เราคิดว่าจุดอ่อนด้อยของทักษิณคือความไม่รู้ ไม่รู้จักในสิ่งที่เรียกว่าความศรัทธาและความจริงใจ เขาแวดล้อมไปด้วยสิ่งลวง ผลประโยชน์และสิ่งแลกเปลี่ยน เราไม่คิดว่าเขาจะมีเพื่อนแท้เลยด้วย มีแต่เพื่อนธุจรกิจเท่านั้น สิ่งเหล่านั้นเอง ทำให้เขามือขึ้นในการทำธุรกิจ เพราะเขาไม่ต้องเกรงใจใคร นึกอยากจะเหยียบใครขึ้นมาก็ได้ ไม่ต้องสน ว่าการกระทำของเขาทำใครเจ็บตัวบ้าง มีแรงจูงใจในการต่อยอดเงินอย่างไม่สิ้นสุด สนุกกับการmake money จนรู้สึกว่าทำเงินจากธุรกิจไม่พอน่าจะต่อด้านการเงิน ก็ต่อยอดเป็นบริษัทธุรกิจการเมืองโดยมีเขาเป็นหัวหน้า สั่งการ มีผู้คอยผงกหัวรับคำสั่ง ไม่จำเป็นต้องฟังใคร สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้เขาก้าวพลาดกับการเดินเกมส์ของกำนันสุเทพเพราะเขาไม่รู้จักถึงความศรัทธาต่อความดีงาม ความละอายและกลัวต่อบาปกรรมที่ยังมีผู้คนในสังคมไทยเกินกว่าครึ่งยังคงยอมรับและนับถืออยู่ สิ่งที่ทำให้กำนันสุเทพสามารถยังคงเดินหน้าอยู่ต่อได้มานานกว่าหกเดือนนั่นก็คือความศรัทธาต่อความดีงามและความจริงใจเปิดเผย อันเป็นสิ่งที่คนของพวกเขาไม่เคยมีและไม่เคยเชื่อว่ามีอยู่จริงเพราะสำหรับเขาแล้วสิ่งเหล่านี้จับต้องไม่ได้ เราคิดว่าเขาประเมินสิ่งที่เขาคิดว่าจับต้องไม่ได้ต่ำมากเกิน นั่นทำให้ฝ่ายของพวกเขาก้าวพลาดอยู่ตลอด ใช้กำลังก็แล้ว สังหารผู้คนอย่าง***มโหดก็แล้ว แต่ทำไมคนเหล่านี้ถึงยังไม่เลิก เขาคงกำลังมึนงงและคิดหาวิธีการใหม่ๆในการกำจัดผู้คนที่เขาคิดว่าเป็นอุปสรรคต่ออำนาจของเขาอยู่อย่างแน่แท้ แต่เราอยากจะบอกว่าทักษิณ ถ้าคุณชนะได้จริง เราคิดว่าวันนั้น แผ่นดินไทยคงต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างที่กำลังเกิดอยู่ที่ภาคเหนือเป็นแน่ วันนั้นคงต้องเป็นวันjudgement day หรือวันชี้ชะตาโลกว่าจะอยู่หรือจะไปจริงแท้แน่นอน เพราะมันหมายถึงวันที่ความชั่วจะครองโลก ครองประเทศ ผู้คนก็จะอยู่กันอย่างลำบากยากแค้นเหมือนอย่างที่หลายประเทศที่มีพวกเผด็จการครองเมืองอยู่ สำหรับเรา ถ้าทักษิณชนะ เราอาจจะต้องเอารูปมันมาตั้งแล้วกราบไหว้ซะสามเวลาให้รู้รู้รอดไปซะเลย เพราะมันคงเป็นเทวดาไปแล้ว
บอกตรงๆตลอดหกเดือนมานี่อารมณ์ผันผวนมากบางวันก็ยิ้ม บางวันก็น้ำตาไหลเมื่ออ่านหรือทราบข้อมูลจากพวกเรา. บางวันก็อยากจะถีบจอทีวี มันเป็นอย่างนี้ตลอด เราก็เลยหันมาดูละครซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบห้าหกปีที่ดู ปกติดูแต่ซีรี่ย์ ดูเพื่อหาทางผ่อนคลาย ไม่งั้นนอนกอดไอแพ้ดทั้งวัน มันเครียดเป็นพักๆ แม่บอกอย่าดูสิ เราบอกไม่ได้ เปิดบลูสกายตั้งหกโมงเช้า ปิดสามทุ่มทุกวัน ส่วนพ่อเราดูภาคกลางคืนจรดเช้า มันเป็นอย่างนี้มาตลอด จนมีบางคนบอกให้พาไปโรงพยาบาลเพื่อให้เลิกเสพติดบลูสกายเสียที แล้วพี่เรากลับบ้านไง เขาไม่รู้ เขามาเปลี่ยนช่อง เรารีบมาเปลี่ยนกลับ พร้อมขู่บอกห้ามเปลี่ยน นี่ทีวีเขา แต่ยังไม่ถึงขั้นเอารีโมทไปซ่อนนะ นี่มันเป็นถึงขนาดนี้ จะให้ทำไง
Edited by Jedihan, 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:46.