Jump to content


Photo

เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง


  • Please log in to reply
159 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 13:59

*
POPULAR

วันนี้ขอนำเสนอ เทคนิคจากแม่เราเอง
แม่เราช่างสังเกต เวลาทานข้าวเสร็จ แกงจืดที่กินเสร็จแล้ว มักเหลือกระดูกหมูเอาไว้ ซึ่งสมาชิกในบ้านไม่ค่อยกินเนื่องจากมันจืด รสชาติของหมูไปอยู่ในน้ำซุปหมดแล้ว
ด้วยความเสียดาย แม่เราจึงหาวิธีดัดแปลงเพื่อความประหยัดดังนี้

เริ่มจากทำแกงจืด กระดูกหมูใส่ผัก
กระดูกหมูให้ใช้ซี่โครง อย่าใช้สันหลังที่เรียกว่า เอียวเล้ง ให้แม่ค้าสับเป็นท่อนๆแบบที่นำมาทำกระดูกหมูทอดกระเทียมพริกไทย
ผักที่ใส่ จะเป็น มะระ หัวผักกาด(ไช้เท้า) ฟัก ผักกาดดอง ก็ได้
ไม่ต้องใส่ซุปก้อนใ้ห้เปลือง เพราะเราจะได้ความหวานจากน้ำต้มกระดูกหมู
จากนั้นต้มแกงจืดอย่างที่ทำกินทุกวัน ใส่เกลือ น้าปลา พริกไทยนิดหน่อย
เวลากิน กินเฉพาะผักกับน้ำแกงจืดเหลือกระดูกเอาไว้ อย่าทิ้ง

เอากระดูกหมูจากแกงจืดมาทอด ใช้เวลาทอดแป๊บเดียว เพราะหมูสุกอยู่แล้ว (ประหยัดพลังงาน)
เจียวกระเทียมโรย ใส่เกลือ ใส่น้ำปลานิดหน่อยให้มีกลิ่นหอม ใส่พริกไทย น้ำตาล
แค่นี้เราก็จะได้กระดูกหมูทอดกระเทียมพริกไทย ซึ่งกระดูกหมูนี้จะนุ่มมากเนื่องจากผ่านการเคี่ยวในแกงจืดมาแล้ว เวลากินแทบไม่ต้องเคี้ยว เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
รสชาติของกระดูกหมูจากแกงจืดที่จืดชืดก็ได้รสจากเครื่องปรุงทั้งเค็ม เผ็ด หวาน ปรุงแต่ง อร่อยไปอีกแบบ

กระดูกหมูอย่างเดียวจึงกลายเป็นอาหารสองจาน ซึ่งเราไม่ต้องเหลือทิ้ง
ประหยัดเงิน ประหยัดพลังงานด้วย

#2 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:24

โพสข้างบนขอตั้งชื่อว่า

กระดูกหมู ทูอินวัน

แล้วจะหาเทคนิคใหม่มาอัพเดตเรื่อยๆ :)

#3 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:16

ซึ้งครั้งเดียว


ทราบกันหรือไม่ว่า ในการหุงต้มอาหาร เราต้องสูญเสียความร้อนจากเชื้อเพลิงไปที่ใดบ้าง กว่าที่ความร้อนจะไปถึงอาหารที่กำลังปรุง
คำตอบคือ เตา อากาศ ภาชนะหุงต้ม
ยิ่งถ้าทำอาหารประเภทนึ่ง เราต้องเสียความร้อนไปยังน้ำที่ต้องต้มให้เดือดกลายเป็นไอน้ำเดือดซึ่งไปทำให้อาหารสุกอีกที การนึ่งจึงเป็นกรรมวิธีปรุงอาหารที่เปลืองเชื้อเพลิง เพราะความร้อนจะไม่ไปโดนอาหารโดยตรง ต้องส่งผ่านมาที่น้ำก่อน

วันนี้จึงขอแนะนำการทำอาหารประเภทนึ่งโดยใช้ซึ้ง(เดาะใช้ภาษาจีน ที่แท้มันคือ ลังถึง นั่นแหละ)ครั้งเดียว แต่ได้กับข้าวสองอย่าง เป็นการประหยัดพลังงาน

แบบที่1 ปลาหมึกนึ่งมะนาว กับไข่ต้ม
  • เตรียมทำปลาหมึก ลอกหนัง ควักไส้ออก (เวลาควักไส้ทำแต่เบามือ เผื่อมีไข่ปลาหมึกติดมา ไข่จะได้ไม่เละ) เฉือนตา ผ่าถุงหมึก ปาก ทิ้งไป ล้างน้ำหลายๆน้ำ ให้ทรายในตัวปลาหมึกออกไปให้หมด เวลากินจะได้ไ่มเสียอารมณ์ อีกอย่างเผื่อมีฟอร์มาลีนติดมาจะได้ละลายไปกับน้ำ ไม่แนะนำให้ซื้อปลาหมึกที่ลอกหนังไว้แล้ว เพราะอาจได้ปลาหมึกแช่น้ำยาฟอกขาว เสร็จสรรพหั่นเป็นแว่นๆ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  • ทำน้ำราด มีกระเทียม (ปอกเปลือกให้หมด) รากผักชี พริกขี้หนูสับละเอียด น้ำปลาดี น้ำมะนาว ปรุงรสตามชอบ ห้ามใส่น้ำตาลเด็ดขาด
  • เอาไข่มาล้างเปลือกให้สะอาด เตรียมต้ม
  • เอาน้ำใส่ซึ้งกะให้ท่วมไข่ ใส่เกลือลงไปสัก 1 ช้อนชา (เพื่อให้เวลาปอกไข่จะได้ง่าย) ใส่ไข่ลงไป ตั้งไฟ
  • พอน้ำเดือดพล่าน เอาปลาหมึกใส่จานก้นลึกนึ่ง ใช้เวลานึ่งปลาหมึกประมาณแปด เก้านาที ปิดไฟ ยกลง
  • เอาน้ำราด ราดลงไปในจานปลาหมึกทันที ทีนี้เราก็ได้ปลาหมึกนึ่งมะนาวแล้ว
  • ส่วนไข่ที่ต้มในซึ้งพร้อมกันก็สุกพอดี ตักเอามาจากซึ้งปอกกินได้เลย หรือจะเก็บเอาไปกินมื้อต่อไปก็ได้ เพราะไข่ต้มเก็บไว้ได้นาน
การต้มไข่ ถ้าจะให้เป็นยางมะตูม เมื่อน้ำเดือด ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ถ้าจะให้สุกทั้งใบ จะใช้เวลา 8 นาที ซึ่งในกรณีนี้เราจะได้ไข่ที่สุกพอดี

ไม่แนะนำให้ต้มไข่พร้อมกับการทำปลานึ้งซีอิ้ว เพราะปลานึ่งจะใช้เวลาในการนึ่งนานมาก ประมาณ 20 นาที ไข่จะสุกเกินไป ไข่แดงจะมีสีเทาๆ เพราะกำมะถันในไข่แปรสภาพ (จริงๆก็กินได้ ไ่ม่ปัญหาอะไร)

แบบที่สอง ปลานึ่งซีอิ้วกับผักลวกจิ้มน้ำพริก
  • ในที่นี้ขอใช้ปลากะพง ควักไส้ ขอดเกล็ด ตัดครีบคมๆแข็งๆออก บั้งให้ถึงก้างด้านละ2-3 รอย ซาวเกลือแล้วล้างออก พักให้สะเด็ดน้ำ แล้ววางบนจานนึ่ง
  • ขิงซอย กระเทียมปอกเปลือกทุบ หมูสามชั้น ต้นหอม(เอาแต่ต้นสีขาวๆ ส่วนสีเขียวเก็บไว้ใส่แกงจืืดมื้้อถัดไปได้)หั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้ว จากนั้นซอยตามยาว พริกขี้หนูบุบ วางประดับบนตัวปลา
  • เอาน้ำมันพืชราดปลาเล็กน้อย
  • ใส่ซีอิ้วลงไป
  • ตั้งน้ำบนเตาให้เดือดพล่าน ต้องใส่น้ำให้มากหน่อย 3 ใน 4 ของก้นซึ้ง เพราะนึ่งปลาต้องใช้เวลานาน ใส่จานปลาลงนึ่ง ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หรือนานกว่านั้น ถ้าปลาตัวโต
  • ห้ามเปิดฝาแอบดูปลาขณะนึ่งเด็ดขาด เพราะจะทำให้คาว
  • ระหว่างนึ่ง นำผักที่ต้องการลวก เช่น ยอดแค ดอกแค สะเดา ดอกโสน กะหล่ำปลี มาล้าง จัดแต่ง พักให้สะเด็ดน้ำ
  • เมื่อนึ่งปลาเสร็จ ยกลง เราจะเ็ห็นน้ำในซึ้งเดือดพล่าน ใส่เกลือลงไปในน้ำสักหนึ่งช้อนชา (เพื่อให้ผักมีสีสวย) นำผักลงไปลวกเร็วๆ ปิดไฟ ตักขึ้น เอาไปกินกับน้ำพริกได้
ผักบางอย่างกินดิบได้ แต่ผักบางอย่างควรลวกก่อนกิน ผักที่ยกตัวอย่างข้างต้น(ยกเว้นกะหล่ำปลี) เป็นผักพื้นบ้าน ปลอดสารเคมี ต้องลวกก่อนกินทั้งสิ้น
กะหล่ำปลีกินดิบได้ก็จริง แต่ไม่แนะนำเพราะสารบางอย่างในกะหล่ำปลีดิบจะไปสกัดกั้นไม่ให้ร่างกายดูดซึมไอโอดีน จึงควรทำให้สุกเพื่อสลายสารที่ว่าก่อน หญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตรไม่แนะนำใ้ห้กินกะหล่ำปลีดิบโดยเด็ดขาด

เพิ่มเติม 6 กพ 55
ภาพปลากะพงนึ่งซีอิ้ว
ก่อนนึ่ง

Posted Image

และหลังนึ่งแล้ว

Posted Image

Edited by asawinee, 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 09:58.


#4 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:45

เห็น เมนู ปลาหมึกนึ่งมะนาว กับไข่ต้ม ของ คุณ asawinee แล้ว ตะนิ่นตาญี นึกถึง

อาหารจานโปรดขึ้นมาทันที ปลาหมึกน้ำดำ คุณ asawinee เคยทานไหมครับ?

วิธีในปรุงอาหารจานนี้ก็ไม่ยุ่งยากกระไรนัก ขออย่างเดียว ปลาหมึก ต้องสดจริงเท่านั้น

หากขึ้นมาจากทะเลสดๆยิ่งดี จะใช้น้ำจืด หรือน้ำเค็มก็ย่อมได้ ไม่ผิดกติกาใดๆทั้งสิ้น

เมื่อ ต้มน้ำ นั้น แต่พอให้เดือด เดือดแล้วใส่ปลาหมึก ลงไปเท่านั้นเป็นเสร็จพิธี

อย่ารังเกียจว่าน้ำที่ต้ม ปลาหมึก นั้นเป็นสีดำ สิทธิการิยะ ท่านว่าไว้

ยิ่งดำเหมือนศอของ พระศิวะฯ ที่ทรงดื่ม พิษ อันเกิดจากการกวนน้ำทิพย์ ยิ่งดี

ข้าวสวยร้อนๆสักหนึ่งจาน จะทานแต่น้ำก็หวาน จะทานทั้งเนื้อและน้ำ ก็อร่อย ไม่มีเทียม ลองดูสิครับ

แล้ว คุณ asawinee จะติดใจ...

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๒๒.๔๕ นาฬิกา

Edited by ตะนิ่นตาญี, 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:46.

"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#5 Majung

Majung

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 403 posts

ตอบ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 - 02:37

เข้ามาหิวจ้ะ...แอบคัดลอกเมนู กระดูกหมูทูอินวัน ด้วยคน :wub:
ส่วน ปลาหมึกน้ำดำ คอนเฟริมว่าอร่อยจริงจ้ะ แต่ต้องสดเท่านั้น..
ส่วนตัวยุพินอยู่ สมุทรสาคร...(ทำเสียงสูงๆ แอบโหยหวนฮัมเพลง) ^_^
พาออกทะเลจนได้เนอะ (ไปตกหมึกไง) :P
ธมฺมจารี สุขํ เสติ

#6 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 - 09:25

เห็น เมนู ปลาหมึกนึ่งมะนาว กับไข่ต้ม ของ คุณ asawinee แล้ว ตะนิ่นตาญี นึกถึง

อาหารจานโปรดขึ้นมาทันที ปลาหมึกน้ำดำ คุณ asawinee เคยทานไหมครับ?

วิธีในปรุงอาหารจานนี้ก็ไม่ยุ่งยากกระไรนัก ขออย่างเดียว ปลาหมึก ต้องสดจริงเท่านั้น

หากขึ้นมาจากทะเลสดๆยิ่งดี จะใช้น้ำจืด หรือน้ำเค็มก็ย่อมได้ ไม่ผิดกติกาใดๆทั้งสิ้น

เมื่อ ต้มน้ำ นั้น แต่พอให้เดือด เดือดแล้วใส่ปลาหมึก ลงไปเท่านั้นเป็นเสร็จพิธี

อย่ารังเกียจว่าน้ำที่ต้ม ปลาหมึก นั้นเป็นสีดำ สิทธิการิยะ ท่านว่าไว้

ยิ่งดำเหมือนศอของ พระศิวะฯ ที่ทรงดื่ม พิษ อันเกิดจากการกวนน้ำทิพย์ ยิ่งดี

ข้าวสวยร้อนๆสักหนึ่งจาน จะทานแต่น้ำก็หวาน จะทานทั้งเนื้อและน้ำ ก็อร่อย ไม่มีเทียม ลองดูสิครับ

แล้ว คุณ asawinee จะติดใจ...

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๒๒.๔๕ นาฬิกา


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
ยังไม่เคยทานปลาหมึกน้ำดำเลยค่ะ
มีร้านไหนแนะนำไหมคะ จะได้ลองไปชิมบ้าง
ส่วนตัวไม่ได้รังเกียจหมึกดำ
เส้นพาสต้าสีดำก็ทำมาจากหมึกปลาหมึก
เคยทานอาหารที่ตลาดโต้รุ่งในฮ่องกง เป็นปลาหมึกผัดหมึกดำ อร่อยมาก เจ้าถิ่นบอกว่ากินแล้วริมฝีปากต้องดำจึงจะอร่อยถึงใจ กินกระมิดกระเมี้ยนดำเฉพาะในปาก เจ้าถิ่นบอกขัดใจ :D

คุณตะนิ่นตาญี เป็นกวีหรือเปล่าคะ ภาษาสวยจัง
ความรักที่แท้จริงมีสีดำดุจศอพระศิวะ
นำมาเปรียบกับหมึกดำได้คมคายจัง

#7 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 - 09:28

เข้ามาหิวจ้ะ...แอบคัดลอกเมนู กระดูกหมูทูอินวัน ด้วยคน :wub:
ส่วน ปลาหมึกน้ำดำ คอนเฟริมว่าอร่อยจริงจ้ะ แต่ต้องสดเท่านั้น..
ส่วนตัวยุพินอยู่ สมุทรสาคร...(ทำเสียงสูงๆ แอบโหยหวนฮัมเพลง) ^_^
พาออกทะเลจนได้เนอะ (ไปตกหมึกไง) :P


ขอบคุณที่สนใจเมนูอาหาร
ทีแรกนึกว่าจะไม่มีใครสนใจซะแล้ว
บ้านคุณมะจังอยู่สมุทรสาคร อิจฉาจัง
ได้กินอาหารทะเลสดๆ ราคาถูก
คนจังหวัดนี้ เขาว่าไม่เอ๋อ ฉลาดเพราะไม่ขาดไอโอดีน
เห็นตัวอย่าง ทำคลองประดิษฐ์แล้ว ....สุดยอด :)

ปล. ที่บ้านน้ำท่วมหรือเปล่าคะ

#8 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 - 21:42

ขอบพระคุณ คุณ asawinee มากครับ

ไม่ทราบจะพูดอย่างไรดี นอกจากขอบพระคุณ คุณ asawinee มาก

รวมทั้งที่ได้นำสิ่ง ที่สัมผัส มาแบ่งปันกัน ชอบอ่านครับ

อีกประการหนึ่งคือ ดีใจที่ เข้าใจ และต่อเติมสิ่งที่ ตะนิ่นตาญี เขียนได้

หลายสิ่งหลายอย่างที่ ดีดี และมีในสังคมไทย เข้าใจว่ากำลังจะสูญหายไป

ก็ได้แต่ ดีใจ ที่สิ่งเหล่านี้ ยังมีปรากฎให้เห็น ขอบพระคุณ คุณ asawinee ที่ได้ยืนยันให้เห็น

หมึกน้ำดำ นั้น ทำทานเองอร่อยกว่าหาที่อื่นทานครับ อย่างที่ คุณ Majung ได้ยืนยันไว้แล้ว

ขอเพียงแค่ ปลาหมึกสด เท่านั้นเป็นพอ

ไว้ตาม คุณ Majung ไป ได หมึก กันดีกว่าครับ :D

ตะนิ่นตาญี

วันจันทร์ที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๒๑.๔๒ นาฬิกา
"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#9 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:37

ขอบคุณค่ะ จะนำไปประยุกต์ใช้ในชีวตประจำวัน

#10 Majung

Majung

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 403 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 - 09:11

ปล. ที่บ้านน้ำท่วมหรือเปล่าคะ


ขอบคุณค่ะ น้ำไม่ท่วมค่ะ แค่เฉียดๆ แต่ก็ถือเป็นศูนย์อพยพให้บรรดาญาติๆค่ะ ศูนย์นี้ดีกว่า ศูนย์เป็นภัย แน่นอนด้วยจิ :P
สมุทรสาคร พักนี้ข่าวฉาวเยอะ :unsure: ขอแก้ข่าวซะหน่อย ยังมีอะไรดีๆเยอะนะคะ แวะมาเที่ยวกันเน้ออ อาจได้เมนูสดๆใหม่ๆไว้เพิ่มด้วยค่ะ :D
ธมฺมจารี สุขํ เสติ

#11 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 - 09:14

ปล. ที่บ้านน้ำท่วมหรือเปล่าคะ


ขอบคุณค่ะ น้ำไม่ท่วมค่ะ แค่เฉียดๆ แต่ก็ถือเป็นศูนย์อพยพให้บรรดาญาติๆค่ะ ศูนย์นี้ดีกว่า ศูนย์เป็นภัย แน่นอนด้วยจิ :P
สมุทรสาคร พักนี้ข่าวฉาวเยอะ :unsure: ขอแก้ข่าวซะหน่อย ยังมีอะไรดีๆเยอะนะคะ แวะมาเที่ยวกันเน้ออ อาจได้เมนูสดๆใหม่ๆไว้เพิ่มด้วยค่ะ :D


ดีๆ อีกเยอะ นี่มะจุงด้วยป่าว :wub:

#12 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:37

น้าคะ นี่คือ......ก้านคะน้า


ในยุคที่มีการจำนำข้าว ทำให้การแข่งขันส่งออกข้าวไปต่างประเทศของไทยด้อยลง และยังทำให้ราคาข้าวสารในประเทศสูงขึ้น คนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยคงต้องประหยัด รัดเข็มขัดกันจนเอวกิ่วเอวคอด ข้าวสวยที่เคยกินอิ่ม ก็คงต้องมีสักมื้อสองมื้อที่เปลี่ยนมากินข้าวต้มแทน ลดปริมาณข้าวสารลง ประหยัดไปได้นิดนึง

พอดีวันนี้ไปตลาดเห็นคะน้าก้านอวบใหญ่ราคาถูก กำนึงมีประมาณห้าต้นราคาสิบบาท ปริมาณขนาดนี้เอามาผัดได้จานพูนๆล้นจานไปเปล่าๆ อย่ากระนั้นเลย แบ่งเอาก้านคะน้ามาทำกับข้าวประหยัดพลังงานกินกับข้าวต้มกันดีกว่า

เมนูนี้ขอรับรองว่าประหยัดพลังงานจริงๆ ไม่ต้องต้มผัดแกงทอดตุ๋นนึ่งใดๆทั้งสิ้น

เริ่มจากแยกเอาก้านคะน้ากับส่วนใบออกจากกัน ใบกับยอดอ่อนเก็บไว้ไปผัดในมื้ออื่น จะผัดปลาเค็ม ผัดหมูกรอบก็ว่ากันไป
ก้านคะน้าสักก้านสองก้านก็พอกินหนึ่งมื้อ ที่เหลือเก็บไว้ทำในมื้อต่อไปได้อีก หรือจะเอาไว้ผัดกับส่วนใบก็ได้
นำก้านคะน้ามาลอกเปลือกแข็งๆออก แล้วหั่นเฉียงๆเหมือนกับที่หั่นใส่หมูมะนาวนั่นแหละ เสร็จแล้วใส่ชามไว้
เติมซีอิ้วลงไปในชามให้พอขลุกขลิก (ถ้าใครชอบน้ำปลาก็ใช้ได้ไม่ว่ากัน)
หั่นพริกขี้หนูใส่ตามลงไป (แนะนำให้ใช้พริกสีแดงจะได้มีสีสันสวยงาม เวลากินจะได้เห็นชัด) คลุกๆให้ซีอิ้วซึมซาบเข้าทุกอณูของก้านคะน้าเป็นอันเสร็จ

แค่นี้ก็ได้กับข้าวกินกับข้าวต้มที่ง่ายแสนง่าย ราคาถูก ไม่เปลืองเชื้อเพลิงในการปรุงอาหาร อร่อย และมีคุณค่าทางอาหาร เพราะก้านคะน้าเป็นผักที่มีแคลเซียมสูง มีเส้นใยอาหารช่วยในการขับถ่าย
เดี๋ยวนี้ อย. มีข้อบังคับให้ซีอิ้วและน้ำปลาต้องเติมไอโอดีนด้วย เมนูนี้จึงมีประโยชน์ในเรื่องนี้ด้วย
แต่ข้อเสียก็มีคือ อย่าประหยัดมากจนกินแต่ซีอิ้วน้ำปลา เค็มเกินไปไตจะพังเอานะ...สิบอกให้

#13 Majung

Majung

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 403 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 12:45

เมนูก้านคะน้านี้ประหยัดได้อีกแล้ว :D
แต่มาช่วยเสริมค่ะ บางคนอาจไม่ชอบกินเค็มมาก ก็ให้ใช้เมนู ยำกุ้งแห้ง เสริมได้ เผ็ดเปรี้ยวตามใจชอบ กินกับข้าวต้มไปพร้อมกันเลย

กุ้งแห้ง เป็นอะไรที่ซื้อติดตู้ไว้ได้ค่ะ เป็นตัวเสริมได้หลายสำรับ ส้มตำก็ยังได้
ในตลาด(มหาชัย)นั้น กุ้งแห้งก็มีหลายแบบ หลายขนาด ให้ชิมเอาเลยจากหน้าร้านนั่นแหละค่ะ มีทั้งแบบ จืด เค็มน้อยไปจนถึงเค็มมากค่ะ
บางคนชอบแบบจืดๆ ใช้เป็นของว่างก็ยังได้ เสริมไอโอดีนเหมือนกันจ้า :D

*พี่แพน เค้าไม่กล้าโฆษณาตัวเองจิ เดี๋ยวโดนเก็บตังค์จากมอด555 อ่ะล้อเล่น ที่จริงกลัวออกทะเลจ้ะ เลยมาตอบช้าไปหน่อย ;)
ธมฺมจารี สุขํ เสติ

#14 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:47

ตะนิ่นตาญี เป็นคนชอบทาน ปูเค็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปูแสม หรือจะเป็นปูม้า ก็ชอบอยู่

สมัยนี้ ปูแสม แท้ๆ ไม่แน่ว่าจะเหลืออยู่สักมากน้อยแค่ไหน เพราะป่าโกงกาง ถูกถาง จนล้านเลี่ยนเตียนโล่งเสียมาก

แต่ก็ยังดี ที่มีคนนำเอา ปูม้า มาทำเค็ม ให้ทานพอให้อร่อยปากอยู่ได้

ครั้งก่อนนู้นตอนที่ยังหนุ่มอยู่นั้น ก็ เที่ยวซุก-เที่ยวซน ไปเที่ยวดู เขาจับปูแสม มาทำ ปูเค็ม

แต่ก็ใคร่ขอ นั่งยัน-นอนยัน และยืนยัน ว่า วิธีจะทาน ปูเค็ม ให้อร่อยปาก และสะดวกใจนั้น

ในขั้นต้นทีเดียว ขออย่าได้ซุกซนไปเที่ยวดูเขาจับปูมาทำ ปูเค็ม เป็นอันขาด

เพราะถ้าไปดูแล้วจะเห็นภาพติดตาที่ทำให้กิน ปูเค็ม ไม่ลงไปอีกนาน หรือตลอดชีวิตไปทีเดียว

ในตอนนั้นเขาจะเที่ยวไปจับปูเป็นๆมาใส่ปี๊บ หรือใส่ตุ่ม ทีละมากๆ แล้วเอาเกลือเทลงไป

เกลือยังไม่พอก็เทลงไปอีก เอาให้เป็นปูเค็ม ให้ได้ ฝ่ายปูเป็นๆที่อยู่ในตุ่ม หรือในไห

ถูกเกลือเข้าก็แสบตาเป็นกำลัง เพราะมันหลับตาไม่ได้ ด้วยเหตุที่ ตามันโปนออกมาอยู่ข้างนอก

แสบตาเข้ามันก็เอา ก้าม เช็ดตา พยายามปาดเกลือออกจากตาให้หมด และทำอย่างนั้น

จนกว่ามันจะตาย กลายเป็น ปูเค็ม ให้คนกิน ดูแล้วก็เหมือน ทศกัณฑ์ จอมอสุรา ก่อนตาย...

สิ้นรถสิ้นทศโยธา..........อสุราให้ประหวั่นพรั่นพรึง

ตะนิ่นตาญี

วันศุกร์ที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๘.๔๘ นาฬิกา


หมายเหตุ ภาษาไทย นั้น หากผู้ที่อ่าน อ่านแล้วไม่คิด อ่านผ่านๆ สักแต่พอ อ่าน ให้ผ่านๆไป

บางครั้งก็อาจทำให้ ผู้เขียน เสียน้ำใจ จากการถูก ผู้อ่าน ต่อว่า...ก็ได้แต่ให้กำลังใจ คนเขียน

อ่านให้มาก-เขียนให้มาก ไม่ต้องกลัว-ไม่ต้องเสียน้ำใจ ตะนิ่นตาญี กล้ารับรอง ไม่รุ่ง ก็ร่วง :)

"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#15 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:35

ตะนิ่นตาญี เป็นคนชอบทาน ปูเค็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปูแสม หรือจะเป็นปูม้า ก็ชอบอยู่

สมัยนี้ ปูแสม แท้ๆ ไม่แน่ว่าจะเหลืออยู่สักมากน้อยแค่ไหน เพราะป่าโกงกาง ถูกถาง จนล้านเลี่ยนเตียนโล่งเสียมาก

แต่ก็ยังดี ที่มีคนนำเอา ปูม้า มาทำเค็ม ให้ทานพอให้อร่อยปากอยู่ได้

ครั้งก่อนนู้นตอนที่ยังหนุ่มอยู่นั้น ก็ เที่ยวซุก-เที่ยวซน ไปเที่ยวดู เขาจับปูแสม มาทำ ปูเค็ม

แต่ก็ใคร่ขอ นั่งยัน-นอนยัน และยืนยัน ว่า วิธีจะทาน ปูเค็ม ให้อร่อยปาก และสะดวกใจนั้น

ในขั้นต้นทีเดียว ขออย่าได้ซุกซนไปเที่ยวดูเขาจับปูมาทำ ปูเค็ม เป็นอันขาด

เพราะถ้าไปดูแล้วจะเห็นภาพติดตาที่ทำให้กิน ปูเค็ม ไม่ลงไปอีกนาน หรือตลอดชีวิตไปทีเดียว

ในตอนนั้นเขาจะเที่ยวไปจับปูเป็นๆมาใส่ปี๊บ หรือใส่ตุ่ม ทีละมากๆ แล้วเอาเกลือเทลงไป

เกลือยังไม่พอก็เทลงไปอีก เอาให้เป็นปูเค็ม ให้ได้ ฝ่ายปูเป็นๆที่อยู่ในตุ่ม หรือในไห

ถูกเกลือเข้าก็แสบตาเป็นกำลัง เพราะมันหลับตาไม่ได้ ด้วยเหตุที่ ตามันโปนออกมาอยู่ข้างนอก

แสบตาเข้ามันก็เอา ก้าม เช็ดตา พยายามปาดเกลือออกจากตาให้หมด และทำอย่างนั้น

จนกว่ามันจะตาย กลายเป็น ปูเค็ม ให้คนกิน ดูแล้วก็เหมือน ทศกัณฑ์ จอมอสุรา ก่อนตาย...

สิ้นรถสิ้นทศโยธา..........อสุราให้ประหวั่นพรั่นพรึง

ตะนิ่นตาญี

วันศุกร์ที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๘.๔๘ นาฬิกา


หมายเหตุ ภาษาไทย นั้น หากผู้ที่อ่าน อ่านแล้วไม่คิด อ่านผ่านๆ สักแต่พอ อ่าน ให้ผ่านๆไป

บางครั้งก็อาจทำให้ ผู้เขียน เสียน้ำใจ จากการถูก ผู้อ่าน ต่อว่า...ก็ได้แต่ให้กำลังใจ คนเขียน

อ่านให้มาก-เขียนให้มาก ไม่ต้องกลัว-ไม่ต้องเสียน้ำใจ ตะนิ่นตาญี กล้ารับรอง ไม่รุ่ง ก็ร่วง :)


ขอบคุณที่มาเยือนค่ะ
ชอบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คุณตะนิ่นตาญีนำมาเล่าจนเห็นภาพวิถีชีวิตแบบไทยแท้มากๆเลยค่ะ
อันที่จริงกรรมวิธีการทำปูเค็ม ก็เหมือนการทำอาหารหลายๆอย่างที่เราต้องทำเพื่อความสดอร่อย
อย่างเช่น ปูม้าดอง กุ้งอบเกลือ ที่เราต้องใช้สิ่งมีชีวิตนั้นเป็นๆ
การประกอบอาหารนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ทีจะต้องตัดชีวิตสัตว์ หากเรามิใช่มังสวิรัติ
เพียงแต่การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้น เรามิได้ทำไปด้วยความสนุกคึกคะนอง เห็นสิ่งมีชีวิตอื่นไม่มีค่า
(พูดไปก็เหมือนแก้ตัวที่ผิดศีลข้อหนึ่งเลยนะคะ)

ทศกัณฐ์ทุรนทุรายก่อนตายที่คุณตะนิ่นตาญีว่า เนื่ื่องจากถูกพระรามแผลงศรพรหมมาสตร์ใส่ หรือว่าเพราะถูกหนุมานขยี้กล่องดวงใจคะ
พอดีอ่านแต่เนื้อเรื่องย่อๆค่ะ

ส่วนหมายเหตุภาษาไทยนั้น ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
เข้าใจดีว่า คนเรานั้นมีหลายแบบ หลากความคิด ต่างมุมมอง
จึงไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ หากมีคนต่อว่าต่อขาน
ส่วนจะรุ่งหรือร่วง ก็เป็นเรื่องสมมติมิใช่หรือคะ
:)

#16 Majung

Majung

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 403 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:09

ขอบคุณ คุณตะนิ่นตาญี ที่มาให้เกร็ดความรู้เรื่องปูเค็ม ที่บ้านก็มีติดบ้านไว้เรื่อยนะคะ...พูดซะเห็นภาพ ไม่กล้ากินปู เชียว :blink:
และให้กำลังใจ จขกท. เหมือนกันค่ะ มาดูเมนูเรื่อยๆค่ะ เพราะจริงๆที่บ้านก็ทำกับข้าวทานเองค่ะ(เป็นแค่ลูกมือค่ะ) ...
และยังแอบติดตามดู แดงคิวซี คุณ asawinee เวลาตอบคำถามหรือตั้งกระทู้ในห้องสภากาแฟด้วยค่ะ ได้ความรู้ บวก ฮาต่างหาก :wub:
ธมฺมจารี สุขํ เสติ

#17 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:18

ขอบคุณ คุณตะนิ่นตาญี ที่มาให้เกร็ดความรู้เรื่องปูเค็ม ที่บ้านก็มีติดบ้านไว้เรื่อยนะคะ...พูดซะเห็นภาพ ไม่กล้ากินปู เชียว :blink:
และให้กำลังใจ จขกท. เหมือนกันค่ะ มาดูเมนูเรื่อยๆค่ะ เพราะจริงๆที่บ้านก็ทำกับข้าวทานเองค่ะ(เป็นแค่ลูกมือค่ะ) ...
และยังแอบติดตามดู แดงคิวซี คุณ asawinee เวลาตอบคำถามหรือตั้งกระทู้ในห้องสภากาแฟด้วยค่ะ ได้ความรู้ บวก ฮาต่างหาก :wub:


แต๊งค์กิ้วหลายเด้ออี่นาง
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ได้รับจากคุณตะนิ่นตาญีกับคุณมะจัง เหมือนได้รับขนมสายไหมที่เบา ฟู นุ่ม หวาน สีสวย เลยเชียว


ว่าแต่ แอบติดตามดูเนี่ย ถ้าเป็นหนุ่มๆจะไม่ว่าเล้ยยยยยยยย
เฮ้อ..... :mellow:

#18 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:50

ขออภัยที่ตอบช้าไปสักนิดหนึ่ง เพราะต้องออกไปเติมน้ำมันที่ พรุ่งนี้จะขึ้นอีกลิตรละ ๕๐ สตางค์

จากคำถามที่ว่า "ทศกัณฐ์ทุรนทุรายก่อนตายที่คุณตะนิ่นตาญีว่า เนื่ื่องจากถูกพระรามแผลงศรพรหมมาสตร์ใส่ หรือว่าเพราะถูกหนุมานขยี้กล่องดวงใจคะ"

เริ่มจาก "ชู้" ไปเอา หัวใจที่ถูกแปลงเป็น แมลงภู่ และซุกในกล่อง มาขยี้

แล้วตามด้วย การแผลง ศรพรหมาศน์ จาก "ลูกเขย" ตัวดี จนสิ้นชีพวงศ์ยักษ์ตักษัย ครับ :)

ตะนิ่นตาญี
"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#19 ploychanpen

ploychanpen

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 198 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:50

อ่านทู้นี้แล้วหิวจริงๆ เมืองไทยมีของกินมากมายไม่อดอยาก ถ้ารู้วิธีดัดแปลง เราชอบอาหารทะเลมากๆ มีโอกาศล่ะก็จองบ้านสาวน้อยmajung เป็นที่แรกเลยล่ะ และชอบคุณตะนิ่นตาญีกับคุณ asawinee ใช้ภาษาไทยด้วยค่ะ

#20 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 - 23:14

อ่านทู้นี้แล้วหิวจริงๆ เมืองไทยมีของกินมากมายไม่อดอยาก ถ้ารู้วิธีดัดแปลง เราชอบอาหารทะเลมากๆ มีโอกาศล่ะก็จองบ้านสาวน้อยmajung เป็นที่แรกเลยล่ะ และชอบคุณตะนิ่นตาญีกับคุณ asawinee ใช้ภาษาไทยด้วยค่ะ


ขอบคุณที่แวะมาชมค่ะ
และขอบคุณที่ชม :)

ส่วนตัวก็ชอบอาหารทะเลเหมือนกันค่ะ
กุ้ง กั้ง หอย ปู ปลา สาหร่าย ชอบสุดๆ
แม่เราชอบค่อนว่า กินปลาแต่ละครั้ง แมวร้องไห้ทุกที :)

#21 ploychanpen

ploychanpen

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 198 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2555 - 00:21

คุณแม่เราทำอาหาร และขนมไทยโบราณอร่อยมากที่สุดในโลก แต่เราเองทำไม่ค่อยจะเป็นขนาดหุงข้าวยังไม่ได้เรื่องจนทุกวันนี้ สมกับเป็นลูกสาวคนเดียวจริงๆ สุภาษิตที่ว่า ดูนางให้ดูแม่นั่นน่ะใช้กับเราไม่ได้จริงๆ แต่เราก็เป็นกุลสตรีไทยที่ดีนะคะ มีอาหารอร่อยๆมาแชร์อีกนะถ้าจะให้ดีขอรูปด้วยค่ะ
จะได้มานั่งทานข้าวหน้าจอซะเลย5555

#22 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2555 - 10:37

เรื่องรูปต้องขออนุญาตขัดใจค่ะ :)
บ่อยครั้งนึกเมนูอาหารได้ วัตถุดิบก็ไม่ตรงกับเมนู
จะไป copy ภาพจากคนอื่นก็เกรงใจ :P

#23 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2555 - 09:58

กุ้งแห้งป่น


เมนูวันนี้ขอเอาใจคนที่โปรดปรานอาหารทะเล โดยเฉพาะคุณ Majung ที่มักมีกุ้งแห้งติดบ้านไว้เสมอ อาหารประหยัดครั้งนี้จึงไม่ต้องทำอะไรที่พิสดารมาก วิธีทำก็แสนง่าย
  • เริ่มจากนำกุ้งแห้งสักหยิบมือ มาเลือกเอาสิ่งแปลกปลอมออก จากนั้นลวกน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ (ส่วนใครใจถึงจะไม่ลวกน้ำร้อนก็ตามสบาย)
  • นำกุ้งแห้งมาโขลก ไม่ต้องละเอียดจนเนื้อกุ้งแห้งขึ้นฟูเป็นปุย แค่โขลกให้มีเนื้อหยาบๆปนอยูบ้าง เวลากินจะได้สัมผัสดื่มด่ำกับ texture ของอาหาร และเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน จึงไม่ควรใช้เครื่องบดสับอาหารให้เปลืองไฟฟ้า ออกแรงโขลกนั่นแหละดี ไขมันที่ห้อยย้อยพอกพูนต้นแขนจะได้ลดลง เปลี่ยนสลับซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เพื่อความสมดุล เสร็จแล้วตักใส่ชาม
  • ใส่น้ำปลาพอขลุกขลิก บีบมะนาว เติมพริกป่น ชิมรสดู ปรุงให้มีรสเค็ม เปรี้ยว เผ็ดตามต้องการ ถ้าให้เด็กกินก็ไม่ต้องโรยพริกป่น เป็นอันเสร็จ

เมนูนี้เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี นำมาคลุกข้าวสวยร้อนๆ แกล้มผักสดตามชอบ อร่อยนักแล คอนเฟิร์ม! ฟันธง!

กุ้งแห้งนั้นมีหลายราคาตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึง 800 บาท ต่อกิโลกรัม เวลาเลือกซื้อก็แล้วแต่ทุนทรัพย์และความชอบ ขอแค่อย่าซื้อไอ้ที่สีสันฉูดฉาดบาดตา ประเภทสีแดงแจ๋ ส้มแปร๊ด ชมพูแปร๋น นั้นควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง กุ้งแห้งสีจืดๆนั้นแหละปลอดภัยที่สุด

ปริมาณกุ้งแห้งที่เราใช้หนึ่งหยิบมือนั้น ยังไม่ถึงครึ่งขีด ถ้ากุ้งแห้งโลละห้าร้อย หนึ่งหยิบมือก็ราคาประมาณยี่สิบบาท พอปรุงเสร็จแล้วคลุกข้าวได้หลายจานทีเดียว ประหยัดจริงๆ

กุ้งแห้งเป็นอาหารทะเลที่มีไอโอดีน จึงช่วยป้องกันคอพอก และโรคเอ๋อได้เป็นอย่างดี

เกร็ดน่ารู้คือ คนที่โปรดปรานกุ้งแห้งมากจนนำมาเป็นของขบเคี้ยวยามว่าง คือ มังกรเติ้ง เมืองสุพรรณ

#24 Majung

Majung

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 403 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2555 - 00:38

อัยยะ...น้ำลายสอ...
ขอบคุณมากจ้ะ :wub:
ธมฺมจารี สุขํ เสติ

#25 ploychanpen

ploychanpen

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 198 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:13

สาวน้อยมะจัง ขอกุ้งแห้งสักสิบโลได้ป่ะ เค้าหิวอ่ะตะเอง :P :D แล้วเค้าก็ชอบทานกุ้งแห้งมากที่ซู๊ดเลยล่ะ อิอิ

#26 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:01

กุ้งแห้งป่นมาแว้ววววว....
Posted Image




ใครอยากได้ไปคลุกข้าวเชิญตามสบาย :)

Edited by asawinee, 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:08.


#27 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:11

ตะลึง! เจอตำลึง


เมื่อครั้งที่เรายังเด็ก ข้างๆบ้านมีที่ดินรกร้างอยู่แปลงหนึ่ง เจ้าของที่ล้อมรั้วลวดหนามเอาไว้ พอกาลเวลาผ่านไป รั้วก็ค่อยๆผุพังลง จากที่เคยโหว่เป็นทางหมาลอดก็ขยายวงกว้างจนคนเดินผ่านสบายๆ ตอนบ่ายๆแม่มักพาเราไปเก็บผักในที่ดินรกร้างนั่น มีทั้งผักบุ้งไทย และตำลึง ซึ่งแต่ละครั้งก็มีปริมาณมากขนาดที่นำมาทำอาหารได้พอกินทั้งครอบครัว

พ่อซึ่งเป็นลูกจีนและเป็นเถ้าแก่ มักไม่พอใจเพราะเกรงว่าชาวบ้านจะมองว่าที่บ้านอดอยาก ไม่มีเงินพอจะซื้อผักกิน ทว่าแม่ซึ่งเป็นลูกจีนเหมือนกัน เพียงแต่เป็นคนต่างจังหวัด บอกกับเราว่า ที่บ้านนอก ผักหญ้าที่ขึ้นในที่รกร้างนั้นใครๆก็ไปเก็บเอามากินได้ ไม่มีใครว่าอะไร เพราะนี่คือวิถีชนบท
ที่น่าขันคือ พอเพื่อนบ้านเห็นแม่เราเก็บผักจากที่ดินรกร้างนั้น ก็ทำตามอย่างบ้าง แน่นอนว่าทั้งตำลึงและผักบุ้งมีมากพอให้เพื่อนบ้านสองสามรายสามารถนำไปปรุงอาหารได้เนืองๆ

เรื่องราวแห่งความหลังนี้ ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อเราได้เดินผ่านที่ดินว่างเปล่าแห่งหนึ่งและเห็นยอดตำลึงอวบงามหลายสิบยอดอวดโฉมอยู่ริมทางเท้า

Posted Image

อะฮ้า! นี่แหละผักฟรีที่ไม่ต้องซื้อหา คุณค่าทางอาหารสูง มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตาด้วย

ใครที่อยู่แถวชานเมือง เสาร์อาทิตย์ลองแต่งตัวทะมัดทะแมงด้วยชุดเก่าๆปอนๆสักหน่อย ถือไม้ไว้อัน ไปเดินเล่นสำรวจแถวๆบ้าน ถ้าเจอที่รกร้าง ที่ดินว่างๆซึ่งมีวัชชพืชขึ้น ลองสังเกตดีๆ จะเจอผักที่กินได้แฝงตัวอยู่ ไม้ที่ถือไว้มีประโยชน์ ก่อนเข้าที่รกๆก็เอาฟาดๆกับพื้น เผื่อมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอ มันจะตกใจเสียงเลื้อยหนีไป ประโยชน์อีกอย่างคือบางครั้งยอดตำลึงก็อยู่สูง เอาไม้สอยให้มันลงมาจะได้เด็ดได้ง่าย

ตำลึงเอาไปทำอาหารได้หลายอย่าง ทำแกงจืดหมูสับ ผัดน้ำมันใส่กระเทียมสับ ลวกจิ้มน้ำพริก ใส่ในก๋วยเตี๋ยวแทนถั่วงอกเป็นก๋วยเตี๋ยวตำลึง

ใครที่ชอบกินบะหมี่สำเร็จรูป ลองเด็ดตำลึงฟรีๆจากที่รกร้างใส่ลงไป ใส่ไข่หนึ่งฟอง แค่นี้ก็ได้มาม่า ไวไว ยำยำ ที่มีปริมาณมากขึ้น อิ่มท้อง สารอาหารครบถ้วน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน มีหมด แถมยังประหยัดสุดๆ

ไม่ไกลจากบริเวณที่เราพบตำลึงในภาพ มีต้นมะอึกสูงประมาณเอว ออกลูกเขียวๆประมาณห้าหกลูก เราเล็งไว้ว่าถ้ามันเริ่มมีสีออกเหลืองเริ่มสุก จะเก็บไปสักสองลูก ไว้ตำน้ำพริกกะปิ แต่อนิจจา วันรุ่งขึ้น มะอึกทั้งหมดหายไป! มีคนตัดหน้าเก็บไปแล้ว อดเลยเรา

นอกจากนี้ เราเคยเห็นชายหนึ่งหญิงสองลงจากรถเก๋ง ผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงสแล็ก รองเท้าหนัง ผู้หญิงทั้งสองสวม blouse นุ่งกระโปรงยาวครึ่งน่อง รองเท้าคัทชู ช่วยกันเก็บดอกโสนซึ่งบานเหลืองอร่ามอยู่ริมทางในที่รกร้างด้านข้างลานจอดรถเซ็นทรัลพระรามสอง และอยู่ตรงข้ามสำนักงานที่ดินเขตบางขุนเทียน ดอกโสนที่ว่านั่นบานเต็มต้น หลายๆต้น ถ้าไม่เก็บไปกิน ก็น่าเสียดายที่จะปล่อยให้มันสูญเปล่า

จากตัวอย่างที่ยกมา ใครที่เบี้ยน้อยหอยน้อย อยากประหยัดรัดเข็มขัด แต่อาย ไม่กล้าตากหน้าไปเก็บผักฟรีจากที่ดินรกร้าง ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ในเมื่อไม่ได้ขโมยหรือขอใครกิน ก็ไม่ควรอาย จริงไหม :)

#28 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:57

ตะลึง! เจอตำลึง


เมื่อครั้งที่เรายังเด็ก ข้างๆบ้านมีที่ดินรกร้างอยู่แปลงหนึ่ง เจ้าของที่ล้อมรั้วลวดหนามเอาไว้ พอกาลเวลาผ่านไป รั้วก็ค่อยๆผุพังลง จากที่เคยโหว่เป็นทางหมาลอดก็ขยายวงกว้างจนคนเดินผ่านสบายๆ ตอนบ่ายๆแม่มักพาเราไปเก็บผักในที่ดินรกร้างนั่น มีทั้งผักบุ้งไทย และตำลึง ซึ่งแต่ละครั้งก็มีปริมาณมากขนาดที่นำมาทำอาหารได้พอกินทั้งครอบครัว

พ่อซึ่งเป็นลูกจีนและเป็นเถ้าแก่ มักไม่พอใจเพราะเกรงว่าชาวบ้านจะมองว่าที่บ้านอดอยาก ไม่มีเงินพอจะซื้อผักกิน ทว่าแม่ซึ่งเป็นลูกจีนเหมือนกัน เพียงแต่เป็นคนต่างจังหวัด บอกกับเราว่า ที่บ้านนอก ผักหญ้าที่ขึ้นในที่รกร้างนั้นใครๆก็ไปเก็บเอามากินได้ ไม่มีใครว่าอะไร เพราะนี่คือวิถีชนบท
ที่น่าขันคือ พอเพื่อนบ้านเห็นแม่เราเก็บผักจากที่ดินรกร้างนั้น ก็ทำตามอย่างบ้าง แน่นอนว่าทั้งตำลึงและผักบุ้งมีมากพอให้เพื่อนบ้านสองสามรายสามารถนำไปปรุงอาหารได้เนืองๆ

เรื่องราวแห่งความหลังนี้ ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อเราได้เดินผ่านที่ดินว่างเปล่าแห่งหนึ่งและเห็นยอดตำลึงอวบงามหลายสิบยอดอวดโฉมอยู่ริมทางเท้า

Posted Image

อะฮ้า! นี่แหละผักฟรีที่ไม่ต้องซื้อหา คุณค่าทางอาหารสูง มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตาด้วย

ใครที่อยู่แถวชานเมือง เสาร์อาทิตย์ลองแต่งตัวทะมัดทะแมงด้วยชุดเก่าๆปอนๆสักหน่อย ถือไม้ไว้อัน ไปเดินเล่นสำรวจแถวๆบ้าน ถ้าเจอที่รกร้าง ที่ดินว่างๆซึ่งมีวัชชพืชขึ้น ลองสังเกตดีๆ จะเจอผักที่กินได้แฝงตัวอยู่ ไม้ที่ถือไว้มีประโยชน์ ก่อนเข้าที่รกๆก็เอาฟาดๆกับพื้น เผื่อมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอ มันจะตกใจเสียงเลื้อยหนีไป ประโยชน์อีกอย่างคือบางครั้งยอดตำลึงก็อยู่สูง เอาไม้สอยให้มันลงมาจะได้เด็ดได้ง่าย

ตำลึงเอาไปทำอาหารได้หลายอย่าง ทำแกงจืดหมูสับ ผัดน้ำมันใส่กระเทียมสับ ลวกจิ้มน้ำพริก ใส่ในก๋วยเตี๋ยวแทนถั่วงอกเป็นก๋วยเตี๋ยวตำลึง

ใครที่ชอบกินบะหมี่สำเร็จรูป ลองเด็ดตำลึงฟรีๆจากที่รกร้างใส่ลงไป ใส่ไข่หนึ่งฟอง แค่นี้ก็ได้มาม่า ไวไว ยำยำ ที่มีปริมาณมากขึ้น อิ่มท้อง สารอาหารครบถ้วน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน มีหมด แถมยังประหยัดสุดๆ

ไม่ไกลจากบริเวณที่เราพบตำลึงในภาพ มีต้นมะอึกสูงประมาณเอว ออกลูกเขียวๆประมาณห้าหกลูก เราเล็งไว้ว่าถ้ามันเริ่มมีสีออกเหลืองเริ่มสุก จะเก็บไปสักสองลูก ไว้ตำน้ำพริกกะปิ แต่อนิจจา วันรุ่งขึ้น มะอึกทั้งหมดหายไป! มีคนตัดหน้าเก็บไปแล้ว อดเลยเรา

นอกจากนี้ เราเคยเห็นชายหนึ่งหญิงสองลงจากรถเก๋ง ผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงสแล็ก รองเท้าหนัง ผู้หญิงทั้งสองสวม blouse นุ่งกระโปรงยาวครึ่งน่อง รองเท้าคัทชู ช่วยกันเก็บดอกโสนซึ่งบานเหลืองอร่ามอยู่ริมทางในที่รกร้างด้านข้างลานจอดรถเซ็นทรัลพระรามสอง และอยู่ตรงข้ามสำนักงานที่ดินเขตบางขุนเทียน ดอกโสนที่ว่านั่นบานเต็มต้น หลายๆต้น ถ้าไม่เก็บไปกิน ก็น่าเสียดายที่จะปล่อยให้มันสูญเปล่า

จากตัวอย่างที่ยกมา ใครที่เบี้ยน้อยหอยน้อย อยากประหยัดรัดเข็มขัด แต่อาย ไม่กล้าตากหน้าไปเก็บผักฟรีจากที่ดินรกร้าง ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ในเมื่อไม่ได้ขโมยหรือขอใครกิน ก็ไม่ควรอาย จริงไหม :)


นึกว่ามีแต่เราที่ลงรถไปเก็บผักข้างทาง 555

#29 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:28


ตะลึง! เจอตำลึง


เมื่อครั้งที่เรายังเด็ก ข้างๆบ้านมีที่ดินรกร้างอยู่แปลงหนึ่ง เจ้าของที่ล้อมรั้วลวดหนามเอาไว้ พอกาลเวลาผ่านไป รั้วก็ค่อยๆผุพังลง จากที่เคยโหว่เป็นทางหมาลอดก็ขยายวงกว้างจนคนเดินผ่านสบายๆ ตอนบ่ายๆแม่มักพาเราไปเก็บผักในที่ดินรกร้างนั่น มีทั้งผักบุ้งไทย และตำลึง ซึ่งแต่ละครั้งก็มีปริมาณมากขนาดที่นำมาทำอาหารได้พอกินทั้งครอบครัว

พ่อซึ่งเป็นลูกจีนและเป็นเถ้าแก่ มักไม่พอใจเพราะเกรงว่าชาวบ้านจะมองว่าที่บ้านอดอยาก ไม่มีเงินพอจะซื้อผักกิน ทว่าแม่ซึ่งเป็นลูกจีนเหมือนกัน เพียงแต่เป็นคนต่างจังหวัด บอกกับเราว่า ที่บ้านนอก ผักหญ้าที่ขึ้นในที่รกร้างนั้นใครๆก็ไปเก็บเอามากินได้ ไม่มีใครว่าอะไร เพราะนี่คือวิถีชนบท
ที่น่าขันคือ พอเพื่อนบ้านเห็นแม่เราเก็บผักจากที่ดินรกร้างนั้น ก็ทำตามอย่างบ้าง แน่นอนว่าทั้งตำลึงและผักบุ้งมีมากพอให้เพื่อนบ้านสองสามรายสามารถนำไปปรุงอาหารได้เนืองๆ

เรื่องราวแห่งความหลังนี้ ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อเราได้เดินผ่านที่ดินว่างเปล่าแห่งหนึ่งและเห็นยอดตำลึงอวบงามหลายสิบยอดอวดโฉมอยู่ริมทางเท้า

Posted Image

อะฮ้า! นี่แหละผักฟรีที่ไม่ต้องซื้อหา คุณค่าทางอาหารสูง มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตาด้วย

ใครที่อยู่แถวชานเมือง เสาร์อาทิตย์ลองแต่งตัวทะมัดทะแมงด้วยชุดเก่าๆปอนๆสักหน่อย ถือไม้ไว้อัน ไปเดินเล่นสำรวจแถวๆบ้าน ถ้าเจอที่รกร้าง ที่ดินว่างๆซึ่งมีวัชชพืชขึ้น ลองสังเกตดีๆ จะเจอผักที่กินได้แฝงตัวอยู่ ไม้ที่ถือไว้มีประโยชน์ ก่อนเข้าที่รกๆก็เอาฟาดๆกับพื้น เผื่อมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอ มันจะตกใจเสียงเลื้อยหนีไป ประโยชน์อีกอย่างคือบางครั้งยอดตำลึงก็อยู่สูง เอาไม้สอยให้มันลงมาจะได้เด็ดได้ง่าย

ตำลึงเอาไปทำอาหารได้หลายอย่าง ทำแกงจืดหมูสับ ผัดน้ำมันใส่กระเทียมสับ ลวกจิ้มน้ำพริก ใส่ในก๋วยเตี๋ยวแทนถั่วงอกเป็นก๋วยเตี๋ยวตำลึง

ใครที่ชอบกินบะหมี่สำเร็จรูป ลองเด็ดตำลึงฟรีๆจากที่รกร้างใส่ลงไป ใส่ไข่หนึ่งฟอง แค่นี้ก็ได้มาม่า ไวไว ยำยำ ที่มีปริมาณมากขึ้น อิ่มท้อง สารอาหารครบถ้วน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน มีหมด แถมยังประหยัดสุดๆ

ไม่ไกลจากบริเวณที่เราพบตำลึงในภาพ มีต้นมะอึกสูงประมาณเอว ออกลูกเขียวๆประมาณห้าหกลูก เราเล็งไว้ว่าถ้ามันเริ่มมีสีออกเหลืองเริ่มสุก จะเก็บไปสักสองลูก ไว้ตำน้ำพริกกะปิ แต่อนิจจา วันรุ่งขึ้น มะอึกทั้งหมดหายไป! มีคนตัดหน้าเก็บไปแล้ว อดเลยเรา

นอกจากนี้ เราเคยเห็นชายหนึ่งหญิงสองลงจากรถเก๋ง ผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงสแล็ก รองเท้าหนัง ผู้หญิงทั้งสองสวม blouse นุ่งกระโปรงยาวครึ่งน่อง รองเท้าคัทชู ช่วยกันเก็บดอกโสนซึ่งบานเหลืองอร่ามอยู่ริมทางในที่รกร้างด้านข้างลานจอดรถเซ็นทรัลพระรามสอง และอยู่ตรงข้ามสำนักงานที่ดินเขตบางขุนเทียน ดอกโสนที่ว่านั่นบานเต็มต้น หลายๆต้น ถ้าไม่เก็บไปกิน ก็น่าเสียดายที่จะปล่อยให้มันสูญเปล่า

จากตัวอย่างที่ยกมา ใครที่เบี้ยน้อยหอยน้อย อยากประหยัดรัดเข็มขัด แต่อาย ไม่กล้าตากหน้าไปเก็บผักฟรีจากที่ดินรกร้าง ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ในเมื่อไม่ได้ขโมยหรือขอใครกิน ก็ไม่ควรอาย จริงไหม :)


นึกว่ามีแต่เราที่ลงรถไปเก็บผักข้างทาง 555


มหาอำมาตย์อย่างเราเท่านั้นที่ทำได้แบบไม่เหนียม :D :D

#30 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:20

เอา แกงจืดตำลึง มาฝาก เหล่าอำมาตย์ ที่กำลัง ตะลึง กับ ตำลึง

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๘.๒๐ นาฬิกา

Attached Images

  • กินอย่างอำมาตย์9p.JPG

Edited by ตะนิ่นตาญี, 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:24.

"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#31 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:30

เอา แกงจืดตำลึง มาฝาก เหล่าอำมาตย์ ที่กำลัง ตะลึง กับ ตำลึง

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๘.๒๐ นาฬิกา


หวา.....แกงจืดตำลึงหมูสับ
มาไวยิ่งกว่าเสกได้เลยนะคะเนี่ย
รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มดีแท้ :D

ขอบคุณที่เอาแกงจืดตำลึงมาฝากค่ะ

#32 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 12:12

ขออนุญาตประชันแกงจืดตำลึงหมูสับกับคุณตะนิ่นตาญีค่ะ
Posted Image

Posted Image

#33 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 12:20

ส่วนขนมหวานนี่ไม่เกี่ยวกับเทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย
เพียงแต่ว่า พ่อเราไปซื้อฟักทองลูกบักเอ้ก หนักสุดๆ มาหนึ่งลูก ราคาแค่ 13 บาท
เลยบงการให้แม่ทำฟักทองสังขยา
ดูเหมือนฟักทองราคาถูก แต่พอลงมือทำจริงๆ พ่อถึงได้ทราบว่า ขนมชนิดนี้ไม่ได้ถูกอย่างที่คิด
ฟักทอง 13 บาท
มะพร้าว 30 บาท
ไข่เป็ด 5 ฟอง 20 บาท
น้ำตาลปึก 20 บาท
ใบเตย เด็ดเอาที่กระถางหน้าบ้าน ฟรี
รวมเบ็ดเสร็จ 83 บาท
ดูเหมือนต้นทุนจะไม่แพง แต่ขอโทษที ใช้เวลานึ่ง 3 ชั่วโมงเศษ!!!
กว่าจะสุกได้อย่างนี้

Posted Image

Posted Image

#34 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:18

^
^
ผมเคยทำ ขี้เกียจนึงนาน เลยใช้วิธีเทน้ำสังขยาที่ละนิด รอให้มันสุดเป็นชั้นๆใช้เวลาแค่45-50นาที สังขยาไข่ก็แข็งแล้ว
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#35 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:47

^
^
ผมเคยทำ ขี้เกียจนึงนาน เลยใช้วิธีเทน้ำสังขยาที่ละนิด รอให้มันสุดเป็นชั้นๆใช้เวลาแค่45-50นาที สังขยาไข่ก็แข็งแล้ว


Good Idea!!

แต่ฟักทองจะนิ่่มเหรอ ลูกที่เห็นในภาพเนื้อหนามั่กๆ

#36 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:00

คุณแม่เราทำอาหาร และขนมไทยโบราณอร่อยมากที่สุดในโลก แต่เราเองทำไม่ค่อยจะเป็นขนาดหุงข้าวยังไม่ได้เรื่องจนทุกวันนี้ สมกับเป็นลูกสาวคนเดียวจริงๆ สุภาษิตที่ว่า ดูนางให้ดูแม่นั่นน่ะใช้กับเราไม่ได้จริงๆ แต่เราก็เป็นกุลสตรีไทยที่ดีนะคะ มีอาหารอร่อยๆมาแชร์อีกนะถ้าจะให้ดีขอรูปด้วยค่ะ
จะได้มานั่งทานข้าวหน้าจอซะเลย5555


ช่วยมาติชมฟักทองสังขยาหน่อยสิคะ :)

#37 ploychanpen

ploychanpen

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 198 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:11

ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับรูปอาหาร ขนม รวมทั้งที่ไปที่มาด้วยนะเจ้าคะ หน้าจอมื้อนี้แจ่มมากๆคะ ทั้งคาว หวาน พร้อม อิ่มจริงๆ5555

#38 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 23:16


^
^
ผมเคยทำ ขี้เกียจนึงนาน เลยใช้วิธีเทน้ำสังขยาที่ละนิด รอให้มันสุดเป็นชั้นๆใช้เวลาแค่45-50นาที สังขยาไข่ก็แข็งแล้ว


Good Idea!!

แต่ฟักทองจะนิ่่มเหรอ ลูกที่เห็นในภาพเนื้อหนามั่กๆ


ขอผมทำลูกขนาดประมาณ 1 กิโลครับ ก็นิ่มดีนะ
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#39 zombie!!!ภูธร

zombie!!!ภูธร

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 271 posts

ตอบ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 04:49

น่ากินมั่กๆ ^^ อนิจจาอยู่หอไม่มีโอกาสได้ทำกินเอง T_T
ปูไม่รู้ ปูงงค่ะ !!!

#40 Zomc

Zomc

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 77 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:04

เห็น เมนู ปลาหมึกนึ่งมะนาว กับไข่ต้ม ของ คุณ asawinee แล้ว ตะนิ่นตาญี นึกถึง อาหารจานโปรดขึ้นมาทันที ปลาหมึกน้ำดำ คุณ asawinee เคยทานไหมครับ? วิธีในปรุงอาหารจานนี้ก็ไม่ยุ่งยากกระไรนัก ขออย่างเดียว ปลาหมึก ต้องสดจริงเท่านั้น หากขึ้นมาจากทะเลสดๆยิ่งดี จะใช้น้ำจืด หรือน้ำเค็มก็ย่อมได้ ไม่ผิดกติกาใดๆทั้งสิ้น เมื่อ ต้มน้ำ นั้น แต่พอให้เดือด เดือดแล้วใส่ปลาหมึก ลงไปเท่านั้นเป็นเสร็จพิธี อย่ารังเกียจว่าน้ำที่ต้ม ปลาหมึก นั้นเป็นสีดำ สิทธิการิยะ ท่านว่าไว้ ยิ่งดำเหมือนศอของ พระศิวะฯ ที่ทรงดื่ม พิษ อันเกิดจากการกวนน้ำทิพย์ ยิ่งดี ข้าวสวยร้อนๆสักหนึ่งจาน จะทานแต่น้ำก็หวาน จะทานทั้งเนื้อและน้ำ ก็อร่อย ไม่มีเทียม ลองดูสิครับ แล้ว คุณ asawinee จะติดใจ... ตะนิ่นตาญี วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เวลา ๒๒.๔๕ นาฬิกา


เคยเห็นคุณย่าทำเมนูนี้อยู่หลายครั้ง
แต่ต่างกันนิดหน่อย คือตอนต้มน้ำใส่เกลือ ตะไคร้ทุบ แล้วก็หอมแดงลงทุบไปด้วย
บางครั้งก็มีมะนาวดองให้รสเปรี้ยวอร่อยไปอีกแบบ
มาอ่านกระทู้นี้แล้วคิดถึงบ้าน อยู่บ้านแทบไม่ต้องใช้เงิน มาอยู่กทม.ทรมานใจ T^T

To love is nothing.

To beloved is something.

But to love and beloved is everything.

Thank you,Talid-Tittee, my everything


#41 Zomc

Zomc

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 77 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:34

แกงเหลืองปลาย่างใบมะขาม >>> อันนี้สูตรปักษ์ใต้ของท่านแม่ เปรี้ยวจี้ด ทานกับไข่เจียวหอมๆ
เอาไปกินเวลาเข้าสวนกับพ่อ กินแล้วรู้สึกมีแรงทำงาน
ต้นทุนก็ถูกใบมะขามของเพื่อนบ้าน เครื่องแกงส้ม 5 บาท
มะนาวต้นหลังบ้าน ปลาย่าง 20 กว่าบาท(ตัวสีชมพู แม่บอกว่าคือปลาตาหวาน)



เมนูเผือก >>> แถวใต้เรียกหัวบอน : )
เมนู 1 แกงเหลืองก้านเผือก >>> อันนี้ต้องใช้ประสบการณ์ เพราะข้าพเจ้าเคยลองทำแล้ว ตอนกินคันคอมาก เปลี่ยนไปใช้บอนกระดาษก็ได้อร่อยดี
เมนู 2 เกายุก >>> เมนูนี้ไม่ราคาถูกท่าไหร่ แต่รับประกันความอร่อยขั้นเทพ
http://www.bloggang....group=1&gblog=5

เมนู 3 แกงเลียงเผือก >>> ไปเจอมาพอดีเลยเอามาแปะซะhttp://rueanthai2.le...9/<br /><br />เมนู 4 ขนมหวาน&ของกินเล่น >>> เผือกแกงบวด บัวลอยใส่เผือก เผือกทอด(ไทยฟราย 555) ฯลฯ

To love is nothing.

To beloved is something.

But to love and beloved is everything.

Thank you,Talid-Tittee, my everything


#42 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:31

แกงเหลืองปลาย่างใบมะขาม >>> อันนี้สูตรปักษ์ใต้ของท่านแม่ เปรี้ยวจี้ด ทานกับไข่เจียวหอมๆ
เอาไปกินเวลาเข้าสวนกับพ่อ กินแล้วรู้สึกมีแรงทำงาน
ต้นทุนก็ถูกใบมะขามของเพื่อนบ้าน เครื่องแกงส้ม 5 บาท
มะนาวต้นหลังบ้าน ปลาย่าง 20 กว่าบาท(ตัวสีชมพู แม่บอกว่าคือปลาตาหวาน)



เมนูเผือก >>> แถวใต้เรียกหัวบอน : )
เมนู 1 แกงเหลืองก้านเผือก >>> อันนี้ต้องใช้ประสบการณ์ เพราะข้าพเจ้าเคยลองทำแล้ว ตอนกินคันคอมาก เปลี่ยนไปใช้บอนกระดาษก็ได้อร่อยดี
เมนู 2 เกายุก >>> เมนูนี้ไม่ราคาถูกท่าไหร่ แต่รับประกันความอร่อยขั้นเทพ
http://www.bloggang....group=1&gblog=5

เมนู 3 แกงเลียงเผือก >>> ไปเจอมาพอดีเลยเอามาแปะซะhttp://rueanthai2.le...9/<br /><br />เมนู 4 ขนมหวาน&ของกินเล่น >>> เผือกแกงบวด บัวลอยใส่เผือก เผือกทอด(ไทยฟราย 555) ฯลฯ


ขอบคุณที่แวะมาชมและแชร์ค่ะ
แกงเหลืองปลาย่างใบมะขาม ทำเสร็จแล้วต้องตักไปแจกเพื่อนบ้านเจ้าของใบมะขามด้วยแน่ๆใช่ไหมคะ
ปลาตาหวาน หน้าตาเป็นไง ไม่เคยเห็นเลย
ตาหวานประมาณการ์ตูนนี้ได้ป่าว



Posted Image

#43 Zomc

Zomc

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 77 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:51

ปลาตาหวาน หน้าตาเป็นไง ไม่เคยเห็นเลย


แบ่งๆกันกินครับ ยิ่งเวลาเพื่อนบ้านชมว่าอร่อยยิ่งมีความสุข แทบจะทำกับข้าวเผื่อเพื่อนบ้านทั้งสัปดาห์เลย


ปลาตาหวาน หน้าตาอย่างนี้ครับ ตาหวานพอๆกันการ์ตูนมั้ย
Posted Image
Posted Image

To love is nothing.

To beloved is something.

But to love and beloved is everything.

Thank you,Talid-Tittee, my everything


#44 Zomc

Zomc

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 77 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:53

หาภาพปลาตาหวานย่างมาให้ดูไม่ได้จริงๆ
คงต้องรอปิดเทอม กลับบ้านไปจะเอากับข้าวมาแชร์บ่อยๆ

To love is nothing.

To beloved is something.

But to love and beloved is everything.

Thank you,Talid-Tittee, my everything


#45 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:46

ปลาตาหวาน หน้าตาเป็นไง ไม่เคยเห็นเลย


แบ่งๆกันกินครับ ยิ่งเวลาเพื่อนบ้านชมว่าอร่อยยิ่งมีความสุข แทบจะทำกับข้าวเผื่อเพื่อนบ้านทั้งสัปดาห์เลย


ปลาตาหวาน หน้าตาอย่างนี้ครับ ตาหวานพอๆกันการ์ตูนมั้ย
Posted Image
Posted Image


ตาหวานจริงๆด้วย!!!
ตาโตบ้องแบ๊วได้ใจจริงเชียว
แถมยังน่ากินอีก

คุณ Zomc ท่าทางจะเป็นคนโรแมนติกเนอะ
ดูจากลายเซ็นต์
รัก คือ การไม่มีอะไร
เป็นที่รัก คือ การมีบางสิ่ง
รักและเป็นที่รัก คือ การมีทุกๆสิ่ง

หวานยิ่งกว่าการ์ตูนตาหวาน หรือปลาตาหวานซะอีก :wub: :wub: :wub: :wub:

#46 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:50

หาภาพปลาตาหวานย่างมาให้ดูไม่ได้จริงๆ
คงต้องรอปิดเทอม กลับบ้านไปจะเอากับข้าวมาแชร์บ่อยๆ


ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความใจดี ที่จะเอากับข้าวจากบ้านมาแชร์

รอได้ค่ะ จะนานแค่ไหนก็รอได้ค่ะ

ปล. อย่าว่าโง้นงี้เลยนะคะ ขอเป็นกับข้าวพื้นบ้าน ประเภทที่หาซื้อตามร้านไม่ค่อยจะได้นะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ :)

#47 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 10:37

แกงต่อยอด


ถ้าคุณอยากกินแกงเผ็ดสักอย่าง แล้วไปซื้อที่ร้าน คุณพบว่าในหม้อแกงนั้น มีแกงอยู่ก้นหม้อ ส่วนใหญ่เป็นน้ำกะทิ มีเนื้อเหลืออยู่มากพอที่จะขายคุณได้และเหลือเศษนิดหน่อย คุณจะตัดสินใจอย่างไร

ก. ไม่ซื้อ ของเหลือๆก้นหม้อ ไม่น่ากิน อาจจะใกล้บูดเสียแล้วก็ได้
ข. ซื้อ ภาวนาให้แม่ค้าตักควานเอาแต่เนื้อๆแถมมาให้หมด โดยคิดราคาเท่ากับปกติ
ค. ซื้อ เอ่ยปากบอกแม่ค้าให้ตักเอาแต่เนื้อๆมาให้หมด แล้วแถมน้ำแกงมาให้เยอะๆ จะใส่น้ำแกงมาในถุงต่างหาก แล้วคิดเงินเพิ่ม 5 บาท 10 บาท ก็ได้
คำตอบจะเป็นอะไร ข้อไหนก็ไม่มีผิดหรือถูก แต่ขอให้ลองอ่านเรื่องต่อไปนี้ดู

แม่เราไปตลาด ตั้งใจจะซื้อแกงจากเจ้าประจำ ร้านนี้ทำแกงได้อร่อย รสดี สะอาด ราคาสมเหตุสมผล แต่ทว่าวันนี้บังเอิญแกงเขียวหวานปลาดุกที่แม่ค้าปรุงมาขายนั้น เหลือแต่น้ำแกงกะทิ มะเขือเปาะผ่าสี่ พริกชี้ฟ้าทั้งแดงและเขียวหั่นเฉียง ใบโหระพา กระชายซอยเป็นเส้นยาว แค่นั้น ส่วนเนื้อปลาขายหมดแล้ว แม่ค้ามองตาแม่ก็รู้ใจ ตักส่วนประกอบของแกงที่เหลือให้แม่จนหมด รวมทั้งน้ำแกงกะทิสีเขียวมันย่องเข้มข้นอีกถุงโตๆแยกมาต่างหาก

ทั้งหมดนี่ ฟรี!!!

อันที่จริง ถึงไม่ยกให้แม่ฟรีๆ แม่ค้าก็ต้องทิ้งอยู่แล้ว เพราะเขาจะทำแกงใหม่ๆสดๆทุกเช้า ไม่เคยเอาของเหลือค้างข้ามวันมาขายลูกค้าเลย

เมื่อได้แกงมาถุงโต แม่เราจึงไปซื้อปลาดุกบิ๊กอุยมา 1 ตัวราคา 31 บาท พ่อค้าปลาจัดแจงทำปลาให้เรียบร้อย แม่เราจึงนำมาต่อยอดกับน้ำกะทิแกงที่ได้มาฟรีๆ

เอาเฉพาะส่วนน้ำกะทิแกงมาตั้งไฟให้เดือดใส่ปลาดุกลงไปต้มให้สุก ห้ามคนเด็ดขาด พอปลาสุกค่อยใส่เครื่องเคราที่เหลือ พวกมะเขือ พริกชี้ฟ้า กระชาย ใบโหระพาซึ่งได้มาจากแม่ค้าลงไปในหม้อ ถ้านำไปต้มรวมกันตั้งแต่แรก มะเขือจะเละและดำไม่น่ากิน พริกชี้ฟ้าก็เหมือนกัน
ลองชิมดูรสชาติตามชอบ
เสร็จแล้วก็ได้แกงเขียวหวานปลาดุกดังภาพ

Posted Image

การทำแกงหนึ่งหม้อครั้งนี้ ประหยัดค่ากะทิไป 30 บาท (ครึ่งกิโล) ค่าพริกแกง 15 บาท มะเขือ 5 บาท เห็นๆ
ต้นทุนเครื่องปรุงจึงอยู่ที่ค่าปลาดุก 31 บาท เท่านั้น
แล้วยังไม่เสียเวลาในการโขลกพริกแกง ผัดน้ำพริกแกงกับกะทิ ให้เหนื่อย
นอกจากจะน่ากินแล้ว ยังประหยัดเงิน ประหยัดเวลาในการทำแกงสุดๆ

ใครที่ไปซื้อแกงจากแม่ค้าแล้วอยากนำเทคนิคนี้ไปใช้ ต้องคอยเล็งให้ดีว่าร้านข้าวแกงร้านที่ว่า มักจะขายใกล้หมดเมื่อไหร่ และควรซื้อแกงจากแม่ค้าไปด้วยหนึ่งถุง หรืออาจจะซื้อกับข้าวอย่างอื่นไปด้วยก็ได้เพื่อไม่ให้น่าเกลียด
แต่ในกรณีแม่ของเรา ซึ่งเป็นลูกค้าร้านข้าวแกงนี้มาสามสิบปี จนกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว เลยไม่แปลกที่จะได้แกงก้นหม้อมาฟรีๆ

กับร้านขายอาหารมังสวิรัติที่แม่เราไม่ได้สนิทกันอย่างร้านข้าวแกงข้างต้น ก็ไม่รีรอที่ทำแบบเดียวกัน กล่าวคือ ถ้าไปซื้อแล้วบังเอิญเจอแกงก้นหม้อ แม่ก็จะซื้อที่เหลือมาจนหมดหม้อ แล้วมาต่อยอด เติมโน่นเติมนี่จนครบ ได้แกงหม้อโต กินได้หลายมื้อ

น้ำกะทิแกงนี้ ถ้ายังไม่อยากทำกินในทันที นำไปใส่ตู้เย็นช่องแข็งไว้ก่อนก็ได้ อยากกินเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมาละลาย
ลองปรับดูว่าเราจะใส่อะไรลงไปในแกง เนื้อสัตว์ใส่มากน้อยตามใจ ข้อควรระวังคือถ้าจะใส่เนื้อปลา หรือลูกชิ้นปลา หอยแมลงภู่ ต้องใส่กระชายเพื่อดับกลิ่นคาวด้วย
ผัก อาจเป็นมะเขือเปาะ มะเขือพวง มะเขือยาว ฟักทอง เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า ฟัก ก็ได้

#48 คนกลับใจ

คนกลับใจ

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,300 posts

ตอบ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:05

ให้กำลังทุกๆท่าน ในการดำเนินชีวิตครับ

ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ทางหลังไมค์ครับ

อย่าโทษใครเลยครับ ผมเองก็มีส่วนผิดอยู่ด้วยเหมือนกัน

ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะร่วมกันฟันฝ่าปัญหานี้ไปได้ด้วยกัน


#49 orogaros

orogaros

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,204 posts

ตอบ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:41

คิดผิดที่แวะมากระทู้นี้ เพราะแวะมาแล้วหิว :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

ขอบคุณครับที่แนะนำเมนูและวิธีทำ :D

#50 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:48

โตงเตง ต่องแต่ง น้ำหยดติ๋งๆ

นี่มันคืออะไรอ่ะ??? :o :o

Posted Image

ไม่เกี่ยวกับเทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย

บอกใบ้ให้ว่า เป็นขั้นตอนการทำอาหารอย่างหนึ่ง

ต้องจับมาห้อยต่องแต่ง ให้หยดติ๋งๆ จนน้ำออกหมด จึงจะนำมาใช้ในขั้นตอนต่อไปได้

ลองทายกันดูว่า เมื่อทำเสร็จแล้ว จะกลายมาเป็นอาหารอะไร

Edited by asawinee, 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:53.





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน