ด้วยความเคารพ
สิ่งหนึ่งที่ผมหวั่นใจไว้ ไม่อยากให้มีเกิดขึ้น
คือความตาย
ตั้งแต่กรณีนักศึกษาราม ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลและเงื่อนไขอย่างไร
ผมก็ไม่อยากให้มีการตาย
หากนับเป็นกลยุทธ์ การจะมีการตายเกิดขึ้นสักไม่กี่ศพ
ถือเป็นเบี้ย ไว้สำหรับแลกขุน อาจมองว่าคุ้มค่า
แต่นี่เป็นเพียงการต่อสู้ทางการเมือง การต่อสู้ทางความขัดแย้งทางความคิด
ที่เมื่อจบการต่อสู้ไปแล้ว นักการเมืองต่างก็ขึ้นสู่อำนาจ หรือถอยลงจากอำนาจ
แต่ประชาชนอย่างเราเล่า จะเป็นอย่างไรต่อไป
กับบางครอบครัว ที่มีคนตาย
ชีวิตของพวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง เพียงเพราะเหตุทางการเมืองเช่นนั้นหรือ
ถามท่านสมาชิก
ถ้าคนตาย เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือลูกชายลูกสาวของเรา
เราจะรู้สึกอย่างไร
นึกภาพดูนะครับ ว่าหากประเทศ สามารถไล่นักการเมืองชั่วออกไปได้
แต่เราต้องสูญเสียใครสักคนในครอบครัวของเรา เราจะรู้สึกอย่างไร
ผมเข้าใจ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ย่อมมีอารมณ์ร่วม
ย่อมต้องขมึงตึงเครียด ย่อมต้องรู้สึกรุนแรง
เพราะเห็นความไม่ยุติธรรม เห็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
เห็นความเลวร้ายของฝ่ายตรงกันข้ามที่เราไม่ชอบ
แต่เรากำลังก้าวข้ามคำว่า สันติ อหิงสาไปแล้ว
เรากำลังจะก่อสงครามโดยบางคนเริ่มขาดการยับยั้งไปแล้ว
แล้วฝ่ายตรงกันข้ามล่ะ ฝ่ายที่เขาเห็นมวลชนของเขาเป็นเพียงเครื่องมือรับใช้
เขาไม่คิดจะตอบรับสงครามที่เราเสนอไปงั้นหรือ
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
สำหรับรัฐบาลที่มีจิตใจชั่วร้ายขนาดนี้
ให้มีคนตายไปสัก 10 หรือ 100 หรือ 1000 ศพ ถามตัวเองสิว่า
คิดว่ารัฐบาลมันจะสนหรือ คนตายไปเท่าไหร่ เจ็บไปเท่าไหร่ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา
รัฐบาลเคยแยแสหรือ ... คำตอบที่ผมเห็นคือไม่
นักสิทธิมนุษยชน องค์กรต่างๆ หรือต่างประเทศ มีคำถามกลับมาที่รัฐบาลสักคำหรอยัง
รัฐบาลหนังหนาเคยสนใจบ้างไหม
ความรู้สึกของผมคือ มันไม่ใช่แค่ได้ไม่คุ้มเสีย
เพราะเราไม่ได้ เราไม่ได้อะไรเลย กกต ทำอะไรบ้าง นอกจากยังปล่อยให้การจับฉลากดำเนินไป
ใครที่มีหน้าที่ ยังนั่งกระดิกเท้ามองดูคนต่อสู้ บาดเจ็บ ล้มตายอย่างนิ่งนอนใจ
ผมไม่ทราบว่า จุดประสงค์ของการพยายามขวางการจับฉลากคืออะไร
แต่การจับฉลากนั้น มันสำคัญเพียงพอที่จะต้องเอาชีวิตมนุษย์ไปแลกมาอย่างนั้นหรือ
ผมเข้าร่วมม็อบ 3-4 ครั้ง
เพราะเชื่อว่า นั่นเป็นการแสดงออกของคน 1 คน ให้โลกรู้ว่าเราไม่พอใจกับการบริหารของรัฐบาล
ให้รัฐบาลรู้ว่า เรารังเกียจการทำงานขี้ฉ้อข้ฉลของพวกมัน
และเชื่อว่า ต่อให้ม็อบออกมาเป็น 10 ล้าน ก็ไม่อาจทำให้รัฐบาลสะดุ้งสะเทือนได้
เพราะเรากำลังสู้อยู่กับรัฐบาลหน้าด้าน ไร้สำนึก ไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
และสำหรับคู่ต่อสู้ที่ต่ำช้าเพียงนี้ 1 แผล ก็มากไปแล้ว
ผมเชื่อว่า สิ่งที่จะทำให้รัฐบาลเปลี่ยนได้ คือกฏหมายและผลการตัดสินของ ปปช หรือศาล
ไม่ใช่ด้วยกำลังคน ไม่ใช่ด้วยความรุนแรง หรือแม้แต่ไม่ใช่ด้วยสำนึกใดๆ
ผมไม่อยากจะแยกกลุ่ม ว่าจะเป็นกลุ่ม คปท หรือ กปปส
เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบและปฏิเสธไม่ได้ คือผู้นำของทั้ง 2 กลุ่ม
รวมทั้งฝั่งตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือรัฐบาล
เพื่อนสมาชิกท่านใดจะเห็นต่างกับผม และมองว่าผมโลกสวยก็ได้นะครับ
หรือจะว่าผมขลาดเขลาต่อเหตุการณ์รุนแรง ก้ไม่ผิดครับ
แต่ขอออกความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ผมขอประนามตำรวจและรัฐบาล ที่เลือกใช้การปราบปรามที่รุนแรง
และขอไม่เห็นด้วย กับความพยายามให้เกิดความรุนแรงบางระดับของ คปท ครับ
ขอถอนตัวออกชั่วคราว จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการครับ