"ตำรวจ"ควบคุมฝูงชน"เดือด"ออกแถลงการณ์"ตำหนิศรส."เอาตัวรอด"ส่ง"ผู้ปฏิบัติชั้นผู้น้อย"เผชิญความตาย" ขออาวุธครบมือ-เลิ http://bit.ly/1gfVNhP
"ตำรวจ"ควบคุมฝูงชน"เดือด"ออกแถลงการณ์"ตำหนิศรส."เอาตัวรอด"ส่ง"ผู้ปฏิบัติชั้นผู้น้อย"เผชิญความตาย" ขออาวุธครบมือ-เลิกเจรจา บอกเหนื่อยมามาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปรากฎภาพ"ตำรวจเตะระเบิด"แพร่หลายในโซเชียลมีเดียประชาชนต่างเข้ามากดไลค์แสดงความชื่นชมและยกย่อง ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน อายุ 28 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป. สังกัดสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ทำหน้าที่ขอคืนพื้นที่จุดปฏิบัติสะพานผ่านฟ้าเป็น"วีรบุรุษผู้กล้า"และขนานนามว่า"วีรบุรุษ SIDE-KICK"ตัดสินใจลุกขึ้นจากแนวโล่กำบังออกมาเตะ"ลูกระเบิด"ปริศนาที่ลอยมากระทบโล่ตำรวจตกลงที่พื้นด้านหน้าเพื่อนตำรวจด้วยกันนับสิบนาย
ล่าสุดพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจตึกมงคลกาญจนาชั้น 14 ห้อง 1414อาการบาดเจ็บของส.ต.อ.อดุลย์ ยังสาหัสถูกสะเก็ดระเบิดมีแผลขนาดใหญ่ที่ขาซ้ายและขาขวาแพทย์ระบุ กระดูกขาซ้ายหักแบบเปิด การรักษาจะต้องเอกซเรย์ เจาะเลือดและให้น้ำเกลือโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกจะเตรียมการผ่าตัดในบ่ายวันนี้ ขณะเดียวกันเพื่อนข้าราชการตำรวจต่างตบเท้าเข้าเยี่ยมและโพสต์ข้อความแสดงความยินดีที่ขาไม่ขาดพร้อมตัดพ้อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่ไม่มีการวางแผนรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติ โดบยมีการไลน์และเปสบุ๊คส์ต่อๆกันว่า
"ขอให้หายไวๆนะผู้กล้าหาญจากพัทยา ฝากถามนาย กล้าพอหรือยัง ที่จะยุติ หรือจะต้องสูญเสียอีกกี่ชีวิต มีการแจ้งวิทยุ ตรวจสอบอาคารสูงการบินไทย พบชายชุดดำ ก่อน จนท ตร โดนถล่ม ไร้คำตอบ อรินทราช นเรศวร อยู่ไหน พวกผมได้ยินวิทยุชัดเจน ไร้การตรวจสอบ พวกผมโดน ฝากบอกนาย ไม่มีคำพูดครับ ข่าวกรอง การคุ้มกัน การวางแผนไร้คุณภาพครับ ชีวิตลูกน้องเจ็บ ตาย เพืออะไรครับ "เป็นข้อความที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนส่งต่อกันในไลน์และเฟสบุ๊คส์
ล่าสุดเช้าวันนี้มีการออกแถลงการณ์จากชุดควบคุมฝูงชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศแชร์กันในระบบไลน์ระบุว่า
"เป็นที่ทราบกันโดยชัดแจ้งแล้วว่า ผู้ชุมนุมที่ใช้นามว่า กปปส.และเครือข่ายต่างๆที่ร่วมกันนั้นมีอาวุธปืนและอาวุธสงครามร้ายแรง ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ในหลายครั้งที่ผ่านมา ตำรวจต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยที่ชุดควบคุมฝูงชนมีเพียงโล่และกระบองและอาจมีบางครั้งที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหนทางที่จะต่อสู้กับผู้ชุมนุมได้การปฏิบัติแต่ละครั้งก็มีแต่ความสูญเสีย ชุดควบคุมฝูงชนจึงขอเรียกร้องดังนี้
1 การปฏิบัติหน้าที่คราวต่อไปต้องมีการประกอบกำลังอาวุธเต็มรูปแบบ ทั้งอาวุธปืนพกส่วนตัวและอาวุธปืนยาวที่ใช้ประจำหน่วย ประกอบด้วย ลูกซอง และ M 79
2 ไม่ควรมีการเจรจากับผู้ชุมนุมอีกต่อไป เพราะที่ผ่านมาการเจรจาไม่ได้ผล
3 ให้ ศรส.รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องแถลงข่าวว่า ไม่ใช้ความรุนแรงไม่มีการสลายการชุมนุมเพราะคำพูดดังกล่าวเป็นการเอาตัวรอดของ ผู้มีอำนาจใน ศรส. เท่านั้น หากเกิดความรุนแรง ตำรวจผู้ปฏิบัติก็จะต้องรับผิดชอบทางอาญาตามลำพัง และที่ผ่านมาที่มีตำรวจและประชาชนเสียชีวิตไม่รู้ว่าตำรวจผู้ปฏิบัติจะต้องรับผิดชอบหรือไม่หากเกิดมีการดำเนินคดี เพราะ ศรส. สามารถอ้างได้ตลอดเวลาว่า ศรส. ไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง และไม่มีนโยบายสลายการชุมนุม
4.ตำรวจทั้งประเทศเหนื่อยมามากแล้ว ในการปฏิบัติหน้าที่ หน่วยกำลังที่อยู่ในความปกครอง ของรัฐบาลก็มิได้มีเฉพาะตำรวจเท่านั้นหน้าที่หลักของตำรวจคือรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายทั่วไปและให้บริการประชาชนด้านการจราจรและงานด้านต่างๆตำรวจได้ทำหน้าที่ต่ออายุของรัฐบาลนี้มานานพอสมควรแล้วให้ใช้หน่วยงานอื่นบ้าง มิใช่ว่าเมื่อตำรวจมาเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมแต่กลับมีหน่วยงานที่ถืออาวุธอยู่ในฝั่งผู้ชุมนุมทั้งซ่อนเร้นและเปิดเผย. รัฐบาลใช้งานตำรวจเกินกว่าเงินเดือนและมีบางส่วนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ในขณะที่ตำรวจทำงานมากกว่าปกติมีราชการบางส่วนเห็นดีเห็นชอบในการหยุดงานในกรณีที่ผู้ชุมนุมปิดล้อมสถานที่ราชการโดยไม่มีการต่อต้านหรือรวมตัวกันเรียกร้องสถานที่ราชการคืน จึงอยากให้ผู้มีอำนาจในรัฐบาล และ ศรส .พิจารณาพวกเรามีวินัยแต่เหลืออดแล้วจากชุดควบคมฝูงชนทั่งประเทศ "
ข้อความต่างๆที่มีการออกแถลงการณ์จากชุดควบคุมฝูงชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศระบายความอัดอั้นตันใจและแชร์กันในระบบไลน์ผ่านระบบโซเชียลมีเดีย
เห็บ เหา กระโดดหนีกันใหญ่ เราใกล้ถึงชัยชนะแล้วพี่น้องเอ้ย