คำทำนายดวงเมืองปี พ.ศ.2556
ปีพ.ศ. 2556 เป็นปีมะเส็ง มีดิถีบนเป็นธาตุน้ำ ดิถีล่างเป็นธาตุไฟ ปีนี้คงต้องเรียกว่าเป็นปี...”งูไฟ พ่นพิษ”...ซึ่งเป็นงูพิษที่มีพิษสงร้ายแรงมากสำหรับประเทศไทยในขณะนี้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศจึงไม่ควรประมาทเป็นอย่างยิ่งทั้งเรื่อง...“ภัยทางการเมือง”....”ภัยทางเศรษฐกิจ”....”ภัยทางธรรมชาติ”.... ระวังไฟไหม้บ่อยมาก...แต่ละเรื่องล้วนน่าเป็นห่วงทั้งสิ้นเฉพาะเรื่อง“ภัยทางการเมือง”เพียงเรื่องเดียวก็สามารถทำให้บ้านเมืองต้องพบกับ...”ความหายนะ”...ทั้งทางเศรษฐกิจรวมไปถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน......
ประชาชนจำนวนมากเริ่มจะไม่พอใจกับผลงานของรัฐบาลนี้ ทั้งเรื่องการทุจริต-คอร์รัปชั่นจากโครงการต่างๆของรัฐบาลชุดนี้ปรากฏออกมาให้ประชาชนเห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆเป็นต้นว่าเรื่องการทุจริตรับจำนำข้าวและอื่นๆ รวมทั้งเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีหลายคนที่ไม่มีฝีมือการบริหารประเทศรวมไปถึงการตบรางวัลให้บรรดาแกนนำคนเสื้อแดง หลายคนให้มานั่งเป็นที่ปรึกษา รมต.กินเงินเดือนภาษีประชาชนทั้งประเทศ บางคนก็ให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งๆที่ บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นแกนนำพาคนเสื้อแดงมา เผาบ้าน-เผาเมืองทำความเสียหายให้กับประเทศ และเศรษฐกิจของประเทศอีกทั้งหลายคนก็มีคดีติดตัวแทบทุกคน หลายๆอย่างที่รัฐบาลนี้ทำเหมือนกับว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศ “กินหญ้า”เหมือนคนกลุ่มหนึ่งที่รัฐบาลนี้เลี้ยงเอาไว้ใช้งานแม้แต่ตัว“ผู้นำ”ประเทศเองก็อ่อนทั้งปัญญาและประสบการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างยิ่ง ทุกๆเรื่องที่“เขาคนนั้น” เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น.........“เขาคนนั้น”ในขณะนี้ได้รวบอำนาจรัฐทุกอย่างอยู่ในกำมือเบ็ดเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ องค์กรอิสระต่างๆหลายองค์กร ข้าราชการทุกกระทรวง ต่างก็ตกอยู่ในกำมือของ “เขาคนนั้น” เพียงคนเดียว รัฐบาลนี้กล้าทำทุกอย่างตามอำเภอใจ แม้แต่เรื่องที่จ่ายเงินให้กับคนเสื้อแดงที่มาตายเพราะการชุมนุมเผาบ้าน-เผาเมืองคนละ 7.5 ล้านบาททั้งๆที่ไม่มีกฎหมายรองรับในกรณีนี้ เอาเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ มาจ่ายให้กับผู้ก่อการร้ายของประเทศ โดยไม่แยแสต่อความรู้สึกของประชาชนเจ้าของประเทศแต่อย่างไร จากปัญหาต่างๆที่รัฐบาลทำกับประเทศดูเหมือนว่า...
รัฐบาลจงใจที่จะทำให้ประเทศชาติ “ล่มจม”เพราะเป็น“หนี้”รัฐบาลนี้เข้ามาก็เริ่ม “กู้เงิน”จำนวนมหาศาล คล้ายกับว่าอยากทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพ “ล้มละลาย”เหมือนประเทศ กรีซ และประเทศ อาเจนติน่า...”เขาคนนั้น”...ใช้เงินซื้อคนที่มียศ-ตำแหน่งในทางราชการ ซึ่งไม่เพียงขายตัวเท่านั้น คนเหล่านั้นยัง “ขายชาติ”เข้ามาอยู่ภายใต้อุ้งตีนของ “เขาคนนั้น” จำนวนมาก
ณ.เวลานี้ “เขาคนนั้น”ลำพองใจเป็นอย่างมากเพราะอำนาจรัฐทุกอย่างเป็นของเขาคนนั้นคนของรัฐจำนวนมากไปรับใช้ “เขาคนนั้น”เกือบหมดประเทศแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกไม่นานประเทศไทยคงจะกลายเป็น...”ประเทศ ชินจำกัด”...ขอบอกว่าการชุมนุมของประชาชนที่ต้องการขับไล่รัฐบาลชุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดและ “เขาคนนั้น” ก็ไม่กลัวประชาชนที่จะออกมาชุมนุมกุนซือของ “เขาคนนั้น” ได้วางเกมต่างๆดักทางเอาไว้หมดทุกจุดแม้แต่ “ทหาร”ก็ยังไม่กล้าแหยม จะเห็นได้ว่าในระยะปีเศษๆที่ผ่านมา“ทหาร”ถูกเขาคนนั้นจับ“ดองจนไข่เน่า”ถูกจับ ”ตอน” จนง่อยเปลี้ยเสียขาไปเกือบหมดคงต้องพูดว่าในยุคนี้เป็นยุคที่ทหารตกต่ำ“เสื่อม”สุดๆ นายทหารบางคนหันมา“รับจ้าง”ขุดลอกคูคลองเป็นอาชีพหลักนายทหารบางคนขายชาติเป็นอาชีพเสริม“เขาคนนั้น” กุมอำนาจเบ็ดเสร็จทุกอย่างอยู่ในกำมือ......อยากฝากเตือนไปถึงผู้ที่คิดจะจัดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลด้วยว่า ถ้ามีการชุมนุมและมีประชาชนออกมาน้อยกว่าสอง-สามแสนคนคงยากที่จะไปล้มรัฐบาลนี้ได้ นี่คือความจริงที่ทุกคนต้องรู้เอาไว้ บางครั้งนั่งคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในอดีตอยากตระโกนออกมาดังๆว่า “สมน้ำหน้า”ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจในบ้านเมือง รวมไปถึงรัฐบาลยุค นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่ต่างเมินเฉยไม่สนใจใยดีกับสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ของคนเสื้อแดง ปล่อยให้เป็นอิสระเสรี ปล่อยให้แกนนำคนเสื้อแดงปลุกปั่น ล้างสมองคนไทยจำนวนมากจนเข้าถึงกระดูกมาถึงทุกวันนี้ ต้องขอชมว่าแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนมี...”พวงสวรรค์”...ที่ไม่ธรรมดาสามารถพูดความเท็จกลายเป็นความจริง พูดความจริงกลายเป็นความเท็จ เป็นความสามารถพิเศษส่วนบุคคล ของแกนนำคนเสื้อแดงที่พูดให้คนเชื่อจนสนิทใจ ไม่ว่าแกนนำจะพูดอะไรที่เป็นความเท็จ คนที่ฟังยังคล้อยตามทุกเรื่องว่านี่คือ...”ความจริงวันนี้”... จุดนี้แหละที่รัฐบาลยุค นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปล่อยปละละเลยปล่อยให้คนเสื้อแดงซ่องสุมกำลัง เปิดหมู่บ้านคนเสื้อแดงเต็มเกือบทุกพื้นที่ของประเทศไทยทั้งยังสะสมพลังต่างๆจนแข็งแกร่งมาถึงทุกวันนี้อยากให้ทุกคนคิดดูว่า...”มวลชนคนเสื้อแดง”...เฟื่องฟูบานสะพรั่งในยุคที่ใครเป็นรัฐบาล คนไทยบางกลุ่มไม่ยอมรับความจริงมองแต่ฝ่ายตรงข้ามเลวพรรคเดียว แต่ไม่มองว่าพรรคที่ตัวเองชอบคนที่ตัวเองรัก ก็เลวไม่แพ้กัน ที่พูดมานี้ล้วนเป็นความจริง
กาลเวลาผ่านมาถึงวันนี้แล้ว ประเทศไทยจึงเหลือทางเลือกอยู่เพียงสองทางเท่านั้น ทางเลือกที่หนึ่งคือ ประชาชนที่รักประเทศชาติ-บ้านเมืองหากออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลนี้ ถ้ามีคนน้อยกว่า...”สอง-สามแสนคน”...ก็ยากที่ล้มรัฐบาลนี้ได้ และในจำนวน สอง-สามแสนคนที่ว่านี้ต้องพร้อมที่จะอยู่ยาวนับเดือน ไม่ใช่บางวันมามาก บางวันมาน้อยเหมือนประจำเดือนสุภาพสตรี ถ้าไม่อยู่ยาวและคนไม่มากตามที่กล่าวมานี้จะเหนื่อยมากขึ้น...ประชาชนที่ออกมาชุมนุมต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมที่จะรับมือกับการทำศึกสงครามอย่างเต็มรูปแบบถึงจะสามารถเอาชนะรัฐบาลนี้ได้....”ทำได้หรือเปล่า?”...นี่คือคำถาม?..........ทางเลือกที่สองคือ...“ชั่งแม่มัน”...รัฐบาลนี้จะทำอะไรตามอำเภอใจก็...“ชั่งแม่มัน”...ประเทศชาติจะฉิบหาย วอดวาย หายนะ ล่มจม หรือประเทศไทยต้อง...“ล้มละลาย”...ก็...”ชั่งแม่มัน”...ประชาชนทั้งประเทศยอมแบกรับหนี้ ที่รัฐบาลนี้ไป....“กู้เงิน”....จำนวนมหาศาลมาถลุง มาทุจริต-คอร์รัปชั่นก็...”ชั่งแม่มัน”...ประชาชนทั้งประเทศต้องใช้หนี้จนหัวโต ยันไปถึงหลานแหลนก็ยังไม่สามารถใช้หนี้ได้หมดก็...“ชั่งแม่มัน”...นี่คือทางเลือกที่สอง..........
ขอให้ประชาชนคนไทยทั้งชาติเก็บเอาไปคิดและตัดสินใจเองว่าจะเลือกวิธีไหนทั้งสองทางล้วนมีแต่...”ความหายนะ”...รออยู่ทั้งสิ้น ถ้าประชาชนต้องการทางเลือกที่หนึ่งคือ ประชาชนทั้งประเทศต่างพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมาพร้อมๆกัน ออกมาให้เต็มถนนทุกสาย ต้องพร้อมยอมเจ็บและอาจจะถึงตายบ้างเพื่ออนาคตที่สดใสในวันหน้าของลูกหลาน ถ้าเลือกทางนี้เหมือนประชาชนทั้งประเทศเป็น...“หมอผ่าตัด”...ประชาชนทั้งประเทศกำลังลงมือผ่าตัด....“มะเร็งร้าย”...ที่กัดกินแผ่นดินไทยและกัดกินทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยอยู่ทุกวันนี้ถ้าประชาชนทั้งประเทศร่วมมือกัน พร้อมใจกันกำจัด....”มะเร็งร้าย”...ประเทศชาติยังมีความหวังที่จะรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลต่อไปในอนาคต...และต้องทำใจต่อการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก แต่ไม่ใช่เป็นการสูญเสียของประชาชนที่รักชาติรักแผ่นดินแต่ฝ่ายเดียว.....“เขาคนนั้น”..... รวมทั้งเครือญาติคนในตระกูลของ“เขาคนนั้น” ก็จะเสียหายย่อยยับอย่างใหญ่หลวงและคนในตระกูลของ “เขาคนนั้น” มีสิทธิที่จะไม่ได้อยู่ในประเทศเช่นกัน รวมไปถึงบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงและคนเสื้อแดงที่ออกมาปกป้องรัฐบาลก็ต้องบาดเจ็บล้มตายไม่น้อยเลยทีเดียว....................
ถ้าประชาชนที่รักชาติ และ สถาบัน เลือกที่จะเอาวิธีนี้ประเทศไทยจะคงอยู่ยั้งยืนยงตลอดไป (ต้องมีจำนวนคนมากและพร้อมตลอดเวลาที่ชุมนุมตามที่ได้กล่าวมาแล้ว)การออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลของประชาชนในครั้งนี้ มันไม่ง่ายเหมือนทุกครั้งที่เคยชุมนุมขับไล่รัฐบาลชุดก่อนๆที่ผ่านมาเพราะรัฐบาลนี้มีมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมาก พร้อมที่จะออกมาขัดขวางก่อกวนการชุมนุมของฝ่ายตรงข้ามต้องถามประชาชนผู้รักชาติ-บ้านเมืองว่าพร้อมที่จะปะทะกับมวลชนคนเสื้อแดงหรือไม่? เพราะยังไงรัฐบาลนี้ก็ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ.....ถ้าประชาชนทั้งประเทศพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมา....จุดนี้แหละที่จะทำให้เกิด....”จุดเปลี่ยนประเทศไทย”...ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ และ การปฏิรูปการเมืองใหม่........รายการ...”คนชนคน”...สามารถเกิดขึ้นได้ทุกนาที ถ้าเกิดการปะทะกันทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล และฝ่ายที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล จะเป็นไปอย่างดุเดือด เหตุการณ์ความรุนแรงมีสิทธิที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน มกราคม-พฤษภาคม พ.ศ. 2556เป็นเดือนที่น่าจับตามองเป็นพิเศษถ้าช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่เกิดเหตุใดๆ ให้ระวังอีกช่วงหนึ่งคือเดือน กันยายน-ตุลาคม2556.......ปีนี้ประเทศไทยจะบอบช้ำอย่างหนัก มีการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตจากการปะทะกันจำนวนมากเรียกว่า..”ตายเป็นเบือ”..เลยทีเดียว...“เลือดจะนองแผ่นดิน”...คนไทยต้องมาเข่นฆ่ากันเองเพราะนักการเมืองพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าเพราะ“เขาคนนั้น” เพียงคนเดียวที่ทำให้ประเทศชาติ-บ้านเมือง...”ลุกเป็นไฟ”...เหตุการณ์จะลุกลามบานปลายไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ“เขาคนนั้น” มีการเตรียมกองกำลังติดอาวุธเอาไว้มากมาย ในขณะนี้กองกำลังติดอาวุธดังกล่าวได้แอบซุ่มเงียบอยู่แถบๆชานเมืองกรุงเทพฯ และได้กระจายกำลังไปตามจุดต่างๆรอบๆกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้วสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังและให้สังเกตดูว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะเริ่มแตกหัก เมื่อไหร่ วันไหน? ให้ดูสัญญาณจากฝ่ายรัฐบาลคือ....1. ให้จับตาดูว่าคนตระกูลหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการเมือง จะพาครอบครัวเดินทางออกนอกประเทศวันไหน?...2.ในขณะที่มีการชุมนุมของประชาชนที่มาขับไล่รัฐบาล ถ้าเริ่มแรงขึ้นเมื่อไหร่ให้จับตาดูว่า “นายก”มีการเดินทางออกจากประเทศหรือไม่? และได้มอบหมายให้ “รองนายก”คนไหนขึ้นมารับผิดชอบดูแลการชุมนุมของประชาชนแทน“นายก”คนปัจจุบัน หรือ มีการเปลี่ยนตัวแต่งตั้ง “นายก”คนใหม่ขึ้นมาหรือไม่? สิ่งต่างๆเหล่านี้คือสัญญาณอันตรายนั่นหมายถึงรัฐบาลเริ่มลงมือสั่งลุยพร้อมทำ...สงครามกับประชาชน...แบบแตกหักกันไปข้างหนึ่ง
มีทางเดียวที่จะหยุดยั้ง...”สงครามประชาชน”...ได้นั่นคือ ต้องใช้อำนาจ...”ศาล/ปปช”....ที่มีความยุติธรรมเข้ามาจัดการ-ตัดสินความถูก-ผิดของรัฐบาลนี้ถ้า..”ศาล / ปปช...ชี้ว่ารัฐบาลนี้กระทำสิ่งใดที่ผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ หรือมีการทุจริต-คอร์รัปชั่น เช่นนโยบายรับจำนำข้าวเป็นต้นถ้า...”ศาล”...ที่คงไว้ซึ่งความยุติธรรม ตัดสินออกมาว่ารัฐบาลนี้ทำ“ผิด”ในข้อหาอะไรก็ตาม?..”พรรคเพื่อไทย”...คงจะต้องเจ็บปวดเพราะมีสิทธิที่จะถูก...”ยุบพรรคเพื่อไทย”...ซ้ำรอยพรรคไทยรักไทย และ พรรคพลังประชาชน ที่เคยถูกศาลตัดสินยุบพรรคมาก่อน และคนเสื้อแดงคงเจ็บแค้นศาล หากศาลตัดสินยุบพรรคเพื่อไทยหากเป็นไปตามที่กล่าวมานี้ เหตุการณ์ความรุนแรงจะเปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่งเพราะมวลชนคนเสื้อแดงจะหันไปอาระวาดฟาดงวง ฟาดงากับคณะตุลาการซึ่งความรุนแรงก็จะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองตามมาอีกรูปแบบหนึ่ง เพียงแต่ประชาชนที่รักชาติบ้านเมืองที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลไม่ต้องมาปะทะกับมวลชนคนเสื้อแดง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปจัดการกันเองแต่อาจมีประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมาปกป้องคุ้มครองคณะตุลาการซึ่งสามารถนำไปสู่การปะทะกันขึ้นได้เช่นกัน ช้าหรือเร็ว บ้านเมืองก็หลีกไม่พ้น...”ความหายนะ”...ที่รออยู่ข้างหน้าถ้า...”ศาล”..หรือ “ปปช”..รีบเร่งทำงานให้เต็มที่ก็สามารถช่วยไม่ให้เกิด...”สงครามประชาชน”...ขึ้นได้อีกทางหนึ่งประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะได้ไม่ต้องออกมาเผชิญหน้ากับมวลชนคนเสื้อแดง แต่หากว่า...”ศาล”...หรือ“ปปช”.ตัดสินช้าเกินไป ก็หนีไม่พ้นที่ประเทศไทยต้องพบกับ...”ความหายนะ”...ที่รออยู่ข้างหน้าความรุนแรงจะเกิดขึ้นตามมาสถานที่สำคัญหลายแห่งให้ระวังอาจถูกเผาจนวอดวาย ปั๊มน้ำมันต่างๆต้องระวังเป็นพิเศษ คลังน้ำมันต้องเฝ้าระวังให้มากเป็นพิเศษ สถานีผลิตไฟฟ้าอาจจะถูกลอบโจมตีจนเสียหาย แหล่งผลิตน้ำประปาก็ต้องระวังเช่นกัน เสาไฟฟ้าแรงสูงต้องระวังอาจถูกลอบวางระเบิดจึงต้องระวังเอาไว้ให้ดี ประเทศชาติ-บ้านเมืองจะวุ่นวายต่อเนื่องยาวเป็นเดือน ขึ้นอยู่กับการจัดการ การวางแผนงาน และขั้นตอนต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องกับบ้านเมือง ซึ่งไม่สามารถบอกได้ในที่นี้แต่ถ้า...”มาเร็ว-แครมไว”...ความสูญเสียก็จะลดน้อยลงถ้ามาช้ามีโอกาสเป็นไปได้สูงมากที่ประเทศไทยจะเกิด...”สงครามประชาชน”...ขึ้นในประเทศ บ้านเมืองวินาศย่อยยับเป็นแถบๆ...”ความหายนะ”...ครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นทันที หายนะทั้งทางเศรษฐกิจของประเทศชาติและความพินาศย่อยยับของบ้านเมือง บริษัท โรงงาน ร้านค้า ธนาคารต่างต้องปิดตัวลงชั่วคราวหลายแห่ง การท่องเที่ยวพังพินาศย่อยยับทันที สินค้าอุปโภค-บริโภค รวมทั้งน้ำดื่มจะขาดตลาดเพราะผู้คนพากันกักตุนอาหารประชาชนจะหลบภัยไปต่างจังหวัดจำนวนมาก........ ต่างจังหวัดบางจังหวัดเช่นทางภาคเหนือและอีสานบางจังหวัดก็จะมีการลุกฮือของมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในขณะเดียวกันถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่มีความเป็นธรรมกับประชาชนที่ออกมาขับไล่รัฐบาล ทรัพย์สินของทางราชการบางแห่งอาจจะถูกทำลายเพราะความโกธรแค้นของประชาชนถึงตอนนั้นบ้านเมืองเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน มีกฎหมายก็เหมือนไม่มี มีแต่กฎหมู่มาใช้แทนกฎหมาย การจี้ปล้นจะเกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง ร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อจะตกเป็นเป้าของการปล้นจี้ชิงทรัพย์มากที่สุด.....เพลิงจะเผาผลาญลุกไหม้อย่างน่ากลัวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องทำงานอย่างหนัก.......
ปี 2556 ประเทศไทยต้องบอบช้ำพินาศย่อยยับอย่างหนักตั้งแต่มีกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงยังไม่เคยเกิดความรุนแรง มากมายเหมือนปีนี้ ทหารของพระราชาคงทำงานลำบากมากขึ้น เพราะมีทหารที่ทรยศต่อประเทศชาติอยู่มากมาย ถ้าทหารคิดจะทำการใดคงต้องแลกหรือต้องเสี่ยงกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ แต่หากปล่อยไว้อย่างนี้ตลอดไปอีกไม่นานประเทศไทยก็ “หมดสิ้นทุกอย่าง”ไม่มีอะไรเหลือเช่นกัน แล้วแต่จะเลือกเอาว่าจะให้ประเทศไทยพบกับ...”ความหายนะ”...แบบไหน เวลานี้ประชาชนอย่าไปหวังพึ่งทหารมากนัก เพราะแม้แต่ทหารบางคนยังแทบเอาตัวเองไม่รอดเลย ใครคิดว่า ทหาร ไม่กลัวตาย? ใครคิดว่า ทหาร ไม่เอาตัวรอด? ใครคิดว่า ทหาร ไม่ต้องการเงิน?...ยกมือขึ้นถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นจากทุกวันนี้ ......“มีแต่ประชาชนที่รักชาติและสถาบันเท่านั้น”....ที่ต้องร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ออกมาปกป้องชาติและสถาบันที่ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศเทิดทูนเคารพรักยิ่งชีวิต สถาบันจะอยู่ได้อย่างปลอดภัยต้องมี.....“พลังมหาประชาชน”.....กล้าๆลุกฮือขึ้นมาพร้อมกันทั้งประเทศ อย่างไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ไม่อย่างนั้นต่อไป“สถาบัน”ก็จะอยู่อย่างลำบากและจะถูกโดดเดี่ยวในที่สุดถ้าประชาชนไม่พร้อมใจกันทั้งประเทศก็ยากที่จะเอาชนะศัตรูของชาติได้เช่นกัน เพราะศัตรูของชาติมีอำนาจรัฐ มีอาวุธ มีทุกอย่างที่ประชาชนไม่มีและยังมีมวลชนคนเสื้อแดงเป็นเกราะคุ้มภัยรัฐบาลอยู่มากมาย
ทางด้านเศรษฐกิจในประเทศนั้น เศรษฐกิจจะพังพินาศเพราะพิษการเมือง ชาวต่างชาติจะเข็ดขยาดกับประเทศไทยไประยะหนึ่ง พ่อค้าแม่ค้าจะเดือดร้อนอย่างหนักประชาชนจะผจญกับความทุกข์ยากลำบากไปตามๆกัน บวกกับเศรษฐกิจโลกที่หลายประเทศกำลังเผชิญอยู่จะลุกลามมาถึงประเทศไทย การส่งออกจะลดลงอย่างน่าใจหาย โรงงานบางแห่งอาจถึงกับต้องปิดกิจการลง หรืออาจจะต้องลดจำนวนคนงานลง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะซบเซาหลายปี โรงงานผลิตรถต่างๆจะลดการผลิตลงเพราะกำลังซื้อในประเทศจะลดลง ไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา สินค้าหลายชนิดจะขึ้นราคามาซ้ำเติมประชาชน พืชผลการเกษตรหลายชนิดราคาจะตกต่ำราคาน้ำมันในตลาดโลกปีนี้ จะขึ้นไม่มากกว่าปีที่ผ่านมาอาจจะถูกลงกว่าปีก่อนๆด้วยซ้ำ เศรษฐกิจหลายประเทศยังไม่ฟื้นตัว แม้แต่ประเทศอเมริกาก็ยังไม่สามารถคืนชีพทางเศรษฐกิจได้ ประเทศแถบยุโรปยังมีปัญหาในด้านเงินยูโร ประเทศแถบอาหรับจะเกิดสงครามในประเทศประเทศจีนก็ต้องเจอกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การส่งออกในประเทศจีนก็จะลดลงเช่นกันผู้คนจะหันมาเก็งกำไรทองคำ หรือซื้อทองคำเก็บมากขึ้นแต่ราคาทองคำในปีนี้ ราคาจะตกต่ำลงอย่างมาก จึงควรระวังเอาไว้ด้วยคนที่เล่นหุ้นอยู่ขอให้ระวังให้มากเพราะ...ภัยทางการเมือง....จะทำให้หุ้นตกต่ำลงมากเช่นกัน คนที่เล่นหุ้นอยู่ในปีนี้ หูตาต้องไวให้จับตาเรื่องการเมืองเป็นพิเศษ
ภัยธรรมชาติ....ปีพ.ศ.2556นี้ ประเทศไทยยังต้องเจอกับภัยธรรมชาติ บางแห่งฝนจะตกมากอาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ บางแห่งฝนจะน้อยมากจนไม่สามารถเพาะปลูกพืชผลได้ตามต้องการ นับจากปีนี้เป็นต้นไป ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวนไปหมด หลายๆประเทศก็จะเจอเหมือนกัน ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น....ขอให้ระวังฟืนไฟให้มาก ปีนี้จะเกิดเพลิงไหม้หลายแห่ง... ระวัง...”ภัยจากทะเล”...และภัยจากลมพายุที่รุนแรง อาจจะสร้างความเสียหายขึ้นกับบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างต่างๆที่อยู่ใกล้ทะเล สำหรับภัยจากน้ำทะเลนั้น ไม่สามารถที่จะบอกให้แน่ชัดได้ว่า จะเกิดจากแผ่นดินไหวขึ้นในประเทศใกล้บ้านเราแล้วมีผลกระทบมาถึงประเทศไทยหรือไม่ เพราะถ้าเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านของไทย มีสิทธิที่จะเกิด..”สึนามิ”..ขึ้นจนทำความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยต้องเฝ้าระวัง เพราะฉะนั้นจึงขอฝากไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ช่วยดูแลด้วยอย่าประมาทและอย่าชะล่าใจเป็นอันขาดถ้าไม่เกิด สึนามิ ก็อาจจะเป็นพายุที่รุนแรง คล้ายๆพายุเกย์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่ จ.ชุมพร และเคยเกิดขึ้นที่ตะรุเตา จ.สตูลในอดีต อย่าประมาทกับภัยธรรมชาติในปีนี้ ภัยจากแผ่นดินไหวคงยังมีอยู่ อาจจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านของไทย แต่ประเทศไทยจะรู้สึกได้ปีนี้จะมีเรื่องอุบัติเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้นบ่อยมาก คนจะตายกันเยอะมาก โดยเฉพาะเกี่ยวกับทางเครื่องบิน หรือรถไฟ รวมทั้งเรือโดยสาร จึงขอให้ระวังด้วย
สรุป ในปีพ.ศ.2556 นี้ ภัยทางการเมือง มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากไม่ว่าฝ่ายใดจะแพ้หรือชนะก็ตาม ประเทศไทยก็บอบช้ำสาหัส ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน มากกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา....นักการเมืองบางคนต้องหนีออกนอกประเทศแกนนำบางคนต้องสังเวยชีวิตนักการเมืองบางคนหนีต้องหนีหัวซุกหัวซุน บางคนต้องติดคุกถ้าตำรวจทำรุนแรงกับประชาชน ตำรวจจะไม่กล้าใส่เครื่องแบบไประยะหนึ่ง การเลือกตั้งจะหยุดไปอย่างน้อย 3-5 ปี จะมีพรรคการเมืองถูกยุบพรรค... จะมีคนตระกูลหนึ่งเป็นอย่างน้อย จะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย สงครามครั้งนี้คือ...”สงครามครั้งสุดท้าย”....ของจริงอาจกินเวลานานเป็นเดือนเลยทีเดียว กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง...รัฐบาลชุดนี้มีโอกาสที่จะถูกกฎหมายเล่นงาน “นายก”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจต้องถูกดำเนินคดีทางกฏหมาย แต่ให้จับตาดูว่า นายก จะประกาศชิง “ยุบสภา” หรือไม่?...เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว "ทหารต้องออกมา"...เป็นทหารของพระราชาจะมาช่วยประชาชน สุดท้ายประชาชนทั้งประเทศต่างพร้อมใจ...ถวายพระราชอำนาจคืนให้แก่พระมหากษัตริย์...
”นายก”คนต่อไปไม่ได้มาจากพรรคการเมือง...จะมีการปฏิรูปประเทศขนานใหญ่...พร้อมกับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย-รัฐธรรมนูญบางมาตราให้ดีขึ้น/ขอบคุณ และ สวัสดี
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
เขียนเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2555
คำทำนายดวงเมืองปี พ.ศ. 2556เขียนส่งให้นิตยสาร วางแผงจำหน่ายเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2555 ยังไม่เคยนำมาลงในเว็บไซต์ หมอนิด เพิ่งนำมาลงเว็บไซต์ หมอนิด ให้คนทั่วไปได้อ่านบทความนี้
วันที่ 25 พ.ย. 2556ขอบคุณครับ
http://www.mornid.com/home.php