แล้วจะรู้เลยว่า มันไม่ได้คิดซับซ้อนซ่อนเงื่อน ลึกล้ำอะไรเลย
มันคิดถึงแต่ตัวมันเองเท่านั้นจริงๆครับ
http://www.posttoday...ero-ล้างไพ่ใหม่
สัมภาษณ์พิเศษ "ทักษิณ ชินวัตร" ยืนยันเดินหน้านิรโทษ "Set zero" ล้างไพ่ใหม่ ระบุถ้าไม่ทำก็ทะเลาะกันต่อ
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ถึงจุดยืนแนวทางเรื่องการนิรโทษกรรมสุดซอย ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีเนื้อหาสำคัญดังนี้
การนิรโทษกรรม คือ ก็ต้องถามก่อนว่า ถึงเวลา Set Zero (เริ่มต้นกันใหม่) หรือยัง ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็ไม่ว่ากัน ทะเลาะกันต่อไป แต่ถ้าถึงเวลา Set Zero ก็ต้องถามว่า อะไรที่มันเป็นผลพวงของความขัดแย้งจนเป็นที่มาของการต่อสู้กัน ใช้กฎหมาย ใช้บุคลากร ใช้การปฏิวัติเพื่อห้ำหั่นกัน ผลพวงสิ่งเหล่านี้มันควรจะต้อง Set Zero อันนี้คือหลักมันง่ายๆ เลย ถามว่าการทะเลาะเบาะแว้งแบบนี้จะให้มีต่อไปหรือไม่ ถ้าเราคิดว่าไม่เป็นไรหรอก อยู่ไปแบบนี้ปล่อยไปเถอะ ก็ไม่ต้องไปทำ กลั่นแกล้งไป ใครได้เปรียบเสียเปรียบ ใครจะล้างแค้นใคร ใครจะลอบทำอะไรต่อไปก็ว่ากันไปแบบนี้
ถามว่าถ้าเบื่อหรือยัง เบื่อแล้ว บ้านเมืองมันไม่ไหวแล้ว ก็ต้องถามว่ามันขัดแย้งกันมานานแล้ว จะเริ่มต้นใหม่ไหม จะหยุดไหม จะ Set Zero มั้ย แล้วเมื่อ Set Zero แล้ว กฎหมายมีหลักความยุติธรรมถูกต้องมั้ย คนเป็นกรรมการจะรักษาความเป็นกลางมั้ย ถึงแม้ว่าใครจะถูกตั้งมาโดยฝ่ายไหนก็ตาม ต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งหลักนิติธรรม ถ้าเอาตรงนี้เริ่มต้นได้บ้านเมืองก็จะไปรุ่งเรือง
ถามว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่ AEC แล้ว เราจะมีการแข่งขันจากนอกประเทศมาแล้ว การแข่งขันจากตรงนู้นตรงนี้มาเต็มไปหมด ถามว่าเราจะยังทะเลาะกันแล้วให้เขามารุมอัดเราอยู่มั้ย หรือว่าเราจะรวมพลังกันต่อสู้จากสิ่งท้าทายภายนอกและภายในประเทศเราให้มันดีมั้ย เอาหลักการแค่นี้ ถ้าหลักการแค่นี้มีก็ต้องมาถามกันว่า จุดไหนที่เราจะเริ่มต้น
ความจริงแล้วมันก็เกิดจากการที่ความขัดแย้งทั้งนั้น แล้วความขัดแย้งช่วงนั้นคนไหนได้เปรียบ คนนั้นก็บี้อีกคนหนึ่ง จะบี้ด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่ บางคนก็ใช้วิธีบี้ด้วยทหาร บางคนก็บี้ด้วยกฎหมาย บี้ด้วยบุคลากรที่เป็นปรปักษ์ คือ ถามว่าตรงนี้คือความจริง อย่ามาพูดความจริงครึ่งเดียวว่าตอนที่ได้เปรียบแล้วบอกว่า “มึงไม่ดี” ก็มึงได้เปรียบนี่หว่า
ถามว่าวันนี้จะเริ่มต้น เราจะบอกว่า “เอาล่ะ เฮ้ยได้เปรียบ เสียเปรียบจบหมด ทุกอย่างเลิก เริ่มต้นกันให้ถูกต้อง” Set Zero แล้วเดินหน้า หรือว่ายังจะทะเลาะกันอย่างนี้ ไม่ได้ กูไม่ไป ก็ต่อยกันอย่างนี้ กูก็ไม่ไป ถามว่าจะเอายังไง ผมไม่มีปัญหา ผมจะอยู่ข้างนอกอีก 10 ปี ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร นี่มันชินแล้ว เมื่อก่อนปีสองปีแรกอาจจะคิดมาก ปีนี้ไม่คิดแล้ว อยู่จนไม่เป็นไร ก็ทำตัวเป็นประโยชน์กับประเทศไทยได้ แต่ว่ามันจำกัดหน่อยแค่นั้นเอง
อยากจะเริ่มต้นใหม่?
