24 ความเห็นในกระทู้นี้

[zeed~ko]

ทางการอินเดีย นำรถยก และรถแบ็คโฮมาลากแท่งคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เป็นแนวแบริเออร์หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เพื่อตอบโต้ทางการสหรัฐฯ หลังนักการทูตอินเดียในนิวยอร์ก ถูกจับเปลื้องผ้าตรวจค้นร่างกาย
ทั้งนี้นักการทูตคนดังกล่าวคือ นางเดฟยานี โคห์บราเกด รองกงสุลใหญ่อินเดีย ประจำนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ถูกจับเปลื้องผ้าเพื่อตรวจค้นร่างกายก่อนนำตัวไปกักขัง ในข้อหาจ่ายค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายสหรัฐฯกำหนด รวมทั้งปลอมแปลงวีซ่า เพื่อนำพาพี่เลี้ยงเด็กชาวอินเดียเข้าสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้สร้างความโกรธแค้นให้นักการเมืองระดับสูงของอินเดีย ที่ออกมาประณามการปฏิบัติดังกล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดีย ใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐฯรุนแรงยิ่งขึ้น แม้ว่านางโคห์บราเกดได้รับอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว
ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ชี้แจงว่า การจับกุมตัวนางโคห์บราเกด เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯ และอินเดีย

 

[ตุ๊ ต่องแต่ง]

โมเดลมวลมหาประชาชนเลยนะฮะ

[bonnerr]

เท่าที่ทราบ กงสุลใหญ่ รองกงสุลใหญ่ หรือข้าราชการประจำสถานกงสุล เป็นนักการทูต ถือหนังสือเดินทางทูต ปกสีแดง จะได้รับความคุ้มครองทางการทูตตามสนธิสัญญากรุงเวียนนา

ตำรวจจะจับไม่ได้ อย่างดีแค่ส่งตัวกลับประเทศ

สงสัยทำไมตำรวจอเมริกันถึงจับรองกงสุลใหญ่ ของอินเดียได้

[ควันหลง]

ถ้าตัวเจ้าหน้าที่ของฝ่ายอินเดียทำผิดกฎหมายสรอ. ทางการอินเดียก็ไม่ควรปกป้องเหมือนเลยครับ ไม่ใช่ว่าคุณเอกสิทธิ์การฑูตแล้วไปทำผิดกฎหมายในบ้านเขาได้ตามอำเภอใจ ต้องเคารพและให้เกียรติเจ้าบ้านด้วย ถ้าถึงขนาดปลอมวีซ่า นี่ผมว่าไม่ไหวครับ ตั้งใจละเมิดกฎหมายเขาตรงๆเลย 

 

คนโดนตบหน้าก่อนหน่ะ สหรัฐฯครับ ไม่ใช่อินเดีย สหรัฐฯ ก็เลยตบคืนซะ

 

มันอาจจะมีเบื้องหลังซ่อนอยู่ก็ได้ สร้างสถานการณ์เพื่อต่อรองผลประโยชน์บางเรื่องอะไรทำนองนั้นครับ

Edited by ควันหลง, 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 00:56.

[GBI]

เท่าที่ทราบ กงสุลใหญ่ รองกงสุลใหญ่ หรือข้าราชการประจำสถานกงสุล เป็นนักการทูต ถือหนังสือเดินทางทูต ปกสีแดง จะได้รับความคุ้มครองทางการทูตตามสนธิสัญญากรุงเวียนนา

ตำรวจจะจับไม่ได้ อย่างดีแค่ส่งตัวกลับประเทศ

สงสัยทำไมตำรวจอเมริกันถึงจับรองกงสุลใหญ่ ของอินเดียได้

 

เท่าที่อ่านข่าว เห็นบอกว่า เธอคนนี้ ขณะที่ถูกจับกุมไม่ได้รับการคุ้มครองแบบเต็มเหยียด (พูดไงล่ะ ฮ่ะๆ)  

 

ตามข่าว ซีเอน ๆ  

 

"Members of consular posts, such as Khobragade at the time of her arrest, do not have the same level of immunity as those who work at diplomatic missions.

 

Consular officers have some immunity involving official acts, but their "personal inviolability" is "quite limited," the document says. They may be arrested and detained for alleged felonies, and may be prosecuted for misdemeanors. Their families have no immunity of any kind."

...

 

"Diplomatic agents, who have the highest level of immunity, "enjoy complete personal inviolability, which means that they may not be handcuffed (except in extraordinary circumstances), arrested, or detained," the State Department document says."

[bonnerr]

ถ้าเป็นข้าราชการประจำสถานกงสุล มีสิทธินำผู้ติดตามไปอยู่ด้วยอย่างน้อย 1 คนอยู่แล้ว ทำไมต้องปลอมแปลงวีซ่าคนเลี้ยงเด็ก

ถึงไม่ได้เป็นนักการทูต แต่ถือหนังสือเดินทางทูต ปกสีแดง ยังได้รับการคุ้มครองทางการทูตเลย เหมือนทักษิณฯ ถือหนังสือเดินทางทูตของไทย

[วันศุกร์]

Since she broke the law, it's right to get arrested, or would you want people like this to get a free pass... Isnt this what we are trying to call for? Everybody is equal in the eye of the law?

[GBI]

ถ้าตัวเจ้าหน้าที่ของฝ่ายอินเดียทำผิดกฎหมายสรอ. ทางการอินเดียก็ไม่ควรปกป้องเหมือนเลยครับ ไม่ใช่ว่าคุณเอกสิทธิ์การฑูตแล้วไปทำผิดกฎหมายในบ้านเขาได้ตามอำเภอใจ ต้องเคารพและให้เกียรติเจ้าบ้านด้วย ถ้าถึงขนาดปลอมวีซ่า นี่ผมว่าไม่ไหวครับ ตั้งใจละเมิดกฎหมายเขาตรงๆเลย 

 

คนโดนตบหน้าก่อนหน่ะ สหรัฐฯครับ ไม่ใช่อินเดีย สหรัฐฯ ก็เลยตบคืนซะ

 

มันอาจจะมีเบื้องหลังซ่อนอยู่ก็ได้ สร้างสถานการณ์เพื่อต่อรองผลประโยชน์บางเรื่องอะไรทำนองนั้นครับ

 

ในแง่ของการทำผิดกฏหมาย เราเห็นด้วยว่า ไม่ว่าใคร ทำผิดกฏหมายควรลงโทษตามกฏหมาย

ยิ่งเป็นพวกเจ้าหน้าที่ของรัฐเองด้วยแล้ว ยิ่งต้องเอาจริงเอาจังในการลงโทษ

 

เคสนี้ เท่าที่อ่าน มันเริ่ม ซับซ้อนเข้าไปอีกแล้ว...จากการให้ข้อมูลเท็จในวีซ่า

มาถึงค่าแรงที่เธอจ่ายให้แม่บ้าน ต่ำกว่า กม.​แรงงานของนิวยอร์ค มาก ๆ

 

อ่านข่าวทั้งจากฝั่งเมกา และฝั่งอินเดีย เริ่ม มึน ๆ อันไหนจริง อันไหนไม่จริง 

[whiskypeak]

กฏหมายบ้านมันต้องศักดิ์สิทธ์ิ แต่รัฐบาลที่ทำผิดกฏหมายบ้านเรา..เ สื อ กออกมาเห็นดีเห็นงามด้วย..มันหมายความว่าไงฟ่ะ..

[GBI]

กฏหมายบ้านมันต้องศักดิ์สิทธ์ิ แต่รัฐบาลที่ทำผิดกฏหมายบ้านเรา..เ สื อ กออกมาเห็นดีเห็นงามด้วย..มันหมายความว่าไงฟ่ะ..

หมายความว่า มันนึกถึงประโยชน์มันเป็นหลัก     

[GBI]

ถ้าเป็นข้าราชการประจำสถานกงสุล มีสิทธินำผู้ติดตามไปอยู่ด้วยอย่างน้อย 1 คนอยู่แล้ว ทำไมต้องปลอมแปลงวีซ่าคนเลี้ยงเด็ก

ถึงไม่ได้เป็นนักการทูต แต่ถือหนังสือเดินทางทูต ปกสีแดง ยังได้รับการคุ้มครองทางการทูตเลย เหมือนทักษิณฯ ถือหนังสือเดินทางทูตของไทย

 

ข้าราชการกงสุลทั่วไป ไม่ได้รับการคุ้มครองการกระทำที่นอกเหนือจากที่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน

(อ้างอิงจาก ข่าวตรงนี้ http://www.cnn.com/2...nity/index.html )

 

คิดว่าเคสนี้ เธอจ้างมาเป็นแม่บ้าน ไม่ใช่มาในฐานผู้ติดตาม (ซึ่งผู้ติดตามในเคสเธอน่าจะเป็นคู่สมรส บุตร มากกว่า??) 

ไม่ยืนยันความถูกต้องตรงนี้ ถ้าผิด ช่วยแก้ไขให้ถูกต้องด้วยนะคะ 

[suukmiie]

ทางการอินเดีย นำรถยก และรถแบ็คโฮมาลากแท่งคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เป็นแนวแบริเออร์หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เพื่อตอบโต้ทางการสหรัฐฯ หลังนักการทูตอินเดียในนิวยอร์ก ถูกจับเปลื้องผ้าตรวจค้นร่างกาย
ทั้งนี้นักการทูตคนดังกล่าวคือ นางเดฟยานี โคห์บราเกด รองกงสุลใหญ่อินเดีย ประจำนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ถูกจับเปลื้องผ้าเพื่อตรวจค้นร่างกายก่อนนำตัวไปกักขัง ในข้อหาจ่ายค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายสหรัฐฯกำหนด รวมทั้งปลอมแปลงวีซ่า เพื่อนำพาพี่เลี้ยงเด็กชาวอินเดียเข้าสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้สร้างความโกรธแค้นให้นักการเมืองระดับสูงของอินเดีย ที่ออกมาประณามการปฏิบัติดังกล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดีย ใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐฯรุนแรงยิ่งขึ้น แม้ว่านางโคห์บราเกดได้รับอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว
ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ชี้แจงว่า การจับกุมตัวนางโคห์บราเกด เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯ และอินเดีย

 

 

ผมว่าประเด็นมันอยู่ตรงนี้มากกว่า

[เพื่อนร่วมชาติ]

อเมริกาก็แค่มาเฟียถังแตก 

[Lektiger]

ผมมองว่าน่าจะเข้าวู่ฤดูกาลของการล่าอาณานอคมแล้วครับเพราะสมบัติเก่าๆที่เคยยึดมาหมดแล้วรวมทั้งทรัพยากรของตัวเองก้อหมดแล้วต้องไปหาใหม่

[ธีรเดชน้อย]

ไม่ได้ตามข่าว น่าจะเป็นเกมส์การเมืองใส่กันหรือเปล่าครับ 

[พอล คุง]

โอ้ววววววววววววววววววว

 

แม่เจ้า เมกา ก้อเมกา เจอคนอินเดียเข้าไป

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[ปุถุชน]

กฏหมายบ้านมันต้องศักดิ์สิทธ์ิ แต่รัฐบาลที่ทำผิดกฏหมายบ้านเรา..เ สื อ กออกมาเห็นดีเห็นงามด้วย..มันหมายความว่าไงฟ่ะ..

 

 

มันสองมาตรฐานอยู่แล้ว.....

รัฐบาลไทย รัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศทักษิณ เป็นนักโทษหนีคุก หนีโทษจำคุก 2 ปี ตามหลักเกณพ์กฏหมาย....

 

แต่รัฐบาลโอบามาเป็น'ไม้หลักปักขี้เลน' เพียง'ไอ้ปึ้งศักดิ์'แจ้งว่ารัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ไม่ยึดถือทักษิณเป็นนักโทษหนีคุก.....

โอบามาและชาติตะวันตกออกวีซ่าให้นักโทษหนีคุก มีโทษจำคุกมากกว่าหนึ่งปีทันที......!

[t045]

อินเดียนนี่ตัวแสบเหมือนกันน่ะ

 

ซึ่งสมัยก่อนไทยเราไปอินเดียนี่ไม่ต้องใช้วีซ่าน่ะ

 

แต่เคยมีเหตุการณ์ที่เรามีปัญหากับฑูตอินเดีย

 

ฑูตอินเดียท่านนั้นโกรธมาก จากนั้นไทยจะไปอินเดียนี่ต้องขอวีซ่า

 

ซึ่งไปยากมาก

[ปุถุชน]

 

กฏหมายบ้านมันต้องศักดิ์สิทธ์ิ แต่รัฐบาลที่ทำผิดกฏหมายบ้านเรา..เ สื อ กออกมาเห็นดีเห็นงามด้วย..มันหมายความว่าไงฟ่ะ..

 

 

มันสองมาตรฐานอยู่แล้ว.....

รัฐบาลไทย รัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศทักษิณ เป็นนักโทษหนีคุก หนีโทษจำคุก 2 ปี ตามหลักเกณพ์กฏหมาย....

 

แต่รัฐบาลโอบามาเป็น'ไม้หลักปักขี้เลน' เพียง'ไอ้ปึ้งศักดิ์'แจ้งว่ารัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ไม่ยึดถือทักษิณเป็นนักโทษหนีคุก.....

โอบามาและชาติตะวันตกออกวีซ่าให้นักโทษหนีคุก มีโทษจำคุกมากกว่าหนึ่งปีทันที......!

 

 

 

รัฐบาลอินเดียไม่ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ.....

เพียงใช้แบริเออร์ปิดกั้นไม่ให้ชาวอินเดียเข้าไปในสถานทูตสหรัฐเท่านั้นแหละ(จริงๆๅ).....!

ผมสนับสนุนครับ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์และขี้ข้าฯไม่เห็นด้วยและสนับสนุน.....

เพราะพวกมันมีความคิดเห็นต่างกับผมเสมอ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[พระฤๅษี]

..... เมกา.... มันเลวมาตั้งแต่ ..ล่องเรือ..หาแผ่นดินซุกหัวนอน

 

โน่นเลย.พฤติกรรม..มัน เห็นแก่ตัวมาตลอด จน ปัจจุบัน. ประ-

 

โยชน์ อยู่ตรงไหน มันก็ไปตรงนั้น. คบกับไอ้กัน ต้องระวัง....

 

ฉันคนหนึ่ง ที่ร่วมไล่มันออกจาก อู่ตะเภา เมื่อครั้งก่อน......

[แม้ว ม.7]

ผมว่าอินเดียผิด แต่ถ้าวัดตามมาตราฐานวัฒนธรรมอินเดีย(วรรณะ)อเมริกาผิด

 

จากข่าว เจ้าหน้าที่คนนี้จะได้รับการคุ้มครองจากการทำงานทางการฑูต (แต่จ้างแม่บ้านไม่ใช้การทำงานฑูต)

 

 

ฮาร์ฟได้กล่าวว่า “การจับกุมตัวของโคบราเกดในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นไปตามมาตรฐานของสหรัฐฯ และเธอยังย้ำว่าโคบราเกดมีความคุ้มกันทางกงสุล(consular immunity) ซึ่งต่างจากความคุ้มกันทางการทูต(diplomatic immunity) หมายความว่าโคบราเกดไม่มีความคุ้มกันทางการทูตอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจากอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้ระบุไว้ว่า โคบราเกดจะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูตโดยการไม่ถูกจับกุมในคดีที่เกี่ยวข้องมาจากการทำงานของเธอเท่านั้น

 

 

 

 

 

ที่ผ่านมาข่าวการจับกุมตัวนักการทูตอินเดียนี้สั่นสะเทือนไปทั่วอินเดีย ในวันอังคาร(17) ผู้นำนักการเมืองจากทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านในอินเดียได้ปฎิเสธที่จะพบกับตัวแทนของสภาคองเกรสสหรัฐฯในกรุงนิวเดลี ด้านรัฐบาลอินเดียได้กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า “คาดไม่ถึงและตกใจที่นักการทูตของอินเดียได้รับการปฎิบัติที่ทำให้รู้สึกอับอายในสหรัฐ” และShivshankar Menon ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอินเดีย ถึงกับประนามการเปลื้องผ้าค้นว่า “เลวทราม” และ “ป่าเถื่อน”
       
       จากรายงานพบว่า ไม่เป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใดที่คนทำงานบ้านที่อินเดียจะได้รับค่าตอบแทนต่ำในขณะที่มีชั่วโมงการทำงานยาวนานกว่า 60 ชมต่อสัปดาห์ และถูกนายจ้างปฎิบัติอย่างเลวร้าย ซึ่งพบเสมอว่าลูกจ้างมักถูกทารุณและคุมขัง
       
       แต่ทว่าข่าวของสตรีอินเดียชนชั้นกลางที่ถูกจับกุมและถูกเปลื้องผ้าค้นตัวนั้นกลับเป็นที่ “น่าตกใจ” ในแดนภารตะแห่งนี้ ระบบความปลอดภัยของสนามบินในอินเดียมีแถวเฉพาะสำหรับสตรี และหากมีการตรวจค้นตัวมักจะทำหลังม่าน
       
       นอกจากนี้ยังพบว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียจะได้รับสิทธิพิเศษโดยที่ไม่ต้องตรวจค้น และมีรายชื่อของเจ้าหน้าที่อินเดียแปะไว้ที่สนามบินหลายแห่งทั่วประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษผ่านจุดตรวจได้ทันที และเมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศต้องผ่านจุดตรวจเช็กในสนามบินสหรัฐฯหรือประเทศอื่นๆ เหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นหัวข้อข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์และถือว่าเป็นการดูหมิ่นประเทศ

 

 

ตามความเห็นผมอินเดียรับไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ถูกจับและถูกแก้ผ้าตรวจก่อนส่งเข้าคุก (ซึ่งฝรั่งมันเฉยๆเรื่องแก้ผ้า)

 

- วัฒนธรรมอเมริกันทุกคนเท่ากัน ได้รับการปฎิบัติเท่ากันตามกฎหมาย

 

- วัฒนธรรมอินเดีย ทุกคนไม่เท่ากัน ได้รับการปฎิบัติตามวรรณะ

[Stargate-1]

แนวหน้า วันพฤหัสบดี ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555, 02.00 น.

เมื่อตอนมีข่าวว่า สหรัฐอเมริกาจะให้คุณทักษิณเข้าประเทศอีก ผมก็ได้รับการสอบถามจากญาติสนิทมิตรสหาย แม้กระทั่งผู้ที่ไม่รู้จักมักคุ้นว่า สหรัฐอเมริกาจะให้คุณทักษิณเข้าประเทศได้หรือ เพราะคุณทักษิณเป็นผู้ต้องโทษมีข้อหาหนีกระบวนการยุติธรรม และถามต่อด้วยว่า ผมคิดอย่างไร
ตอนนั้น ผมได้ตอบแสดงความหวังไว้ว่า สหรัฐเป็นประเทศที่เติบโตมาด้วยระบอบประชาธิปไตย เด็กอเมริกันทุกคนต้องรู้เรื่องการประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ ต้องรู้เรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องรู้เรื่องการแบ่งแยกและการถ่วงดุลอำนาจ ต้องรู้เรื่องสิทธิและหน้าที่ ต้องรู้เรื่องการเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ ประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อเข้ารับตำแหน่ง ต้องสาบานตนต่อพระคัมภีร์ สังคมอเมริกันอยู่กับกฎหมายและอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า อยู่กับศาสนาศีลธรรมและความถูกต้อง ด้วยเหตุฉะนั้นในการตอบคำถาม ผมจึงแสดงความหวังและเชื่อว่า รัฐบาลอเมริกันจะไม่ทำอะไรที่บิดเบือนไปจากอุดมการณ์ ประเพณี ความเชื่อถือ ที่อยู่ในกรอบกฎหมายของความยุติธรรม และศีลธรรมของสังคมอเมริกา
ผมตอบแถมด้วยว่า สังคมอเมริกาและชาวอเมริกันยังเชื่อด้วยว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพรรคการเมืองแข่งขันกัน มีการเลือกตั้ง เพื่อหาตัวแทนไปทำหน้าที่ในสภานั้น เป็นสิ่งที่ดีงาม และการใช้อำนาจที่มาจากประชาชน ต้องมีการแบ่งแยก ต้องคานกัน และมีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน นั่นเป็นสิ่งที่สังคมอเมริกันอยากให้ประชาคมโลกมีด้วย สังคมอเมริกันอยากให้ประชาคมโลกได้เพลิดเพลินกับสิทธิเสรีภาพ ถึงขั้นที่รัฐบาลอเมริกันมีนโยบายส่งเสริมประชาธิปไตยในต่างแดน และในหลายๆ กรณีถึงขั้นกรีธาทัพเข้าไปประเทศต่างๆ เพื่อล้มล้างสังคมเผด็จการเปลี่ยนเป็นสังคมประชาธิปไตย
ผมได้อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลสหรัฐยังได้ขอให้รัฐบาลไทยร่วมมือส่งตัว นายวิกเตอร์ บูท ชาวรัสเซีย ผู้ต้องหาค้าอาวุธและการก่อการร้ายไปขึ้นศาลสหรัฐ ตามข้อตกลงว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนและตามความสัมพันธ์ที่ดีเชิงมิตรจิตมิตรใจต่อกัน แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอเมริกันไม่โอนอ่อนต่อโจรผู้ร้ายใดๆ ที่คุกคามกฎหมายอเมริกัน ที่มิได้จำกัดอยู่แค่ในดินแดนอเมริกา แต่สามารถแพร่ขยาย หรือยื่นมือออกมาสู่โลกภายนอกได้
แต่ทว่า ความหวังของผม และเหตุผลข้อวิเคราะห์ของผมพังทลายสิ้นดี เมื่อข่าวปรากฏออกมาว่า สหรัฐอเมริกาเปิดประตูให้นักโทษชายทักษิณจากประเทศไทยเข้าประเทศเขาเสียแล้ว
ผมอดแสดงความยินดีต่อชัยชนะชั่วคราวของคุณทักษิณไม่ได้ คุณทักษิณคงภูมิใจว่า ดูสิ ผมถูกสังคมไทยกล่าวหาและลงโทษ แต่แม้กระทั่งสหรัฐอเมริกา เจ้าโลกเจ้ากฎเกณฑ์ ยังยอมผมเลย แล้วสังคมไทยจะแข็งกร้าว ทนทานไปได้อีกสักเท่าใด
ประเด็นคือ สังคมไทยไม่ใช่และไม่เหมือนสังคมอเมริกาในแง่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกรณีคุณทักษิณ คนอเมริกันหรือสังคมอเมริกันเกือบทั้งหมด ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคุณทักษิณ ที่รู้เรื่องก็ผู้ที่อยู่ในวงการการเมืองและธุรกิจขนาดยักษ์ แต่ในสังคมไทย คนไทยทุกคนรู้เรื่องคุณทักษิณ จะผิดจะถูกมากน้อยก็พอรู้เรื่อง ส่วนหนึ่งเชียร์ ส่วนหนึ่งคัดค้าน ดังที่ทราบกันดีอยู่ ฉะนั้น รัฐบาลไทยจะทำหรือไม่ทำอะไรเกี่ยวกับตัวคุณทักษิณก็อยู่ในความสนใจ ในความรับรู้ของคนไทยทุกคนโดยตลอด ผิดกับรัฐบาลอเมริกันซึ่งทำอะไรหรือไม่กับคุณทักษิณ คนอเมริกาไม่รู้และไม่มีการตรวจสอบ ไม่วิพากษ์วิจารณ์ เป็นเรื่องของรัฐบาลโอบามาล้วนๆ รัฐบาลโอบามายังไม่ต้องตอบคำถามประชาชนชาวอเมริกันในเรื่องคุณทักษิณ เพราะเขายังไม่รู้เรื่อง ก็ทำให้รัฐบาลโอบามา เปลี่ยนท่าทีจากไม่ให้คุณทักษิณเข้าประเทศ มาเป็นให้เข้าแล้ว
คำถามที่ผมถูกถามต่อมา ก็คือ ทำไมรัฐบาลโอบามาถึงปล่อยให้คุณทักษิณเข้าประเทศได้ ก็ในเมื่อผมได้อธิบายไว้ว่า สังคมอเมริกันเคารพกฎหมาย คำตอบของผมตอนนี้ก็คือ รัฐบาลโอบามาไม่ได้ปฏิบัติตนตามอุดมการณ์ ประเพณีความเชื่อถือของสังคมอเมริกันว่าด้วยการเคารพกฎหมาย ว่าด้วยการไม่ใช้ความรุนแรงในกิจการการเมือง รัฐบาลโอบามาบิดเบือนเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญอเมริกัน มิได้ประพฤติตนให้ถูกต้อง มิได้เป็นรัฐบาลของประชาธิปไตยของประชาชนเพื่อประชาชนและโดยประชาชน รัฐบาลโอบามาคบโจร คบคนกระทำผิด และนอกจากรัฐบาลโอบามาไม่ได้ทำตนให้สมควรต่อสังคมอเมริกันแล้ว รัฐบาลโอบามายังสร้างความเจ็บปวดให้กับสังคมไทย เพราะเลือกที่จะอุ้มชูคนผิด และรัฐบาลโอบามายังดูถูกดูแคลน ไม่ให้เกียรติและเคารพต่อระบบและกระบวนการยุติธรรมของไทยอีกด้วย
ทำไมรัฐบาลโอบามา ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าจะช่วยคนยากคนจน จะบริหารประเทศด้วยความถูกต้องถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมตัวประธานาธิบดีโอบามาซึ่งเป็นคนลูกผสม เป็นชนกลุ่มน้อยที่มีชีวิตหลากหลายในหลายสังคม เชื้อชาติ ศาสนา ที่ควรจะรู้ซึ้งซึ่งความยุติธรรม ซึ่งการใช้อำนาจโดยมิชอบถึงได้ประพฤติเช่นนี้
เหตุก็เพราะว่า ประธานาธิบดีโอบามาได้ตกอยู่ท่ามกลางอำนาจของทุนนิยมสามานย์เสียแล้ว และทุนนิยมสามานย์นี้เห็นคุณทักษิณเป็นมิตรสหาย เป็นมิตรคู่คิดคู่ค้า ที่จะร่วมสังฆกรรมหาความร่ำรวยจากทรัพยากร ทรัพย์สินของโลกได้ร่วมกัน
ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Price of Civilization : Economic and Ethic after the Fall ว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มาจากพรรครีพับลิกัน มักตกอยู่ในอาณัติของพวกกลุ่มบริษัทพลังงาน ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มาจากพรรคเดโมแครตก็อยู่ในอาณัติของพวกการเงินที่วอลล์สตรีท นิวยอร์ก
คือประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ว่าจะมาจากพรรคใดในที่สุดจะถูกทุนนิยมสามานย์ ด้านอุตสาหกรรมและการเงินเข้าครอบงำทั้งนั้น
บริษัทยักษ์ใหญ่ต้องการเข้ามาตักตวงทรัพยากรธรรมชาติในไทย ต้องการเข้ามาควบกิจการถือหุ้นรัฐวิสาหกิจเมื่อแปรรูป และเชื่อว่าจะทำมาค้าขายครอบงำสะดวกโยธิน เมื่อมีรัฐบาลในประเทศที่คิดอ่านเหมือนกัน คือ ธุรกิจมาก่อน กำไรมาก่อน เรื่องความถูกต้องมาทีหลัง
เมื่ออยู่ในอาณัติของวงการธุรกิจทุนนิยมสามานย์ฉะนั้น รัฐบาลโอบามาจึงทำร้ายอุดมการณ์ความเชื่อถือของสังคมอเมริกัน โดยการปล่อยให้คุณทักษิณเข้าประเทศได้อีก ผมไม่เชื่อว่ารัฐบาลโอบามางี่เง่า ไม่รู้เรื่องความเป็นไปในประเทศไทย หรือหลงคารมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าคุณทักษิณแสนดี รัฐบาลโอบามารู้ดีว่า อะไรเป็นอะไร แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของทุนนิยมสามานย์เสียแล้วเท่านั้น
สถานทูตสหรัฐที่กรุงเทพฯออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้ส่งตัวคุณทักษิณกลับประเทศไทย เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้ขอความร่วมมือให้ส่งตัวตามข้อตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ถูกต้อง และการขอก็คงไม่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นของคุณทักษิณ จะให้ทำร้ายเจ้าของได้อย่างไร แต่มิได้หมายความว่ารัฐบาลโอบามาจะลอยนวลไปได้ เพราะสหรัฐอเมริกาสามารถมิให้คุณทักษิณเข้าประเทศได้ เหมือนที่สหรัฐสามารถปฏิเสธไม่ออกวีซ่าให้คนไทย หรือไม่ให้คนไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินของเขา โดยไม่ต้องชี้แจงและไม่ต้องสอบถาม กฎหมายสหรัฐ โดยทั่วไปและกฎหมายเข้าเมืองของสหรัฐ ไม่ตอบรับอาชญากรผู้ต้องโทษเช่น ในกรณีคุณทักษิณ ฉะนั้น ที่สถานทูตสหรัฐ พูดเรื่องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ขอตัวให้ส่งกลับภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน จึงพูดแค่ครึ่งเดียว ส่วนครึ่งหลังก็คือปล่อยให้คุณทักษิณเข้าประเทศได้อย่างไร ทั้งที่ผิดกฎหมายเข้าเมืองของสหรัฐเอง (ข้อ 1182 (20) (i และ ii) รัฐบาลสหรัฐมีข้อยกเว้นอย่างไรให้กับคุณทักษิณผู้เป็นผู้ต้องโทษ ซึ่งสถานทูตสหรัฐยังไม่ได้ชี้แจง
กลับมาที่บ้านเรา คนไทยเราก็ยังต้องประณามรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ไม่ทำหน้าที่ในการเอาผู้กระทำผิดกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ต้องถูกลงโทษที่ไม่เคารพระบบและกระบวนการยุติธรรมของไทย และทำตัวเสมือนอยู่เหนือกฎหมาย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ขอร้องรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรในการช่วยพี่ชาย ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน
พวกเราที่รักความยุติธรรมไม่ได้เป็นอริกับรัฐบาลสหรัฐหรือกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ต้องการให้รัฐบาลทั้ง 2 กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเราชาวไทยชื่นชมชาวอเมริกัน และรักความถูกต้องเยี่ยงคนอเมริกัน รัฐบาลต้องตอบสนองประชาชน

[bonnerr]

เท่าที่ทราบ ถ้าเป็นข้าราชการสถานกงสุลของไทย จะสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับสิทธิทางการทูตเหมือนข้าราชการประจำสถานเอกอัครราชทูต

ถ้าได้เป็นกงสุลใหญ่ ตำแหน่งต่อไปคือเอกอัครราชทูต

เมื่อเดินทางไปประจำสถานกงสุลหรือสถานเอกอัครราชทูต นอกจากนำสามี/ภรรยา บุตร ไปอยู่ด้วยแล้ว สามารถนำผู้ติดตาม

เป็นแม่บ้านไปอยู่ด้วยอย่างน้อย 1 คน ถ้ามีตำแหน่งสูง เช่น เอกอัครราชทูตฯ ผูช่วยทูตฝ่ายทหาร จะนำแม่ครัว พนักงานขับรถ คนสวน

ไปอยู่ด้วย

[เหนือฟ้า]

อันนี้ขอเข้าข้างสหรัฐ พอดีเคยไปอ่านเจอกระทู้ที่คนอินเดียดูถูกคนไทย เลยแอบไม่ชอบนิดนึง อย่างน้อยคนเมกาก็ใหเกียรติคนไทยมากกว่าคนอินเดีย สายตาเวลาผู้ชายอินเดียมองสาวไทยน่ากลัวที่สุด มองเป็นอีตัวไปหมด

[เกลียดคุณแม้วจังครับ]

เท่าที่ทราบ กงสุลใหญ่ รองกงสุลใหญ่ หรือข้าราชการประจำสถานกงสุล เป็นนักการทูต ถือหนังสือเดินทางทูต ปกสีแดง จะได้รับความคุ้มครองทางการทูตตามสนธิสัญญากรุงเวียนนา

ตำรวจจะจับไม่ได้ อย่างดีแค่ส่งตัวกลับประเทศ

สงสัยทำไมตำรวจอเมริกันถึงจับรองกงสุลใหญ่ ของอินเดียได้

ไอ้กัน กับ ไอ้แม้ว เป็นพ่ออินเดียชัวร์