http://www.oknation....t.php?id=841393
ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
สวัสดีครับ
คำศัพท์กฎหมายที่ไม่ค่อยคุ้นหูนักแต่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ คือ ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย
โดยเจตนาเล็งเห็นผล ซึ่งเป็นข้อหายัดเยียดใส่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่นายสุเทพเป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมากับมือของตนเองแท้ๆ
ข้อกล่าวหาดังกล่าวเนื่องมาจากเหตุการณ์คนเสื้อแดงก่อความไม่สงบกลางเมือง เมื่อปี 2553 แล้วมีคนเสื้อแดง
ถูกทหารยิงตายไปจำนวนหนึ่ง ครั้นแล้วอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษคนเดียวกันนี้ ก็เคยอยู่ในคณะกรรมการอำนวย
การรักษาความสงบแห่งในสมัยที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีตามลำดับด้วยเช่นกันนั้น
แต่เมื่อมาถึงยุครัฐบาลปัจจุบันที่กำลังระดมขี้ข้าทั้งหลาย ให้ช่วยกันดำเนินการทุกทางให้เป็นประโยชน์ต่อการที่
ทักษิณจะเดินทางกลับมาครองอำนาจอีกครั้งอยู่ขณะนี้ ซึ่งนายธาริตก็เป็นหัวประแจคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้เป็นผู้ตั้ง
ข้อหาแล้วยัดเยียดดังกล่าว เพื่อเป็นการตัดกำลังนายอภิสิทธิ์ซึ่งทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านอยู่ในปัจจุบัน ไม่ให้ดำเนิน
การขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างสะดวกสะบายนั่นเอง
ดังนั้น เพื่อเราจะได้เห็นลู่ทางที่กระบวนการทักษิณจะดำเนินการเพื่อต่อกรกับนายอภิสิทธิ์แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
เลยทีเดียวช่วงนี้ ผมจึงนำบทความการเมืองโดย 'สารส้ม' วันนี้มาเผยแพร่ที่บล็อกนี้อีกทางหนึ่งดังท้ายนี้ ค
...................................................................................
แนวหน้า
คอลัมน์การเมือง
กวนน้ำให้ใส
* สารส้ม
ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลคณะพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) แจ้งข้อหา “ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล”เล่นงาน
นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะอดีตนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพเทือกสุบรรณอดีตรองนายก
รัฐมนตรีผู้อำนวยการศอฉ.ในคดีการตายของเจ้าหน้าที่และประชาชนในช่วงเหตุการณ์
ความไม่สงบปี 2553
ตรรกะของการดำเนินคดีตามแนวทางที่ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุงเคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อน
หน้านี้คือเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศอฉ. ทำให้มีคนตาย
นายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพต้องรับผิดชอบ
1)ในกระบวนการต่อไปดีเอสไอจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าทั้งนายอภิสิทธิ์และนายสุ
เทพมีเจตนาเล็งเห็นผลให้ผู้อื่นฆ่าคนตายอย่างไร?
การออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศอฉ. (ไม่ได้สั่งไปฆ่า) กลายมาเป็นการ
กระทำที่มีเจตนาเล็งเห็นผลให้เจ้าหน้าที่ฆ่าคนตายได้อย่างไร?
ต้องยืนยันข้อเท็จจริงกันตรงนี้ก่อนว่ากรณีการเสียชีวิตที่ศาลอาญาได้ไต่สวนการตายออกมาแล้วนั้นไม่มี
กรณีใดเลยที่เจ้าหน้าที่ถูกสั่งให้มาฆ่าประชาชนยังไม่มีกรณีใดเลยที่ชี้ชัดว่านายคนไหนเป็นผู้ลงมือฆ่า
ประชาชนข้อเท็จจริงที่ศาลชี้ออกมาคือมีกรณีเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ซึ่งทำ
ตามคำสั่งของศอฉไม่ปรากฏเลยที่แม้แต่การที่ศอฉ.ยอมให้เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงได้ก็ภายใต้
เงื่อนไขสถานการณ์และวิธีการใช้ที่ระมัดระวังตามขั้นตอนที่กำหนดไว้มิใช่ให้ไปไล่ฆ่า
ไล่ยิงประชาชนแบบเล็งเห็นผลต้องชัดเจนตรงนี้ก่อนจะมีการตีไข่ใส่ความกล่าวหาตั้งธงเลย
เถิดแบบกู่ไม่กลับ
2) ถ้าคิดตามตรรกะข้างต้นทำนองว่าใครตายก็โยนให้นายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพรับผิดชอบไป
เลยแบบนี้กรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารตาย (ถูกรวมใน 99 ศพ) เพราะถูกกองกำลังติดอาวุธชุดดำใช้
อาวุธสงครามเข่นฆ่ากลางเมืองปฏิบัติการในพื้นที่ฝ่ายผู้ชุมนุมท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของ
ผู้ชุมนุมและแกนนำกรณีแบบนี้ก็จะโยนให้นายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพด้วยหรือไม่?อาจจะด้วยข้อหา
“สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปถูกผู้อื่นฆ่าตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล” วิปริตไปกันใหญ่
3) เปรียบเทียบกับกรณีเหตุการณ์ตากใบในยุคทักษิณชินวัตรในเหตุการณ์ดังกล่าว25 ต.ค.2547
เจ้าหน้าที่ได้ล้อมปราบการชุมนุมของประชาชนที่ไม่ปราศจากอาวุธบริเวณหน้าสภ.อ.ตากใบทำ
ให้ผู้ชุมนุมหลายคนถูกยิงตายระหว่างปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว
ยังถูกเจ้าหน้าที่ทารุณกรรมฟาดด้วยพานท้ายปืนกระทืบเตะเสยใบหน้าฯลฯจับมัดมือไพล่หลังขน
ขึ้นรถบรรทุกนอนซ้อนทับกัน 4-5 ชั้นกดทับจนขาดใจตายอีกกว่า 78 คน กรณีดังกล่าว
ศาลชี้เพียงว่าตายเพราะขาดอากาศหายใจและไม่มีการดำเนินคดีกับนักการเมืองและฝ่าย
นโยบายผู้“ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล”อย่างแท้จริง
กรณีนี้น่าจะเข้าเค้ากว่าหรือไม่?
