องค์กรต้านคอร์รัปชั่นย้ำไม่ให้นิรโทษกรรมคืนชีพ
มติที่ประชุมใหญ่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นยืนยันไม่ยอมให้ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคืนชีพ ขณะที่ยอดคนลงชื่อต้านใกล้ 6 แสนแล้ว
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ไทย) กล่าวว่า ที่ประชุมใหญ่สามัญสมาชิกองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นเมื่อวันที่ 8 พ.ย. มีมติยืนยันจะไม่ยอมให้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ฟื้นคืนชีพและจะไม่ให้มีการสอดแทรกการล้างผิดคดีโกงขึ้นอีกในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะจับตาการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพราะการยกเลิก พ.ร.บ ไม่ได้หมายถึงการล้มเลิกความพยายาม
“องค์กรฯ พร้อมจะต่อสู้เคียงข้างประชาชนทันทีในการต่อต้านการกระทำมิชอบที่มีผลต่อการส่งเสริมให้เกิดโอกาสการทุจริตคดโกง”ประมนต์ ระบุ
ทั้งนี้ การออกมาคัดค้านขององค์กรฯ เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามหลักกฎหมายสากล และเป็นไปอย่างสันติวิธี โดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงหรือก่อเหตุการณ์ความไม่สงบกับประเทศแต่อย่างใด ดังนั้นหากประชาชน นิสิต นักศึกษาผู้ซึ่งที่ทำหน้าที่พลเมืองของประเทศที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้อง ในการต่อต้านคอร์รัปชั่น ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม องค์กรฯ พร้อมที่จะออกมาปกป้องประชาชน และจะเรียกร้องให้นานาชาติเห็นถึงการกระทำที่ไม่ยุติธรรม และจะประณามการกระทำดังกล่าวไปทั่วโลก ซึ่งองค์กรฯ หวังว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าจุดยืนขององค์กรฯ คือการต่อต้านคอร์รัปชั่น ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง และไม่ขอออกความเห็นถึงทางออกที่มีการเสนอให้ยุบสภาเพราะเป็นเรื่องทางการ เมือง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศยกเลิกร่างกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าการโกงกินจะหมดไป ยังมีโครงการของรัฐบาลอีกมากมายที่สังคมยังเคลือบแคลง เช่น โครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลขาดทุนปีละ 2 แสนล้านบาท เงินงบประมาณป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้าน โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศงบประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท และโครงการอื่นๆ ซึ่งองค์กรฯ จะติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
“องค์กรฯ ขอยืนยันอีกครั้งว่าจุดยืนขององค์กรฯ ไม่ใช่การต่อต้านรัฐบาล หรือต่อต้านการปรองดอง แต่คือการต่อต้านคอร์รัปชั่น แม้ว่ารัฐบาลจะแถลงการณ์ยกเลิก พ.ร.บ. แต่กลับไม่ทำให้การชุมนุมคลี่คลาย เสียงของประชาชนแสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นในความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล องค์กรฯ จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนบทบาทของตนเอง และพิจารณาเร่งออกมาตรการ และปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น อีกทั้งต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลคืนอำนาจให้กับกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทยและสังคมโลก ให้เห็นถึงความชอบธรรมในการบริหารประเทศ”นายประมนต์ กล่าว
ด้านการลงชื่อคัดค้านล้างผิดคดีโกงผ่านเว็บไซต์ Change.org ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีผู้ลงชื่อคัดค้านมากกว่า 569,586 คน เป็นการแสดงการมีส่วนร่วมของเสียงประชาชนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการณรงค์ กันมา ซึ่งเมื่อครบ 1 ล้านเสียงทางองค์กรจะนำไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญและวุฒิสมาชิก เพื่อตอกย้ำว่าประชาชนผู้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่มีผู้ใดยอมรับการล้างผิดคดีโกง
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.วาระพิเศษ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน ไม่เห็นด้วยที่จะมีการนิรโทษกรรมให้กับความผิดที่เกี่ยวข้องกับการ คอร์รัปชั่น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันมีแนวโน้มจะนำไปสู่ความปั่นป่วนของบ้านเมือง จึงขอให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทุกฝ่ายต้องดำเนินการให้บ้านเมืองเข้าสู่ ภาวะปกติเรียบร้อยโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ถอยแล้ว แม้จะมีบางส่วนยังไม่เชื่อมั่น เอกชนก็เฝ้าติดตามว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปในทางที่ปั่นป่วนมากขึ้นหรือไม่ เพราะหากมีความรุนแรงยืดเยื้อถึงขั้นส่งสินค้าไม่ได้เหมือนน้ำท่วมปี 2554 คู่ค้าจะหันไปซื้อสินค้าจากที่อื่น โดยแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียนปี 2557 คาดว่าจะขยายตัว 5.2-5.7% เศรษฐกิจไทยก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่า 5% หากไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงและยืดเยื้อ
http://www.posttoday...ิรโทษกรรมคืนชีพ
Edited by a.mtvv, 9 November 2013 - 13:24.