Thirachai Phuvanatnaranubala
ข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับวันนี้ คุณวรวิทย์ ผอ ออมสิน พูดว่า ออมสินให้กู้แบบอินเตอแบงค์แก่ ธกส โดยไม่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันแก่ออมสิน
สรุปแล้ว คุณวรวิทย์ ยืนยันว่าเป็นการกู้ยืมกันระหว่างธนาคารตามปกติ ซึ่งเมื่อยืนยันอย่างนี้ ก็อาจจะช่วยกันคุณวรวิทย์ ไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนกฎหมาย
คุณวรวิทย์อ้างว่าไม่รู้ว่า ธกส จะใช้เงินดังกล่าว เพื่อโครงการจำนำข้าวหรือไม่ (แต่การนำสืบ ก็คงต้องขอให้คุณวรวิทย์ ยืนยันและชี้แจงขั้นตอนการติดต่อ โดยเฉพาะมีบุคคลภายนอกเข้ามาช่วยประสานงานหรือไม่ รัฐมนตรีคลังได้ให้ดูจดหมายคอมฟอร์ตหรือไม่ ฯลฯ)
แต่ในด้านหนึ่ง เป็นการปกป้อง ออมสิน แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ยิ่งเปิดประเด็นปัญหาให้ ธกส ต้องเตรียมคำตอบไว้ให้ดี
(ก) หากเป็นเงินกู้อินเตอแบงค์ตามปกติแล้ว ก็หมายความว่า ธกส เป็นผู้ที่เริ่มต้นคิดอ่านที่จะไปแสวงหาเงินกู้นี้ด้วยตนเอง ไม่มีใครบังคับ หรือกำกับการแสดง
ถ้าอย่างนี้ ธกส ก็ต้องเตรียมคำอธิบาย ว่าในเมื่อ ธกส มีสภาพคล่องเพื่อรองรับธุรกิจอื่นๆ (นอกเหนือจากจำนำข้าว) ที่พอเพียงอยู่แล้ว เหตุใด ธกส จึงคิดอ่านที่จะต้องกู้อินเตอแบงค์เพิ่มขึ้นอีก
ซึ่งบังเอิญมีการเร่งดำเนินการ ในช่วงที่มีการเลือกตั้งอย่างนี้
และบังเอิญที่ผ่านมา มีข่าวแพร่สะพัดก่อนหน้า ว่ากระทรวงการคลังได้พยายามหาแหล่งเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ให้แก่ ธกส เพื่อใช้ในโครงการจำนำข้าว แต่ไม่สำเร็จ
การที่ ธกส เกิดบังเอิญมีความต้องการสภาพคล่องเพิ่ม เป็นกรณีพิเศษทีไม่ปกติ ทั้งที่ดูแล้วไม่น่าจะมีความจำเป็นสำหรับธุรกิจอื่นๆ และทำในช่วงเวลาที่กระทรวงการคลังประสบปัญหา มีความเกี่ยวพันกันหรือไม่อย่างไร
(ข) นอกจากนี้ ธกส ต้องเตรียมคำตอบ ว่าขบวนการติดต่อ ออมสิน เพื่อกู้อินเตอแบงค์ ดังกล่าวครั้งนี้ ใครเป็นผู้เริ่มดำเนินการ ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้น จนจบ เป็นไปตามขั้นตอนปกติที่ ธกส และ ออมสิน เคยใช้ในอดีตหลายสิบปีหรือไม่
มีบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ธกส หรือ ออมสิน เข้ามาร่วมในการประชุม ติดต่อ นัดแนะ หรือไม่
เจ้าหน้าที่ ธกส เคยเห็นจดหมายคอมฟอร์ตหรือไม่
(ค) และต้องเตรียมงานด้านบัญชี ให้พร้อมสำหรับการตรวจสอบจาก สตง.
เนื่องจากการดำเนินโครงการจำนำข้าว ธกส ต้องแยกบัญชีออกต่างหาก จากธุรกิจอื่นๆ วัตถุประสงค์เพื่อมิให้มีปัญหาภายหลัง ในการจัดทำตัวเลขเพื่อขอการชดเชยจากกระทรวงการคลัง
และก็จะช่วยป้องกันมิให้ ธกส มั่ว โอนเอาค่าใช้จ่ายหรือภาระใด ที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เข้าไปลงบัญชีในด้านโครงการ
ดังนั้น การนำเอาเงินที่ได้จากการกู้สภาพคล่องอินเตอแบงค์ โอนข้ามห้วย จากฝั่งธุรกิจปกติ ข้ามไปฝั่งโครงการตามนโยบายของรัฐบาล น่าจะทำไม่ได้
ถ้ามีการโอนข้ามห้วย ทั้งที่ในอดีตไม่เคยมีการทำเช่นนี้มาก่อน ทั้งที่ไม่เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติภายในของ ธกส และมาทำกันในช่วงเลือกตั้ง ก็จะสงสัยได้ ว่ามีเจตนาเพื่อทำให้เกิดผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่
ผมแนะนำให้เตรียมคำตอบไว้แต่เนิ่นๆ ครับ เพราะอาจะมีผู้ใดเรียกให้ ธกส ชี้แจงเร็วๆ นี้ก็ได้ เช่น กรรมาธิการวุฒิสภา
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ขี้ข้าอยากเลียนายแล้วได้ดีอย่างริดสีดวง
ไม่ต้องรออากาศเปลี่ยน ก็เตรียมเป็นหวัด ไอ คุก คุก คุก ได้เรยยยยยย