4) เปรียบเทียบกับกรณีก่อให้เกิดการฆ่าอย่างเป็นระบบในสงครามยาเสพติดของทักษิณยิ่ง
เข้าเค้ายิ่งกว่าเปรียบเทียบกับกรณีก่อให้เกิดการฆ่าอย่างเป็นระบบในสครามยาเสพติดของ
ทักษิณยิ่งเข้าเค้ายิ่งกว่าศาลยุติธรรมมีคำพิพากษาลงโทษนายตำรวจชั้นประทวน
ระดับปฏิบัติการที่กระทำการอุกอาจอุ้มฆ่าประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ระหว่างดำเนินนโยบายสงคราม
ยาเสพติดของรัฐบาลทักษิณโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตมีตัวผู้ลงมือฆ่าชัดเจนแล้วด้วยกลับยังไม่มีการ
เอาผิดกับผู้บงการผู้สั่งการ!
การตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเปรียบเทียบกับกรณีก่อให้เกิดการฆ่า
อย่างเป็นระบบในสงครามยาเสพติดของทักษิณยิ่งเข้าเค้ายิ่งกว่าในสงครามยาเสพติดของทักษิณนั้น
มีผู้เสียชีวิต 2,596 คนเป็นผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวน 1,164 คนและไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพ
ติดจำนวน 1,432 คนคณะกรรมการอิสระชุดที่มี ดร.คณิตณนครเป็นประธานก็ชี้ไปในทางเดียวกันว่าการ
ดำเนินนโยบายสงครามยาเสพติดของทักษิณได้ไปบังคับกดดันสั่งการเจ้า
หน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเร่งรีบจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด (บัญชีดำ)
แล้วก็เร่งรัดกดดันให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการโดยให้ถือเอายอดจำนวนคนตายที่มี
ชื่ออยู่ในบัญชีของรัฐ (บัญชีดำ) เป็นปัจจัยวัดผลสำเร็จอย่างหนึ่งของเจ้าหน้าที่
ผู้ปฏิบัติงานพูดง่ายๆว่าถ้าผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของทางการถูกฆ่าตายก็ให้เจ้าหน้าที่
รัฐนำมานับเป็นผลสำเร็จของการปฏิบัติตามนโยบายแต่ถ้าลดยอดผู้มีชื่อในบัญชีดำ
ไม่ได้ตามเป้าเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจระดับล่างก็จะถูกนักการเมืองเล่นงานถูก
ย้ายถูกลงโทษ !พบ ว่าถ้าผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของทางการถูกฆ่าตายก็ให้เจ้าหน้าที่รัฐนำ
มานับเป็นผลสำเร็จของการปฏิบัติตามนโยบายแต่ถ้าลดยอดผู้มีชื่อในบัญชีดำไม่ได้
ตามเป้าเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจระดับล่างก็จะถูกนักการเมืองเล่นงานถูก
ย้ายถูกลงโทษโดยทักษิณใช้คำพูดของพล.ต.อ.เผ่าศรียานนท์ที่ว่า “ภายใต้แสงอาทิตย์ไม่มี
อะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้”และบอกว่า “ผมมั่นใจว่าตำรวจไทยจัดการได้” - “โดยให้ใช้ความ
เด็ดขาดอย่างชนิดที่ไม่ต้องปรานี”วันที่ 23 กรณีแบบนี้น่าจะเข้าลักษณะ “ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็ง
เห็นผล”ยิ่งกว่าหรือไม่
....สารส้ม3.....