คุณปู จิตกร บุษบา ช่างสรรค์หาคำและตัวอย่าง
มาแสดงให้เห็นภาพอยู่เสียเรื่อยเชียว....
รัฐบาลซึ่งไว้ใจเรื่องการใช้เงินงบประมาณก็ไม่ได้ ไว้ใจเรื่องการออกกฎหมายก็ไม่ได้ ไว้ใจเรื่องการใช้อำนาจก็ไม่ได้ ยังสมควรเป็นรัฐบาลรักษาการ ใช้งบประมาณ ใช้อำนาจ และดูแลจัดการการเลือกตั้ง โดยที่ตัวเองก็ลงแข่งขันด้วยอย่างนั้นหรือ เราเอานักกีฬาที่ขี้โกง มาเป็นทั้งกรรมการและผู้เข้าแข่งขันเสียเลยอย่างนั้นหรือ
https://www.facebook...korn?ref=stream
ปาก “ประชาธิปไตย” แต่ใจมัน “ตอแหล” !!
นอกเหนือจากคำว่า “อีโง่” ที่พิมพ์ลงไปในระบบการค้นหาของ “กูเกิ้ล” แล้วเจอรูปนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โผล่ขึ้นมาเป็นจำนวนมากแล้ว ผมกับเพื่อนกำลังถกเถียงกันว่า ยิ่งลักษณ์อาจมีสถิติใหม่ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกอย่างคือ เธออาจเป็นผู้หญิงที่ถูกด่าว่า “ตอแหล”มากที่สุดในโลกก็เป็นได้ ว่างๆก็อยากให้ อ.สุขุม เฉลยทรัพย์ ลองสำรวจดู
โดยเฉพาะเวลานี้ ซึ่งควรเป็นเวลาของการสำนึกผิด เวลาของการขอโทษ และเปิดทางให้บ้านเมืองได้เกิดการปฏิรูป แต่นางยิ่งลักษณ์ยังคงเดินหน้า“แสร้งว่าไม่เข้าใจ”หรือพูดง่ายๆ ว่า “ตอแหล” ต่อไป อย่างไม่ลด ละ เลิก เช่น
1) เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2556 ที่สโมสรทหารบก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่กลุ่ม กปปส.เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการว่า ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญถือเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีที่ต้องบริหารประเทศจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ไม่ใช่ว่าจะลาออกได้เลย ซึ่งต้องรับหน้าที่ไปจนกว่าจะมีผู้ที่มารับตำแหน่งใหม่ตามกลไกรัฐธรรมนูญสำหรับการเลือกตั้งมีพระราชกฤษฎีกา(พร.ฎ.)การเลือกตั้งขึ้นมาแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องทำให้การเลือกตั้งดำเนินไปตาม พ.ร.ฎ.ดังกล่าว ตามที่ประกาศไว้ คือวันที่ 2 ก.พ. 2557
ตอบนางยิ่งลักษณ์ : นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ตอบคำถามในเว็บไซต์“มีชัยดอทคอม” เกี่ยวกับข้อสงสัยทางกฎหมายว่า นายกรัฐมนตรีลาออกในระหว่างรักษาการได้หรือไม่ โดยมีรายละเอียดของคำถามและคำตอบดังนี้
“คำถาม - เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 คืออะไร - มาตรา 7 จะใช้ได้เมื่อได้ และขอบเขตการใช้อยู่ที่สถานการณ์ หรือบริบทแบบไหน พระราชดำรัส 25 เม.ย.2549 จะเป็นบรรทัดฐานของการใช้หรือไม่ใช้ มาตรา 7 ไหม
คำตอบ - มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเขียนไว้สำหรับกรณีที่เกิดเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ไม่มีบทบัญญัติเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่าจะให้ทำอย่างไร ก็ให้ทำไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น ในกรณีมีการยุบสภา รัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติรองรับไว้ว่า จะต้องทำอย่างไรกันต่อไป กล่าวคือ กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งให้อยู่รักษาการต่อไป ก็ต้องรักษาการต่อไป จะไปใช้มาตรา7 ก็ไม่ได้ เพราะเป็นกรณีที่มีบทบัญญัติไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีเกิดตายไป หรือง่อยเปลี้ยเสียขา หรือเบื่อขี้หน้าเต็มทีไม่อยากอยู่รักษาการต่อไป ลาออกเสียดื้อๆ ก็มีกฎหมายรองรับว่า รองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งก็ขึ้นรักษาการต่อไป อย่างนี้ก็นำมาตรา 7 มาใช้บังคับไม่ได้อีก
แต่ถ้านายกรัฐมนตรี ตาย หรือง่อยเปลี้ยเสียขา หรือเบื่อขี้หน้าขึ้นมาพร้อมๆ กับรัฐมนตรีคนอื่นๆ จนไม่มีใครเหลืออยู่ สภาผู้แทนก็ไม่มีแล้ว เพราะยุบไปแล้ว อย่างนี้ก็จะเห็นได้ว่า ไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตราใดบอกไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข บ้านเมืองจะต้องมีคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องหาทางตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาบริหารประเทศให้จงได้ เหลือองค์กรอำนาจอะไร ก็ต้องใช้องค์กรอำนาจนั้นเท่าที่มีอยู่เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ ที่มีคนบอกว่าในระหว่างรักษาการนั้นลาออกไม่ได้น่ะ น่าจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
การลาออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ถ้าไม่อยากอยู่ในตำแหน่งอะไร ก็ไม่มีใครบังคับให้ต้องอยู่ต่อไปได้ ขนาดคนเป็นข้าราชการตำแหน่งเล็กๆ น้อยๆ วันดีคืนดีไม่อยากเป็นข้าราชการต่อไปจะลาออกเสียเมื่อไรก็ได้ อย่างมากที่ทางราชการจะทำได้ ก็คือ การยับยั้ง ซึ่งก็ทำได้เพียงชั่วคราวไม่เกินสามเดือน หลังจากนั้นก็ต้องยอมให้เขาออกไป แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีไม่มีกฎหมายอะไรบังคับไว้ว่าใครจะยับยั้งได้ บทบัญญัติที่ให้รักษาการกันอยู่ต่อไปน่ะ ใช้เฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะเท่านั้น ไม่ได้ใช้กับกรณีที่ต่างคนต่างทยอยลาออกหรือล้มหายตายจากไป อย่าว่าแต่เรื่องลาออกเลย ถ้าในระหว่างรักษาการ เกิดมีรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งทำทุจริตคิดมิชอบเสียจนรับต่อไปไม่ได้ หรือเกิดเบื่อขี้หน้าขึ้นมา นายกฯ ก็ยังมีอำนาจกราบบังคมทูลเพื่อเอาออกจากตำแหน่งเสียได้ มิใช่หรือ
ก็ทีรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในมาตรา 126 ชัดๆ ว่า “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ” ยังมีรัฐมนตรีออกมาแถลงอย่างโจ่งแจ้งว่าไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ แล้วพอมาตรา181 บัญญัติว่า “คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” ถึงกับจะยอมผูกมัดจนแปลไปว่าลาออกก็ไม่ได้ทีเดียวหรือ”
2) นางยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า ต้องเรียนว่า ตนมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หากจะขอไปก็ขอไปโดยกระบวนการของการเลือกตั้ง และเชิญชวนทุกคนให้ใช้กติกาการเลือกตั้ง ที่ถือเป็นกติกาที่ทุกคนและนานาประเทศยอมรับในการตัดสินผู้ที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาล ส่วนผู้ที่จะมานำเรื่องการปฏิรูปประเทศ ก็มีกลไกอยู่ และอยากเชิญชวนทุกคนว่ากลไกนี้ เป็นกลไกที่ได้รับการยอมรับ จึงขอความเห็นใจว่า เรามาจากการเลือกตั้ง อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
ตอบนางยิ่งลักษณ์ : ไม่เคยมีใครปฏิเสธเลยว่า นางยิ่งลักษณ์และพวก “เข้าสู่อำนาจ” อย่างถูกต้อง ผ่านกระบวนการการเลือกตั้ง และได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนให้เป็นเสียงส่วนใหญ่ จึงได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่เลือกให้เธอเป็นนายกฯ
แต่เมื่อได้อำนาจมาแล้ว เธอ“ใช้อำนาจ”นั้น อย่างมีธรรมาภิบาล อย่างมีนิติธรรม อย่างซื่อตรงต่อหลักการประชาธิปไตย และอย่างมียางอายหรือไม่
เธอออกคำสั่งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนสี อย่างไม่เป็นธรรม จนกระทั่งศาลปกครองมีคำสั่งให้คืนเก้าอี้เลขาฯ สมช. ให้แก่นายถวิล จนบัดนี้เธอก็ยังไม่ได้ทำ และนายถวิลยังคงได้รับความอยุติธรรมจากนางยิ่งลักษณ์และพวกต่อไป
เธอใช้อำนาจนายกฯและรัฐบาลทุ่มงบประมาณแผ่นดินลงไปกับโครงการรับจำนำข้าว แต่เพิกเฉย ใช้อีกมาตรฐานหนึ่งกับเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน หลังจากนั้นก็ไปช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวโพดได้ เสมือนที่ช่วยชาวนา เงินงบประมาณที่ทุ่มลงไป ไม่เคยเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินตรวจสอบได้เลยว่า ซื้อข้าวมาเท่าไหร่ ขายไปเท่าไหร่ มีผลกำไร เท่าทุน หรือขาดทุนอย่างไร ขณะนี้เก็บข้าวไว้รอวันเสื่อมสภาพอีกเท่าไหร่ เป็นหนี้เท่าไหร่ มีการคดโกงกันไปเท่าไหร่ ชาวนาจริงๆได้เท่าไหร่ ธ.ก.ส.จะเจ๊งหรือไม่ ชาวนาที่กำลังประท้วงอยู่เวลานี้ จะได้เงินวันไหน
เธอ, ผู้คนในพรรคและในคณะรัฐบาลของเธอ ผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นกฎหมายที่แสนชั่วชาติ เป็นการเอาอำนาจของประชาชนไปออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่โจร ซึ่งเป็นคนในครอบครัวของผู้นำรัฐบาล และตัวนางสาวยิ่งลักษณ์เอง ก็จะพลอยได้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย หากกฎหมายมีผลนิรโทษกรรมแก่คดีทุจริตของทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ซึ่งร้องสอดไว้ในศาลว่าทรัพย์ส่วนหนึ่งในคดี เป็นทรัพย์ของเธอ ยังไม่รวมขี้ข้าบริวารและผู้รับใช้ของเธอ ที่ก่อการปลุกปั่น ยั่วยุประชาชนให้ใช้ความรุนแรง บุกโรงพยาบาล เผาห้าง เผาโรงหนัง เผาร้านค้า เผาศาลากลาง ซึ่งควรได้รับโทษตามกฎหมาย หากศาลพิจารณาและพิพากษาออกมา แต่กฎหมายดังกล่าวก็ไปทำลายอำนาจฝ่ายตุลาการ ซึ่งบางคดีศาลตัดสินไปแล้ว(คดีที่ดินรัชดา, คดีร่ำรวยผิดปกติของทักษิณ) เป็นกฎหมายที่ทำลายหลักการถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งไม่ใช่พฤติกรรมของ “คนที่เคารพประชาธิปไตย” ยังจะหน้าด้าน แอบอ้างความเป็นประชาธิปไตยอย่างไม่กระดากอาย
และยิ่งลักษณ์กับพวกมิใช่หรือ ที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยที่มาของ ส.ว. ซึ่งศาลได้วินิจฉัยแล้วว่า เป็นการแสวงหาอำนาจ ซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางที่กฎหมายบัญญัติ ไม่เคารพหลักการประชาธิปไตย เพราะไปตัดสิทธิ์เสียงข้างน้อยไม่ให้ได้อภิปราย ไม่ให้ได้ทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทยอีกส่วนหนึ่ง และใช้วิธีการ “ทุจริต” ทุกขั้นตอน คือ ปลอมแปลงสับเปลี่ยนเอกสารที่นำเข้าสู่การพิจารณาของสภา คดโกงในการนับวันแปรญัติ และทุจริตในการลงมติ ด้วยการกดบัตรแสดงตนแทนกันและลงมติแทนคนที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วย ต่อมา ยังออกแถลงการณ์ไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎหมายสูงสุดของราชอาณาจักร อย่างนี้ ยังจะอ้างความชอบธรรม อ้างกฎหมาย อ้างความเป็นประชาธิปไตยอย่างหน้าหนาๆ อยู่ได้อย่างไร ช่างหน้าไม่อายจริงๆ
ก็เพราะพฤติกรรมเลวชาติ ขาดความเป็นประชาธิปไตย ขาดความน่าเชื่อถือ ขาดความเคารพกฎหมาย แสวงหาแต่อำนาจและประโยชน์เข้าตัวอย่างนี้ไม่ใช่หรือ ประชาชนเขาจึงออกมาเดินขบวนกันเป็นล้านๆ คน เพื่อให้ออกไปจากอำนาจ เปิดทางให้มีการปฏิรูป ซึ่งไม่ใช่การปฏิรูปโดย “รัฐบาลที่เป็นโมฆะ” ประกาศตนอยู่เหนือกฎหมาย
คนเขาไม่ได้รังเกียจการเลือกตั้ง แต่เราจะเลือกตั้งกันไปทำไมในเวลานี้ ที่รัฐบาลที่ทำผิดกฎหมาย ไม่มีจิตใจประชาธิปไตย ไม่มีธรรมาภิบาล ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยสักอย่างในสิ่งที่ตนกระทำ ทั้งความล้มเหลวในการบริหาร ขับเคลื่อนนโยบาย การใช้อำนาจโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม การออกกฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญและมุ่งให้ได้มาซึ่งอำนาจ รัฐบาลสันดานแบบนี้หรือ ที่คนเขาจะวางใจให้เป็นผู้อยู่จัดการเลือกตั้ง
นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างความเสียหาย และนักการเมืองชุดเดียวกันนั้น บอกว่าไม่เป็นไร ฉันยุบสภาแล้วไปเลือกตั้งใหม่กันดีกว่า ถามว่า มันเกิดการแก้ไขปัญหา และลงโทษต่อคนที่ต้องรับผิดชอบอย่างไรบ้างล่ะครับ
3) เมื่อถามต่อว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ จะทำอย่างไรให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม นายกรัฐมนตรีรักษาการกล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้มีการขอความร่วมมือ เพราะรัฐบาลต้องประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลยินดีให้ความร่วมมือในการจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และโปร่งใส อีกทั้งขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งให้ผลการเลือกตั้ง เป็นที่ยอมรับของทุกคน
ตอบนางยิ่งลักษณ์ : พูดถึงความรับผิดชอบทั้งหลายก่อนดีไหม นักศึกษารามถูกปิดมหาวิทยาลัย ไล่ฆ่าทั้งวันทั้งคืน มีนายกฯประเทศไหนเขาหน้าด้านอยู่โดยไม่รับผิดชอบบ้าง จำนำข้าวสร้างความหายนะ ฉิบหายวายป่วงไปทุกกระบวนการ มีนายกฯประเทศไหนเขาหน้าด้าน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้บ้าง ปฏิเสธอำนาจศาล ออกกฎหมายช่วยโจร ฯลฯ เหล่านี้จะรับผิดชอบอย่างไรคะ นักข่าวก็ไม่(***) ถามแทนประชาชนซะด้วย
รัฐบาลซึ่งไว้ใจเรื่องการใช้เงินงบประมาณก็ไม่ได้ ไว้ใจเรื่องการออกกฎหมายก็ไม่ได้ ไว้ใจเรื่องการใช้อำนาจก็ไม่ได้ ยังสมควรเป็นรัฐบาลรักษาการ ใช้งบประมาณ ใช้อำนาจ และดูแลจัดการการเลือกตั้ง โดยที่ตัวเองก็ลงแข่งขันด้วยอย่างนั้นหรือ เราเอานักกีฬาที่ขี้โกง มาเป็นทั้งกรรมการและผู้เข้าแข่งขันเสียเลยอย่างนั้นหรือ
4) เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาส อยากจะกลับมาทำงานบริหารประเทศและแก้ปัญหาให้กับประชาชนอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องรอให้มีการเลือกตั้งก่อน ยังไม่ขอพูดประเด็นนี้ ส่วนตัวสนับสนุนให้มีการปฏิรูป เพราะเราได้เสนอให้มีเวทีปฏิรูปมาก่อนหน้านี้แล้ว
“ต้องเรียนว่าดิฉันเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินไทย ก็อยากทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน น้อมรับในทุกบทบาทที่พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินให้ดิฉัน และจะขอยืนเคียงข้างรับใช้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน”
ตอบนางยิ่งลักษณ์ : ก็ถ้ารักประเทศไทยจริงๆ ประชาชนเขาขอโอกาสปฏิรูปประเทศ โดยประชาชน ไม่ใช่โดยคุณ ซึ่งเป็นผู้ทำลายหลักการของประเทศ ทำไมคุณไม่ให้เขาล่ะ
ขอย้ำคำเดิมนะครับคุณยิ่งลักษณ์ครับ กรุณา “ลดความตอแหลลง และเพิ่มความรับผิดชอบต่อแผ่นดินถิ่นเกิดของคุณซะ” อย่าให้คนเขาเกลียดชังคุณมากไปกว่านี้เลย อย่ารับใช้พี่ชายจนทำลายชีวิตของคุณให้มากไปกว่านี้เลย