เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เวลา 15.00 น. ที่เวทีการชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(กปปส.) บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวว่า ขณะนี้ชัดเจนว่ารัฐบาล และบริวารของระบอบทักษิณ กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดมวลมหาประชาชนที่แสดงจุดยืนว่าจะออกมาปฏิบัติการชุมนุมครั้งใหญ่ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ โดยล่าสุดในวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีความผิดปกติ ชี้ให้เห็นว่ามีกระบวนการที่กำลังสร้างเหตุรุนแรงให้ประชาชนหวาดกลัวและบั่นทอนกำลังมวลมหาประชาชน ซึ่ง กปปส.เชื่อว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับบัญชาการมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ โดยกรณีที่ 1.เกิดเหตุความรุนแรงกับกลุ่ม กปปส.จังหวัดปทุมธานี ระหว่างกำลังรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาร่วมชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค. โดยขณะที่เคลื่อนขบวนผ่านเวทีของคนเสื้อแดง ที่นำโดยนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) ซึ่งมีการใช้ของมีคม ระเบิด และปืน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ
นายเอกณัฏ กล่าวอีกว่า กรณีที่ 2.เกิดเหตุบริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อเวลา 02.00 น.โดยมีรถยนต์และจักรยานยนต์รวมตัวกันที่สนามหลวง ก่อนจะเกิดเสียงระเบิด และมีการยิงปืนใส่การ์ดและผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 7 ราย ซึ่งหลังเกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนคาร์บิน ซึ่งเป็นอาวุธสงคราม กรณีที่ 3 เกิดเหตุในเขตบางบอน เวลา 23.00 น.โดยก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00 น. นายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ดังกล่าว และมีเด็กอนุบาลออกมาเป่านกหวีด หลังจากนั้นก็เกิดเหตุขว้างก้อนอิฐและยิงปืนข่มขู่ร้านค้า ซึ่งเป็นของแม่เด็กและกรณีที่ 4 การ์ด กปปส.จังหวัดราชบุรีถูกอาวุธลูกซองยิงเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์การเสียชีวิตครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม กปปส.หรือไม่
“ขณะนี้รับทราบว่ารถไฟสายใต้ประกาศงดวิ่ง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-14 ม.ค. โดยทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการซ่อมแซม จึงอยากให้เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว มิฉะนั้นจะคิดได้ว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลสกัดมวลชนเพื่อลดกำลังที่จะออกมาชุมนุมครั้งใหญ่ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ อย่างไรก็ตามผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกใช้วิธีสกปรก เพราะไม่ใช่จะทำให้มวลมหาประชาชนเกิดอารมณ์และเกิดเหตุปะทะในที่สุด ซึ่งรัฐบาลต้องรับผิดชอบ”โฆษก กปปส. กล่าว
นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กปปส.ได้มีการหารือกับองค์กรต่าง ๆ ก่อนที่จะถึงวันที่ 13 ม.ค.เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยมีการหารือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยกกปส.ได้ชี้แจงว่าจะไม่ปิดสนามบิน และรถไฟฟ้าตามข่าวลือ ซึ่งช่วยลดความกังวลใจให้สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และได้พูดคุยถึงมาตรการเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังได้หารือกับสภากาชาดสากล ซึ่งเขาก็พอใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยและยินดีให้ความช่วยเหลือ.
http://dailynews.co....นแรงฝีมือรัฐบาล