Edited by zeed~ko, 20 December 2013 - 22:17.
พรรคเพื่อควายเสนอใช้กฎอัยการศึกหยุด กปปส.!?
#1
Posted 20 December 2013 - 21:21
#6
Posted 20 December 2013 - 21:28
ไอ่นี่ ทั้งลูกทั้งหลาน เป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่เลย
- Abraxas, Nong and ธีรเดชน้อย like this
#7
Posted 20 December 2013 - 21:29
ทหารไม่ออกมา ได้ขำกันท้องแข็งแน่...
- -3- and whiskypeak like this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#8
Posted 20 December 2013 - 21:30
ทั้งโหนเจ้า ทั้งโหนทหาร นับเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ของเผาไทย
เสื้อแดง ก็โหนรัฐธรรมนูญ
ตอนนี้เอาทุกทางครับ อะไรที่เคยเกลียดก็โหนแบบหน้าชื่นตาบาน
- so what?, whiskypeak and น้านิ่ม like this
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#9
Posted 20 December 2013 - 21:30
ไอ้พรรคที่กลัวทหารจะกล้าประกาศเหรอวะ...
เท่ากับว่ายกอำนาจให้ทหารไปเลยนะ
เสื้อแดงจะออกมาชุมนุมขับไล่ทหารยังไงล่ะ
ก็ดันยกให้เขาเอง
- ตะนิ่นตาญี and Bookmarks like this
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#10
Posted 20 December 2013 - 21:42
ควายเริ่มเลียนแบบลิง
#11
Posted 20 December 2013 - 21:56
เอ๊ะๆๆ
แถวบ้านผมเรียกว่าอะไรน้าาาา
อ๋อ..
พวกฟาสซิสม์ นี่เอง
It's us against the world
#12
Posted 20 December 2013 - 21:57
นาทีนี้
คิดว่ากฎอัยการศึก ทำให้มวลชนกลัวหรือ?
เลยเวลานั้นไปแล้วครับ
แต่ถ้าคิดว่าประกาศแล้ว
ฆ่าคนได้ง่ายๆ ลองดูเถิดผู้มีอำนาจทั้งหลาย
หน้าที่ของผู้กุมอำนาจรัฐในตอนนี้
คือหาทางปรองดองให้เร็วที่สุด รีบทำซะ
ก่อนที่จะไม่มีแผ่นดินอยู่
#13
Posted 20 December 2013 - 22:52
ผมเป็นทักษิณคงเซ็งชิบ ลูกน้องกรูแต่ละตัว วันๆหาแต่เรื่องให้
#16
Posted 20 December 2013 - 22:58
ไอ่นี่ ทั้งลูกทั้งหลาน เป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่เลย
ไม่อยากจะบอกเลยว่า นี่สส.บ้านผม อย่างอายเลย
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
#21
Posted 20 December 2013 - 23:57
ก็ดี
จะได้ช่วยเรียกแขกครั้งใหญ่
สงสัยจริงๆ สมุนและลิ่วล้อไอ้แม้วทำไมชั่วและโง่ได้ทุกตัว
What is a rebel? - A man who says NO! _ Albert Camus
#22
Posted 21 December 2013 - 00:41
อยากโดนสักครั้ง
*** ช่วยกันไม่ตอบกระทู้ป่วน เพราะมันไม่ได้ต้องการคำตอบ หรือเหตุผล แค่มายั่ว
ปล่อยให้ตกๆไป...การที่ไม่มีใครสนใจ เป็นการทำลายจิตใจพวกมันมากที่สุด เดี๋ยวกระทู้ก็หล่นแล้ว
#23
Posted 21 December 2013 - 00:48
แต่ละความเห็น ทำเอานายจ้างกับขี้ข้าคิดหนัก
จะเรียกแขกกันไปถึงไหน
#25
Posted 21 December 2013 - 09:20
อ้าววว...ไม่คิดปิดสื่อ ปิดช่องทางเข้า-ออกที่ชุมนุม
ตามที่ผมเสนอก่อนหรือครับ...
เสนอให้ รัดถะบาน รีบสั่งให้ปิดสื่อที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงม็อบนกหวีดครับ...
http://webboard.seri...น-รีบสั่งให้ปิ/
ถ้าให้ดี ให้ทั่นปอด คุณหนูโอ็ค หรือทั่นตู่ ทั่นเต้น ทั่นเหวง
ออกมาวิเคราะห์ วิจารณ์ พวกที่ชุมนุมที่อนุสาวรีย์นั่นก็พอแล้ว...
แค่ครั้งสองครั้ง เดี๋ยวก็คิดกันได้ แล้วหนีกลับกันหมดแหล่ะ
เพราะคนที่ไปชุมนุมนั่นน่ะ ส่วนใหญ่...
"ถูกหลอกง่าย."
หมายเหตุ ; หนีกลับไปบ้านพวกที่ออกมาวิจารณ์น่ะครับ...
คึกสะบัด!! กปปส.นัด 9 โมงเช้า 22 ธ.ค.ลุยวางดอกไม้จันทน์หน้าบ้าน "ปู"
กปปส. ประกาศนัดมวลชนรวมตัว 9 โมงเช้า 22 ธ.ค. จัดรถบัส 100 คัน มีทิฟฟานีแต่งเต็มยศนำทีม ลุยวางดอกไม้จันทน์หน้าบ้าน "ปู"
วันนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ได้ประกาศนัดหมายมวลชนให้มาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 22 ธันวาคม เพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อนำไปสู้การปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง
วานนี้ (20 ธ.ค.) น.ส.อัญชลี ไพรีรัก หนึ่งในแกนนำกปปส. กล่าวบนเวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินว่า วันที่ 22 ธ.ค.นี้ ใครที่จะไปบ้านที่โยธินพัฒนา ให้มาเจอกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 9 โมงเช้า มีรถบัส 100 คันจอดรออยู่ โดยจะมีทิฟฟานี 30 คน แต่งตัวเต็มยศ เป็นรถนำไป นำโดย ดร.เสรี วงศ์มณฑา และมีการ์ด 300 คนที่จะไปด้วย ซึ่งแม้ยิ่งลักษณ์จะไม่อยู่ แต่ก็จะไปที่หน้าประตูบ้านยิ่งลักษณ์ เพื่ออ่านแถลงการณ์ และกดดันให้ลาออกจากรักษาการ รวมถึงวางดอกไม้จันทน์ที่หน้าบ้าน
Edited by Suraphan07, 21 December 2013 - 09:32.
#26
Posted 21 December 2013 - 09:46
ประเทศไทยโชคร้ายที่มี สส. ไร้คุณภาพ หนังสือหนังหาไม่อ่าน เอาแต่พล่ามแบบไร้สมอง
#27
Posted 21 December 2013 - 10:13
มันคงคิดว่า จะรอดเหมือนถนอมสินะ จะไม่รอดเอาทั้งโคตร แถมเงินและธุรกิจ จะไม่เหลือ ระบอบแม้วมันจะล้ม ก็ตรงที่หมดทั้งธุรกิจและเงินทอง ลองดูสิ
#28
Posted 21 December 2013 - 12:28
ถือว่าเป็นข่าวดี สะท้อนให้เห็นว่าพวกมันกลัวมวลมหาประชาชน ผมว่ามันเริ่มเห็นความหายนะของพวกมัน
จําได้ว่าอาจาร์ยเเก้วสรรบอกว่าทักสินมันบ้าไปเเล้ว
ข้อหากบฏไม่มี
กกหมายไม่อนุญาตฺให้อายัติบัญชีของการชุมนุมโดยสงบ
กฏอัยการศึกไม่สามารถใช้ได้ในภาวะปัจจุบัน ถ้าออก คนออก ก็เตรียมเข้าคุกได้เลยครับ
#29
Posted 21 December 2013 - 13:20
พระราชบัญญัติ กฎอัยการศึก
ประเทศไทยได้ตรากฎหมาย กฎอัยการศึก เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ ๕ ) คือ “ กฎอัยการศึก ร.ศ.126 ” ซึ่งตรงกับปี พ.ศ.2450 จึงเป็นที่มาของ พระราชบัญญัติ " กฎอัยการศึก ร.ศ.126 " ซึ่งใน พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ร.ศ.126 นี้ มีเพียง 8 มาตรา และใช้อยู่เพียง 7 ปี ก็ได้ถูกยกเลิกโดย พระราชบัญญัติ " กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 " ทั้งนี้ก็เพื่อให้ สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในขณะนั้น
ปัจจุบัน พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ได้ประกาศใช้จนถึงวันนี้ เป็นเวลามากกว่า 91 ปี ซึ่งมีรายละเอียดของพระราชบัญญัติ กฎอัยการศึก ฯ รวม ๑๗ มาตรา ดังนี้ .-
พระราชบัญญัติ กฎอัยการศึก พ.ศ.๒๔๕๗
นามพระราชบัญญัติ
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า "กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457"
[รก.2457/-/388/13 กันยายน 2457]
ใช้พระราชบัญญัติที่ใดเมื่อใดต้องประกาศ
มาตรา 2 เมื่อเวลามีเหตุอันจำเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อยปราศจากภัย ซึ่งจะมีมาจากภายนอกหรือภายในราชอาณาจักรแล้ว จะได้มี ประกาศพระบรมราชโองการให้ใช้กฎอัยการศึกทุกมาตรา หรือแต่บาง มาตรา หรือข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของมาตรา ตลอดจนการกำหนดเงื่อนไขแห่ง การใช้บทบัญญัตินั้นบังคับในส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรหรือตลอดทั่ว ราชอาณาจักร และถ้าได้ประกาศใช้เมื่อใด หรือ ณ ที่ใดแล้ว บรรดาข้อความ ในพระราชบัญญัติหรือบทกฎหมายใด ๆ ซึ่งขัดกับความของกฎอัยการศึกที่ให้ใช้บังคับต้องระงับ และใช้บทบัญญัติของกฎอัยการศึกที่ให้ใช้บังคับนั้นแทน
[ มาตรา 2 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 พุทธศักราช 2485]
ลักษณะประกาศ
มาตรา 3 ถ้าไม่ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วพระราชอาณาจักร ในประกาศนั้นจะได้แสดงให้ปรากฏว่า มณฑลใด ตำบลใด หรือเขตใดใช้ กฎอัยการศึก
ผู้มีอำนาจใช้กฎอัยการศึก
มาตรา 4 เมื่อมีสงครามหรือจลาจลขึ้น ณ แห่งใดให้ผู้บังคับบัญชา ทหาร ณ ที่นั้น ซึ่งมีกำลังอยู่ใต้บังคับไม่น้อยกว่าหนึ่งกองพัน หรือเป็นผู้บังคับบัญชาในป้อมหรือที่มั่นอย่างใด ๆ ของทหารมีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึก เฉพาะในเขตอำนาจหน้าที่ของกองทหารนั้นได้ แต่จะต้องรีบรายงานให้รัฐบาล ทราบโดยเร็วที่สุด
เมื่อเลิกต้องประกาศ
มาตรา 5 การที่จะเลิกใช้กฎอัยการศึกแห่งใดนั้น จะเป็นไปได้ต่อมี ประกาศกระแสพระบรมราชโองการเสมอ
อำนาจทหารเมื่อประกาศใช้กฎอัยการศึก
มาตรา 6 ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติ ตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
[ มาตรา 6 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 303 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515]
อำนาจศาลทหาร และอำนาจศาลพลเรือน เมื่อประกาศใช้กฎอัยการศึก
มาตรา 7 ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก ศาลพลเรือนคงมีอำนาจ พิจารณาพิพากษาคดีได้อย่างปกติ เว้นแต่คดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาศึก และ ผู้มีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึกมีอำนาจประกาศให้ศาลทหารพิจารณาพิพากษา คดีอาญา ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกและในระหว่าง ที่ใช้กฎอัยการศึกตามที่ระบุไว้ในบัญชีต่อท้ายพระราชบัญญัตินี้ทุกข้อ หรือแต่บางข้อ และหรือบางส่วนของข้อใดข้อหนึ่งได้ ทั้งมีอำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติม หรือ ยกเลิกประกาศดังกล่าวนั้นด้วย
ประกาศให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามความในวรรคแรก ให้มีผลบังคับเฉพาะคดีที่การกระทำผิดเกิดขึ้นตั้งแต่วันเวลาที่ระบุไว้ในประกาศ วันเวลาที่ระบุนั้นจะเป็นวันเวลาที่ออกประกาศนั้นหรือภายหลังก็ได้ ประกาศ เช่นว่านี้ให้โฆษณาในราชกิจจานุเบกษาด้วย
นอกจากกรณีดังกล่าวแล้ว ถ้าคดีอาญาใดที่เกิดขึ้นในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกมีเหตุพิเศษเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ หรือความสงบเรียบร้อย ของประชาชน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะสั่งให้พิจารณาพิพากษาคดีอาญานั้นใน ศาลทหารก็ได้
[ มาตรา 7 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 303 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515]
มาตรา 7 ทวิ ประกาศให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญา ตามความใน มาตรา 7 นั้น จะให้ศาลทหารในทุกท้องที่หรือแต่บางท้องที่มีอำนาจ พิจารณาพิพากษาคดีอาญาตามที่กล่าวในมาตรานั้นเท่ากันหรือมากน้อยกว่ากันก็ได้
[ มาตรา 7ทวิ เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2487]
มาตรา 7ตรี เมื่อได้เลิกใช้กฎอัยการศึกแล้ว ให้ศาลทหารคงมี อำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่ยังคงค้างอยู่ในศาลนั้น และให้มีอำนาจพิจารณา พิพากษาคดีอาญาที่ยังมิได้ฟ้องร้องในระหว่างเวลาที่ใช้กฎอัยการศึกนั้นด้วย
มาตรา 7ตรี เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2487]
เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจ
มาตรา 8 เมื่อประกาศใช้กฎอัยการศึกในตำบลใด เมืองใด มณฑลใด เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจเต็มที่จะตรวจค้น ที่จะเกณฑ์ ที่จะห้าม ที่จะยึด ที่จะ เข้าอาศัย ที่จะทำลายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ และที่จะขับไล่
การตรวจค้น
มาตรา 9 การตรวจค้นนั้น ให้มีอำนาจที่จะตรวจค้นดังต่อไปนี้
(1) ที่จะตรวจค้นบรรดาสิ่งซึ่งจะเกณฑ์ หรือต้องห้าม หรือต้องยึด หรือจะต้องเข้าอาศัย หรือมีไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งมีอำนาจ ที่จะตรวจค้นได้ไม่ว่าที่ตัวบุคคล ในยานพาหนะ เคหะสถาน สิ่งปลูกสร้าง หรือ ที่ใด ๆ และไม่ว่าเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น
(2) ที่จะตรวจข่าวสาร จดหมาย โทรเลข หีบ ห่อ หรือสิ่งอื่นใดที่ส่ง หรือมีไปมาถึงกันในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก
(3) ที่จะตรวจหนังสือ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ภาพโฆษณา บทหรือคำประพันธ์
[ มาตรา 9 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 303 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515]
การเกณฑ์
มาตรา 10 การเกณฑ์นั้นให้มีอำนาจที่จะเกณฑ์ได้ดังนี้
(1) ที่จะเกณฑ์พลเมืองให้ช่วยกำลังทหารในกิจการ ซึ่งเนื่องในการป้องกันพระราชอาณาจักร หรือช่วยเหลือเกื้อหนุนราชการทหารทุกอย่าง ทุกประการ
(2) ที่จะเกณฑ์ยวดยาน สัตว์พาหนะ เสบียงอาหาร เครื่องศาตราวุธ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ จากบุคคลหรือบริษัทใด ๆ ซึ่งราชการทหาร จะต้องใช้เป็นกำลังในเวลานั้นทุกอย่าง
การห้าม
มาตรา 11 การห้ามนั้น ให้มีอำนาจที่จะห้ามได้ดังนี้
(1) ที่จะห้ามมั่วสุมประชุมกัน
(2) ที่จะห้ามออก จำหน่าย จ่ายหรือแจก ซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ภาพ บท หรือคำประพันธ์
(3) ที่จะห้ามโฆษณา แสดงมหรสพ รับหรือส่งซึ่งวิทยุ วิทยุ กระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์
(4) ที่จะห้ามใช้ทางสาธารณะเพื่อการจราจรไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ รวมถึงทางรถไฟและทางรถรางที่มีรถเดินด้วย
(5) ที่จะห้ามมีหรือใช้เครื่องมือสื่อสารหรืออาวุธ เครื่องอุปกรณ์ของ อาวุธ และเคมีภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใดที่มีคุณสมบัติทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคล สัตว์ พืช หรือทรัพย์สิน หรือที่อาจนำไปใช้ทำเป็นเคมีภัณฑ์ หรือสิ่งอื่นใดที่มีคุณสมบัติ ดังกล่าวได้
(6) ที่จะห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานภายในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด
(7) ที่จะห้ามบุคคลเข้าไปหรืออาศัยอยู่ในเขตท้องที่ใดซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเห็นว่าเป็นการจำเป็นเพื่อการยุทธ การระงับปราบปราม หรือการรักษา ความสงบเรียบร้อยและเมื่อได้ประกาศห้ามเมื่อใดแล้ว ให้ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตนั้น ออกไปจากเขตนั้นภายในกำหนดเวลาที่ได้ประกาศกำหนด
(8) ที่จะห้ามบุคคลกระทำหรือมีซึ่งกิจการหรือสิ่งอื่นใดได้ตามที่รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหมได้กำหนดไว้ว่าควรต้องห้ามในเวลาที่ได้มีการประกาศ ใช้กฎอัยการศึก
[มาตรา 11 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 303 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515]
การยึด
มาตรา 12 บรรดาสิ่งซึ่งกล่าวไว้ใน มาตรา 9 มาตรา 10 และมาตรา 11 นั้น ถ้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเห็นเป็นการจำเป็น จะยึดไว้ชั่วคราว เพื่อมิให้เป็นประโยชน์แก่ราชศัตรู หรือเพื่อเป็นประโยชน์แก่ราชการทหาร ก็มี อำนาจยึดได้
การเข้าอาศัย
มาตรา 13 อำนาจการเข้าพักอาศัยนั้น คือ ที่อาศัยใด ๆ ซึ่งราชการ ทหารเห็นจำเป็นและใช้เป็นประโยชน์ในราชการทหารแล้ว มีอำนาจอาศัยได้ ทุกแห่ง
การทำลายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่
มาตรา 14 การทำลายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่นั้น ให้มีอำนาจกระทำ ได้ดังนี้
(1) ถ้าแม้การสงครามหรือรบสู้เป็นรองราชศัตรู มีอำนาจที่จะเผาบ้าน และสิ่งซึ่งเห็นว่าจะเป็นกำลังแก่ราชศัตรู เมื่อกรมกองทหารถอยไปแล้ว หรือถ้า แม้ว่าสิ่งใด ๆ อยู่ในที่ซึ่งกีดกันการสู้รบก็ทำลายได้ทั้งสิ้น
(2) มีอำนาจที่จะสร้างที่มั่น หรือดัดแปลงภูมิประเทศหรือหมู่บ้าน เมือง สำหรับการต่อสู้ราชศัตรู หรือเตรียมการป้องกันรักษา ตามความเห็นชอบ ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ทุกอย่าง
การขับไล่
มาตรา 15 ถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งไม่มีภูมิลำเนาอาศัยเป็นหลักฐาน หรือเป็นผู้มาอาศัยในตำบลนั้นชั่วคราว เมื่อมีความสงสัยอย่างหนึ่งอย่างใด หรือ จำเป็นแล้ว มีอำนาจที่จะขับไล่ผู้นั้นให้ออกไปจากเมืองหรือตำบลนั้นได้
มาตรา 15 ทวิ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีเหตุอันควรสงสัยว่า บุคคลใดจะเป็นราชศัตรูหรือได้ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของพระราชบัญญัตินี้ หรือต่อ คำสั่งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจกักตัวบุคคลนั้นไว้ เพื่อการสอบถามหรือตามความจำเป็นของทางราชการทหารได้ แต่ต้องกักไว้ ไม่เกินกว่า 7 วัน
[ มาตรา 15ทวิ เพิ่มความโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 303 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515]
ร้องขอค่าเสียหายหรือค่าปรับจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไม่ได้
มาตรา 16 ความเสียหายซึ่งอาจบังเกิดขึ้นอย่างหนึ่งอย่างใด ในเรื่องอำนาจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตามที่ได้กล่าวมาแล้วใน มาตรา 8 และ มาตรา 15 บุคคลหรือบริษัทใด ๆ จะร้องขอค่าเสียหายหรือค่าปรับอย่างหนึ่ง อย่างใดแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไม่ได้เลย เพราะอำนาจทั้งปวงที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ปฏิบัติและดำเนินการตามกฎอัยการศึกนี้ เป็นการสำหรับป้องกัน พระมหากษัตริย์ ชาติ ศาสนา ด้วยกำลังทหารให้ดำรงคงอยู่ในความเจริญรุ่งเรือง เป็นอิสรภาพและสงบเรียบร้อยปราศจากราชศัตรูภายนอกและภายใน
มอบอำนาจให้เจ้ากระทรวง
มาตรา 17 ในเวลาปรกติสงบศึก เจ้ากระทรวงซึ่งบังคับบัญชาทหาร มีอำนาจตรากฎเสนาบดีขึ้นสำหรับบรรยายข้อความ เพื่อให้มีความสะดวกและ เรียบร้อยในเวลาที่จะใช้กฎอัยการศึกได้ตามสมควร ส่วนในเวลาสงครามหรือ จลาจล แม่ทัพใหญ่หรือแม่ทัพรองมีอำนาจออกข้อบังคับบรรยายความเพิ่มเติม ให้การดำเนินไปตามความประสงค์ของกฎอัยการศึกนี้ และเมื่อได้ประกาศ กฎเสนาบดี หรือข้อบังคับของแม่ทัพในทางราชการแล้ว ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของพระราชบัญญัตินี้
พ.อ.สงบ แก้วเทศ ผู้จัดทำ webpage
โทร.08-1250-4990
#30
Posted 21 December 2013 - 23:10
รู้สึกว่า กฎอัยการศึก ผู้มีอำนาจประกาศจะเป็น ผบ.ทบ นิ รบ.ไม่มีอำนาจหรอกครับ ถึงแม้ว่าในสภากลาโหม จะมี ฝ่ายรบ.4 จาก 7เสียงก็ตาม ก็มีมีสิทธิ
"ข้าพเจ้าพร้อมจะเสียสละชีวิตเพื่อจะปกป้องให้ท่านได้พูดในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย"
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users