ผมพร้อมครับ สังเกตดูไหมผมให้อภัยทุกคนที่มาหาผม คนทำร้ายผมผมยังยอม เพราะผมอยากเห็นบ้านเมืองเริ่มต้นใหม่ เขาขอปี 2547 เนื่องจากสมัยที่ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินขบวนตั้งแต่ตอนไล่ผมตั้งแต่ยังเป็นนายกฯ ตราบใดที่เป็นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง แล้วผลพวงความขัดแย้งมันเกิดการฟาดฟันกันด้วยรูปแบบไหนก็แล้วแต่ ถ้าเราบอกว่าเริ่มต้นตรงนี้ ไม่เอาตรงนี้ เว้นตรงนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีใครยอมใคร มาถึงปี 2547 ไปจนถึงจบเลยก็ได้ ตราบที่การเมืองมันยังทะเลาะกัน คนนู้นฟัดคนนี้ คนนี้ฟัดคนนั้น ฟัดกันด้วยอารมณ์ เพราะทุกคนคุมโลภ โกรธ หลงไม่ได้ สู้ชนะไม่ได้ ก็ต้องเอาทหารไปตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในค่ายทหารก็ทำมาแล้ว วันนี้ถามว่าต่างคนต่างทำผิด คนละตุ๊บคนละตั๊บ ถามว่าวันนี้เลิกไหม ถ้าเลิกก็เลิก ไม่เลิกก็ไม่เป็นไร
ถ้าเลิกจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่เลิกจะเป็นอย่างไร?
เลิกก็เริ่มต้นใหม่ ทุกคนก็คิดว่าวันนี้หันหน้าเข้าหากัน มองไปข้างหน้า วันนี้ทุกคนเขาพูดอย่างเดียวว่าให้ โฟกัสออนฟิวเจอร์ ถ้าไม่โฟกัสออนฟิวเจอร์ไม่มองไปข้างหน้า องค์กรนี้พ่ายแพ้กัน เหมือนองค์กรนี้เป็นประเทศหรือเป็นบริษัทหรือเป็นครอบครัว ถ้ามัวแต่อยู่กับแต่ข้างหลัง อยู่กับอดีตไม่อยู่กับอนาคต ไม่มีทางเป็นไปได้ ถามว่าวันนี้คุณสะใจคุณ คุณมันส์คุณ แต่คุณกำลังทิ้งบ้านเมืองที่บอบช้ำให้ลูกหลาน คิดถึงลูกหลานบ้าง อย่าคิดแต่เรื่องของ Next Election ถึงแม้เราจะเป็นนักการเมืองต่อให้มีจิตใจเป็นรัฐบุรุษ คิดถึง Next Generation บ้าง อย่าคิดแต่ Next Election อย่างเดียว
ที่ยังไม่จบฝ่ายตรงข้ามกลัวจะถูกเอาคืน?
ใครจะเอาคืนในเมื่อทุกอย่างมันจบแล้วไม่มีใครเอาคืน ถ้าทุกอย่างมันจบมันคุยกันได้หมด พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ก็คุยกันได้ ความจริงกันแล้วมันคนไทยด้วยกัน เป็นศัตรูกันที่ไหน ยกเว้นแต่คนบางคนคิดว่าไม่ใช่คนไทย
(ต่อ)