Jump to content


Photo
- - - - -

ปากคำสดๆของพยานซ.ราม 61 สะท้อนตำรวจรู้เห็นเป็นใจให้มือปืนไล่ยิงนศ.ราม


  • Please log in to reply
19 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:30

*
POPULAR

เอ้า นักวิชาการแดงปากดีจะว่าไงครับ

นักกรรมการสิทธิฯหายหัวไปไหนครับ ไม่ออกมาช่วยเลย

ปล่อยให้รามกับปชป.เรียกร้องรัฐเร่งทำคดีกันอยู่แค่นี้???

 

http://www.manager.c...D=9560000151439

 

ย้อนรอย...คืนไล่ฆ่าที่หน้ารามฯ สะท้อนบ้านเมืองกลียุค

ลังกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ก็เกิดเหตุวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน ธาตุแท้ของความเป็นอันธพาลก็ปรากฏให้เห็น เริ่มตั้งแต่ออกมายั่วยุฝ่ายตรงข้าม บงการจ้างเด็กแว้นไล่กระทืบชาวบ้านและนักศึกษาที่แขวนนกหวีดและติดริบบิ้นสัญลักษณ์ธงชาติไทย จนบาดเจ็บหลายคน นอกจากนี้ยังข่มขู่คุกคามผู้ที่ไปออกกำลังกายในการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. โดยถามว่า “มึงเสื้อไหน” สร้างความเอือมระอาไปทั่วย่านรามคำแหง 
       
       กระทั่งสายวันที่ 30 พ.ย. กลุ่มนักศึกษารามคำแหง และชาวบ้านละแวกดังกล่าวที่ทนพฤติกรรมไม่ไหว หลังแดงฮาร์ดคอร์กลุ่มหนึ่งไปลบหลู่สัญลักษณ์ของชาวรามคำแหง จึงรวมตัวชุมนุมกันบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยความรู้สึกโกรธแค้นที่ถูกกระทำมาก่อน เมื่อเจอคนเสื้อแดงที่เดินทางมาชุมนุมที่สนามราชมังคลาฯ ก็เข้าไปไล่ให้ไปชุมนุมที่อื่น จนเกิดการปะทะกันเป็นระยะๆ ได้รับบาดเจ็บไปฝั่งละนิดละหน่อย
       
       ขณะที่ “ตำรวจมะเขือเทศ” กลับเมินเฉย จนชาวบ้านและนักศึกษารามคำแหง ที่พักอาศัยอยู่ละแวกหัวหมาก รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
       
       ขณะที่คำว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หรือตำรวจของประชาชน” ถูกกลืนหายไปจากความทรงจำ เมื่อผู้รักษากฎหมายรู้เห็นเป็นใจกับกองกำลังซึ่งมีรบ.ซ่องโจรอยู่เบื้องหลัง การรวมพลังของประชาชนและนักศึกษารามคำแหง เพื่อตอบโต้กับพวกนิยมความรุนแรงก็เกิดขึ้นโดยปริยาย
       
       เย็นวันนั้น เหตุการณ์วุ่นวายไร้ขื่อแปเกิดขึ้นไปทั่ว ชาวบ้านและนักศึกษาบางส่วนที่ไม่พอใจคนเสื้อแดงก็ได้จับกลุ่มบริเวณหน้าปากซอยรามคำแหง 61 พร้อมทั้งตะโกนขับไล่ให้เสื้อแดงออกไปจากสนามราชมังคลาฯ เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมสุดถ่อยก่อนหน้านี้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลจากกองบัญชาการตำรวจภูภรภาค 1 ประมาณ 20 นาย พร้อมโล่และกระบองคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ด้านทางหน้าทางเข้า การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีการ์ดเสื้อแดงหลายคนซุ่มสังเกตการณ์อยู่หลังแนวตำรวจ ซึ่งห่างกันกับผู้ชุมนุมต่อต้านเสื้อแดงประมาณ 100 เมตร 
       
       ค่ำคืนนั้น...ไฟนีออนบริเวณทางเข้า กกท.ถูกดับสนิท เหมือนมีการเตรียมการบางอย่างไว้ คงมีเพียงแสงไฟสีส้มจากบนถนนรามคำแหงที่ส่องสว่างพอเห็นความเคลื่อนไหวของบางสิ่งได้ 
       
       สองทุ่มกว่าๆ สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ได้ขว้างปาขวด ท่อน ไม้และก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล จนตำรวจต้องถอยไปอยู่แนวเดียวกับการ์ดเสื้อแดง ระหว่างนั้นเสียงพลุ เสียงประทัดยักษ์ถูกปามาจากแนวการ์ดเสื้อแดงและแนวตำรวจ ก่อนเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหนุ่มถูกยิงเข้าราวนมซ้าย กระสุนทะลุหลัง นอนหายใจรวยริน ก่อนที่เพื่อนๆ จะนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้กลุ่มนักศึกษาและชาวบ้านต้องหนีตายเอาชีวิตรอดกันจ้าละหวั่น
       
       ปากซอยรามคำแหง 61 จึงสงบเงียบไปสักพัก แต่พอสามทุ่มกว่าๆ เสียงพลุเสียงปะทัดยักษ์ก็ดังขึ้นอีก จากนั้นเสียงระเบิดปิงปองก็ดังสนั่นหวั่นไหวอีกหลายลูก และเสียงปืนก็ถูกรัวเข้ามาในซอยอีกหลายนัด แล้วก็เงียบไปอีก
       
       ต่อมาเมื่อ 4 ทุ่มกว่าๆ ชาวบ้านคิดว่าเหตุการณ์สงบแล้วจึงพากันออกมาหาข้าวหาปลากินเนื่องจากหน้ารามฯ ร้านค้าได้ปิดไปหลายร้าน เปิดอยู่ไม่กี่ร้านที่อยู่ในซอยรามคำแหง 61 ระหว่างนั้นมีเฮลิคอปเตอร์บินวน 2 ลำ และมีรถบัส 2 ชั้นวิ่งเข้ามาจอดในแนวคนเสื้อแดง จากนั้นเสียงปืนรัวยิงใส่ชาวบ้านที่กำลังนั่งกินข้าวและน้ำชา-กาแฟ อย่างสนั่นหวั่นไหว สลับเสียงระเบิดปิงปองดังกึกก้องเหมือนแดนมิคสัญญี ทำให้ชาวบ้านที่กำลังกินข้าว กินน้ำชาต่างวิ่งหนีตายหาที่หลบซ่อนวิถีกระสุน ระหว่างนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอีกนับไม่ถ้วนจากมือปืนจากแนวการ์ดเสื้อแดงและตำรวจก็ยังดังต่อเนื่องจนถึงรุ่งสางของอีกวัน
       
       กระทั่งตอนเช้า ชาวบ้านเดินไปสำรวจภายในซอย พบว่ารถตู้ถูกยิงจนพรุน ร้านค้าหลายร้านเต็มไปด้วยรูกระสุน และรอยระเบิดปิงปองอีกจำนวนมาก นอกจากนี้มีระเบิดปิงปองที่ไม่ทำงานตกอยู่อีก 1 ลูก สร้างความตระหนกตกใจแก่ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นอย่างมาก
       
       เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนั้นยังอยู่ในความทรงจำของนายนาเซ เจ๊ะระหวัง อายุ 30 ปี เจ้าของร้านน้ำชาแบดีน หน้าปากซอยรามคำแหง 61 ที่รอดชีวิตในค่ำคืนนั้นมาได้ โดยเขาเล่าย้อนถึงเหตุการณ์คืนนั้นว่า ตนและภรรยาเปิดร้านน้ำชาตอนบ่ายโมง แต่ทราบว่ามีเหตุวุ่นวายแถวหน้ารามฯ กระทั่งตอนเย็นก็เห็นวัยรุ่นและนักศึกษามารวมกลุ่มโห่ไล่ตำรวจและการ์ดเสื้อแดงที่อยู่ด้านหน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทั่ง 2 ทุ่มกว่าๆ ก็มีเสียงปะทัดยักษ์และเสียงปืนดังขึ้นมาจากแนวการ์ดเสื้อแดงซึ่งอยู่แนวเดียวกับตำรวจ  ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คนหนึ่งถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย อีกคนถูกยิงเข้าหน้าอกซ้ายทะลุหลัง เพื่อนๆ จึงนำมาปฐมพยาบาลข้างร้านตน ตนเห็นว่าคนเจ็บอาการสาหัสมาก หน้าซีดและชักกระตุกและมาทราบตอนหลังว่าเขาได้เสียชีวิตแล้ว
       
       หลังมีคนเจ็บและคนตายก็ได้ยินเสียงปืนมาจากฝั่งเสื้อแดงเป็นระยะ แล้วเงียบไปอีกสักพัก จากนั้นลูกค้าก็มานั่งกินชากาแฟต่อเพราะเนื่องจากคิดว่าเหตุการณ์สงบแล้ว กระทั่ง 4 ทุ่มกว่าก็มีคนร้ายโยนระเบิดมาจากสะพานยกระดับรามคำแหง ระเบิดมาลงที่ด้านหน้าร้านของตน ทำให้ลูกค้าร้านตนบาดเจ็บ 1 ราย จากนั้นก็มีรถทัวร์คันที่ถูกเผาขับเข้ามาที่แนวการ์ดคนเสื้อแดงและตำรวจ ก่อนที่คนในรถทัวร์และข้างรถทัวร์จะระดมยิงปืนชุดใหญ่เข้าใส่ซอยรามคำแหง 61 อย่างคุ้มคลั่ง ตนกับภรรยา พี่สาว น้องสาว และน้องชายรวมถึงลูกค้าที่เหลืออยู่กว่า 10 คน ต้องหมอบกับพื้นในร้าน เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งน้องชายที่เคยเป็นทหารบอกว่าน่าจะมีอาวุธสงครามรวมอยู่ด้วย
       
       ส่วนการคุกคามชาวบ้านของคนเสื้อแดงตั้งแต่เริ่มชุมนุมนั้น นายนาเซเล่าว่า พวกเสื้อแดงจะใช้เด็กแว้นซิ่งรถกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 คัน ขับตามหาคนที่แขวนนกหวีดและผูกข้อมือธงชาติไทย เมื่อเจอแล้วจะรุมซ้อม ซึ่งลูกชายเจ้าของร้านข้าวหมก และลูกชายช่างตัดเย็บเสื้อผ้าก็ถูกลากไปรุมซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ 
       
       นายนาเซเล่าด้วยว่า ตอนนั้นภรรยาและน้องสาวตกใจมาก พวกเราได้แต่คิดในใจขอให้ตำรวจมาช่วย แต่ก็หมดหวังเพราะมันยิงมาจากแนวเดียวกับตำรวจ แถมตำรวจก็ไม่คิดห้ามปรามเหมือนเปิดทางให้พวกเดียวกัน นอกจากนี้ ระหว่างที่พวกมันยิงก็มีรถสายตรวจมาจอดที่หน้าปากซอยสักพัก ทำให้มันหยุดยิง แต่ตำรวจในรถก็ไม่ยอมลงมา แล้วรีบขับรถออกไป ทำให้พวกมันได้ใจยิงใส่เข้ามาอีกหลายนัด
       
       “เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รู้สึกหวาดกลัวมากที่สุดในชีวิตเหมือนเข้าไปอยู่ในดงสงครามยังไงยังงั้น พวกมันยิงใส่กะว่าจะให้ตายซึ่งดูได้จากรอยกระสุนที่อยู่ระดับหน้าอกและศีรษะ อยากถามพวกมันกลับไปว่า เห็นประชาชนเหมือนกับผักปลา เหมือนของเล่นอย่างนั้นหรือ พวกเราไม่ได้ไปทำอะไรให้มันเจ็บช้ำมาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ผมอยากให้หาคนรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย” เจ้าของร้านน้ำชากล่าวทิ้งท้าย
       
       ด้านนายมะหมูด มิแหละหมัน วัย 30 ปี พ่อค้าลูกชิ้น ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ถูกยิงถล่มในซอยรามคำแหง 61 ย้อนเหตุการณ์เฉียดตายว่า เย็นวันนั้นตนขับรถกระบะจะไปขายของที่ตลาดรถไฟ ศรีนครินทร์ แต่ลืมของไว้ที่ห้องพัก จึงขับกลับมาบนสะพานยกระดับรามคำแหง เห็นรถตู้ตำรวจจอดอยู่บนนั้น 2 คัน มีตำรวจยืนอยู่ 3 นาย เมื่อขับรถลงมาข้างล่างพบว่าถนนถูกปิดหมด ตนจึงเข้าเข้าซอยเทพลีลาแล้วเข้ามาที่ห้องพักซึ่งอยู่ในซอยรามคำแหง 63 สักพักเพื่อมาบอกว่ามีผู้ชุมนุมต่อต้านเสื้อแดงถูกยิงตายที่ปากซอยรามคำแหง 61 จึงเดินไปดูกับเพื่อน ก็เห็นผู้ชุมนุมที่เป็นวัยรุ่นจับกลุ่มกัน ระหว่างที่เดินอยู่หน้าปากซอยรามคำแหง 57 ปรากฏว่าคนร้ายได้โยนระเบิดปิงปองมาจากสะพานยกระดับรามคำแหงจึงวิ่งหนีกลับเข้าห้องพัก
       
       นายมะหมูดเล่าถึงนาทีระทึกใจต่อว่า กระทั่ง 4 ทุ่มกว่าคิดว่าเหตุการณ์สงบแล้วจึงออกมาซื้อข้าวกับเพื่อนในซอยรามคำแหง 61 ระหว่างที่ยืนรอข้าวอยู่นั้นก็มีคนร้ายโยนระเบิดเข้ามาในซอย ถูกชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จากนั้นรถทัวร์คันที่ถูกเผาก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่แนวการ์ดเสื้อแดงและตำรวจ จากนั้นพวกที่อยู่ในรถทัวร์และข้างรถก็ระดมยิงใส่ไม่ยั้ง ตนและชาวบ้านในซอยกว่า 50 ชีวิตต้องวิ่งหาที่หลบคมกระสุนกันอลหม่าน โดยตนไปแอบอยู่หลังรถตู้ ก่อนเข้าไปหลบในห้องน้ำกับอีกหลายชีวิต ซึ่งมีหญิงสาวหน้าตาตื่นตกใจกลัวสุดขีดรวมอยู่ด้วย ระหว่างนั้นชาวบ้านที่อยู่บนคอนโดหัวหมาก สั่งให้พวกเรานั่งนิ่งๆ ในห้องน้ำและให้ปิดไฟ เพราะมันยังระดมยิงเข้าใส่ตลอดเวลา ผ่านไปเกือบ 20 นาที พอเสียงปืนเริ่มซาลงชาวบ้านก็นำบันไดให้เราปีนรั้วออกมาทำให้หนีรอดมาได้
       
       “ผมกลัวมาก คืนนั้นเหมือนบ้านเมืองเราไม่มีกฎหมาย เพราะคนร้ายเอาปืนมาไล่ยิงคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว โดยที่ตำรวจผู้รักษากฎหมายก็เหมือนเปิดทางให้โจรไล่ยิงคน อย่างไรก็ตาม อยากถามว่าทำไมต้องไล่ฆ่ากันอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อะไรเลย ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด” นายมะหมูดกล่าวด้วยสีหน้าที่ยังตื่นตระหนก
       
       เหตุการณ์ไล่ฆ่าที่หน้ารามฯ ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้ว แต่ความหวาดกลัวยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของผู้ที่ผ่านวินาทีความเป็นความตายมาได้ และเสียงถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาลเพื่อไทยที่มาปราศรัยยั่วยุเสื้อแดงให้ก่อเหตุร้าย และตำรวจที่รู้เห็นการไล่ฆ่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ กกท.ผู้ที่อนุญาตให้เสื้อแดงมาซ่องสุมกำลังไล่ฆ่าคน
       
       ...หวังว่าคำตอบนั้นคงไม่หายไปกับสายลม!!


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#2 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:36

เอ้า นักวิชาการแดงปากดีจะว่าไงครับ

นักกรรมการสิทธิฯหายหัวไปไหนครับ ไม่ออกมาช่วยเลย

ปล่อยให้รามกับปชป.เรียกร้องรัฐเร่งทำคดีกันอยู่แค่นี้???

 

http://www.manager.c...D=9560000151439

 

ย้อนรอย...คืนไล่ฆ่าที่หน้ารามฯ สะท้อนบ้านเมืองกลียุค

ลังกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ก็เกิดเหตุวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน ธาตุแท้ของความเป็นอันธพาลก็ปรากฏให้เห็น เริ่มตั้งแต่ออกมายั่วยุฝ่ายตรงข้าม บงการจ้างเด็กแว้นไล่กระทืบชาวบ้านและนักศึกษาที่แขวนนกหวีดและติดริบบิ้นสัญลักษณ์ธงชาติไทย จนบาดเจ็บหลายคน นอกจากนี้ยังข่มขู่คุกคามผู้ที่ไปออกกำลังกายในการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. โดยถามว่า “มึงเสื้อไหน” สร้างความเอือมระอาไปทั่วย่านรามคำแหง 
       
       กระทั่งสายวันที่ 30 พ.ย. กลุ่มนักศึกษารามคำแหง และชาวบ้านละแวกดังกล่าวที่ทนพฤติกรรมไม่ไหว หลังแดงฮาร์ดคอร์กลุ่มหนึ่งไปลบหลู่สัญลักษณ์ของชาวรามคำแหง จึงรวมตัวชุมนุมกันบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยความรู้สึกโกรธแค้นที่ถูกกระทำมาก่อน เมื่อเจอคนเสื้อแดงที่เดินทางมาชุมนุมที่สนามราชมังคลาฯ ก็เข้าไปไล่ให้ไปชุมนุมที่อื่น จนเกิดการปะทะกันเป็นระยะๆ ได้รับบาดเจ็บไปฝั่งละนิดละหน่อย
       
       ขณะที่ “ตำรวจมะเขือเทศ” กลับเมินเฉย จนชาวบ้านและนักศึกษารามคำแหง ที่พักอาศัยอยู่ละแวกหัวหมาก รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
       
       ขณะที่คำว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หรือตำรวจของประชาชน” ถูกกลืนหายไปจากความทรงจำ เมื่อผู้รักษากฎหมายรู้เห็นเป็นใจกับกองกำลังซึ่งมีรบ.ซ่องโจรอยู่เบื้องหลัง การรวมพลังของประชาชนและนักศึกษารามคำแหง เพื่อตอบโต้กับพวกนิยมความรุนแรงก็เกิดขึ้นโดยปริยาย
       
       เย็นวันนั้น เหตุการณ์วุ่นวายไร้ขื่อแปเกิดขึ้นไปทั่ว ชาวบ้านและนักศึกษาบางส่วนที่ไม่พอใจคนเสื้อแดงก็ได้จับกลุ่มบริเวณหน้าปากซอยรามคำแหง 61 พร้อมทั้งตะโกนขับไล่ให้เสื้อแดงออกไปจากสนามราชมังคลาฯ เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมสุดถ่อยก่อนหน้านี้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลจากกองบัญชาการตำรวจภูภรภาค 1 ประมาณ 20 นาย พร้อมโล่และกระบองคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ด้านทางหน้าทางเข้า การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีการ์ดเสื้อแดงหลายคนซุ่มสังเกตการณ์อยู่หลังแนวตำรวจ ซึ่งห่างกันกับผู้ชุมนุมต่อต้านเสื้อแดงประมาณ 100 เมตร 
       
       ค่ำคืนนั้น...ไฟนีออนบริเวณทางเข้า กกท.ถูกดับสนิท เหมือนมีการเตรียมการบางอย่างไว้ คงมีเพียงแสงไฟสีส้มจากบนถนนรามคำแหงที่ส่องสว่างพอเห็นความเคลื่อนไหวของบางสิ่งได้ 
       
       สองทุ่มกว่าๆ สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ได้ขว้างปาขวด ท่อน ไม้และก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล จนตำรวจต้องถอยไปอยู่แนวเดียวกับการ์ดเสื้อแดง ระหว่างนั้นเสียงพลุ เสียงประทัดยักษ์ถูกปามาจากแนวการ์ดเสื้อแดงและแนวตำรวจ ก่อนเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหนุ่มถูกยิงเข้าราวนมซ้าย กระสุนทะลุหลัง นอนหายใจรวยริน ก่อนที่เพื่อนๆ จะนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้กลุ่มนักศึกษาและชาวบ้านต้องหนีตายเอาชีวิตรอดกันจ้าละหวั่น
       
       ปากซอยรามคำแหง 61 จึงสงบเงียบไปสักพัก แต่พอสามทุ่มกว่าๆ เสียงพลุเสียงปะทัดยักษ์ก็ดังขึ้นอีก จากนั้นเสียงระเบิดปิงปองก็ดังสนั่นหวั่นไหวอีกหลายลูก และเสียงปืนก็ถูกรัวเข้ามาในซอยอีกหลายนัด แล้วก็เงียบไปอีก
       
       ต่อมาเมื่อ 4 ทุ่มกว่าๆ ชาวบ้านคิดว่าเหตุการณ์สงบแล้วจึงพากันออกมาหาข้าวหาปลากินเนื่องจากหน้ารามฯ ร้านค้าได้ปิดไปหลายร้าน เปิดอยู่ไม่กี่ร้านที่อยู่ในซอยรามคำแหง 61 ระหว่างนั้นมีเฮลิคอปเตอร์บินวน 2 ลำ และมีรถบัส 2 ชั้นวิ่งเข้ามาจอดในแนวคนเสื้อแดง จากนั้นเสียงปืนรัวยิงใส่ชาวบ้านที่กำลังนั่งกินข้าวและน้ำชา-กาแฟ อย่างสนั่นหวั่นไหว สลับเสียงระเบิดปิงปองดังกึกก้องเหมือนแดนมิคสัญญี ทำให้ชาวบ้านที่กำลังกินข้าว กินน้ำชาต่างวิ่งหนีตายหาที่หลบซ่อนวิถีกระสุน ระหว่างนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอีกนับไม่ถ้วนจากมือปืนจากแนวการ์ดเสื้อแดงและตำรวจก็ยังดังต่อเนื่องจนถึงรุ่งสางของอีกวัน
       
       กระทั่งตอนเช้า ชาวบ้านเดินไปสำรวจภายในซอย พบว่ารถตู้ถูกยิงจนพรุน ร้านค้าหลายร้านเต็มไปด้วยรูกระสุน และรอยระเบิดปิงปองอีกจำนวนมาก นอกจากนี้มีระเบิดปิงปองที่ไม่ทำงานตกอยู่อีก 1 ลูก สร้างความตระหนกตกใจแก่ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นอย่างมาก
       
       เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนั้นยังอยู่ในความทรงจำของนายนาเซ เจ๊ะระหวัง อายุ 30 ปี เจ้าของร้านน้ำชาแบดีน หน้าปากซอยรามคำแหง 61 ที่รอดชีวิตในค่ำคืนนั้นมาได้ โดยเขาเล่าย้อนถึงเหตุการณ์คืนนั้นว่า ตนและภรรยาเปิดร้านน้ำชาตอนบ่ายโมง แต่ทราบว่ามีเหตุวุ่นวายแถวหน้ารามฯ กระทั่งตอนเย็นก็เห็นวัยรุ่นและนักศึกษามารวมกลุ่มโห่ไล่ตำรวจและการ์ดเสื้อแดงที่อยู่ด้านหน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทั่ง 2 ทุ่มกว่าๆ ก็มีเสียงปะทัดยักษ์และเสียงปืนดังขึ้นมาจากแนวการ์ดเสื้อแดงซึ่งอยู่แนวเดียวกับตำรวจ  ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คนหนึ่งถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย อีกคนถูกยิงเข้าหน้าอกซ้ายทะลุหลัง เพื่อนๆ จึงนำมาปฐมพยาบาลข้างร้านตน ตนเห็นว่าคนเจ็บอาการสาหัสมาก หน้าซีดและชักกระตุกและมาทราบตอนหลังว่าเขาได้เสียชีวิตแล้ว
       
       หลังมีคนเจ็บและคนตายก็ได้ยินเสียงปืนมาจากฝั่งเสื้อแดงเป็นระยะ แล้วเงียบไปอีกสักพัก จากนั้นลูกค้าก็มานั่งกินชากาแฟต่อเพราะเนื่องจากคิดว่าเหตุการณ์สงบแล้ว กระทั่ง 4 ทุ่มกว่าก็มีคนร้ายโยนระเบิดมาจากสะพานยกระดับรามคำแหง ระเบิดมาลงที่ด้านหน้าร้านของตน ทำให้ลูกค้าร้านตนบาดเจ็บ 1 ราย จากนั้นก็มีรถทัวร์คันที่ถูกเผาขับเข้ามาที่แนวการ์ดคนเสื้อแดงและตำรวจ ก่อนที่คนในรถทัวร์และข้างรถทัวร์จะระดมยิงปืนชุดใหญ่เข้าใส่ซอยรามคำแหง 61 อย่างคุ้มคลั่ง ตนกับภรรยา พี่สาว น้องสาว และน้องชายรวมถึงลูกค้าที่เหลืออยู่กว่า 10 คน ต้องหมอบกับพื้นในร้าน เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งน้องชายที่เคยเป็นทหารบอกว่าน่าจะมีอาวุธสงครามรวมอยู่ด้วย
       
       ส่วนการคุกคามชาวบ้านของคนเสื้อแดงตั้งแต่เริ่มชุมนุมนั้น นายนาเซเล่าว่า พวกเสื้อแดงจะใช้เด็กแว้นซิ่งรถกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 คัน ขับตามหาคนที่แขวนนกหวีดและผูกข้อมือธงชาติไทย เมื่อเจอแล้วจะรุมซ้อม ซึ่งลูกชายเจ้าของร้านข้าวหมก และลูกชายช่างตัดเย็บเสื้อผ้าก็ถูกลากไปรุมซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ 
       
       นายนาเซเล่าด้วยว่า ตอนนั้นภรรยาและน้องสาวตกใจมาก พวกเราได้แต่คิดในใจขอให้ตำรวจมาช่วย แต่ก็หมดหวังเพราะมันยิงมาจากแนวเดียวกับตำรวจ แถมตำรวจก็ไม่คิดห้ามปรามเหมือนเปิดทางให้พวกเดียวกัน นอกจากนี้ ระหว่างที่พวกมันยิงก็มีรถสายตรวจมาจอดที่หน้าปากซอยสักพัก ทำให้มันหยุดยิง แต่ตำรวจในรถก็ไม่ยอมลงมา แล้วรีบขับรถออกไป ทำให้พวกมันได้ใจยิงใส่เข้ามาอีกหลายนัด
       
       “เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รู้สึกหวาดกลัวมากที่สุดในชีวิตเหมือนเข้าไปอยู่ในดงสงครามยังไงยังงั้น พวกมันยิงใส่กะว่าจะให้ตายซึ่งดูได้จากรอยกระสุนที่อยู่ระดับหน้าอกและศีรษะ อยากถามพวกมันกลับไปว่า เห็นประชาชนเหมือนกับผักปลา เหมือนของเล่นอย่างนั้นหรือ พวกเราไม่ได้ไปทำอะไรให้มันเจ็บช้ำมาก่อนเลย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ผมอยากให้หาคนรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย” เจ้าของร้านน้ำชากล่าวทิ้งท้าย
       
       ด้านนายมะหมูด มิแหละหมัน วัย 30 ปี พ่อค้าลูกชิ้น ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ถูกยิงถล่มในซอยรามคำแหง 61 ย้อนเหตุการณ์เฉียดตายว่า เย็นวันนั้นตนขับรถกระบะจะไปขายของที่ตลาดรถไฟ ศรีนครินทร์ แต่ลืมของไว้ที่ห้องพัก จึงขับกลับมาบนสะพานยกระดับรามคำแหง เห็นรถตู้ตำรวจจอดอยู่บนนั้น 2 คัน มีตำรวจยืนอยู่ 3 นาย เมื่อขับรถลงมาข้างล่างพบว่าถนนถูกปิดหมด ตนจึงเข้าเข้าซอยเทพลีลาแล้วเข้ามาที่ห้องพักซึ่งอยู่ในซอยรามคำแหง 63 สักพักเพื่อมาบอกว่ามีผู้ชุมนุมต่อต้านเสื้อแดงถูกยิงตายที่ปากซอยรามคำแหง 61 จึงเดินไปดูกับเพื่อน ก็เห็นผู้ชุมนุมที่เป็นวัยรุ่นจับกลุ่มกัน ระหว่างที่เดินอยู่หน้าปากซอยรามคำแหง 57 ปรากฏว่าคนร้ายได้โยนระเบิดปิงปองมาจากสะพานยกระดับรามคำแหงจึงวิ่งหนีกลับเข้าห้องพัก
       
       นายมะหมูดเล่าถึงนาทีระทึกใจต่อว่า กระทั่ง 4 ทุ่มกว่าคิดว่าเหตุการณ์สงบแล้วจึงออกมาซื้อข้าวกับเพื่อนในซอยรามคำแหง 61 ระหว่างที่ยืนรอข้าวอยู่นั้นก็มีคนร้ายโยนระเบิดเข้ามาในซอย ถูกชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จากนั้นรถทัวร์คันที่ถูกเผาก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่แนวการ์ดเสื้อแดงและตำรวจ จากนั้นพวกที่อยู่ในรถทัวร์และข้างรถก็ระดมยิงใส่ไม่ยั้ง ตนและชาวบ้านในซอยกว่า 50 ชีวิตต้องวิ่งหาที่หลบคมกระสุนกันอลหม่าน โดยตนไปแอบอยู่หลังรถตู้ ก่อนเข้าไปหลบในห้องน้ำกับอีกหลายชีวิต ซึ่งมีหญิงสาวหน้าตาตื่นตกใจกลัวสุดขีดรวมอยู่ด้วย ระหว่างนั้นชาวบ้านที่อยู่บนคอนโดหัวหมาก สั่งให้พวกเรานั่งนิ่งๆ ในห้องน้ำและให้ปิดไฟ เพราะมันยังระดมยิงเข้าใส่ตลอดเวลา ผ่านไปเกือบ 20 นาที พอเสียงปืนเริ่มซาลงชาวบ้านก็นำบันไดให้เราปีนรั้วออกมาทำให้หนีรอดมาได้
       
       “ผมกลัวมาก คืนนั้นเหมือนบ้านเมืองเราไม่มีกฎหมาย เพราะคนร้ายเอาปืนมาไล่ยิงคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว โดยที่ตำรวจผู้รักษากฎหมายก็เหมือนเปิดทางให้โจรไล่ยิงคน อย่างไรก็ตาม อยากถามว่าทำไมต้องไล่ฆ่ากันอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อะไรเลย ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด” นายมะหมูดกล่าวด้วยสีหน้าที่ยังตื่นตระหนก
       
       เหตุการณ์ไล่ฆ่าที่หน้ารามฯ ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้ว แต่ความหวาดกลัวยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของผู้ที่ผ่านวินาทีความเป็นความตายมาได้ และเสียงถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาลเพื่อไทยที่มาปราศรัยยั่วยุเสื้อแดงให้ก่อเหตุร้าย และตำรวจที่รู้เห็นการไล่ฆ่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ กกท.ผู้ที่อนุญาตให้เสื้อแดงมาซ่องสุมกำลังไล่ฆ่าคน
       
       ...หวังว่าคำตอบนั้นคงไม่หายไปกับสายลม!!

:( :( :angry:


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#3 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:36

3 สมาคมผู้สื่อข่าว นักข่าวฯลฯ ควรเร่งกดดันรัฐบาล ตำรวจให้เร่งตรวจสอบ คลี่คลายเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมด้วย

 

หรือว่า กลุ่มพวกตัวเองไม่เดือดร้อนเลยไม่รู้สึก  :angry:


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#4 uramihci

uramihci

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 904 posts

ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 18:36

เรื่องนี้ไม่ควรปล่อยให้หายไปกับสายลม ต้องหาผู้บงการ ตลอดจนผู้ร่วมขบวนการมารับโทษให้จงได้!!!!



#5 DoctorK

DoctorK

    ช่างท.บ.กิ๊กก๊อก

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,046 posts

ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 18:44

พยานที่ไอ้มาร์ค ไอ้สุเทพ จัดมาทั้งนั้นแหละ เชื่อไม่ได้

เดี๋ยว หลิ่ม เจอ หลักฐาน จินตนาการ ของควายแดง เข้าไป เงิบแน่ๆ

 

:angry:  :angry:  :angry:


รักที่สุดคือพ่อหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักประชาธิปไตยจนเสียสติ

 

หากโพสไหนไม่เหมาะสม MODลบได้เลยนะครับ


#6 Gato & Santa

Gato & Santa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 666 posts

ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:13

กล้องวงจรปิดของ กทม หรือกล้องตามร้านค้า ถ้ามีแถวนั้น จะช่วยคลี่คลาย เรื่องบ้างเรื่องได้ งานนี้จะได้รู้กันว่า ตำรวจ หรือ ตะกวด หรือ นรกแดง ใครมีส่วนร่วมบ้าง

#7 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 21:06

บางเรื่องนักกฎหมายนำมาอ้างอิงได้

เช่นที่ปรากฎทั้งภาพทั้งเสียงบมเวทีควายในวันนั้น

 

พนักงานสอบสวน

ถ้าตั้งใจทำงาน ยากก็ง่ายครับ

รีบทำซะ ก่อนที่ประชาชนต้องมาถามถึงสน.


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#8 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:50

ถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้สลายหายไปไม่มีใครตาม...........ผมว่าเราเตรียมสิ้นชาติในน้ำมือรัฐตำรวจได้เลยครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#9 mongdoodee

mongdoodee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 667 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:08

ถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้สลายหายไปไม่มีใครตาม...........ผมว่าเราเตรียมสิ้นชาติในน้ำมือรัฐตำรวจได้เลยครับ

 

ผมค่อนข้างมั่นใจว่า  เรื่องนี้ จะเงียบหายไป หากรัฐบาลนี้ยังคงอยู่



#10 uramihci

uramihci

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 904 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:18

 

ถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้สลายหายไปไม่มีใครตาม...........ผมว่าเราเตรียมสิ้นชาติในน้ำมือรัฐตำรวจได้เลยครับ

 

ผมค่อนข้างมั่นใจว่า  เรื่องนี้ จะเงียบหายไป หากรัฐบาลนี้ยังคงอยู่

 

แค่นี้ก็เริ่มไม่มีใครพูดถึงแล้วครับ



#11 Octavarium

Octavarium

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,095 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:25

กรรมการสิทธิมนุษยชนเอาหัวไปมุดอะไรอยู่ครับตอนนี้


       Invoke ExitWindowsEx, EWX_SHUTDOWN | EWX_POWEROFF | EWX_FORCEIFHUNG, SHTDN_REASON_MAJOR_SYSTEM


#12 เกลียดคุณแม้วจังครับ

เกลียดคุณแม้วจังครับ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,190 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:04

ขอปฏิญาณว่า จะมีส่วนร่วม

ปฏิรูปรัฐตำรวจชั่วๆ  นี้ออกไปจากแผ่นดินไทย



#13 สิงห์สนามซ้อม

สิงห์สนามซ้อม

    คนดีไม่กลัวการตรวจสอบ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,757 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:31

ต่อไปนี้ผมอยากเปลี่ยนระบบ ตำรวจ ใหม่ให้ตรงตาม "ตำรวจรับใช้ประชาชน"

โดยการเลือกตั้ง ตั้งแต่ระดับ ผกก.สภ ขึ้นไปครับ -_-

 

ลองมาเกรียนดูสิตะกวด รับรองคะแนนตกแน่ :lol:


Edited by สิงห์สนามซ้อม, 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 15:03.

" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก  กรูไม่ดู !!! "


#14 lionidas

lionidas

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,612 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:19

คนตายได้ 7.5 ล้านเป่า ??? หรือได้เฉพาะพวกเสื้อแดง ?


พี่เหนาะ คนตาบอดมันกลัวเสือเหรอ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้เราจะได้เสียงเหรอ ...

#15 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 12:14

ด้านมืดของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

 

หรือ สันติของใคร ???


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#16 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:22

รอเจ้าแห่งการลากเส้นมาก่อนเหอะ ... พวกสลิ่มเงิบแน่นอน  :angry:


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#17 คนในพื้นที่

คนในพื้นที่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 833 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:58

เดี๋ยวเรื่องนี้ก็เงียบหายไปกับสายลมแน่นอน ตะกวดเค้าถนัด(ปก)ปิดคดีอยู่แล้ว


Edited by คนในพื้นที่, 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:58.


#18 nomoreshin

nomoreshin

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 417 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:31

เซ็ง วันนัเนโพสเฟสบุคว่าตำรวจไปไหน
นักข่าว TPBS มาตอบว่าตำรวจก็กลัวตายเหมือนกัน
ทีนี้ไม่ต้องสงสัยละว่าทำไมช่องนี้ถึงรายงานข่าวเทน้ำหนักไปทางรัฐบาล
สิ่งที่นักการเมืองไทยไม่เคยรู้และประชาชนไม่จำเป็นต้องบอก

หากปกครองด้วยความลุแก่อำนาจ หยิบยื่นแต่ความอิ่มหนำสำราญให้แต่กับพวกพ้องของตน สร้างความคับแค้นให้กัดกินในใจผู้คนทั่วไป วันหนึ่งคนเหล่านั้นจะลุกขึ้นมาทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีอะไรที่จะเสีย..

#19 sebastian

sebastian

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 312 posts

ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:06

เสียดาย ครับ ถ้ามีคนใจกล้า ที่อยู่บนยอดตึกถ่ายคลิป ได้  คงได้หลักฐานเด็ดไม่น้อยจะได้เอาผิดพวกตำรวจชั่ว ด้วย


I''''ll go anywhere as long as it''''s forward.ผมไปได้ทุกที่ ขอเพียงแต่ต้องไปข้างหน้าcredit by ดร.ลิฟวิ่งสโตน

#20 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:29

แถลงการณ์ของลุงกำนันวันนี้เน้นประเด้นตำรวจไม่ทำหน้าที่ ปล่อยให้นศ.รามตายแบบเสียงดังฟังชัดมาก

ผมก็สงบใจได้แล้ว ที่ลุงเป็นคนหนึ่งที่ไม่ลืมเหตุการณ์นี้


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน