Jump to content


Photo
- - - - -

ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย ..


  • Please log in to reply
25 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 09:44

https://www.dropbox....cal roadmap.pdf

น่าสนใจ  น่าเอามาปรับใช้หากมีการปฏิรูปประเทศ ส่วนใครจะคิดอย่างไรก็ว่ากันไป

ล้างบางการเมืองยกเครื่องประเทศไทย เอกสารเผยแพร่ สถาบันสหสวรรษ
วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ สถาบันสหสวรรษ
 

ประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยแร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติมากมายมหาศาล ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน ที่สำรวจพบทั้งในอ่าวไทยและบนพื้นดิน มีมูลค่ามากกว่าขนาดของเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีเสียด้วยซ้ำ ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมถึงแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง สังกะสี ดีบุก และโปแตช นอกจากนั้น แผ่นดินไทยยังอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับเกษตรกรรมและปศุสัตว์ อย่างที่ยากจะหาเหมือนได้ในประเทศอื่น
ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ยังยากจน ทั้งที่เรามีทรัพย์ในดินต่อหัวนับเป็นหลักแสนหลักล้านบาท คนไทยตัวเล็กตัวน้อยจึงกลับต้องมากระเสือกกระสนหาเช้ากินค่ำ รายได้ไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเองและครอบครัว คนต่างจังหวัดจำนวนมากต้องส่งลูกชายเข้ามาขายแรงงาน หรือแม้แต่ต้องส่งลูกสาวเพื่อมาขายบริการใน กทม. และเมืองใหญ่ ขณะที่นักการเมืองขี้โกงและลูกสมุนที่เป็นข้าราชการระดับสูง กลับมีเงินสดเก็บในบ้านเป็นพันล้าน
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า สมบัติของประชาชนถูกปล้นไปจากประชาชน โดยบุคคลผู้มีอำนาจกลุ่มหนึ่ง ทำให้ไม่มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับประชาชนคนไทย กลุ่มบุคคลที่ว่านี้ประกอบด้วย นักการเมือง และผู้มีอำนาจทางการเมืองเพียงไม่กี่คน ร่วมกับข้าราชการระดับสูง บางคนที่ยอมเป็นสมุนรับใช้ สมคบคิดกับอภิมหาเศรษฐี นายทุน ไม่กี่ตระกูล ร่วมมือกันใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินของตน ยักยอกและเบียดบังผลประโยชน์ของชาติเอาใส่กระเป๋าตัวเองและพวกพ้อง ทั้งนี้ จะขอเรียกบุคคลทั้งสามพวกที่ร่วมมือกันปล้นประชาชนรวมกันว่า สามเหลี่ยมทรราช
ปัจจุบันนี้ พฤติกรรมการปล้นประชาชนดังกล่าว ได้ฝังรากลึกในระบบการเมืองไทย จนทำให้การเมืองไทยกลายเป็นปัญหาที่หนักหนาสาหัสที่สุดของบ้านเมือง และยังเป็นรากเหง้าของปัญหาอื่นๆ ของสังคมไทยอีกเหลือคณานับ แทนที่จะเป็นที่พึ่งดูแลความผาสุกของคนไทยทั้งผอง การเมืองไทยในวันนี้ได้กลายเป็นธุรกิจพิเศษที่เรียกว่า ธุรกิจการเมือง ซึ่งนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และนายทุนไม่กี่ตระกูล เอาอำนาจรัฐที่จับจ่ายซื้อหาหรือแย่งชิงมาได้ นำไปสร้างความร่ำรวยมหาศาลให้กับตนเองและพวกพ้อง ผ่านสัมปทาน สิทธิพิเศษ เมกะโปรเจค หรือการชักหัวคิวจากการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ที่น่าอนาถกว่านั้นก็คือ การประกอบธุรกิจการเมืองในทุกวันนี้ ได้กลายเป็นกิจวัตรของนักการเมืองในทุกขั้วทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายใดจะได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็จะทำการปล้นประชาชนเหมือนกัน
มิหนำซ้ำ เมื่อเหล่า สามเหลี่ยมทรราช พวกนี้ทะเลาะกันเอง เพราะแย่งชิงผลประโยชน์กัน หรือแบ่งปันผลประโยชน์ที่ปล้นมาจากประชาชนไม่ลงตัว ก็ไปหลอกเกณฑ์เอาประชาชนจำนวนมากมาเป็นพรรคพวก เพื่อมารบกับฝ่ายตรงข้าม จนลูกหลานของประชาชนต้องมาเสียชีวิต ล้มตายเกลื่อนกลาดบนท้องถนนครั้งแล้วครั้งเล่า เห็นได้จากเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ สี่แยกคอกวัว สามเหลี่ยมดินแดง และหน้ารัฐสภา เป็นต้น
วิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาอันแสนเลวร้ายนี้ได้ก็คือ การชำระล้างความสกปรกโสมมของการเมืองปัจจุบันทั้งระบบ ที่ได้สะสมหมักหมมมานานนับสิบๆ ปี ซึ่งจะขอเรียกโดยรวมว่าเป็นการ ล้างบ้านล้างเมือง
วิธีที่ว่านี้ มิใช่เป็นเพียงการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองด้วยการล้มรัฐบาลของพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อให้อีกพรรคหนึ่งขึ้นมาเสวยอำนาจแทน แต่ทว่าจะต้องเป็นการยึดคืนอำนาจของนักการเมืองทั้งหมดจากทุกพรรค กลับคืนสู่มือของประชาชน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนอย่างแท้จริง ให้เข้ามาสะสางชำระล้างผลพวงของความโสโครกของการเมืองทั้งระบบจนสำเร็จลุล่วง พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจเสียใหม่ ก่อนที่จะกลับคืนสู่การเลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าพูดอย่างไม่อ้อมค้อม ก็คือการเข้ายึดอำนาจรัฐนั่นเอง เพียงแต่ครั้งนี้มิใช่เป็นการยึดอำนาจโดยทหารอย่างที่ผ่านมา ทว่าจะเป็นการ ยึดอำนาจโดยประชาชน ซึ่งหากจะเกิดขึ้นได้ ก็จะต้องมีประชาชนนับแสนนับล้าน ออกมาร่วมกันชุมนุมเรียกร้อง และแสดงเจตน์จำนงที่ชัดเจนว่า ต้องการกำจัดระบบธุรกิจการเมืองที่สูบเลือดกินเนื้อประชาชนอยู่ทุกวี่วัน ให้สิ้นซากไปจากสังคมไทยโดยถาวร ด้วยการให้ยุติบทบาทรัฐบาลของนักการเมืองและ
นายทุนการเมืองเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งจัดตั้ง รัฐบาลประชาชนให้เข้ามาบริหารประเทศแทนเป็นเวลา 1,000 วัน เพื่อปฏิบัติการล้างบ้านล้างเมือง ซึ่งประกอบด้วย ภารกิจชาติ 8 ประการดังต่อไปนี้
(1) ยุติบทบาทของพรรคการเมืองทุกพรรคเป็นการ
ชั่วคราว พร้อมทั้งอายัดทรัพย์ของนักการเมืองสำคัญจากทั้งสองขั้วสองข้าง ที่เป็นหัวขบวนของธุรกิจการเมือง ตลอดจนตั้งกรรมการสอบสวน และดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้น หากสืบสวนพบความผิด และสามารถโยงใยถึงทรัพย์สินทั้งหมดหรือบางส่วนก็ให้ยึดทรัพย์ดังกล่าวให้ตกเป็นของแผ่นดิน
(2) ล้างบางข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ในปัจจุบันนี้ ข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ได้เข้าสู่ตำแหน่งเพราะความเกี่ยวข้องผูกพัน และเป็นเครื่องมือในการอำนวยผลประโยชน์ ต่อกลุ่มนักการเมืองและนายทุนปล้นชาติ จึงจำเป็นต้องทำการโยกย้ายปรับเปลี่ยนบุคคลเหล่านี้ในลักษณะยกแผง กระบวนการนี้มีความละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดมากมาย ซึ่งจะนำมาขยายความต่อไปในภายหลัง
(3) ทวงคืนสมบัติของประชาชนให้กับประชาชน ด้วยการตรวจสอบ ทบทวน แก้ไข และอาจถึงยกเลิก สัญญาสัมปทานต่างๆ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ สาธารณูปโภค ตลอดจนธุรกิจผูกขาดอื่นๆ ตัวอย่างเช่น
3.1 ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ทั้งในทะเลและบนบก
3.2 ทรัพยากรแร่ธาตุ เช่น โปแตช ทองคำ ทองแดง
สังกะสี เป็นต้น
3.3 โทรคมนาคม ตลอดจนการสื่อสาร วิทยุโทรทัศน์
และธุรกิจดาวเทียม
3.4 คมนาคมขนส่ง เช่น รถไฟฟ้า และทางด่วน
เงินที่ได้จากการทวงคืนสมบัติของประชาชนที่ว่านี้ จะนำไปใช้ในการให้สวัสดิการและบริการสาธารณะด้านต่างๆ แก่ประชาชนโดยตรง เช่น การศึกษาฟรีจนจบปริญญาตรี อาหารกลางวันฟรีแก่นักเรียนนักศึกษา การรักษาพยาบาลฟรี ในระดับคุณภาพของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ เป็นต้น
ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
(4) ปรับโครงสร้างธุรกิจสำคัญของประเทศ ในระบบเศรษฐกิจไทย มีธุรกิจสำคัญอยู่ 6-7 สาขา ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง แต่ทว่าในปัจจุบัน ธุรกิจเหล่านี้กลับเป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างความร่ำรวยให้กับอภิมหาเศรษฐีไม่กี่ตระกูล จึงจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างธุรกิจเหล่านี้เสียใหม่ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนได้อย่างที่ควรจะเป็น ธุรกิจดังกล่าวนี้ครอบคลุมหลายสาขา เช่น
4.1 พลังงาน
4.2 อาหาร
4.3 คมนาคมขนส่ง (รวมถึงแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์
ของประเทศ โดยไม่ต้องอาศัยเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท)
4.4 โทรคมนาคม
4.5 สื่อสารมวลชน
4.6 การเงิน
(5) สร้างเศรษฐกิจชาวบ้าน เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือสำหรับสร้างความร่ำรวยให้กับคนเพียงหยิบมือ แต่กลับไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตของคนที่ด้อยโอกาสและไร้อำนาจ จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนทิศทางของเศรษฐกิจไทยเสียใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถลืมตาอ้าปากได้ โดยไม่ต้องปากกัดตีนถีบหาเช้ากินค่ำ เพื่อจะได้มีอาหารตกถึงท้องและมีที่ซุกหัวนอน เพียงเพื่อมีชีวิตอยู่รอดไปวันๆ ภารกิจภายใต้หัวข้อนี้มีอยู่หลายประการด้วยกัน ตัวอย่างเช่น
ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
5.1 ยึดคืนป่าเสื่อมโทรมที่ถูกบุกรุกโดยนายทุน มาปรับเปลี่ยนให้เป็นชุมชนพึ่งตนเอง ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนำเงินบางส่วนที่ได้จากการทวงคืนสมบัติชาติในข้อต้น มาปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ สร้างแอ่งเก็บน้ำ ที่ปลูกพืชผัก ที่เลี้ยงปศุสัตว์ และที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งกันพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อปลูกป่าถาวร โดยว่าจ้างชาวชุมชนเหล่านั้น ให้เป็นทั้งผู้ปลูกและดูแลรักษาป่าดังกล่าว
5.2 สร้างตลาดนัดประชาชนจำนวนมาก ทั้งในเขต กทม. และเมืองใหญ่ ด้วยการเปิดพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของรัฐเอง หรือเช่าพื้นที่ของเอกชนที่ใช้เก็งกำไรและยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ แล้วทำถนนหรือทางคนเดินเข้าสู่พื้นที่นั้น หลังจากนั้น นำไฟฟ้า ประปา และส้วมสาธารณะเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าว พร้อมทั้งจัดแบ่งพื้นที่สำหรับทำการค้าขาย โดยให้สิทธิ์ผู้มีภูมิลำเนาใกล้เคียง ที่มีรายได้ต่ำ ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
และยังไม่มีธุรกิจหรือสถานที่ค้าขายของตนเอง สำหรับตลาดนัด
ประชาชนขนาดใหญ่ ยังสามารถขยายผลให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้
ในเวลาเดียวกัน
5.3 สร้างโครงข่ายค้าปลีกของประชาชน ในทำนองเดียวกัน
กับ “7-eleven” หรือ “Family Mart” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีร้านค้า
หรือสถานที่ประกอบการของตนเองอยู่แล้ว สามารถเข้ามาใช้
โครงข่ายค้าปลีกนี้ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าแฟรนไชส์ นอกจากนั้น
ยังสามารถใช้โครงข่ายนี้สำหรับซื้อสินค้าท้องถิ่น/พื้นเมืองจาก
10 ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
ทั่วประเทศ ด้วยการควบคุมคุณภาพสินค้าให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โครงข่ายค้าปลีกของประชาชนนี้จะไม่มุ่งเน้นการทำกำไร แต่จะมุ่งลดค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้บริโภค และยังเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายเล็กรายน้อยสามารถนำสินค้าของตนมาจำหน่ายในระดับชาติได้
5.4 เปิดโอกาสสำหรับอาชีพอิสระในธุรกิจขนส่งสาธารณะ เช่น บริการแท็กซี่ รถตู้โดยสาร มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถโดยสารระหว่างเมือง รวมถึงบริการรับส่งเอกสาร ให้มีโอกาสได้เป็นเจ้าของรถของตนเอง ด้วยมาตรการทางภาษีและการเงิน ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง
(6) ปรับเปลี่ยนวิธีสัมพันธ์กับนานาประเทศ เนื่องจากประเทศไทยอยู่บนทำเลที่ตั้ง ที่เป็นชัยภูมิยุทธศาสตร์ที่สำคัญในเชิงการเมืองระหว่างประเทศ จึงเป็นที่หมายปองของประเทศมหาอำนาจ ทั้งฝ่ายตะวันตกและตะวันออก ที่จะเข้ามามีอิทธิพล แทรกแซง หรือแม้กระทั่งยึดครอง
ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย 11
ความพิเศษของประเทศไทยในเชิงภูมิรัฐศาสตร์นี้ ด้านหนึ่งเป็นคุณมหาศาล เพราะสามารถใช้ดึงเงินทอง ธุรกิจ และการลงทุน จากมหาอำนาจทั้งสองฝ่ายได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง หากดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผิดพลาด ดังเช่นในกรณีสนามบินอู่ตะเภา ประเทศไทยก็จะกลายเป็นจุดปะทะ หรือสนามประลองกำลังระหว่างมหาอำนาจ ในการดูแลความสัมพันธ์กับมหาอำนาจนี้ ควรใช้วิธีการถ่วงดุลอำนาจ ตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้ ในช่วงยุคล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก
ส่วนทางด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางและทัศนคติในการดำรงอยู่ร่วมกันเสียใหม่ โดยไม่เน้นทัศนคติชาตินิยม หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางการทหาร หรือการใช้ความรุนแรง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของทั้งประชาชนคนไทยและของประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะมุ่งเน้นความร่วมมือกันฉันท์พี่น้อง พร้อมทั้งสรรค์สร้างโครงการความร่วมมือตามชายแดนกับเพื่อนบ้านอย่างมีมิตรไมตรีต่อกัน
12 ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
(7) วางแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยในระยะยาว ทั้งนี้ สังคมไทยยังมีปัญหาระยะยาวเชิงโครงสร้างอีกหลายประการด้วยกัน ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขเยียวยาให้สำเร็จลุล่วงได้ภายในเวลา 1,000 วัน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประชาชนสามารถริเริ่มการแก้ไขปัญหาระยะยาวเหล่านี้ได้ ด้วยการรวบรวมนักคิด นักวิชาการ ผู้มีความรู้ความสามารถ และผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดตั้งเป็นคณะกรรมการหรือคณะทำงาน พร้อมทั้งมอบหมายให้ศึกษาและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่รัฐบาลให้การสนับสนุนในด้านงบประมาณ บุคลากร และข้อมูล ตลอดจนอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ
ปัญหาระยะยาวในเชิงโครงสร้างดังกล่าวข้างต้น ครอบคลุมหลายด้านหลายสาขาด้วยกัน ตัวอย่างเช่น
7.1 การศึกษา
7.2 สาธารณสุข
7.3 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
7.4 ระบบราชการและรัฐวิสาหกิจ
7.5 ศาสนาและจริยธรรม
(8) นำบ้านเมืองกลับคืนสู่การเลือกตั้ง เมื่อสิ้นสุดภารกิจทั้ง 7 ประการข้างต้นแล้ว ก็ถึงภารกิจสุดท้าย กล่าวคือการนำบ้านเมืองกลับคืนสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง ก่อนที่รัฐบาลประชาชนจะสลายตัวเองลง ภารกิจสุดท้ายนี้ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก คือ
ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย 13
8.1 ออกแบบระบบการเมืองไทยกันใหม่ เพื่อให้กติกาทาง การเมืองสอดคล้องกับโครงสร้างอำนาจที่แท้จริงของสังคมไทย ด้านหนึ่งเป็น โครงสร้างเชิงประชากรและภูมิศาสตร์ ซึ่งสามารถสะท้อนผ่านการเลือกตั้งผู้แทนจากระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็น โครงสร้างเชิงเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งสามารถสะท้อนผ่านกลุ่มบุคคล หน่วยงาน องค์กร สถาบันต่างๆ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญอันหลากหลายของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นในเชิงธุรกิจ วิชาชีพ วัฒนธรรม ศาสนา หรือฐานะทางสังคม โดยเน้นให้แต่ละภาคส่วนได้คัดสรรตัวแทนของตนเองตามสัดส่วนที่ได้กำหนดไว้ แนวทางนี้จะเป็นการผสมผสานและถ่วงดุลอำนาจ เพื่อให้โครงสร้างอำนาจทั้งสองได้แสดงบทบาททางการเมืองของตน อย่างแท้จริง ทั่วถึง และสมดุล
14 ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
8.2 ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ตลอดจนกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทางข้างต้น
8.3 ดำเนินการเลือกตั้งผู้แทนและคัดสรรตัวแทน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแนวทางข้างต้น
ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย 15
ดังนั้น สถาบันสหสวรรษจึงขอเชิญประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ให้หยุดทะเลาะเบาะแว้งระหว่างประชาชนกันเอง และหันหน้ามาจับมือกัน เพื่อร่วมกันรบกับศัตรูตัวจริงของประชาชน ซึ่งก็คือนักการเมืองชั่วและนายทุนการเมืองทั้งสองขั้ว ด้วยการช่วยกันรวบรวมผู้ร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง และญาติสนิทมิตรสหายเพื่อมาร่วมกันชุมนุมประท้วง และเรียกร้องให้รัฐบาลที่บริหารโดยนักการเมืองในปัจจุบันยุติบทบาทเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งจัดตั้ง รัฐบาลประชาชน ให้มาบริหารประเทศแทนเป็นระยะเวลา 1,000 วัน เพื่อทำการ ล้างบ้านล้างเมือง ด้วย ภารกิจชาติ 8 ประการ ข้างต้นให้สำเร็จลุล่วง ตามแนวทาง ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย ที่ได้นำเสนอมา
 



#2 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 09:46

ภารกิจ ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย นี้ ถือได้ว่าเป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของปวงชนชาวไทยทุกผู้ทุกนาม และมีอานิสงส์มาก เพราะจะเป็นการเขียนประวัติศาสตร์การเมืองหน้าใหม่ให้กับประเทศ ด้วยการล้างความเน่าหนอนฟอนเฟะของระบบการเมืองไทย ที่ได้สะสมหมักหมมมาเป็นเวลานานแสนนาน ในขณะเดียวกัน ก็จะช่วยสร้างสรรค์และจรรโลงสังคมที่เป็นธรรม เห็นอกเห็นใจ มั่นคงปลอดภัย รุ่งโรจน์โชติช่วง และอยู่เย็นเป็นสุข ให้กับลูกหลานไทยในอนาคต



#3 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:08

จิตสำนึกของคนไทยยังไม่ก้าวหน้าในเรื่องประชาธิปไตย

ดูได้จากการแจกเงินคนไปร่วมม็อบ แจกเงินซื้อเสียง

ดูได้จากระบบอุปถัมภ์ คนที่ให้เงิน คนที่ช่วยเหลืองานบวช งานแต่ง คือคนดี

ดูได้จากใครดราม่าน่าสงสาร คนนั้น เป็นผู้ถูกกระทำ สมควรเลือก

ดูได้จากใครออกสื่อมาก คนนั้นคือคนดีเป็นที่รู้จัก

ดูได้จากการใช้สิทธิ์ของตนเองเกินขอบเขตจนละเมิดสิทธิืของผู้อื่น

ดูได้จากการเชื่อการชี้นำของสื่อ โพล บุคคลที่มีชื่อเสียงของสังคม

ดูได้จากการโกหกซ้ำๆจนผู้ฟังเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

ดูได้จากการรักพวกพ้อง จนลืมนึกถึงความถูกต้อง

ดูได้จากการรักพวกพ้อง ถูกพวกเดียวกันหลอกซ้ำก็ยอม

ดูได้จากเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง เสียงส่วนน้อยไร้ความหมาย เอาชนะได้ไม่ต้องแคร์

ดูได้จากการโกงได้แต่ทำงาน ทำเงินให้

ดูได้จาก ฉันได้ ประเทศเสีย ไม่เป็นไร

ฯลฯ

 

ล้างบางแล้วเป็นไง

ทุกอย่างรีเซ็ทใหม่

แต่หลังจากนั้น มันก็จะวนกลับวงจรเดิมข้างต้น

ถ้าคนไทยหลายๆๆๆๆๆๆคนยังไม่มีจิตสำนึกในประชาธิปไตยที่ถูกต้อง

 

การยึดทรัพย์นักการเมืองหัวขบวนด้วยวิธีล้างบาง

ก็คล้ายกับวิธีของ คตส

คิดว่าจะไม่มีคนอย่างทักษิณ ที่ไม่ยอมรับและหาทางเอาคืนเชียวหรือ

 

1000 วัน เทียบได้สามปีกว่าๆ

คิดว่าทำได้อย่างที่บรรยายมาทั้งหมดหรือ

หากกลุ่มทุนมีเงิน ไม่ยอมรับกับการยึดทรัพย์

จะมีกลุ่มมวลชนของกลุ่มทุนออกมาเคลื่อนไหว ก่อม็อบ ก่อจราจลไหม

บทเรียนมีในประเทศต่างๆโดยเฉพาะในอาหรับ เอเชียใต้ ถึงการแย่งชิงอำนาจกันหลังการปฏิวัติโดยประชาชน ซึ่งประชาชนเหล่านี้ตืิ่่นรู้ในสิทธิ์ที่ตนเองมี แต่ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ถึงวิถีแห่งระบอบประชาธิปไตย



#4 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:13

ไม่เห็นความเป็นไปได้เลยครับ

 

มันก็จะเป็นการผลัดอำนาจไปให้กับคนอีกคณะนึงเท่านั้น ซึ่งจะชั่วจะเลว จะตรวจสอบกันยังไง



#5 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:13

ไม่เห็นความเป็นไปได้เลยครับ

 

มันก็จะเป็นการผลัดอำนาจไปให้กับคนอีกคณะนึงเท่านั้น ซึ่งจะชั่วจะเลว จะตรวจสอบกันยังไง

ประทานโทษนะครับ เออ แล้วให้บุคคลคณะไหนดีครับ ผมก็มืดแปดด้านเหมือนกัน หรือว่าให้องค์กรระหว่างประเทศเช่น ยูเอ็น ซะเลยดีไหม แบบบอลลีกไทย ที่เอากรรมการมาจากต่างประเทศ ซะเลยเพราะไม่ไว้ใจกรรมการไทย คือไม่รู้จะเอากันอย่างไรดี ปวดหัวเหมือนกัน


  • wat likes this

#6 pop2518

pop2518

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 941 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:28

 

ไม่เห็นความเป็นไปได้เลยครับ

 

มันก็จะเป็นการผลัดอำนาจไปให้กับคนอีกคณะนึงเท่านั้น ซึ่งจะชั่วจะเลว จะตรวจสอบกันยังไง

ประทานโทษนะครับ เออ แล้วให้บุคคลคณะไหนดีครับ ผมก็มืดแปดด้านเหมือนกัน หรือว่าให้องค์กรระหว่างประเทศเช่น ยูเอ็น ซะเลยดีไหม แบบบอลลีกไทย ที่เอากรรมการมาจากต่างประเทศ ซะเลยเพราะไม่ไว้ใจกรรมการไทย คือไม่รู้จะเอากันอย่างไรดี ปวดหัวเหมือนกัน

 

 

กำลังจะถามอยู่เลยครับว่า แล้วใครจะเป็นผู้ดำเนินการ



#7 กรกช

กรกช

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,930 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:29

เหตุผลที่สมควรต้องมีการปฏิรูปประเทศ มีมากมาย 108-1009 แต่ก็เหลือเชื่อที่ยังมีคนไทยส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย

 

ที่จริงนายกรัฐมนตรีเป็นนอมินีนักโทษ แค่เหตุผลนี้เหตุผลเดียว นี้ก็ต้องสะดุ้งตื่นกันได้แล้วว่า การเมืองมันผิดเพี๊ยน มีปัญหา ต้องแก้ไขกันโดยด่วน แต่ก็คิดกันไม่ได้

 

และแถมเมื่อพรรคการเมืองต่างๆมีเจตนาเข้ามาโกงกินบ้านเมือง เมื่อมีโอกาสก็ทำตามเจตนา นั่นคือโกง

เดี๋ยวมีเรื่องโผล่ตรงนั้น เดี๋ยวโผล่ตรงนี้ ลองดูในระยะแค่เดือนนี้พอ กี่เรื่องเข้าไปแล้วเนี่ย ? แล้วประชาชนจะปิดป้องกันยังไงไหว เสียเวลาทำมาหากิน

 

แถมจับได้ไล่ทัน ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องออกมาร่วมชุมนุม เสียเวลาทำมาหากินกันหนักเข้าไปอีก จากที่เศรษฐกิจแย่ๆกันอยู่แล้ว ก็ต้องเดือดร้อนกันเข้าไปอีก

 

 

 

 

 

 



#8 กรกช

กรกช

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,930 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:34

ส่วนที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยชอบตั้งคำถามว่า แล้วใครจะดำเนินการ จะปฏิรูปกันยังไง

ตรงนี้อยู่ที่ปชช.เรียกร้องต้องการก่อน เมื่อปชช.ต้องการ กระบวนการตามการกฏหมายมี ศาลรธน.ไว้ตีความมี

 

และการรวมพลังสามัคคีของคนไทยในการคัดค้านพรบ.ชั่วได้ นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราก็ย่อมรวมพลังเรียกร้องการปฏิรูปประเทศได้



#9 กรกช

กรกช

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,930 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:45

....พรรคการเมืองต่างๆ ยอมลงทุนมากๆ และพยายามทำทุกอย่าง ไม่ว่าดี หรือเลว เพื่อให้ตัวเองเป็นรัฐบาล เพราะต้องการเข้ามาคอร์รัปชั่นแสวงหาผลประโยชน์

ถึงวันนี้ก็คงต้องยอมรับความจริง ว่ามันเป็นอย่างนี้จริงๆ
บ้านเมืองของเราจึงมีแต่พุ่งลงเหว คนไทยถูกบังคับให้มีตัวเลือกอยู่แค่เลวน้อย เลวมาก

เมื่อพรรคการเมืองต่างๆ ล้วนมีเจตนาเข้ามาคอร์รัปชั่นแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ได้มีเจตนาเข้ามาทำงาน เมื่อได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ทำตามเจตนา นั่นคือแสวงหาผลประโยชน์ ปัญหาบ้านเมืองต่างๆจึงไม่ได้รับแก้ไข เพราะนั่นไม่ใช่เจตนาที่แท้จริง

และในการคอร์รัปชั่นของบรรดานักการเมือง ก็ย่อมเป็นสร้างปัญหาต่างๆเพิ่มขึ้นมาให้บ้านเมืองอีก

จากปัญหาเดิมที่มีอยู่แล้วไม่ได้แก้ แถมมีเพิ่มขึ้นมาอีก ปัญหามันจึงสะสม ทับถมขึ้นเรื่อยๆ เป็นดินพอกหางหมู

และมันก็ซ้ำๆซากๆเป็นอย่างนี้มานาน บ้านเมืองของเราจึงพังพินาศแบบนี้

การเมืองเป็นเรื่องของการบริหารบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

แต่การเมืองไทยมันเป็นแค่การตกลงสานผลประโยชน์ส่วนตัว ของบรรดาพวกพ่อค้า นายทุน นักการเมือง

นักการเมืองต้องการคนดี มีคุณธรรมสูง เสียสละ

แต่นักการเมืองไทยส่วนใหญ่ มีแต่พวกพ่อค้า นายทุน ผู้มีอิทธิพล ที่โลภมากเห็นแก่ตัว

รมต.ไม่ได้มาจากความรู้ ไม่ได้มาจากความสามารถ แต่มาจากระบบโควตา มาจากคนของคนนั้น คนนี้ เด็กของคนนั้น คนนี้ จึงทำอะไรกันไม่เป็น แก้ปัญหาไม่เป็น

ดูแค่เรื่องน้ำท่วมปี 54 ก็พอ ว่าสร้างความฉิบายให้บ้านเมืองแค่ไหน

คนโง่ก็เป็นนายกฯได้ ไปไหนก็ขายขี้หน้าเขาทั้งโลก
นักโทษหนีคดี ก็บงการนายกฯได้
พลเรือนก็มาคุมทหารได้
อันธพาลก็มาคุมตำรวจได้
เจ้าพ่อก็มาคุมหมอได้
คนกินป่าก็มาคุมเกษตรได้
คนยุให้เผาบ้านเผาเมืองก็เป็น รมต. ได้
คนที่จาบจ้วง อคติกับสถาบันก็เป็น ส.ส.ได้
กุ๊ยเรียกพ่อบางคนก็มีตำแหน่งทางการเมืองได้

ฯลฯ

นี่มันไม่ใช่แค่ติดกระดุมผิด แต่มันผิดเพี๊ยน กลับตาลปัตรไปหมด มันเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า จาก "เหตุ " เหล่านั้น จะทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร
ภาพของ " ผล " ก็ปรากฎให้คนไทยเห็นกันเต็มตามานาน และแนวโน้มมีแต่ดำดิ่งลงเหวลงทุกวันๆๆ

...การเมืองคือเรื่องของการบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สิ่งผิดเพี๊ยนเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เราก็ต้องยอมรับความจริงกันได้แล้วว่า การเมืองแบบเดิมๆมันมีปัญา

เมื่อมีปัญหาก็ต้องหาทางแก้ ไม่ใช่ไปยอมรับสิ่งที่ผิดเพี๊ยน เพราะนั่นมันคือหนทางที่จะพาบ้านเมืองลงเหว พากันตายหมดยกประเทศ (ยกเว้นพวกนักการเมือง)

วันนี้เป็นโอกาสอันดี ที่พี่น้องคนไทย ได้ตื่นตัวกับกระแสการต่อต้านพรบ.ชั่ว ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของความสามัคคี
แต่ถ้าพลังอำนาจแห่งความสามัคคีของคนไทยครั้งนี้ จะจบอยู่แค่พรบ.ชั่ว ก็คงเป็นที่น่าเสียดาย มันไม่สุดซอย

การเมืองเปลี่ยนขั้ว มันไม่สามารถแก้ไขปัญหาหลักของประเทศได้ เพราะปัญหาประเทศไทย ไม่ใช่แค่ทักษิณ แต่คือ...

" คอร์รัปชั่น "


ถึงระบอบทักษิณจะหมดไป แต่วงจรอุบาทว์ของการเมืองไทย การเมืองโสโครกแห่งการคอร์รัปชั่น ก็จะยังคงอยู่สร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองอยู่ไปเหมือนเดิม
คนไทยต้องรวมใจล้างบ้านเราให้สะอาด ต้องกล้าที่จะเดินไปข้างหน้า อย่าไปยอมจำนนกับคำว่าไม่มีตัวเลือก เพราะไม่อย่างนั้นเราก็ไม่หลุดพ้นจากวังวนเดิมๆ

 

https://www.facebook...&type=1

 



#10 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:52

<_<  เพราะมันไม่เคยมีต้นแบบตั้งแต่มี ปชต. อัปรีย์ดีเอาเข้ามาแต่ชื่อไงขอรับ ต้นแบบกลับเป็นองค์เหนือหัวที่พวกมันเป็นผู้ไปริดรอนท่านเสียเองอีก... คนทุกวันนี้ถึงมองว่ามันเป็นไปไม่ได้... ความรู้คู่คุณธรรม มันห่างหายไปจากสังคมด้วยวิถีทุน ที่มีแต่นายทุน เพื่อนายทุน และของนายทุนที่สุดท้ายคนส่วนใหญ่กลายความรู้สึก, สันดานตนกลับไปเป็น "ขี้ข้า"...

 

-_-  ก็ได้แค่หวังเช่นกันขอรับว่าที่เค้าว่ากันมันเป็นไปไม่ได้นั่น... มันเป็นแค่ความคิดของผู้ที่ไม่คิดจะทำอันใดมากกว่า...
 


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#11 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:05

ถ้าคนเลวยังสามารถเดินเข้ามามีอำนาจด้วยประตูบานเดิม ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีทางไหนแก้ได้



#12 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:09

ข้อความติดกันพรืด อ่านยากมาก

ตอบทีละข้อนะครับ

 

 

วิธีที่ว่านี้ มิใช่เป็นเพียงการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองด้วยการล้มรัฐบาลของพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อให้อีกพรรคหนึ่งขึ้นมาเสวยอำนาจแทน แต่ทว่าจะต้องเป็นการยึดคืนอำนาจของนักการเมืองทั้งหมดจากทุกพรรค กลับคืนสู่มือของประชาชน

 

 

ประชาชนจะเอาอำนาจที่ไหนไปยึดครับ?  อำนาจเดียวของประชาชนที่จะ "พลิกขั้วอำนาจ" คือผ่านการเลือกตั้งล้วนๆ

ถ้าประชาชนใช้อำนาจในมือถูกทาง ถูกต้อง มีสติ ตื่นรู้ เลือกคนดีคนเก่งเข้ามาบริหารบ้านเมือง

เราจะไม่มีวันนี้ ที่คุณต้องมานั่งเขียนว่า "ล้างบางบ้านเมือง" ครับ

 

 

เพื่อจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนอย่างแท้จริง ให้เข้ามาสะสางชำระล้างผลพวงของความโสโครกของการเมืองทั้งระบบจนสำเร็จลุล่วง พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจเสียใหม่ ก่อนที่จะกลับคืนสู่การเลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่ง

 

สิ่งที่คุณเสนอ ไม่มีอะไรใหม่เลย  ทำมาแล้วทั้งนั้น

หลายครั้งด้วย แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย

รัฐบาลสุรยุทธ์ก็มีมาแล้วไงครับ เปลี่ยนอะไรได้?

รัฐบาลอานันท์ก็มีมาแล้วไงครับ เปลี่ยนอะไรได้?

 

ช่วยเสนออะไรใหม่เอี่ยมกว่าเอาของเดิมมารีไซเคิลใหม่ได้ไหม?

 

ถ้าสิ่งใดมีปัญหา ต้องแก้สิ่งนั้น  แก้จนกว่าจะดี

 

 

ถ้าพูดอย่างไม่อ้อมค้อม ก็คือการเข้ายึดอำนาจรัฐนั่นเอง เพียงแต่ครั้งนี้มิใช่เป็นการยึดอำนาจโดยทหารอย่างที่ผ่านมา ทว่าจะเป็นการ ยึดอำนาจโดยประชาชน

 

 

ถามอีกที  เอาอะไรไปยึดครับ?

 

 

ซึ่งหากจะเกิดขึ้นได้ ก็จะต้องมีประชาชนนับแสนนับล้าน ออกมาร่วมกันชุมนุมเรียกร้อง และแสดงเจตน์จำนงที่ชัดเจนว่า ต้องการกำจัดระบบธุรกิจการเมืองที่สูบเลือดกินเนื้อประชาชนอยู่ทุกวี่วัน ให้สิ้นซากไปจากสังคมไทยโดยถาวร ด้วยการให้ยุติบทบาทรัฐบาลของนักการเมืองและ
นายทุนการเมืองเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งจัดตั้ง รัฐบาลประชาชนให้เข้ามาบริหารประเทศแทนเป็นเวลา 1,000 วัน เพื่อปฏิบัติการล้างบ้านล้างเมือง

 

 

โหวตโนแป้กจนทุเรศ  ยังไม่เข็ดอีกหรือครับ? -_- 

 

 

 

ซึ่งประกอบด้วย ภารกิจชาติ 8 ประการดังต่อไปนี้
(1) ยุติบทบาทของพรรคการเมืองทุกพรรคเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งอายัดทรัพย์ของนักการเมืองสำคัญจากทั้งสองขั้วสองข้าง ที่เป็นหัวขบวนของธุรกิจการเมือง ตลอดจนตั้งกรรมการสอบสวน และดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้น หากสืบสวนพบความผิด และสามารถโยงใยถึงทรัพย์สินทั้งหมดหรือบางส่วนก็ให้ยึดทรัพย์ดังกล่าวให้ตกเป็นของแผ่นดิน

 

 

แล้วคตส.นี่มันคืออะไรหรือ?

เสนอไอเดียซ้ำๆนะครับ

ไม่มีอะไรใหม่ :ph34r: 

 

 

2) ล้างบางข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ในปัจจุบันนี้ ข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ได้เข้าสู่ตำแหน่งเพราะความเกี่ยวข้องผูกพัน และเป็นเครื่องมือในการอำนวยผลประโยชน์ ต่อกลุ่มนักการเมืองและนายทุนปล้นชาติ จึงจำเป็นต้องทำการโยกย้ายปรับเปลี่ยนบุคคลเหล่านี้ในลักษณะยกแผง กระบวนการนี้มีความละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดมากมาย ซึ่งจะนำมาขยายความต่อไปในภายหลัง

 

 

ประชาชนเข้าชื่อ เสนอให้แก้กฎหมายข้่าราชการก็ได้  ทำไมแค่จะเลี้ยวยูเทิร์น คุณต้องทุบสะพานทิ้งเลย? :blink:

 

 

(3) ทวงคืนสมบัติของประชาชนให้กับประชาชน ด้วยการตรวจสอบ ทบทวน แก้ไข และอาจถึงยกเลิก สัญญาสัมปทานต่างๆ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ สาธารณูปโภค ตลอดจนธุรกิจผูกขาดอื่นๆ 

 

 

ช่วยศึกษากรณีอาร์เจนติน่า ทวงคืนธุรกิจรัฐที่ถูกขายให้เอกชน กลับมาเป็นของรัฐใหม่

เอามาเปรียบเทียบกันดีกว่า  อย่าพูดลอยๆแบบไม่ได้ศึกษา <_<

 

 

4) ปรับโครงสร้างธุรกิจสำคัญของประเทศ ในระบบเศรษฐกิจไทย มีธุรกิจสำคัญอยู่ 6-7 สาขา ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง แต่ทว่าในปัจจุบัน ธุรกิจเหล่านี้กลับเป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างความร่ำรวยให้กับอภิมหาเศรษฐีไม่กี่ตระกูล จึงจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างธุรกิจเหล่านี้เสียใหม่ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนได้อย่างที่ควรจะเป็น ธุรกิจดังกล่าวนี้ครอบคลุมหลายสาขา

 

 

ที่คุณกำลังแนะนำคือระบอบสังคมนิยมนะครับ :huh:



 

ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย

5.1 ยึดคืนป่าเสื่อมโทรมที่ถูกบุกรุกโดยนายทุน มาปรับเปลี่ยนให้เป็นชุมชนพึ่งตนเอง ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนำเงินบางส่วนที่ได้จากการทวงคืนสมบัติชาติในข้อต้น มาปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ สร้างแอ่งเก็บน้ำ ที่ปลูกพืชผัก ที่เลี้ยงปศุสัตว์ และที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งกันพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อปลูกป่าถาวร โดยว่าจ้างชาวชุมชนเหล่านั้น ให้เป็นทั้งผู้ปลูกและดูแลรักษาป่าดังกล่าว

 

