ศรส. (live-tweet)
ปี พ.ศ. 2553 นั้น ได้เคยมีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งขอให้สั่งว่าการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ
ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นไปโดยมิชอบ ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอน
ซึ่งในที่สุดแล้ว ศาลแพ่งเห็นว่าพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯมีเจตนารมณ์ที่จะให้อำนาจนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อบังคับใช้ทั่วราชอาณาจักรหรือในบางเขตท้องที่ได้ตามความจำเป็นแห่งสถานการณ์
การที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแก่นายกรัฐมนตรีในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ย่อมเป็นการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย อยู่ในอำนาจหน้าที่และดุลยพินิจของฝ่ายบริหาร
ผอ. ศรส. เผยพร้อมรื้อเวทีการชุมนุม กปปส. ที่มีผู้ชุมนุมน้อย ย้ำใช้แนวทางประนีประนอมเข้าเจรจากับผู้ชุมนุม
โดยเฉพาะศาลมิอาจก้าวล่วงไปพิจารณาหรือทบทวนการใช้ดุลยพินิจของฝ่ายบริหารเช่นว่านั้นได้ พิพากษาให้ยกฟ้อง
ซึ่ง ศรส. พิจาณาเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีลักษณะเช่นเดียวกับเรื่องที่นายถาวร เสนเนียม ฟ้องคดีต่อศาลแพ่งขอให้สั่งเพิกถอนการประกาศ
ใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ อยู่ในขณะนี้ โดยมีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกัน
ศรส.จึงได้มีมติยื่นคำร้องเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อศาลแพ่งโดยด่วนในวันนี้
โดยจะทำเป็นคำแถลงการณ์ปิดคดี ก่อนที่ศาลแพ่งจะได้มีคำพิพากษาในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ นี้
ทวิต ศรส. อ้างโดยไม่ได้เทียบเหตุการณ์ ปี 53 กับ ปี 57 เอาเลย พับผ่าเถอะ!!!
Edited by simba, 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 15:49.