Jump to content


Photo
- - - - -

ศาลอุทธรณ์อีกแล้วครับท่าน อุทธรณ์ยกฟ้อง “วัฒนา อัศวเหม” คดีทุจริตซื้อที่ดินคลองด่าน


  • Please log in to reply
16 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 19:43

อุทธรณ์ยกฟ้อง “วัฒนา อัศวเหม” คดีทุจริตซื้อที่ดินคลองด่าน

http://www.manager.c...D=9560000143949

 

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง “วัฒนา อัศวเหม” กับพวก คดีทุจริตซื้อที่ดินสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน มูลค่า 1.8 หมื่นล้าน ชี้พยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกง 
       
       ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.บรมราชชนนี วันนี้ (19 พ.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ2794/2553 ที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี , บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , บริษัทประยูรวิศว์การช่าง , นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง , บริษัทสี่แสงการโยธา(1979) , นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา ,บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ , นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ , บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ , นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ , บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ , นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ , นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ , บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ , นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ , นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยที่ 1 -19 ในความผิดฐานฉ้อโกงที่ดิน และฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 90, 91 และ 83
       
       โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างปี 2531-2533 จำเลยที่ 1 ได้เสนอต่อโจทก์ว่าจะจัดหาที่ดิน 1,900 ไร่ เพื่อนำมาใช้เป็นที่ตั้งของโครงการดังกล่าว แต่จำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 -11 ฉ้อโกงโจทก์ โดยนำที่ดินของจำเลยที่ 12 มาเสนอขายแก่โจทก์ โดยมีเงื่อนไขขอให้โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากจำเลยที่ 12 เลย โดยไม่ต้องผ่านการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นของจำเลยที่ 1 ก่อน การกระทำของจำเลยที่ 1 -19 เป็นการฉ้อโกงโจทก์ โดยร่วมกันหลอกลวงและปกปิดว่าโฉนดที่ดิน 17 แปลง ที่โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์จากจำเลยที่ 12 เป็นโฉนดที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีเนื้อที่ตามจำนวนที่ระบุในโฉนด โดยไม่มีเนื้อที่ซึ่งเป็นคลองหรือถนนสาธารณะหรือที่ชายตลิ่ง แต่ความจริงแล้วที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่ไม่ครบตามจำนวนที่ระบุในโฉนด ถึง 5 แปลง โดยเนื้อที่บางส่วนเป็นคลอง ถนนสาธารณะ หรือที่ชายตลิ่ง และมีการออกโฉนดโดยมิชอบ เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อรับซื้อ และชำระเงินค่าที่ดินให้กับจำเลยที่ 12 ไปเป็นจำนวน 1,956,600,000 บาท แล้วจำเลยที่ 1-19 ก็ได้นำเงินดังกล่าวไปแบ่งปันกันเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต
       
       นอกจากนี้ในการประกาศประกวดราคาโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านของโจทก์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.38 จำเลยที่ 1–11 ได้ร่วมกันแอบอ้างนำเสนอว่า บริษัท นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (NWWI) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิควิศวกรรมการจัดการน้ำเสีย จะเข้าร่วมดำเนินงานกับพวกจำเลยด้วย ทำให้โจทก์หลงเชื่อ อนุมัติให้พวกจำเลยเป็นผู้ชนะการประกวดราคา ซึ่งในวันทำสัญญาดังกล่าว พวกจำเลยได้ร่วมกันหลอกลวงโจทก์ โดยแอบอ้างหลักฐานหนังสือมอบอำนาจของบริษัท นอร์ธเวสต์ฯ ในการเข้าทำสัญญา อีกทั้งจำเลยที่ 1-11 ได้เปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินหลายแห่ง เป็นบัญชีรายรับร่วมของกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี และบริษัทนอร์ธเวสต์ฯ เพื่อหลอกลวงรับเงินค่าจ้างและเงินอื่นๆไปจากโจทก์ ทั้งที่บริษัทนอร์ธเวสต์ฯ มิได้รู้เห็นหรือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1-11 เปิดบัญชีเงินฝากดังกล่าวหรือเพื่อรับเงินแทนแต่อย่างใด การปกปิดความจริงโดยการหลอกลวงดังกล่าว เป็นผลทำให้โจทก์หลงเชื่อจ่ายเงินค่าจ้าง ค่าแรง ค่าวัสดุอุปกรณ์สำหรับการก่อสร้างโครงการคลองด่าน เป็นจำนวนเงิน 17,045,889,431.40 บาท และอีกจำนวนหนึ่งเป็นเงิน 121,343,887.19 เหรียญสหรัฐ จากนั้นจำเลยที่ 1-11 ได้แบ่งเงินดังกล่าวกันเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต จำเลยให้การปฏิเสธ โดยชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลประทับรับฟ้องไว้เฉพาะจำเลยที่ 2-19 และให้ยกฟ้องกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี จำเลยที่ 1
       
       คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 52 ให้จำคุกนายพิษณุ ชวนะนันท์ กก.บ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กก.บ.ประยูรวิศว์การช่าง , นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กก.บ.สี่แสงการโยธา , นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กก.บ.กรุงธนเอนยิเนียร์ , นายรอยอิศราพร ชุตาภา กก.บ.เกตเวย์ , นายชาลี ชุตาภา กก.บ.คลองด่านมารีนฯ , นายประพาส ตีระสงกรานต์ กก.บ.คลองด่านมารีนฯ , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กก.บริษัทคลองด่านมารีนฯ ,นางบุญศรี ปิ่นขยัน กก.บ.ปาล์ม บีชฯ และนายกว๊อกวา โอเยง ผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11 13-15, 17,18 และนายวัฒนา อดีต รมช.มหาดไทย จำเลยที่ 19 เป็นเวลาคนละ 3 ปี
       
       ส่วน บ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , บ.ประยูรวิศว์การช่าง , บ.สี่แสงการโยธา(1979) , บ. กรุงธนเอนยิเนียร์ , บ.เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ , บ. คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ และ บ.ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ จำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12 และ 16 ให้ปรับรายละ 6,000 บาท ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 2- 19 ยื่นอุทธรณ์ โดยจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ร่วมกระทำผิดฐานฉ้อโกง โดยหลอกลวงขายที่ดินซึ่งมี 5 ฉบับ คือ 13150, 13817, 15024, 15528 และ 15565 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ที่ออกโฉนดโดยมิชอบด้วยกฎหมายให้กับกรมควบคุมมลพิษ และจำเลยที่ 2-11 ไม่ได้ร่วมกันกระทำผิดฐานฉ้อโกงในการทำสัญญารับเหมาก่อสร้าง โดยปกปิดข้อเท็จจริง
       
       ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าโฉนด 5 ฉบับที่อ้างว่ามีการออกโดยมิชอบด้วยระเบียบ โดยนายวัฒนา จำเลยที่ 19 ใช้อำนาจในตำแหน่งรัฐมนตรีจูงใจให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการออกโฉนดหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่านายวัฒนา จำเลยที่ 19 ได้จูงใจให้เจ้านักงานออกที่ดิน 5 โฉนดไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่มีประเด็นต้องวินิจฉัยต่อว่าจำเลยที่ 19 มีเจตนาที่จะนำที่ดินนั้นไปหลอกลวงขายให้กับกรมควบคุมมลพิษ โดยมีจำเลยที่ 2-18 ร่วมเป็นตัวการหรือไม่ เห็นว่า จากทางนำสืบและคำอ้างอุทธรณ์ของจำเลยพบว่า บ. ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 มีน้องชายของจำเลยที่ 19 กับพวกถือหุ้น และในช่วงเวลาตามฟ้องบริษัทได้มีโครงการสร้างสนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัย โดยได้มีการโฆษณาโครงการในนิตยสารว่าจะมีการสร้างสนามกอล์ฟ 36 หลุม ชื่อปาล์มบีชกอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ เนื้อที่ 3,000 ไร่ไว้บริการ จึงมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า บ. ปาล์ม บีช ฯ จำเลยที่ 16 ซื้อที่ดินจำนวนมาก เพื่อจะทำโครงการสนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัยขายให้กับบุคคลทั่วไปจริง การที่จำเลยที่ 19 ขายที่ดินซึ่งบริษัทเหมืองแร่ลานทอง จำกัด รวบรวมซื้อมาจากชาวบ้าน ต.คลองด่านให้กับ บ.ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ก็น่าจะเป็นการดำเนินการช่วยเหลือให้โครงการของจำเลยที่ 16 ลุล่วงไปโดยเร็ว และที่ บ.ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ขายที่ดินต่อให้กับ บ.คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 12 ซึ่งดำเนินกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งจำหน่ายต่างประเทศก็เนื่องจากจำเลยที่ 16 พัฒนาที่ดินแล้วเกิดปัญหาดินทรุด เพราะเป็นดินเลนติดทะเลไม่คุ้มทุนการทำสนามกอล์ฟ น่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจล้วนๆ
       
       ขณะที่ช่วงเวลาที่ บ.ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ซื้อที่ดินก็ยังไม่แน่ชัดว่าโครงการก่อสร้างบำบัดน้ำเสียจะใช้ที่ดินบริเวณใดบ้าง โดยกรมควบคุมมลพิษเพิ่งมีโครงการชัดเจนว่าจะใช้ที่ดิน ต.คลองด่านในเดือน ก.พ. 2539 ดังนั้น พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 19 เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือดำเนินการใดๆ ให้คณะกรรมการคัดเลือกของกรมควบคุมมลพิษเลือกที่ดินของให้กับ บ.คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 12 อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2-19 ฟังขึ้น พิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลย
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้แม้ศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องนายวัฒนากับพวก แต่ตามกฎหมายกรมควบคุมมลพิษโจทก์ สามารถยื่นฎีกาได้ภายใน 30 วัน
       
       อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น ก่อนหน้านี้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2551 ให้จำคุกนายวัฒนา อดีตรมช.มหาดไทย เป็นเวลา 10 ปี ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบ จูงใจให้เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการออกโฉนดที่ดินใน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เนื้อที่ 1,900 ไร่ ทั้งที่รัฐได้ประกาศหวงห้ามให้ที่บริเวณดังกล่าวใช้เป็นที่ทิ้งขยะมูลฝอยและถนนสาธารณะให้กับบ.ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามป.อาญา มาตรา 148 ซึ่งนายวัฒนา ได้หลบหนีคดีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาฯ จึงให้ออกหมายจับนายวัฒนา มารับโทษตามคำพิพากษา ซึ่งคดีมีอายุความ 15 ปี

 

 

----------------------------------------------------------------------

 

 

เฮ่ย  กี่คดีแล้วครับนี่ กับศาลอุทธรณ์???????????????  ใครนับไหวมั่งครับ ช่วยๆกันขุดหน่อย


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#2 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:07

อันนี้ น่าจะคนละเรื่อง กัน ครับ ยังไง ก็โดนศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ตัดสิน ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบ อันนี้ หนี ไม่มีทางยกฟ้องได้ แต่ ศาลอุทธาณ์ น่าจะดูแต่เจตนา

ชึ่ง อาจจะ ส่งไปไม่ถึงก็ได้ งานนี้ งาบหัวคิว อย่างเดียว ใช่ตำแหน่งช่วยน้อง เลยยกฟ้องข้อหาฉ้อโกง


บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#3 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:12

คดีเดียวกันหรือเปล่าครับ ไม่แน่ใจ 

 

รอข้อมูลเพิ่มเติมครับ


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#4 Solid Snake

Solid Snake

    แดงกำมะลอ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,892 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:14

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง - ระบบไต่สวน

ศาลอุทธรณ์ - ระบบกล่าวหา

 

ทำไมถึงหลุดไม่ลองถามโจทก์ดูบ้างล่ะ กล่าวหายังไงหลักฐานถึงไม่พอ



#5 IndyDekDee

IndyDekDee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 487 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:14

ไอ้ยกฟ้อง..ก็ว่ากันไป ตามพยานหลักฐาน แต่ไอ้คดีที่ไม่ยอม ฏีกา นี่สิทำไม?

