ลาออกจากนายกรักษาการได้..ปี49 ทักษิณเคยทำแล้ว..ลาออกให้ชิดชัย รักษาก่รแทนทาแล้ว
#1
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 07:51
ทำอย่างอื่นไม่ได้..
ลองย้อนไปดูสมัยพี่นู๋ดิ เคยลาออกจากนายกรักษาการมาแล้วในปี49...
กดดันมันเข้าไปคับพวกรัดทะบายทรราช หทดความชอบธรรมทางการเมืองและทางกฏหมาย..
ถ้าช้าระวังท่านกำนันจะไปทั้ง กด..ทั้ง ดัน นู๋ปู ถึงในห้องนะ...
#2
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:53
ทักษิณ = ประชาธิปไตยครับ
ทักษิณลาออกจากรักษาการ เป็นประชาธิปไตย แม้รัฐธรรมนูญจะไม่ได้บัญญัติหรือห้ามไว้ก็ตาม
น้องปูลาออกจากรักษากร ไม่เป็นประชาธิปไตย แม้รัฐธรรมนูญจะบัญญัติไว้หรือไม่ห้ามไว้ก็ตาม
แต่
ถ้าทักษิณสั่งให้ปูลาออกจากรักษาการ เป็นประชาธิปไตยทันที ไม่ต้องไปดูรัฐธรรมนูญเลย
ท่านทักษิณสมกับเป็นมือที่มองไม่เห็น ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญจริงๆ
- -3-, อู๋ ฮานามิ and ธีรเดชน้อย like this
#3
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:10
ที่ถูกตั้งเป็นคณะกรรมการกฏหมายชองศอรฉ.
บอก นายกลาออกจากระดษาการไม่ได้ขัด รธน..
แล้วปี49 พ่องแม้วมรึง ลาออกได้ไงฟะ..
ไอ้ประธานจ๊ะเอ๋อีกคน
แม่มความจำเสื่อมง่ายจัง
#4
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:22
จากกรณีการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น ทำให้บุคคลบางกลุ่มที่ต่อต้านพันตำรวจโท ทักษิณ และที่เห็นว่าพันตำรวจโท ทักษิณหลีกเลี่ยงภาษี ร่วมกันแสดงท่าทีขับไล่พันตำรวจโท ทักษิณออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงการเข้าร่วมชุมนุมประท้วง ที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลพันตำรวจโท ทักษิณจัดขึ้นนานมาแล้ว จนเมื่อเกิดการขายหุ้นดังกล่าว ตามที่สนธิ ลิ้มทองกุลคาดการณ์ไว้แล้ว ส่งผลให้มีผู้ร่วมชุมนุมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เย็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 พันตำรวจโท ทักษิณประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่ ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 โดยกล่าวถึงเหตุผลในตอนหนึ่งของแถลงการณ์ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 20.30 น. คืนวันเดียวกันว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านระบอบประชาธิปไตย กดดันให้ตนลาออกจากตำแหน่ง[83]
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2549 พรรคไทยรักไทยจัดการปราศรัยใหญ่ ที่ท้องสนามหลวง โดยพันตำรวจโท ทักษิณ ในฐานะหัวหน้าพรรค ขึ้นปราศรัยในเวลา 20.00 น. มีผู้เดินทางมาฟังปราศรัยประมาณสองแสนคน จนเต็มท้องสนามหลวง [84][85]
วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2549 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยแกนนำทั้งห้า นำประชาชนจำนวนหนึ่งปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันทุกวิถีทาง ให้พันตำรวจโท ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเว้นวรรคทางการเมือง อีกทั้งต้องตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด แต่พันตำรวจโท ทักษิณก็ยืนยันว่า ตนจะลาออกจากตำแหน่งรักษาการไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 215 วรรคสอง บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ จึงไม่สามารถลาออกจากตำแหน่งได้[86]
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคฝ่ายค้านสามพรรค คือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ประกาศว่าจะไม่ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง และมีการกล่าวหาว่า พรรคไทยรักไทยจ้างให้พรรคการเมืองขนาดเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อมิให้ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พุทธศักราช 2542 โดยผลการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคไทยรักไทยยังได้รับคะแนนเสียงข้างมาก
วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2549 เวลา 20.30 น. พันตำรวจโท ทักษิณ ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า แม้พรรคไทยรักไทยจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งก็ตาม แต่ตนจะไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีก แต่จำเป็นจะต้องรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อรอการสรรหาคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสม
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย ให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน เป็นโมฆะ และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2549
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2549 พันตำรวจโท ทักษิณ เดินทางด้วยเครื่องบินประจำตำแหน่ง ไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เวลากลางคืน คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นำโดยพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ทำการยึดอำนาจการปกครอง จากรัฐบาลรักษาการ โดยอ้างเหตุว่า รัฐบาลรักษาการบริหารราชการแผ่นดินโดยมิชอบธรรม และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในขณะที่พันตำรวจโท ทักษิณยังปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ และการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ถูกยกเลิก
ที่มา http://th.wikipedia..../ทักษิณ_ชินวัตร
Edited by SINANJU, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:24.
#5
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:26
ทักษิณแถลงการณ์ออกทีวีทุกช่องเลย หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 49 บอกว่า ผมจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ใครจำได้มั่งเนี่ย ?
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#6
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:43
ไอ้ชั่วตัวพี่ยิ่งฮาใหญ่....
ลาออกไปแล้ว ไม่กี่วันกลับมาอีก..
เสร็จแล้วรักษาการไปอีก 6-7 เดือน
กฏหมายรัฐธรรมนูญที่ไหนบอกให้รักษาการณ์ 6-7 เดือนกัน
#7
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:27
ใครรู้มั่งตอนนี้ ภาคใต้มี สส เพื่อทัย มั้ย
#8
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:38
ใครรู้มั่งตอนนี้ ภาคใต้มี สส เพื่อทัย มั้ย
ลองไปดูที่ http://www.ptp.or.th...ber/m-zone.aspx แบบแบ่งเขตนะครับ
- overtherainbow likes this
"ไม่มีพระราชาองค์ใด ยิ่งใหญ่เทียบเท่าเสมอเหมือน พระราชาของพวกเราปวงชนชาวไทย"
Long Live My King
....................................................
#9
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:52
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#10
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:26
เรื่องจริง -ไม่ได้- เป็นไปตามกระทู้
#11
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:46
ลาออกจากนายกรักษาการได้..ปี49 ทักษิณเคยทำแล้ว..ลาออกให้ชิดชัย รักษาก่รแทนทาแล้ว
Started by kukkuk, Today, 07:51ทักษิณลาออก แล้วแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัยเป็น 'รักษาการนายกฯ'หลังจากนั้น ปลด พล.ต.อ.ชิดชัย ตั้งตัวเองเป็น 'รักษาการนายกฯ'แทน......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าดังนั้นพวกนักกฏหมายแดง เช่น อ.วรเจตน์ อ.ชาญวิทย์ อ.สิริพรรณว่า 'รักษาการนายกฯ'ยิ่งลักษณ์จะทำตามพี่ชายหรือไม่ ?
วันนี้อาจารย์กฏหมาย ม.สยาม หนึ่งใน 135 คน ชื่อ 'เอกชัย'บอกว่าทักษิณไม่ได้ลาออก เพียงหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ได้แต่งตั้งพล.ต.อ.ชิดชัย รองนายกฯเป็น รักษาการนายกรัฐมนตรี......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"หากเห็นว่าประชาชนเคลือบแคลงสงสัยการบริหารของรัฐบาลรักษาการว่ามี ความเป็นกลางหรือไม่ ก็ทำได้หลายอย่าง นายกฯนำความกราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งรักษาการ ให้รองนายกฯ ทำหน้าที่แทน ซึ่งก็เคยทำสมัยอดีตนายกฯพ.ต.ท.ทักษิณ....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1hHpvRc
Edited by ปุถุชน, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:07.
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#12
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:59
“สม คิด” อธิการบดีม.ธรรมศาสตร์ ย้ำข้อเสนอ ทปอ. ให้ ครม.ไม่รักษาการหลังยุบสภา เป็นไปได้ ชี้ปี 2549 “ทักษิณ” ก็เคยลาออกแล้วให้ "ชิดชัย" เป็นนายกฯรักษาการแทน
เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “สำนักข่าวอิศรา” www.isranews.org ถึงกรณีที่ ทปอ.ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภาแล้ว และให้ ครม.ทั้งคณะลาออก เพื่อตั้งรัฐบาลรักษาการจากคนกลาง เพื่อมาจัดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมาว่าแถลงการณ์ของ ทปอ.พูดชัดเรื่องรัฐบาลรักษาการ เพราะเห็นว่าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ระบุว่า เมื่อประกาศยุบสภาแล้วรัฐบาลทั้งคณะต้องพ้นไป แต่ระหว่างนั้นต้องอยู่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ แต่ความจริงแล้ว คำบอกว่า “ต้อง” แต่ความจริงไม่ต้องหรอก เพราะสมัยปี 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยลาออกจากการเป็นนายกฯรักษาการ แล้วให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ขึ้นมาเป็นนายกฯรักษาการแทน
“วิธี ปฏิบัติแบบนี้แสดงให้เห็นว่า ครม.ที่ต้องอยู่รักษาการตามมาตรา 181 ก็ไม่ต้องอยู่รักษาการก็ได้ ฉะนั้น สูตรที่เป็นไปได้ก็มีหลายสูตร ทปอ.เห็นกันหลากหลาย บางมหาลัยเสนอว่า เป็นไปได้หรือไม่ให้ ครม.ลาออกทุกคน เหลือไว้คนเดียว อาจจะใครก็ได้ที่ภาพดูกลางๆ เช่น คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา คุณวราเทพ รัตนากร เพื่อให้เป็นนายกฯรักษาการ แต่คนๆ นี้ต้องเป็นคนที่ฝ่ายคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.) เห็นชอบด้วย แล้วคนๆ นี้ก็ไปตั้ง ครม. 35 คน หรือเอาปลัดกระทรวงมาเป็นรัฐมนตรี ในระหว่างนั้นก็ได้” นายสมคิดกล่าว
นายสมคิดกล่าวอีกว่า ข้อ เสนอนายกฯ คนกลาง ตนไม่ใช่ผู้เสนอ แต่มีอธิการบดีคนอื่นเสนอ แต่ในฐานะประธาน ทปอ. ก็ต้องปฏิบัติตามมติเสียงส่วนใหญ่ ที่เขาอยากให้เขียนเรื่องนี้ลงไปในแถลงการณ์
"แม้ วันนี้จะมีคนมองว่าสายเกินไปที่จะยุบสภาเพราะนายสุเทพมองว่าตนเองมีมวลชน สนับสนุนมาก แต่ผมก็คิดว่ายุบสภายังเป็นทางออกที่ดีกว่าไม่ทำอะไร" นายสมคิดกล่าว
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์พิเศษของนายสมคิด เกิดขึ้นก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศยุบสภาในช่วงเช้าวันที่ 9 ธ.ค.2556
ภาพประกอบ - สมคิด เลิศไพฑูรย์ จากเว็บไซต์ www.innnews.co.th
- overtherainbow, Bookmarks and osamu like this
#13
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:02
- overtherainbow, Bookmarks and osamu like this
#14
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:06
แกนนำกปปส.ระบุการปฏิรูปประเทศตามเป้าหมายกปปส.ต้องมีรัฐบาลรักษาการที่เป็นกลาง ยัน"ยิ่งลักษณ์"ต้องลาออกรักษาการนายกฯ
นายชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ นักวิชาการอิสระและหนึ่งในแกนนำกปปส. ได้กล่าวถึงทางออกหลังยุบสภากับ"เนชั่นชาแนล" ว่า หลังจากที่นายกฯตัดสินใจยุบสภา สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ไม่มีการใช้กำลังและนำไปสู่การเจรจาต่อรอง
" ในนามส่วนตัวเป้าหมายใหญ่ของเราคือ การเมืองที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ที่พรรคการเมือง นักการเมือง ไม่ต้องใช้เงินในการเลือกตั้ง เป้าหมายของ กปปส. คือ ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปประเทศ การที่จะดำเนินการไปถึงจุดนั้นได้ ต้องมีหลายฝ่ายช่วยกันคิด โดยเรามี มาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ทำให้สร้างสรรค์การเมืองที่เราปรารถนาได้และมีมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่การรบกวนเบื้องยุคลบาท พวกเราจัดการกันเองได้ และต้องมีรัฐบาลรักษาการซึ่งต้องเป็นกลาง ไม่ใช่ของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดๆเลย และคุณยิ่งลักษณ์ ต้องลาออกจากนายกฯรักษาการ"
ส่วนที่ว่าจะมีวิธีการอย่างไรให้คุณยิ่งลักษณ์ ลาออกจากนายกฯรักษาการ ก็คงเป็นเรื่องของดุลย์กำลัง โดยเราจะต้องชุมนุมต่อไม่ให้คุณยิ่งลักษณ์ รักษาการเพราะการปฏิรูปประเทศจะเกิดขึ้นได้ต้องเป็นคนกลางเป็นรัฐบาล รักษาการ ซึ่งรัฐบาลรักษาการจะต้องทำการปฏิรูปการเมือง และเรื่องสำคัญๆและมีสภาประชาชน ทำงานชั่วคราว เป็นเวลา 1 ปี - 1 ปีครึ่ง
โดยสภาประชาชน ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งที่เคยทำงานกันมาเข้าใจกันดีอยู่แล้ว โดยสภาประชาชนไม่จำเป็นต้องมีคนมากหรือน้อยเกินไป สักประมาณ 400 คน โดยมีคนที่ กปปส. ใกล้ชิดเห็นฝีมือ 100 คน นอกนั้น ก็มาจากหลายสาย เช่น จากแพทย์ สุขภาพอนามัย นักธุรกิจ กลุ่มข้าว กลุ่มยางพารา มาจากทุกสาขาอาชีพ และไม่มีเรื่องที่ว่ามาจากสีไหน
สภาประชาชนจะทำหน้าที่ออกกฎหมายและกำกับดูแลรัฐบาล และสภาประชาชนต้องมีคน กปปส. เข้าร่วมด้วยและการที่จะถึงเป้าหมายสูงสุดได้ นับจากนี้ไป 60 วันต้องไม่มีการเลือกตั้ง เพราะไม่ต้องการให้การเมืองกลับมาเหมือนเดิม เมื่อรัฐบาลรักษาการและสภาประชาชนทำการปฎิรูปการเมืองและเรื่องสำคัญๆเสร็จแล้วซึ่งอาจใช้เวลา 1 ปี- 1 ปีครึ่ง ก็จะสลายตัว เข้าสู่การเลือกตั้งตามปกติ
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า เสื้อแดงบอกว่า หาก กปปส. ยังไม่เลิกชุมนุมทั้งที่นายกฯยุบสภา จะมีคนเสื้อแดงจำนวนมากกว่าหลายสิบเท่า ออกมา นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของแกนนำพูด แต่มวลชนจะออกมามากขนาดนั้นหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่โดยพื้นฐาน มนุษย์ทุกคนต้องมีความมีศักดิ์ศรี การได้รับการดูแลที่ดี และมีหลักนิติธรรมที่ถูกต้อง ดังนั้นเราสามารถอธิบายได้
สภาประชาชนไม่ เกี่ยวกับเรื่องสีเสื้อ เป็นเรื่องของคนทุกสี ที่มาจากนักวิชการ,เอ็นจีโอ หากเราดูในพื้นที่ อย่างเช่นในเรื่องการจัดการน้ำ ชาวบ้านในพื้นที่ก็ร่วมมือกันดีไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีแดง ชาวบ้านคนในพื้นที่ไม่ได้ขัดแย้งกันมากอย่างที่เราเข้าใจ
ต่อข้อถามที่ว่า มีการเสนอว่าหาก กปปส. มั่นใจในแนวคิดของตนในการปฏิรูปประเทศ ก็จัดตั้งเป็นพรรคการเมือง แล้วลงสมัครรับเลือกตั้งแข่งขัน นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า กปปส. ไม่มีวันเป็นพรรคการเมือง กปปส. มีหน้าที่ให้กระบวนการใหม่เดินไปได้ ปรับโครงสร้างใหม่หมด เพื่อให้พฤติกรรมนักการเมืองและประชาชนเปลี่ยนไปให้ได้ จากนั้น กปปส. ก็หมดหน้าที่สลายตัว
เมื่อถามต่อว่า เมื่อกลับสู่การเลือกตั้งตามปกติ พรรคการเมืองเดิมอย่างพรรคเพื่อไทย ก็อาจกลับมาอีก นาย ชัยวัฒน์ กล่าวว่า สมมุติว่าน.ส. รสนา โตสิตระกูล ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว. และคนอีกกลุ่มหนึ่ง รวมกันจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาเพื่อแข่งกับพรรคการเมืองเดิม โดยกติกาแฟร์ๆ ซึ่งต้องให้โอกาส ให้พื้นที่คนเหล่านี้เข้ามา พรรคการเมืองเดิมก็ยังมีอยู่ แต่ก็จะมีพรรคการเมืองใหม่ๆเข้ามาตามกติกาใหม่
Tags : ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ • สภาประชาชน • กปปส.
http://www.bangkokbi...ั้งสภาปชช..html
นี่เป็นความคิดของนักวิชาการคนหนึ่ง อยู่ในแกนนำ กปปส. นำมาให้คิด มาให้พิจารณา.....
บางคนคิดสุดกู่ กล้าลุกขึ้น เดินได้ จะวิ่งทันที...
มุมมองชาตินิยม สังคมนิยมตะวันตก แอฟริกาใต้.....
- อิสระเสรีชน likes this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#15
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:31
ดีดดิ้นกันเหลือเกิน ทำได้ง่ายๆ จะตายไป
ให้อิโง่ มันไปกระโดดน้ำตายซะ
บ้านเมืองจะได้พ้นวิกฤต ไหนๆ ก็ยุบสภาแล้ว
ถ้าลาออกไม่ได้ ก็ตายไปซะเลยเจ๊
หรือไม่พวกเรา ทำประชามติ ว่าเห็นควรให้ทักษิณ หรือกำนันสุเทพ ใครควรจะฆ่าตัวตายกันดีมั๊ย
ใครแพ้ ก็ฆ่าตัวตาย ไปซะ
ควายแดงเอารึเปล่า แบบนี้ ไหนว่าพวกมุงเสียงส่วนใหญ่ไง
เอาให้รู้กันจะจะไปเลย วัดใจกันไปเลย จะได้จบ
Edited by ID007, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:32.
#16
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:49
โดย คม ชัด ลึก วัน พฤหัสบดี ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2549 01:32 น.
ทักษิณ" ขอพักยาว ตั้ง "ชิดชัย" รักษาการ พร้อมเปิดใจ กลางครม.เก้าอี้นายกฯ เพิ่มทุกข์ ลั่นไม่ยุ่งตั้งนายกฯคนใหม่ ฝ่ายค้านชี้ ระบอบทักษิณยังอยู่ภายหลังประกาศเว้นวรรคตำแหน่งนายก รัฐมนตรี แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศต่อที่ประชุม ครม.นัดพิเศษเมื่อเช้าวันพุธที่ 5 เมษายนว่า จะขอลาพักยาว และมอบหมายให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทน ซึ่งจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเลือกประธานสภา และนายกรัฐมนตรี
รายงาน ข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อที่ประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ครั้งนี้ ถือเป็นการประชุม ครม.ครั้งสุดท้ายของผม แล้วผมจะไม่ขอเป็นนายกฯ ต่ออีกแล้ว เหนื่อยแล้ว ขอพักซะที ต่อไปถ้าใครว่างๆ ก็ไปพบผมได้ทุกวันเสาร์ที่สนามกอล์ฟเลควูด และผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตัวประธานสภา หรือตัวนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ยังทำหน้าที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยต่อไป ถ้าทำงานก็จะเข้าไปอยู่ที่พรรค อยากให้ ครม.ทุกคน ช่วยกันทำให้สภาเปิดให้ได้ เพราะทั่วโลกกำลังจับตามองเราอยู่ ที่ผ่านมาการใช้กฎหมู่เหนือกฎหมายเพื่อจะมากดดันให้ผมลาออกจากตำแหน่งนายกฯ มันไม่ได้ เพราะถ้าทำอย่างนั้น สิ่งที่เราทำมาตลอด 5 ปี มันก็ไม่เหลืออะไรเลย” รักษาการนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 5 เมษายน ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งรัฐมนตรีหลายคนต่างมีสีหน้าเศร้าสร้อย
หลัง จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ ครม.รับประทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อสุดท้ายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ครม.ก่อนที่จะแยกย้ายกันออกจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีส่วนใหญ่ลงมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ พร้อมกับปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน
ลายาวจนกว่าจะมีนายกฯ คนใหม่
ต่อ มาเวลา 13.30 น. น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทีมรองโฆษก ร่วมกันแถลงผลการประชุมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งต่อที่ประชุมว่า การประชุม ครม.ครั้งนี้เป็นนัดสุดท้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของ ครม.รักษาการ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ขอลาพักจากการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ระหว่างนี้จะให้ พล.ต.อ.ชิดชัย ปฏิบัติราชการแทนไปก่อน
อย่าง ไรก็ตาม ระหว่างนี้หากมีข้อกฎหมายสำคัญ จำเป็นยิ่งยวดที่ระบุให้รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามผู้เดียว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะมาทำหน้าที่ให้ แต่ถ้าเป็นงานตามปกติ พล.ต.อ.ชิดชัย จะทำหน้าที่แทนทั้งหมด หากไม่มีงานจำเป็นจริงๆ รักษาการนายกรัฐมนตรีจะไม่เข้าทำเนียบรัฐบาลอีก และบ่ายวันที่ 5 เมษายน จะเก็บของออกจากตึกไทยคู่ฟ้า
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขอลาพักงานมี 2 ประการได้แก่
1.ขอ ดูแลในด้านสุขภาพ เพราะที่ผ่านมาได้ทุ่มเทและเหนื่อยสะสมมาตลอด โดยไม่ได้พักฟื้นร่างกายและช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ยังไม่สบายจนต้องเรียกแพทย์มาตรวจอาการ
2.เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิด ความสมานฉันท์ สบายใจ ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอบคุณ ครม.และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานร่วมกันมาตลอด 5 ปี และขออภัยที่ต้องเหน็ดเหนื่อยทำงานหนัก สิ่งที่ได้ทุ่มเทมาตลอด 5 ปี เป็นการทุ่มเทเต็มหัวใจเพื่อบ้านเมือง ขอขอบคุณ ครม.และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ช่วยให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันให้มีการเปิดประชุมสภาเพื่อการปฏิรูปการเมืองและแก้รัฐ ธรรมนูญต่อไป
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า รักษาการนายกรัฐมนตรียังกล่าวในที่ประชุม ครม.ด้วยว่า การพัฒนาประชาธิปไตยของไทยเป็นที่สนใจของชาวโลก ที่เห็นว่าประชาธิปไตยไทยพัฒนาไปสู่การมีวุฒิภาวะและความอดทนสูง จึงต้องพยายามไม่ให้กระบวนการต่างๆ เกินเลยกว่านี้ เพราะจะทำให้ประเทศเสียหาย จึงควรสมานฉันท์และปรองดองกันในสังคม
เปิดใจเป็นนายกฯ ทุกข์ใจมากขึ้น
นอก จากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังบอกว่าดีใจที่ได้ทำหน้าที่ให้บ้านเมือง ที่ผ่านมาอาจเดินเร็วไป โครงการต่างๆ ก้าวเร็วไป เพราะได้ไปเห็นประเทศพัฒนาแล้ว จึงอยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างนั้นบ้าง ซึ่งเป็นธรรมดาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีการต่อต้าน ซึ่งรักษาการนายกฯ ยืนยันว่า ไม่เคยมีความสุขกับสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรีและไม่เคยใช้สิ่งอำนวยความสะดวก ในฐานะนายกฯ ในทางตรงข้ามสถานภาพ นายกฯ ทำให้ทุกข์ใจมากขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขคือได้ทำหน้าที่นายกฯ เพื่อประโยชน์ของชาติ และสร้างนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น การปราบยาเสพติด 30 บาทรักษาทุกโรค เอสเอ็มแอล
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังระบุด้วยว่า ประเทศต้องพัฒนาอีกมาก จึงขอให้กำลังใจทุกคนที่รับผิดชอบบ้านเมืองให้รักและทำดีที่สุดเพื่อบ้าน เมือง สิ่งที่เกิดขึ้นกับรักษาการนายกฯ นั้น ขอให้ ครม.เรียนรู้ทั้งความสำเร็จและล้มเหลวเพราะไม่มีอะไรถูกหรือผิด ดีหรือเลวไปหมด ต้องเรียนรู้ทั้งสองด้าน หากประสบความสำเร็จก็ชื่นชมยินดี ถ้าล้มเหลวก็แก้ไข ถ้าเรียนรู้จากความล้มเหลวได้จะไม่เจ็บปวด จึงอยากบอก ครม.ด้วยความจริงใจว่า ขอให้ยึดหลักการสิ่งดีงาม ความถูกต้องของประเทศ
น.พ.สุ รพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงท้ายการประชุม ครม.นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการ ครม.เป็นตัวแทนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กล่าวความรู้สึกการทำงานร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า เท่าที่ทำงานร่วมกันมา ได้เห็นความทุ่มเทของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เปรียบเสมือนเทียนที่เผาตัวเองให้เกิดการเปล่งแสงสว่างขึ้นในสังคม พร้อมกับอ่านโคลงบทหนึ่งว่า “พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา”
ยันตั้งชิดชัยปฏิบัติราชการแทนได้
จาก นั้นผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุอะไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.ชิดชัย ปฏิบัติราชการแทน ทั้งๆ ที่อายุการทำงานก็น้อยกว่ารองนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เรายึดตามมติ ครม.ในวันที่ 14 มีนาคม ดังนั้นเมื่อรักษาการนายกรัฐมนตรีลาพัก รองนายกรัฐมนตรีรักษาการอันดับ 1 ก็ต้องเป็นผู้ทำหน้าที่แทน ส่วนเรื่องอายุการทำงานนั้นคงไม่มีปัญหาเพราะรัฐบาลชุดนี้มีอายุการรักษาการ เพียงแค่ไม่นาน เมื่อเลือกตั้งเสร็จ เปิดสภาผู้แทนราษฎรและจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็ถือว่าหมดหน้าที่
เมื่อ ถามต่อว่า แม้ว่าจะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีในช่วงสั้นๆ แต่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศและประชาชนพอสมควร น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา พล.ต.อ.ชิดชัย ถือว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และรักษาการรัฐมนตรีทุกคนก็ให้ความเห็นชอบ แต่อย่างไรก็ตามหากมีประเด็นสำคัญตามที่กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าเรื่องใดที่ รักษาการนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้ปฏิบัติ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะเข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนี้ ส่วนงานอื่นๆ รองนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ก็ทำหน้าที่แทนได้ และขอย้ำว่านี่คือการลาพัก ไม่ใช่การลาออก
ผู้ สื่อข่าวถามว่า ในช่วงที่รัฐบาลเกิดภาวะสุญญากาศในขณะนี้ มีการวิเคราะห์กันหรือไม่ว่า จะใช้เวลานานแค่ไหนรัฐบาลใหม่ถึงจะเข้ามาทำหน้าที่ได้ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้ประเมินใดๆ แต่คาดหวังว่าหลังจากการเลือกตั้งวันที่ 23 เมษายน ผ่านพ้นไป กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่การเปิดประชุมสภา และจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ “กรองสถานการณ์” ส่วนแนวทางสมานฉันท์นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่แต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยจะไปคิดกัน
“ฝ่ายพันธมิตรหรืออดีตฝ่ายค้านยังจะดึงดัน สร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหาก็เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องพิจารณา และช่วยกันให้กระบวนการเลือกตั้งดำเนินไปได้ตามรัฐธรรมนูญต้องไปช่วยกันสิ ช่วยกันคิดว่าจะทำยังไง เพื่อให้สภามันเปิดได้ นี่ก็เหลือเวลาอีก 60 กว่าวันแล้วที่เราจะมีงานสำคัญ จะให้บ้านเมืองมันวุ่นวายต่อไปอย่างนี้หรือ” น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่า แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเว้นวรรคทางการเมืองด้วยการไม่รับตำแหน่งนายกฯ แต่ระบอบทักษิณ และนโยบายประชานิยมต่างๆ ก็ยังคงอยู่ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการแก้ปัญหา น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ประชาชนที่เลือกพรรคไทยรักไทยก็เพราะเลือกนโยบาย จึงต้องเดินหน้า จะผิดเสียอีกหากไม่ทำตามนโยบาย
"ทักษิณ" หยอดมุก ครม.แก่ไปเยอะ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธานประชุม ครม.นัดพิเศษ เจ้าหน้าที่มาตามช่างภาพให้ขึ้นไปถ่ายรูปบรรยากาศภายในห้องประชุม ครม. ซึ่งระหว่างการถ่ายภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ หยอกล้อกับ ครม.และกล่าวกับช่างภาพว่า “ใครมีรูปเก่าๆ ตอนประชุม ครม.นัดแรก ลองเอามาเปรียบเทียบกับวันนี้ว่า ผมแก่ไปเยอะมั้ย ใครเอารูปมาเปรียบเทียบกันได้ ผมมีรางวัลให้ ตอนนี้ถ่ายไปเลย รูปหล่อๆ แบบนี้ไม่มีอีกแล้ว ช่วงนี้ผมสุขภาพไม่ค่อยดี เป็นหวัดไม่หายสักที และต่อไปนี้เดินทางไปไหนคงจะสะดวกขึ้น เพราะคงไม่ค่อยมีใครติดตามผมมากแล้ว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเว้นวรรคไม่รับตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 4 เมษายน ในการประชุม ครม.นัดพิเศษครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐมนตรีหลายคนต่างสวมสูทสีดำ โดยเฉพาะนายเนวิน ชิดชอบ ใส่ชุดซาฟารีสีดำ
หอบรูปครอบครัวกลับบ้าน
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งรถกลับมายังตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รักษาการ รมว.เกษตรฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.อุตสาหกรรม นายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเนวิน ชิดชอบ รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตามไปหารือด้วย จนกระทั่งเวลา 13.49 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ถือกรอบรูปครอบครัว ซึ่งตั้งประจำบนโต๊ะทำงานลงมาขึ้นรถยนต์ พร้อมกับ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย และมีรัฐมนตรีตามมาส่ง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาลมายืนเข้าแถวเพื่อรอส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นรถยนต์ว่า ยังไม่ทราบจะพักผ่อนนานหรือไม่ คงจะพักไปเรื่อยๆ และถ้ามีเวลาจะไป จ.เชียงใหม่ ส่วนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มองไว้หลายคน แต่ยังมีเวลาอีกมาก ยังไม่จบ ต้องดูขั้นตอนต่างๆ อีก พร้อมกับย้ำว่า ยังมีเวลา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่มาทยอยเก็บสิ่งของภายในห้องทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่ช่วงสายส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่บรรจุลงกล่องอย่างเรียบร้อย
เมื่อ เวลา 19.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งด้วยสีหน้าซีดเซียว ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามว่า รู้สึกสบายใจขึ้นหรือยัง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่สบายใจ สงสารชาวบ้าน ชาวบ้านมาร้องไห้เยอะ
อย่างไรก็ดี พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นับจากวันที่ 6 เมษายนเป็นต้นไป ก็จะถือเป็นวันพักผ่อน แต่ยังไม่ไปอังกฤษเพื่อส่งบุตรสาว เพราะต้องตรวจเช็คร่างกายก่อน
สำหรับการเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า กำลังพิจารณา ซึ่งคงจะใช้วิธีซาวเสียงมากกว่าโหวต
ส่วน หนักใจหรือไม่กับการคัดสรรคนมาแทนเพราะขณะนี้ทั้งฝ่ายพันธมิตรและพรรคประชา ธิปัตย์ก็ออกมาวิจารณ์ว่าแม้จะเลือกคนมาเป็นนายกฯ แทนแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะยังคงอยู่เบื้องหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของเขา เป็นเรื่องของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการแก้รัฐธรรมนูญจะกลับมาเป็นตัวเลือกให้ประชาชนหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ทราบ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เข้าใจคำว่าความแน่นอนคือความไม่แน่นอนหรือไม่
"ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน สื่อไม่ต้องมาถามผมแล้วนะ ผมจะเป็นส่วนตัวแล้วขอให้สื่อไปถามรองชิดชัยได้ ไม่ต้องมาถามผมแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวและว่า ไม่มีข่าวสารจะให้ จะเป็นประชาชน อยู่แบบประชาชน
ขรก.ทำเนียบตื่นไฟไหม้แผงควบคุม
ผู้ สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบว่า เมื่อเวลา 11.40 น.ขณะที่ผู้สื่อข่าวรอทำข่าวการประชุม ครม.นัดพิเศษที่ตึกสำนักเลขาธิการนายกฯ มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น เมื่อเกิดควันไฟขึ้นที่ตึกสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ ที่อยู่ห่างจากตึกประชุม ครม.ประมาณ 150 ม.ซึ่งเจ้าหน้าที่ รปภ.วิ่งมาขอถังดับเพลิง 2 ถังเพื่อไปดับไฟ
เมื่อผู้สื่อข่าวและ ช่างภาพวิ่งมาตรวจสอบเหตุการณ์พบว่า ควันไฟพวยพุ่งจากชั้น 2 ของสำนักงาน ภายหลังจากใช้เครื่องดับเพลิงดับไฟเรียบร้อยแล้วพบว่าต้นตอมาจากแผงควบคุม ไฟฟ้าที่อยู่ด้านซ้าย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่แตกตื่นวิ่งออกมาด้านนอกกันจำนวนมาก
โภคินเผยโครงสร้างแก้รัฐธรรมนูญ
นาย โภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้จากการประชุมเบื้องต้นเห็นว่า ควรมีคนกลางเข้ามายกร่าง ใน 2 ส่วน คือ
1.เป็นบุคคลที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ ซึ่งส่วนนี้จะพิจารณาจากกฎหมายสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหลัก
2.น่า จะมีบุคคลที่มาจากอดีตสภาร่างรัฐธรรมนูญประมาณ 5 คน ตัวแทนจากศาล 5 คน องค์กรอิสระ 5 คน นักวิชาการด้านกฎหมาย ด้านรัฐศาสตร์ 5 คน รวมกันประมาณ 120 คน
“อยากจะให้ตั้งคนกลางโดยเร็วที่สุด ใช้ระยะเวลา 2 เดือน เนื่องจากตัวแทนที่ได้มานั้น มาจากหลากหลายจังหวัดที่จะเข้ามาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญต่อไป และการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 6 เดือน และในส่วนของพรรค จะมีการเตรียมประเด็นที่เห็นว่าควรจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาด้านเทคนิค เพื่อนำเสนอต่อองค์กรที่เป็นคนกลางที่จะต้องเป็นผู้พิจารณา รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ด้วย เพราะหลังจากนี้รัฐบาลที่จะทำหน้าที่ต่อไปก็จะเป็นรัฐบาลรักษาการหรือเป็น รัฐบาลเฉพาะกิจ เพื่อให้มีการปฏิรูปการเมืองให้ประเทศเดินไปได้ รอการเลือกตั้งครั้งใหม่ต่อไป เพื่อที่จะได้รัฐบาลถาวรกำหนดทิศทางที่ชัดเจนต่อไป ทั้งนี้หากทุกอย่างเดินไปอย่างเรียบร้อยเชื่อว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นไม่เกิน 1 ปี” นายโภคิน กล่าว
นอกจากนี้ นายโภคิน ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงข่าวที่ว่า ตนเป็นหนึ่งในแคนดิเดตตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่า พรรคไทยรักไทยมีบุคคลที่มีความสามารถและเหมาะสมหลายคน เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่สามารถดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้ ขณะที่ตนได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า มองผู้ที่เหมาะสมไว้เยอะ แต่ยังไม่จบ ส่วนการตัดสินใจเลือกนั้นก็มีทุกเรื่องที่เป็นหลักในการตัดสินใจ ตนคิดทุกเรื่อง ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้น นายสมคิด ได้ดูแลอยู่แล้ว
วังน้ำยมชู "พงศ์เทพ"
อย่าง ไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจจากหัวหน้าพรรค แต่ดูเหมือนกลุ่มต่างๆ ในพรรคไทยรักไทย เริ่มใช้วิธี "โยนหินถามทาง" ให้แกนนำกลุ่มเป็นนายกฯ ขัดตาทัพแทนหัวหน้าพรรค
นายธราพงษ์ สีลาวงษ์ ว่าที่ ส.ส.อุดรธานี กลุ่มวังน้ำยม กล่าวถึงกระแสข่าวถึงตัวบุคคลที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศเว้นวรรค ว่าจากการพูดคุยกับเพื่อน ส.ส.ในภาคอีสานหลายคน มองตรงกันว่านายสมคิด และนายโภคิน ไม่เหมาะที่จะเป็นนายกฯ ในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะบ้านเมืองอยู่ในช่วงวิกฤติ และเห็นว่าบุคคลที่เหมาะสมตอนนี้มากที่สุด คือนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรค เพราะมีบุคลิกประนีประนอม ยืดหยุ่น นุ่มนวล เข้ากับทุกฝ่ายได้
"การออกมาสนับสนุนในครั้งนี้ ไม่ได้ถูกใครสั่งมา แต่เห็นว่านาทีนี้นายพงศ์เทพ เหมาะสมมากที่สุด ส่วนนายสมคิด และนายโภคิน ก็มีความสามารถ แต่ไม่เหมาะกับสถานการณ์ของบ้านเมืองในเวลานี้ เรื่องนี้ผมจะขอเสนอเป็นทางเลือกในที่ประชุมพรรค แต่ก็ขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเป็นหัวหน้าพรรค เราเพียงแต่เสนอทางเลือกอีกทางหนึ่งให้เท่านั้น" ว่าที่ ส.ส.อุดรธานีกล่าว
พงศ์เทพ คาด พ.ค.ได้นายกฯ ใหม่
ขณะ ที่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้หารือถึงผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ คาดว่าหลังจาก กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง และเปิดประชุมสภาก่อน ซึ่งคิดว่าระยะเวลาที่เร็วที่สุดคาดว่าจะเป็นเดือนพฤษภาคม
ต่อข้อถาม ว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณมีรายชื่อในใจอยู่แล้วนั้นต้องได้รับการยอมรับจากกลุ่มการเมือง ในพรรคหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า อำนาจแท้จริงอยู่ที่ ส.ส. 500 คน หรือ 499 คนในสภา ซึ่งทุกคนเป็นอิสระ แต่กระบวนการในพรรคการหารือเบื้องต้นเพื่อพิจารณาความเหมาะสมเป็นส่วนหนึ่ง ในการพิจารณา
เพื่อนทักษิณตีกัน "โภคิน"
พล.ท.มะ โพธิ์งาม ว่าที่ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคไทยรักไทย เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหารกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงผู้ที่เหมาะสมที่จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า หากการบริหารราชการแผ่นดินเน้นไปด้านเศรษฐกิจ ก็ต้องมอบให้นายสมคิด ส่วน พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ควรช่วยดูแลทางด้านความมั่นคง
ด้านนาย โภคิน ซึ่งมีชื่อเป็นหนึ่งในคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมอบหมายให้เป็นนายกฯ คนต่อไปนั้น พล.ท.มะ กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ตั้งขึ้นมาเพื่อการปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ก็ต้องเอาคนเก่งกฎหมายเข้าไปดู ดังนั้นพรรคไทยรักไทยก็ควรมอบหมายให้นายโภคินกลับไปเป็นประธานรัฐสภาเพื่อ ดำเนินการแก้กฎหมายให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
"ชวน" คาใจทักษิณเว้นวรรค
ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเว้นวรรคว่า สิ่งที่จะดำเนินการต่อไปอย่างไรก็ต้องดูเหตุผลว่าเป็นการแก้ปัญหาตามที่ฝ่าย ค้านเสนอหรือไม่ การประกาศเว้นวรรคทางการเมืองถือเป็นการปลดเปลื้องจากระบอบทักษิณหรือไม่ ต้องตามดูเพราะเป็นปัญหาตัวบุคคล คือคนนำระบอบทักษิณ มาก็คือทักษิณ
ทั้ง นี้เมื่อออกไปแล้ว ระบอบทักษิณ ไม่รู้จะออกด้วยหรือไม่เพราะมีการฝังระบบรากฝอยรากแก้ว เมื่อเปลี่ยนแปลง การออกไป เป็นการฟอกหรือล้างสิ่งที่มาหรือไม่ เกรงว่าระบอบทักษิณไม่ได้เปลี่ยนไป แนวทางยังเป็นของเดิม เช่น การเลือกปฏิบัติ การจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกไทยรักไทย การแทรกแซงองค์กรอิสระ และองค์กรที่ถูกแทรกยังอยู่ในวาระอีกนานไม่รู้จะตายเมื่อไร
ฝ่ายค้านชี้ระบอบทักษิณยังอยู่
วัน เดียวกัน อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรคร่วมหารือกันถึงการเว้นวรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม มีผู้เข้าประชุม ได้แก่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคมหาชน
นายจุรินทร์ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นว่า การเว้นวรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ตรงกับสิ่งที่ได้แถลงไว้ในรายการกรองสถานการณ์วันที่ 3 เมษายน เพราะเมื่อ 3 พรรคฝ่ายค้านเดิมยอมรับข้อเสนอที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งหลังการปฏิรูปการ เมือง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไม่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกฯ โดยประกาศไม่รับตำแหน่งนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งคือการเว้นวรรค แต่ไม่ใช่การลาออก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมตั้งข้อสังเกตถึงการประกาศเว้นวรรคของพ.ต.ท.ทักษิณไว้ 5 ข้อ คือ 1.สามารถลดอุณหภูมิทางการเมืองได้บางส่วน 2.พ.ต.ท.ทักษิณยังรักษาการในตำแหน่งนายกฯ ไปจนกว่าจะได้นายกฯ คนใหม่ 3.เหมือนเป็นการชี้นำและรู้ล่วงหน้าว่าสภาสามารถเปิดได้แน่นอน ทั้งที่การเลือกตั้งไม่เสร็จ และอยู่บนความเคลือบแคลงใจของสังคม
4.ถ้า เปิดสภาได้และนำไปสู่การเลือกตั้งนายกฯ ก็จะได้นายกฯ ร่างทรงของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศชัดเจนว่าจะกำกับในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ดังนั้น ระบอบทักษิณก็จะคงมีอยู่ต่อไป และ 5.การปฏิรูปการเมืองที่จะเกิดขึ้นไม่สามารถเกิดได้ภายใต้การกำกับดูแลของ รัฐบาลที่เป็นกลาง เพราะจะต้องอยู่ภายใต้กำกับของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เพราะฉะนั้นการปฏิรูปการเมืองดังกล่าวคงจะไม่ได้คนกลางเข้ามาดูแล
ประธาน คณะกรรมการ 3 พรรค กล่าวว่า การที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่ารักษาการนายกฯ ไม่สามารถลาออกนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินระบุว่าถ้านายกฯ ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ เช่น การลาออก ก็สามารถตั้งรัฐมนตรีรักษาการแทนนายกฯ ได้ ดังนั้นหากนายกฯ และรักษาการรัฐมนตรีทั้งหมดลาออกก็จะเกิดช่องว่าง และสามารถนำมาตรา 7 มาใช้เพื่อขอรัฐบาลพระราชทานได้
“หลังจากนี้ฝ่ายค้านจะติดตามและชี้ ให้ประชาชนเห็นถึงอันตรายของระบอบทักษิณต่อไป เพราะขณะนี้ยังอยู่ในวังวนเดิมเป็นไปตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขีดเส้นไว้อยู่ ดังนั้นระบอบทักษิณยังคงอยู่และอาจจะหนักกว่าเดิม เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รับตำแหน่งนายกฯ แต่ยังอยู่เบื้องหลังการบริหารราชการแผ่นดิน ก็ทำให้ทำอะไรได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องถูกตรวจสอบและถูกถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ” นายจุรินทร์ กล่าว
นาย สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องคณะกรรมการสมานฉันท์ 3 พรรคร่วมฝ่ายค้านคิดว่า ไม่มีความจำเป็นแล้ว หากว่านายกฯ ปฏิบัติในสิ่งที่เสนอต่อสาธารณะไป เช่นที่บอกว่า จะลาออกและพร้อมจะปฏิรูปทางการเมือง เราก็พร้อมจะลงสู่สนามเลือกตั้ง สิ่งที่รักษาการนายกฯ แถลงต่อสาธารณชนวันนี้กำลังเป็นที่จับตาดูของประชาชน และสถานการณ์ที่เราวิตกคือหากรักษาการนายกฯ บิดพลิ้วต่อสิ่งที่พูด เชื่อว่าเหตุการณ์ที่คลี่คลายไปก็จะหวนกลับมาอีก
ขณะที่นายนิกร กล่าวว่า บางประเด็นในรัฐธรรมนูญคลี่คลายไปด้วยตัวของมันเองแล้ว แต่ที่จะต้องมีการแก้ไขเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ และเป็นเงื่อนตายทางการเมืองที่สำคัญคือ ระยะเวลาการสังกัดพรรคการเมืองเท่าไรที่ยังเป็นปัญหา จำนวนเสียง ส.ส.ในการควบคุมฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นประเด็นที่คณะกรรมการกลางจะต้องนำไปแก้
บรรหารห่วงการเมืองกระทบงานใหญ่
นาย บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเว้นวรรคทางการเมืองว่า ฟังจากข่าวแล้วถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และเชื่อว่าเหตุการณ์ต่างๆ คงจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อถึงทางตันก็รู้ว่าจะทำอย่างไร
ส่วนขบวนการต่อจากนี้ ก็ต้องดูว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่ง กกต.พยายามช่วยทางการเมืองเต็มที่ โดยการเปิดรับสมัครใหม่รอบเดียวแล้วเลือกตั้งวันที่ 23 เมษายนนี้ เพราะถ้าสมัครครบแล้วก็จะได้ ส.ส.ครบทั้ง 500 คน แต่ก็จะไม่รู้ว่าสภาจะสามารถเปิดได้หรือไม่ และการเลือกตั้ง ส.ว.จะครบหรือไม่ และ กกต.จะประกาศรับรองเมื่อไร เพราะอาจจะมีการร้องเรียนเรื่องใบเหลืองใบแดง ซึ่งเป็นห่วงโดยเฉพาะงานเฉลิมฉลองครองราชย์ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เราต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว
"ป๋าเปรม” ระบุภาวนาให้บ้านเมืองดีขึ้น
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า “เรื่องการเมือง ผมตอบไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมืองสงบหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า “ผมภาวนาให้เป็นอย่างนั้นนะครับ”
เมื่อถามอีกว่า การตัดสินเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดจากสาเหตุอะไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า “ไม่ขอวิจารณ์ ต้องไปถามอธิการบดี ท่านรู้ ท่านเป็นกฎหมาย ท่านรู้ดี” เมื่อถามย้ำว่า การที่ไม่ขอวิจารณ์เพราะเป็นองคมนตรีใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องการเมืองได้”
ต่อข้อถามว่า ต่อจากนี้ไปคิดว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร พล.อ.เปรม กล่าวสั้นๆ ว่า ดีๆ
ทั้ง นี้ พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สักการะอนุสาวรีย์นาย สัญญา ธรรมศักดิ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เนื่องใน “วันสัญญา ธรรมศักดิ์”
เผยในหลวงทรงรับรู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น
นาย สุเมธ ตันติเวชกุล นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับหัวข้อ “จริยธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน” มีใจความตอนหนึ่งว่า เราเพิ่งพูดถึงเรื่องจริยธรรมคุณธรรม กันมากเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมาหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งเริ่มมีคำว่าธรรมาภิบาลวัฒนธรรมตะวันตกไหลบ่ามาท่วมวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นลักษณะโลกาภิวัตน์ที่ไม่ใช่สิ่งดีเสมอไป โลกกำลังพินาศ รถไฟขบวนโลกกำลังจะตกเหวด้วยน้ำมือมนุษย์กับสังคมบริโภค สังคมทุนนิยม เสรีนิยม ซึ่งระบบดังกล่าวใช้กิเลสนำทางเพราะคนลดการบริโภคเมื่อไรธุรกิจไปไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับทั่วโลก
นาย สุเมธ กล่าวว่า เคยฟังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งกับผู้พิพากษาครั้งล่าสุด ซึ่งพระองค์ตรัสว่าความยุติธรรมคือความดีและความถูกต้อง ซึ่งเป็นคำสองคำง่ายๆ ซึ่งคำว่าจริยธรรมก็เหมือนกันโดยจริยธรรมคุณธรรมของผู้บริหารควรจะมีคือ 1.ผู้บริหารต้องมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งแรก 2.ความซื่อสัตย์สุจริต 3.ต้องมีเหตุมีผลต้องรู้จักไตร่ตรองไม่หลงงมงาย มีความยับยั้งชั่งใจ โดยไม่ผูกพันกับอารมณ์และความยึดมั่นที่มีอยู่เดิม 4.กตัญญูกตเวที
5.ผู้ บริหารที่ดีต้องมีระเบียบวินัยไม่ใช่วันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้พูดอย่าง 6.ผู้บริหารต้องเสียสละคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้ 7.ต้องประหยัด 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นคุณธรรมนำใจในการบริหาร
นาย สุเมธ หยิบยกข้อความถึงการเป็นข้าราชการที่ดีว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจิตใจ ที่ต้องมีธรรมะประชาชนหวังว่าข้าราชการจะปฏิบัติกับเขาอย่างเป็นธรรมหากเขา ไม่ได้รับความเป็นธรรมผลคือเขาเจ็บใจ ดังนั้น หากทำให้ประชาชนชื่นใจข้าราชการต้องยึดมั่นหลักปฏิบัติ นักบริหารแผ่นดินต้องบริหารด้วยใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของจริยธรรมคุณธรรม
“ธรรมะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้และเป็นหลักที่เข้าใจง่ายที่สุด คือ ทศพิธราชธรรม 10 ข้อ ซึ่งพระองค์ทรงปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง แล้วเรารับผลพวงจากพระองค์ พระองค์รับสั่งว่าประมุขของประเทศตามปกติจะนั่งอยู่ยอดพีระมิด แต่เมืองไทยเราจะเป็นลักษณะพีระมิดหัวกลับ ฉันอยู่ก้นกรวย ใครทำอะไรก็เทใส่ฉัน ท่านรับสั่งแบบนี้“ นายสุเมธ กล่าว
นาย สุเมธ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญอีกประการคือ หลักขันติธรรมและความอดทน คงไม่ต้องบอกว่าพระองค์ท่านมีแค่ไหน อย่างที่บอกว่าท่านรับสั่งว่าตัวเองอยู่ก้นกรวย รับหมดทุกอย่างเวลานี้พอเวลาเกิดเรื่องเกิดราวอะไรก็ถึงท่านแล้ว ประชาชนทุกข์ยากอะไรถึงท่านหมด วันๆ รับฎีกาเยอะแยะไปหมด
#17
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 21:05
พรุ่งนี้
มันก็มีดอกใหม่ออกมาสู้อีก
อยู่ในนรกนี่มันอึดอัดนะ
(ผมหมายถึงคณะรัฐมนตรีครับ)
#18
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 21:09
เรื่องจริง -ไม่ได้- เป็นไปตามกระทู้
แหม ห่าเอ็ม ถ้าเป็นตอนนั้น ห่าเอ็มก็จะบอกว่า ทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี ไอ้แม้วมันก็ได้ลาออกนายกรักษาการณ์ โดยไม่ผิดกฎหมายใช่มั้ยล่ะ
#19
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 21:42
รู้แต่ว่าตอนนี้อ้างรธน. ว่าทำไม่ได้
ทีตอนจะแก้รธน.ตามใจกรู ดันบอกว่า กรูมีอำนาจทำได้
Edited by อาตี๋, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 21:43.
สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น
ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ
#21
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 00:06
รัฐธรรมนูญคนละฉบับจะเอามาอ้างทำไม ตอนปี 51 ทำไมชวรัตน์เป็นนายกรักษาการได้ ทำไมสมชายถึงไม่เป็นนายกรักษาการล่ะ
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน