"บกพร่องโดยสุจริต" วาทกรรมสั้นๆ ง่ายๆ ในการปกปิดทรัพย์สินของตนเองเมื่อปี 2544 ของ ทักษิณ ชินวัตร
ณ ตอนนั้น คงไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่าคำพูดธรรมดาๆเช่นนี้ จะสามารถสั่นคลอนสังคมไทย
ในการยึดมั่นกับความซื่อสัตย์สุจริตว่าเป็นสิ่งดีงามได้มากเพียงนี้
จาก "บกพร่องโดยสุจริต" จนกลายเป็น "โกงแต่ทำงาน"
และกลายเป็น "เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง"
นี่ยังไม่นับรวมวาทกรรมบิดเบือนความผิดรายทาง
อย่าง "ทำกับข้าวถูกปลด" หรือ "เมียเซ็นผัวติดคุก"
ทุกอย่างที่เป็นความผิดบาป เสื้อแดงพร้อมจะสร้างวาทกรรม กลับผิดเป็นถูกได้เสมอ
หากมันจะสนับสนุนระบอบทักษิณของพวกเขาได้
ทักษิณ ได้เปลี่ยนประเทศไทย
จากประชาธิปไตย คือการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
กลายเป็น ประชาธิปไตย คือการปกครองของเสียงส่วนใหญ่
โดยเงินภาษีคนทั้งประเทศ เพื่อทักษิณคนเดียว
ทุกท่านที่ร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตั้งแต่ต้น คงจะรับทราบได้กับตัวเองแล้วว่า
คนคนนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จะไม่สนใจเลยว่าวิธีการนั้นจะดีหรือชั่วช้าอย่างไร
นับมาตั้งแต่ ควบรวมพรรคความหวังใหม่ ยุบสภาหาความชอบธรรมให้ตัวเอง
หนีคำตัดสินของศาลฎีกา สนับสนุนเสื้อแดงก่อการจลาจล
นำกองโจรชุดดำเข้ามาในเมืองหลวง โจมตีเจ้าหน้าที่และประชาชน
เผาบ้านเผาเมือง ทั้งในกรุงเทพและศาลากลางในต่างจังหวัด
ยังไม่รวมคดีทุจริต ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ตัวเอง ทั้งภาษีสรรพสามิต
หนีภาษี ออกกฎหมายเอื้อขายหุ้นชิน และอีกต่างๆ นานา
และสุดท้าย พยายามออกกฎหมาย ยกเลิกความผิดของตนเองและพวกทั้งหมดที่ได้ทำมา!
ความอดทนของคนย่อมมีขีดจำกัด คำว่าเสียงส่วนใหญ่จะมีความหมายอะไร
ถ้ามันไม่สามารถอำนวยความรู้สึกแห่งความยุติธรรมและความดีงามให้กับประชาชนได้
คุณจะบอกว่า มีเสียงส่วนใหญ่ แล้วจะตบหน้าตบหัวประชาชนยังไงก็ได้งั้นหรือ
มีเสียงส่วนใหญ่ ก็สามารถปฏิเสธอำนาจศาล ไม่ยอมรับคำตัดสินได้หรือ
แบบนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตยดอก
นี่คือระบอบทักษิณ ที่ทักษิณสร้างขึ้นมา ด้วยเงินจำนวนมหาศาลของเขา
ระบอบที่ไม่สนใจดีชั่ว ระบอบที่ยึดติดกับอำนาจแต่เพียงอย่างเดียว
และ มันกำลังจะจบลง ในไม่ช้า
ระบอบทักษิณ ที่ดูยิ่งใหญ่ แต่แท้จริงไม่ต่างอะไรกับฟองสบู่
เมื่อขยายถึงจุดหนึ่งแล้วก็จะต้องแตกออกอย่างเลี่ยงไม่ได้
เพราะเนื้อในของระบอบทักษิณ ไม่มีพื้นฐานหรือเนื้อหาสาระอะไร
ฟองสบู่โป่งพอง ที่ไม่มีความดี ไม่มีความเจริญ ความศิวิไลซ์ ไม่มีเหตุมีผล
ฟองสบู่กลวงที่มีแต่การใช้เสียงส่วนใหญ่แทนที่การใช้ตรรกะอย่างมีอารยะ
ใช้วิธีกดผู้เห็นต่างด้วยการบอกว่าตัวเองมีพวกมาก
ทำตัวเป็นอันธพาลเพื่อให้ผู้อื่นเกรงกลัว
ร่างพรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย ยกเลิกความผิดตัวเอง
เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ก่อนที่ฟองสบู่นี้จะแตกออกดังเป็นเสียงนกหวีดไปทั่วประเทศ
เป็นจุดเริ่มต้นแห่งจุดจบ ของระบอบทักษิณ
ทุกท่านครับ เป็นการยากที่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะไม่มีความวุ่นวาย
โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นิยมแนวทางใช้อาวุธจัดการฝ่ายตรงข้าม
ถึงแม้สุเทพจะบอกว่าพรุ่งนี้จบ แต่ในความเป็นจริงแทบเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น ท่ามกลางความสับสน อย่าลืมว่า เรายึดถือสิ่งใด
เราไม่ได้มาฆ่ามาทำร้ายใคร หน้าที่ของเรา คือปลดปล่อยคนไทยและประเทศไทย
จากความเป็นทาสของทักษิณและตระกูลชินวัตร
ที่ผ่านมา ทักษิณ อาจจะเลือกได้ว่า จะเล่นเกมอะไร
แต่วันนี้ ทางเลือกของทักษิณ มีแค่ว่า จะเลือกจบแบบไหน
จะจบแบบผู้สำนึกผิด หรือจะจบแบบทรราชที่โลกต้องจารึก ทักษิณต้องเลือกเอง
ขอให้ทุกท่านโชคดี และโปรดรักษาตัวด้วยครับ