เคยมีคนบอกว่าในหลวงท่านถอดจิตได้
ถ้าหากไม่ติดพระราชกรณียะกิจใดๆ ในหลวงท่านจะนั่งสมาธิตั้งแต่ 6 ทุ่มถึง 6 โมงเช้าทุกวัน ฟังทีแรกยังไม่อยากเชื่อเลย แต่ได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำที่ได้พูดถึงในหลวงว่า ท่านมีสมาธิดีมาก ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ตามธรรมดาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ) แห่งวัดท่าซุงจะอัดเทปถวายในหลวง เพื่อนำไปเปิดขณะปฏิบัติธรรม เท่าที่ทราบมาท่านเอาเทปของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำที่อัดถวายแขวนคอแล้วเดินจงกรมที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน บางครั้งท่านก็นั่งสมาธิโดยจับเสียงคลื่นเป็นอารมณ์กรรมฐานในหลวงท่านทรงแนะนำให้บุคคลใกล้ชิดได้ปฏิบัติธรรมด้วย เช่น พระราชวงศ์ องคมนตรี องครักษ์ หรือแม้แต่บุคคลที่ใกล้ชิดท่าน มีหลายพระองค์บอกว่าในหลวงเป็นผู้ทรงฌานคนหนึ่ง เวลาท่านไปไหนพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายองค์ขยับแล้วขยับอีก แต่ในหลวงท่านเพียงแค่กระพริบตาอย่างเดียว นั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเลยได้เป็นชั่วโมงๆ พลตำรวจเอกที่เคยเป็นองครักษ์ของท่านคนหนึ่งก็เคยพูดว่า ในหลวงท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยนั่งสมาธิเห็นร่างของท่านเป็นเนื้อแดงๆ ลอกออกจนเห็นกระดูกสีขาวๆ มีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ในหลวงท่านเคยถอดจิต ( จะเรียกว่าถอดจิตก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะโอเลี้ยงหายไปครึ่งแก้ว ) มหาท่านหนึ่งที่มีบารมีมากสามารถต่อรองกับพระยายมเพื่อนำคนที่ตกนรกแล้วขึ้นมาได้ ในหลวงท่านถอดจิตมาหาก็เพราะต้องการให้ช่วยอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่เป็นเชื้อพระวงศ์ขึ้นจากนรก แต่ท่านนี้ไม่ยอมช่วยเพราะเหตุไม่ถูกกับอดีตนายกฯ คนนี้ แต่ที่น่าแปลกก็คือ ถ้าในหลวงท่านถอดจิตมา ( มาแค่จิตอย่างเดียว ร่างกายไม่ได้มาด้วย ) โอเลี้ยงคงไม่หายไปครึ่งถ้วยหรอกครับ เพราะเจ้าของบ้านให้คนไปซื้อมาถวายในหลวง แต่ที่นี่หายไปครึ่งแล้ว แสดงว่าในหลวงท่านหายตัวได้ครับ! ในหลวงท่านฝึกสมาธิจนถึงขั้นอภิญญา ซึ่งลูกศิษย์สายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมีหลายคนทำได้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร เพียงแต่ว่าเขาไม่ค่อยแสดงฤทธิ์เท่านั้นเอง แต่ถ้าท่านรู้มากกว่านี้ ก็คือ ในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ ( พระโพธิสัตว์ คือ บุคคลที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ) และท่านก็มีบารมีมากพอที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่ๆ แล้ว ( ต่อจากหลวงปู่ ท..... และสมเด็จ ต..... ) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะหายตัวได้
ที่มา http://www.oknation....nt.php?id=86546