 

เขาก็ทำกันอยู่นี่ครับ ไม่ใช่ไม่เคยทำ :mellow:

 

 

5.2 สร้างตลาดนัดประชาชนจำนวนมาก ทั้งในเขต กทม. และเมืองใหญ่ ด้วยการเปิดพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของรัฐเอง หรือเช่าพื้นที่ของเอกชนที่ใช้เก็งกำไรและยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ แล้วทำถนนหรือทางคนเดินเข้าสู่พื้นที่นั้น หลังจากนั้น นำไฟฟ้า ประปา และส้วมสาธารณะเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าว พร้อมทั้งจัดแบ่งพื้นที่สำหรับทำการค้าขาย โดยให้สิทธิ์ผู้มีภูมิลำเนาใกล้เคียง ที่มีรายได้ต่ำ ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
และยังไม่มีธุรกิจหรือสถานที่ค้าขายของตนเอง สำหรับตลาดนัด
ประชาชนขนาดใหญ่ ยังสามารถขยายผลให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้

 

 

จตุจักรเลยนะนั่น

ตลาดนัดจะเยอะไปไหม  <_<

 

 

 


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#13 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:09

 
ในเวลาเดียวกัน
5.3 สร้างโครงข่ายค้าปลีกของประชาชน ในทำนองเดียวกันกับ “7-eleven” หรือ “Family Mart” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีร้านค้าหรือสถานที่ประกอบการของตนเองอยู่แล้ว สามารถเข้ามาใช้โครงข่ายค้าปลีกนี้ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าแฟรนไชส์ นอกจากนั้นยังสามารถใช้โครงข่ายนี้สำหรับซื้อสินค้าท้องถิ่น/พื้นเมืองจาก10 ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทยทั่วประเทศ ด้วยการควบคุมคุณภาพสินค้าให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โครงข่ายค้าปลีกของประชาชนนี้จะไม่มุ่งเน้นการทำกำไร แต่จะมุ่งลดค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้บริโภค และยังเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายเล็กรายน้อยสามารถนำสินค้าของตนมาจำหน่ายในระดับชาติได้

 

 

ศูนย์ OTOP? :lol:  :lol: 

 

 

5.4 เปิดโอกาสสำหรับอาชีพอิสระในธุรกิจขนส่งสาธารณะ เช่น บริการแท็กซี่ รถตู้โดยสาร มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถโดยสารระหว่างเมือง รวมถึงบริการรับส่งเอกสาร ให้มีโอกาสได้เป็นเจ้าของรถของตนเอง ด้วยมาตรการทางภาษีและการเงิน ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง

 

 

บลาบลาบลา....

 


 

(6) ปรับเปลี่ยนวิธีสัมพันธ์กับนานาประเทศ เนื่องจากประเทศไทยอยู่บนทำเลที่ตั้ง ที่เป็นชัยภูมิยุทธศาสตร์ที่สำคัญในเชิงการเมืองระหว่างประเทศ จึงเป็นที่หมายปองของประเทศมหาอำนาจ ทั้งฝ่ายตะวันตกและตะวันออก ที่จะเข้ามามีอิทธิพล แทรกแซง หรือแม้กระทั่งยึดครอง
ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย 11
ความพิเศษของประเทศไทยในเชิงภูมิรัฐศาสตร์นี้ ด้านหนึ่งเป็นคุณมหาศาล เพราะสามารถใช้ดึงเงินทอง ธุรกิจ และการลงทุน จากมหาอำนาจทั้งสองฝ่ายได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง หากดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผิดพลาด ดังเช่นในกรณีสนามบินอู่ตะเภา ประเทศไทยก็จะกลายเป็นจุดปะทะ หรือสนามประลองกำลังระหว่างมหาอำนาจ ในการดูแลความสัมพันธ์กับมหาอำนาจนี้ ควรใช้วิธีการถ่วงดุลอำนาจ ตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้ ในช่วงยุคล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก

 

 

เก่งมาก น่าจะสมัครเป็นเลขานายกในรัฐบาลประชาชนนะครับ :lol:

 

 

ส่วนทางด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางและทัศนคติในการดำรงอยู่ร่วมกันเสียใหม่ โดยไม่เน้นทัศนคติชาตินิยม หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางการทหาร หรือการใช้ความรุนแรง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของทั้งประชาชนคนไทยและของประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะมุ่งเน้นความร่วมมือกันฉันท์พี่น้อง พร้อมทั้งสรรค์สร้างโครงการความร่วมมือตามชายแดนกับเพื่อนบ้านอย่างมีมิตรไมตรีต่อกัน

 

 

คิดงี้  ถามปานเทวี กับแป๊ะแล้วยัง?

 

 

12 ล้างบางการเมือง ยกเครื่องประเทศไทย
(7) วางแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยในระยะยาว ทั้งนี้ สังคมไทยยังมีปัญหาระยะยาวเชิงโครงสร้างอีกหลายประการด้วยกัน ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขเยียวยาให้สำเร็จลุล่วงได้ภายในเวลา 1,000 วัน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประชาชนสามารถริเริ่มการแก้ไขปัญหาระยะยาวเหล่านี้ได้ ด้วยการรวบรวมนักคิด นักวิชาการ ผู้มีความรู้ความสามารถ และผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดตั้งเป็นคณะกรรมการหรือคณะทำงาน พร้อมทั้งมอบหมายให้ศึกษาและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่รัฐบาลให้การสนับสนุนในด้านงบประมาณ บุคลากร และข้อมูล ตลอดจนอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ

 

 

ชะตากรรม คปค.เป็นไงล่ะ

ปล. ปชป.ทำพิมพ์เขียวประเทศไทยมา 2 ปีแล้วล่ะครับ  ช่วยเสนออะไรใหม่ๆด้วยครับ

 

 

 


ที่เหลือนอกจากนั้น คือ .....บลาบลาบลาบลาบลา..............


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#14 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:25

พอดีคุยกับพี่ที่นับถือกัน แนวทางแกคือ แบ่งเป็นแคว้นแบบ อังกฤษ ประกอบด้วย สกอตแลนด์ เวลล์ ไอร์แลนด์เหนือ และ บริเตน รวมกันเป็น United Kingdom แต่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข มีกองทัพเดียวกัน ใช้เงินสกุลเดียวกัน มีรัฐบาลกลางเดียว แล้วก็มีรัฐบาลท้องถิ่น

อันนี้แกบอกว่า อยากให้แต่ละท้องถิ่นได้เรียนรู้ประชาธิปไตยด้วยตัวเอง เพราะ ประเทศไทยตอนนี้ แนวทางประชาธิปไตยของเสียงส่วนมากในแต่ละท้องถิ่นแต่ละภาคไม่เหมือนกัน คือเสียงส่วนมากในตอนเหนือและอิสานมีเสียงส่วนมากที่อิง ระบบอุปถัมภ์ เงินไม่มากาไม่เป็น พวกทุนนิยมสามานย์เลยชักจูงได้ง่าย อาจจะเพราะความจน อะไรก็แล้วแต่ พวกเค้าคิดกันแบบนี้ การเปลี่ยนความคิดของพวกเขา อาจต้องใช้เวลาเป็น ทศวรรษ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือให้พวกเขาเรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง ในขณะที่ เสียงส่วนมากใน ทางใต้ ภาคกลางตอนล่าง และตะวันออก จะออกแนว ประชาชนไม่พึ่งระบบอุปถัมภ์ เงินมาไม่มาไม่เกี่ยว กลุ่มทุนสามานย์ ชักจูงลำบาก ประเด็นสำคัญคือ สิ่งที่ทำให้กลุ่มทุนสามานย์ต้องการอำนาจในการปกครองประเทศ ก็เพราะ ระบบอำนาจแบบรวมศูนย์ส่วนกลางของประเทศไทย ทุกอย่างต้องผ่านส่วนกลางหมดไม่ว่าจะเป็นระบบภาษี ระบบงบประมาณ ระบบบริหารประเทศ ระบบยุติธรรม รัฐวิสาหกิจต่างๆอ ดังนั้น กลุ่มทุนเลยลงทุนซื้อหรือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อำนาจ เพื่อจะเข้าครอบครองอำนาจ มีอำนาจจัดการงบประมาณ โยกย้ายข้าราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ แล้วก็เอาเงินที่ยักยอกจาก โครงการงบประมาณต่างๆ มาถอนทุนพร้อมเป็นกำไร เพราะเป็นเงินกองกลางของประเทศ ไม่รู้ว่าจากส่วนไหนเท่าใหร่ เลือกตั้งอีกก็ลงทุนอีก หมุนเวียนเป็นวัฏจักร

วิธีแก้ตามแนวทางของแกคือ แบ่งย่อยรัฐบาลท้องถิ่น เก็บภาษีตรงไหนให้ใช้บริหารตรงนั้น แบ่งเปอร์เซ็นต์ส่งให้รัฐบาลกลาง ตามจำนวนที่กำหนด คือให้มันรู้กันไปเลยว่า แนวทางใครจะดูแลประเทศได้ดีกว่ากัน ระหว่างพวกเสื้อแดงกับฝั่งเสรีชน แกสรุปส่งท้ายว่าคนเราพูดให้ตายอธิบายอย่างไรมันก็ไม่ฟัง ต้องให้มันเรียนรู้ด้วยตัวมันเอง มันต้องเห็นโลงศพถึงจะหลั่งน้ำตา ถึงจะสำนึก 



#15 กรกช

กรกช

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,930 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:30

ถ้าคนเลวยังสามารถเดินเข้ามามีอำนาจด้วยประตูบานเดิม ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีทางไหนแก้ได้

 

 

วันนี้ที่มีปัญหา เพราะคนเลวมันเข้ามาง่าย ก็ต้องแก้ไขที่ตรงนั้น

 

ต้องมีการแก้ไขกฏกติกาการเลือกตั้งใหม่ ให้รัดกุมกว่าเดิม เพื่อไม่ให้คนชั่วๆหลุดรอดเข้ามาได้ง่ายๆ

รวมถึงมีการแก้ไขบทลงโทษที่รุนแรงเฉียบขาด และต้องมีบททดสอบความรู้ ความสามารถ ไหวพริบ การตัดสินใจ

บททดสอบคุณธรรม จริยธรรม การตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้สมัคร ส.ส. ฯลฯ



#16 กรกช

กรกช

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,930 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:35

แต่นักการเมืองไม่มีทางแก้กฎหมายเพื่อให้ตัวเองเสียประโยชน์ จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยต้องรวมพลังสามัคคีเรียกร้อง

 

และก็จงโปรดดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในตอนนี้

 

 

วันนี้คนไทยสามารถรวมพลังสามัคคีคัดค้านพรบ.ชั่วได้

 

 

เราก็ย่อมรวมพลังเรียกร้องในสิ่งที่ต้องการได้ !!!
 



#17 กรกช

กรกช

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,930 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:46

อบายมุขทำลายสังคมเต็มบ้านเต็มเมือง จนก่อให่เกิดปัญหาสังคมมากมาย

เยาวชนติดยา ติดเซ็กส์ ลุ่มหลงสังคมฟุ้งเฟ้อ เด็กๆสมัยนี้ก็นิสัยก้าวร้าว รุนแรง โจรผู้ร้ายเต็มบ้านเต็มเมือง

คนไทยแยกแยะผิดชอบไม่ได้ ส่วนหนึ่งจึงถูกหลอกให้กลายเป็นมวลชนสนับสนุนพวกนักการเมืองเลวๆทำร้ายประเทศ

 

ตัวการสำคัญที่ทำลายสังคมคือตำรวจไทย ที่สันดานที่ยิ่งกว่าโจร

 

ถ้าไม่ปฏิรูปประเทศแล้วจะปฏิรูปตำรวจกันได้ยัง จะแก้ไขปัญหาสังคมกันได้ยังไง ?

 



#18 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:26

ประชาธิปไตย ของประเทศไทย นั้น มันเริ่มต้น ด้วย ระบบเผด็จการรัฐประหาร ......

 

แล้วแบบนี้ จะได้ ประชาธิปไตย แบบในฝัน ได้ยังไง...ความพร้อม ความเข้าใจ อะไรๆ ก็ไม่มี.....!!! -_- -_-


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#19 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 06:20

พอดีคุยกับพี่ที่นับถือกัน แนวทางแกคือ แบ่งเป็นแคว้นแบบ อังกฤษ ประกอบด้วย สกอตแลนด์ เวลล์ ไอร์แลนด์เหนือ และ บริเตน รวมกันเป็น United Kingdom แต่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข มีกองทัพเดียวกัน ใช้เงินสกุลเดียวกัน มีรัฐบาลกลางเดียว แล้วก็มีรัฐบาลท้องถิ่น

อันนี้แกบอกว่า อยากให้แต่ละท้องถิ่นได้เรียนรู้ประชาธิปไตยด้วยตัวเอง เพราะ ประเทศไทยตอนนี้ แนวทางประชาธิปไตยของเสียงส่วนมากในแต่ละท้องถิ่นแต่ละภาคไม่เหมือนกัน คือเสียงส่วนมากในตอนเหนือและอิสานมีเสียงส่วนมากที่อิง ระบบอุปถัมภ์ เงินไม่มากาไม่เป็น พวกทุนนิยมสามานย์เลยชักจูงได้ง่าย อาจจะเพราะความจน อะไรก็แล้วแต่ พวกเค้าคิดกันแบบนี้ การเปลี่ยนความคิดของพวกเขา อาจต้องใช้เวลาเป็น ทศวรรษ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือให้พวกเขาเรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง ในขณะที่ เสียงส่วนมากใน ทางใต้ ภาคกลางตอนล่าง และตะวันออก จะออกแนว ประชาชนไม่พึ่งระบบอุปถัมภ์ เงินมาไม่มาไม่เกี่ยว กลุ่มทุนสามานย์ ชักจูงลำบาก ประเด็นสำคัญคือ สิ่งที่ทำให้กลุ่มทุนสามานย์ต้องการอำนาจในการปกครองประเทศ ก็เพราะ ระบบอำนาจแบบรวมศูนย์ส่วนกลางของประเทศไทย ทุกอย่างต้องผ่านส่วนกลางหมดไม่ว่าจะเป็นระบบภาษี ระบบงบประมาณ ระบบบริหารประเทศ ระบบยุติธรรม รัฐวิสาหกิจต่างๆอ ดังนั้น กลุ่มทุนเลยลงทุนซื้อหรือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อำนาจ เพื่อจะเข้าครอบครองอำนาจ มีอำนาจจัดการงบประมาณ โยกย้ายข้าราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ แล้วก็เอาเงินที่ยักยอกจาก โครงการงบประมาณต่างๆ มาถอนทุนพร้อมเป็นกำไร เพราะเป็นเงินกองกลางของประเทศ ไม่รู้ว่าจากส่วนไหนเท่าใหร่ เลือกตั้งอีกก็ลงทุนอีก หมุนเวียนเป็นวัฏจักร

วิธีแก้ตามแนวทางของแกคือ แบ่งย่อยรัฐบาลท้องถิ่น เก็บภาษีตรงไหนให้ใช้บริหารตรงนั้น แบ่งเปอร์เซ็นต์ส่งให้รัฐบาลกลาง ตามจำนวนที่กำหนด คือให้มันรู้กันไปเลยว่า แนวทางใครจะดูแลประเทศได้ดีกว่ากัน ระหว่างพวกเสื้อแดงกับฝั่งเสรีชน แกสรุปส่งท้ายว่าคนเราพูดให้ตายอธิบายอย่างไรมันก็ไม่ฟัง ต้องให้มันเรียนรู้ด้วยตัวมันเอง มันต้องเห็นโลงศพถึงจะหลั่งน้ำตา ถึงจะสำนึก 

 

 

แบบที่คุณว่า คือ "แบ่งแยกการปกครอง" ครับ  ผิดรัฐธรรมนูญ

 

แบบที่ง่ายกว่า ทำได้เลย มีคนทำมาแล้ว คือ "ให้ท้องถิ่นปกครองตัวเอง" แบบญี่ปุ่น

จังหวัดของญี่ปุ่น ลงไปถึงอำเถอ ตำบล จะตัดสินใจเกี่ยวกับท้องถิ่นตัวเองได้เลย รัฐบาลกลางไม่มีอำนาจครับ

มีงบส่วนตัว แยกเป็นเอกเทศ

 

แนวคิดเอาจังหวัดออกจากศูนย์กลางอำนาจรัฐบาลกลาง คุณอภิสิทธิ์คิดแล้วครับ  อยู่ในพิมพ์เขียวประเทศไทย


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#20 Cemeterys

Cemeterys

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 796 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 08:10

จุดอ่อนของสังคมไทยที่ต้องแก้ไข

หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ( วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2544 )
 

ศ.ดร.ลิขิต  ธีรเวคิน
ราชบัณฑิต

ชาตินิยมและความรักชาติคงมีอยู่ด้วยกันแทบทุกคน  แต่ความรักชาติที่แท้จริงจะต้องไม่เป็นการหลงชาติจนไม่สามารถจะมองเห็นจุดอ่อนของประเทศตนเอง  คนที่หลงชาติจะไม่สามารถทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเทศของตนได้   แต่สำหรับบางคนคนที่รักชาติก็คือคนที่คอยตำหนิติชม  วิพากษ์วิจารณ์สังคมของตนเอง  เคยมีการกล่าวว่า  ตราบเท่าที่คนไทยยังวิพากษ์วิจารณ์สังคมของตนเอง  วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและการบริหารราชการแผ่นดินด้วยการแสดงความคิดเห็นในโอกาสต่างๆ  ก็แสดงว่าประเทศยังมีความหวัง  เมื่อใดก็ตามที่คนส่วนใหญ่ปิดปากเงียบและไม่ให้ความเอาใจใส่สังคมไทยต่อไป  นั่นคือจุดอันตรายที่ใหญ่หลวงเพราะเท่ากับว่าในทางจิตวิทยาเป็นการยอมแพ้  ทิ้งบ้านทิ้งแผ่นดิน 

สังคมไทยเป็นสังคมที่มีจุดดีหลายจุดด้วยกัน  และจุดดีดังกล่าวนี้เป็นที่ยอมรับของคนต่างชาติและคนไทยที่มีใจเป็นธรรม  ตัวอย่างเช่น  คนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทเป็นคนที่เป็นมนุษย์  นี่ไม่ใช่เป็นการเล่นคำหรือเล่นสำบัดสำนวน  ที่ว่าเป็นมนุษย์ก็คือเป็นคนที่มีน้ำใจ  มีความเอื้ออารีย์  จิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  ไม่รังเกียจศาสนา  เผ่าพันธุ์และเชื้อชาติ  กล่าวอีกนัยหนึ่ง  คนไทยเป็นมนุษย์ที่น่ารักและงดงาม  มีความสามารถในการรักษาความสัมพันธ์มนุษย์  และความสามัคคีในสังคมระดับหนึ่ง  ที่สำคัญ  คนไทยมีภูมิปัญญาพื้นบ้านที่จะมีความสุขจากชีวิต  มีภูมิปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจนไม่ลามปามไปเป็นความขัดแย้งในระดับสูง แต่ในทางกลับกัน  ก็ต้องยอมรับว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยขาดระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อสังคม  และไม่ค่อยจริงจังในการทำงาน  บางคนก็ขาดความภักดีต่อองค์กรเนื่องจากปัจเจกภาพที่สูง 

ถ้าจะมองจุดลบของสังคมไทยที่ควรพิจารณาแก้ไข  ก็น่าจะมีได้ดังต่อไปนี้
1.  ในทางการเมือง  กระบวนการทางการเมืองของไทยเป็นธุรกิจการเมืองและ
ธนาธิปไตย  ซึ่งน่าจะเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้เกิดความด้อยพัฒนาในทางการเมือง  ธุรกิจการเมืองมุ่งเน้นในการหาผลประโยชน์ทางการเงินโดยการฉ้อราษฎร์บังหลวง  พฤติกรรมดังกล่าวนำไปสู่ปัญหาทางสังคม  ปัญหาทางศีลธรรมและจริยธรรม  ที่สำคัญยังทำลายรากฐานของประชาธิปไตยอีกด้วย  ตราบเท่าที่กระบวนการธุรกิจการเมืองและระบบธนาธิปไตยยังอยู่ในสังคมไทย  การปฏิรูปการเมืองก็คงเกิดขึ้นได้ยาก 

2.  ในทางเศรษฐกิจ  คงจะต้องยอมรับว่ากระบวนการทางการผลิตของสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมเป็นเศรษฐกิจแบบพึ่งพา  คงปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจทุนนิยมของอเมริกาและตะวันตก  ทฤษฎีห่านบินนำซึ่งมีญี่ปุ่นเป็นจ่าฝูงจะทำให้เห็นภาพได้ชัด ประเทศไทยคือห่านตัวเล็กที่บินตามห่านบินนำ  ฉะนั้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและอเมริกาย่อมจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เมื่อเป็นเช่นนี้คำถามที่ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นหรือไม่  ก็ต้องถามต่อว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและอเมริกาจะฟื้นหรือไม่  การพึ่งพาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและอเมริกาทำให้ขาดความอิสระในการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจโดยปลอดจากการเกี่ยวโยงกับสภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและทุนนิยมตะวันตก

3.  การประกอบธุรกิจของสังคมไทย  ยังมีลักษณะเป็นธุรกิจแบบครอบครัวของคนไทยเชื้อสายจีน  การจัดองค์กรและการประกอบธุรกิจดังกล่าวมานี้อาจจะได้ผลในสมัยก่อนเนื่องจากการแข่งขันมีไม่มาก  และนักธุรกิจคนไทยเชื้อสายจีนได้เปรียบในการที่มีความอิสระในการประกอบการค้า  การลงทุนของนักธุรกิจคนไทยเชื้อสายจีนในอดีตจะเกิดจากความรู้สึกและการคาดคะเนด้วยการเสี่ยงในลักษณะของนักการพนันในบางครั้ง  ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง  แต่ในโลกปัจจุบันแตกต่างไปจากเดิม  การประกอบธุรกิจจะต้องเป็นการกระทำแบบมืออาชีพ  ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีข่าวสารข้อมูลครบถ้วนและการวิเคราะห์ข่าวสาร  การคาดคะเนตลาดในอนาคตจะต้องกระทำอย่างชาญฉลาด  มีการวางแผนทั้งรุกและถอย  มีการจัดสัดส่วนของการลงทุน  การออมส่วนตัว  การประกันความเสี่ยง  ซึ่งวิธีการดำเนินธุรกิจแบบเดิมชนิดฮวบฮาบและทุ่มสุดตัวแบบนักการพนันเทหมดทั้งหน้าตัก  จะไม่เหมาะสมที่จะนำมาปฏิบัติได้ในยุคโลกาภิวัตน์นี้ 

4.  ในทางสังคม  ระบบอุปถัมภ์ซึ่งแผ่กระจายไปทั่วในสังคมไทย  เป็นปัญหาและอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการพัฒนาในด้านต่างๆ  โดยทั่วๆ ไปคนในสังคมไทยจะมีความเกี่ยวพันเกี่ยวโยงกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  กล่าวได้ว่า  เกือบจะทุกคนจะต้องเป็นสมาชิกของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งซึ่งมีผู้อุปถัมภ์คอยดูแล  คนซึ่งอยู่โดดเดี่ยวจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้  จะต้องมีพรรคพวกเพื่อนฝูง  และต้องมีเส้นสาย  มีเจ้านาย  นี่คือสัจธรรมของชีวิตในสังคมไทย  ผลที่ตามมาก็คือ ในระบบราชการก็ดี  ในวงการเมืองก็ดี  ในวงการธุรกิจก็ดี  ระบบอุปถัมภ์จะมีอยู่ทั่วไป  ในระบบราชการจะมีกลุ่มของรองอธิบดีต่างๆ ซึ่งพยายามผลักดันให้รองอธิบดีขึ้นเป็นอธิบดี  ในทางการเมืองก็จะแบ่งเป็นมุ้งหลายมุ้ง หรือกลุ่มหลายกลุ่ม  และในทางธุรกิจก็จะมีลักษณะทำนองเดียวกัน  ระบบอุปถัมภ์นำไปสู่ระบบพรรคพวก  ญาติโกโหติกา  นำไปสู่ผลในทางลบต่อระบบคุณธรรม ความสามารถ  ทำให้ความเสมอภาคต่อหน้ากฎหมายและความยุติธรรมทางสังคมเกิดได้ยาก  นอกเหนือจากนั้นยังนำไปสู่การปฏิบัติที่เรียกว่ามาตรฐานสองชั้น  ถ้าจะพูดให้ถึงที่สุดแล้วระบบอุปถัมภ์คืออุปสรรคต่อการพัฒนาระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย

5.  ในแง่วัฒนธรรม  ต้องยอมรับว่าในหลายส่วนของวัฒนธรรมไทยเป็นเรื่องที่ยอมรับและยังประโยชน์ต่อความสัมพันธ์และการอยู่ร่วมกันในสังคมตามที่ได้กล่าวมาแล้วบางส่วน  แต่ในหลายด้านของวัฒนธรรมจะต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาทางปรับปรุงแก้ไข  ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ  ความเชื่อในเรื่องงมงายอำนาจเหนือธรรมชาติยังมีอยู่ทั่วไปในหมู่ประชาชน  มีการไหว้หัวหลักหัวตอ  สัตว์เลื้อยคลานทั้งๆ ที่เป็นชาวพุทธ  ความเกรงใจจนเกินกว่าเหตุทำให้ไม่กล้าต่อสู้ในหลักการในหลายครั้ง  พฤติกรรมที่เสแสร้งและประจบสอพลอพัฒนาจนกลายเป็นมารยาทในสังคม  ใครที่ไม่รู้จักเสแสร้งก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีมารยาท  ในหลายกรณีหลายรูปแบบมีความสำคัญเหนือเนื้อหา นอกจากนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า  ความรู้สึกเรื่องวินัย  ความรับผิดชอบ  หน้าที่พลเมือง  ความผูกพันต่ออุดมการณ์  ความซื่อสัตย์สุจริต  ความซื่อตรง  จะต้องมีการกล่อมเกลาเรียนรู้ในหมู่ประชาชนต่อไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักการเมือง  ข้าราชการ  รวมตลอดทั้งนักธุรกิจ

ไม่มีสังคมใดสมบูรณ์แบบ  และไม่มีประเทศใดปราศจากความบกพร่อง  แต่ถ้าคนในสังคมต่างปิดตาไม่ยอมรับความจริงก็จะนำไปสู่ความเสียหายได้  ในขณะที่กระบวนการปฏิรูปการเมืองกำลังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง  คนในสังคมจะต้องตรวจสอบข้อสังเกตดังกล่าวมาเบื้องต้น  เพื่อหาทางวางมาตรการบรรเทาหรือหาทางแก้ปัญหา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูประบบการศึกษาจำเป็นจะต้องนำประเด็นดังกล่าวมาเบื้องต้นมาเป็นข้อพิจารณา

................................................................................................................................................................................................................................................................

 

ปฏิรูปกำจัดข้อ 4 ได้ ก็พอใจแย้วท่านกำนัน (ถ้าจะทำ)



#21 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 09:24

 

พอดีคุยกับพี่ที่นับถือกัน แนวทางแกคือ แบ่งเป็นแคว้นแบบ อังกฤษ ประกอบด้วย สกอตแลนด์ เวลล์ ไอร์แลนด์เหนือ และ บริเตน รวมกันเป็น United Kingdom แต่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข มีกองทัพเดียวกัน ใช้เงินสกุลเดียวกัน มีรัฐบาลกลางเดียว แล้วก็มีรัฐบาลท้องถิ่น

อันนี้แกบอกว่า อยากให้แต่ละท้องถิ่นได้เรียนรู้ประชาธิปไตยด้วยตัวเอง เพราะ ประเทศไทยตอนนี้ แนวทางประชาธิปไตยของเสียงส่วนมากในแต่ละท้องถิ่นแต่ละภาคไม่เหมือนกัน คือเสียงส่วนมากในตอนเหนือและอิสานมีเสียงส่วนมากที่อิง ระบบอุปถัมภ์ เงินไม่มากาไม่เป็น พวกทุนนิยมสามานย์เลยชักจูงได้ง่าย อาจจะเพราะความจน อะไรก็แล้วแต่ พวกเค้าคิดกันแบบนี้ การเปลี่ยนความคิดของพวกเขา อาจต้องใช้เวลาเป็น ทศวรรษ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือให้พวกเขาเรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง ในขณะที่ เสียงส่วนมากใน ทางใต้ ภาคกลางตอนล่าง และตะวันออก จะออกแนว ประชาชนไม่พึ่งระบบอุปถัมภ์ เงินมาไม่มาไม่เกี่ยว กลุ่มทุนสามานย์ ชักจูงลำบาก ประเด็นสำคัญคือ สิ่งที่ทำให้กลุ่มทุนสามานย์ต้องการอำนาจในการปกครองประเทศ ก็เพราะ ระบบอำนาจแบบรวมศูนย์ส่วนกลางของประเทศไทย ทุกอย่างต้องผ่านส่วนกลางหมดไม่ว่าจะเป็นระบบภาษี ระบบงบประมาณ ระบบบริหารประเทศ ระบบยุติธรรม รัฐวิสาหกิจต่างๆอ ดังนั้น กลุ่มทุนเลยลงทุนซื้อหรือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อำนาจ เพื่อจะเข้าครอบครองอำนาจ มีอำนาจจัดการงบประมาณ โยกย้ายข้าราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ แล้วก็เอาเงินที่ยักยอกจาก โครงการงบประมาณต่างๆ มาถอนทุนพร้อมเป็นกำไร เพราะเป็นเงินกองกลางของประเทศ ไม่รู้ว่าจากส่วนไหนเท่าใหร่ เลือกตั้งอีกก็ลงทุนอีก หมุนเวียนเป็นวัฏจักร

วิธีแก้ตามแนวทางของแกคือ แบ่งย่อยรัฐบาลท้องถิ่น เก็บภาษีตรงไหนให้ใช้บริหารตรงนั้น แบ่งเปอร์เซ็นต์ส่งให้รัฐบาลกลาง ตามจำนวนที่กำหนด คือให้มันรู้กันไปเลยว่า แนวทางใครจะดูแลประเทศได้ดีกว่ากัน ระหว่างพวกเสื้อแดงกับฝั่งเสรีชน แกสรุปส่งท้ายว่าคนเราพูดให้ตายอธิบายอย่างไรมันก็ไม่ฟัง ต้องให้มันเรียนรู้ด้วยตัวมันเอง มันต้องเห็นโลงศพถึงจะหลั่งน้ำตา ถึงจะสำนึก 

 

 

แบบที่คุณว่า คือ "แบ่งแยกการปกครอง" ครับ  ผิดรัฐธรรมนูญ

 

แบบที่ง่ายกว่า ทำได้เลย มีคนทำมาแล้ว คือ "ให้ท้องถิ่นปกครองตัวเอง" แบบญี่ปุ่น

จังหวัดของญี่ปุ่น ลงไปถึงอำเถอ ตำบล จะตัดสินใจเกี่ยวกับท้องถิ่นตัวเองได้เลย รัฐบาลกลางไม่มีอำนาจครับ

มีงบส่วนตัว แยกเป็นเอกเทศ

 

แนวคิดเอาจังหวัดออกจากศูนย์กลางอำนาจรัฐบาลกลาง คุณอภิสิทธิ์คิดแล้วครับ  อยู่ในพิมพ์เขียวประเทศไทย

 

แนวนี้ พอจะปรับใช้ตามแนวทาง "จังหวัดดูแลตนเอง" ตามที่ อ.จำรัส สุวรรณมาลา เสนอไว้แล้ว มั๊ยครับ ตามแนวจังหวัดจัดการตนเองน่าจะปรับใช้กับ ประเทศเราได้โดยไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่ขอเพิ่มเรื่องภาษีและงบประมาณ ขอให้เน้นที่จะทำอย่างไรให้ผู้ใช้ และประชาชนในท้องถิ่น ได้มีจิตสำนึกว่ามันเป็นเงินของเราของพ่อแม่เราที่เสียภาษีมาจะได้ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ถ้าเป็นไปได้ เอาระบบ เก็บภาษีจังหวัดไหนก็ให้หักใช้ในจังหวัดนั้นตามแต่จะกำหนด เหลือค่อยส่งรัฐบาลกลาง จังหวัดไหนไม่พอก็ให้ทำเรื่องกู้จากรัฐบาลกลางเสียดอกเบี้ย ทุกจังหวัดต้องมีการแสดงงบดุลการใช้จ่ายโดยเปิดเผย ที่หน้าศาลากลาง และ เวปไซต์ โครงการทุกโครงการต้องเปิดเผยตรวจสอบได้ สุดท้ายให้มีองค์กรเอกชนเข้ามาช่วยปราบคอรัปชั่น อาจใช้วิธิล่อซื้อแบบ ยาเสพติด กำหนดระยะเวลาการทำคดีของ ปปช.ให้มันรวดเร็ว ทันใจกว่านี้



#22 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 09:52

ผมนึกถึง อบต.แฮะ  :)

 

แต่อบต.บ้านเราถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงครับ กลายเป็นฐานอำนาจให้นักการเมืองเพื่อไต่ขึ้นไปสู่ระดับชาติ

 

ฟังดูแนวทางเหมือนเป็นหลักทฤษฎีครับ ทำจริงยาก ยิ่งการเริ่มตันที่ยุติบทบาทพรรคการเมือง แล้วสภายังมีไหม ฝ่ายบริหารฯทำงานได้ไหม

 

ผมจำได้ว่าช่วงที่ท่านอานันท์ถูกเชิญเป็นนายกฯ ถูกสื่อมวลชนบางกลุ่มโจมตี ว่าบริหารประเทศโดยไม่มีฝ่ายค้าน ออกกฏหมายเร็วที่สุดในโลก

 

จำนวนหลายร้อยฉบับ ฯลฯ แนวคิดแบบนี้ไม่ควรเริ่มในระดับใหญ่ครับ หากทำควรทำโครงการนำร่องในองค์กรเล็กๆแล้วศึกษาข้อดีข้อเสียจะดีกว่า 


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#23 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:16

ที่ว่ามา ไม่ใช่การปฏิรูป แต่เป็นการปฏิวัติ
นักการเมือง ถ้าประชาชนไม่เลือกเข้าไป มันจะทำอะไรได้
ที่ต้องแก้คือประชาชนคนที่เลือก ต้องปฏิวัติความคิด
ว่าเราเลือกตัวแทน ไม่ใช่เลือกนายหรือเลือกคนช่วยเหลือ
ส่วนการทุจริตก็มี ปปช ลุยอยู่ ถ้าคิดว่าช้าอืดอาดก็แก้ตรงนั้น
ไม่ใช่เอะอะก็ล้มกระดานตั้งหมากแบบที่ตัวเองพอใจ มันไม่ได้หรอก
" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#24 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:26

วันนี้เปิดผ่านๆ ได้ยิน ASTV ยังตะโกนให้ ปชป. ลาออกมา

อย่าร่วมสังฆกรรมกับ สส.312 ที่โดนตัดสินว่าไม่ชอบด้วย

รธน. ในการลงมติอัปยศ

 

ผมก็ว่า กระทู้นี้ก็ไม่ต่างกัน อ้าง "ปฏิวัติ-ปฏิรูป" ก็ไม่พ้นต้อง

การให้ ปชป. ลาออกมา แล้วให้พวกแม้วมันปู้ยี่ปู้ยำประเทศต่อไป

 

 

จะไปขัดไม่ให้นักการเมือง "ชั่ว" เข้าสภา โดยการไม่เลือก

ก็มีคนอีกเป็น สิบล้านที่เลือกพวกนี้ แล้วมันจะทำอะไรได้

จะเปลี่ยนกฏเกณฑ์ ไม่มีเสียงใน "สภา" แล้วจะเปลี่ยนยังไง

สรุปก็วนเวียน ให้ ปชป. ลาออกอย่างเดียว

 

กระทู้เศษซากของสาวกแป๊ะลิ้ม ที่โดนขบวนการประชาชน

ทอดทิ้งไปแล้ว ออกมาเรียกร้องขัดแข้งขัดขาคนอื่นเหมือนเดิม



#25 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:39

ผมเห็นด้วยว่าควรมีการล้างบาง ปฏิรูปประเทศไทย

 

แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทันที....

 

ถ้าเรายังพูดกันทั้งประเทศ ว่า เป็นประชาธิปไตย มันก็ต้องใช้วิธีแบบประชาธิปไตย เพราะไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก

 

ถ้าเรายังคิดว่า จะทำกันทันที ก็มีวิธีเดียวคือ ปฏิวัติ มันก็ไม่สามารถพูดได้ว่า เป็นประเทศประชาธิปไตย

 

ทุกฝ่าย ไม่ว่า นักการเมือง ภาคประชาชน กองทัพประชาชน เสื้อแดง กับ อีกหลายสี ใช้คำเดียวกันหมดคือ ประชาชนต้องเป็นใหญ่

 

นั่นคือระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงต้องมีการเลือกตั้ง ต้องมีการตรวจสอบ ต้องมีการถ่วงดุลย์อำนาจ

 

กระบวนการปฏิรูปประเทศ ต้องมองในภาพรวม ต้องใช้เวลา ค่อยเป็นค่อยไป

 

ประชาชน ต้องมีความรู้พอที่จะไม่ต้องถูกจูงไปเลือกตั้ง ไม่ใช่เชื่อทุกเรื่องที่นักการเมืองพูด แต่รู้จักไตร่ตรองด้วยตัวเอง

 

ไม่ต้องพึ่งนโยบายรัฐ ต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเอง แทนที่จะต้องรอความช่วยเหลือจากรัฐ

 

หากใจร้อนด่วนได้....ปฏิรูปไป ก็ไม่ได้มีผลอะไร..ในที่สุด ก็มีคนมาเอาประโยชน์จากการปฏิรูปอยู่ดี

 

ผมไม่เห็นด้วยกับลุงจำลอง เรื่องการขอพระราชทาน สภา 99 คน อะไรนั่น

 

 

 

:D



#26 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:00

วันนี้เปิดผ่านๆ ได้ยิน ASTV ยังตะโกนให้ ปชป. ลาออกมา

อย่าร่วมสังฆกรรมกับ สส.312 ที่โดนตัดสินว่าไม่ชอบด้วย

รธน. ในการลงมติอัปยศ

 

ผมก็ว่า กระทู้นี้ก็ไม่ต่างกัน อ้าง "ปฏิวัติ-ปฏิรูป" ก็ไม่พ้นต้อง

การให้ ปชป. ลาออกมา แล้วให้พวกแม้วมันปู้ยี่ปู้ยำประเทศต่อไป

 

 

จะไปขัดไม่ให้นักการเมือง "ชั่ว" เข้าสภา โดยการไม่เลือก

ก็มีคนอีกเป็น สิบล้านที่เลือกพวกนี้ แล้วมันจะทำอะไรได้

จะเปลี่ยนกฏเกณฑ์ ไม่มีเสียงใน "สภา" แล้วจะเปลี่ยนยังไง

สรุปก็วนเวียน ให้ ปชป. ลาออกอย่างเดียว

 

กระทู้เศษซากของสาวกแป๊ะลิ้ม ที่โดนขบวนการประชาชน

ทอดทิ้งไปแล้ว ออกมาเรียกร้องขัดแข้งขัดขาคนอื่นเหมือนเดิม

ขอชี้แจงนะครับ เรื่อง การให้ สส. ปชป ลาออก ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้นี้ ส่วนตัวผม จะลาออกไม่ลาออกไม่สำคัญ ขอให้สู้เต็มที่ และในข้อกล่าวหาว่าเป็นกระทู้เศษซากของแป๊ะลิ้ม เนี่ย ถือว่าดูถูกกันอย่างร้ายแรง

จุดประสงค์ของกระทู้คือการร่วมกันถกกันหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ไม่ใช่ว่าผมเห็นด้วยกับ ดร.วุฒิพงศ์ ไปทุกอย่าง แต่จากการที่เคยได้รับรู้และสัมผัสในบางสิ่งที่แกทำ ผมเห็นว่าแกจริงใจกับประเทศพอสมควร ส่วนการจะเห็นด้วยกับแนวทางของแกก็ว่ากันไปตามความคิดของแต่ละคน  

ที่สำคัญการให้เกียรติคนอื่น ก็เป็นสิ่งที่ควรจะคำนึงถึงในระบอบประชาธิปไตย นะครับ






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน