"ตระกูล"ชี้เวทีหาทางออกประเทศ เพื่อหาเสียงสนับสนุนแนวคิดของแต่ละฝ่าย ไม่ตอบโจทย์ วิเคราะห์การเมืองจะสู้ทางความคิดยื้ดเยื้อ
นายตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการจัดเวทีพูดคุยเพื่อหาทางออกให้กับประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา ของทั้งภาคเอกชน, กองทัพ และรัฐบาล ว่าไม่ใช่เป็นเวทีที่ร่วมหาทางออกสำหรับประเทศ แต่เป็นเวทีที่ให้แต่ละฝ่ายร่วมประกาศจุดยืนของตนเองต่อสถานการณ์ทางการเมืองเท่านั้น และหาพลังเพื่อมาสนับสนุนแนวความคิดว่าจะปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ. 57 หรือ จัดให้มีการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57ก่อนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งตนมองว่าการต่อสู้บนฐานความคิดดังกล่าวจะไม่มีฝ่ายใดชนะ หรือ แพ้ แต่จะทำให้เกิดปรากฎการณ์ของการรณรงค์ไม่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการคัดค้านการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวแปรสำคัญ คือ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเป็นพรรคการเมืองที่มีส่วนได้ส่วนเสีย จะส่งบุคคลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
"ผมมองว่าการต่อสู้รอบนี้ ไม่ได้เป็นการต่อสู้ของพรรคการเมือง ระหว่าง พรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่รอบนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องวัดใจว่าจะส่งคนลงสมัครรรับเลือกตั้งหรือไม่ เพราะประชาธิปัตย์คือพรรคการเมืองที่ยืนบนแนวคิดการเลือกตั้งตามระบอบรัฐธรรมนูญ หากประชาธิปัตย์ส่งคนลงสมัครถือเป็นการประกาศแตกหักกับมวลมหาประชาชน และอาจทำให้ประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งในหลายเขต หรือคะแนนของระบบบัญชีรายชื่อจะหายไป อย่างน้อย ๆ ก็ 1 ล้านเสียง"นายตระกูล กล่าว
นายตระกูล กล่าวต่อว่า สำหรับการต่อสู้ทางการเมืองรอบนี้ตนมองว่าเป็นการต่อสู้ในแนวความคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตย 2 แบบ คือ
1.ทุนนิยมผูกขาดที่บริหารประเทศภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน และเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ
2. ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม และอำนาจนิยม ที่รวมตัวเพื่อต่อสู้กับทุนนิยมผูกขาดพรรคการเมือง
ดังนั้นการจัดเวทีต่าง ๆ จึงไม่ได้ตอบโจทย์เพื่อหาทางออกแต่คือการหาคนเพื่อมาสนับสนุนแนวคิดของฝ่ายตนเท่านั้น เช่น เวทีของรัฐบาลที่จัดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. คือเพื่อหาการสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปประเทศ เพราะสาระของการหารือไม่มีประเด็นว่าจะปฏิรูปเรื่องใดบ้าง ขณะที่เวทีของ กปปส. ที่เตรียมจะจัดก็เป็นเพียงการนำมวลชนมาสนับสนุนแนวคิดปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง โดยไม่มีข้อสรุปทีตกผลึกว่าจะปฏิรูปเรื่องใดบ้าง ทั้งนี้การต่อสู้ลักษณะดังกล่าวจะมีต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหมดแรง หรือมีอุบัติเหตุทางการเมือง
นายตระกูล กล่าวถึง พรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ทั้ง พรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นแกนนำ, พรรคชาติพัฒนา ที่มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นแกนนำ, พรรคพลังชล ที่มีนายสนธยา คุณปลื้ม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นแกนนำว่า เป็นเพียงเบี้ยทางการเมือง และเป็นองค์กรทางการเมืองที่หวังเข้ามาฉกประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น โดยไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่มีความคิดที่จะปฏิรูปการเมืองใด ๆ ส่วนทางออกของปัญหาตอนนี้ไม่มีใครมองเห็นทางออกได้ แต่เชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการตื่นตัวของภาคประชาชนในเรื่องการเมือง และไม่ว่าพรรคการเมืองใดมาเป็นรัฐบาลจะได้รับการตรวจสอบแบบคู่ขนานจากประชาชน
http://www.bangkokbi...ม่ตอบโจทย์.html
Edited by dragon baby, 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:03.