นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการติดตามและกำกับดูแลการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับประเทศซาอุดิอาระเบีย ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 188/2555 ลงนามโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยในคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีทั้งดีเอสไอและอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีอัลรูไวลีทั้งสิ้น
รองอธิบดีกงสุลฯ ยันการออกพาสปอร์ต กต.มี “ข้อห้าม” กับผู้มีหมายจับ-ศาลสั่งไม่ให้ออกนอก ปท. ชี้กรณีพยานอัลรูไวลีจะอ้าง “กม.คุ้มครองพยาน” มายกเว้นข้อห้ามดังกล่าวไม่ได้ เผย “ปลัด กต.” มีอำนาจยกเลิกพาสปอร์ตที่ออกโดยไม่ชอบ
รองอธิบดีกงสุลฯ ยันการออกพาสปอร์ต กต.มี “ข้อห้าม” กับผู้มีหมายจับ-ศาลสั่งไม่ให้ออกนอก ปท. ชี้กรณีพยานอัลรูไวลีจะอ้าง “กม.คุ้มครองพยาน” มายกเว้นข้อห้ามดังกล่าวไม่ได้ เผย “ปลัด กต.” มีอำนาจยกเลิกพาสปอร์ตที่ออกโดยไม่ชอบ
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง เรื่องการนำตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก (นายเกียรติกรณ์ แก้วเพชรศรี) พยานในคดีลักพาตัวนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย เดินทางจากประเทศไทยไปยังประธานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยมีข้อสังเกตว่าจะเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจาก พ.ต.ท.สุวิชชัย เป็นจำเลยในคดีฆ่าผู้อื่นที่มีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต และศาล จ.มีนบุรีออกหมายจับพร้อมกับมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ แต่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ยืนยันว่า พ.ต.ท.สุวิชชัย ได้รับการคุ้มครองตามมาตรการพิเศษ ใน พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ.2546 ทำให้สามารถเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เปลี่ยนที่อยู่ พร้อมกับทำพาสปอร์ต และเดินทางออกนอกประเทศได้
อย่างไรก็ตาม นายประสิทธิพร เวทย์ประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ (กต.) กลับกล่าวว่า การออกพาสปอร์ตให้กับบุคคลใด เจ้าหน้าที่ของ กต.จะต้องทำตามระเบียบ กต.ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 อย่างเคร่งครัด โดยระเบียบดังกล่าว ข้อ 21 (2) และ (3) มีการอ้างถึงกรณีที่ผู้ร้องมีหมายจับรวมถึงถูกศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศไว้ด้วย ซึ่งกรณีมีหมายจับ หากศาล ตำรวจ หรือพนักงานปกครองไม่แจ้งมายัง กต. ก็ยังสามารถออกพาสปอร์ตให้กับผู้ร้องรายดังกล่าวได้ ต่างกับกรณีที่ศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ที่จะมีการส่งเรื่องมายัง กต. ให้ระบุไว้ว่าบุคคลดังกล่าวติด “แบล็กลิสต์” เมื่อบุคคลดังกล่าวมาขอทำพาสปอร์ต หากเจ้าหน้าที่ กต.คีย์ข้อมูลไปแล้วพบว่า ติดแบล็กลิสต์ก็จะออกพาสปอร์ตให้ไม่ได้
“ข้อมูลเรื่องบุคคลที่ถูกแบล็กลิสต์ กต.จะประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) รวมถึงตำรวจและศาลอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะออกพาสปอร์ตให้ใคร จะต้องตรวจสอบทุกครั้ง ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลที่อยู่ในแบล็กลิสต์หรือไม่” นายประสิทธิ์พรกล่าว
เมื่อถามว่าสามารถอ้าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานฯเพื่อยกเว้นระเบียบดังกล่าวบางข้อ ให้ออกพาสปอร์ตกับผู้ที่ศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศได้หรือไม่ นายประสิทธิ์พร กล่าวว่า ไม่ได้เด็ดขาด และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการยกเว้น ไม่ว่าจะอ้าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานฯ หรือกฎหมายอื่นๆ เพราะระเบียบนี้ต้องใช้อย่างเคร่งครัด
เมื่อถามว่ากรณี พ.ต.ท.สุวิชชัยที่ทำพาสปอร์ตก่อนบินจากไทยไปยูเออี อาจว่าได้พาสปอร์ตมาโดยขัดกับระเบียบดังกล่าว เนื่องจากศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ จะดำเนินการยกเลิกพาสปอร์ตที่ออกให้ได้หรือไม่ นายประสิทธิ์พร กล่าวว่า การยกเลิกพาสปอร์ตจะอยู่ในของระเบียบดังกล่าว ข้อ 23 (2) คือเมื่อปรากฏว่ามีการละเมิดข้อ 21 (2) (3) และ (4) ให้เจ้าหน้าที่ กต.สามารถดำเนินการเพื่อยกเลิกพาสปอร์ตได้ โดยปลัด กต.หรือผู้ที่ปลัด กต.มอบหมายจะเป็นผู้เซ็นยกเลิกพาสปอร์ตเล่มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเคยมีเพียงการยกเลิกพาสปอร์ตเพราะผู้ร้องใช้ชื่อ-นามสกุล และทะเบียนบ้านปลอมเท่านั้น ยังไม่เคยมีกรณียกเลิกพาสปอร์ตเพราะหลบหนีหมายจับหรือฝ่าฝืนคำสั่งศาลที่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศมาก่อน
เมื่อถามว่ากรณีนี้หากผู้เกี่ยวข้อง อาทิ ศาล ยื่นเรื่องให้ กต.ยกเลิกพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.สุวิชชัยจะทำได้หรือไม่ นายประสิทธิ์พร กล่าวว่าของ กรณี พ.ต.ท.สุวิชชัยตนก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ถ้ามีผู้เกี่ยวข้องยื่นเรื่องเข้ามา ตามปกติกระบวนการพิจารณาว่าจะยกเลิกพาสปอร์ตบุคคลดังกล่าวได้หรือไม่ จะใช้เวลาไม่นาน เพราะเป็นแค่ขั้นตอนภายในของ กต.เท่านั้น หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีการฝ่าฝืนระเบียบดังกล่าวจริง ก็จะเสนอไปยังผู้มีอำนาจ ได้แก่ปลัด กต.หรือผู้ซึ่งปลัด กต.มอบหมาย เซ็นยกเลิกหนังสือเดินทางของบุคคลนั้นๆ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สุวิชชัย ได้เดินทางไปยื่นคำร้องขอออกพาสปอร์ต เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2555 และได้รับพาสปอร์ตหมายเลข O-402107 ทั้งๆ ที่ศาล จ.มีนบุรีออกหมายจับ พ.ต.ท.สุวิชชัยมาตั้งแต่ปี 2552 พร้อมกับมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งน่าจะเข้าข่ายคุณสมบัติที่เจ้าหน้าที่ กต.สามารถปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทางตามระเบียบ กต.ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) และ (3)
นอกจากนี้ ในความพยายามเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2555 พ.ต.ท.สุวิชชัยยังถูกกักไว้ที่ ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากติดแบล็กลิสต์ของ ตม. จนต้องออกช่องทางพิเศษไปขึ้นเครื่องในเช้ามืดของวันถัดมา แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานราชการต่างๆ รู้ว่า พ.ต.ท.สุวิชชัยติดแบล็กลิสต์ตามคำสั่งศาลที่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ หนึ่งในจำเลยคดีอัลรูไวลี ตั้งข้อสังเกตว่าการออกพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.สุวิชชัย ทั้งๆ ที่ขัดกับระเบียบของ กต.ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) และ (3) อาจเกี่ยวพันกับการที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการติดตามและกำกับดูแลการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับประเทศซาอุดิอาระเบีย ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 188/2555 ลงนามโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยในคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีทั้งดีเอสไอและอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีอัลรูไวลีทั้งสิ้น.