เมื่อทหารประชาชนตัดสินใจไม่ปกป้องผู้นำปล้นชาติ….(บทความของคุณสุทธิชัย หยุ่น ตอนที่ 2)
25 พฤศจิกายน 2013
โดย blogger [อ่าน 1944 คน , ยังไม่มีความเห็น ,
ID]
เชิญอ่านบทความเรื่อง “ย้อนรอยการโค่นเผด็จการมาร์กอส” ตอนที่ 2 ของคุณสุทธิชัย หยุ่น ได้เลยครับ
ภาณุมาศ ทักษณา
……………………………………..
ครบ รอบ 20 ปีของการโค่นล้มจอมเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ของฟิลิปปินส์ อันเกิดจากการชุมนุมใหญ่อย่างอหิงสาของประชาชนนับล้านคน ที่เรียกว่า People Power นั้น มีเหตุจะต้องย้อนไปดูเพื่อประกอบการพิจารณาสถานการณ์บ้านเมืองไทย วันนี้ใน หลายประการ
เพราะเหตุปัจจัยที่ละม้ายคล้ายกันหลายประเด็นเมื่อ 20 ปีก่อนกับวันนี้
ผู้นำมาจากการเลือกตั้ง อ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเขา
ผู้นำถูกกล่าวหาว่าไร้จริยธรรม, และมีผลประโยชน์ทับซ้อนมหาศาล
ประชาชนทนภาวะการโกงกินบ้านเมืองอย่างกว้างขวางไม่ได้ ทนเห็นการไร้จริยธรรมในผู้นำไม่ไหวอีกต่อไป
ผู้นำดูถูกสติปัญญาชาวบ้าน, แก้ตัวไปวันๆ, ไม่ยอมตอบคำถามเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนอันรุนแรงของตัวเอง
มาร์ก อส ประกาศเลือกตั้งใหม่ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1986 ฝ่ายค้านส่ง คอราซอน อคิโน เข้าแข่ง เธอคือภรรยาของผู้นำฝ่ายค้าน เบนิกโน อคิโน ซึ่งถูกลอบสังหารที่สนามบินมะนิลา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1983 อันเป็นวันที่กลับจากการลี้ภัยการเมืองที่อเมริกา 3 ปี เพราะอำนาจมืดของมาร์กอส
การ เลือกตั้งครั้งนั้นโกงกินกันมหาศาล เพราะมาร์กอส กุมกลไกรัฐ คณะกรรมการเลือกตั้ง (COMELEC) ก็กลายเป็นเครื่องมือของรัฐ ประกาศให้มาร์กอส ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเฉียดฉิว…10,807,197 ต่อ 9,291,761 แต่องค์กรกลางที่เฝ้าติดตามผลการเลือกตั้งประกาศว่ามาร์กอส ชนะอคิโน เพียงแค่ 7,835,070 ต่อ 7,053,068 หรือแค่เจ็ดแสนกว่าเสียงเท่านั้น
คณะผู้นำศาสนาออกแถลงการณ์ประณามการโกงคะแนนเลือกตั้งและวุฒิสภาสหรัฐ ก็ลงมติให้ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งเช่นกัน
การ ปฏิวัติประชาชนเพื่อโค่นเผด็จการผู้มีอำนาจเกือบเบ็ดเสร็จในประเทศ เริ่มด้วยการรวมตัวของประชาชนผู้สิ้นหวังใน “ระบอบมาร์กอส” ที่ปล่อยให้วงศ์วานว่านเครือใช้อำนาจรัฐเข้าไปทำมาหากินอย่างโจ๋งครึ่ม เป็นผู้นำไร้จริยธรรม
แม้ ว่ารัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์ ตอนนั้นจะกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ไม่เกิน 2 สมัยๆ ละ 4 ปี แต่มาร์กอสก็หาทางแก้กฎหมายจนตัวเองสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ ได้ยาวนานถึง 20 ปี (ด้วยการประกาศภาวะฉุกเฉิน, ระงับการใช้รัฐธรรมนูญเก่า, ให้เนติบริกรของตัวเองเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ให้สอดคล้องกับความต้องการของท่านผู้นำ) ก่อนที่ประชาชนจะรวมตัวกันเป็น People Power เพื่อขับไล่ออกจากตำแหน่งและให้กับลี้ภัยต่างประเทศจนไม่มีแผ่นดินอยู่
มาร์กอส กุมอำนาจการเมืองเบ็ดเสร็จด้วยการใช้เงินทุ่มซื้อเสียงในการเลือกตั้งอย่างมหาศาล
มาร์กอส มีความสามารถเป็นพิเศษในการ “ปั่น” ความเห็นชาวบ้าน,สร้างภาพด้วยการเอาเงินภาษีประชาชนแจกเงินไม่อั้น,เป็นยอด นักบริหารให้เกิดการโกงกินอย่างไร้เทียมทาน, ใช้กลเม็ดแยบยลทั้งด้านกฎหมายและช่องว่างของระเบียบ เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัวของตน
มาร์ก อส บริหารประเทศเหมือนสโมสรส่วนตัว สามารถควบคุมกองทัพ, สภา, ศาล, ข้าราชการประจำ, สื่อมวลชน และธุรกิจผูกขาดยักษ์ๆ ของประเทศทั้งหมด
มาร์กอสและ “พรรคพวก” สร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่มของตัวเองอย่างมหาศาล ขณะที่ประเทศชาติและคนนอกสังกัดของมาร์กอส ยากจนลง
หลังการเลือกตั้งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1986 อคิโนเสนอ “แผนต่อต้านแบบอหิงสาเจ็ดข้อ” เพื่อเชิญชวนประชาชนมาประท้วงเผด็จการ
แผน ต่อสู้เผด็จการโกงกินนี้รวมถึงการหยุดงานอาทิตย์ละหนึ่งวัน และคว่ำบาตรไม่ใช้บริการของธนาคาร, ร้านรวงและหนังสือพิมพ์ของมาร์กอส และคนรอบข้างมาร์กอสทั้งหลายทั้งปวง
เธอ ประกาศให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมว่า “หากยักษ์ใหญ่โกลีเอี๊ยดไม่ยอมลงจากตำแหน่ง, เราก็จะใช้ความอดทนมุ่งมั่นและสามัคคีของประชาชน เพื่อกระตุ้นให้การต่อสู้อย่างสงบของเราดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง…
ไม่ชนะ, เราไม่เลิก…”
นั่นคือจุดเริ่มต้นของขบวนการสู้กับเผด็จการมาร์กอสแล้ว
เมื่อ ประชาชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อแสดงความไม่พอใจกับเผด็จการ, คอร์รัปชันและการขาดจริยธรรมอย่างรุนแรง กองทัพก็เริ่มพิจารณาจุดยืนของตัวเองที่จะต้องเข้าข้างประชาชน ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของนักการเมืองคลั่งอำนาจและทุจริต
จุด ผันเปลี่ยนอันสำคัญของขบวนการประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคราวนั้น คือการตัดสินใจของนายทหารสองคนที่เดินข้ามไปหาประชาชนผู้ประท้วงพร้อมกับ ประกาศว่า “กองทัพอยู่ข้างประชาชนผู้เรียกร้องความโปร่งใสและความสุจริต…”
คน แรกคือ รัฐมนตรีกลาโหมฮวน พอนซ์ เอ็นริเล่ และคนที่สองคือ รองเสนาธิการทหารในตอนนั้น นามว่า ฟิเดล รามอส (ซึ่งต่อมาเป็นประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งและยังมีบทบาทสำคัญในการเมือง ระดับชาติของฟิลิปปินส์ในวันนี้)
นาย ทหารผู้รักชาติกลุ่มนี้ตัดสินใจประกาศจุดยืนไม่ยอมปกป้องผู้นำที่ สร้างความร่ำรวยจากการปล้นทรัพย์สมบัติของชาติและโกงกินภาษีประชาชน เพราะพวกเขาถือตนเป็น “ทหารของประชาชน
http://chaoprayanews...รประชาชนตัดสิน/
ถึงเวลาประเทศไทยจะมี"ทหารของประชาชน"แล้วยัง ?
หากดูจากการที่'กำนันสุเทพ'ไปพบผู้นำกองทัพไทย ผบ.สส. ผบ.ทบ.ผบ.ทร. ผบ.ทอ....
ประเทศไทยยังไม่มี"ทหารของประชาชน".......ฮ่า ฮ่า อ่า ฮ่า