#6 foyfon

foyfon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,176 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:19

ผมเองส่วนตัวรู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่มีโอกาสดูโฆษณาในทีวีเป็นโฆษณาเกี่ยวกับ   ปปช  เพราะจากติดตามข่าว

 

นักการเมืองโกงกินมากมาย   แต่ไม่ค่อยเห็นนักการเมืองติดคุกหรือโดนยึดทรัพย์เลย



#7 CrazyDaimon

CrazyDaimon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 879 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:26

หากเราจะยึดมั่นในกติกา

 

ก็ไม่ควรตำนิศาลกันนะครับ

 

อย่าลืมว่ากฏหมาย ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นผู้ออก

 

ศาลมีหน้าที่พิจารณาตามนั้น



#8 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:29

แล้วที่หนีอยู่ก็ต้องหนีกันจนตาย

 

เมื่อผลของการกระทำปรากฎ

มันเป็นเช่นนี้แล

-ไอ้แม๊ว

-ไอ้เป๊าะ

-ไอ้ตัวนี้

-ไอ้กลม

 

และจะมีต่อไป


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#9 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:31

คดีเดียวกันหรือเปล่าครับ ไม่แน่ใจ 

 

รอข้อมูลเพิ่มเติมครับ

คดีเกี่ยวเนื่องกันจะสมเหตุสมผลมากกว่า ครับ 

 

ที่วัฒนาโดน ตัดสินติดคุก เพราะใช่อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ในการจูงใจให้ข้าราชการทำมิชอบด้วยกฏหมาย 

แต่ คดีนี้ คือ ร่วมกันฉอโกง หลอกขายที่ ที่ให้ข้าราชการออกโฉนดมิชอบ ประมาณนี้มากกว่าครับ ชึ่งวัฒนาเป็นจำเลยที่ 19 

ชึ่งวัฒนา มีน้องชาย(จำเลย 16)ถือหุ้น อยู่ด้วย จึงมองแค่เอื้อประโยชน์มากกว่า ดังนั้น ศาลจึงไม่ได้ตัดสินว่า ร่วมกันฉ้อโกงยกฟ้องครับ

เหมือนที่ศาลไม่ออกหมายจับการ์ดที่ทุบตำรวจนอกเครื่องแบบข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงานที่ขณะปฏิบัติหน้าที่


Edited by ter162525, 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:32.

บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#10 ID007

ID007

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,055 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:50

ยังโชคดีที่คดีนี้ กรมมลพิษฟ้องเอง คงฎีกาต่อ

 

ถ้าเป็นอั๊ยยะกางสุกสุก มันคงรอรับกระเป๋าตังค์ก่อน ค่อยสั่งคดี เหี้ ย สุดสุด แดกเก่งกว่าหมาต๋าอีก



#11 idecon

idecon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,580 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 23:43

คดีที่ยกฟ้อง มีโทษจำคุก 3 ปี
อีกคดีนึง จำคุก 10 ปี ยังอยู่ครับ

#12 idecon

idecon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,580 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 23:47

รับไม่ได้ครับกับการที่บริษัทไปซื้อที่ป่าชายเลนเพื่อทำสนามกอล์ฟ
ทั้งๆที่รู้ว่าที่ดินแถบนั้นมีการทรุดตัวสูง
แล้วจึงเอาไปขายต่อเพราะสร้างสนามกอล์ฟไม้ได้
แล้วถ้าทำบ่อบำบัดน้ำเสียจริงมันจะไม่พินาศเหรอ
Load มากกว่ากันตั้งเยอะ
มันน่าจะส่อเจตนาตั้งแต่ต้น

#13 ซุ่มเงียบ

ซุ่มเงียบ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 798 posts

ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 23:47

ตามมาด้วย อัยการสูงสุดไม่ฎีกา



#14 dek-harte

dek-harte

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 162 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 01:15

อุทธรณ์ยกฟ้อง “วัฒนา อัศวเหม” คดีทุจริตซื้อที่ดินคลองด่าน

http://www.manager.c...D=9560000143949

 

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง “วัฒนา อัศวเหม” กับพวก คดีทุจริตซื้อที่ดินสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน มูลค่า 1.8 หมื่นล้าน ชี้พยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกง 
       
       ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.บรมราชชนนี วันนี้ (19 พ.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ2794/2553 ที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง

กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี (1), บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง (2) , นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง  (3), บริษัทประยูรวิศว์การช่าง (4), นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง (5), บริษัทสี่แสงการโยธา(1979) (6), นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา (7),บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ (8), นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ (9), บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ (10), นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ (11), บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ (12), นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ (13), นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ (14), นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ (15), บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ (16), นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ (17), นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ (18)และ นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (19)เป็นจำเลยที่ 1 -19 ในความผิดฐานฉ้อโกงที่ดิน และ ฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 90, 91 และ 83
       
       โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างปี 2531-2533 จำเลยที่ 1 ได้เสนอต่อโจทก์ว่าจะจัดหาที่ดิน 1,900 ไร่ เพื่อนำมาใช้เป็นที่ตั้งของโครงการดังกล่าว แต่จำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 -11 ฉ้อโกงโจทก์ โดยนำที่ดินของจำเลยที่ 12 มาเสนอขายแก่โจทก์ โดยมีเงื่อนไขขอให้โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากจำเลยที่ 12 เลย โดยไม่ต้องผ่านการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นของจำเลยที่ 1 ก่อน การกระทำของจำเลยที่ 1 -19 เป็นการฉ้อโกงโจทก์ โดยร่วมกันหลอกลวงและปกปิดว่าโฉนดที่ดิน 17 แปลง ที่โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์จากจำเลยที่ 12 เป็นโฉนดที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีเนื้อที่ตามจำนวนที่ระบุในโฉนด โดยไม่มีเนื้อที่ซึ่งเป็นคลองหรือถนนสาธารณะหรือที่ชายตลิ่ง แต่ความจริงแล้วที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่ไม่ครบตามจำนวนที่ระบุในโฉนด ถึง 5 แปลง โดยเนื้อที่บางส่วนเป็นคลอง ถนนสาธารณะ หรือที่ชายตลิ่ง และมีการออกโฉนดโดยมิชอบ เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อรับซื้อ และชำระเงินค่าที่ดินให้กับจำเลยที่ 12 ไปเป็นจำนวน 1,956,600,000 บาท แล้วจำเลยที่ 1-19 ก็ได้นำเงินดังกล่าวไปแบ่งปันกันเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต
       
       นอกจากนี้ในการประกาศประกวดราคาโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านของโจทก์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.38 จำเลยที่ 1–11 ได้ร่วมกันแอบอ้างนำเสนอว่า บริษัท นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (NWWI) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิควิศวกรรมการจัดการน้ำเสีย จะเข้าร่วมดำเนินงานกับพวกจำเลยด้วย ทำให้โจทก์หลงเชื่อ อนุมัติให้พวกจำเลยเป็นผู้ชนะการประกวดราคา ซึ่งในวันทำสัญญาดังกล่าว พวกจำเลยได้ร่วมกันหลอกลวงโจทก์ โดยแอบอ้างหลักฐานหนังสือมอบอำนาจของบริษัท นอร์ธเวสต์ฯ ในการเข้าทำสัญญา อีกทั้งจำเลยที่ 1-11 ได้เปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินหลายแห่ง เป็นบัญชีรายรับร่วมของกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี และบริษัทนอร์ธเวสต์ฯ เพื่อหลอกลวงรับเงินค่าจ้างและเงินอื่นๆไปจากโจทก์ ทั้งที่บริษัทนอร์ธเวสต์ฯ มิได้รู้เห็นหรือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1-11 เปิดบัญชีเงินฝากดังกล่าวหรือเพื่อรับเงินแทนแต่อย่างใด การปกปิดความจริงโดยการหลอกลวงดังกล่าว เป็นผลทำให้โจทก์หลงเชื่อจ่ายเงินค่าจ้าง ค่าแรง ค่าวัสดุอุปกรณ์สำหรับการก่อสร้างโครงการคลองด่าน เป็นจำนวนเงิน 17,045,889,431.40 บาท และอีกจำนวนหนึ่งเป็นเงิน 121,343,887.19 เหรียญสหรัฐ จากนั้นจำเลยที่ 1-11 ได้แบ่งเงินดังกล่าวกันเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต จำเลยให้การปฏิเสธ โดยชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลประทับรับฟ้องไว้เฉพาะจำเลยที่ 2-19 และให้ยกฟ้องกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี จำเลยที่ 1
       
       คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 52 ให้จำคุกนายพิษณุ ชวนะนันท์ กก.บ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กก.บ.ประยูรวิศว์การช่าง , นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กก.บ.สี่แสงการโยธา , นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กก.บ.กรุงธนเอนยิเนียร์ , นายรอยอิศราพร ชุตาภา กก.บ.เกตเวย์ , นายชาลี ชุตาภา กก.บ.คลองด่านมารีนฯ , นายประพาส ตีระสงกรานต์ กก.บ.คลองด่านมารีนฯ , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กก.บริษัทคลองด่านมารีนฯ ,นางบุญศรี ปิ่นขยัน กก.บ.ปาล์ม บีชฯ และนายกว๊อกวา โอเยง ผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11 13-15, 17,18 และนายวัฒนา อดีต รมช.มหาดไทย จำเลยที่ 19 เป็นเวลาคนละ 3 ปี
       
       ส่วน บ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , บ.ประยูรวิศว์การช่าง , บ.สี่แสงการโยธา(1979) , บ. กรุงธนเอนยิเนียร์ , บ.เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ , บ. คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ และ บ.ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ จำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12 และ 16 ให้ปรับรายละ 6,000 บาท ต่อมา โจทก์และจำเลยที่ 2- 19 ยื่นอุทธรณ์ โดยจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ร่วมกระทำผิดฐานฉ้อโกง โดยหลอกลวงขายที่ดินซึ่งมี 5 ฉบับ คือ 13150, 13817, 15024, 15528 และ 15565 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ที่ออกโฉนดโดยมิชอบด้วยกฎหมายให้กับกรมควบคุมมลพิษ และจำเลยที่ 2-11 ไม่ได้ร่วมกันกระทำผิดฐานฉ้อโกงในการทำสัญญารับเหมาก่อสร้าง โดยปกปิดข้อเท็จจริง
       
       ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าโฉนด 5 ฉบับที่อ้างว่ามีการออกโดยมิชอบด้วยระเบียบ โดยนายวัฒนา จำเลยที่ 19 ใช้อำนาจในตำแหน่งรัฐมนตรีจูงใจให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการออกโฉนดหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่านายวัฒนา จำเลยที่ 19 ได้จูงใจให้เจ้านักงานออกที่ดิน 5 โฉนดไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่มีประเด็นต้องวินิจฉัยต่อว่าจำเลยที่ 19 มีเจตนาที่จะนำที่ดินนั้นไปหลอกลวงขายให้กับกรมควบคุมมลพิษ โดยมีจำเลยที่ 2-18 ร่วมเป็นตัวการหรือไม่ เห็นว่า จากทางนำสืบและคำอ้างอุทธรณ์ของจำเลยพบว่า บ. ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 มีน้องชายของจำเลยที่ 19 กับพวกถือหุ้น และในช่วงเวลาตามฟ้องบริษัทได้มีโครงการสร้างสนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัย โดยได้มีการโฆษณาโครงการในนิตยสารว่าจะมีการสร้างสนามกอล์ฟ 36 หลุม ชื่อปาล์มบีชกอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ เนื้อที่ 3,000 ไร่ไว้บริการ จึงมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า บ. ปาล์ม บีช ฯ จำเลยที่ 16 ซื้อที่ดินจำนวนมาก เพื่อจะทำโครงการสนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัยขายให้กับบุคคลทั่วไปจริง การที่จำเลยที่ 19 ขายที่ดินซึ่งบริษัทเหมืองแร่ลานทอง จำกัด รวบรวมซื้อมาจากชาวบ้าน ต.คลองด่านให้กับ บ.ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ก็น่าจะเป็นการดำเนินการช่วยเหลือให้โครงการของจำเลยที่ 16 ลุล่วงไปโดยเร็ว และที่ บ.ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ขายที่ดินต่อให้กับ บ.คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 12 ซึ่งดำเนินกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งจำหน่ายต่างประเทศก็เนื่องจากจำเลยที่ 16 พัฒนาที่ดินแล้วเกิดปัญหาดินทรุด เพราะเป็นดินเลนติดทะเลไม่คุ้มทุนการทำสนามกอล์ฟ น่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจล้วนๆ
       
       ขณะที่ช่วงเวลาที่ บ.ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ซื้อที่ดินก็ยังไม่แน่ชัดว่าโครงการก่อสร้างบำบัดน้ำเสียจะใช้ที่ดินบริเวณใดบ้าง โดยกรมควบคุมมลพิษเพิ่งมีโครงการชัดเจนว่าจะใช้ที่ดิน ต.คลองด่านในเดือน ก.พ. 2539 ดังนั้น พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 19 เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือดำเนินการใดๆ ให้คณะกรรมการคัดเลือกของกรมควบคุมมลพิษเลือกที่ดินของให้กับ บ.คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 12 อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2-19 ฟังขึ้น พิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลย
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้แม้ศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องนายวัฒนากับพวก แต่ตามกฎหมายกรมควบคุมมลพิษโจทก์ สามารถยื่นฎีกาได้ภายใน 30 วัน
       
       อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น ก่อนหน้านี้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2551 ให้จำคุกนายวัฒนา อดีตรมช.มหาดไทย เป็นเวลา 10 ปี ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบ จูงใจให้เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการออกโฉนดที่ดินใน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เนื้อที่ 1,900 ไร่ ทั้งที่รัฐได้ประกาศหวงห้ามให้ที่บริเวณดังกล่าวใช้เป็นที่ทิ้งขยะมูลฝอยและถนนสาธารณะให้กับบ.ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามป.อาญา มาตรา 148 ซึ่งนายวัฒนา ได้หลบหนีคดีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาฯ จึงให้ออกหมายจับนายวัฒนา มารับโทษตามคำพิพากษา ซึ่งคดีมีอายุความ 15 ปี

 

 

----------------------------------------------------------------------

 

 

เฮ่ย  กี่คดีแล้วครับนี่ กับศาลอุทธรณ์???????????????  ใครนับไหวมั่งครับ ช่วยๆกันขุดหน่อย

 

 

อันนี้ต้อง ตั้งใจอ่านครับ พอเห็นเป็นนักการเมืองอย่าเพิ่งรีบสรุปครับ

ข้อที่อ่านแล้วเห็นว่ามีเพื่อนๆเข้าใจผิด

 

1. โจทย์คือ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่อัยการสูงสุด

2. คดีที่อุทธรณ์คือ คดีฉ้อโกงที่ดิน และฉ้อโกง

3. จำเลยที่ 19 นายวัฒนา โดน ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่านายวัฒนา จำเลยที่ 19 ได้จูงใจให้เจ้านักงานออกที่ดิน 5 โฉนดไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

4. ส่วนฉ้อโกง หรือไม่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยตามข้อโต้แย้งตัวเขียวๆครับ (ผมไม่รู้รายละเอียดว่าสู้กันยังไง)

5. ผมว่าต้องฎีกาครับ เพราะความเสียหายเยอะมากกกกกกก ( เป็นผลทำให้โจทก์หลงเชื่อจ่ายเงินค่าจ้าง ค่าแรง ค่าวัสดุอุปกรณ์สำหรับการก่อสร้างโครงการคลองด่าน เป็นจำนวนเงิน 17,045,889,431.40 บาท (อ่านว่า หนึ่งหมื่นเจ็ดพันสี่สิบห้าล้าน แปดแสนแปดหมื่นเก้าพันสี่ร้อยสามสิบเอ็ด ครับท่าน) และอีกจำนวนหนึ่งเป็นเงิน 121,343,887.19 เหรียญสหรัฐ (หรือเท่ากับ คูณที่ เบาะๆ 30 บาท = 3,640,316,610  อ่านว่า สามพันหกร้อยสี่สิบล้าน สามแสนหนึ่งหมื่นหกพันหกร้อยสิบ รวมแล้วสองยอด ประมาณ  20,685 ล้านบาท)

 

เหนื่อยครับ :wacko:

 

 

เพิ่มเติม

 

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี :angry: :angry: :angry: :angry: :angry:  เสียหาย 20,000 ล้านเนี่ยนะ


Edited by dekheart, 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 01:18.


#15 kim

kim

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,724 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 01:32

น่าจะสตั้งใจทำสำนวนอ่อน ส่งฟ้องไงก็หลุด



#16 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 05:38

วัคทะนาเจ๋งอ่ะ เอาที่ในทะเลมาขายได้ด้วย สวดยวดเลย

#17 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:54

วัคทะนาเจ๋งอ่ะ เอาที่ในทะเลมาขายได้ด้วย สวดยวดเลย

 

ความฉามาดพิเฉด ห้ามลอกเลียนแบบ -_-

 

 

 

ท่าน dekheart  ขอบพระคุณมากๆเลยครับ

อุตส่าห์ลงทุน ตั้งใจทำข้อความให้เห็นชัดๆ :wub:


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน