21 ความเห็นในกระทู้นี้

[Toil]

คปท ส่วนใหญ่แนวบู้ล้างผลาญ (ทำให้มีคนจองกฐินมาก)

ส่วน กปปส แนวบุ๋น วางแผนแยบยล (ศัตรูเลยน้อย)

 

ด้วยเหตุนี้ กำนันสุเทพ จึงแยก กองกำลังออกเป็น 2 ฝั่ง แล้วถ้ายุบคปท มารวม 

กปปส ไม่โดนจัดหนักทุกคืนเหรอ 

 

http://www.manager.c...D=9560000159299

ซีอีโอเอเอสทีวีผู้จัดการ เผยเหตุคนร้ายลอบยิงการ์ด คปท. เมื่อคืน ย้ำแล้วว่า กปปส. ต้องมาช่วยเพราะมีโจมตีแน่นอน กังขานอกจากไว้อาลัยแล้วไม่มีมาตรการอะไรดูแล เชื่อเผชิญสุ่มเสี่ยงทุกคืน เสนอย้ายไปรวมกับเวทีราชดำเนิน พักการชุมนุม หรือไม่ “สุเทพ” ต้องนัดชุมนุมใหญ่ทันที ย้ำช่วงก่อนปีใหม่อันตรายมาก แถม ผบ.ทบ.ลอยตัว หวั่นพลังการชุมนุมถูกทำลาย

Edited by Toil, 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:42.

[Garfield]

ปล่อยให้ไอ้ปัญญาอ่อนนี่มันเห่าไปเถอะครับ

[ม่านน้ำ]

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

^

^

โคตรชอบบบบบบบบบบบบบ

 

 

 

 

ผมว่าสนติ๊พยายาม "สร้าง" ลูกตัวเองให้ขึ้นมาแทนตน ทั้งที่ลูกยังอ่อนหัดมาก

ที่จริงการที่สนติ๊ทำแบบนี้ไม่ต่างจากเหลิมดันลูกชายตัวเองเลยนะครับ

ทุเรศทั้งคู่

[กระต่ายหมายจันทร์]

นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล (ชื่อเล่น: ปั๊ป) เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และ ผศ.จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จบการศึกษาระดับมัธยมจาก Whitsunday Anglican School (WAS) ประเทศออสเตรเลีย ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ปริญญาโทคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เริ่มทำงานครั้งแรกด้วยการเป็นนักข่าวในเครือผู้จัดการ ต่อมาได้ก่อตั้งสำนักพิมพ์บุรพัฒน์ จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือการ์ตูนในแนวกำลังภายในหลายเรื่อง เช่น ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า หรือ ขี่พายุดาบเทวดา เป็นต้น จากนั้นในต้นปี พ.ศ. 2547 ได้ขึ้นเป็นผู้บริหาร (ซีอีโอ) คนหนึ่งในเครือผู้จัดการ เป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ผู้จัดการให้น่าสนใจ น่าติดตามเช่นดังปัจจุบัน

ในการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ที่นายสนธิเป็นผู้นำการชุมนุมเป็นครั้งแรกนั้น นายจิตตนาถมีบทบาทเป็นผู้นำฎีการ้องเรียนเรื่องทุกข์ของแผ่นดินทูลเกล้าแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางสำนักพระราชวัง โดยนายจิตตนาถได้เดินทางไปยื่นฎีกานี้พร้อมกับ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ในเวลาเดียวกับที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรื่องเดียวกันนี้แก่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์

รางวัลเกียรติยศทางสังคม[แก้]

นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ได้รับรางวัล "เปรียว อวอร์ด 2005" ที่นิตยสารเปรียวมอบให้ 10 บุคคลคุณภาพแห่งปี ซึ่งประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมไทย โดยมีการเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ จากหลากหลายวิชาชีพมาทำหน้าที่เป็น คณะกรรมการคัดเลือก และตัดสิน ภายใต้หลักเกณฑ์สำคัญคือ จะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติพร้อม ทั้งเรื่องบุคลิกภาพ, สัมพันธภาพ, ความฉลาด, ความสง่างาม และมีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในสังคม โดย นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ได้รับรางวัลพร้อมกับผู้ได้รับรางวัลชาย อีก 4 คน คือ

• กรณ์ จาติกวณิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนักบริหารธุรกิจการเงิน
• สราวุฒิ มาตรทอง นักแสดงและนักเขียน
• เรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนอยุธยาเจเอฟ จำกัด
• เจษฎ์ โทณวณิก นักกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา

และผู้ได้รับรางวัลหญิง อีก 5 คน คือ

• กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ผู้บริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด
• แคทลีน มาลีนนท์ กิจโอธาน ผู้บริหาร บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
• นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด
• พลอย จริยะเวช คอลัมนิสน์ นักเขียน นักแปล ชื่อดัง
• สุธาสินี พุทธินันทน์ นักร้องนักแสดง ทายาทของ เรวัติ พุทธินันทน์
• http://th.wikipedia....ตนาถ_ลิ้มทองกุล 
• และในปี 2556 ได้รับรางวัล"เสี้ยมอวอร์ด" จากมวลมหาประชาชน โดยไม่มีคู่แข่ง

[templar]

เอาเป็นว่าอย่าไปสนใจ  เสียงนกเสียงกาเลย  ทั้ง คปท และ กปปส  เขาก็ต่างมียุทธวิธี ที่แตกต่างกัน

 

คงไม่มัวมานั่งฟังเด็กมั่ววานซืนนี่หรอก  ยังไงรบกวนทุกท่านพยายามอย่าเอาของจากไอ้ช่องนี้มาลงสักพักเถอะครับ

 

ตอนนี้จัดการทรราชย์ก่อนเหอะครับ  เป็นเป้าของเสื้อแดงเปล่า ๆ นะ  

[Sand]

จิตตนาถนั้นเป็นแค่เรื่องของเด็กร้อนวิชา ที่วุฒิภาวะยังไม่มากพอ
แต่อยากโชว์พาวไปตามประสา อาจจะทำให้หงุดหงิดบ้าง แต่ผมเชื่อมั่นว่าใจของพวกเราใหญ่พอ

จริงๆก็น่าเสียดายนะครับ จิตตนาถยังมีโอกาส ยังมีเวลาอีกมากที่จะสั่งสมประสบการณ์และเติบโต
ด้วยวิธีคิดและวุฒิภาวะที่เหมาะควร. ถ้ารีบร้อนมากไปอาจกลายเป็นการทำลายตัวเองในที่สุด

[overtherainbow]

คิดต่างได้ แต่อย่าแตกแยก ฟังดูเหมือนพวกโลกสวย

 

แต่ มีการพยายาม ลดแนวร่วมอยู่

 

แม้พวกนั้นจะเป็น พวกเดิมที่ไม่แดง ก็เหอะ

 

แต่ ก็ต้องอดทน

 

มีคนบอกมา ทำยาก เนอะ แต่ต้องทำ ทำไปด่าไป ไม่ซี ทำไป อธิบายไป

[tonythebest]

เอาตามเจ้าของกระทู้หน่อย

ผมไม่คิดว่า สองกลุ่มจะรวมกันได้นะครับ
แม้จะมีเป้าหมายเดียวกัน
แต่แนวทางของลูกหายและแกนนำ เป็นคนละแนวเลย
หากรวมกัน รับรองมีเสียงแตก คุมกันไม่อยู่
และจะอันตรายมากๆ

ช่วยกัยได้ครับ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันได้
แต่อย่ารวมกันเลย จะทำให้ขัดใจกันเอง ทะเลาะกันเองเปล่าๆ
คนที่จะทำให้ทะเลาะกันเอง มีไม่กี่คนหรอก

ผู้เสนอแนวคิดนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

[teethai]

ฟัง ประพันธ์ คูณมี ถึงแม้จะเป็นพวกชอบสั่งต้องแบบโน้นแบบนี้ พูดมาก ทำเองได้หรือป่าวไม่รู้ ก็ยังฟังมีสาระ พอหาแนวทาง เอาไปปรับแก้ได้บ้าง

 

แต่ฟัง ลูกสนธิ....ไม่ได้ว่าไรนะ ฟังพูดแล้วบางทีเหมือนจะเก่ง พูดง่ายๆอวดรู้ จนต้องเปลี่ยนช่องเถอะ คือ ลักษณะอวดเก่ง ทั้งที่พูดแล้วฟังไม่ค่อยเข้าหู 

[Manners]

การลุยของคปท. ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ ถ้าทำอย่างมีเหตุผล ทำเมื่อถูกเวลา แต่หากทำแบบไร้หลักเกณฑ์ ก็เท่ากับเป็นการชักศึกเข้าบ้าน

[Garfield]

จิตตนาถนี่ถ้าไม่ใช่ลูกสนธิผมยังดูไม่ออกเลยว่ามันจะทำมาหากินอะไรเองได้

[baboon]

มันคงอยากจะขึ้นเวทีราชดำเนินใจจะขาดละมั้ง

[aiwen^mei]

ขออนุญาตตอกย้ำด้วยเรื่องเก่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++

 

http://www.bloggang....roup=2&gblog=27

 

**รู้ทันทักษิณไม่พอ..เลือกตั้งหนนี้..ต้องรู้ทันสนธิกับยุทธการโหวตโนด้วย**

ผมกลับมาเขียนเรื่องการเมืองอีกครั้งด้วยเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศในวันที่ 3 กค.2554 ที่จะถึงนี้..

ประเด็นที่ทำให้ผมกลับมาเขียนเรื่องการเมืองได้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรณรงค์ให้โหวตโนของกลุ่มพันธมิตร (ไม่เรียกว่ากลุ่มของพรรคการเมืองใหม่แล้ว)

เรื่องนี้มีนัยให้ต้องคิดกันหลายชั้นว่า ทำไมกลุ่มมวลชนกลุ่มนี้จัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาแล้วไม่ส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งเลย แต่กลับแตกแยกทะเลาะกันเองจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล สุดท้ายพรรคการเมืองใหม่ก็จบบทบาททางการเมืองไทยไปแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งนัก

มาวิเคราะห์เจาะลึกกันนะครับ..

ประเด็นแรก..ทำไมไม่สานต่อภารกิจของพรรคการเมืองใหม่ตามระบอบประชาธิปไตยในเมื่อการเลือกตั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ได้แจ้งเกิดในเวทีการเมืองในระบบรัฐสภา?

ประเด็นนี้ตีแตกได้ดังนี้..

เนื่องจากผู้นำกลุ่มเล็งเห็นแล้วว่า ส่งไปเท่าไรก็แพ้กลับมาเท่านั้น โดยประเมินจากสถานการณ์การชุมนุมตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก่อนยุบสภา นกหวีดเป่าแล้วปรี๊ดๆๆๆ แต่ก็เรียกคนอยู่เกณฑ์หลักร้อยหลักพันเท่านั้น

การส่งผู้สมัครทั่วประเทศทั้งสองระบบต้องใช้เงินหลายร้อยล้านบาท มองไปมองมา ไม่มีเจ้ามือคนไหนยอมควักแน่นอน แค่หาตัวผู้ลงสมัครที่เป็นที่ยอมรับของมหาชนก็ยากเต็มที ลำพังแกนนำทั้ง 5 คัดเอาเนื้อๆ แล้วก็ยังเป็นดินห่อผ้าขี้ริ้วอยู่เลย ตัวคุณสนธิที่เป็นหัวขบวนคงไม่ลงมาให้เปลืองตัวเพราะมีกิจการที่ปล่อยวางไม่ได้และมีคดีเป็นชะนักติดหลังอยู่ร่วมสิบคดี เข้ามาก็ทำอะไรไม่ได้

จะได้ผู้แทนถึง 5 คนหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ คือ เข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้แน่นอน โดยเฉพาะการวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีความต่างๆ ของกลุ่มพันธมิตร

ในเมื่อคิดว่าเลือกตั้งไม่ช่วยอะไร ก็หาทางเอาผลของการเลือกตั้งมาเป็นประโยชน์ของตนดีกว่า....นั่นคือ การโหวตโน

ประเด็นที่สอง..โหวตโนเพื่อประโยชน์ของใคร?

ง่ายๆ เลย มาดูผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์สองฝ่ายก็พอ เพราะข้ออ้างของกลุ่มพันธมิตรที่บอกว่า เพื่อกำจัดนักการเมืองชั่วและให้มีการปฏิรูปการเมืองนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะไม่ส่งผลอะไรหรอก การเคลื่อนไหวสามารถทำได้ทุกช่วงเวลาไม่จำเพาะต้องมาทำในช่วงเลือกตั้ง

ความคิดของผมที่อ่านได้คือ..

--ผู้นำกลุ่มไม่ต้องการติดคุกซึ่งจะมีคำตัดสินตามๆ กันมาในไม่ช้านี้ แต่ดิ้นไม่หลุด เพราะรัฐบาลปชป.ไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดๆ ในรูปคดี จึงต้องคิดหาทางไปเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาคล้ายๆ กัน (ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง)

การจับมือจะเริ่มต้นที่ไหนอย่าไปสนใจเลยครับ อยู่ในประเทศจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง แต่พอออกไปเจอกันนอกประเทศด้วยกันก็จับมือคุยกันรู้เรื่องได้ การณ์มันบ่งไว้เช่นนั้น

เมื่อมีการจับมือกันได้แล้ว ก็มาถึงมาตรการช่วยเหลือกัน ทำอย่างไรให้ฝ่ายนี้กำชัยเหนืออีกฝ่าย ไอ้จะให้บอกให้พันธมิตรไปลงคะแนนเสียงเลือกฝ่ายที่เคยขับไล่คงเป็นความยากลำบากแสนสาหัสจะอธิบายให้ในกลุ่มเข้าใจ แต่ถ้าบอกให้โหวตโนซะ เสียงของอีกฝ่ายก็จะหายไปส่วนหนึ่งเพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า กลุ่มแฟฟนคลับของปชป.กับแฟนคลับของกลุ่มพันธมิตรนั้นกลมกลืนอยู่ในกลุ่มพันธมิตรแบบแยกได้ยาก

แต่คราวนี้แหละจะแยกได้ชัดเจนแน่นอน เพราะถ้าพันธมิตรไม่ส่งผู้สมัคร ปกติแฟนคลับจะต้องไปลงคะแนนเสียงให้กลับปรรคปชป. แต่ถ้าถูกกระตุกให้ไปทำการกาโหวตโนซะ พรรคปชป.ก็จะอดได้คะแนนเสียงส่วนนี้ไป ซึ่งมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน อีกไม่กี่วันก็คงจะได้รู้กัน

ประเด็นที่สาม..ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลส่งผลดีต่อกลุ่มพันธมิตรหรือ?

แน่นอนครับ เกมพลิกหน้าอ่านได้ดังนี้..

พรรคเพื่อไทยมีนโยบายชัดเจนต้องการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ซึ่งรวมทั้งกลุ่มพันธมิตรด้วย ทำให้แกนนำพันธมิตรพ้นผิดโดยไม่ต้องส่งคนเข้าไปในรัฐสภา

ตอนนี้หากเอาไมค์ไปจ่อปากแกนนำพันธมิตรทุกคนก็จะได้รับคำตอบว่า ไม่ต้องการการนิรโทษกรรม ทุกอย่างต้องดำเนินตามหลักกฎหมาย ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก

ปากแข็งไปงั้นแหละ ใจน่ะ..เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ มีรูไหนให้มุดก็คงมุดได้ทุกรูไปแล้ว!!

การเปลี่ยนหน้าเล่นของพันธมิตรทำให้พรรคเพื่อไทยแน่ใจได้ว่า หากได้เป็นรัฐบาลจริงๆ แล้วจะไม่มีกลุ่มข้างถนนที่ชื่อว่า พันธมิตรออกมาเดินขบวนขับไล่อีกอย่างแน่นอน งานนี้..สมใจทักษ์กับน้องลักษณ์แน่นอน

ประเด็นที่สี่..ใครอยู่เบื้องหลังเกมโหวตโน?

คุณสนธิ ลิ้มทองกุลน่ะแหละครับ ไม่ว่าจะอ้างเสียงพี่น้องส่วนใหญ่ส่วนน้อยที่ไหน ทุกอย่างชัดเจนว่าถูกจูงจมูกโดยความคิดของคุณสนธิเป็นหลัก

คุณสนธิไม่ใช่คนดีในสังคมไทยอย่างแน่นอน ประวัติของเขาเป็นที่ครั่นคร้ามในหมู่นักธุรกิจทำนักสื่อสารมวลชน และเจ้าหนี้เงินกู้ทุกประเภท

คุณสมศักดิ์ โกษัยสุขเป็นใครในกลุ่มพันธมิตร?

ตอบสั้นว่าเป็นแพะรับบาปครับ



หมายเหตุ..

บทความนี้ถูกเขียนขึ้นก่อนการเลือกตั้ง มาดูกันซิว่า เรื่องราวจะเป็นไปอย่างที่ผมคาดคะเนไหม สวัสดีแล้วพบกันใหม่ครับ

 

Create Date : 15 มิถุนายน 2554 Last Update : 15 มิถุนายน 2554 16:05:25 น.  

[ไร้สีไร้กลิ่น]

อ่านแล้วตรรกกะคนๆนี้แปลกดี

 

ชอบสั่งให้สุเทพพาคนไปกดดันตรงนั้นตรงนี้ (อย่างให้ไปกดดันทหาร จัดการทหารให้มาเป็นพวกเราก่อน... พูดน่ะง่ายแต่ทำน่ะมันยาก) พอเค้าไม่ไปตามที่ตัวเองบอกก็หาว่าไม่จริงใจในการขับไล่รัฐบาล เป็นพวกม็อบหน่อมแน้มมาถ่ายรูปกันเฉยๆ ....

 

แต่พอมีคนตาย มีคนบาดเจ็บ กลับมาโทษสุเทพว่าไม่ส่งคนไปช่วย มัวแต่แสดงความอาลัย ....

 

ความรักชาติ และความกล้าหาญเป็นสิ่งที่ดี แต่แกนนำน่าจะรู้ว่าผู้ชุมนุมมือเปล่าจะไปสู้อะไรได้ และต้องรู้จักประเมินสถานการณ์ว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ ถ้าเสี่ยงก็ไม่ควรไปยั่วยุ แต่นี่นั่งด่าอยู่ข้างหลังแล้วใช้มนุษย์เป็นโล่กำบัง บอกให้รวมตัวกันมากๆก็เพราะต้องการโล่มนุษย์มากขึ้นแค่นั้น ถ้าเป็นห่วงความปลอดภัยทำไมไม่รู้จักหลบหลีก มีแต่ยุให้เขาโกรธ ให้เขาสู้ 

 

ผมว่าสนธิแย่แล้ว ลูกสนธิยิ่งแย่กว่าอีก แต่สาวกก็อวยกันจัง ดูท่าคงเป็นเด็กปั้นที่ป๋าดันเก่ง (ไป comment ในเวบนั้นไม่ขึ้นเลย มีแต่คอมเมนท์อวยๆทั้งนั้น  ...ลืมไป เค้าเป็นคนสร้างเวบนี่)

 

ปล. ถ้าอยากรวมจริงก็ต้องเชื่อฟังแกนนำที่เค้าประเมินสถานการณ์เก่งๆ ไม่ใช่ไปรวมแล้วยังยึดแนว hardcore แบบเดิม 

 

ผมเชื่อว่าทหารเองก็กำลังจับตาดูอยู่ อย่าไปมองว่าเขาไม่ใส่ใจเพราะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฟังประยุทธพูด มีหลายอย่างที่ผมเห็นด้วยนะ เพียงแต่บางอย่างช้าไปหน่อย เพราะปล่อยให้มีการบาดเจ็บล้มตายกันได้แสดงว่าประเมินไม่ทันการ

Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:40.

[จีรนุช]

เป็นไปได้ไหมว่าหมอนี้อยู่เบื้องหลังเหตุรุนเเรงในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา

[กีรเต้]

 

ขออนุญาตตอกย้ำด้วยเรื่องเก่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++

 

http://www.bloggang....roup=2&gblog=27

 

**รู้ทันทักษิณไม่พอ..เลือกตั้งหนนี้..ต้องรู้ทันสนธิกับยุทธการโหวตโนด้วย**

ผมกลับมาเขียนเรื่องการเมืองอีกครั้งด้วยเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศในวันที่ 3 กค.2554 ที่จะถึงนี้..

ประเด็นที่ทำให้ผมกลับมาเขียนเรื่องการเมืองได้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรณรงค์ให้โหวตโนของกลุ่มพันธมิตร (ไม่เรียกว่ากลุ่มของพรรคการเมืองใหม่แล้ว)

เรื่องนี้มีนัยให้ต้องคิดกันหลายชั้นว่า ทำไมกลุ่มมวลชนกลุ่มนี้จัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาแล้วไม่ส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งเลย แต่กลับแตกแยกทะเลาะกันเองจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล สุดท้ายพรรคการเมืองใหม่ก็จบบทบาททางการเมืองไทยไปแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งนัก

มาวิเคราะห์เจาะลึกกันนะครับ..

ประเด็นแรก..ทำไมไม่สานต่อภารกิจของพรรคการเมืองใหม่ตามระบอบประชาธิปไตยในเมื่อการเลือกตั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ได้แจ้งเกิดในเวทีการเมืองในระบบรัฐสภา?

ประเด็นนี้ตีแตกได้ดังนี้..

เนื่องจากผู้นำกลุ่มเล็งเห็นแล้วว่า ส่งไปเท่าไรก็แพ้กลับมาเท่านั้น โดยประเมินจากสถานการณ์การชุมนุมตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก่อนยุบสภา นกหวีดเป่าแล้วปรี๊ดๆๆๆ แต่ก็เรียกคนอยู่เกณฑ์หลักร้อยหลักพันเท่านั้น

การส่งผู้สมัครทั่วประเทศทั้งสองระบบต้องใช้เงินหลายร้อยล้านบาท มองไปมองมา ไม่มีเจ้ามือคนไหนยอมควักแน่นอน แค่หาตัวผู้ลงสมัครที่เป็นที่ยอมรับของมหาชนก็ยากเต็มที ลำพังแกนนำทั้ง 5 คัดเอาเนื้อๆ แล้วก็ยังเป็นดินห่อผ้าขี้ริ้วอยู่เลย ตัวคุณสนธิที่เป็นหัวขบวนคงไม่ลงมาให้เปลืองตัวเพราะมีกิจการที่ปล่อยวางไม่ได้และมีคดีเป็นชะนักติดหลังอยู่ร่วมสิบคดี เข้ามาก็ทำอะไรไม่ได้

จะได้ผู้แทนถึง 5 คนหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ คือ เข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้แน่นอน โดยเฉพาะการวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีความต่างๆ ของกลุ่มพันธมิตร

ในเมื่อคิดว่าเลือกตั้งไม่ช่วยอะไร ก็หาทางเอาผลของการเลือกตั้งมาเป็นประโยชน์ของตนดีกว่า....นั่นคือ การโหวตโน

ประเด็นที่สอง..โหวตโนเพื่อประโยชน์ของใคร?

ง่ายๆ เลย มาดูผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์สองฝ่ายก็พอ เพราะข้ออ้างของกลุ่มพันธมิตรที่บอกว่า เพื่อกำจัดนักการเมืองชั่วและให้มีการปฏิรูปการเมืองนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะไม่ส่งผลอะไรหรอก การเคลื่อนไหวสามารถทำได้ทุกช่วงเวลาไม่จำเพาะต้องมาทำในช่วงเลือกตั้ง

ความคิดของผมที่อ่านได้คือ..

--ผู้นำกลุ่มไม่ต้องการติดคุกซึ่งจะมีคำตัดสินตามๆ กันมาในไม่ช้านี้ แต่ดิ้นไม่หลุด เพราะรัฐบาลปชป.ไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดๆ ในรูปคดี จึงต้องคิดหาทางไปเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาคล้ายๆ กัน (ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง)

การจับมือจะเริ่มต้นที่ไหนอย่าไปสนใจเลยครับ อยู่ในประเทศจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง แต่พอออกไปเจอกันนอกประเทศด้วยกันก็จับมือคุยกันรู้เรื่องได้ การณ์มันบ่งไว้เช่นนั้น

เมื่อมีการจับมือกันได้แล้ว ก็มาถึงมาตรการช่วยเหลือกัน ทำอย่างไรให้ฝ่ายนี้กำชัยเหนืออีกฝ่าย ไอ้จะให้บอกให้พันธมิตรไปลงคะแนนเสียงเลือกฝ่ายที่เคยขับไล่คงเป็นความยากลำบากแสนสาหัสจะอธิบายให้ในกลุ่มเข้าใจ แต่ถ้าบอกให้โหวตโนซะ เสียงของอีกฝ่ายก็จะหายไปส่วนหนึ่งเพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า กลุ่มแฟฟนคลับของปชป.กับแฟนคลับของกลุ่มพันธมิตรนั้นกลมกลืนอยู่ในกลุ่มพันธมิตรแบบแยกได้ยาก

แต่คราวนี้แหละจะแยกได้ชัดเจนแน่นอน เพราะถ้าพันธมิตรไม่ส่งผู้สมัคร ปกติแฟนคลับจะต้องไปลงคะแนนเสียงให้กลับปรรคปชป. แต่ถ้าถูกกระตุกให้ไปทำการกาโหวตโนซะ พรรคปชป.ก็จะอดได้คะแนนเสียงส่วนนี้ไป ซึ่งมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน อีกไม่กี่วันก็คงจะได้รู้กัน

ประเด็นที่สาม..ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลส่งผลดีต่อกลุ่มพันธมิตรหรือ?

แน่นอนครับ เกมพลิกหน้าอ่านได้ดังนี้..

พรรคเพื่อไทยมีนโยบายชัดเจนต้องการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ซึ่งรวมทั้งกลุ่มพันธมิตรด้วย ทำให้แกนนำพันธมิตรพ้นผิดโดยไม่ต้องส่งคนเข้าไปในรัฐสภา

ตอนนี้หากเอาไมค์ไปจ่อปากแกนนำพันธมิตรทุกคนก็จะได้รับคำตอบว่า ไม่ต้องการการนิรโทษกรรม ทุกอย่างต้องดำเนินตามหลักกฎหมาย ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก

ปากแข็งไปงั้นแหละ ใจน่ะ..เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ มีรูไหนให้มุดก็คงมุดได้ทุกรูไปแล้ว!!

การเปลี่ยนหน้าเล่นของพันธมิตรทำให้พรรคเพื่อไทยแน่ใจได้ว่า หากได้เป็นรัฐบาลจริงๆ แล้วจะไม่มีกลุ่มข้างถนนที่ชื่อว่า พันธมิตรออกมาเดินขบวนขับไล่อีกอย่างแน่นอน งานนี้..สมใจทักษ์กับน้องลักษณ์แน่นอน

ประเด็นที่สี่..ใครอยู่เบื้องหลังเกมโหวตโน?

คุณสนธิ ลิ้มทองกุลน่ะแหละครับ ไม่ว่าจะอ้างเสียงพี่น้องส่วนใหญ่ส่วนน้อยที่ไหน ทุกอย่างชัดเจนว่าถูกจูงจมูกโดยความคิดของคุณสนธิเป็นหลัก

คุณสนธิไม่ใช่คนดีในสังคมไทยอย่างแน่นอน ประวัติของเขาเป็นที่ครั่นคร้ามในหมู่นักธุรกิจทำนักสื่อสารมวลชน และเจ้าหนี้เงินกู้ทุกประเภท

คุณสมศักดิ์ โกษัยสุขเป็นใครในกลุ่มพันธมิตร?

ตอบสั้นว่าเป็นแพะรับบาปครับ



หมายเหตุ..

บทความนี้ถูกเขียนขึ้นก่อนการเลือกตั้ง มาดูกันซิว่า เรื่องราวจะเป็นไปอย่างที่ผมคาดคะเนไหม สวัสดีแล้วพบกันใหม่ครับ

 

Create Date : 15 มิถุนายน 2554 Last Update : 15 มิถุนายน 2554 16:05:25 น.  

 

[RiDKuN_user]

พูดกันแบบแฟร์ๆ กปปส. รู้จังหวะเวลาดีกว่า คปท. มาก

เป่าหนกหวีดปี๊ดเดียว คนออกมาให้พรึ่บ แบบที่ คปท. ไม่เคยทำได้

ผมจึงคิดว่า ทางที่ดีที่สุดคือ คปท. ก็ยุบไปซะ

ให้มวลชนเลือกจะมาอยู่กับ กปปส. แทนถ้าต้องการ

แบบนี้จะดีกว่าไหม 

[HiddenMan]

จิตตนาถนี่ถ้าไม่ใช่ลูกสนธิผมยังดูไม่ออกเลยว่ามันจะทำมาหากินอะไรเองได้

เป็นแกนนำเสื้อแดงครับ...

[nf9]

นกเขาขึ้นหลังเสือแล้ว ตึ้งบังเกอร์ขนาดนี้ แถม30ธันวา ตำรวจ88สน.ตบเท้าแสดงพลัง พร้อมอาวุธครบมือ หน้าลานพระบรมรูปอีก เบียดไหล่กันเลยทีเดียว กลัวใจจริงๆ

[aukkara]

สังคมไทยมักจะมองเด็กที่เถียงครูในชั้นเรียน ว่าเป็นเด็กอวดรู้ไม่เข้าเรื่อง ทั้งๆที่ยังไม่ได้ฟัง ก็หาว่าผิดแล้ว เพราะตัวเองเป็นครู

 

เพราะฉนั้นจะไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่เด็กมันพูด ถูก หรือ ผิด เพราะคำว่าอคติที่มาบดบังใจ

 

งั้นสรุปว่าใครเห็นต่างจาก ชาวเวทีราชดำเนิน นี่คือศัตรู หมดเลยใช่มั้ยครับ

 

กปปส. ถ้าจำไม่ผิดมันเกิดจากการร่วมงานกันของ 3เวที ไม่ใช่หรอครับ วันที่คุณสุเทพประกาศ

 

ตกลงว่าจะปฏิรูปจริงๆจากใจ ล้างบางนักการเมือง หรือว่าแค่เอาทักษิณลง จากนั้นเอาตามใจตัวเองเหมือนเดิม

 

กปท.และคปท.เป็นกลุ่มที่มีแนวทางการต่อสู้ที่ชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้วครับ ถึงมวลชนไม่เยอะ แต่สู้มายาวนาน

และจะเป็นแบบนี้ต่อไป ชาวเวทีใหญ่ไม่ต้องกลัวครับไม่ไปทำให้เดือดร้อนแน่

 

ที่จะเกิดการแตกแยกภายในของกลุ่มแกนนำผมเชื่อว่าไม่มีทางครับ ไม่งั้นคงล่มตั้งแต่ปากอ่าวไม่มาไกลขนาดนี้

แต่ที่เกิดการขัดแย้งในกลุ่มมวลชนกลุ่มเล็ก น่าจะมาจากอคติส่วนตัว และก็แนวทางในจิตใจส่วนตัวที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากกว่า

 

คนกลุ่มนี้โทษทุกอย่างแต่ไม่เคยโทษตัวเอง งานศพไม่เคยมาร่วม แต่งานเลี้ยงนี่ไม่เคยขาด

 

ยังไงผมก็เชื่อว่า แกนนำทั้งหมดและมวลชนส่วนรวมยังมีเป้าหมายหลักเหมือนเดิม แต่มีหน้าที่ต่างกันเท่านั้น

[analysis]

เอาไว้ทั้ง 3 เวทีเเหละครับ

 

สายแข็ง มีกิจกรรมให้เดินเล่นเกือบทุกวัน ก็ไปคปท.

สายธรรมะ สบายๆก็ไปกองทัพธรรม

รวมมิตรก็มาราชดำเนิน