นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศอ.รส. แถลงว่า วันนี้นัดประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 4 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์จัดทำแผนและประสานงาน มีตนเป็นประธาน มีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรณ รมว.มหาดไทย เป็นรองประธาน นอกจากนี้จะมีคณะกรรมการด้านกฎหมาย โดยมีนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรมเป็นประธาน คณะกรรมการดูแลประชาชน มี รมว.มหาดไทยเป็นประธาน และคณะกรรมการด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ มีน.ต.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีทีเป็นประธาน ซึ่งการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ได้มีข้อสรุปหลายประเด็น คือ 1.การดำเนินการของคณะทำงานที่ปฏิบัติงานตั้งแต่ในแตนนี้ ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก อย่างกรณีนายสุเทพเป็นผู้ต้องหากบฏ ดังนั้นผู้สนับสนุนนายสุเทพจะถือว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนผู้ที่เป็นกบฏ ต้องมีความผิดแน่นอนตาม มาตรา114 ต้องมีการใช้ข้อกฎมายให้ชัดเจน ซึ่งได้กำชับ ผบ.ตร.ออกมาหมายจับผู้ให้การสนับสนุน ซึ่งทางดีเอสไอและ ผบ.ตร.คงทยอยออกหมายจับ
เมื่อถามว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมผู้สนับสนุนรายใดบ้าง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จากการหารือ รายแรก คือ สถานีบลูสกายชาเเนล แต่ไม่ใช่เป็นการปิดสถานี เพียงแต่ผู้บริหารบลูสกายนั้นชัดเจนว่าให้ความสนับสนุนนายสุเทพ ผิด มาตรา114 ดังนั้นบลูสกายจะต้องเจอหมายศาลอย่างแน่นอน ส่วนจะมีรายอื่นเข้ามาด้วยหรือไม่ คงต้อรอ จะมีการออกหมายจับเป็นระยะๆ โดยจะเน้นที่แกนนำก่อน สำหรับผู้ชุมนุมจะยังไม่พิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิด แต่จะเริ่มทยอยออกหมายจับ และเมื่อเราออกหมายศาลแล้วมามอบตัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่มามอบตัวเมื่อทุกอย่างจบก็คงต้องติดคุกหัวโต ซึ่งมีโทษจำคุก 3 - 15 ปี ต่างกรรมต่างวาระกันไป
ส่วนกรณีนายสุเทพที่โดนข้อหากบฏ หากมีโอกาสจริงจะจับตัวเลย "ถ้าคุณสุเทพอยู่ที่ไหนที่เราสามารถจับตัวได้ จะจับกุมตัวอย่างแน่นอน เพราะถือว่าเขาเป็นคนที่โดนหมายศาลในข้อหากบฏ เมื่อมีโอกาสต้องจับกุม
ดีครับ ประกาศมาแบบนี้จะได้แตกหักกันไปเลย...แหม่
"มีวันนี้เพราะพี่ให้" ตำรวจแท้ๆ มีโอกาสจับนักโทษหนีคดีดันไม่จับนะครับ