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ กับสินเชื่อที่อยู่ฯ

ประมูลได้ 100% ของมูลค่าก็ไม่ได้ทำให้ตัวเลขรวม

ดีขึ้นมาได้ครับ*

 

ปัญหาจริงๆ เราขาดทุนไปเรียบร้อยตั้งแต่ที่ รบ.ชวลิต

ยอมให้กองทุนฟื้นฟูปล่อยกู้สถาบันการเงินไม่ต้องมี

หลักทรัพย์ค้ำประกัน ยอมให้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ของสถาบันการเงินที่กำลังจะเจ๊ง ฯลฯ  

 

กว่าจะมาถึง ปรส. ตอนนั้นก็เหมือนไฟไหม้บ้านไปแล้ว

ทำได้แค่เข้าไปคุ้ยหาว่ายังมีอะไรเหลือบ้างเท่านั้นเอง

Edited by jerasak, 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 14:59.

[Robin]

เห็นชื่่อปุ๊บต้องรีบเข้ามาอ่าน

[ธีรเดชน้อย]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ 

[gears]

ข้อมูลโคดดีเลยครับ
เยี่ยมมาก ขอบคุณครับผม

[พอล คุง]

โอ้ววววววววววววววววววววว

 

ขอสนับสนุนกระทู้ปักหมุดเหมือนกันครับ

 

ปล. มารอควายแดงมาแถ

[ppneer]

Very good

[puggi]

เกิน 3 บรรทัด ครับ ควายแดง คงไม่อ่าน

 

 

ปรส  ต้องโทษ ไอ้แป๊ะลิ้มด้วย ที่ตอนนั้นโจมตี ปชป  

 

 

ทำซะให้ ปชปเป็นคนผิด หากดูลึกรายละเอียด  ทุกวันนี้ผมยังต้องขอบคุณ ธารินทร์ ครับ ที่ทำงานจริง ไม่เอาหน้า

 

น่าเสียดาย ที่เราต้องสูญเสียคุณธารินทร์ ทางการเมืองไป เพราะ ท่านคงไม่นึกว่าการเมืองจะโสโครกซะขนาดนี้

[ดอน]

เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ  จขกท. แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า  การที่ผลการประมูลมันออกมาอย่างนั้น

เป็นผลจากเหตุข้างล่างนี้ด้วยหรือเปล่า   แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า  ผลที่มันออกมา โปร่งใส  ไม่มีการฮั้วประมูล

 

http://www.matichon....pid=00&catid=00

วันที่ 17 ก.ย. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุกนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานองค์การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) จำเลยที่ 1 และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส. จำเลยที่ 2 ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายอมเรศ กับพวกรวม 6 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11
 
 จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 2 มิ.ย. - 1 ต.ค. 41 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 กับพวกได้วางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส. ปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจำเลยที่ 2 อดีตเลขาธิการ ปรส. โดยปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร การกระทำของจำเลยทั้งหมดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส.

[ปุถุชน]

 

มาลงชื่ออ่านครับ

 

หลังการประมูลล๊อตใหญ่ผ่านพ้นไป มีการโจมตีเรื่องรีบประมูลกันมาก โดยเฉพาะตามรายการวิทยุ

ด๊อกฯ ธาดาดำรงเวท เป็นหนึ่งในกลุ่มโจมตี (ร่วมกับบอสสหพัฒน์)

 

ที่จริงมันมีปัญหาทางเทคนิคที่ไม่ได้มีการอธิบายให้ชัดเจน ข้อนี้ต้องโทษคุณอมเรศด้วยเหมือนกัน ที่ไม่ยอมออกมาให้ข้อมูลที่ละเอียดชัดเจน ทั้งๆ ที่การประมูลเสร็จสิ้นไปแล้ว

 

หนึ่งในปัญหาทางเทคนิคนั่นก็คือการเสื่อมราคา ได้แก่รถยนต์

รถพวกนี้หลักๆ ก็คือถูกยึดแล้ว กับอีกจำนวนหนึ่งยังวิ่งอยู่ เพราะยังยึดไม่ได้

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกใหน ผ่านไปหนึ่งวัน ราคาก็เสื่อมลงหนึ่งวัน

พวกที่วิ่งอยู่ เจ้าของก็กระหน่ำใช้จนทรุดโทรม

พวกที่ถูกยึดยิ่งแล้วกันไปใหญ่ คือต้องมีที่เก็บ รถหลายพันคัน จะเก็บยังงัยก็ต้องใช้เงินใช่ใหมครับ

คนทำงานบอกผมว่า ยิ่งทิ้งไว้นาน ราคายิ่งเสื่อม แล้วในที่สุด ค่าเก็บรถจะแพงกว่าตัวรถ

 

นี่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ต้องเร่งประมูล

 

จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ปรส.มีการบริหารจัดการ

ไม่ได้ขายสินทรัพย์ส่งเดช แบบที่มีถูกโจมตีมาตลอด

สังเกตว่า สินทรัพย์กลุ่มแรกที่นำมาประมูลเป็นสินเชื่อ

เช่าซื้อ ซึ่งหลักๆ ก็คือ สินเชื่อซื้อรถยนต์ และสามารถ

ประมูลขายได้ถึงเกือบ 48% ของมูลค่าตามบัญชีครับ

 

มูลค่าสินทรัพย์ตามบัญชีที่ประมูลขายรวม 6 แสนล้าน

ได้เงิน 1.5 แสนล้าน มีมูลค่าหายไป 4.5 แสนล้านบาท

ในจำนวนนั้นเกิดจากสินเชื่อธุรกิจ 3 แสนล้าน (คือกู้มา

ทำกิจการแล้วเจ๊ง) และจากสินเชื่อพาณิชย์ 1 แสนล้าน

(คือสินเชื่อรายย่อย กู้มาใช้จ่าย แล้วเกิดตกงานไม่มีเงิน

ผ่อนชำระหนี้) ซึ่งก็สอดคล้องกับสภาพวิกฤตเศรษฐกิจ

ในตอนนั้น

 

*ต่อให้สินทรัพย์ในส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ กับสินเชื่อที่อยู่ฯ

ประมูลได้ 100% ของมูลค่าก็ไม่ได้ทำให้ตัวเลขรวม

ดีขึ้นมาได้ครับ*

 

ปัญหาจริงๆ เราขาดทุนไปเรียบร้อยตั้งแต่ที่ รบ.ชวลิต

ยอมให้กองทุนฟื้นฟูปล่อยกู้สถาบันการเงินไม่ต้องมี

หลักทรัพย์ค้ำประกัน ยอมให้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ของสถาบันการเงินที่กำลังจะเจ๊ง ฯลฯ  

 

กว่าจะมาถึง ปรส. ตอนนั้นก็เหมือนไฟไหม้บ้านไปแล้ว

ทำได้แค่เข้าไปคุ้ยหาว่ายังมีอะไรเหลือบ้างเท่านั้นเอง

 

 

 

 

สมัคร ดุสิต ดร.ธาดา แกนนำพรรคไทยรักไทย ฯลฯ.....

ไม่พูดถึงว่าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ธนาคาร รัฐบาลชวลิต-ทักษิณ ต้องรับผิดชอบอย่างไร

พวกเขาปล่อยกู้มั่ว แต่งบัญชี และเจ้าของบริษัทฯ เจ้าของธนาคารฯล้มรวย.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

ปล.ลืมสนธิ ลิ้มฯ และ ปานเทพได้ไง....เวลานั้นปานเทพสนิทสนมกับชวลิตมาก

พยายามเขียนหนังสือถึง ปรส.และรัฐบาลชวนในด้านของพวกเขาต้องการให้เป็น.....!

Edited by ปุถุชน, 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 13:55.

[A Better Tomorrow]

กระทู้ที่ดีครับ ขอบคุณที่นำข้อมูลมาแบ่งปัน

[ปุถุชน]

ใกล้ถึงเวลาฟ้าสว่างอำไพของคุณอมเรศ ศิลาอ่อน และ คุณธารินทร์ นิมมานเหมินทร์หรือยัง.....?

[คนกรุงธน]

เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ  จขกท. แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า  การที่ผลการประมูลมันออกมาอย่างนั้น

เป็นผลจากเหตุข้างล่างนี้ด้วยหรือเปล่า   แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า  ผลที่มันออกมา โปร่งใส  ไม่มีการฮั้วประมูล

 

http://www.matichon....pid=00&catid=00

วันที่ 17 ก.ย. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุกนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานองค์การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) จำเลยที่ 1 และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส. จำเลยที่ 2 ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายอมเรศ กับพวกรวม 6 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11
 
 จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 2 มิ.ย. - 1 ต.ค. 41 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 กับพวกได้วางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส. ปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจำเลยที่ 2 อดีตเลขาธิการ ปรส. โดยปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร การกระทำของจำเลยทั้งหมดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส.

http://www.siamturak...ws_id=413366562

(17 กันยายน2555) - เวลา 09.00 น. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุกนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) อายุ 79 ปี จำเลยที่1 และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส. อายุ 66 ปี จำเลยที่ 2 ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายอมเรศ กับพวกรวม6 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานกรทำผิด พ.ร.บ.ว่า ด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11

จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 2 มิ.ย. - 1 ต.ค. 41 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 กับพวกได้วางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส. ปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจำเลยที่ 2 อดีตเลขาธิการ ปรส. โดยปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายเข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร การกระทำของจำเลยทั้งหมดเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส.

โดยศาลพิเคราะห์ จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 2 ผิดฐาน

ไม่เรียกเก็บเงินงวดแรกในการขายสินทรัพย์ให้กับบริษัทเอกชนเลห์แมนบรา เธอร์ส โฮลดิ้งอิ้งค์ จำกัดจำนวน 2,304 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์กำหนดที่ไว้ ผิดตาม พรบ.ว่าด้วย ความผิดพนักงานในองค์กรของรัฐ จึงพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 2 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท

แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1 เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่2 เป็นอดีตประธานอนุกรรมการกลั้นกรองวางแผนการฟื้นฟูให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นการทำคุณให้กับประเทศชาติ ประกอบจำเลยทั้ง2 มีอายุมากเห็นสมควรให้กลับตัวกลับใจโทษจำคุกจึงรอลงอาญา 3 ปี ให้คุมประพฤติ 1 ปี โดยต้องรายงานตัว 3 ครั้งต่อเดือน พร้อมบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนจำเลยที่ 3 ถึง 6 พิพากษายกฟ้องเพราะไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ

 

ไม่เกี่ยวกับฮั๊วประมูล

 

ปล.ยกมือให้ปักหมุดด้วยครับ

Edited by คนกรุงธน, 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 15:02.

[Bookmarks]

 

เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ  จขกท. แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า  การที่ผลการประมูลมันออกมาอย่างนั้น

เป็นผลจากเหตุข้างล่างนี้ด้วยหรือเปล่า   แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า  ผลที่มันออกมา โปร่งใส  ไม่มีการฮั้วประมูล

 

http://www.matichon....pid=00&catid=00

วันที่ 17 ก.ย. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุกนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานองค์การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) จำเลยที่ 1 และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส. จำเลยที่ 2 ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายอมเรศ กับพวกรวม 6 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11
 
 จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 2 มิ.ย. - 1 ต.ค. 41 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 กับพวกได้วางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส. ปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจำเลยที่ 2 อดีตเลขาธิการ ปรส. โดยปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร การกระทำของจำเลยทั้งหมดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส.

http://www.siamturak...ws_id=413366562

(17 กันยายน2555) - เวลา 09.00 น. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุกนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) อายุ 79 ปี จำเลยที่1 และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส. อายุ 66 ปี จำเลยที่ 2 ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายอมเรศ กับพวกรวม6 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานกรทำผิด พ.ร.บ.ว่า ด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11

จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 2 มิ.ย. - 1 ต.ค. 41 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 กับพวกได้วางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส. ปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจำเลยที่ 2 อดีตเลขาธิการ ปรส. โดยปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายเข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร การกระทำของจำเลยทั้งหมดเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส.

โดยศาลพิเคราะห์ จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 2 ผิดฐาน

ไม่เรียกเก็บเงินงวดแรกในการขายสินทรัพย์ให้กับบริษัทเอกชนเลห์แมนบรา เธอร์ส โฮลดิ้งอิ้งค์ จำกัดจำนวน 2,304 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์กำหนดที่ไว้ ผิดตาม พรบ.ว่าด้วย ความผิดพนักงานในองค์กรของรัฐ จึงพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 2 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท

แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1 เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่2 เป็นอดีตประธานอนุกรรมการกลั้นกรองวางแผนการฟื้นฟูให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นการทำคุณให้กับประเทศชาติ ประกอบจำเลยทั้ง2 มีอายุมากเห็นสมควรให้กลับตัวกลับใจโทษจำคุกจึงรอลงอาญา 3 ปี ให้คุมประพฤติ 1 ปี โดยต้องรายงานตัว 3 ครั้งต่อเดือน พร้อมบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนจำเลยที่ 3 ถึง 6 พิพากษายกฟ้องเพราะไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ

 

ไม่เกี่ยวกับฮั๊วประมูล

 

ปล.ยกมือให้ปักหมุดด้วยครับ

 

ดอนยอ จะก๊อปคดีมาก็เอามาไม่หมด ความจริงครึ่งๆ กลางๆ ของพวกควายแดงนี่ชอบเอามาเล่นกันจริงๆ 

[55555]

เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ  จขกท. แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า  การที่ผลการประมูลมันออกมาอย่างนั้น

เป็นผลจากเหตุข้างล่างนี้ด้วยหรือเปล่า   แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า  ผลที่มันออกมา โปร่งใส  ไม่มีการฮั้วประมูล

 

http://www.matichon....pid=00&catid=00

วันที่ 17 ก.ย. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุกนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานองค์การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) จำเลยที่ 1 และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส. จำเลยที่ 2 ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายอมเรศ กับพวกรวม 6 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11
 
 จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 2 มิ.ย. - 1 ต.ค. 41 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 กับพวกได้วางแผนแบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะประธาน ปรส. ปฏิบัติหน้าที่ของ ปรส.ไม่โปร่งใสและมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และจำเลยที่ 2 อดีตเลขาธิการ ปรส. โดยปรส.เข้าทำสัญญาซื้อขายเพื่อประโยชน์ทางภาษีอากร การกระทำของจำเลยทั้งหมดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ ปรส.

 

 

นิสัยเสียจริงน๊ะเนี่ย คนนี้...

 

เอาข้อกล่าวหามาลงให้ดูเสมือนหนึ่งว่าศาลตัดสินไปแล้ว..

 

 

[Bookmarks]

ผมหวังว่าข้อมูลนี้ ถ้าแดงไม่เชื่อ ก็ขอให้เอาความจริงมาสู้นะครับ อย่าเอาข้อมูลเท็จมาโต้ โตๆ กันแล้ว ยอมรับอะไรผิด อะไรถูกสักที 

[เรื่อยๆเอื่อยๆ]

ผมหวังว่าข้อมูลนี้ ถ้าแดงไม่เชื่อ ก็ขอให้เอาความจริงมาสู้นะครับ อย่าเอาข้อมูลเท็จมาโต้ โตๆ กันแล้ว ยอมรับอะไรผิด อะไรถูกสักที

แค่ยอมอ่านก็ดีถมไปแล้วล่ะครับ อย่าหวังว่าจะเห็นข้อมูลที่ไม่บิดเบือนอะไรจากอีกฝ่าย

[ศรอรชุน]

เดี๋ยวผมจะหาเวลา อาสานำไปเผยแพร่ในราชดำเนิน 

ปลักหลักในโลกไซเบอร์ ของเสื้อแดงเขาละครับ

 

ยังเพ้อกันอยู่เลย ชวนทำชาติเสียหายแปดแสนล้าน ...

[ตี๋ใหญ่]

เรื่องเก่าแล้วคุณ ... อย่าไปฟื้นฝอยมาก

 

ตอนนี้ที่เขาด่า ปชป จริง ๆ  ก้คือเรื่อง สั่งฆ่าคนนะ

 

หาหลักฐานแก้เรื่องนี้ดีกว่า

[nnnn43]

เรื่องเก่าแล้วคุณ ... อย่าไปฟื้นฝอยมาก

 

ตอนนี้ที่เขาด่า ปชป จริง ๆ  ก้คือเรื่อง สั่งฆ่าคนนะ

 

หาหลักฐานแก้เรื่องนี้ดีกว่า

ไหนหลักฐานสั่งฆ่า

[คนเดือนมิถุนา]

เรื่องเก่าแล้วคุณ ... อย่าไปฟื้นฝอยมาก

 

ตอนนี้ที่เขาด่า ปชป จริง ๆ  ก้คือเรื่อง สั่งฆ่าคนนะ

 

หาหลักฐานแก้เรื่องนี้ดีกว่า

เรื่องเก่าแล้วแต่ก็มีคนพยายามฟื้นฝอยมากล่อมประสาทพวกขี้ข้าเผาเมืองอยู่เนืองๆ ไม่มีคนฟื้นฝอยจะมีใครเสียเวลาหาข้อมูลมาอธิบาย เรื่องที่ถามหาหลักฐานนั่นน่ะ เขาเอาหลักฐานมาชี้แจงตั้งมากมาย จนต้องลุกรี้ลุกรนหาทางนิรโทษเพราะถ้าไม่นิรโทษก็เอาผิดไม่ได้แถมเข้าตัวอีก ทีเรื่องตากใบกับ 2,500 ศพทำไมไม่หาหลักฐานมาแก้บ้างล่ะ เรื่องนี้ยังไม่เก่านะ หลัง ปรส.ตั้งหลายปี แถมไม่เคยชี้แจงอะไรได้สักครั้ง อนาถ 

[Bookmarks]

เรื่องเก่าแล้วคุณ ... อย่าไปฟื้นฝอยมาก

 

ตอนนี้ที่เขาด่า ปชป จริง ๆ  ก้คือเรื่อง สั่งฆ่าคนนะ

 

หาหลักฐานแก้เรื่องนี้ดีกว่า

ฆ่า 2500 ศพ กรือแซะ ตากใบ เรื่องเก่ามั้ย  

[Suraphan07]

เห็นมั๊ยล่ะ! มันน่า "ปักหมุด" มั๊ย...  

 

- ทั้งมากกว่า 3 บรรทัดไปมากโข...

- ทั้งข้อมูล ทะลักทะลาย แบบว่าพวกทนาย

เอาไปใช้หากินได้...

- ทั้งมีคุณค่าต่อการจัดเก็บ...ฯลฯ...  

 

อ้าววว...ยกมือกันอีกที...ใครเห็นด้วยยย...      

Edited by Suraphan07, 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:59.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เรื่องเก่าแล้วคุณ ... อย่าไปฟื้นฝอยมาก

 

ตอนนี้ที่เขาด่า ปชป จริง ๆ  ก้คือเรื่อง สั่งฆ่าคนนะ

 

หาหลักฐานแก้เรื่องนี้ดีกว่า

 

ผมเซฟไว้แล้วนะครับ ข้อหาหมิ่นประมาท

หลักฐานไม่มี เทปของไอ้คางคกก็ตัดต่อ ยังจะหน้าด้านหน้าหนาหน้าทนกล่าวหาเขาอยู่ได้

เลวชั่วเหมือนบิดาแม้วมันจริงๆ ไอ้อีพวกนี้

 

Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 00:36.